ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [End] เมื่อสิ้นกำแพงชิน่า - Attack on Titan [Yuri] [Mikannie]

    ลำดับตอนที่ #28 : ตอนที่ 24 มนุษย์นั้นอ่อนแอ

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 2.17K
      55
      19 พ.ค. 57

    ตอนที่ 24 มนุษย์นั้นอ่อนแอ

    ชื่อของฉัน...คือคริชา เยเกอร์ ชีวิตของฉันคือการค้นหาความจริงของไททัน แทบจะตลอดทั้งชีวิต ฉันทดลองอยู่กับมัน...เด็กที่ฉันเก็บมาเลี้ยง ในทีแรก พวกเราแค่รับเขามาเลี้ยงเพราะเราไม่สามารถมีลูกได้ แต่ฉันกลับค้นพบบางสิ่งบางอย่างที่ผิดแปลกไป ...เอเลน ไม่ใช่คนในกำแพง เขาไม่ใช่พวกของเรา เขาเป็น...ไททัน

    ในทีแรกฉันเป็นแค่หมอ ทุกคนเรียกฉันว่าด็อกเตอร์คริชา ฉันรักษาพวกเขาจากโรคร้ายที่ระบาดไปทั่วในกำแพง ฉันบังเอิญพบเจอวัคซีนที่ใช้รักษา ใครจะนึก...วัคซีนตัวนั้นฉันได้มาจากเอเลน เขาป่วยเป็นโรคนี้ เรานึกว่าจะเสียเขาไปแล้ว แต่เขากลับหายดีภายในวันต่อมา ฉันจึงเอาเลือดของเขามาสร้างวัคซีน มันรักษาได้ผลจริง ฉันคิดว่ามันเป็นปาฏิหาริย์ที่พระเจ้ามอบมาให้ เป็นพรวิเศษที่จะพามนุษย์อย่างพวกเราหลุดพ้นจากโรคร้ายทั้งหลาย

    ทว่าพระเจ้าก็ส่งปีศาจร้ายมาพร้อมกับพรวิเศษ ในวันหนึ่งฉันพาเอเลนไปเยี่ยมครอบครัวแอคเคอร์แมน ทว่าสิ่งที่เราเจอคือซากศพของพวกเขา มิคาสะหายตัวไป ขณะที่คนอื่นไม่มีใครรอด ฉันไปตามทหาร สั่งให้เอเลนรอ แต่เขาไม่ยอมทำตาม พอฉันกลับมา เขาฆ่าโจรสองคนด้วยตัวเขาเอง มิคาสะฆ่าโจรไปอีกคน แล้วยังสิ่งที่เอเลนพูดกับฉันอีก

    “ผมก็แค่อยากกำจัดสัตว์เดรัจฉาน พวกมันก็แค่สัตว์ที่เกิดมาหน้าตาคล้ายมนุษย์!

    “เอเลน!

    ฉัน...คิดว่าเรื่องมันจะจบลงเพียงแค่นั้น แต่ว่า...อีกเดือนหนึ่งต่อมา เราไปดูแลคนป่วยแถวหุบเขา ครั้งนี้มิคาสะไปกับเราด้วย มีหมู่บ้านแห่งหนึ่งอยู่ลึกไปในป่ารก พวกเราเดินทางไปตามปกติ แต่ฉันกลับพาพวกเขาเลี้ยวทางผิด ไม่นานเราก็หลงป่าที่ขึ้นชื่อว่ามีสัตว์ดุร้ายอยู่มากที่สุด แล้วเราก็ต้องเผชิญหน้ากับฝูงหมาป่า ม้าที่เราขี่มาตื่นกลัว ตัวหนึ่งปล่อยมิคาสะตกลงไปบนพื้นดินและหมาป่าพวกนั้นก็พุ่งเข้าใส่

    ตอนนั้นแหละที่ฉันค้นพบตัวตนที่แท้จริงของเอเลน เขาแปลงร่างเป็นไททันสูง 15 เมตรและไล่กวดฝูงหมาป่ากลับไป มิคาสะสลบอยู่จึงไม่ได้เห็นเหตุการณ์เหล่านั้น มีแค่ฉัน... ฉันหนี! ขี่ม้าหนีสุดชีวิต หนีไปจนกระทั่งพบหมู่บ้าน ฉันร้องเตือนพวกเขาเหมือนคนบ้า แต่ไม่มีไททันตามหลังฉันมา มีแค่เอเลนในร่างมนุษย์และมิคาสะบนหลังม้า

    “เธอเป็นใครกันแน่ เอเลน” ฉันลองเปิดใจคุยกับเขาหลังจากหายบ้า บางทีฉันอาจจะฝันกลางวันระหว่างหลงป่า ไม่มีอะไรมากกว่านั้น เอเลนเลือกที่จะตอบฉันแบบนั้นก็ได้ แต่เขาก็พูดเปิดอกกับฉันเช่นกัน

    “เราคือชาวลาสวู้ด พลเมืองของยูมิล” เอเลนตอบ “เราอาศัยอยู่นอกกำแพง”

    “เป็นไปไม่ได้ ฮะๆ มันเป็นไปไม่ได้” ฉันพูดกับตัวเองเหมือนคนบ้า “ฉันกำลังคุยอยู่กับไททัน”

    “ขอโทษด้วยที่ทำให้ตกใจ แต่ตอนนั้นมันจำเป็น” เอเลนบอก “ขอโทษที่ปิดบังครับ”

    “ไม่ไหวแล้วๆ เธอต้องออกไปจากกำแพงนี้ พวกเราอยู่ดีมีความสุขมาตลอดโดยไม่มีพวกไททัน” ฉันตวาดด้วยความหวาดกลัว “เธอต้องออกไปเอเลน ออกไปจากโลกในกำแพง ขอร้องล่ะ ปล่อยให้พวกเราอยู่อย่างสงบต่อไปเถอะ”

    “ไม่ได้หรอกพ่อ”

    “อย่ามาเรียกฉันว่าพ่อ!!” ฉันตวาด

    “ครับด็อกเตอร์ แต่ผมไปไม่ได้... สงครามกำลังจะมา” เอเลนบอก “หายนะกำลังมาเยือนโลกในกำแพง”

    “เธอจะไปรู้ได้ยังไง เราปลอดภัยในกำแพงมากว่าร้อยปีแล้ว!” ฉันไม่เชื่อ

    “ผมเห็นครับ อนาคต...ในความฝัน...สิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้น ชาวลาสวู้ดบางคนมีความสามารถในการมองเห็นคำทำนายในความฝัน” เอเลนตอบ มันเป็นเรื่องเหลือเชื่อเกินไป เพ้อฝันเสียเหลือเกิน

    “ใช่ หายนะตัวเป็นๆยืนอยู่ตรงหน้าฉันเนี่ย! แล้วฉันยังจะยืนคุยกับมันอีก”

    “ด็อกเตอร์ คุณยังไม่รู้ความจริงของโลกนี้ ชาวลาสวู้ดไม่ใช่ศัตรู แต่เป็นเผ่านักรบ” เอเลนพยายามจะอธิบายต่อไป “คอเตชตื่นจากจำศีลแล้ว พวกเราถูกส่งมาเพื่อช่วยโลกในกำแพง”

    “คอเตช? ตัวบ้าอะไรอีกล่ะ ไม่ๆๆๆ! ฉันไม่อยากฟังอีกแล้ว อย่ามาพูดกับฉัน อย่ามาให้ฉันเห็นหน้าอีกเข้าใจไหม! ไปให้พ้นๆ ไสหัวไปไอ้ปีศาจ!” ฉันตวาดแล้วตวาดอีกจนมิคาสะตื่นมาห้ามฉันไว้

    “ครับ...พ่อ” เอเลนก้มหน้าซึมแล้วหนีไป

    “ไม่ๆๆๆ ฉันทำอะไรอยู่เนี่ย” ฉันพูดคนเดียว ส่วนมิคาสะวิ่งไปตามเอเลน “ให้มันกลับเข้าเมืองไม่ได้ ไททันนั่น...จะให้ลากเอาหายนะมาในกำแพงไม่ได้เด็ดขาด”

    ฉันเป็นหมอ ฉันรักษาคนไข้มาหลายแบบแล้ว รวมไปถึงคนไข้ที่มีอาการจิตไม่ปกติ ฉันใช้วิธีให้ยาฉีดเข้ากระแสเลือดแถวต้นคอเพื่อลบความทรงจำ ฉันคว้าของที่จำเป็น แล้ววิ่งตามทั้งสองคนนั้นไป

    “คุณลุง? จะทำอะไรคะ” มิคาสะถาม

    “ขอโทษนะมิคาสะ ตอนนี้เอเลนป่วย ต้องรีบรักษา เธอช่วยกลับไปเตรียมเตียงไว้ให้เอเลนที่หมู่บ้านทีนะ” ฉันบอก มิคาสะวิ่งไปโดยไม่ถาม ฉันก็วิ่งตามเอเลนไป เขาหันมา แต่ฉันจับตัวเขาได้ก่อน

    “ ..พ..พ่อ?! ทำอะไรน่ะ”

    “ขอโทษนะเอเลน แต่มันจำเป็น” ฉันฉีดยาใส่ท้ายทอยของเอเลน ยาไม่ได้ออกฤทธิ์เร็วนัก แต่เอเลนก็เซและสลึมสลือเหมือนจะหลับ เป็นอาการเริ่มต้นหลังได้รับยา ฉันอุ้มเขากลับไปที่หมู่บ้าน และวางเขาบนเตียงที่มิคาสะเตรียมไว้

    “เอเลนเป็นยังไงบ้างคะ”

    “ได้ยาไปแล้ว อีกเดี๋ยวคงหลับไป แต่ตอนตื่นขึ้นมาเขาจะมีปัญหาเรื่องความจำนิดหน่อยนะ มิคาสะก็ช่วยดูแลเอเลนด้วยนะ” ฉันพูด ทั้งๆที่ตอนนั้นกลัวแทบแย่ว่ายาจะไม่ได้ผลแล้วเอเลนเกิดโกรธขึ้นมา

    “เหรอคะ...ได้ค่ะ หนูจะดูแลเขาเอง” มิคาสะตอบแล้วหันไปพูดกับเอเลน “แล้วเจอกันนะ เอเลน”

     

    “เป็นยังไงบ้าง” ฉันถามเมื่อเอเลนตื่น ตอนนี้มิคาสะออกไปซื้อของในตลาด

    “??” เอเลนมองฉัน “คุณเป็นใคร”

    “ฉันเป็นพ่อของเธอไง เอเลน จำพ่อไม่ได้เหรอ” โล่งอกเหลือเกินที่เขาจำไม่ได้...ว่าตัวเองเป็นตัวอะไร ทีนี้โลกในกำแพงก็จะปลอดภัยเสียที “อ้า สงสัยเพราะตอนตกม้าแน่ๆเลย หัวลูกคงไปฟาดกับพื้นเข้า”

    น่าแปลกที่เอเลนปรับตัวได้อย่างรวดเร็ว เขาทำใจเชื่อได้ทันทีว่าเขาเกิดมาโดยมีฉันเป็นพ่อแท้ๆและเขาคือมนุษย์จริงๆ ฉันเริ่มวิจัยเกี่ยวกับไททันอย่างลับๆตั้งแต่นั้นมา ฉันรับเลี้ยงเด็กคนหนึ่งชื่อมาร์คัส เขาช่วยงานฉันทุกอย่างและเก็บทุกอย่างเป็นความลับ รวมถึงตัวเขาเองด้วย ...ในห้องใต้ดิน เขาหลบอยู่ในนั้นและเข้าออกไปนอกกำแพงด้วยอุโมงค์ที่เขาพยายามขุดแรมปี แต่แล้ววันหนึ่งเอเลนก็เรียกฉันไปคุยด้วย พวกเราไปคุยกันที่ชายป่าเพราะเอเลนกับมิคาสะต้องไปเก็บฟืน ฉันพกยาลบความจำไว้ตลอด เพราะยานี้ทำงานได้จำกัดแค่ประมาณสามปี นี่ก็ใกล้ถึงกำหนดแล้ว

    “พ่อครับ ผมรู้ว่ามันอาจจะฟังดูแปลกๆ แต่ว่า... ” เอเลนเกริ่น “ผมฝันอะไรบางอย่างที่เหมือนกันทุกคืน มันเป็นความฝัน...เกี่ยวกับกำแพง ผมฝันว่ามีไททันสีแดงทำลายกำแพง แล้วก็มีไททันตัวนึง...มัน...มันจับแม่กิน”

    ฉันกลับนึกอะไรออกมาได้ในตอนนั้น เอเลนเคยบอกเอาไว้ ว่าเขาฝันเห็นอนาคตได้ สิ่งที่กำลังจะเกิด ลางบอกเหตุในความฝัน และหายนะที่เอเลนพยายามจะเตือนพวกเราตั้งแต่แรก ฉันให้ยากับเอเลนอีกครั้ง ไม่มากจนลบความทรงจำทั้งหมด แต่อย่างน้อยก็หวังว่ามันจะลบความทรงจำพวกนั้นไปได้ ฉันรีบกลับบ้านเหมือนไม่ได้ออกไปไหนตั้งแต่แรก หลังจากนั้นเอเลนกับมิคาสะก็กลับมา อยู่ๆมิคาสะก็บอกว่าเอเลนอยากเป็นทหารทีมสำรวจ เขาอยากออกไปนอกกำแพง ใครจะห้ามเขาได้กันล่ะ ...ในเมื่อตัวตนจริงๆของเขานั้นเคยมีชีวิตโลดแล่นเสรีอยู่ข้างนอกนั้น

    “เอเลน หลังจากที่พ่อกลับมา พ่อจะเปิดห้องใต้ดินที่เก็บเป็นความลับให้ลูกเห็น” ฉันบอก

    ใครจะนึกล่ะ ว่าวันนั้นมันจะไม่มีวันมาถึง ไททันสีแดงในฝันของเอเลน...มันมาจริงๆ ภายในวันนั้นเอง กำแพงมาเรียก็แตก มนุษย์ถูกไล่ล่าและจับกิน พื้นที่ 1 ใน 3 ถูกยึดไปแล้วและต้องเสียประชากรไปกว่า 20 เปอร์เซ็นต์ ฉันหลบอยู่ในกำแพงชั้นในเหมือนๆกับคนอื่น โทษตัวเองที่ไม่ยอมรับความช่วยเหลือจากเอเลนตั้งแต่แรก คงเพราะมนุษย์นั้นอ่อนแอจึงพยายามปกป้องตัวเองจากสิ่งที่หวาดกลัว จนไม่ได้สนใจว่ามีอันตรายยิ่งกว่านั้นดักรออยู่

    ฉันยอมแพ้ การวิจัยเกี่ยวกับไททันทั้งหมดอยู่ในห้องใต้ดินที่บ้านเดิม ไม่มีทางที่จะเดินทางไปที่นั่นได้โดยไม่ถูกกิน บางทีฉันอาจจะยอมแพ้เร็วเกินไป เพราะไม่นานนัก มาร์คัสก็หาฉันจนพบ เขาเดินทางมาจากห้องใต้ดินที่ซ่อนตัวอยู่จากอุโมงค์ลับ เดินทางขี่ม้าตอนกลางคืนโดยไม่พัก เขาก็หนีมาถึงกำแพงก่อนเช้าได้ เขาแอบเข้ามาในประตูตอนที่ทีมสำรวจควบม้าออกไป นั่นคือจุดเริ่มต้นของการวิจัยของจริง ฉันและมาร์คัสกลับไปยังห้องใต้ดิน เวลากลางวันเรากลบกลิ่นของมนุษย์ด้วยขี้วัวขี้ม้าที่เลี้ยงเพื่อเอาชีวิตรอด ถ้าไม่โผล่ไปให้ไททันเห็น มันก็แยกกลิ่นเราไม่ออก

    แต่แล้ววันหนึ่งไททันวิปริตตัวหนึ่งก็เห็นเรา แม้ว่าเราจะซ่อนตัวในรถม้า มันไม่มีทางได้กลิ่นเรา แต่มันกลับรู้ว่ารถม้าที่วิ่งได้ต้องมีคนขับ เป็นหลักการใช้เหตุผลที่ไม่เคยเจอ มันไม่กินเรา แต่เอาตัวเราไปและทำลายห้องใต้ดินทิ้งทั้งหมด ชื่อของมัน...คืออัสลาน และมันเอาตัวเราไปหาคอเตช

    ใช่ ไอ้ตัวที่เอเลนเตือนแล้วเตือนอีกว่ามันอันตราย ไม่อยากเชื่อว่าจะได้เจอโดยที่ยังไม่กลายเป็นอาหารไททัน ฉันประจบเขาเต็มที่ ไม่แน่เขาอาจจะโง่พอให้หลอก แล้วก็โง่จริงๆ ไม่อยากเชื่อว่าคนแบบนี้จะมาเป็นผู้นำได้ แต่ฉันก็เจอก้างขวางคอเข้า นั่นคือควอร์ตไซต์หรือเรียกติดปากว่าเอ็ป เขาเป็นอัจฉริยะ ถึงอย่างนั้นก็ยังเชื่อสนิทใจว่าฉันรับใช้คอเตช เขาดูไม่ชอบฉันเลยเมื่อคอเตชสั่งให้ฉันสร้างนักรบไททันจากมนุษย์ธรรมดาให้ได้ เห็นได้ชัดว่าเขาคิดว่าเอเลนคือผลงานของฉัน ตอนนั้นเองที่พวกเราได้รู้ประวัติศาสตร์ของไททัน ความผิดร้ายแรงที่เอ็ปเป็นคนก่อ

    “นั่นสินะ ก็คงแค่ปล่อยไว้จนแน่ใจว่าสิ่งที่นายคิดค้นน่ะมันล้มเหลว” อีกฝ่ายโยนเชือกยาวเส้นหนึ่งให้ “เชือกมี เก้าอี้มี คานก็มี ผมก็อยากรู้เหลือเกินว่าคุณจะยังอยู่ทนความผิดพลาดต่อไปอีกนานแค่ไหน”

    เอ็ปพยายามจะให้ฉันฆ่าตัวตายเพราะเห็นฉํนทำผิดพลาด

    ฉันไม่เดินตามรอยแกหรอก ไททันจะต้องหายไปจากโลกนี้

    มาร์คัสช่วยฉันตามเก็บร่างของเอเลนกลับมา ถ้าเขาคือไททันของจริง บางทีถ้ามีโอกาสสักหนึ่งในล้านอาจจะชุบชีวิตเขาขึ้นมาใหม่ได้ คอเตชดูจะชอบผลงานรอบนี้มาก แต่สิ่งที่ฉันสร้างขึ้นมาได้นั้นเป็นเพียงแค่ตัวถ่วงเวลาเรียกร้องความสนใจ สิ่งที่ฉันทดลองอยู่จริงๆคืออย่างอื่น อย่างอื่นที่สำคัญกว่านั้นมาก

     

    “เอเลน” ฉันเรียก เอเลนจะต้องเป็นจุดเด่นของงานฉลอง หรือก็คือตัวถ่วงเวลา ยาของฉันเสร็จแล้ว เหลือแค่การทดสอบกับไททันของจริง “ไปได้แล้ว”

    “ขอโทษนะ ฉันไม่ว่างคุย” เอเลนบอก “เธอชื่อมิคาสะสินะ เอ่อ...ยินดีที่ได้รู้จักแล้วกัน”

    “เดี๋ยวสิ!” มิคาสะรั้งข้อมือเอเลนไว้ “ด็อกเตอร์คริชา เกิดอะไรขึ้นกับเอเลนคะ แล้ว...ทำไมคุณถึงมาอยู่ที่นี่”

    “ขอโทษทีนะ ฉันไม่รู้ว่าเธอรู้จักฉันได้ยังไง” ฉันพูด ทำไมต้องมาเจอมิคาสะเอาตอนนี้ด้วยนะ แต่จะให้ความหวังอะไรตอนนี้ก็คงไม่ได้ “แต่เราไม่รู้จักเธอ”

    “ ...มิคาสะ” เด็กสาวคนหนึ่งเรียกมิคาสะ เธอเป็นเด็กสาวสัญชาติอังกฤษ

    “นี่ เจ้านักรบ” ฉันหันไปเรียกนักรบคนหนึ่ง “เด็กนั่นสู้คู่สุดท้ายในวันพรุ่งนี้ใช่ไหม”

    “ใช่ มีอะไรหรือ” นักรบถามกลับ

    “เอาตัวเธอมาที ฉันต้องการตัวทดลองในงานของฉัน” ฉันบอก

    “ทำไมต้องเธอล่ะ” มาร์คัสถาม มองดูเด็กสาวชาวอังกฤษคนนั้นนอนอยู่บนเตียง ฉันให้ยาสลบไป จะได้ไม่ก่อปัญหาระหว่างทำการทดลอง “ทำแบบนี้คู่มิคาสะก็เสียเปรียบในการต่อสู้สิ”

    “มันไม่มีตัวเลือกอื่นสักหน่อย ถ้าเลือกนักสู้คนอื่นมา คอเตชจะเห็นว่าพวกนั้นแปลงร่างเป็นไททันไม่ได้ ฉันถึงเลือกนักสู้ที่สู้คู่สุดท้าย แต่ก็ไม่แน่ว่าแผนเราจะสำเร็จก่อนความแตกรึเปล่า”

    “งั้น...เริ่มเลยนะครับ” มาร์คัสฉีดตัวยาให้กับเด็กสาวชาวอังกฤษ ยาที่ฉันคิดค้น แม้มันจะไม่ได้เป็นยาที่ออกฤทธิ์ตลอดไป แต่อย่างน้อย...แค่โอกาสเพียงน้อยนิดที่จะทำให้คอเตชแปลงร่างหรือรักษาตัวเองไม่ได้ เท่านั้นมนุษย์ก็เป็นฝ่ายได้เปรียบแล้ว ถ้าถึงตอนนั้น...แค่มีดเล่มเดียวก็ฆ่าคอเตชได้

     

    ฉันให้มาร์คัสใส่ยาลงในอาหารของคอเตชที่เสริฟในระหว่างดูการต่อสู้ในโคลอสเซียม ทว่าสิ่งที่เลวร้ายที่สุดกลับเกิดขึ้น เขาไม่แตะอาหารเลย แถมยังสนใจอยู่แต่การต่อสู้ แม้เจ้าหญิงเซียจะพยายามชักชวนให้เขากินอะไรบ้าง ดูเหมือนเขารอดูการต่อสู้รอบสุดท้ายเป็นพิเศษ แล้วเขาก็จับได้จริงๆ แอนนี่ เลออนฮาร์ดไม่สามารถแปลงร่างเป็นไททันได้ นักรบคนหนึ่งถูกส่งมาลากตัวฉันไปหาเขา ฉันซ่อนเข็มฉีดยาตัวนั้นไว้ในแขนเสื้อ

    “นี่มันหมายความว่ายังไงด็อกเตอร์” คอเตชถาม “แกไม่ได้วิจัยการวิวัฒนาการของไททันจริงๆสินะ แกพยายามทำให้ยุคของไททันย้อนกลับไปสู่ยุคของมนุษย์ที่เน่าเฟะ”

    “ยุคของไททันต่างหากที่มันเน่าเฟะเต็มที” ฉันตอบ ยังไงก็ต้องตาย ฉันต้องตายแน่ๆอยู่แล้ว

    “เอาไปโยนให้ไททันกิน” คอเตชโบกมือไล่

    “ไม่นะ...ไม่! ไม่! ไม่! ฉันผิดไปแล้ว” ฉันโผไปเกาะเขาคอเตช ร้องขอชีวิตเมื่อนักรบข้างหลังจะลากฉันไป ฉันหยิบเข็มฉีดยาออกมา... “ไปตายซะเถอะไอ้ไททันสีดำ”

    พลั่ก! ผัวะ! คอเตชคว้ามือฉันไว้แล้วหักทิ้งอย่างง่ายดาย เจ็บ! เจ็บเป็นบ้าเลย!!!

    “เกือบชนะแล้วด็อกเตอร์” คอเตชยิ้ม “แต่แกลืมไปสินะ...ว่าฉันเคยเป็นนักสู้มาก่อน”

    นักรบข้างหลังลากฉันไปและโยนลงไปในสนามประลองที่เต็มไปด้วยไททัน ฉันเห็นเอเลนกำลังถูกรุมกัดกินโดยพวกไททันมากมาย ไม่มีทางรอดเลย ไม่มีเลย ฉันทำดีที่สุดแล้ว ดวงตาไททันของเอเลนหันมาทางฉัน

    นี่เอเลน... พ่อเป็นพ่อที่เลวร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์เลยสินะ ขอโทษนะเอเลน ขอโทษ...
     

    *******************************************************************
     

    >>>หลังฉาก<<<

    ไรท์เตอร์ : สวัสดีพี่น้อง //กลับมาจากทะเลแบบเกรียมๆกำลังอร่อย...?!
    ไรท์เตอร์ : อ่ะ หมึกแดดเดียว //โยนของฝากให้ชาช่า
    ชาช่า : //กระโดดงับกลางอากาศและเขมือบอย่างว่องไว
    ไรท์เตอร์ : สรุปจากตอนที่ 23 ได้ 2 คู่นะสำหรับตอนพิเศษ คือ...
                       เรเวนกับเซีย รีไวล์กับฮันซี่(โดนขอจากในเฟส)
                       นี่ไม่มีใครคิดจะขอคู่หลักๆกันเลยสินะ
    คริสต้า : ลืมอะไรรึเปล่าไรท์
    ไรท์เตอร์ : อะไรเหรอ
    คริสต้า : เคยสัญญาอะไรไว้น่ะ
    ไรท์เตอร์ : อุ้บ... //ลืมสนิท
                      อ..เอ่อ นั่นสิเนอะ มีคู่คริสต้ายูมิลด้วยนี่นา ไม่ได้ลืมหรอก แหะๆๆ
                      ปล.ไม่เข้าใจจริงๆทำไมไม่มีคนขอคู่มิคาสะกับแอนนี่...ก็...ไม่มีคนขอก็ช่างมันเถอะเนอะ
    มิคาสะ : ไม่มี? ไหนไรท์วางแผนจะทำไง //ถามไปพลางซ้อมชกกระสอบทราย
    แอนนี่ : สงสัยจะไม่ได้สู้กับเธอแล้วล่ะ //เลิกซ้อมทุ่มเอเลน
    เอเลน : ก็ดีแล้วนี่ //คลานหนีก่อนจะโดนลากไปเป็นคู่ซ้อมอีก
    โคนี่ : โหย... นึกว่าจะได้ดูฉากบู๊ในตำนานซะอีก //นั่งเซ็ง
    ไรท์เตอร์ : ไม่ไหวอ่ะไม่ไหว 3 คู่ก็ปวดหัวแล้ว //ก่ายหน้าผาก
    แอนนี่ : ทำไม //เตรียมเตะไรท์เตอร์
    ไรท์เตอร์ : เฮ้ยๆๆ เดี๋ยวๆๆ ไรท์ไม่ใช่กระสอบทราย! //หลบหลังชาช่า
    ชาช่า : หะ...? //โดนเตะแทนไรท์เตอร์
    ไรท์เตอร์ : ฉันจะไม่ลืมเธอเลยชาช่า ไปที่ชอบๆนะ //ไว้อาลัย
    แอนนี่ : ฉันไม่ได้เตะแรงขนาดนั้น
    ไรท์เตอร์ : เหรอ... //มองชาช่าที่หัวปักพื้น
                      อ่ะๆเอาเถอะ แต่ 3 คู่แล้ว หมดโควต้าจริงๆ ถ้าอยากอ่านคู่มิคาสะแอนนี่ต้องรอปีหน้านะ
    แจน : หา? นึกว่าไรท์จะแต่งให้จบในปิดเทอมนี้ซะอีก
    ไรท์เตอร์ : สำหรับเรื่องนี้ก็ใช่แหละ แต่ด้วยความคลั่งเกินเหตุของไรท์ ปีหน้าว่าจะทำอีกเรื่อง
                      พล็อตเนื้อเรื่องเป็นยุคปัจจุบันจ้า //หาภาพไม่ได้แหงเลย -*-
    เอเลน : ปัจจุบัน...? ก็แปลงร่างไม่ได้น่ะสิ //ทำท่าจะงอแง
    ไรท์เตอร์ : ก็ใช่สิ อย่างอแแงน่าเอเลน นายยังเป็นตัวละครหลักนะ //แต่จะพยายามไม่พูดถึงแค่นั้นเอง...?!
    อาร์มิน : แล้วผมล่ะ //วิญญาณล่องลอย
    ไรท์เตอร์ : ใครตายก็ไปเจอกันชาติหน้า(ยุคปัจจุบัน)ไง //มองหาไรเนอร์
                      ไรเนอร์หายไปไหน
    อาร์มิน : งอนไรท์ไปแล้วครับ
    ไรเนอร์ : ฉันยังไม่ตายยยย //ส่งเสียงโหยหวนครวญครางน่าสยองมาจากโรงเก็บอุปกรณ์ประกอบฉาก
    ไรท์เตอร์ : เฮ้อ... หลอกตัวเองเข้าไป //ถอนหายใจ
                      อ้อ แล้วก็...ตอบคำถามรีดเดอร์จากตอนที่แล้วคนหนึ่ง
                      ที่บอกว่า... กำลังกินมาม่าอยู่ไรท์จะตัดเพื่อ... //แอบขำก๊ากตอนอ่านเม้นท์แต่ละคน
                      ไรท์ก็ขอตอนว่า... เพื่อความสุขสันต์ของตัวไรท์เองเวลาอ่านเม้นท์ //โดนรีดเดอร์รุมกระทืบ
    คริสต้า : สมน้ำหน้า //มองศพไรท์เตอร์
    ยูมิล : สมน้ำหน้า //มองศพไรท์เตอร์

    คริสต้า : เอ๊ะยูมิล?! //หันไปหายูมิล
    ยูมิล : อ..อะไรยัยเปี๊ยก //มอง
    คริสต้า : ไปรู้จักกับเอเลนตอนไหนมาฮะ //นอกใจสินะ นอกใจงั้นเหรอ
    ยูมิล : ไม่รู้สิ //โธ่คริสต้า ทักทำไม อุตส่าห์เงียบๆแล้วนะ
    ไรท์เตอร์ : ฮิสตอเรีย...เดี๋ยวรีดเดอร์เดาเนื้อเรื่องออกหมดพอดีกัน //คลานมาห้ามสภาพเป็นศพ
    คริสต้า : อย่าสะเออะ! //กระทืบไรท์อีกที
    ไรท์เตอร์ : แอะ! //ตายคาที่

     

    >>> ด้วยเหตุฉะนี้ แฟนฟิคเรื่อง "เมื่อสิ้นกำแพงชิน่า" จึงจบลงด้วยเหตุที่...<<<

    >>>ไรท์เตอร์ต้องตายก่อนวัยอันควรเพราะตัวละครของไรท์เตอร์เอง ...Bad Ending <<<
     

    ...โปรดไว้อาลัย 10 วินาที...
    แอนนี่ : ..........
    มิคาสะ : ..........
    คริสต้า : ..........
    ยูมิล : ...........
    เอเลน : ..........
    ชาช่า : ..........
    โคนี่ : ...........
    แจน : ...........
    เบลทรูท : ..........
    อาร์มิน : ..........
    ไรเนอร์ : ฉันยังไม่ตาย!!!
    ทุกคน : //หยิบรองเท้ามาเขวี้ยงหัวไรเนอร์

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×