คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #49 : 41st Mission :: ดีพอแล้ว .. มากเกินพอแล้ว
"อะไรยังไง"
"ก็ชองยุนโฮน่ะสิ! แกก็เห็นนี่ หมอนั่นไปแคสติ้งมาแค่สองอาทิตย์เองนะเว้ย ตอนนี้ฉันเห็นหน้าหมอนั่นไปทุกที่เลย"
"ก็ไม่ยังไง"
ยัยคนสวยจอมหยิ่งไหวไหล่ด้วยท่าทางไม่คิดแคร์ต่อความดังเพียงข้ามคืนของผู้ชายกวนประสาทน่าหมั่นไส้พรรค์นั้น เขามุดหัวเข้าไปในรถเพื่อเอื้อมมือไปหยิบกีต้าร์โปร่งออกมาก่อนจะปิดประตูรถเสียงดัง และเดินนำลิ่วเข้าไปในตึกคณะโดยไม่คิดรอเพื่อนสนิทเสียงหวานเลยสักนิด
"แล้วแกจะเสียใจคิมแจจุง!"
ไม่รู้ว่าทำไมเดี๋ยวนี้คิมจุนซูถึงได้เข้าข้างไอ้ผู้ชายกวนประสาทคนนั้นนักหนา(คงไม่ได้โดนติดสินบนมาหรอกนะ!) เพราะยัยเพื่อนสนิทที่แปรพักตร์หนีเขาไปแล้วตะโกนไล่หลังเขามาแบบนั้นด้วยน้ำเสียงเป็นเดือดเป็นร้อนแทนสุดๆก่อนเจ้าตัวจะก้าวเดินหนีโครมๆจากไป...คงไปหาไอ้ปาร์คนั่นล่ะ โธ่เอ๊ย!...เขาน่าจะฝากกีต้าร์ไปให้ไอ้ปาร์คด้วยซะเลยก็หมดเรื่อง จะได้รีบกลับบ้านสักที แจจุงสบถออกมาเบาๆให้กับความซื่อบื้อของตัวเอง หันไปหาอีกทียัยเพื่อนสนิทตัวร้ายก็เดินหายไปไหนแล้วก็ไม่รู้ สุดท้ายก็จำต้องหยิบโทรศัพท์มือถืออกมาโทรหาเจ้าเพื่อนปากห้อยนั่นที่ชอบหาเรื่องมาเดือดร้อนเขาเรื่อย
"อยู่ไหน"
"โรงอาหารกลาง มาช่วยชมรมอาสาหาทุนอยู่"
"เออ เดี๋ยวเอากีต้าร์ไปให้"
ไอ้ปาร์คเกิดใจบุญใจกุศลอะไรขึ้นมาวันนี้นะ
ทำเหมือนจะอาสาไปสร้างฝายเก็บน้ำกับเค้าด้วยงั้นล่ะ!
คนสวยบ่นพึมพำพลางหมุนตัวเปลี่ยนเส้นทางเดินไปโรงอาหารกลางแทน...แล้วมันก็ไม่ใช่ใกล้ๆเสียด้วยสิ ที่จอดรถแถวนั้นก็ไม่มี...ให้มันได้แบบนี้สิ! นี่มันวันอะไรของคิมแจจุงนะ!
"น่าเบื่อจริงๆเลย"
เขาก็ไม่เข้าใจตัวเองเท่าไรเหมือนกันว่าอะไรกันแน่ที่น่าเบื่อ...การที่เขาต้องเดินไปหาปาร์คยูชอนถึงโรงอาหารกลาง หรือการที่ชองยุนโฮผู้ชายกวนประสาทคนนั้นกำลังดังเปรี้ยงปร้างกันแน่...ไม่รู้สิ!...จะไปรู้ได้ไงล่ะ! แจจุงแค่นเสียงขึ้นจมูกเหมือนจะหมั่นไส้พ่อนายแบบดังที่พอดังปุ๊บก็หายหัวสาปสูญไม่มาให้เห็นหน้าอีกเลย
อย่ามาบอกว่าเขาคิดถึงนะ!
ใครจะไปคิดถึงผู้ชายกวนประสาทพรรค์นั้นกันล่ะ!
"แจจุง!"
นั่นไง...ตายยากตายเย็นจริงๆเชียว
แจจุงแอบทำหน้าเหม็นเบื่อพลางรีบก้มหน้าก้มตาสาวเท้าเดินหนีเจ้าของเสียงเรียกนั่น...ก็รู้อยู่หรอกว่าคงไม่เป็นผล เพราะช่วงขามันต่างกัน(ขนาดวิ่งหนีแล้วยังหนีไม่ทันเลย!) แต่ขอเขาพยายามหน่อยไม่ได้รึไงล่ะ!
"แจจุงครับ!!"
ความพยายามของเขาล้มเหลวภายในเวลาไม่นาน เพราะชองยุนโฮสามารถเดินมาคว้าข้อมือของเขาไว้ได้ทันในเวลาแค่ไม่กี่วินาทีต่อจากนั้น เขาหันไปทำหน้าบึ้งใส่คนด้านหลัง และถึงแม้ว่าเสื้อผ้าหน้าผมและการแต่งตัวจะดูแปลกตาไปสักหน่อยจากครั้งสุดท้ายที่เขาจำได้ แต่ชองยุนโฮคนกวนประสาทก็ยังมีรอยยิ้มกวนประสาทเหมือนเดิมไม่เปลี่ยน
"มีอะไรชองยุนโฮ"
"ผมคิดถึงแจจุงนี่ครับ"
คำพูดของผู้ชายปากหวานทำเอาเขาไปต่อไม่ถูก และเขาก็ไม่รู้ว่าตอนนี้ตัวเองกำลังทำสีหน้าแบบไหนอยู่ด้วย ชองยุนโฮถึงได้หัวเราะออกมาแบบนั้น คนตัวสูงใช้ข้อนิ้วของมือข้างที่ไม่ได้จับรั้งข้อมือของเขาอยู่ลูบแก้มของเขาเบาๆคล้ายอยากจะเพิ่มความอบอุ่นให้ผิวกายของเขาในวันที่อากาศค่อนข้างเย็นวันนี้...และตอนนี้แจจุงก็รู้สึกว่าผิวบริเวณนั้นร้อนฉ่าขึ้นมาเร็วยิ่งกว่าการไปยืนอยู่ใกล้ๆเครื่องทำความร้อนเสียอีก
"แจจุงหน้าแดงทำไมครับ"
"ใครหน้าแดงกันชองยุนโฮ!"
แจจุงปัดมือข้างนั้นออกจากข้างแก้ม สะบัดข้อมือออกจากการเกาะกุมก่อนจะหมุนตัวเดินกลับำปตามทางเดิมของตน แต่คนอย่างชองยุนโฮไม่เคยยอมแพ้ง่ายๆหรอก เขารู้ดี...นั่นไงล่ะ!...พูดไม่ทันจะขาดคำเลย กีต้าร์โปร่งในมือของเขาถูกแย่งไปถือโดยคนตัวสูงที่วิ่งตามมาก่อนมือใหญ่อุ่นๆจะสอดเข้ามาให้เขาได้จับถือเอาไว้แทนกีต้าร์
"จะเอากีต้าร์ไปไหนหรอครับแจจุง"
"ยูชอนจะเอา"
"แล้วยูชอนอยู่ไหนล่ะครับ"
"โรงอาหารกลาง"
ชองยุนโฮส่งเสียงครางรับรู้ออกมาเบาๆ และจากหางตา เขาก็เห็นหมอนั่นทำปากยู่คล้ายจะไม่พอใจกับระยะทางที่ค่อนข้างไกลเท่าไรนัก คนตัวสูงยกนาฬิกาข้อมือขึ้นมาดูเวลานิด ก่อนเจ้าตัวจะเบ้หน้าหนักใหญ่
"ผมต้องไปทำงานแล้วล่ะครับแจจุง"
"ใครห้ามนายไปล่ะ"
"แต่ผมอยากไปส่งแจจุงที่โรงอาหารกลางนี่ครับ"
พ่อนายแบบดังทำปากยู่อย่างจัดใจพลางหันหน้าหันหลังหลุกหลิกเหมือนกำลังมองหาใครสักคนที่เขาเดาว่าคงต้องมารอรับพ่อนายแบบไปทำงานแน่ๆ มือใหญ่ข้างที่จับมือของเขาอยู่บีบกระชับมือของเขาแน่นขึ้นพร้อมกับที่เจ้าของมือข้างนั้นถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่
"ผมอยากไปส่งแจจุงจริงๆนะครับ"
ก็ไม่ได้บอกว่าไม่เชื่อนี่
ยังไม่ทันที่เขาจะได้พูดประโยคนั้นออกไปปลอบใจ(?)คนที่ดูผิดหวังมากเหลือเกินกับตารางงานอันยุ่งเหยิงของตัวเองโทรศัพท์มือถือของชองยุนโฮก็ดังขึ้นมาเสียก่อน
"เดี๋ยวผมไปครับเมเนเจอร์ฮยอง"
นั่นไง...เดาผิดเสียที่ไหนกันล่ะ
ชองยุนโฮคุยโทรศัพท์กับผู้จัดการส่วนตัวอยู่อีกเพียงไม่กี่คำก็วางสายก่อนจะทำคอตกดูหมดอาลัยตายอยากด้วยท่าทางน่าสงสารชะมัด คนตัวสูงครางฮือออกมาพร้อมกับหันมาทำตาปริบปรอยใส่เขา...เหมือนลูกหมาที่จะอ้อนขอความเห็นใจงั้นล่ะ!...และมันก็น่าโมโหชะมัดที่หัวใจของเขาเต้นเป็นจังหวะอันน่ารำคาญทันทีที่เผลอไปสบตาเข้า
ก็บอกแล้วว่าผู้ชายคนนี้น่ะกวนประสาทดีเป็นบ้า!
"ทำไมชองยุนโฮ"
"ก็ผมอยากอยู่กับแจจุงนี่"
"รีบๆไปทำงานเหอะนา"
"ตอนเย็นผมมารับแจจุงได้มั้ย...ไปเที่ยวกันนะ"
แจจุงไม่ตอบอะไรในทันที ใบหน้าหวานใสเบือนหลบไปมองอีกด้านของตนที่ไม่มีคนตัวสูงคอยทำให้หัวใจของเขาสั่นไหวยืนอยู่ก่อนจะถอนหายใจออกมากับตัวเองเบาๆ แจจุงเอี้ยวตัวไปยื้อกีต้าร์ของตนคืนแล้วจึงเร่งฝีเท้าเดินหนีห่างออกมาโดยทิ้งถ้อยคำไว้เพียงแค่...
"ถ้าเกินหกโมง ฉันไม่คอยแล้วนะ"
..................................................
"เป็นอะไร นั่งหน้าบูดเป็นตูดเลย กลัวคนเค้ามาบริจาคเยอะเกินไปรึไง"
ปาร์คยูชอนที่นั่งอยู่บนโต๊ะทานข้าวตัวยาวข้างๆกล่องรับบริจาคโดยมีกีต้าร์โปร่งพาดวางอยู่บนขาก้มหน้าลงมาเอ่ยถามเขาที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ต่ำลงมา แจจุงส่ายหน้ายิกจนผมสีดำสนิทขยับไหวทั้งๆที่ใบหน้าหวานใสนั่นไม่ได้เป็นไปในทางเดียวกับคำตอบเลยสักนิดจนพ่อเพื่อนแสนดีปากห้อย(?)ต้องใช้ขาเขี่ยสะกิดไปเสียหนึ่งที
"ถ้าไม่เป็นอะไรก็มาช่วยฉันร้องเพลงเร็วเข้า"
"ไม่อยากร้อง"
"แล้วแกจะมานั่งเฝ้าฉันทำไม รึว่าหึงยุนโฮจนทำอะไรไม่ถูก?"
"บ้ารึไงปาร์คยูชอน!"
เงยหน้าขึ้นไปแว้ดใส่เพื่อนที่นั่งอยู่สูงกว่าตนเสียงดังก่อนจะสะบัดหน้ากลับไปมองบางอย่างเบื้องหน้าตามเดิม ยูชอนไหวไหล่ให้กับอาการลมเพลมพัดของเพื่อนสนิทคนสวยก่อนจะหันไปกรีดกีต้าร์ร้องเพลงเสียงหวานเรียกสาวๆให้หันมาสนใจบริจาคเงินตามเดิม แต่เสียงของปาร์คปากห้อย(?)ก็ยังไม่สามารถกลบเสียงทีวีในโรงอาหารกลางได้อยู่ดี...โดยเฉพาะเมื่อเสียงที่ดังอยู่ในขณะนี้เป็นเสียงของชองยุนโฮที่กำลังให้สัมภาษณ์รายการทีวีรายการหนึ่งอยู่
แจจุงเม้มปากแน่น ฝืนใบหน้าของตัวเองให้มองตรงอยู่ได้ไม่นานก็ต้องกันไปมองทีวีที่ติดสูงอยู่บนเสาใกล้ๆอีกครั้ง ชองยุนโฮในมีวีซึ่งยังคงแต่งหน้าแต่งตาอยู่ในเสื้อผ้าพร้อมถ่ายแบบถูกดึงตัวออกมาสัมภาษณ์ระหว่างถ่าย ไอ้ผู้ชายกวนประสาทคนนั้นหัวเราะ ยิ้มแย้ม ทำเสียงกวนประสาทใส่กล้อง และแน่ล่ะ...สาวน้อยสาวใหญ่ที่กำลังนั่งทานอาหารอยู่ในโรงอาหารต่างพากันหยุดทานเพื่อเชยชมความหล่อเหลาของหมอนั่นกันแทบทุกคน
แจจุงก็แค่เคยคิดว่ารอยยิ้มและน้ำเสียงแบบนั้นเป็นของเขาคนเดียวเสียอีก!
แค่นึกว่าผู้ชายกวนประสาทคนนั้นทำกับเขาเพียงคนเดียวเสียอีก
เป็นแบบนี้น่ะ...ไม่ชอบเลยจริงๆ!
"เจ้าบ้าเอ๊ย!"
คนสวยที่รู้สึกเหมือนขอบตาของตัวเองกำลังร้อนผ่าวสะบัดหน้ากลับมามองตรงไปเบื้องหน้าอีกครั้ง แต่มันกลับแย่ลงเมื่อกลุ่มผู้หญิงโต๊ะข้างหน้ากำลังหัวเราะคิกคักให้กับใบหน้าของชองยุนโฮในทีวีด้วยท่าทางเขินอาย แจจุงสบถออกมาอีกพลางกดสายตาลงมามองหน้าตักของตนแทนที่ เขาโดนยูชอนใช้ขาสะกิดอีกครั้ง
"ถ้าไม่ชอบก็ไปบอกเขาสิ"
"บอกอะไร"
"ก็บอกว่าไม่ชอบให้เป็นนายแบบไง"
"แล้วทำไมฉันต้องไม่ชอบด้วยล่ะ หมอนั่นจะทำอะไรก็ทำไปสิ ไม่เห็นจะเกี่ยวอะไรกับฉันเลย"
คนสวยปากแข็งตวัดเสียงตอบห้วนๆด้วยท่าทางเหมือนไม่ใส่ใจอะไรมากมายนักพลางยกนาฬิกาข้อมือเรือนหรูราคาเหยียบล้านของตนขึ้นมาดูเวลา และเข็มสั้นที่ยังไม่เข้าใกล้เลขหกเลยสักนิดก็ทำให้เขาต้องแอบเบ้ปากอย่างขัดใจ ท่ามกลางเสียงหนวกหูของสายกีต้าร์ เขาได้ยินยูชอนทำเสียงแค่นขึ้นจมูก
"ปากดีไปเหอะ ถ้าหมอนั่นดังกว่านี้ล่ะก็ อย่าหาว่าฉันไม่เตือนก็แล้วกัน แกได้ร้องไห้ตาปูดแน่คิมแจจุง! ฉันเตือนแกแล้วนะ!"
เออ!...คอยดูไปละกัน!
แจจุงอยากจะพูดคำนี้ตอกใส่หน้าไอ้เพื่อนปากห้อยกลับไปนัก แต่ก็ไม่อยากจะเงยหน้าขึ้นไปสบตากับมันเท่าไร...กลัวว่าไอ้คนช่างสังเกตจะจับได้เอา เพราะแค่นี้คิมแจจุงก็รู้สึกเหมือนตัวเองกำลังจะร้องไห้อยู่แล้ว
"นี่แจจุง..."
"อะไร"
"จะปล่อยให้เป็นแบบนี้หรอ"
"..."
"ฉันไม่อยากเห็นนายเสียใจหรอกนะ"
ท่ามกลางเสียงกีต้าร์หนวกหู ยูชอนกำลังมองมาที่เขาด้วยแววตาที่เขาไม่ชอบใจ แต่นั่นก็ปะไร ในเมื่อเขาเลือกที่จะไม่สบตาเสียอย่าง แจจุงเบือนสยาตาหนีออกไปมองทางอื่นพลางบีบมือที่จับประสานกันอยู่บนตักให้แน่นขึ้น...แล้วทำไมเขาจะต้องเสียใจด้วยล่ะ ไม่เห็นจำเป็นเลย
"ทำอะไรกันอยู่หรอครับ"
เสียงทุ้มโทนเบสคุ้นหูเรียกสายตาของเขาให้ช้อนขึ้นไปมอง และที่ยืนยิ้มอยู่ตรงหน้าเขาก็คือชองยุนโฮผู้ซ่อนใบหน้าของตัวเองอยู่ภายใต้หมวกแก๊ปสีดำใบใหญ่ เรียวปากหยักสวยของพ่อนายแบบดังที่ยังดูวาวๆไปด้วยลิปขยับคลี่รอยยิ้มส่งมาให้เขาพร้อมกับที่เจ้าตัวใช้สองมือจับประคองแก้มของเขาเอาไว้
"ใครทำแจจุงของผมโมโหกันน้าาา"
นายนั่นล่ะ!
แต่แจจุงก็ทำได้แค่ตะโกนอยู่ในใจเท่านั้นล่ะ เขาทำหน้าบึ้งใส่พ่อนายแบบหนุ่มที่ยืนค้ำหัวของเขาอยู่ และมันคงเป็นสีหน้าที่ดูน่าขำในสายตาของชองยุนโฮ เพราะหมอนั่นหัวเราะออกมาเสียยกใหญ่ คนตัวสูงลูบนิ้วโป้งไปมาตามผิวแก้มของเขาเบาๆ
"หรือว่าแจจุงโมโหหิวครับ"
"ชองยุนโฮ!"
"ฮ่าาๆๆ...ชอบเรียกผมแบบนั้นอยู่เรื่อยเลยเชียว ป่ะ..ผมพาแจจุงไปกินอะไรอร่อยๆดีกว่า..อ้ะๆ เกือบลืมแน่ะ"
คนที่เปลี่ยนมาจะฉุดมือของเขาให้ลุกขึ้นชะงักการกระทำของตนไปนิด ชองยุนโฮยิ้มพลางถอดหมวกแก๊ปใบใหญ่ของตนมาสวมให้เขาแทน ใช้สองมอปัดผมของเขาให้เข้าที่ด้วยท่าทางที่ดูน่าขัน แต่เขาก็ได้แต่นั่งทำหน้าบึ้งทนกับสายตาและสีหน้าล้อเลียนของไอ้ปาร์คปากห้อยที่นั่งอยู่ข้างๆที่เดิมนั่นล่ะ
"อ่า...น่ารักแล้ว ไปกันเถอะครับแจจุง"
....................................................
คลองชองเกซอนตอนสองทุ่มกว่าไม่ใช่สิ่งที่แจจุงคาดหวังเลยสักนิด แต่เจ้าคนกวนประสาทคงวางแผนมาแล้วล่ะถึงได้ยิ้มร่าให้กับสายลมและแสงดาวอยู่คนเดียวได้ตั้งนานสองนาน คนที่ซ่อนใบหน้าอยู่ใต้หมวกฮู้ดของเสื้อแขนยาวบีบกระชับมือที่จับประสานกันอยู่ของพวกเขาให้แน่นขึ้นพลางแกว่งมันไปมาเบาๆ
"น้องชางมินเป็นไงบ้างครับ ยังคบกับแฟนอยู่รึเปล่า"
"พากันไปตายที่ไหนแล้วก็ไม่รู้"
อาเสี่ยคนสวยตอบกลับมาเสียงห้วนจนยุนโฮหลุดหัวเราะออกมาเบาๆ เขาปล่อยมือที่เกาะกุมกันอยู่ออกเพื่อเปลี่ยนมาพาดแขนไปกอดคอคนข้างกายแทนที่ แจจุงทำเสียงฮึดฮัดออกมาเบาๆพลางขยับตัวดิ้นขยุกขยิกเหมือนจะไม่ชอบใจ แต่สุดท้ายก็ยังยอมให้เขาเดินกอดคอแบบนี้อยู่ดี
"เลี้ยงผมแทนน้องชางมินละกันนะครับ ปล่อยน้องชางมินไปเถอะ"
"อะไรนะ!"
"นี่ผมยอมเป็ยเด็กเสี่ยเชียวน้าา"
ยุนโฮชะโงกหน้าลงไปยิ้มใส่ตาคนข้างกายที่ทำหน้ามุ่ยใส่เขาไม่เลิกราเสียที เขาเห็นยัยลูกแมวอ้าปากค้างอยู่ชั่วขณะหนึ่งก่อนเจ้าตัวจะทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นด้วยการเสสายตาที่ซ่อนอยู่ใต้เงาของหมวกแก๊ปไปมองคลองแทน เขาได้ยินอีกฝ่ายพึมพำบางอย่าง แต่เงี่ยหูฟังเท่าก็ได้ยินไม่เต็มประโยคเสียที เลยเลิกใส่ใจมันไป(แว่วๆว่าซื่อบื้อกับไม่บอกแล้วอะไรไสักอย่างนั่นล่ะ)
"นายนี่มันซื่อบื้อจริงๆเลยชองยุนโฮ"
"แจจุงก็ทนๆผมหน่อยสิครับ"
ยุนโฮหัวเราะร่าให้กับคำตอบของตัวเองก่อนจะยิ่งหัวเราะออกมาอีกเมื่อได้ยินคนข้างกายแค่นเสียงขึ้นจมูกด้วยท่าทางเหมือนไม่อยากจะเชื่อกับคำตอบของเขา พ่อหนุ่มนายแบบใช้มืออีกข้างเอื้อมไปหนีบจมูกโด่งรั้นของคนน่าหมั่นเขี้ยวอย่างหมั่นไส้
"อย่าน่ารักให้มากนักสิครับแจจุง แบบนี้ผมแย่นาาา"
"ชองยุนโฮ!"
ยัยลูกแมวแว้ดออกมาเสียงดังพร้อมกับยกมือขึ้นมาปัดมือของเขาออกจากจมูกของตัวเองเป็นการใหญ่ด้วยท่าทางที่เหมือนลูกแมวชะมัดจนเขาอดเอามันมาหัวเราะอีกไม่ได้ แจจุงทำเสียงฮึดฮัดใส่เขาก่อนจะนิ่งเงียบไป ปล่อยให้เขาเดินกอดคอไปอย่างนั้นด้วยสีหน้าเหมือนกำลังคิดบางอย่างอยู่
"นี่ชองยุนโฮ..."
"ว่าไงครับ"
"ทำไมต้องไปเป็นนายแบบด้วยล่ะ"
จังหวะการก้าวเดินของเขาสะดุดไปนิดเพราะคำถามนั้น ก่อนเขาจะคลี่รอยยิ้มออกมาจางๆ ใบหน้าของคนสวยที่เดินอยู่ข้างกายซ่อนอยู่ใต้เงาของปีกหมวกแก๊ปเลยทำให้เขาไม่เห็นว่าสีหน้าของอีกฝ่ายนั้นเป็นอย่างไรยามเอ่ยถามประโยคนั้นออกมา ยุนโฮแสร้งถอนหายใจออกมาเสียงดังๆเหมือนหนักใจกับคำถามนั้นนักหนาทั้งๆที่เรียวปากเปื้อนเต็มไปด้วยรอยยิ้ม
"ก็แจจุงรวยออกจะตายไป ผมอยากทำให้ตัวเองดีพอสำหรับแจจุงนี่ครับ"
คนที่เขาอยากจะทำตัวเองให้ดีพอชะงักการก้าวเดินลง มือเล็กข้างที่อยู่ติดกับตัวของเขายึดจับชายเสื้อของเขาเอาไว้พร้อมกับกระตุกเบาๆคล้ายอยากจะเรียกให้สบตา แต่พอเขาหันไปสบตา เจ้าตัวก็ก้มหน้าหนีสายตาของเขาเสียนี่ แจจุงเบทอนสายตาหลบออกไปมองสายน้ำที่พวกเขาเดินเลียบมา
"แต่นายก็ดีพอแล้วนี่"
แก้มใสที่ซ่อนอยู่ใต้เงาของหมวกขึ้นสีระเรื่อจางๆ เขาสังเกตเห็น...แลดูน่ารักน่าชังเสียจนเขาอดที่จะเก็บเอามาอมยิ้มกับตัวเองไม่ได้ ยุนโฮนิ่งฟังถ้อยคำถัดไปอย่างใจเย็น
"ไม่เป็น...นายแบบแล้วได้มั้ย"
นายแบบหนุ่มคนดังไม่ได้เอ่ยอะไรตอบในทันที ชองยุนโฮเพียงแค่ยิ้มและชะโงกหน้าเข้าไปใกล้คนที่หลบตาของเขาไม่เลิก ใช้มือข้างที่กอดคออยู่ดันใบหน้าหวานให้เบือนมาสบตา ริมฝีปากหยักที่เปื้อนไปด้วยรอยยิ้มไปหมดกดจูบลงบนเรียวปากที่หวานมากเหลือเกินเบาๆอย่างอ่อนหวาน...รวดเร็ว แผ่วเบา หากทว่าอ่อนหวานยิ่งกว่าจูบครั้งใดๆของพวกเขา ยุนโฮแสร้งทำสีหน้าครุ่นคิด
"หว้าาา...แบบนั้นแฟนคลับก็เลิกรักผมน่ะสิ แต่ไม่เป็นไร...แจจุงรักผมให้มากๆแทนความรักจากแฟนคลับพวกนั้นละกันนะ ตกลงนะครับ"
"เข็มขัดสีชมพูนี่ของแจจุงหรอครับ"
"ก็ใช่น่ะสิ ฉันใส่ก็ของฉันสิชองยุนโฮ"
"แต่น้องชางมินก็เคยใส่นี่นา"
"ชางมินยืมฉันไปใส่ หมดปัญหาได้รึยังชองยุนโฮ!"
นั่นไงล่ะ!...กูว่าแล้วว่าแม่หมอคีย์แม่งโคตรแม่นอ่ะ!
..............................................................
หลังจากไปสูบความงาม(?)ของคิมแจมาอย่างเต็มที่เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ตอนนี้ก็เลยกลายเป็นยุนแจเพียวๆไปซะงั้น แถมยังดูสั้นๆพิกลอีกต่างหาก ฟิคเราก็เลยมีตอนเพิ่มขึ้นอีกหนึ่งตอนนะ ต้องขอบอกว่าตอนนี้ชองยุนโฮชนะเลิศมว๊ากกกกก(ถึงจะยังไม่รู้ก็ตามว่าแจจุงไม่ใช่เสี่ยของน้องชางมินอ่านะ= =) สำหรับเรื่องนี้ ชองยุนโฮเป็นตัวละครที่ไรเตอร์ชอบที่สุดเลยค่ะ เหมือนจะเคยบอกไปแล้วเนอะ เพราะพ่อหนุ่มแกให้ฟีลแบบหนุ่มป๊อบมากๆอ่ะ .. ชอบบบบบบ!! ส่วนสาวซึน(?)อีกรายของเราในเรื่องก็ยังคงคอนเซปสวยเริ่ดเชิดหยิ่งยันจบเรื่องอ่าเนอะ ไม่เค๊ยไม่เคยจะยิ้มให้พ่อพระเอกดีๆสักทีอ่ะ อารมณ์เสียอยู่ตลอดเวลาเลยจริงๆนั่นล่ะ แต่พ่อหนุ่มยุนก็ปากหวานจริงอะไรจิงอ่ะ^^
ตอนหน้าตอนก่อนสุดท้ายจริงๆแล้วค่ะ เป็ฯฮันฮยอกที่ขาดหายไปค่ะ^^
เจอกันครั้งหน้าจ้า ใครไปเที่ยวสงกรานต์ที่ไหนก็ขอให้เดินทางปลอดภันนะจ้ะ
ปล. ถ้าใครนึกไม่ออกว่าคลองชองเกซอนเป็นยังไง ให้นึกถึงเอ็มวีเพลงS.E.O.U.Lของเอสเจกับเกิร์ลเจนน่ะค่ะ เป็นพาร์ทที่คยู(ที่รัก)บอกรักน้องซอน่ะค่ะ ที่น้องซอแกใส่หัวตุ๊กตากลับด้านแล้วไปเดินแจกลูกโป่งน่ะค่ะ ช๊อตสุดท้ายของเอ็มวีเลย นั่นล่ะค่ะคือคลองชองเกซอน(เป็นอีกครั้งที่ทำให้รู้ว่าใครเป็นลูกรักของไรเตอร์นะ ช่วยกันทำมาหากินตลอดอ่ะ= =)
ปลล. HBD ฮยอกน้อยและเสี่ยเชวย้อนหลังจ้า^^ มีความสุขมากๆ สุขภาพแข็งแรง และสำหรับเสี่ย ขอให้เป็นผู้ชายเพอร์เฟ็คแสนดีแบบนี้ตลอดไปนะคะ
ความคิดเห็น