คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #31 : ไร้หัวใจ 100~%%%%%%%%
ข้อตกลง
เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ไรท์แต่งสด บางทีที่หายไปนานๆไม่ใช่ไม่อยากแต่งนะคะ แต่มันไม่ได้พล๊อตเรื่องจริงๆเลยไม่กล้าอัพ
ต่อไปนี้ไรท์จะมาอัพ ตอนใหม่ๆทุกๆวัน ศุกร์และเสาร์ นะคะ สัญญาๆๆๆๆ
Minhyuk Part
ผมใช้เวลาในการคิดและตัดสินใจอยู่นานพอสมควร เรื่องซองแจกับผู้หญิงคนนั้น ผมไม่อยากจะเชื่อหรอก ว่าอินฮยอนจะเป็นคนพาซองแจหนีไป แต่สิ่งที่ผมได้ยินมามันไม่ผิด
ย้อนไปเมื่อหนึ่งอาทิตย์ก่อนที่ซองแจหนีไป
พวกเราบีทูบีทุกคนเตรียมตัวที่จะไปหาซองแจเหมือนทุกครั้ง พอจอดรถเรียบร้อยพวกเราก็เตรียมจะขึ้นไปบนห้องพักของซองแจ แต่จียงฮยองกับบอกเราว่าจะไปทำธุระเรื่องซองแจ ส่วนอึนกวังก็แยกตัวไปโทรศัพท์ ส่วนน้องๆในวงก็งอแงกันบ่นว่าหิวข้าว เลยแยกกันไปกินอะไร แต่ผมกับเป็นคนที่ไม่หิวแล้วบอกให้พวกนั้นไป ส่วนผมก็แยกตัวขึ้นไปหาซองแจ ผมเคาะประตูสามครั้งเป็นเชิงอนุญาตก่อนจะผลักปรตูเข้ามา แต่สิ่งที่พบนั่นก็คือเตียงนอนสีขาวที่ว่างเปล่า ผมเบิกตาโตด้วยความตกใจก่อนจะวิ่งไปยังจุดเกิดเหตุ สายตาผมเหลือบไปเห็นกุญแจที่ถูกปลดล็อกไว้อย่างดี
“บ้าชิบ!”
ผมสบถคหยาบออกมาเบาๆ พรางกัดฟังกรอดแล้ววิ่งออกไปยังหน้าห้องที่เป็นเคาท์เตอร์ของพยาบาลสาวที่นั่งประจำอยู่
“ขอโทษนะครับ คนไข้ห้องนี้ไปไหนครับ เค้าหายไปได้ยังไง !!”
คำพูดที่เชิงตะหวาดของผมทำให้พยาบาลสะดุ้งโหยงด้วยความตกใจ
“เป็นไปได้ยังไงกันค่ะ เมื่อเช้าฉันยังเข้าไปวัดไข้แล้ว เค้ายังอยู่ อยู่เลยนะ”
“ตอนเช้า! กี่โมง? แล้วครั้งสุดท้ายคุณไปดูเค้าอีกทีตอนไหน”
“เอ่อ..สะ..สัก แปดโมงเช้า แต่ อ๊ะ..ตอนสายๆ ฉันจะเข้าไปเช็ดตัวคนไข้ แต่มีผู้หญิงคนหนึ่งบอกว่ามีพยาบาลมาเช็ดตัวคนไข้แล้วค่ะ”
พยาบาลพูดต่อจนจบ ทำให้ผมเกิดความสงสัยไปอีก
“ผู้หญิง?? ใคร??”
“เอ่อ ทะ เธอ บอกว่า ชื่อ ยูอินฮยอนค่ะ”
อะไรนะ!! ผมสบถในใจพร้อมเบิกตากว้าง ไม่รอให้พยาบาลพูดจบผมก็ติดตอหาผู้หญิงที่เป็นตัวต้นเหตุของเรื่องทั้งหมดทันที
ขอโทษค่ะ ไม่มีสัญญาณตอบรับจากเลขหมายที่ท่านเรียก
“โธ่เว้ยยยยย!! ยูอินฮยอนนน!!”
ตั้งแต่วันเกิดเหตุผมก็พยายามติดต่อทั้งซองแจกับอินฮยอนมาตลอด แต่ก็ไม่มีวี่แวว จนวันนี่ที่ผมตัดสินใจแล้วว่าผมจะเดินทางไปยังปูซาน บ้านของอินฮยอน ถ้าเป็นอย่างที่พยาบาลพูดจริง อินฮยอนต้องเอาตัวซองแจไปไว้ที่บ้านเธอแน่ๆ
ณ สนามบินปูซาน
ผมหันซ้ายหันขวาพอลงมาจากเครื่องได้สักพัก วันนี้ผมก็ไม่ลืมที่จะพลางตัว เพื่อที่ปิดบังไม่ให้ใครจำผมได้ แต่ผมจะไปหาอินฮยอนได้จากไหนกัน ปูซานก็ไม่ใช่เล็กๆนะ มันจะให้เวลาอีกนานแค่ไหนกันกว่าจะเจอ
“เฮ้ออ!”
ผมถอนหายใจเบาๆ ก่อนจะมานั่งตรงที่พักผู้โดยสารเพราะผมไม่รู้จะไปทางไหนดี อย่างน้อยก็ขอให้ผมได้คิดทบทวนสักนิดก่อนดีกว่า
ผมนั่งคิดอะไรไปเรื่อบเปื่อยไม่นาน ก็มีใครบางคนมาสะดุดขาผมแล้วล้มลงไปนอนแอ้งแม้งไม่เป็นท่า
“โอ๊ะ..คุณ”
“นี่นายย!!!! นั่งภาษาอะไรย่ะ ยืดขาออกมาขนาดนี้อ่ะ คนเดินไปเดินมา ต้องคอยหลบขาคุณเนี้ยยยย!!”
หญิงสาวร่างบางพูดพรางท้าวาะเอว ก่อนจะชึ้หนาด่าผมฉอดๆ แต่เดี๋ยวนะนี่ผมเคยเห็นเธอที่ไหนรึป่าวนะ หน้าคุ้นจัง
ใช่แล้ว...
“นานะ”
“...”
“นานะใข่มั้ย??”
“นี่..โรคจิตรึไงย่ะ หรือเป็นสโตร์กเกอร์ นายรู้จักฉันได้ไง”
หญิงสาวร่างบางถามผมอย่างสงสัย เพราะตอนนี้ผมอยู่ในสภาพที่ไม่ว่าใครก็ไม่สามารถจำผมได้ ถ้ามาร์กปิดปากและแว่นตาขนาดใหญ่ รวมทั้งฮู้ดสีดำที่เอามาคลุมหัวอีก ถ้าใครจำผมได้ก็เก่งเกินไปละ
ผมจีบปากเล็กน้อยก่อนจะเปิดฮู้ดออก พร้อมถอดแว่นตากับมาร์กปิดปากออก
“กริ๊ดดดดดดดดดดดดดดดดด!! มินฮยอกกกกกกกกกก!!”
พอผมถอดพร็อบบนใบหน้าออกเท่านั้นแหละ หญิงสาวก็กรีดร้องประหนึ่งว่าจะโดนผมข่มขืน
“ชู้ววววววววว!!!”
ผมวิ่งไปตะครุบปากหญิงสาว เพราะคนไม่น้อยเริ่มมองมาที่ผมพร้อมซุบซิบนินทากัน ผมเลยละมือออกมาจากปากเล็กแล้วเอาฮู้ดคลุมหัวไว้แบบเดิม
“ย่าห์!!!! ฮีมินฮยอกก ฉันนึกว่าแกจะตายไปแล้ว ตั้งแต่เป็นไอดอลอันดับหรนึ่งของเกาหลีก็เงียบหายไปเลยนะ”
นานะพูดจบก่อนจะฟาดผมไปแรงๆที่แขนซ้ายทีนึง
“เธอก็เหมือนกันแหละ..เป็นนางแบบแล้วนี่ ดังแล้วนี่ ไม่ต้องมีเพื่อนก็ได้ใช่มะ”
ผมพูดก่อนจะสะบัดหน้าไปอีกทางอย่างงอนๆเหมือนเด็ก
“อย่างทำปากแบบนั้นนะมินฮยอก เดี๋ยวต่อยปากแตก”
ร่างบางตรงหน้าเตรียมง้างมือจะต่อย แต่ผมกลับจับข้อมือเล็กไว้ทัน
“หึ! แล้วเธอมาทำอะไร ไม่มีการ ไม่มีงานทำรึไง? ช่วงนี้หายไปจากหน้าจอทีวีนะเนี่ย ”
“ เบื่อไง เบื่อนายด้วย ฉันก็เลยหนีมาบริหารโรงพยาบาลของแม่ดีกว่า ”
คนหน้าสวย พูดตอบผมก่อนจะหยิบ เครื่องเล่น mp3 เครื่องเก่าที่ผมจำได้ดี ขึ้นมาฟังเพลง
“ นี่เธอยังเก็บมันไว้อยู่อีกหรอ ??? ”
“ อื้มม เสียดายนะ ไม่อยากทิ้ง ทั้งๆที่เกลียดเจ้าของนะ 5555 ”
แน่นอนผมกับนานะ เคยเป็นแฟนกันสมัยมัธยมปลาย แต่แล้วเราทั้งสองก็เลิกรากันไม่ค่อยจะดีนัก จนไม่คิดว่าเราจะพูดคุยกันได้เหมือนในตอนนี้
“ เธอยังคงไม่ให้อภัยฉันสินะ ”
“ เอ่อช่างเถอะ แล้วนายทำอะไรถึงที่นี่ละ มีคอนเสิร์ตหรอ ??? ”
หญิงสาวโบกมือไปมาเพื่อไม่ให้ผมคิดอะไรมาก โดยที่สายตายังคงจับจ้องไปยังหน้าจอโทรศัพท์มือถือ
“ ป่าวหรอก ฉันมาตามหาคนนะ ”
“ ใครหรอ แฟนหรอ ??? ”
นานะเริ่มให้ความสนใจผมอีกครั้ง ก่อนจะวางโทรศัพท์มือถือในมือลง
“ ปะ ป่าวหรอก ฉันมาตามหา ยุกซองแจนะ ”
“ อ้าววนั้นเรื่องข่าวที่ว่าซองแจหนีออกไปก็เป็นความจริงสินะ !! ”
ร่างบางตกใจ และพูดออกมาอย่างเสียงดัง
“ ชู่ว์!!! เบาๆสิ เดี๋ยวคนอื่นก็รู้กันหมดหรอก ”
ผมรีบเอามือหนาของตัวเองปิดปากยัยนานะ เพื่อไม่ให้พูดเสียงดังออกมาอีกก
“ โอเคๆ เอามือสกปรกของนายออกไปจากฉันได้แล้วมันเค็ม ”
“ โทษที ฉันยังเพิ่งเข้าน้ำมาไม่ได้ล้างมือ ”
“ หยีไอ้มินฮยอก ไอ้คนสกปรก อุ๊แหวะ ว่าแต่มีอะไรให้ฉันช่วยก็บอกละกัน ”
หลังจากร่างบางเช็ดปากตัวเองเสร็จ ก็หยิบยื่นความช่วยเหลือมาให้ผม
“ เอิ่มม ฉันคิดว่ามันเป็นเรื่องตลกนะ แต่ฉันก็ควรจะทำมัน เธอช่วยบอกหน่อยว่าเธอเคยเห็นผู้หญิงสองคนนี้บ้างไหม ??? ”
ผมหยิบรูปในกระเป๋าของตัวเองออกมา มันคือรูปของผู้หญิงน่ารักสองคน ยูอินฮยอนกับปาร์คซังมี
“ แล้วเรื่องซองแจมันไปเกี่ยวอะไรกับ ผู้หญิงน่ารักๆสองคนนี้ด้วยเนี่ย ”
“ เหอะน่า เธอแค่ตอบมาว่าเคยเห็นบ้างไหม ?? แค่นั้น ”
“ ย่าห์ !! คุณมินฮยอกคะ ครอบครัวดิฉัน ทำงานเกี่ยวกับโรงพยาบาลไม่ใช่ นักสืบนะคะ ฉันไม่รู้จักหรอก ”
นานะ ดันรูปในมือของผมออกห่างจากตัว ก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเล่นเกมส์ต่อ
“ ขอร้องละ เธอช่วยดูดีดีอีกครั้งนะ ได้โปรด เธออยู่ที่นี่มานาน น่าจะรู้จักคนเยอะ ”
แน่นอนผมรีบยัดภานใบเดิมใส่มือร่างบางอีกครั้ง
“ ว้าววว เพิง่เคยเห็นนายจริงจังแบบนี้ครั้งแรกนะเนี่ยย เอ่อว่าแต่ เธอชื่ออะไรกันบ้างหรอ ?? สวยดีนะ ดาราใหม่หรือว่า เทรนนี่ ”
“ ป่าวหรอก เธอเป็นเมเนเจอร์พวกฉันเองแหละ คยขวาปาร์คซังมี ส่วนอีกคน ยูอินฮยอน ”
“ โว๊ะ!! เดี๋ยวคิวบ์มีเจ้าหน้าที่น่ารักแบบนี้แล้วหรอเนี่ย อิจฉาจัง เอ๊ะ ฉันคุ้นหน้าคนชื่อปาร์คซังมีจังเลย เหมือนเพิ่งเจอเมื่อวันก่อนที่โรงพยาบาล ”
ผมรีบเบิกตาโตอย่างดีใจเมื่อนานะพูดว่าเธอเคยเห็นปาร์คซังมีเมื่อวันก่อน
“ เดี๋ยวนะฉันขอนึกก่อนว่า ตอนไหน
ฉันชื่อปาร์คซังมี เป็นพี่สาวของคนป่วย
อ๋อออ นึกออกแล้ววววววว เธอพาน้องชายหน้าหล่อของเธอมาหาหมอนี่เอง ”
“ จริงหรอ แล้วเธอค้างหรือว่ากลับบ ”
ผมรู้สึกดีใจเข้าไปใหญ่ เพราะถ้าผมพบซังมี เธออาจช่วยผมตามหาซองแจก็เป็นได้
“ ค้างสิ !! สรุปนายจะเอาไง จะไปดูไหม ?? ”
“ รออะไรอยู่ละ ไปกันเถอะ !! ”
ในที่สุดรถคันงามของนานะ ที่ถูกถูกผมขับมาด้วยความเร็วสูงก็จอดตรงหน้าโรงพยาบาลพอดี
“ โอ้ยยยจะรีบอะไรกันหนักกันหนาเนี่ยพ่อคุ๊นนน สงสารชีวิตฉันบ้าง ”
นานะเริ่มโวยวาย พร้อมกับเปิดประตูลงไป
“ แฮ่ๆ โทดทีมันชินมือไปหน่อย ว่าแต่อยู่ตรงไหนละ ฉันอดใจไม่ไหวแล้ว ”
“ ย่าห์!!! อีมินฮยอก ทำเป็นร้อนรน ทั้งๆที่นายก็ยังไม่แน่ใจว่าใช่ ยุกซองแจหรือป่าว ?? และข้อสำคัญ ห้ามเอะอะโวยวายรบกวนคนป่วยที่นี่เด็ดขาดนะ ”
ติ๊ดดดดๆๆๆๆๆ
หลังจากที่ผมกำลังฟังยัยนานะ บรรยายกฎระเบียบอยู่นั้น เสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้นทันที ซออึนกวังนี่เอง
“ ฉันอยู่โรงพยาบาล คิดว่าน่าจะเจอซํงมีที่นี่ นายตามมาได้เลยที่ โรงพยาบาล ”
[ จริงสินะ ซังมีน่าจะให้ข้อมูลอะไรกับเราได้ หรือไม่ซองแจกับอินฮยอนก็อาจจะอยู่ที่นี้ เดี๋ยวฉันกับทุกคนจะรีบไป ]
“ นายไปถามเคาน์เตอร์เอาละกันนะ คนป่วยชื่อปาร์คซองแจ ฉันขอตัวไปทำงานก่อนนะ ไว้เจอกันละ ”
นานะชี้บอกทาง ก่อนที่เราสองคนจะแยกกันทันที
“ บายครับ ”
ภายในโรงพยาบาลขนาดใหญ่ที่เต็มไปด้วยคนป่วยมากหน้าหลายตา ถึงแม้ว่าผมจะอยากจะเจอเจ้าซองแจมากแค่ไหน แต่ภายในใจลึกๆก็ได้แต่ภาวณาว่าไม่ให้เขาอยู่กับเธอ ภาวณาให้เรื่องทุกอย่างที่ผมฟังมามันไม่ใช่ความจริง เพราะผมคงทำใจไม่ได้ ถ้าเธอเป็นคนผิดตามที่ทุกคนกล่าวหา
“ คุณมินฮยอกคะ ห้อง207 คนไข้ ปาร์คซองแจคะ ”
“ ครับ ขอบคุณมากครับ ”
ผมเอ่ยขอบคุณพนักงานสาวตรงเคาน์เตอร์ ปาร์คซองแจหรอ ??? มันจะใช่อย่างที่ผมคิดหรือป่าว หรือจะเป็นชื่อน้องชายของปาร์คซังมีจริงๆ เอาวะ ถือว่าเสี่ยงละกัน
ผมเดินมาอย่างใจสั่นไหว และหยุดนิ่งตรงห้องที่เขียนว่า 207 อย่างประหม่า ก่อนจะเคาะประตูและเปิดมันเข้าไปทันที
“ ซองแจอา นายกินประสาอะไรของนายเนี่ย เลอะหมดเลยเห็นไหม มานี่เดี๋ยวฉันเช็ดให้ ”
“ ไม่เป็นไรครับนูน่า !! ”
มันไม่จริงใช่ไหม ???? ภาพที่ผมเห็นตอนนี้ ผมกำลังฝันไปใช่ไหม ?? ยูอินฮยอน เธอเป็นคนพาซองแจหนีมาจริงๆหรอ เธอเป็นคนผิดจริงหรอ ??? มือทั้งสองข้างถึงกับอ่อนแรงจนมือถือร่วงลงสู่พื้นเมื่อเห็นในสิ่งที่ผมไม่อยากให้มันเกิดขึ้น
“ ฮยอง !! ”
“ อีมินฮยอกก !!!! ”
ทั้งคู๋ตกใจเมื่อเห็นผมเดินเข้ามา
“ แกคิดว่าแกจะหนีฉันพ้นหรอฮะ ??? ”
ผมเริ่มระเบิดอารมณ์ ก่อนจะเดินเข้าไปหาไอ้ยุกซองแจทันที
พลั่ก !!!!
ผมปล่อยหมัดใส่คนป่วยไปหนึ่งหมัด เพื่อระบายความโกรธ จนยุกซองแจ ล้มลงไป
“ หยุดนะ นายได้โปรดฟังซองแจก่อน”
“ เธอด้วย เธอมันเลวที่สุด ฉันบอกให้เลิกยุ่งกับมันแล้ว แต่สุดท้ายเธอด็พามันหนี หลบไปเดี๋ยวนี้นะ ฉันไม่อยากทำร้ายผู้หญิง !! ”
ผมจัดการผลักยูอินฮยอน ไปอีกด้านนึง จนหน้าผากของเธอไปกระแทกกับขอบโต๊ะ จนเกิดของเหลวสีแดงสดไหลออกมา แต่ผมก็ยังคงจัดการกับไอ้ซองแจต่อ
“ มึงรู้ไหม ว่าพวกกูเดือดร้อนกันแค่ไหน ห่ะ ไอ้น้องเวร ”
ผมกระชากคอเสื้อของยุกซองแจขึ้น พร้อมกับเขย่าร่างของมันไปมา
“ ฮยองอยากจะต่อยผม ตีผมก็เชิญ แต่ฮยองจะทำร้าย อินฮยอนนูน่าไม่ได้ เพราะ ผมเป็นคนหนีมาเอง ไม่เกี่ยวกับเธอ” .
“ หึ !! นี่มึงยังจะปกป้องผู้หญิงคนนั้นอีกใช่ไหม ?? ฮะ ”
พลั้กกก !!!!
ผมยังคงปล่อยหมัดใส่ยุกซองแจไม่ยั้ง ยูอินฮยอนที่มือเต็มไปด้วยเลือดที่หน้าผาก พยายามเดินเข้ามารั้งผมไว้
“ มินฮยอกอา พอเถอะ อย่าทำซองแจเลย ”
“ ฉันบอกแล้วไง ว่าอย่ามายุ่งกับพวกฉัน เธอมันคนน่ารังเกียจ เธอมันตัวปัญหา ออกไปจากชีวิตพวกฉันสะ !!!!!!”
ผมผลักร่างของอินฮยอนออกไปครั้ง พร้อมส่งเสียงตวาด
“ ถ้าฮยองทำร้ายเธออีก ผมจะสู้ฮยองแล้วนะ !!! ”.
“ มึงอย่าดีแต่ปากเลยดีกว่า ไอลูกหมา !!! ”
และแล้วก็เกิดสงครามระหว่างผมกับ ยุกซองแจขึ้นทันที เราทั้งสองผลัดกันรุกและรับ ถึงแม้ว่าซองแจจะเด็กกว่าผม แต่ด้วยร่างที่สูงใหญ่ของเขาก็ทำให้เราสองคนสู้กันได้อยู่สักพัก
“ พวกนายยย หยุดสักที่ได้ม้ายยยยย !!!!! ”
เสียงตวาดของปาร์คซังมีที่เดินเข้ามาทำให้เราสองคน หยุดชะงักทันที มือทั้งสองข้างเธอถือเหยือกน้ำ และจัดการสาดมันใส่ผมและซองแจทันที
“ เลิกกัดกันได้หรือยัง ?? อินฮยอนแกเป็นอะไรหรือไป ทำไมแกเลือดไหลไม่หยุด พวกนายทำอะไรเพื่อนฉันห่ะ ”
ปาร์คซังมีวางสัมภาระทั้งหมดก่อนจะวิ่งกรูเข้าไปพยุงเพื่อนตัวเองขึ้น รวมถึงสมาชิกบีทูบีคนอื่นๆที่เข้ามาพอดี
“ คุณอินฮยอน ครับ คุณโดนจับข้อหาลักพาตัว ขอเชิญตัวไปสถานีตำรวจตอนนี้เลยครับ ”
เจ้าหน้าที่ตำรวจตามเข้ามาพร้อมกับคังมิยอง
“ ห่ะ ?? ”
“ ไม่นะ !!! ”
ทุกคนในห้องต่างพากันตกใจ ที่จู่ๆอินฮยอน ถูกนำตัวไปโรงพัก
“ พวกฮยองทำอะไรลงไปห่ะ ?? อินฮยองนูน่าไม่ได้ลักพาตัวผมมานะ พวกฮยองเป็นบ้ากันไปแล้วหรอ ปล่อยดิวะ ”
ยุกซองแจ สลัดผมออก ก่อนจะรีบวิ่งบังยูอินฮยอนไว้ทันที
“ คังมิยอง คุณแจ้งตำรวจหรอ ??? ”
ผมเอ่ยถามหญิงสาวที่กำลังยืนยิ้มอย่างพอใจอยู่
“ ป่าวนะคะ ”
“ ผมได้รับสายจากท่านประธานยุกยองฮวาครับ ซึ่งท่านได้แจ้งความไว้ตั้งแต่เมื่อวานแล้วพวกผมก็แค่ให้คุณคังมิยองนำทางมาเท่านั้นเองครับ ”
ตำรวจนายหนึ่งตอบขึ้นมา
“ คุณตำรวจครับ ผมว่า ท่านประธานคงเข้าใจผิดนะครับ เราไม่เอาความจะได้ไหม ?? ”
อีชางซอบเอ่ยถามขึ้น ด้วยน้ำเสียงอ้อนวอน
“ ผมเกรงว่าจะไม่ได้นะครับ คนจะยอมความได้ต้องเป็นคนแจ้งความเท่านั้นนะครับ ”
“ แต่ก็ไม่มีหลักฐานนิครับที่ อินฮยอนนูน่าเป็นคนผิด ”
พีเนียลพูดเสริมทัพ
“ ก็ฉันไงคะ พยายาน และการที่ซองแจอยู่กับยูอินฮยอนที่นี่มันก็คือหลักฐานไงคะ ”
แต่แล้วก็ถูกคังมิยองแย้งมาจนได้ ผู้หญิงคนนี้ช่างน่ากลัวจริงๆ เธอช่างร้ายกาจกว่าที่ผมคิดไว้
“ ย่าห์!! คังมิยอง เธอพูดอะไรของเธอ ตามโอปป้า มาเดี๋ยวนี้นะ ”
ซออึนกวังที่ยืนฟังอยู่นาน ทนไม่ได้จนรีบลากร่างบางออกไปด้านนอกทันที
.” ขอโทษด้วยนะครับ ผมมีความจำเป็นต้องพาคุณยูอินฮยอนไปตอนนี้เลยครับ ”
ตำรวจนายหนึ่งพูดพร้อมกับเดินเข้าไปหายูอินฮยอนทันที
“ ไม่นะครับ !! ผมเป็นคนผิด ผมหนีมาเอง ดังนั้นเอาตัวผมไปเถอะนะครับ คุณตำรวจ ”
ยุกซองแจพยายามปรามไม่ให้ตำรวจเข้าไปหายูอินฮยอน
“ ฉันเองคะ ฉันปาร์คซังมี เป็นสาเหตุที่ทำให้เขามาที่นี่ เขาตามฉันมาเอง จับฉันเลย จับฉัน ”
ปาร์คซังมีอีกคนเธอพยายามจะเบี่ยงอินฮยอนไปอีกด้านและเอาตัวเธอเองไปหาตำรวจ
“ คุณตำรวจครับ เราจะไม่เอาความเลยไม่ได้หรอครับ เจ้าตัวก็สารภาพแล้วว่าหนีมาเอง ”
อิมฮยอนซิกพยายามต่อรองอีกครั้ง แต่เหมือนว่าจะไม่เป็นผล
“ พวกนายพอกันเสียที !!! คุณตำรวจคะ ฉันพร้อมแล้วคะ ”
ยูอินฮยอนที่ดูเหตุการณ์มานาน เอ่ยขึ้น ก่อนจะเดินมาหาตำรวจทันที มือคู่สวยทั้งสองถูกล็อคด้วยกุญแจมือ ดวงตาทั้งคู่เอ่อนองไปด้วยความโศกเศร้าหันมามองที่ผม มันยิ่งทำให้ผมเจ็บปวดราวกับหัวใจแทบจะขาดออกมา
“ โชคดีนะ ฉันจะไม่เข้าไปยุ่งกับชีวิตพวกนายอีก ฉันสัญญา ”
ประโยคสุดท้าย พร้อมน้ำตาที่ไหลอาบลงบนแก้มเธอนั้น กำลังบาดลึกขั้วหัวใจของผม ก่อนที่เธอจะถูกนำตัวไปสถานีตำรวจทันที
“ สะใจฮยองหรือยังวะ !!! ฮะ ”
“ เห้ยย ซองแจใจเย็นก่อนนะ !!”
ทุกคนช่วยกันรั้งซองแจที่กำลังจะเอาเรื่องผมที่กำลังยืนนิ่งทำอะไรไม่ถูกอยู่ตอนนี้
“ เอ่อ.. คือ..ฉัน ”
“ เอาไงต่อดีครับฮยอง ”
พีเนียลถามผมขึ้น พร้อมกับคนอื่นที่กำลังสับสนมึนงง
“ พวกนายกลับไปโซลวันนี้เลยละกัน เดี๋ยวฉันจะตามไปบอกลุงจางกับพี่จียงไม่ต้องเป็นห่วง ”
“ ผมจะไม่กลับไปกับฮยองแน่นอน ต่อให้ฮยองจะลากผมกลับไป ผมก็จะหนีออกมาอีก จำไว้ !!!! ”
ยุกซองแจที่กำลังโมโหรีบปฏิเสธทันที
“ ย่าห์ !!!! ยุกซองแจนายใจเย็นๆก่อนสิ !! ”
ปาร์คซังมีพยายามปราม และรั้งเขาไว้ไม่ให้ตรงเข้ามาทำร้ายผม
“ ฟังฉันนะ ไอ้เด็กโง่ ทางเดียวที่จะช่วยอินฮยอนได้ก็คือ แกต้องไปบอกให้ลุงแก ถอนแจ้งความสะ !!!! ปาร์คซังมี ฉันขอคุยอะไรกับเธอหน่อย ตามฉันมา ”
หลังจากที่บอกวิธีให้กับซองแจเสร็จผมก็เดินออกด้านนอกพร้อมกับ ซังมีทันที ซึ่งซออึนกวัง กับ คังมิยองก็ขอตัวกลับกันไปก่อน
“ นายมีอะไรก็ว่ามา ฉันไม่อยากคุยกับคนที่ขึ้นชื่อว่าทำร้ายเพื่อนฉัน ”
“ ฉันอยากให้เธอกลับ โซลไปกับซองแจตอนนี้ เพราะฉันกลัวว่าเขาจะหนีไปอีก และที่สำคัญ พยายามให้เขาอยู่ห่างจากคังมิยองไว้ ผู้หญิงคนนี้ อันตรายกว่าที่พวกเราคิด ซึ่งฉันรู้ว่าเธอก็เคยสัมผัสมาแล้ว ”
“ นายรู้ ?? ”
“ ใช่ ฉันรู้ ฉันกำลังสืบอยู่ว่าคังมิยองมีจุดประสงค์อะไรกันแน่ ส่วนเรื่องอินฮยอนเธอไม่ต้องเป็นห่วง ฉันจะดูแลเพื่อนเธอเอง และที่สำคัญ โทรบอกครอบครัวเธอและอินฮยอนให้เรียบร้อยด้วย เก็บเรื่องนี้เป็นความลับไว้ ระหว่างเราสองคนนะ !! ”
ผมบอกแผนการทั้งหมดให้กับปาร์คซังมีฟัง ซึ่งเธอก็ตกลง ถึงเวลาแล้วที่เราจะได้รู้จริงๆว่าความวุ่นวายทั้งหมดมันเกิดขึ้นจากใครกันแน่
End Minhyuk part ……………
CRY .q
ความคิดเห็น