ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [SJ:KIHAE] :: Heartquake ภารกิจเขย่าหัวใจนายตัวร้ายให้ลงล๊อค

    ลำดับตอนที่ #47 : 39th Mission :: ดอกไม้ของฉัน .. เพลงของเธอ

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 2.76K
      8
      27 มี.ค. 54


    MusicPlaylist

    "เจ็บมั้ยคิบอมอ่า"

     

    "ก็...นิดหน่ะ...ซี้ดดด!"

     

    "เจ็บหรอ"

    พยาบาลจำเป็นทำหน้าหง่อยลงทันตาเมื่อเขาซี้ดปากออกมาดังลั่น สำลีชุบแอลกอฮอล์เย็นๆชะงักค้างอยู่ที่มุมปากของเขาราวกับกลัวว่าการขยับมือครั้งต่อไปจะทำให้เขาเจ็บมากขึ้น(ทั้งๆที่ในความเป็นจริง กดค้างไว้แบบนี้แม่งแสบกว่าอีก!) ทงเฮหันซ้ายแลขวา ทำท่าเหมือนอยากจะเรียกใครสักคนมาทำให้แทน แต่หันไปทางไหนก็เจอแต่คนของคุณป๊าและตัวคุณป๊าเองที่ยืนทำหน้าสงบเสงี่ยมเตรียมง้อเต็มที่อยู่ห่างๆ สุดท้ายแล้วยัยปลาทองขี้งอนแสนเอาแต่ใจก็เชิดใส่คุณป๊า และสะบัดหน้ากลับมาดูแลแผลช้ำๆที่มุมปากของเขาให้ตามเดิม

     

    สวนสาธารณะที่พวกเขานั่งอยู่(นั่งบนพื้นหญ้าเสียอีก เพราะม้านั่งเต็ม)ดูจะเงียบสงบเกินไปสักหน่อยในช่วงเวลาเย็นๆแบบนี้ แต่คิบอมก็เดาว่าเป็นเพราะคนของคุณมาเฟียใหญ่ลีที่ยืนจับกลุ่มกันอยู่ตรงหลังต้นไม้ตรงนั้นนั่นล่ะที่ทำให้คนพากันทยอยออกไปเสียหมด เขายิ้มให้กำลังใจสามีคนสวยที่ยื่นหน้าเข้ามาใกล้เขามากเหลือเกินพลางใช้มือหยิกแก้มนิ่มไปมาเบาๆ

     

    "ไม่หรอกครับ ทงเฮมือเบาจะตาย"

     

    โกหกเพื่อความรัก พระเจ้าคงไม่เห็นว่ามันเป็นบาปหรอกนะ!"

     

    "คิๆ...ซื้อดอกไม้เป็นรางวัลให้ฉันด้วยนะ"

     

    แหม...ให้ทั้งตัวทั้งหัวใจยังได้เลยครับที่รัก

     

    "คร้าบบบ...เอาช่อใหญ่ๆผูกริบบิ้นสวยๆเลยเนอะ"

     

    "อื้ออ!"

     

    คุณสามีชักโมเอะใหญ่แล้วนะเดี๋ยวนี้!

     

    ...............................................................................

     

    "ฮยอกแจจะไปกับเรามั้ย คยูฮยอนต้องดีใจมากแน่ๆเลยถ้าเจอฮยอกแจน่ะ"

     

    "ไม่ไป!"

     

    "งั้น...ฮยอกแจรอเราอยู่ตรงนี้คนเดียวแป๊บนึงได้รึเปล่า เราจะรีบไปรีบกลับนะ"

     

    "ไม่เอา!...ซองมินอ่าา!!"

    ซองมินไม่รู้หรอกว่าเมื่อหลายวันก่อนมันเกิดอะไรขึ้น แต่เพื่อนสนิทของเขาดูอาการหนักกว่าเดิมเสียอีกจนซองมินล่ะกลัวว่าจะกู่ไม่กลับเสียแล้ว ฮยอกแจงอแงหาพี่ฮันตลอดเลย แล้วจะให้ซองมินไปหาพี่ฮันจากไหนมาให้ล่ะ...ก็ขนาดขอให้คยูฮยอนไปตามตัวมาให้แล้ว รายนั้นยังหาพี่ฮันไม่เจอเลยด้วยซ้ำ เขาถอนหายใจออกมาเบาๆพลางกดร่างบอบบางของเพื่อนสนิทให้นั่งลงตรงโต๊ะม้าหินที่หน้าตึกคณะของพวกเขา(ที่ดูเหมือนจะหลุดออกมาจากวงโคจรของงานกีฬามหาลัยอยู่สักหน่อย เพราะตรงนี้ช่างเงียบและร้างคนที่จริงๆ)

     

    "ฮยอกแจอ่า"

    ซองมินร้องออกมาอย่างเหนื่อยใจเมื่อเจ้าลูกไก่ปากแดงเพื่อนสนิทเริ่มทำปากเบะตั้งท่าจะปล่อยโฮออกมาเสียดื้อๆ...แถวนี้ก็ไม่มีคนเสียด้วยสิ แล้วจะให้เขาทำยังไงล่ะ! อีกไม่กี่นาทีคยูฮยอนก็ต้องขึ้นแสดงแล้วง่ะ! กระต่ายตากลมวางมือลงบนผมสีน้ำตาลแดงของเพื่อนสนิทที่ช้อนตาขึ้นมองเขาตาปรอย ฮยอกแจเบ้หน้า

     

    "ซองมินอ่า"

     

    "เราสัญญาว่าจะรีบกลับมานะ"

     

    "จริงนะ"

     

    "อื้อ...เราแค่ไปที่เวทีกลางเอง เอาดอกไม้ที่ฮยอกแจช่วยเราเลือกไปให้คยูฮยอนไง คยูฮยอนร้องเพลงด้วยนะ ฮยอกแจอยากฟังคยูฮยอนร้องเพลงรึเปล่าล่ะ ไปนั่งฟังกันมั้ย คยูฮยอนร้องเพลงเพราะนะ"

    ฮยอกแจส่ายหน้าปฏิเสธคำเชิญชวนก่อนจะหมุนตัวหันไปวางคางลงบนโต๊ะม้าหินด้วยท่าทางเบื่อหน่ายโดยไม่วายย้ำเขาอีกรอบว่าให่รีบกลับมา ซองมินหอมแก้มคนช่างเอาแต่ใจไปหนึ่งที่ก่อนจะคว้าช่อดอกกุหลาบสามดอกของตนที่วางอยู่บนโต๊ะ วิ่งตรงไปยังเวทีกลางที่กำลังจะมีการแสดงของชมรมดนตรีประจำมหาลัยในอีกไม่กี่นาทีข้างหน้า

     

    "โอ๊ยยยยย!...ความอิจฉาเข้าตา! ตากูจะบอดมั้ยวะไอ้คยู!!"

    สมาชิกชมรมคนหนึ่งที่ว่างพอจะให้เขาเดินเข้าไปเอ่ยถามร้องออกมาดังลั่นทันทีที่เขาเอ่ยปากถามหาคยูฮยอน(ผู้ซึ่งไม่ยอมรับโทรศัพท์เขาเสียที แล้วจะไปรู้ได้ยังไงล่ะว่าให้ไปหาที่ไหนน่ะ ดูซิ โดนล้อเลย!) ซองมินยิ้มเขิน ขยับช่อดอกไม้ให้มือไปมายึกยักคล้ายอยากจะซ่อนมันเอาไว้ให้พ้นจากสายตาของคนอื่น ไม่นานคนโดนเรียกก็เดินเบียดนักร้องคนอื่นที่อัดกันอยู่ในห้องแต่งตัวออกมาหาเขาที่ยืนรออยู่ที่หน้าประตู จัดการโบกหัวไอ้เพื่อนปากมอมคนนั้นไปหนึ่งทีพร้อมกับถีบส่งเข้าให้ก่อนจะหันมายิ้มกว้างให้กับเขาราวกับเมื่อกี้ไม่ได้เกิดอะไรขึ้น

     

    "ไอ้จุนโฮแกล้งอะไรนายรึเปล่า"

     

    "เปล่าสักหน่อย คยูฮยอนไปตีเพื่อนแบบนั้น เดี๋ยวเขาก็โกรธหรอก"

     

    "ไอ้จุนโฮมันไม่โกรธหรอก หมอนั่นโกรธใครไม่เป็นหรอก...ใช่มั้ยจุนโฮ!!"

     

    "จ้าาา...ใครจะกล้าหือกับพี่คยูคนดีที่มีแฟนน่ารักแบบนี้ล่ะจ้ะ"

    ซองมินหัวเราะออกมาคิกคักให้กับคำตอบแสนประชดประชัดนั้น(แม้จะแอบหน้าแดงให้กับวลีที่ว่ามีแฟนน่ารักนิดหน่อยก็เถอะ)ก่อนจะรีบดึงความสนใจของคนตรงหน้า(ที่ตั้งท่าจะเดินเข้าไปตีเพื่อนอีกรอบแทนการยืนคุยกับเขาเสียแล้ว)ให้กลับมาที่ตนเหมือนเดิมโดยการยื่นช่อดอกไม้ไปให้พร้อมด้วยรอยยิ้มกว้างเกลื่อนใบหน้า

     

    "เราให้!"

     

    "ให้ฉัน?"

     

    "อื้อ!"

    คนให้ยิ้มกว้าง ต่างจากคนรับที่ทำหน้างงๆเหมือนไม่เข้าใจ แต่กระนั้นแล้ว คยูฮยอนก็ยิ้มออกในนาทีถัดมา คนตัวสูงกดจมูกลงใกล้กลีบดอกไม้เพื่อสูดดมความหอมหวานของมัน...แต่มันคงเทียบไม่ได้กับกลีบปากของคนให้หรอก เขารู้ดี

     

    "ชอบมั้ย"

     

    ถ้าบอกว่าไม่ชอบต้องมีการบ่อน้ำตาแตกแน่ๆ เขาเชื่อ

     

    คนที่ต้องเก็บเสียงไว้ร้องเพลงจนต้องพูดแค่เสียงแผ่วๆเหมือนคนป่วยพยักหน้ารับพลางใช้ข้อนิ้วของมือข้างที่ว่างลูบไปตามแก้มเนียนของกระต่ายตัวน้อยของเขาเบาๆด้วยรอยยิ้มจางๆบนเรียวปาก

     

    "ดอกกุหลาบสีชมพูสามดอก ต้องจูบสามครั้งเลยนะ"

     

    "อ่ะ..."

     

    "ถ้าจูบตอนนี้ ซองมินจะอายมั้ย"

     

    "อายสิ!"

    คนขี้อายตอบกลับมาเสียงดังพร้อมด้วยแก้มแดงก่ำที่พองขึ้นเล็กๆ...ลีซองมินช่างเขินได้น่ารักจนเขาใจสั่นจริงๆ คยูฮยอนแสร้งทำหน้าเสียดาย ยู่ปากเข้าหากันนิดๆเพื่อความโมเอะ(?!)ยิ่งๆขึ้นไป ซึ่งแน่ล่ะ...อะไรที่ไม่มีทางเป็นผล โจวคยูฮยอนคนนี้ไม่มีทางลงทุนทำให้เหนื่อยเสียหรอก

     

    "โธ่...งอนจัง ผมอุตส่าห์เตรียมเพลงมาร้องให้ซองมินเชียวนะ"

     

    "เพลงอะไรหรอ"

     

    "ไม่ให้จูบ ไม่บอกหรอก"

    ซองมินหัวเราะออกมาคิกคักให้กับคนที่ไม่ยอมพูดเต็มเสียงแล้วยังงอนเก่งอีก เขาเอื้อมมือไปหยิกแก้มขาวของอีกฝ่ายเบาๆ และแน่ล่ะ...ทำแบบนี้ทีไร คยูฮยอนได้ทำหน้ายู่ทุกที...นั่นไง ยังไม่ทันขาดคำเลย แต่โชคดีหน่อยที่วันนี้อีกฝ่ายต้องเก็บเสียงไว้ร้องเพลง ไม่งั้นคงร้องโวยวายออกมาแล้วล่ะ

     

    "ตามใจ เราไปนั่งรอฟังเอาเองก็ได้"

     

    "ซองมินไม่อยากรู้จริงๆหรอ"

     

    ยิ่งนานวันโจวคยูฮยอนก็ยิ่งขี้อ้อนจนเขาใจสั่นนะ!

     

    "เอาเป็นว่า..."

    กระต่ายตากลมตัวน้อยยิ้มหวานพร้อมกับเขย่งปลายเท้าขึ้นไปกดริมฝีปากลงเบาๆที่ข้างแก้มขาวของนักร้องคนเก่งที่ขี้อ้อนดีชะมัด และช่างน่าประหลาดใจที่ทันทีที่เขาผละออก บริเวณตรงนั้นก็แดงเถือกขึ้นมาอย่างน่าชัง

     

    "คยูฮยอนร้องเพราะๆให้คุ้มกับค่าดอกไม้ก็แล้วกันนะ"

     

    ................................................................

     

    ซองมินเบียดตัวหาที่นั่งได้เอาค่อนไปทางริมเวทีไปเสียหน่อย เพราะสู้แรงเด็กผู้หญิงไม่ไหว(ใครจะไปรู้ล่ะว่าชมรมดนตรีก็รวบรวมคนดังของคณะต่างๆทั้งเดือนทั้งดาวทั้งดาราไว้มากพอๆกับพวกชมรมกีฬาเลย) แต่ก็ยังดีที่เขาหาที่นั่งให้ตัวเองได้ล่ะนะ ร่างบอบบางทรุดตัวนั่งลงบนเก้าอี้ว่างที่เขาสามารถหาให้ตัวเองได้ในเวลาอันสั่นพร้อมกับวางช่อดอกไม้ของตนเอาไว้บนตักอย่างทะนุถนอม...ตรงนี้เห็นเวทีชัดเชียวล่ะ ถึงเวทีจะสูงมากไปเสียหน่อยเมื่อเทียบกับระดับเก้าอี้ที่จัดไว้ให้นั่งชมก็เหอะ(ซองมินเข้าใจ คนจัดคงกลัวว่าพวกเดือนคณะทั้งหลายจะโดนดึงลงมาแน่ๆ) แต่เขาก็นั่งห่างออกมามากพอที่จะสบตากับคนบนเวทีได้โดยไม่ต้องแหงนหน้ามากนัก

     

    อ๋าา!...คิดแล้วเขินจัง!

     

    คนเขินใช้สองมือตะปบเข้าที่แก้มแดงๆของตนราวกับอยากจะปิดบังสีแดงก่ำนั่นออกจากสายตาของคนรอบข้าง(ที่ชักจะมองเขาด้วยสายตาแปลกๆเสียแล้วสิ) ซองมินก้มลงมองช่อดอกไม้บนหน้าตักของตนเล็กน้อย แล้วก็ต้องอมยิ้มออกมาจางๆกับตัวเอง...คยูฮยอนบอกให้เขาเอามาให้ตอนร้องเพลงเสร็จด้วย เป็นผู้ชายที่เอาแต่ใจมากจริงๆ...ไม่คิดบ้างรึไงนะว่าเขาก็เขินเป็นเหมือนกันน่ะ!

     

    กระต่ายตากลมนั่งคอยอย่างใจเย็นด้วยหัวใจที่เต้นตึกตักแรงขึ้นเรื่อยๆ...วงแรกร้องจบไปแล้ว วงที่สองก็ร้องจบไปแล้ว คยูฮยอนบอกว่าแสดงเป็นวงที่สามรึเปล่านะ...อ๋าาา!!...วงที่สามจริงๆด้วย! เสียงกรี๊ดดังขึ้นต้อนรับวงดนตรีวงที่สามที่จะขึ้นมาแสดง และที่เดินยิ้มกว้างมาหยุดที่ขาตั้งไมโครโฟนด้านหน้าก็คือพ่อนักร้องประจำมหาลัยคนดังโจวคยูฮยอน ซองมินหน้าแดงวาบขึ้นมาเมื่อดวงตาคมของพ่อนักร้องนำสามารถกวาดมองหาเขาจนเจอ โจวคยูฮยอนคลี่ยิ้ม

     

    "รอกันนานมั้ยครับ"

    เสียงนุ่มทุ้มเอ่ยถามผู้ชมมากหน้าหลายตาที่นั่งดูการแสดงอยู่...แต่ทำไมตาต้องจ้องมาที่เขาคนเดียวด้วยล่ะ! มันเขินนะ! ซองมินก้มหน้างุดไม่ยอมสบตากับคนบนเวที เขาได้ยินอีกฝ่ายหัวเราะคึๆให้กับอาการของเขาก่อนเจ้าตัวจะบอกขอเวลาสักครู่ให้นักดนตรีได้เช็คเครื่อง

     

    "ซองมินอ่าา!!!"

     

    แล้วจะเรียกทำไมเล่าคนบ้า!!

     

    เจ้าของชื่อสะดุ้งเฮือกขึ้นมาสุดตัวก่อนจะรีบก้มหน้าหนีดวงตาวิบวับคู่นั้นของคนบนเวที ดอกไม้ของเขาก็ใช่ว่าจะช่อใหญ่นักหนา มันบังหน้าเขาได้ที่ไหนกันล่ะ! ซองมินรู้สึกเหมือนผิวหน้าของตัวเองกำลังไหม้จนน่ากลัวว่ากลีบดอกไม้ที่สัมผัมโดนมันอยู่อาจจะช้ำเสียไปก็เป็นได้

     

    ทำไมโจวคยูฮยอนถึงชอบหาเรื่องให้เขาเขินนักนะ!

     

    "เพลงนี้ของนายคนเดียวเลยนะ"

     

    "ก็ไม่เห็นจะต้องพูดเลยนี่คนบ้า!"

    ก็ได้แต่งึมงำอยู่กับดอกไม้เท่านั้นล่ะ เพราะตอนนี้ดูเหมือนโจวคยูฮยอนจะทำให้ผู้หญิงทุกคนในงานคลั่งไปเสียแล้ว พวกหล่อนกรี๊ดกันไม่หยุด ถามกันให้ระงมไปหมดว่าซองมินไหนจนน่ากลัวว่าถ้าเขาทำให้พวกหล่อนรู้ว่าเขานี่ล่ะคือซองมินที่ว่า เขาอาจจะไม่มีชีวิตรอดออกไปให้ดอกไม้พ่อนักร้องคนดังตอนจบเพลงก็เป็นได้...อ๋าา!...ถ้างั้นตอนสุดท้ายเขาจะไม่โดนพวกหล่อนขย้ำหรอกหรอ?!

     

    "ฟังกันเลยละกันนะครับ"

     

    맨처음 너를 보던

    เมน ชอ อึม นอ รึล โบ ดอน นัล

    เมื่อวันที่ผมเจอคุณครั้งแรก

     

    수줍기만 하던 너의 맑은 미소도

    ซู จุบ กี มัน ฮา ดอน นอ เอ มัล กึน มี โซ โด

    รอยยิ้มอันสดใสของคุณเต็มไปด้วยความเขินอาย

     

    오늘이 지나면 가까워 질거야

    โอ นึล รี ชี นา มยอน คา กา วอ ชิล กอ ยา

    จากวันนี้ไป เราจะได้ชิดใกล้กันมากขึ้น

     

    매일 설레는 기대를

    เม อิล ซอล เร นึน คี เด รึล เฮ

    ทุกวัน ใจผมเต้นแรงด้วยความหวัง

     

    무슨 말을 건네 볼까

    มู ซึน มัล รึน กอน เน บล กา

    จะพูดอะไรกับคุณดีนะ

     

    어떻게 하면 네가 웃어줄까

    ออก ตอ เค ฮา มยอน เน กา อุซ ซอ จุล กา

    จะทำอย่างไรให้คุณหัวเราะ

     

    손을 건네보다 어색해질까봐

    ซน นึล กอน เน โบ ดา ออ แซก เฮ ชิล กา บวา

    ผมกังวลว่าจะขัดเขินเกินไป ถ้ายื่นมือออกไปจับมือของคุณ

     

    멋쩍은 웃음만 웃어봐

    มอด จอ กึน อุซ ซึม มัน อุซ ซอบวา

    เท่าที่ผมทำได้ก็คือยิ้มอย่างอายๆ เท่านั้น

     

    우리 서로 반말하는 사이가 되기를

    อู รี ซอ โร พัน มัล ฮา นึน ซา อี กา ทเว กี รึล

    หวังว่าจากนี้ไปเราจะพูดจากันอย่างใกล้ชิด

     

    아직 조금 서투르고 어색한데도

    อา จิก โช กึม ซอ ทู รึ โก ออ แซก ฮัน เด โด

    แม้ว่าจะยังไม่ชินและเคอะเขินกันบ้างก็ตาม

     

    고마워요 라는 말투 대신

    โค มา วอ โย รา นึน มัล ทู แท ชิน

    แทนที่จะพูดว่า ขอบคุณ” (แบบเป็นทางการ)

     

    친하게 말을 해줄래

    จม ทอ ชิน ฮา แก มัล รึน เฮ จุล เร

    แค่พูดกับผมในแบบที่ชิดใกล้กันกว่านี้

     

    우리 서로 반말하는 사이가 될거야

    อู รี ซอ โร พัน มัล ฮานึน ซา อี กา ดเวล กอ ยา

    หวังว่าจากนี้ไปเราจะพูดจากันอย่างใกล้ชิด

     

    한걸음씩 천천히 다가와

    ฮัน กอ รึม ชิก ชอน ชอน ฮี ทา กา วา

    ก้าวมาผมช้าๆ ทีละเล็ก ทีละน้อย

     

    이젠 두눈을 바라보며 말을 해줄래

    อี เจน เน ทู นุน นึล พา รา โบ มยอ มัล รึล เอ จุล เร

    มองเข้ามาในสองตาของผม แล้วบอกหน่อยได้ไหม?

     

    사랑해

    นอล ซา รัง เฮ

    ว่า ฉันรักคุณ

     

    너와의 손을 잡던날

    นอ วา เอ ซน นึล จับ ดอน นัล

    เมื่อวันที่ผมจับมือคุณ

     

    심장이 멈춘듯한 기분들에

    ชิม จัง งี มอม ชุน ดึท ฮัน คี บุน ดึล เร

    รู้สึกเหมือนหัวใจของผมจะหยุดเต้น

     

    무슨말 했는지 기억조차 안나

    มู ซึน มัล แฮซ นึน จี คี ออก โจ ชา อัน นา

    ที่ผมพูดออกไป ผมจำอะไรไม่ได้เลย

     

    마냥 설레는 기분인걸

    มา นยัง ซอล เร นึน คี บุน อิน กอล

    จนตอนนี้ผมก็ยังรู้สึกตื่นเต้น

     

    우리 서로 반말하는 사이가 되기를

    อู รี ซอ โร พัน มัล ฮา นึน ซา อี กา ดเว กี รึล

    หวังว่าจากนี้ไปเราจะพูดจากันอย่างใกล้ชิด

     

    아직 조금 서투르고 어색한데도

    อา จิก โช กึม ซอ ทู รึ โก ออ แซก ฮัน เด โด

    แม้ว่าจะยังไม่ชินและเคอะเขินกันบ้างก็ตาม

     

    고마워요 라는 말투 대신

    โค มา วอ โย รา นึน มัล ทู แท ชิน

    แทนที่จะพูดว่า ขอบคุณ” (แบบเป็นทางการ)

     

    친하게 말을 해줄래

    จม ทอ ชิน ฮา เก มัล รึล เฮ จุล เร

    แค่พูดกับผมในแบบที่ชิดใกล้กันกว่านี้

     

    우리 서로 반말하는 사이가 될거야

    อู รี ซอ โร พัน มัล ฮา นึ ซา อี กา ดเวล กอ ยา

    หวังว่าจากนี้ไปเราจะพูดจากันอย่างใกล้ชิด

     

    한걸음씩 천천히 다가와

    ฮัน กอ รึม ชิก ชอน ชอน ฮี ดา กา วา

    ก้าวมาผมช้าๆ ทีละเล็ก ทีละน้อย

     

    이젠 두눈을 바라보며 말을 해줄래

    อี เจน เน ทู นุน นึล พา รา โบ มยอ มัล รึล เฮ จุล เร

    มองเข้ามาในสองตาของผม แล้วบอกหน่อยได้ไหม?

     

    사랑해

    นอล ซา รัง เฮ

    ว่า ฉันรักคุณ

     

    우리 서로 사랑하는 사이가 되기를

    อู รี ซอ โร ซา รัง ฮา นึน ซา อี กา ดเว เก รึล

    หวังว่าเราจะสองคนจะรักกัน

     

    잡은 두손 영원히 놓지 않을꺼야

    จับ บึน ทู ซน ยอง วอน ฮี โน จี อัน นึล กอ ยา

    ผมจะจับมือคุณไว้และไม่มีวันปล่อยสองมือนี้

     

    바라보는 너의 눈빛속에

    พา รา โบ นึน นอ เอ นุน บิด โซ เก

    สายตาของคุณที่มองมาที่ผม

     

    행복한 미소만 있길 바래

    เฮง บก ฮัน มี โซ มัน อิด กิล พา เร

    ผมหวังว่าจะเป็นรอยยิ้มแห่งความสุขเท่านั้น

     

    우리 서로 사랑하는 사이가 될꺼야

    อู รี ซอ โร ซา รัง ฮา นึน ซา อี กา ดเวล กอ ยา

    หวังว่าเราจะสองคนจะรักกัน

     

    아껴주고 편히 기대면

    อา กยอ จู โก พยอน ฮี คี เด มยอน ดเว

    เราจะได้พักพิงและดูแลซึ่งกันและกัน

     

    너를 보는 나의 눈빛이

    นอ รึล โพ นึน นา เอ ทู นุน บิด ชี

    สายตาของผม ที่มองเข้าไปในตาของคุณ

     

    말하고 있어

    มัล ฮา โก อิด ซอ

    มันกำลังบอกว่า

     

    사랑해

    นอล ซา รัง เฮ

    ผมรักคุณ

     

     

    "ซองมินอ่า!"

     

    จะเรียกทำไมอีกล่ะ!...แค่นี้ก็เขินจะแย่อยู่แล้วนะ!

     

    ซองมินช้อนตาขึ้นมองคนเรียกเล็กน้อยเพื่อหยั่งเชิงว่าอีกฝ่ายกำลังอยู่ในอารมณ์ไหน...อ่า...เดาจากน้ำเสียงไม่ผิดจริงๆ โจวคยูฮยอนกำลังยืนกอดอกทำหน้างอนใส่เขาอยู่บนเวที...นี่ไม่อายรึไงนะ! มันมีคนเป็นร้อยมองอยู่นะคนบ้า!

     

    "ดอกไม้ของฉันล่ะ!"

     

    "ดอกไม้?...อ้อ....ดะ...ดอกไม้"

     

    ก็เขินนี่!...ลืมบ้างไม่ได้รึไงล่ะ!

     

    คนตัวบางเก้ๆกังๆลุกขึ้น เดินก้มหน้าก้มตาออกไปด้านหน้าเวทีโดยมีเสียงโห่แซวดังไล่ตามหลังมาเป็นแถว(แต่เขารู้สึกเหมือนกำลังโดนพวกผู้หญิงสาปแช่งง่ะ!) ซองมินก้มหน้างุด หลับหูหลับตายื่นช่อดอกไม้ขึ้นไปให้พ่อนักร้องดังที่ชอบแกล้งให้เขาได้อายอยู่เรื่อยก่อนจะรีบหมุนตัวหันหลังเดินหนีเพื่อไม่ให้ตกเป็นเป้าสายตามากไปกว่านี้ แต่พ่อคนเสียงดีจอมเจ้าเล่ห์และเอาแต่ใจกลับรั้งจับข้อมือของเขาเอาไว้เสียก่อน เขาก็เลยต้องยืนค้างอยู่ตรงนั้นอย่างช่วยไม่ได้ ร่างสูงย่อตัวลงนั่งบนปลายเท้าของตนพร้อมกับก้มหน้าลงมาส่งรอยยิ้มเท่ห์ๆให้เขา และการที่เขาต้องเงยหน้าขึ้นเพื่อสบตาแบบนี้...โจวคยูฮยอนก็ยิ่งดูเหมือนเทพบุตรที่อยู่บนฟ้ามากเข้าไปใหญ่

     

    "เพราะมั้ย"

     

    "อ่ะ...อื้ม"

     

    "คุ้มกับค่าดอกไม้รึเปล่า"

     

    "อ่ะ...อื้ม"

     

    "ซองมินชอบมั้ย"

     

    "อ่ะ...อื้ม!"

     

    "น่ารักจัง...รักกันดีกว่าเนอะ"

     

    แล้วทำไมต้องหอมแก้มกันตรงนี้ด้วยเล่าคนบ้า!!

     

    ................................................................................

     

    "นี่ซองมินจะไม่พูดอะไรเลยหรอ"

     

    "เราชมนายไปแล้วนี่"

    คยูฮยอนหลุดเสียงหัวเราะออกมาเบาๆให้กับคนที่ดูช่างสงบปากสงบคำผิดปกติหลังจากที่เขาลงมาจากเวทีและพาเดินออกมาหาอะไรทาน ซองมินเอาแต่ก้มหน้าก้มตาหลบสายตาของเขา แถมยังแก้มแเดงอยู่ตลอดเวลาอีก ดีหน่อยที่ยังยอมให้เขาจับมือล่ะนะ เขากระชับมือเล็กนิ่มข้างนั้นให้แน่นขึ้นโดยที่มืออีกข้างก็ถือประคองช่อดอกไม้สามดอกของตนเอาไว้อย่างหวงแหน(ขนาดไอ้จุนโฮขอเอาไปปถ่ายรูปด้วยยังไม่ให้อ่ะคิดดู!)

     

    "ชมอีกก็ได้นี่นา ฉันชอบฟังคำชมนะ"

     

    "คนบ้า!"

     

    ก็ยังไม่วายทำตัวน่ารักให้เขารักอีกแน่ะ!

     

    แต่โจวคยูฮยอนก็ยังเป็นโจวคยูฮยอนล่ะนะ เขาก็ยังสามารถสรรหาเรื่องต่างๆมากมายมาคุยไปได้เรื่อยเปื่อยในขณะที่คู่สนทนาของเขากำลังเขินจนใกล้ระเบิดและไม่แม้แต่จะอือออตามคำพูดของเขาด้วยซ้ำ

     

    "ทำไมซองมินถึงชอบฉันล่ะ"

     

    "อ่ะ...เอ๋?"

    กระต่ายตากลมของเขาเงยหน้าขึ้นทำสีหน้าสงสัยใส่เขา แต่พอเขายิ้มให้ก็กลับไปก้มหน้างุดเขินแก้มแดงเหมือนเดิม...ขี้ตื่นเหมือนกระต่ายจริงๆนั่นล่ะ! คยูฮยอนหลุดหัวเราะออกมาให้กับความคิดของตัวเองพลางแกว่งมือที่จับประสานกันอยู่ของพวกเขาไปมาเบาๆ

     

    "เราไม่เคยเจอกันเลยด้วยซ้ำ ซองมินชอบฉันได้ยังไงหรอ"

     

    "เราเคยเจอกันแล้วนะ เราเรียนบัญชีเบื้องต้นคลาสเดียวกันตอนปีหนึ่งยังไงล่ะ"

    คนตัวเล็กเถียงกลับพร้อมกับจ้องหน้าเขาเขม็ง ก่อนเจ้าริมฝีปากเล็กๆแดงๆคู่นั้นจะยู่เข้าหากันเมื่อเห็นว่าเขาไม่มีทีท่าว่าจะจำได้เลยสักนิด...เอางี้ดีกว่า บัญชีเบื้องต้นนี่เขาเอฟรึเปล่ายังไม่ค่อยแน่ใจเท่าไรเลย(แต่เพื่อนบอมคงทำหน้าที่ของตัวเองได้อย่างไม่ขาดตกบกพร่องล่ะนะ เขาคงไม่เอฟหรอก)

     

    "ฉันไม่เห็นจำได้เลย"

     

    "แหงล่ะ...คยูฮยอนเข้ามาคาบแรก แล้วก็ไม่เข้าอีกเลยนี่นา แถมคาบแรกก็แอบออกก่อนเวลาตั้งครึ่งชั่วโมงด้วย"

     

    อืมม...โจวคยูฮยอนช่างขยันเป็นสันดาร(?!)จริงๆ

     

    คยูฮยอนเบ้หน้านิดให้กับเรื่องที่อีกฝ่ายบอกกล่าว แต่ก็เพียงไม่นาน เขาก็หันกลับไปยิ้มกว้างได้อีกเหมือนเดิมจนคนที่ตอนแรกกำลังทำหน้าดุๆเริ่มหน้าเจื่อนลงเหมือนจะรู้ตัวว่ากำลังจะตกเป็นเหยื่อในไม่ช้า

     

    "ถ้างั้น...ซองมินก็ชอบฉันตั้งแต่แรกเห็นเลยงั้นสิ"

    นั่นไงล่ะ! แก้มแดงให้เขาใจสั่นอีกแล้ว ซองมินรีบก้มหน้าหนีสายตาของเขาพร้อมกับส่ายหน้าปฏิเสธข้อกล่าวหาจนผมยุ่ง ริมฝีปากบางแดงจัดถูกฟันขาวงับกัดเบาๆคล้ายเจ้าตัวกำลังคิดว่าควรจะเล่าดีมั้ย...และคยูฮยอนก็มองอากัปรเหล่านั้นอย่างเพลินตาด้วยรอยยิ้มขำขันจางๆบนเรียวปาก

     

    เฮ้ออ...ตกหลุมปีนขึ้นไม่ไหวแล้ว

     

    คนหนุ่มแข็งแรงอย่างเขามาตกหลุมรักตายนี่มันน่าอายมั้ยนะ

     

    (คงไม่หรอก ก็เพื่อนบอมโดนถีบหน้าคว่ำลงไปตายในหลุมแล้วนี่ ส่วนเพื่อนยุนก็กระโดดพุ่งหลาวเอาหัวปักก้นหลุมตายไปแล้วเหมือนกัน)

     

    "ไม่ใช่หรอก...ตอนใกล้จบปีหนึ่งต่างหาก ตอนคยูฮยอนร้องเพลงอยู่บนเวทีในวันงานแนะแนวน่ะ"

     

    "มาแอบดูฉัน?"

     

    "เปล่าสักหน่อย! เราแค่ต้องไปเรียนที่ตึกเศรษฐศาสตร์เท่านั้นเองอ่ะ!"

    กระต่ายตัวน้อยเถียงเขากลับเสียงดัง แก้มเปื้อนสีแดงไปหมดอย่างน่าชังจนคยูฮยอนอดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมาและใช้ดอกไม้เคาะหัวคนที่ช่างอดทนในการให้ดอกไม้เขาเหลือเกินไปเบาๆ

     

    "เชื่อก็ได้ยัยพวกถ้ำมอง"

     

    "เราเปล่านะ!"

     

    น่ารักมากเกินไปจริงๆลีซองมิน!

     

    "ฉันไปเปิดหามาแล้วนะ"

    คนที่จู่ๆก็พูดเปลี่ยนเรื่องไปกระทันหันทำเอาซองมินเปลี่ยนสีหน้าตามไม่ทัน เลยได้แต่เอนคอมองหน้าคนที่บัดนี้เบือนสายตามองตรงไปยังทางเบื้องหน้าพร้อมด้วยรอยยิ้มในแววตาและบนเรียวปากด้วยสายตาไม่เข้าใจ

     

             โจวคยูฮยอนจะสรรหาเรื่องอะไรมาให้เขาได้เขินอีกล่ะ

     

               "ความหมายของดอกไม้น่ะ"

     

    "อ่ะ...เอ๋?"

     

    "ดอกกุหลาบสีชมพูหมายถึงความงดงามและอ่อนโยน การเริ่มรักที่กำลังจะพัฒนาเป็นอะไรที่ลึกซึ้งมากกว่านั้น...เหมือนซองมินเลย!"

     

    นั่นไง!...หาเรื่องทำให้เขินจริงๆด้วย!

     

    "หนึ่งดอก หมายถึง หนึ่งเดียวในใจเท่านั้น"

     

    "อ่า...อืม...หรอ"

     

    "สามดอก แปลว่า ฉันรักคุณ"

    ซองมินคิดว่าแก้มของตัวเองคงกำลังไหม้อยู่แน่ๆ มันถึงได้ร้อนจัดมากขนาดนี้ และยิ่งคยูฮยอนรั้งฝีเท้าเอาไว้พร้อมกับก้าวขึ้นมายืนประจันหน้ากับเขา เลือดในตัวของเขาก็ยิ่งสูบฉีดใหญ่จนน่ากลัวว่าตัวเองจะลมจับไปเสียก่อนที่เจ้าของดวงตาคมๆหวานซึ้งคู่นั้นจะทันได้เอ่ยพูดอะไรออกมามากกว่านี้ คยูฮยอนพาดแขนทั้งสองข้างลงบนไหล่ของเขาพร้อมกับย่อตัวลงนิดเพื่อให้สายตาของพวกเขาอยู่ในระดับเดียวกัน

     

    "นี่หาเรื่องไม่พูดให้ฉันฟังใช่มั้ยลีซองมิน"

     

    มองกันแบบนี้ก็เขินเหมือนกันนะคนบ้า!

     

    "ปะ...เปล่านะ...อ่า...ม่ะ..."

     

    "ฟังฉันดีๆนะลีซองมิน ของดีมีครั้งเดียว"

    ริมฝีปากหยักกดจูบลงเบาๆที่ข้างแก้มอันร้อนฉ่าของเขาก่อนจะลากระเรื่อยไปหยุดดอยู่ที่ริมใบหู ปล่อยลมหายใจรวยรินอยู่ตรงนั้นให้เขาได้ใจสั่นเล่นอยู่ชั่วครู่ก่อนเสียงนุ่มทุ้มที่ทำให้เขาตกหลุมรักของคนที่เขาทำเพียงเฝ้ามองจากที่ห่างไกลมานานมากเหลือเกินจะเอื้อนเอ่ยถ้อยคำสั้นๆออกมา...ช้า ชัด และทำให้หัวใจของเขาสั่นไหวได้มากกว่าคำพูดใดๆทั้งสิ้น

     

    "ลีซองมิน...ฉันรักนายแล้วนะ"

     

    อ๋าาาา!!!....เขินจัง!!

     

    ......................................................

     

     





     

    ต้องขอยอมรับว่า ไม่ได้แต่งฟิคแล้วเขินเองแบบนี้มานานนนนมากแล้ว(น้องรีดเดอร์คงบอก ก็มึงแต่งบ้าอะไรของมึงล่ะ ดาร์คตลอดอ่ะ) เห็นได้ชัดทีเดียวว่าใครลูกรักของไรเตอร์นะ โจวคยูเท่ห์มากเท่าโลกกว้างงงงง ตอนนี้ก็เลยหวานมากกกกกเท่าโลกกว้าง เริ่มเรื่องมาด้วยปลาทองว่าหวานแล้ว(?) ต่อด้วยคยูมินยิ่งหวานกว่าเดิมอีก ซองมินเขินทั้งตอนเลย >< เพลงนี้ก็ไม่ค่อยจะเข้ากับตอนนี้เท่าไรหรอกนะคะ แต่ตอนแต่งไรเตอร์ฟังแต่เพลงนี้ตลอดเลย ก็เลยให้คยูร้องเพลงนี้ซะเลย ตอนแรกจะเอาเพลงของโจวคยูเอง แต่ว่าไอ้เพลงทำอาหารนั่นดันไม่เข้าหนักกว่านี้อีก ก็เลยใช้เพลงนี้แทน มันฟังดูอบอุ๊นอบอุ่นนะไรเตอร์ว่า ตอนนี้แต่งยากเล็กน้อย เพราะช่วงนี้คุณคนเล็กแกโมเอะมากกก โดนใครจัดหนักมาก็มิทราบ ทำไมถึงแบ๊วหนักกว่าทุกทีก็ไม่รู้ ตางี้ใสปิ๊งเชียว แล้วหนูจะไปเท่ห์แข่งกับซองมิน(ที่แมนเอาๆ เหมือนโดนใครครอบงำอยู่?)ได้ยังไงล่ะคะ โปรเจคเอ็มไปจีนทีไร คุณคนเล็กคนดีได้เคะจัดทู๊กกกที มันต้องมีอะไรเกิดขึ้นแน่ๆ

     

    ตอนนี้ก็ถือว่าคู่คยูมินจบแล้วนะคะ เค้ารักกันแล้วเนอะ^^  ตอนต่อไปเดาได้ไม่ยากค่ะว่าเป็นฮันฮยอกแน่ๆ เพราะเชื่อว่าต้องมีหลายคนตบเข่าป๊าดแล้วร้องว่า แกลืมฮยอกแจแล้วลีซองมินนนน ตั้งแต่ซองมินไปนั่งดูคยูแล้วแหงๆ ตามดูกันต่อค่ะว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับคนถูกลืมบ้าง

     

     

    ปล. ถึงจะรักคยู แต่เค้าอยากแต่งงานกับซีวอนง่ะ คนอะไร ประเสริฐเลิศเลอไม่มีใครเกินอ่ะพ่อคู๊ณณณณ



    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×