คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #35 : 30th Mission :: หน้าที่ของคนเป็นแฟน .. ทำแทนไม่ได้หรอกนะ
ฮันคยองถอนหายใจออกมาเบาๆพลางเงยหน้าขึ้นมองบ้านหลังตรงหน้าเล็กน้อยคล้ายอยากจะเรียกความกล้าให้ตัวเอง มือใหญ่ที่หมายจะเอื้อมไปกดออดตกลงมาข้างกายเป็นครั้งที่สาม ในขณะที่ปลายเท้าก็ตั้งท่าจะขยับเดินกลับไปในทางเดิมที่เขาเดินมาเป็นครั้งที่สามเช่นกัน
ทำไมคนจีนถึงเกิดมาปอดแหกแบบนี้วะ!!
"$%*&H#@+!!"
คนจีนที่เกิดมาปอด(?)สบถออกมาเป็นภาษาบ้านเกิดพลางพาตัวเองกลับมายืนอยู่ที่หน้าออดอีกครั้ง เขาเอื้อมมือออกไปแตะปลายนิ้วลงบนออด พยายามจะสูดหายใจให้ลึกเพื่อรวบรวมกำลัง(ใจ)ในการออกแรงกดมันลงไป แต่ให้ตายเหอะ!...แค่ออดก็ทำเอามือเขาสั่นจนไม่มีแรงเสียแล้ว!
เมี้ยววว
แกร้งงงง!
"หะ...เหี้ย!"
ติ๊งหน่องงงงง!!
"เชี่ยแล้ว!"
ลูกแมวที่กระโดดใส่ถังขยะใกล้ๆจนล้มคว่ำส่งเสียงดังลั่นซอยทำเอาพ่อคนจีนขวัญอ่อน(?)อุทานออกมาลั่นพร้อมกับเผลอออกแรงกดออดลงไปเสียอย่างนั้น ฮันคยองทำตาโต(หลังจากสบถออกมาแล้ว) ตั้งท่าจะเดินหนีออกมาอย่างรวดเร็ว แต่มันก็ยังช้ากว่าคนที่เปิดประตูรั้วโผล่หน้าออกมา...คงเป็นพี่สาวของฮยอกแจกระมัง
หญิงสาวที่คงจะกำลังเปิดประตูเพื่อออกไปข้างนอกพอดีเอนคอมองคนที่มากดออดที่หน้าบ้านด้วยท่าทางงงนิดๆคล้ายกำลังนึกว่าเขาเป็นญาติฝ่ายไหนของเธอรึเปล่า และเมื่อเธอเห็นว่าเขาไม่ใช่ญาติฝ่ายไหนของเธอทั้งสิ้น เธอก็หันไปเข็นจักรยานออกมาแทนที่ ซึ่งแหงล่ะ...โดยมีว่าที่ลูกเขย(?)ที่ดีรีบกุลีกุจรเข้าไปช่วยเธอนำมันออกมาที่ถนน
"มาหาฮยอกแจหรอ"
เธอเอ่ยถามด้วยท่าทางไม่ใส่ใจเขาเท่าไรพลางขยับขึ้นนั่งคร่อมเจ้าจักรยานจ่ายตลาดสีฟ้าสดใสคันนั้น
"อ่ะ....เอ่อ...ครับ"
"ไอ้ไก่นอนอยู่บนห้อง ฝากดูแลด้วย ฉันไปซื้อของเดี๋ยวกลับมา ไม่มีใครอยู่บ้าน ฝากบ้านด้วยล่ะ แล้วก็อย่าให้ไอ้ไก่ลุกมาเล่นเกมส์นะ"
เธอสั่งเสียเขาเป็นชุดแล้วจึงปั่นจักรยานจากไป ปล่อยให้เขายืนทำหน้างงอยู่ที่หน้าประตูรั้วบ้านที่เธอไม่ยอมปิดเสียด้วยซ้ำ...ประหลาดคนดีแท้! ถ้าเขาเป็นฆาตรกรฆ่าข่มขืนขึ้นมา น้องฮยอกแจคนดีของเขาจะรอดหรอวะเนี่ย! ฮันคยองส่ายหน้าให้ผู้หญิงประหลาดคนนั้นก่อนจะหมุนตัวเดินเข้าบ้านไปอย่างหมดทางเลือก
บ้านของฮยอกแจไม่ใหญ่นัก แต่มันก็ไม่เล็กเกินไปจนน่าอึดอัด...เขาคิดว่ามันมีขนาดที่กำลังน่าอบอุ่น เขาเห็นแก้วนมกับคุกกี้วางอยู่บนโต๊ะอาหารเลยถือวิสาสะหยิบมันติดมือขึ้นไปด้วย ที่ด้านบนมีประตูห้องหนึ่งเปิดแง้มไว้ และที่เขาเห็นผ่านรอยแง้มของประตูก็คือร่างบอบบางของฮยอกแจที่นอนบิดไปมาอยู่ใต้กองผ้าห่ม เขาอมยิ้มมองภาพนั้นอยู่ที่ด้านนอกเพื่อซึมซับมันเข้าไปในความทรงจำของตัวเองก่อนจะสอดตัวเข้าไปในห้อง
ห้องของฮยอกแจก็เหมือนกับเจ้าของนั่นล่ะ...เล็กๆ น่ารัก และให้ความรู้สึกสดใสได้มากกว่าใคร เขาวางของว่างที่หยิบติดมือมาจากในครัวด้านล่างลงบนโต๊ะเขียนหนังสือ(ที่เขาแอบเห็นยาสองเม็ดอยู่ในถ้วยยา)พร้อมกับวางกระเป๋าใส่กล้องและกระเป๋าหนังสือของตนลงบนเก้าอี้ใกล้ๆ ใช้เวลาชั่วเสี้ยววินาทีหนึ่งลอบกวาดสายตามองไปรอบห้อง แล้วจึงเดินไปทรุดตัวนั่งอยู่ที่ขอบเตียง
"ฮยอกแจครับ"
เสียงนุ่มทุ้มของเขาเรียกให้เจ้าของชื่อพลิกตัวหันมาหา ดวงตาเรียวรีดูปรอยปรือยามที่มันช้อนขึ้นมองเขาผู้ซึ่งกำลังส่งรอยยิ้มลงไปให้
"พี่ฮัน...ผมป่วยด้วยล่ะ"
ฮยอกแจคนดีของเขาเป็นคนช่างฟ้องเสมอจริงๆนั่นล่ะ เขาหลุดหัวเราะออกมานิดพลางวางมือลงบนศีรษะเล็ก ลูบผมสีน้ำตาลแดงนุ่มมืออันยุ่งเหยิงไปมาเบาๆ
"แล้วฮยอกแจทำอิท่าไหนถึงได้ป่วยล่ะครับ เพราะไอติมของพี่วันนั้นแน่เลยใช่มั้ยล่ะ"
เรียวปากของคนพูดยังคงเปื้อนยิ้ม ทั้งๆที่หัวใจสะดุดไปตั้งแต่คำว่าวันนั้นเสียแล้ว แต่เขาก็รีบปัดมันออกไปจากหัวอย่างรวดเร็วเมื่อเห็นว่าคนตัวเล็กทำหน้ามู่ใส่เขาอย่างน่ารัก...บางครั้งลีฮยอกแจก็ลืมอะไรได้อย่างง่ายดายจนน่าประหลาดใจ
"รับผิดชอบเลย"
พูดยังไม่ทันจบคำดีคนที่ร้องหาคนรับผิดชอบก็มุดหัวหายลงไปใต้ผ้าห่มก่อนจะจามหนักๆออกมาเสียสองทีจนตัวโยนไปหมด
"งื้อออ!...พี่ฮันอ่าา!"
จามเสร็จก็ครางอื้อร้องหาเขาเสียอย่างนั้น ฮันคยองหัวเราะออกมาเบาๆอย่างเอ็นดูพลางจัดแจงกระชับผ้าห่มผืนหนาเข้าแนบร่างบอบบางที่ยังคงอยู่ในชุดนอนลายลูกเจี๊ยบสีเหลืองมะนาวสดใสให้แน่นขึ้น
"พี่แอบเห็นนะว่าฮยอกแจไม่ยอมกินยา"
ฮยอกแจทำปากคว่ำได้น่าชังเชียวล่ะตอนที่เขาพูดถึงเรื่องยาที่ยังวางแช่อยู่บนโต๊ะเขียนหนังสือ คนเบี้ยวทานยาผลิกตัวหันหลังพร้อมกับมุดหัวหายเข้าไปใต้ผ้าห่มหนีเขา
"กินแล้ว"
"เอ๋?...แล้วที่วางอยู่บนโต๊ะนี่ล่ะครับ"
"พี่โซราเอามาให้เป็นยาหลังอาหารเย็น"
"แต่ว่า...เอ๋?...มันแปะไว้ว่าตอนเที่ยงนะครับ"
"โกหกอ่ะ!...เค้าดูแล้วนะ ถ้วยนั่นไม่เห็นมีอะไรแปะไว้สักหน่อย!"
บอกแล้วว่าเขามีเป็น108วิธีในการไล่ต้อนเจ้าลูกเจี๊ยบตัวน้อยให้จนมุมน่ะ สรรพนามน่ารักๆที่คนป่วยหลุดออกมาทำให้ฮันคยองยิ้มออกมาเล็กๆ และยิ่งคนป่วยที่ชอบร้อนตัวอยู่เรื่อยพลิกตัวกลับมาทำตาวาวๆใส่เขาอย่างเอาเรื่องก็ทำให้เขายิ่งขำหนักเข้าไปใหญ่ เขาเอื้อมมือไปหยิบเจ้าถ้วยยาใบเล็กนั่นมาแกว่งไปมาตรงหน้าคนที่นอนอยู่บนเตียง เสียงเม็ดยาสองเม็ดที่กลิ้งไปมาอยู่ที่ก้นถ้วยยามที่เขาแกว่งมือยิ่งทำให้ฮยอกแจหน้ามุ่ยหนักกว่าเก่า
"ไม่กินอ่ะ!...ถ้าพี่ฮันอยากกินก็กินเองสิ!"
เอาแต่ใจชะมัดเลยน้าาา
ฮยอกแจตวัดเสียงใส่เขาก่อนจะผลิกตัวนอนตะแคงหันหลังให้เหมือนเดิมด้วยท่าทางดื้อรั้นจนเขาต้องส่ายหัวอย่างอ่อนใจ วิธีที่จะทำให้คนตัวเล็กทานยาน่ะ เขาคิดได้เยอะแยะเลยนะ...เด็ดๆทั้งนั้นด้วย แต่เขาก็ต้องตัดมันทิ้งไป เพราะบางทีมันอาจจะทำให้ฮยอกแจคนดีของเขาร้องไห้ให้กับเรื่องเดิมๆอีก
บางทีหน้าที่ของแฟน...เขาก็ทำแทนให้ไม่ได้เหมือนกัน
"ฮยอกแจคนเก่ง อย่าดื้อสิครับ ไม่กินยาแล้วจะหายเมื่อไรล่ะ"
"กินชูครีมร้านนั้นเดี๋ยวก็หาย"
นี่น้องฮยอกแจยังติดใจไอ้ชูครีมร้านนั้นอยู่อีกหรอวะ?!!
คนจีนยิ้มออกมาอย่างอ่อนใจพลางลูบศีรษะเล็กไปมาเบาๆคล้ายอยากจะปลอบโยนเรื่องชูครีมที่เขาไม่สามารถซื้อมาให้ได้ ร่างสูงขยับตัวนิดเพื่อจะได้นั่งบนขอบเตียงได้มั่นคงมากขึ้น
"อย่าดื้อสิครับ ยานิดเดียวเองนะครับคนเก่ง"
"แต่เค้าไม่ชอบยานี่"
เสียงของคนที่พลิกตัวนอนหันหลังให้เขากำลังสั่นได้ที่เชียวล่ะ...ใกล้ปล่อยโฮอยู่รอมร่ออยู่แล้ว เดือดร้อนถึงเขาที่ต้องออกแรงพลิกร่างเล็กๆของคนดื้อรั้นให้หันกลับมาสบตา และเขาก็เดาผิดเสียที่ไหน...ฮยอกแจดาแดงๆใกล้จะเป่าปี่อยู่แล้ว
"พี่ฮันเค้าไม่กินนะ...ได้มั้ย...ไม่กินนะ...ฮึก...ก็เค้าไม่ชอบนี่"
พอป่วยแล้วงอแงหนักกว่าเดิมอีกน้าาา
ฮันคยองคลี่รอยยิ้มออกมาให้คนช่างงอแงอย่างอ่อนโยนพลางใช้ปลายนิ้วเกี่ยวปอยผมสีน้ำตาลแดงที่ระอยู่ที่ข้างแก้มนิ่มขึ้นไปทัดใบหูเล็ก...สัมผัสแค่นี้ยังรู้สึกเลยว่าตัวร้อนขนาดไหน ดื้อไม่มีที่สิ้นสุดจริงๆเลยนะลีฮยอกแจ แต่งั้นก็เถอะ...เขาก็ไม่เคยทำใจแข็งดุให้หายดื้อแบบจริงๆจังๆได้สักที
คนจีนคงมีจุดอ่อนอยู่ที่ดวงตาใสๆคู่นั้นแน่ๆ
"ฮยอกแจตัวร้อนนะครับ ต้องทานยาจะได้หาย พอหายแล้วพี่พาไปกินชูครีมนะ ตกลงมั้ย...ไม่เอา ไม่งอแงนะครับฮยอกแจ แค่นี้เองนะครับ ไม่มีอะไรน่าร้องไห้นี่คนเก่ง"
ฮันคยองแปลกใจตัวเองนักที่ใจเย็นได้มากขนาดนี้กับความดื้อรั้น และยิ่งใบหน้าหวานเหยเกมากขึ้นเท่าไร เขาก็ยิ่งสามารถคลี่รอยยิ้มออกมาได้กว้างมากขึ้นเท่านั้น...สามารถพูดเอ่ยปลอบโยนด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนซ้ำๆอยู่อย่างนั้นโดยไม่คิดเบื่อเลยสักนิด
จะให้เบื่อคนที่เป็นความรักของเขาได้ยังไงกันนะ
"ชู่วววว์...ไม่ร้องแล้วนะครับฮยอกแจ"
มือใหญ่ข้างหนึ่งจับประคองแก้มนวลเอาไว้อย่างแผ่วเบาเพื่อใช้นิ้วโป้งปาดเช็ดน้ำตาให้ ฮันคยองยังคงยิ้ม ในขณะที่คนป่วยนั้นก็ทำท่าจะสะอื้นเสียแล้ว
"ไม่กินนะ...ฮึก...ไม่กิน"
ฮันคยองถอนหายใจออกมาเบาๆ...รู้สึกเหมือนตัวเองกำลังจะใจอ่อนให้คนตัวเล็กอีกเหมือนเคย เขาเอื้อมมือไปวางเจ้าถ้วยยาตัวปัญหากลับลงที่เดิมก่อนจะหันกลับมาคลี่ยิ้มให้คนบนเตียง ใช้นิ้วดีดเข้าให้ที่หน้าผากมนไปเบาๆหนึ่งทีคล้ายเป็นการลงโทษสำหรับการดื้อดึง
"ไม่กินก็ไม่กิน โดนหมอจับฉีดยาจะมาร้องโวยวายให้พี่ช่วยไม่ได้นะครับ"
น้ำตาของลีฮยอกแจสั่งได้เสมอนั่นล่ะ เขารู้ดี เพราะทันทีที่เด็กดื้อโดนทำโทษ ดวงตาเรียวรีที่ยังมีน้ำตาเอ่อค้างอยู่ที่ขอบตาก็ค้อนเขาขวับพร้อมกับที่เจ้าตัวทำหน้ามู่ใส่
"แกล้งอ่ะ!"
คนจีนช่างแกล้งหัวเราะออกมาเบาๆให้กับท่าทางเดือดร้อนนั้นพลางกระชับผ้าห่มเข้าแนบตัวคนป่วยตัวเล็กให้มากขึ้น ฮันคยองใช้ข้อนิ้วลูบไปตามแก้มเนียนอันร้อนผ่าวเบาๆคล้ายจะเห่กล่อมให้อีกฝ่ายเคลิ้มหลับเสียทีก่อนจะกดจูบลงไปบนหน้าผากเนียน
"พักผ่อนนะครับฮยอกแจ ถ้าหิว พี่หยิบของว่างขึ้นมาให้แล้วนะครับ พี่จะกลับแล้ว"
"ไม่อยู่เฝ้าผมหรอ"
มือเล็กที่เอื้อมมารั้งชายเสื้อของเขาเอาไว้ทำให้เขารู้สึกดีชะมัด แต่เขากลับทำเพียงแค่ขยับรอยยิ้มอ่อนจางไปให้พร้อมกับค่อยๆดึงมือข้างนั้นออก แน่ล่ะ...ต้องรีบทำก่อนที่เขาจะใจอ่อนอีก
"ไม่ดีกว่าครับ พี่ไม่ใช่แฟนของฮยอกแจสักหน่อย พี่ทำแบบนั้นไม่ได้หรอก"
.........................................................
"ฮยอกแจเป็นอะไร รู้สึกไม่สบายหรอ"
เสียงหวานของซองมินไม่ได้ทำให้คนที่ดูเหม่อลอยแปลกๆมาเกือบอาทิตย์แบบนี้สนใจเท่าไรนัก ฮยอกแจปัดมือของเพื่อนที่วางแนบอยู่บนหน้าผากให้ออกห่างคล้ายจะบอกว่าเขาไม่ได้เป็นอะไรก่อนจะฟุบหน้าลงกับโต๊ะเฉยโดยไม่สนใจชูครีมที่เจ้าตัวร้องอยากทานนักอยากทานหนามาทั้งอาทิตย์ซึ่งวางอยู่ในจานตรงหน้าเลยสักนิด จนซองมินต้องถอนหายใจออกมาอย่างอ่อนใจกับความดื้อดึงของเพื่อนสนิทตัวเล็กของตน เขาหันไปสบตากับลูกศิษย์ตัวโตของตนที่นั่งอยู่ที่ฝั่งตรงข้ามของโต๊ะเล็กน้อยคล้ายจะขอความเห็น และคนที่ยอมตามใจเจ้าลูกไก่ปากแดงมาเกือบทั้งอาทิตย์และไม่ชวนเถียงเลยสักแอะ(เพราะเห็นว่าซึมผิดหูผิดตาหรอก!)ก็ได้แต่ไหวไหล่อย่างจนปัญญาที่จะหาคำตอบมาให้
"นี่เจ้าลูกไก่ ถ้าป่วยเป็นหวัดไก่แบบนี้ก็กลับบ้านไปนอนซะสิ มานั่งอมโรคอยู่นี่แล้วฉันจะมีอารมณ์จูบซองมินได้ยังไงล่ะ"
คยูฮยอนว่าพลางเอื้อมมือไปผลักศีรษะเล็กๆที่ฟุบแนบอยู่กับท่อนแขนของผู้เป็นเจ้าของเบาๆหนึ่งทีคล้ายอยากจะเรียกให้สนใจ แต่ฮยอกแจก็ทำเพียงครางอื้ออึงออกมาเบาๆและยังคงฟุบหน้านอนอยู่อย่างนั้นอย่างไม่สนใจที่จะเงยหน้าขึ้นมาแว้ดๆใส่เขาเหมือนเคย...ผิดปกติมากเชียวล่ะที่ไม่เถียงกลับมาแบบนี้
"คยูฮยอนอุตส่าห์ซื้อชูครีมที่ฮยอกแจอยากกินให้นะ ทำไมไม่กินล่ะ มันไม่อร่อยหรอ ทำแบบนี้คยูฮยอนเสียใจนะ...ฮยอกแจกำลังทำให้เราเป็นห่วงนะรู้มั้ย"
ซองมิน(ที่แอบแก้มแดงขึ้นมานิดเพราะสิ่งที่เจ้าลูกศิษย์ตัวโตพูดไปก่อนหน้า)เอ่ยกล่าวขึ้นมาบ้างพลางลูบผมสีน้ำตาลแดงของคนที่มีอาการผิดปกติไปมาอย่างแผ่วเบา ฮยอกแจยอมเอนหน้าตะแคงมาสบตากับเพื่อนสนิท และดวงตาเรียวรีที่แวววาวไปด้วยหยดน้ำตาพร้อมกับใบหน้าอันเหยเกก็ทำให้ทั้งซองมินทั้งคยูฮยอนตกใจ คนที่ยังคงแนบแก้มอยู่กับท่อนแขนของตัวเองสะอื้นออกมาเบาๆ
"แต่พี่ฮันสัญญาว่าจะ...ฮึก...ซื้อให้นี่"
"ฮยอกแจอย่าร้องไห้สิ พี่ฮันอาจจะแค่มีโปรเจ็คต้องทำก็ได้"
"พี่ฮัน...ฮึก...ไม่มาหาฉันอ่ะ....ฮึก...ฉันจะเอาพี่ฮันอ่า!!"
........................................................................
"แปลกพิกลเว้ย ทำไมเดี๋ยวนี้ถึงได้มาขลุกอยู่กับฉันยันดึกดื่นทุกวันแบบนี้ล่ะจ้ะฮันคยองสุดหล่อของน้องๆ"
ฮีชอลจีบปากจีบคอพูดกับเพื่อนรักด้วยเสียงหว๊านหวาน(ประชด)พลางทรุดตัวนั่งลงบนพื้นข้างๆ มือเล็กก็สะบัดพัดขนนกสีแดง(ที่ดูเหมือนหลายๆวันมานี้คนสวยจะถือติดมืออยู่แทบตลอดเวลา)ให้กางออกเพื่อพัดเอาลมให้แก่ตนเอง แต่คนที่เกือบทั้งอาทิตย์มานี้มานั่งดูเพื่อนสนิทที่อยู่เอกการแสดงซ้อมละครที่จะแสดงในวันงานกีฬามหาลัยยันสองทุ่มก็ดูเหมือนจะไม่ถือสาเอาความกับคำประชดประชันนั่นเท่าไรนัก ฮันคยองถอนหายใจออกมานิดพร้อมกับเอนหัวพิงไหล่บอบบางของเพื่อนคนสวยที่นั่งอยู่ข้างๆเอาไว้...ดูเหนื่อยยิ่งกว่าคนที่เพิ่งซ้อมละครเสร็จเสียอีก
"ก็ไม่ทำไม ไม่รู้จะไปทำอะไร มองอะไรผ่านเลนส์กล้องก็ไม่ได้เรื่องสักอย่าง ไม่มีอารมณ์ถ่ายรูป"
ฮีชอลค่อยๆหุบรอยยิ้มประชดประชันของตนลงเมื่อสัมผัสได้ถึงบางสิ่งบางอย่างที่ไม่ปกติในน้ำเสียงของเพื่อน ดวงตากลมโตเหลือบมองใบหน้าคมของคนที่นั่งพิงไหล่เขานิดก่อนคนสวยจะคลี่รอยยิ้มออกมาจางๆ...แต่มันก็เป็นรอยยิ้มอ่อนจางที่อ่อนหวานงดงามมากเหลือเกิน
"เป็นอะไรของแกไอ้ต่างด้าว โดนอาจารย์ตีโปรเจ็คกลับมารึไง"
"เปล่าสักหน่อย"
"ถ้าเปล่าสักหน่อย แล้วแกจะมานั่งบื้อทำอะไรอยู่ที่หอประชุมนี่ ไอ้เด็กไก่หักอกแกมาอีกแล้วล่ะสิท่า"
"เปล่าสักหน่อย"
ก็แค่ใกล้เคียงเท่านั้นล่ะ
ประโยคปฏิเสธเดิมที่ถูกเปล่งออกมาทำให้คนที่พยายามจะทำตัวเป็นนางเอก(?)ปรี๊ดแตกเป็นบ้า และฮีชอลก็หาทางระบายมันออกมาด้วยการใช้พัดขนนกสีแดงในมือฟาดเข้าให้ที่หน้าผากเพื่อนรักไปเสียสองครั้ง
"ถ้าแกตอบเปล่าสักหน่อยอีกครั้ง ฉันจะไปฆ่าไอ้เด็กไก่ของแก เข้าใจมั้ยฮันคยอง"
"อือ...ไม่พูดแล้วก็ได้"
วันนี้ไอ้ต่างด้าวสงบปากสงบคำผิดปกติเว้ยเฮ้ย!
"แล้วทำไมวันนี้ไม่ไปหาไอ้เด็กไก่มันล่ะ ปกติตามเช้าตามเย็นไม่ใช่รึไง"
"ก็...ว่าจะไม่ทำแบบนั้นแล้ว"
"หืมม?...แกว่าไงนะ"
"ฉันไม่ใช่แฟนของน้องเค้า ไปทำหน้าที่แฟนแทนไม่ได้หรอก"
"ใครสอนให้แกคิดแบบนั้นห๊าา!!...ไอ้เด็กไก่บอกแกมาแบบนั้นเรอะ?!!"
ฮีชอลว้ากออกมาพร้อมกับตั้งท่าจะลุกขึ้นไปเอาเรื่องไอ้เด็กไก่ที่ว่า ติดก็แต่มือของเพื่อนสนิทที่รั้งแขนของเขาเอาไว้เสียก่อน เขาถึงได้ยอมทรุดตัวกลับลงมานั่งตามเดิม ใบหน้าหวานจัดมุ่ยสนิทอย่างขัดเคือง คนสวยโบกพัดในมือไปมาให้วุ่นวายคล้ายอยากจะระบายความคับข้องใจของตนเองออกมา
"แกจะจีบไอ้เด็กไก่แล้วมันผิดรึไงที่แกจะเข้าไปดูแล ไม่ใช่แฟนก็ดูแลกันได้เว้ย ไปเอาความคิดปัญญาอ่อนแบบนั้นมาจากไหนวะ...ไร้สาระชิบเป้งเลย ไอ้เด็กซื่อบื้อแบบนั้น ฉันบอกแกเป็นพันรอบแล้วว่าให้บอกไปตรงๆเลย แกทำอย่างนี้ไปทั้งชาติ ไอ้เด็กไก่ซื่อบื้อนั่นมันก็ไม่รู้หรอกว่าแกชอบมันน่ะ"
"สอบมิดเทอมเสร็จ...ไม่แน่อาจจะกลับบ้าน"
คนสวยเลิกคิ้วขึ้นนิดอย่างแปลกใจที่จู่ๆเจ้าเพื่อนคนจีนตัวดีของตนก็เปลี่ยนเรื่องไปเสียเฉยๆ แต่เขาก็ไม่ได้ร้องโวยวายอะไรออกมาที่เพื่อนไม่ได้สนใจคำพูดของตนมากนัก...เขารู้ว่าฮันคยองฟังอยู่ และหมอนั่นก็คงเก็บเอาไปคิดแล้ว ไอ้ต่างด้าวนี่เป็นผู้ฟังที่ดีเสมอนั่นล่ะ
"กลับบ้าน?...ไม่เคยเห็นแกกลับบ้านตอนปิดเทอมสักปี คิดยังไงถึงจะกลับบ้านล่ะ ไหนบ่นว่าค่าตั๋วแพงเกินไม่ใช่รึไง"
"กำลังคิดว่า...จะตัดใจแล้วล่ะ"
........................................................................
ปกติเขียนเรื่องนี้จะไม่ใช้สำนวนแบบนี้นะ ไอ้พวกที่ให้ความรุ้สึกนุ่มๆซอล์ฟๆซึมๆอะไรทำนองนั้นอ่านะ จะใช้กับเรื่องดาร์คๆอ่ะส่วนใหญ่(รีดเดอร์บอก ฟิคมึงก็ดาร์คหมดไม่ใช่เรอะ! ขนาดเอสเอ็ฟมึงยังดาร์คเลย...อะไรทำนองนั้น= =) แต่ก็ดันเผลอมาใช้กับตอนนี้จนได้- -“ สาบานได้ ตอนแรกไม่ได้กะให้มันออกมาซึมๆอึนๆแบบนี้หรอกนะ แต่ว่า...ก็ช่วยไม่ได้อ่ะ เรียกได้ว่าซึมกันต่อเนื่องมาจากตอนก่อนหน้านู้นเลยทีเดียว คิดว่าน่าจะเข้าใจความคิดของป๋ากันนะคะ ที่บอกว่าไม่ใช่แฟนทำแทนไม่ได้น่ะ เพราะว่าป๋าแกจะตัดใจแล้วนั่นเองแล ก็ตอนที่แล้วไอ้ไก่(ฮา ชอบคำนี้จริงๆ)ดันไปตอกใส่หน้าปป๋าแกว่ารู้สึกไม่ดี ป๋าแกก็เลยเป๋ไปนิดนึงอ่าค่ะ แบบเสียสูญอะไรทำนองนั้น ป๋าแกเลยรู้สึกว่าทำแบบนี้มันไม่ใช่นะ อะไรทำนองนั้น และก็โดนเจ๊ด่าไปตามระเบียบ...เจ๊พระเอ๊กพระเอกเนอะว่ามั้ย= = แต่มาจบท้ายด้วยประโยคที่ว่าจะตัดใจนี่มันก็...นะ เศร้ายังไงพิกล แต่สันยาค่ะ ฟิคเรื่องนี้ไม่มีใครตายแน่นอน แฮปปี้ทุกคู่ ฟันธง(ยิ้มหวาน^________________^)
ตอนหน้า ยังไม่ได้คิดเลยค่ะว่าเป็นคู่อะไรดี(เวรกำ) แต่ไม่แน่อาจจะเป็นยุนแจค่ะ
ปล. อย่าเพิ่งตื่นตระหนกกับคำว่าใกล้จบแล้วของไรเตอร์ค่ะ ใกล้จบของไรเตอร์นี่หมายถึงเรายังได้เจอกันอีกนานค่ะ แค่ฟิคเข้าถึงช่วงสุดท้ายแล้วเท่านั้นเอง คาดว่าเราคงได้เจอกันยาวถึงปีหน้าแน่ๆ เพราะไรเตอร์จะรวมเล่มเรื่องนี้ตอนปิดเทอมค่ะ ใครอยากเป็นแรงงานทาสก็เคลียร์คิวด่วนนะจ้ะ^^
ปลล. เรื่องคู่ของฟิคเรื่องต่อไป ของุบงิบไว้ก่อนค่ะ เพราะเดี๋ยวไรเตอร์เกิดเปลี่ยนใจ(เห้นอะไรที่จิ้นได้มากกว่า= =) แล้วจะหาว่าเค้าไม่รักษาสัญญานะ
ปลลล. อยากไปงานPDจังน้าาาา อิจฉาคนได้บัตรเว่อร์อ่าา คลื่นบ้าไรก้ไม่รุ้ วิทยุที่บ้านไรเตอร์หมุนฟังคลื่นนี้ไม่ได้ด้วยซ้ำอ่ะ!(งอแง)
เจอกันครั้งหน้าค่ะ วันนี้มาลงรับเปิดเทอมกันเลยทีเดียว^^
ความคิดเห็น