ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    {fic exo baekdo.} ll เจ้าเคะกาแฟหอมกับนายเซเคะเงินล้าน ll

    ลำดับตอนที่ #1 : ๏ ch.1 ๏ ๛

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 930
      11
      27 มิ.ย. 57






    1










                ผมหยิบผ้าขนหนูผืนเล็กมาพาดคอไว้แล้วเดินออกจากบ้านเพื่อไปยังสวนสาธารณะใกล้ๆบ้านซึ่งเป็นสวนใหม่ที่รัฐบาลเพิ่งสร้างเสร็จเมื่อไม่นานมานี้ และวันนี้ผมเองก็จะเริ่มเข้าไปวิ่งจ็อกกิ้งเพื่อชมความงามของสวนแห่งใหม่นี้บ้างหลังจากที่ตั้งใจไว้ตั้งนานแล้วว่าจะมา

                พอเดินเข้ามาในสวนผมก็ต้องมองรอบๆด้วยความตื่นเต้น สวนที่นี่ใหญ่มากและมีศาลาเรียงรายกันไปเพื่อให้มีที่พักสำหรับคนมาวิ่งออกกำลังกาย ผมก้าวเข้าแค่ก้าวเดียวก็เริ่มวิ่งเหยาะๆพร้อมกับคนอื่นๆที่มาออกกำลังกายเช่นกัน

    อ๊ะ! โอ๊ย!”

    ทำไมถึงซื่อบื้อแบบนี้นะ ยังวิ่งไม่ถึงนาทีก็หกล้มซะแล้ว น่าอายเป็นบ้า!

    เป็นอะไรรึเปล่า ให้ช่วยมั้ย

    มือเรียวของใครบางยื่นลงมาจับมือผมให้ลุกขึ้นแบบที่ผมยังไม่ทันตั้งตัวเพราะกำลังเจ็บหัวเข่าที่ถลอกปอกเปิกจนน่ากลัว

    อ๊ะ

    ผมเซถลาไปชนเขานิดหน่อยโดยที่มีแขนของเขารับตัวผมเอาไว้ ยังไม่ทันเตรียมพร้อมกับความเจ็บเลยนะ คุณเล่นดึงผมไปขนาดนี้หัวเข่าผมก็ยิ่งแสบสิ รู้มั้ยว่าหนังที่ถลอกเวลาย่นเข้าหากันแล้วมันจะเจ็บขนาดไหน T^T

    ไปนั่งก่อนนะ ฉันพกพาสเตอร์มา เดี๋ยวฉันทำแผลให้

    ไม่เป็นไรครับ แผลแค่นิดเดียวเอง

    ผมส่ายหน้าแล้วสบดวงตาที่ดูมีเสน่ห์อย่างน่าประหลาด ใบหน้าเรียวเล็ก จมูกโด่งรั้นที่รับกับริมฝีปากอมชมพู มันทำให้ใบหน้าของเขาดูสวยเหมือนผู้หญิงมาก ถึงแม้ว่าผมจะรู้ดีว่าเขาเป็นผู้ชาย เพราะดูจากท่าทางการเดินและร่างกายที่ไม่มีแม้แต่หน้าอกนั้นก็พอจะเดาออกได้ว่าเขาเพศอะไร

    ล้างแผลก่อนเถอะน่า

    เขาไม่สนใจที่ผมพูดเลยสักนิดเดียว หนำซ้ำยังลากให้เดินไปที่ศาลาใกล้ๆแล้วกดไหล่ผมให้นั่งลงแบบบังคับกันชัดๆ

    ผม...

    ชู่ เงียบเถอะ นายไม่อยากให้ฉันทำแต่ยังไงฉันก็จะทำอยู่ดี

    นิ้วเรียวยาวแตะที่ริมฝีปากผมเบาๆเพื่อเป็นสัญญาณให้ผมหยุดพูดหลังจากนั้นเขาก็หดนิ้วกลับไป ส่วนผมเพียงแค่เม้มปากเบาๆเท่านั้น เพิ่งรู้จักกันแท้ๆทำไมเขากล้าสกินชิพกันขนาดนี้เนี่ย

    เฮ้ยไอ้แบคฮยอน! ม่ออีกแล้วนะ!” เสียงจากผู้ชายคนหนึ่งที่กำลังวิ่งผ่านศาลาตะโกนเข้ามาแล้วมองแบคฮยอนด้วยสายตานึกสนุกก่อนที่เขาจะวิ่งจากไป

    แบคฮยอน...ผมทวนชื่อที่ผู้ชายคนเมื่อกี้พูด

    นั่นชื่อฉันเอง แล้วก็ไม่ต้องไปสนใจคำพูดเมื่อกี้นะ เพื่อนฉันมันก็แกล้งไปงั้นแหละ

    โอเค อ๊ะ เย็นจัง

    ผมร้องอย่างตกใจเมื่ออยู่ดีๆเขาก็ราดน้ำเย็นใส่หัวเข่าของผมแล้วใช้ผ้าเช็ดหน้าซับเบาๆ นิ้วเรียวหยิบพาสเตอร์ลายทหารออกมาแล้วแปะลงที่แผลของผมอย่างถนุถนอมจนผมแทบจะไม่รู้สึกเจ็บอะไร

    ขอบคุณฮะ

    ผมก้มหัวขอบคุณหลังจากที่เขาทำแผลเสร็จ

    ไม่เป็นไร แล้วนายชื่ออะไรล่ะ

    คยองซูฮะ

    หรอ งั้นก็เลิกพูดแบบทางการสักทีเถอะ คุยแบบธรรมดาก็พอแล้ว

    ผมพยักหน้าหงึกหงัก เหมือนโดนสั่งยังไงก็ไม่รู้...

    แต่ว่า...

    ฉันขอเบอร์นายหน่อยสิ

    “O_O”

    ผมเบิกตามองเขาอย่างตกใจ เพิ่งเจอกันเองนะ ทำไมขอเบอร์กันซะแล้วล่ะ เขาคิดอะไรกับผมรึเปล่าเนี่ย หรือว่าผมหลงตัวเองอยู่

    ทำไมต้องทำตาโบ๋แบบนั้นด้วยล่ะ ที่ฉันขอเพราะฉันอยากสนิทกับนายต่างหากล่ะ

    ไอ้บ้า! นายมันปากเสียที่สุดเลย ทำไมต้องมาว่าฉันตาโบ๋ด้วย! คนน้ำใจงามไร้มารยาท!

    นั่นสินะ คิดว่าจะเป็นแบบอื่นซะอีก ตกใจหมดเลย

    ผมหยิบไอโฟนออกมาจากกระเป๋าหิ้วใบเล็กสุดเท่เพื่อมาแลกเบอร์กับแบคฮยอน แต่สิ่งที่ผมทำเอาผมแทบสะดุ้งก็คือการที่อยู่ดีๆใบหน้าเรียวก็ยื่นเข้ามาที่ข้างหูผมแล้วกระซิบเสียงแผ่ว

    ยินดีที่ได้รู้จักนะ คยองซู

    จะ จักจี้นะ อ๊ะ

    T///T

    ผมเปล่าตั้งใจนะ ผมก็แค่จักจี้ก็เลยหนีบคอกับไหล่แต่ไม่คิดว่าจมูกของกับปากของแบคฮยอนจะมาโดนเข้าที่แก้มของผมน่ะสิ

    ขอโทษ ฉันไม่ได้ตั้งใจ นะ น่าอายจังผมก้มขอโทษอย่างอายๆแล้วหันหน้ามองไปทางอื่นเพราะไม่กล้าสบตาคมสวยนั่น

    ไม่ต้องคิดมาก แค่อุบัติเหตุเท่านั้นแหละ ฉันไปวิ่งต่อล่ะนะ ไว้เจอกันคราวหลังละกันนะคยองซู

    แบคฮยอนโบกมือลาผมแล้ววิ่งออกไปจากศาลา ทำไมผมถึงรู้สึกว่าเขาดูอารมณ์ดีกว่าตอนแรกนะ ทั้งๆที่อยู่กับผมเมื่อกี้ผมก็ไม่ได้ทำอะไรให้เขาหัวเราะหรือมีความสุขเลยนี่นา

    แปลกจัง

    ผมพึมพำอยู่คนเดียวแล้วเริ่มวิ่งเหยาะๆต่ออีกครั้งถึงแม้ว่าจะแสบแผลที่หัวเข่าก็ตาม แต่ไหนๆก็มาแล้วทั้งทีก็อยากจะสำรวจสวนที่นี่ให้มันหนำใจสักหน่อย เหนื่อยก็ค่อยเดินเอาละกัน แผลแค่นี้คงไม่ได้ทำให้ผมตายง่ายๆหรอกมั้ง

    โฮ่ง ๆ ๆ ๆ

    ผมชะงักทันทีเมื่อเห็นหมาสองสามตัวกำลังวิ่งมาทางนี้ ผมกลัวหมา... และหมาสามตัวนั้นก็วิ่งมาทางผมซะด้วย!

    มงกูย่า จังกูย่า พ่อนายไม่ใช่คนนี้

    ผู้ชายผมบลอนด์ทองที่เป็นคนถือสายปลอกคอเอ่ยออกมาเสียงเนือยๆพร้อมใบหน้าที่เต็มไปด้วยความเบื่อหน่าย

    จังอาย่า นายพาเพื่อนนายวิ่งมาเองนะ ขอโทษเด็กคนนี้เลยนะ

    ผู้ชายร่างสูงอีกคนที่ยืนอยู่ข้างๆบอกน้องหมาที่เขาวิ่งตามมา เขาคุยกับหมารู้เรื่องด้วยรึไงน่ะ แปลก แต่เขาคิดว่าผมเป็นเด็กล่ะ ให้ตาย... ผมโตจนทำงานได้แล้วนะ

    อ้าว จงอิน

    พี่คยองซู/พี่คยองซู

    คงเป็นเพราะพวกผมทั้งสามคนเพิ่งสังเกตหน้ากันก็เลยเพิ่งรู้ว่าอีกฝ่ายเป็นใครสินะ =_=

    จงอินกับเซฮุนเป็นเพื่อนสนิทสุดซี้กันครับ ความจริงก็ไม่รู้จักผมกันหรอก แต่เป็นเพราะว่าผมเป็นเจ้าของร้านคาเฟ่หน้ามหาฯลัยของทั้งสองที่ชอบเข้ามาอุดหนุนผมบ่อยๆก็เลยทำให้เรารู้จักกัน ผมเป็นฝ่ายทำความรู้จักเขาทั้งสองคนเองแหละ เพราะเห็นว่าเป็นลูกค้าประจำร้าน

    เซฮุนมีผมสีบลอนด์ทองดูไม่เด่นหราเท่าไหร่เพราะคนในมหาฯลัยก็ย้อมสีนี้เยอะ ส่วนจงอินย้อมผมสีขาวที่ตัดกับสีผิวเขาจริงๆ แต่ยังไงสำหรับผมมันก็ดูดีนั่นแหละ ทั้งสองคนเลย

    หมาพวกนี้ของใครหรอ

    ผมถามทั้งที่ยังยืนตัวแข็งอยู่ ยังดีที่ทั้งสองคนถือสายปลอกคอเอาไว้ไม่ให้ไปไหน ไม่งั้นผมคงฉี่ราดแน่ๆ

    ของผมเอง ผมให้เซฮุนช่วยผมพามงกูกับจังกูมาเดินเล่น

    จงอินตอบผมยิ้มๆแต่ผมยิ้มกลับให้เขาแห้งๆแล้วค่อยๆถอยหลังมาสองสามก้าว

    พี่คยองซูกลัวหมาหรอ

    เซฮุนที่ดูจะรู้ทันถามผมอย่างสงสัย

    อะ อืม

    ผมตอบกลับในลำคอแล้วยิ้มแห้งๆอีกครั้ง สายตาก็คอยเหลือบมองหมาทั้งสามตัวว่าจะวิ่งมาทางผมรึเปล่า

    พวกมันพยายามวิ่งมาหาผมล่ะ แต่ติดที่ปลอกคอยังอยู่ในมือของเซฮุนกับจงอินทำให้มันวิ่งมาหาผมไม่ได้ แบบนี้ก็ดีเลย ไม่ต้องวิ่งมาทางนี้จะเป็นอะไรที่ดีมากจริงๆ ต่อให้มันน่ารักแค่ไหนผมก็ยังกลัวหมาอยู่ดี

    ครั้งหนึ่งผมเคยปีนขึ้นไปนั่งบนทีวีเพราะหมาวิ่งมาหาผม และนั่นก็เป็นสาเหตุที่ทีวีบ้านผมพังเพราะโดนผมนั่งจนบุบลงไปแล้วผมก็ตกลงมาจนกระจกหน้าจอทีวีบาดเข้าที่ก้น แต่บาดไม่ลึกมากก็เลยทำให้ไม่มีแผลเย็บ

    ไม่อยากจะเชื่อว่าคนน่ารักๆแบบนี้จะกลัวหมาด้วยเซฮุนว่ายิ้มๆ

    พี่กลัวไม่ได้หรอ

    งงนะ กลัวหมาแล้วมันเกี่ยวอะไรกับน่ารักเนี่ย...

    พวกนายรีบเอามันออกไปเลยนะ พี่กลัว

    ผมบอกทั้งสองอีกครั้งพลางเดินถอยหลังไปเรื่อยๆ แต่ว่าเซฮุนกับจงอินก็ยังก้าวเข้ามาหาผมเรื่อยๆพร้อมกับหมาสามตัวที่พยายามจะวิ่งมาหาผมซะให้ได้

    ไปเลยจังอา!” จงอินว่าเสียงดังจนทำเอาผมใจหาย

    ไม่อ๊าววว!”

    ผมวิ่งออกมาทันทีเมื่อหมาพุดเดิ้ลทอยกำลังวิ่งมาหา

    ฮ่าๆๆ ผมล้อเล่นครับ พี่จะวิ่งไปไหนน่ะ ผมยังรั้งสายปลอกคอจังอาไว้อยู่นะ

    ผมหยุดวิ่งแล้วหันไปมองด้านหลัง ปรากฎว่ามันก็เป็นอย่างที่จงอินพูดจริงๆ จังอายังวิ่งมาไม่ถึงผมเพราะจงอินดึงสายปลอกคอไว้อยู่

    บ้าที่สุด! ผมเกือบจะหัวใจวายตายเพราะกลัวหมาแล้วนะ T^T

    นายแกล้งพี่!”

    ผมกอดอกว่าเขาอย่างหงุดหงิดแต่เซฮุนกับจงอินก็ไม่มีทีท่าว่าจะขอโทษขอโพยผมเลย แบบนี้มันน่าฆ่าให้ตายซะเลยนะเนี่ย

    ผมเปล่าแกล้งนะ

    จงอินพูดหน้าตาเฉยแต่มุมปากก็ยังอมยิ้ม

    แสดงว่าเมื่อกี้พี่ฝันรึไง

    แล้วพี่คยองซูมาทำอะไรที่นี่ครับ

    เซฮุนตัดบทขึ้นมาเพราะไม่อยากให้พวกผมต่อความยาวสาวความยืดแล้วยิ้มให้ผมฉบับที่เขาชอบทำบ่อยๆ

    มาออกกำลังกายน่ะ งั้นพี่ไปวิ่งต่อล่ะนะ ไว้เจอกันที่ร้านพรุ่งนี้

    โอเคครับ เจอกันพรุ่งนี้นะ

    ผมโบกมือลาทั้งสองคนแล้ววิ่งต่อไป คราวนี้ไม่ใช่แค่วิ่งเหยาะๆอย่างที่ตั้งใจไว้ เพราะเห็นคนอื่นที่วิ่งสวนกันไปมาเริ่มวิ่งกันเต็มสปีดเยอะแยะก็เลยทำให้ผมอยากจะวิ่งแบบนั้นบ้าง แต่ก็ไม่ได้ตั้งใจจะวิ่งแบบเร็วโคตรๆนะ แบบนั้นมันเหนื่อย

    ระหว่างที่วิ่งก็ผ่านป้ายบอกรายละเอียดของสวนที่บอกว่าที่นี่ใหญ่ขนาด 50 ไร่ ถือว่าใหญ่มากจริงๆ สมควรแล้วที่จะมีศาลาตามทางเยอะแยะ เพราะต่อให้วิ่งเท่าไหร่ก็คงไม่ได้ครึ่งของสวนสักที กว่าจะวิ่งรอบสวนนี้ได้ก็คงอีกนานแน่ๆ

    แต่แล้วอยู่ดีๆก็...

    ครืนนนน

    ฟ้าร้อง!

    T^T

    ผมวิ่งมาไกลมากเลยนะ! ทั้งตัวก็มีแค่ผ้าขนหนูผืนเล็กที่พาดคอไว้อยู่ กับกระเป๋าสะพายใบเล็กๆใบโปรดที่ใส่ขวดน้ำไว้ ร่มก็ไม่ได้พกมาแล้วจะกลับยังไง

    แต่สักพักก็ทำให้ผมจำเป็นต้องวิ่งเข้าศาลาเมื่อฝนลงเม็ด...

    โชคร้ายเป็นบ้าเลย รู้งี้ไม่มาดีกว่า ทั้งที่ทีแรกท้องฟ้ายังไม่มีทีท่าจะตกเลยด้วยซ้ำ

    ผมนั่งพูดฟึดฟัดอยู่คนเดียวเหมือนคนบ้า ก็มันหงุดหงิดนี่นา อยู่ดีๆก็ตกลงมาแบบนี้

    ยิ่งนานๆเข้าฝนก็ยิ่งตกหนักขึ้น ทุกคนที่กำลังวิ่งอยู่ต่างก็พากันวิ่งเข้าศาลาเพื่อหลบฝนกันหมด แต่เนื่องจากศาลาผมอยู่ไกลมากก็เลยไม่มีใครเข้ามาทางนี้เลย

    หนาวๆๆ

    เสียงทุ้มนุ่มของใครบางคนดังมาแต่ไกลพร้อมกับเงาที่แทบมองไม่เห็นเพราะฝนตกหนักมากจนบดบังคนตรงหน้า จนในที่สุดเขาก็เดินมาถึงศาลาที่ผมนั่งอยู่และก็ทำให้ผมรู้ว่าคนๆนี้คือแบคฮยอนนั่นเอง ตัวนี่เปียกชุ่มมาเลยล่ะ

    อ้าว คยองซู

    เขาว่าอย่างดีใจเมื่อเห็นว่าเป็นผมที่นั่งอยู่ในศาลา

    ตัวเปียกหมดแล้ว

    ผมยื่นผ้าขนหนูที่พาดคอให้แบคฮยอนเพื่อให้เขาเช็ดหน้า

    ขอบใจ

    นายมาคนเดียวหรอ ไม่เห็นเพื่อนนายเลย

    วิ่งหลงกันน่ะสิ ฝนตกหนักจนแทบมองไม่เห็นอะไรเลย กระเด็นเขาตาซะเจ็บจี๊ด

    แบคฮยอนว่าพลางซี๊ดปาดจนทำเอาผมอดยิ้มไม่ได้เมื่อเห็นท่าทางของเขา

    หนาวชะมัด ขอกอดนายหน่อยสิ

    หือ อะ เฮ้ย

    ผมอุทานเสียงเบาเมื่ออยู่ดีๆแบคฮยอนก็ดึงผมเข้าไปกอดข้างๆ ผมทำอะไรไม่ถูกทันทีเมื่อเจอแขนของแบคฮยอนโอบรัดผมแน่นขึ้นเรื่อยๆ แต่ถึงอย่างนั้นผมก็กอดเขาตอบเพื่อให้ความอบอุ่นแก่เขา ก็เขาเป็นคนบอกเองนี่ว่าหนาวน่ะ

    แต่มันกลับมีบางสิ่งที่ทำให้ผมแทบช็อคเมื่อเขาพูดออกมา...

    ฉันชอบนาย

    พูดอะไรของนาย

    ผมขมวดคิ้วอย่างไม่เข้าใจ จะผละออกจากเขาเพื่อถามตรงๆแต่แขนของเขากลับกอดแน่นไม่ยอมปล่อยให้ผมออกจากอ้อมกอดของเขาไปได้ง่ายๆ

    ฉันชอบนายมาก ตั้งแต่ที่เจอเมื่อกี้แล้ว

    พูดเป็นเล่น ปล่อยฉันเลยนะ

    ผมสั่งเขาเสียงเฉียบแต่แบคฮยอนก็ไม่ยอมปล่อยผมง่ายๆ และนั่นก็ทำให้ผมเริ่มดิ้นเพื่อให้เขาปล่อย

    อย่าดิ้นสิ

    ผมรู้สึกหัวใจจะวายเมื่อแบคฮยอนยื่นหน้าเข้ามาใกล้ผม มือเรียวของแบคฮยอนไล้ที่ใบหน้าผมเบาๆจนทำเอาหัวใจของผมเต้นระรัว ไม่รู้ว่าเป็นเพราะกลัวรึเปล่า

    ถ้านายไม่ปล่อยฉันจะร้องให้คนมาช่วย!”

    ฮะๆ พูดแปลกๆนะ ฝนตกหนักขนาดนี้ไม่มีใครได้ยินหรอก

    แบคฮยอนยิ้มกริ่มแล้วยื่นหน้าเข้ามาใกล้จนหน้าผากของเราสองคนชนกัน มือเรียวที่ไล้หน้าผมก็รั้งหัวผมไว้ไม่ให้ขยับไปไหน จนกระทั่งริมฝีปากของเขาประทับที่ริมฝีปากผมช้าๆ จนผมหลับตาปี๋ทันที

    ความรู้สึกนุ่มนิ่มยังคงมีอยู่ที่ริมฝีปากของผม นิ้วเรียวบีบคางของผมแรงจนผมต้องร้องออกมาเพราะความเจ็บแต่มันกลับกลายเป็นว่าตอนนี้ลิ้นของแบคฮยอนรุกล้ำเข้ามาในปากของผมซะแล้ว

    อือ

    ในหัวของผมมันสับสนไปหมด มือที่ผมคิดว่ามันคงจะไร้เรี่ยวแรงเหมือนในนิยายที่ผมเคยอ่านมันกลับไม่ได้เป็นอย่างที่ผมคิด

    ผมใช้มือทั้งสองข้างพยายามผลักไหล่ของแบคฮยอนด้วแรงทั้งหมด แต่ดูเหมือนว่าแบคฮยอนจะไม่สะทกสะท้านเลยสักนิด ถึงแม้ว่าเขาจะตัวโตกว่าผมนิดหน่อยแต่ก็ไม่น่าจะมีแรงรั้งตัวเองได้ขนาดนี้นี่นา เขาคงต้องแข็งแรงมากแน่ๆ

    บะ แบค อือ

    ผมจะทนไม่ไหวแล้วนะ พอเขาถอนริมฝีปากออกก็เอาแต่สูดดมที่ซอกคอของผมจนจักจี้ไปหมดแล้ว

    หยุดนะ!”

    แบคฮยอนชะงักทันทีเมื่อถูกผมขึ้นเสียงใส่ ผมทั้งอายทั้งโกรธที่สู้เขาไม่ได้ ผมรู้ตัวว่าแรงผมน้อยนั่นจึงทำให้ผมผละออกจากตัวเขาไม่ได้สักที แต่นี่มันเป็นการเจอกันครั้งแรก เขาไม่น่ามาทำแบบนี้กับผมเลย

    ฉัน...

    ฉันโกรธนาย!”

    ผมว่าตัดบทใส่แบคฮยอนเสียงดังแล้วลุกขึ้นไปนั่งที่อื่นเพราะไม่อยากนั่งใกล้คนอย่างเขา แต่ก็ไม่คิดจะออกไปจากศาลาหรอกนะ มันจะเปียก!

    ขอโทษ ฉันแค่ลืมตัว

    แบคฮยอนรีบเดินเข้ามาหาผมแล้วทำหน้าหูตกหางตกแต่ผมก็ไม่ใจอ่อนให้หรอก ผมไม่ใช่คนจิตใจดีเหมือนหน้าตาตัวเองสักหน่อย

    นี่มันเป็นการเจอกันครั้งแรกของฉันและนายนะแบค ถ้าอยากเป็นเพื่อนฉันอยู่ก็อย่าทำแบบนี้ นายมาล้อเล่นความรู้สึกของฉันไม่ได้

    แต่ฉันชอบนายจริงๆนะ

    แล้วมีอะไรที่จะมายืนยันได้ว่านายชอบฉันจริงๆ

    หมายความว่าถ้าฉันยืนยันความรู้สึกของฉันได้ นายก็จะยอมเป็นแฟนฉันรึไง

    ไม่มีทางแน่นอน ฉันก็แค่จะให้โอกาสนายเข้ามาในชีวิตฉัน

    ผมเริ่มขยับห่างออกจากแบคฮยอนเมื่อเขาเริ่มขยับเข้ามาใกล้ผมเรื่อยๆ ทำไมเขาขี้ตื๊อแบบนี้นะ ถ้าย้อนเวลากลับไปได้ผมขอไปสะดุดขี้หมาที่ไหนสักแห่งที่ไม่มีเขาได้มั้ยเนี่ย

    ทั้งมือทั้งแขนของแบคฮยอนเริ่มอยู่ไม่สุขแล้วมาจับนู่นจับนี่ผมไปทั่ว ผมทั้งปัดทั้งแกะมือเรียวนั้นออกแต่แบคฮยอนก็ไม่มีทีท่าว่าจะหยุดสักที ให้ตาย ผมจะร้องไห้แล้วนะ เขามาทำรุ่มร่ามแบบนี้กับผมได้ยังไงกัน ไร้มารยาทที่สุด

    อย่ามายุ่งกับฉันนะแบค

    ผมพูดปรามแบคฮยอนเสียงนิ่ง

    ไม่เอา แบคขอโทษจริงๆนะ

    อะไรเนี่ย! ทำไมอยู่ๆเขาก็แทนตัวเองว่า แบคล่ะ แบบนี้มันทำให้ผมรู้สึกแปลกๆนะ ยังไม่ได้สนิทกันมากมายอะไรขนาดนั้นสักหน่อย

    ไม่เห็นจะต้องคิดอะไรมากเลยนะคยองซู ฉันแค่จูบนาย ไม่ได้คิดจะปล้ำนายสักหน่อย

    ลองนายทำดูสิ ฉันจะฆ่านายแน่

    จริงหรอ ท้าแบคสินะ...

    แบคฮยอนยิ้มกริ่มจนผมเริ่มใจไม่ดี อย่าบอกนะว่าเขาคิดจะทำจริงๆน่ะ T^T

    นะ นายอย่าคิดจะทำนะ

    แต่คยองซูเป็นคนท้าแบคนะ

    ฉันแค่ขู่นาย ไม่ได้จะท้าสักหน่อย

    ผมขยับถอยหลังไปเรื่อยๆจนแผ่นหลังติดกับเสาของศาลา แขนทั้งสองข้างยกขึ้นมากั้นผมไว้ไม่ให้ไปไหน

    ผมใช้มือทั้งสองข้างปิดหน้าตัวเองไว้ ยิ่งใบหน้าของแบคฮยอนเข้ามาใกล้เท่าไหร่ผมก็รู้สึกลมหายใจที่กำลังรดรินอยู่บนมือของผมก่อนที่มันจะค่อยๆหายไป

    อื้อ เจ็บ!”

    ผมร้องเสียงดังเมื่อแบคฮยอนเลื่อนริมฝีปากลงมาดูดที่ซอกคอผม ถ้าฝนไม่ตกป่านนี้ผมคงวิ่งหนีแบคฮยอนออกไปตั้งนานแล้ว ไม่ปล่อยให้เขามาทำรุ่มร่ามอะไรแบบนี้หรอกนะ

    ถือว่าแบคจองคยองแล้วนะ ใครเห็นก็คงไม่กล้าจีบแล้วล่ะ

    นายมันบ้าที่สุดเลย!”

    ผมพูดใส่แบคฮยอนอย่างหงุดหงิดแล้วหยิบผ้าขนหนูที่ให้เขายืมมาพาดที่คอตัวเองเพื่อปกปิดรอยคิสมาร์คของเขา ตอนนี้ใบหน้าของผมคงแสดงออกมาได้อย่างชัดเจนว่ากำลังหงุดหงิดอยู่แน่ๆ

    ห้ามมาแตะต้องตัวฉันเด็ดขาด ไม่งั้นฉันจะเกลียดนายไปมากกว่านี้แน่ๆ

    ผมพูดเบรคเมื่อแบคฮยอนจะเข้ามากอดผมอีกแล้ว

    แต่แบคหนาวนะ

    เขาพูดด้วยน้ำเสียงออดอ้อนแต่มันก็ไม่ได้ทำให้ผมรู้สึกดีเลยสักนิด แบคฮยอนทำตัวเหมือนกับว่าเมื่อกี้มันไม่ได้มีอะไรเกิดขึ้นเลยสักนิด แต่ผมไม่ได้คิดแบบเขา รู้มั้ยว่านั่นมันจูบแรกของผมเลยนะ!

    อีกอย่างผมก็ไม่เคยมีแฟนด้วย อยากจะเสียจูบแรกให้คนที่รักมากกว่า ไม่ใช่มาเสียให้คนที่มาแกล้งผมเล่นนะฮะ T^T

    แข็งตายไปเลย ฉันไม่สนใจหรอก ทำตัวไม่ดีเองนี่!”

    แบคฮยอนทำหน้าเศร้าจนเห็นได้ชัด และผมมันก็เป็นพวกใจแข็งซะด้วย ไม่คล้อยตามง่ายๆหรอกนะ

    ใจร้ายว่ะ

    เรื่องของฉัน

    ไม่มีน้ำใจ

    เรื่องของฉัน

    ไม่มีความเมตตา

    หุบปากเลยนะ!”

    คราวนี้ผมลุกขึ้นมองแบคฮยอนอย่างโมโหก่อนจะเดินออกจากศาลาไปทันทีโดนไม่สนว่าฝนตกหนักแค่ไหน ขอทีเถอะ ขออย่าให้ผมได้พบได้เจอกับผู้ชายคนนี้อีกเลย ผู้ชายอะไรฟังภาษาคนไม่รู้เรื่องรึไงนะ ห้ามเท่าไหร่ก็ไม่ฟัง

    แต่เขาว่ากันว่าเกลียดอะไรมักได้อย่างนั้น...

    งั้นผมจะขอให้มันตรงข้ามเพื่อไม่ให้เจอเขาดีกว่า

    ขอให้ผมได้เจอแบคฮยอนบ่อยๆนะครับ!








    _____________________________________________________________________________________
    TALK
    สวัสดี สวีดัส ชาวรีดเดอร์ที่รักของบัตเตอร์ ^O^
    ในที่สุดฟิคแบคโด้ก็เปิดเรื่องงงงงงง!!
    ฝากติดตามด้วยนะคะ เม้นสักนิดจิตใจแจ่มใสฝุดๆ
    สองทุ่มแล้วก็รีบอาบน้ำทำการบ้านแล้วนอนกันซะนะคะ เดี๋ยวจะตื่นสายเอาาา









     

       ชอบเรื่องนี้ก็โหวตกันน่อ                                รักเรื่องนี้ก็เฟบเล้ยยยยยย
              คำอธิบายแบนเนอร์เวลาเมาส์ชี้             คำอธิบายแบนเนอร์เวลาเมาส์ชี้







     

    © themy  butter
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×