ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    {fic exo baekdo.} ll เจ้าเคะกาแฟหอมกับนายเซเคะเงินล้าน ll

    ลำดับตอนที่ #7 : ๏ ch.7 ๏ ๛

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 456
      7
      26 ก.ค. 57




    7



                แจ็คสันเป็นคนวางแพลนทั้งหมดว่าพวกเราจะต้องไปไหนบ้าง เริ่มแรกที่ร้านไอศกรีม ทุกคนดูเฮฮาดีมากเลยล่ะ ผมเองก็อดยิ้มไม่ได้ที่ทุกอย่างมันเปลี่ยนไปจนผมยังดีใจ ส่วนแบคฮยอนไม่ต้องพูดถึง เพื่อนผมชอบเขาทุกคนเลยล่ะ แบคฮยอนเฟรนลี่มากจนใครๆก็ชอบไปเดินคุยด้วยตลอด

    คิดว่านายจะเป็นคนนิ่งๆเย็นชาซะอีก ที่แท้ก็เฟรนลี่คุยง่ายเหมือนกันนะเนี่ยเจบีตบไหล่แบคฮยอนปุๆ

    เฮ้ย เข้าร้านคาราโอเกะกันแจ็คสันหันมาตะโกนบอกพวกผมอย่างไม่อายใครแล้วเดินนำเข้าร้านคาราโอเกะไปก่อนโดยมีอึนจี โชรง แล้วก็พวกผู้หญิงคนอื่นเดินเข้าไปพร้อมกัน

    ผมเดินตามไปทีหลังกับโบมี ส่วนแบคฮยอนตามมาหลังสุดเพราะมัวแต่คุยกับเพื่อนอย่างสนุกสนาน พอเข้ามาในห้องคาราโอเกะห้องใหญ่ ทุกคนก็พากันสั่งเหล้าเบียร์มาไม่อั้นเมื่อแบคฮยอนบอกว่าจะเป็นคนจ่ายให้ ทำหน้าใหญ่จริงๆ นี่แหละนิสัยคนรวย

    ได้ข่าวว่านายคอแข็งไม่ใช่หรอ ดื่มสิ เยอะๆเลยจูเนียร์ยัดเยียดแก้วเหล้ามาไว้ในมือผม

    ก็ไม่ขนาดนั้นหรอก...

    ยังไม่ทันจะพูดอะไรอีกพวกผมก็พากันหันไปหาต้นเสียงของคนที่ร้องเพลงนี้ทันที น้ำเสียงนุ่มทุ้มจนพวกผมพากันเคลิบเคลิ้มกันหมดแล้ว

    ร้องเพลงเพราะชะมัดเลยโชรงกับอึนจีซุบซิบกันอยู่สองคนพร้อมกับสายตาหวานเยิ้มที่มองไปทางแบคฮยอนอย่างหลงไหล

    คนอื่นก็ด้วย ทุกคนต่างมองแบคฮยอนด้วยความหลงไหลหมดเลยล่ะ แต่หลังจากที่แบคฮยอนร้องจบ บรรยากาศในห้องก็กลับมาเป็นเหมือนเดิมเช่นเคย เฮฮาพาที จนกระทั่งแบคฮยอนไปเข้าห้องน้ำ...

    ทำไมนายถึงรู้จักแบคฮยอนล่ะโชรงเข้ามาถามผมอย่างอยากรู้อยากเห็น

    เอ่อ... เขามาจีบฉันน่ะ

    ไม่ใช่ว่าไปอ่อยเค้าก่อนหรอ

    “!!!”

    ผมมองพวกเธองงๆ ในใจเริ่มสังหรณ์ไม่ดีเมื่อทุกคนมองผมด้วยสายตาที่เปลี่ยนไป จากที่เป็นมิตรกลับกลายเป็นสายตารังเกียจและไม่ชอบใจเหมือนเก่า อย่างที่เคยเป็นมาตั้งแต่สมัยเรียน

    นายคงไม่คิดว่าพวกฉันจะญาติดีกับนายจริงๆหรอกนะ

    ฉะ... ฉันคิด

    ผมเริ่มถอยหลังไปเรื่อยๆเมื่อพวกเธอเริ่มเดินมาใกล้

    ฮ่าๆๆ นายมันโง่ว่ะ ใครๆก็รังเกียจนายทั้งนั้นแหละคยองซู เผลอๆแบคฮยอนอาจจะแค่หยอกนายเล่นก็ได้

    แล้วแต่พวกนายจะคิดสิ

    ถึงผมจะกลัวแต่เรื่องปากผมก็ท้อถอยหรอกนะ ยังไงผมก็จะโดนพวกเขาแกล้งอยู่แล้วนี่นา

    หน้าอย่างนายมันก็แค่ผู้ชายร่านๆล่ะน้า ถ้าฉันขอเอานายสักครั้งนายก็คงให้

    ไม่

    วันนี้เป็นวันที่โชคดีจริงๆที่ได้มาเจอนาย มีของเล่นให้เล่นซะแล้วสิ

    ยูคคยอมเดินเข้ามาใกล้แล้วรวบมือผมทั้งสองข้างไว้แน่นก่อนจะเข้ามาประกบปากผมท่ามกลางสายตาของทุกคน

    พวกนายมันเลวที่สุด!

    อย่า! ช่วยด้วย! พวกนายมันเลว

    ส่วนแกมันร่าน!” อึนจีสวนกลับมาเมื่อผมว่าพวกเธอ

    บอกมาสิว่านายน่ะไปอ่อยแบคฮยอน นายไปอ่อยจริงๆใช่มั้ย โชรงเข้ามาบีบคางผมหลังจากที่ยูคคยอมปล่อยผมไปแล้ว

    ไม่ ฉันไม่ได้ทำอะไรทั้งนั้น...

    เหอะ... โกหก!”

    ซ่า!

    เหล้าทั้งแก้วถูกสาดใส่จนผมเปียกไปทั้งตัว

    อย่ามาทำตัวเป็นคนไม่สู้คนไปหน่อยเลย อยากจะกระชากหัวฉันก็บอกมา!”

    โชรง พอเถอะ!”

    โบมีตะโกนแทรกเข้ามาในกลุ่มด้วยน้ำเสียงหงุดหงิด โบมีเป็นคนเดียวที่เธอญาติดีกับผมมาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้วล่ะ เธอเป็นคนหนึ่งที่โดนเพื่อนบังคับไม่ให้มาคุยกับผม ทั้งๆที่เธอก็แอบติดต่อมาบ้าง

    อะไรกันโบมี มาร่วมวงกันสิ สนุกจะตายไปได้แกล้งมันเนี่ย

    พวกเธอบ้าไปแล้วหรอ วันนี้ตั้งใจจะมาเที่ยวนะ

    เที่ยว... นี่ก็เที่ยวนะ ก็แค่แวะเจอของเล่น เราก็ต้องมาเล่นด้วยกันสิโบมีแจ็คสันว่าแล้วแสยะยิ้มมาให้ผม

    ผมก้าวขาเตรียมจะวิ่งหนีแต่แบมแบมก็เห็นทันแล้วยื่นขามาสะกัดขาผมเอาไว้

    ปั้ก!

    ผมล้มจนหัวไปกระแทกเข้าที่โต๊ะเสียงดัง

    ขอโทษที ไม่ได้ตั้งใจน่ะ

    อ๊ะ ไม่นะ! ปล่อย

    ผมดิ้นสุดชีวิตเมื่อแจ็คสันกับมาร์คเข้ามาจับผมเอาไว้โดยมีเจบีเดินเข้ามาคร่อมก่อนจะเลิกเสื้อผมขึ้น แล้วก้มใช้ลิ้นร้อนนั่นเลียลากไล้ตามเนื้อตัวผมจนน่ารังเกียจ

    อ๊า อย่านะ ไม่เอา ฮึก

    รู้สึกหน่วงอยู่ข้างในจนแทบบอกไม่ถูก ผมไม่ชอบเลย อยากจะออกไปจากที่นี่ไวๆ พวกเขาทำเกินไปแล้ว

    ฮ่าๆๆ พวกนายดูสิ หน้ามันตลกชะมัด ปากบอกไม่เอาๆแต่ร่างกายกับเสียงครางเนี่ยมันบ่งบอกเลยว่าชอบแค่ไหนน่ะโชรงกับอึนจีหัวเราะออกมาอย่างบ้าคลั่งจนหมดสวย

    ผมมองพวกเธอผ่านม่านน้ำตาอย่างโมโห แต่ถึงอย่างนั้นก็ทำอะไรไม่ได้อยู่ดีเพราะโดนล็อคไว้

    จูบนายจนปากเจ่อหมดซะแล้วสิ

    เพล้ง!

    ล็อคประตูไว้ไม่ให้กูเข้าแล้วยังวางแผนโง่ๆให้พนักงานมาโกหกกูว่าพวกมึงกลับแล้วเนี่ยนะ แผนโง่ๆ

    ผมแทบอยากจะร้องออกมาด้วยความดีใจเมื่อรู้ว่าเป็นแบคฮยอนที่เข้ามา คงเป็นเพราะเขาเข้ามาไม่ได้ก็เลยชกกระจกประตูเข้ามาเอง ทำให้ที่มือของเขามันเต็มไปด้วยเลือด

    เวรแล้วไง!”

    แจ็คสันว่าเสียงดัง แต่เขาก็ถลาเข้าไปจะชกแบคฮยอนให้ได้ ทว่าแบคฮยอนกลับเร็วกว่า ยื่นมือไปบีบเข้าที่คอของแจ็คสันก่อนจะเหวี่ยงออกไปนอกห้องจนได้ยินเสียงดังโครมใหญ่ แรงแบคฮยอนต้องเยอะมากแน่ๆถึงจะทำแบบนั้นได้

    จับพวกมันออกไปที บอกเจ้าของร้านไม่ต้องแจ้งตำรวจนะ เดี๋ยวผมเคลียร์ให้เอง

    ยามสี่ห้าคนเดินเข้ามาจับคนที่เหลือเอาไว้ก่อนจะพาเดินออกไป ผมค่อยๆลุกขึ้นนั่งแล้วกุมหัวที่กระแทกเข้ากับโต๊ะเบาๆ

    หัวโนเลย... ผมพึมพำเบาๆก่อนจะเงยหน้ามองแบคฮยอนที่วิ่งมาหาผมอย่างเป็นห่วง

    โอ๋ๆ เดี๋ยวก็หาย ฟู่ๆ

    =_=

    ผมมองเขางงๆเมื่อริมฝีปากอมชมพูเป่าที่กลางกระหม่อมผมฟู่ๆ อะไรของเขาน่ะ ผมคิดว่าเขาจะเดินเข้ามาช่วยพยุงผมให้ลุกขึ้นซะอีก

    เป็นอะไรมากมั้ย ต้องไปหาหมอรึเปล่า แบคฮยอนจับเนื้อตัวผมหมุนไปมาแต่ก็เลือกที่จะไม่ไปยุ่งกับมือข้างขวาที่ยังไม่หายดี

    ไม่เป็นไร หัวโนเฉยๆน่ะ

    งั้นหรอ ตัวเปียกหมดแล้ว เอาเสื้อแบคไปใส่ก่อนนะ

    คำพูดเขาดูไม่เครียด น้ำเสียงก็ไม่มีวี่แวว แต่การกระทำของเขาดูเป็นห่วงผม รวมทั้งหน้าตาที่ดูหงุดหงิดนั่นด้วย

    หน้านายดูเครียดๆนะ เป็นอะไร

    จะเป็นอะไรได้ล่ะ อยากจะฆ่าพวกมันให้ตายไปซะตอนนี้เลยน่ะสิ

    งั้นกลับกันเถอะนะ

    แวะล้างตัวที่คอนโดแบคก่อนสิ

    คอนโดนายงั้นหรอ ไกลมั้ยล่ะ ถ้าไกลกว่าบ้านก็ไม่ไปนะ

    ใกล้กว่าละกัน ไปเถอะ

    แต่ก่อนที่จะออกไปจากร้านนั้น แบคฮยอนก็เคลียร์กับเจ้าของร้านเป็นที่เรียบร้อยเรื่องประตูของร้านที่เขาต่อยเข้าไป ส่วนเรื่องเพื่อนๆ แบคฮยอนบังคับให้มาช่วยล้างจานในร้านคาราโอเกะเป็นเวลาสองวัน แล้วจะคอยส่งคนมาดูว่าทำจริงรึเปล่า ส่วนโบมีผมขอให้เขาละไว้เพราะว่าโบมีไม่ได้ทำผิดอะไรเลย

    นายมันอ่อย..

    ก่อนจะเดินจากไปอึนจีก็ไม่วายพูดเบาๆราวกับเสียงกระซิบให้ผมได้เจ็บใจก่อนจาก แต่ดูเหมือนว่าแบคฮยอนจะได้ยินแล้วหันกลับมาพูดในสิ่งที่ผมไม่คาดคิด

    ฉันรักคยอง ฉันนี่แหละเป็นฝ่ายจีบคยองตั้งแต่แรก อีกอย่างนะ... หน้าอย่างคยองหรอจะอ่อยคนเป็น ตั้งแต่รู้จักมาคยองซื่อบื้อชิบหาย

    นี่นายว่าฉันหรอแบคฮยอน แต่ช่างเถอะ เอาเป็นว่าอย่างน้อยเขาก็ช่วยผมให้รอดพ้นจากพวกนี้ก็แล้วกัน แล้วก็อาจจะช่วยลดทิฐิของพวกเขาให้ผมก็ได้

    ทำไมพวกนั้นถึงได้ทำร้ายคยองวะ เพื่อนกันไม่ใช่รึไง!”

    นายอย่าเสียงดังได้มั้ย

    ขอโทษ ก็ว่ามาสิ ว่าพวกนั้นทำร้ายคยองทำไม

    แบคฮยอนพูดอย่างหงุดหงิดก่อนจะออกรถไปสู่ถนน ส่วนผมเองก็มองทางไปด้วยเล่าไปด้วยเหมือนที่เคยเล่าให้เทาฟัง แต่เล่าแบบรวบๆนะ ขี้เกียจเล่าอะไรมากมายเอาแค่ให้เข้าใจก็พอแล้ว

    บ้าบอว่ะคยอง

    ช่างเหอะ

    ยังไงคยองก็มีแบคอยู่แล้ว คยองก็ไม่เหงาหรอก

    นั่นสิ เทาก็ด้วย

    แค่สิบนาทีก็มาถึงคอนโดของแบคฮยอนซะแล้ว เราสองคนออกมาจากรถพร้อมกันแล้วรีบเดินเข้าไปในตัวคอนโดทันที

    ต้องขึ้นลิฟต์มั้ย

    ขึ้นสิ อ่าว ไปซะแล้ว

    แค่ได้ยินคำว่าขึ้นผมก็วิ่งเหยาะๆนำไปที่ลิฟทต์ทันที นี่มันฤดูหนาวนะ หิมะก็ตก ตัวเปียกน้ำขนาดนี้ไม่แข็งตายให้มันรู้ไป

    เร็วๆสิ ฉันหนาวนะ

    ค้าบๆ

    แบคฮยอนรีบเดินเข้ามาโดยมีผมกดให้ประตูลิฟต์เปิดค้างไว้เพื่อรอเขา หลังจากที่เข้ามาผมก็รีบกดปิดทันทีแล้วกดชั้นตามที่แบคฮยอนบอก ห้องเขาอยู่ที่ชั้นบนสุดเลย ให้ตายเถอะ ผมจะแข็งตายมั้ยเนี่ย

    อ๊ะ!”

    ผมสะดุ้งเมื่ออยู่ๆแบคฮยอนก็กอดผมจากด้านหลังไว้แน่นแล้วเอาหน้ามาแนบไว้กับแก้มของผม เอาอีกแล้วนะไอ้บ้า! เขินเป็นนะโว้ยยยยย!

    ปล่อยเลยนะ

    ไม่ กอดให้ความอบอุ่นไง คยองไม่ชอบหรอ หรือว่ามันไม่อุ่นล่ะ

    อุ่นสิ แล้วก็ชอบมากเลยด้วย...

    จุ๊บ!

    คยองชอบทำตัวน่ารักตลอดเลย

    ฉันไปทำตอนไหนเล่า!”

    ผมลูบแก้มตัวเองป้อยๆเมื่อโดนแบคฮยอนจูบแก้มไปทีหนึ่ง ใจมันเต้นตึกๆจนกลัวว่าเขาจะได้ยินเหมือนที่ผมได้ยินเสียงหัวใจของเขาในตอนนี้ ดังมากเลยจริงๆ

    ถึงแล้ว ไปกันเถอะ

    แบคฮยอนจูงมือผมให้เดินออกจากลิฟต์ พอตรงออกมาก็เจอประตูสีน้ำตาลที่มีตัวหนังสือสลักสีเงินเป็นชื่อแบคฮยอน แต่รู้สึกเหมือนชั้นนี้จะมีประตูแต่สองบานนะ สงสัยคงมีแค่สองห้อง แต่อีกห้องสลักสีทองเป็นชื่อของเทาน่ะ

    วา ห้องนายสวยจัง ชอบเลย ห้องในฝันเลยแฮะ ผมพูดเสียงนิ่งแล้วเดินไปรอบๆห้องอย่างตื่นเต้น

    งั้นหรอ ทั้งคอนโดนี้แบคเป็นคนออกแบบเองแหละ

    แบคฮยอนพูดด้วยท่าทีภาคภูมิใจแล้วยิ้มแฉ่ง ได้ทีอวดเลยนะนายน่ะ

    อีกแล้วหรอ บ้านก็ออกแบบเอง คอนโดก็ออกแบบเอง เก่งจังเลย

    แล้วคยองรู้ได้ไงว่าแบคออกแบบบ้านเอง

    ก็คนก่อสร้างบ้านนายเล่าให้ฟังตอนที่ฉันเอาน้ำไปให้น่ะ แล้วก็ช่วงที่พวกเค้าพักแล้วฉันเอาอาหารเที่ยงไปให้เค้าก็เล่าก็อีกเยอะเลยล่ะ

    คงไม่ได้นินทาแบคใช่มั้ย =_=”

    มีแต่เรื่องคุณงามความดีทั้งนั้น เรื่องชั่วมีอย่างเดียว

    มีด้วยหรอวะ... แบคฮยอนทำครุ่นคิดแล้วมองผมงงๆ

    ชอบแต๊ะอั๋งฉันยังไงล่ะ แล้วก็จุ๊บแก้มด้วย กอดด้วย

    ผมดึงหูเขาอย่างหมั่นไส้ ทำเรื่องแบบนี้ไม่คิดจะจำเลยนะว่ามันไม่ดีน่ะ ผมไม่ยอมแท้ๆก็ยังมาขโมยจูบอยู่เรื่อยเลย

    โอ๊ยๆๆ ยอมแล้วค้าบๆ แบคฮยอนทำสำออยร้องโอดโอยทันทีเมื่อผมดึงหูเขาไปมา

    สมน้ำหน้า

    โห เหม็นคยองอ่ะ คยองตัวเหม็นมากเลย ไปอาบน้ำเลยนะ แบคฮยอนไล่เมื่อผมเริ่มใกล้เขามากเรื่อยๆ

    เหม็นขนาดนั้นเลยหรอ

    ใช่ เหม็นตั้งแต่กอดในลิฟต์แล้ว กลิ่นเหล้าฟุ้งเชียว

    งั้นไปอาบก็ได้ เอาชุดนายมาสิ ผ้าขนหนูด้วย ผมแบมือยิกๆให้เขาเอาเสื้อผ้ามาให้

    รีบอาบน้ำนะ ออกมาจะได้หอมแก้มหอมๆ

    อย่าหวังว่าจะได้หอมอีก!”

    ผมที่กำลังจะวางกระเป๋าตังค์ไว้ที่โต๊ะก่อนจะเข้าห้องน้ำก็ต้องเปลี่ยนใจโยนใส่แบคฮยอนทันที ไม่พ้นเรื่องแต๊ะอั๋งเลยนะไอ้นี่ เดี๋ยวเหอะ!

    หวังทั้งวันทั้งคืนแหละแบคอ่ะ คยองไม่ให้แต่แบคก็จะหอม

    ฮึ่ย!”

    ผมทำเสียงอย่างหงุดหงิดแล้วเดินเข้าห้องน้ำไปทันทีเมื่อแบคฮยอนเริ่มเลียริมฝีปากแล้วมองผมอย่างกับจะกลืนกินเข้าไปอยู่แล้ว

    แต่พอหลังจากที่อาบน้ำแต่งตัวเสร็จก็เห็นแบคฮยอนนั่งพิมพ์ก๊อกแก๊กๆอีกเช่นเคย งานคงเยอะน่าดูน่ะนะ ส่วนตัวผมเองก็ไม่มีอะไรทำเลยเดินเข้าห้องครัวก่อนจะเปิดดูทุกอย่างว่ามีอะไรบ้างพอจะทำเป็นอาหารว่างได้ แต่สุดท้ายผมก็ลงเอยด้วยการชงชามะลิที่มีอยู่ เพราะเกือบลืมไปว่ามืออีกข้างผมมันใช้งานไม่ได้ ถ้าจะทำกับข้าวมือเดียวก็คงจะลำบากไปหน่อย

    ฉันวางไว้ตรงนี้นะ

    แบคฮยอนพยักหน้าเมื่อผมวางถ้วยชาไว้ที่โต๊ะเล็กข้างๆเขา ผมกระโดดลงบนโซฟาแล้วหยิบรีโมทเปิดทีวีดูทันที

    แบคมีเรื่องจะถาม

    อะไรอ่ะ ผมหันไปหาเขาที่พูดไปด้วยพิมพ์ไปด้วย

    ทำไมเวลามีเสียงดังหรือเวลาที่แบคเผลอตะคอกใส่ ทำไมคยองต้องเอามือไปกุมที่หน้าอกด้วย

    ตั้งนานเพิ่งจะมาถาม ต้องรอให้ฉันหัวใจวายตายก่อนใช่มั้ยถึงจะรู้เนี่ย แต่เขาก็คงสังเกตได้ละมั้งว่าเวลาเจอเสียงดังๆผมจะเอามือไปกุมที่หน้าอกข้างซ้ายจนเป็นนิสัย

    ฉันเป็นโรคกลัวเสียงดังน่ะ

    อ๋อ

    จบการสนทนา ผมก็หันกลับมาสนใจสารคดีในทีวีต่อ และเนื่องจากมันน่าเบื่อผมก็เลยเดินไปเลือกแผ่นหนังที่อยู่บนชั้นใส่ซีดีสูงๆ จนกระทั่งผมก็ลงเอยด้วยการหยิบหนังผีมาดูซะเลย อยากรู้ว่ามันน่ากลัวแค่ไหน

    ทองศุกร์ 18”

    ผมมองแผ่นหนังชื่อแปลกๆ หน้าแผ่นบอกว่าเป็นหนังของประเทศไทย งั้นก็คงต้องลองดูซะแล้วล่ะ เพราะหนังผีของประเทศไทยติดอันดับน่ากลัวเยอะเหมือนกัน

    ฮ่าๆๆ ผีเดินตลกชะมัด

    ผมแทบจะขำทองแข็งเมื่อเห๋นท่าเดินของผี เดินแปลกดีนะ ทำท่าสะพานโค้งเนี่ย แต่อะไรก็คงจะไม่น่ากลัวเท่าตอนที่เจอผีนั่งหัวเราะอยู่ท้ายเรือ หน้าอัปลักษณ์มาก แล้วหัวเราะซะเสียงมันหลอนก้องทั้งหัวเลยล่ะ ให้ตาย ผมหลอนจนต้องปิดเสียงฉากนี้ไปเลย

    นอนไม่หลับแน่ๆเรา =_=” ผมพึมพำอยู่อย่างนั้นแล้วทำท่าขนลุก ก็ไม่ค่อยน่ากลัวหรอก แต่เจอแล้วหลอนเลยน่ะนะ...

    คยอง กินข้าว

    ห้ะ! นายไปทำอาหารมาตอนไหนน่ะ

    ตั้งนานละ คยองมัวแต่ดูหนังไม่สนใจอะไรเลย

    แต่ฉันกินไม่ลง...

    กินลงก็แปลก ผีหน้าเละจนกินอะไรไม่ลง ติดตาเหมือนแบคดูตอนแรกๆเลย

    นายดูคนเดียวหรอ ไม่กลัวหรอ

    ไม่นะ อย่างน้อยก็ไม่ได้เหมือนคยองที่เห็นผีแล้วนั่งหัวเราะคิกคักหรอก ประสาทกลับ

    ผมเบะปากใส่เขาทันที แบคฮยอนวางจานพาสต้ากิมจิลงบนโต๊ะหน้าโซฟาแล้วนั่งลงบนพื้นเพื่อจะเตรียมตัวกิน ส่วนผมก็รีบเปลี่ยนแผ่นหนังเป็นหนังตลกแทนเพราะไม่อยากดูหนังผีอีกต่อไป เดี๋ยวจะกินไม่ลง

    อ่าว เซ็งเลย ผมว่าเซ็งๆเมื่อกำลังจะยื่นมือไปหยิบส้อมแต่เกือบลืมไปว่ามือข้างขวาโดนพันผ้าก็อตไว้อยู่

    เออ แบคก็เกือบลืมไปเลยว่าคยองเจ็บอยู่ มะ เดี๋ยวป้อน

    ผมอ้าปากรับเส้นพาสต้าที่กำลังถูกป้อนเข้ามาช้าๆ แต่ทำไมแบคฮยอนต้องเอาหน้าเข้ามาใกล้หน้าผมขนาดนี้ด้วย ใช้มือป้อนนะ ไม่ได้ใช้หน้าป้อนซะหน่อย เกือบจะได้จูบกันแล้วถ้าไม่ติดว่ามีส้อมอยู่ตรงหน้า =_=

    อร่อยดีนะ นายนี่เก่งไปซะทุกอย่างเลยรึไง

    ผมชมเปราะ เพราะตั้งแต่รู้จักมาไม่มีอันไหนที่เขาทำไม่ได้เลย แถมยังไม่เคยคิดเลยว่านักธุรกิจร้อยล้านพันล้านจะมาซ่อมแอร์เป็น ทำขนมก็อร่อย ทำอาหารก็ได้ สู้ก็เก่ง แถมยังฉลาด หือ ฉลาดหรอ... อยู่กับผมแล้วเหมือนเด็กๆชะมัด ถึงแม้ว่าเขาจะน่ากลัวเป็นบางครั้งก็ตาม

    ไม่เชิงมั้ง ก็ชอบหาอะไรทำเล่นๆ ทำไปทำมาก็ชำนาญ

    ทำเล่นๆของนายอย่างเช่นซ่อมแอร์หรอ นั่นนายทำเล่นๆด้วยรึเปล่า แอร์บ้านฉันคงไม่เป็นอะไรหนักกว่าเก่าใช่มั้ยเนี่ย แบบว่าใช้งานได้แต่ตัวเครื่องทำงานหนักกว่าเดิมจนระเบิดไฟไหม้บ้านแล้วมันก็ลามไปทั่วบ้าน พอลามไปทั่วบ้านก็ลามไปทั่วทั้งหมู่บ้านอะไรอย่างเงี่ย

    งั้นหรอ นายคงช่วยฉันได้เยอะเลยนะถ้ามาอยู่กับฉันน่ะ

    ตอนนี้ก็อยู่ไม่ใช่หรอ เดี๋ยวในอนาคตก็อาจจะอยู่ด้วยกันตลอดไป

    พูดอะไรของนายน่ะ มโนหรอ =_=”

    ไม่ได้มโนนะ ในอนาคตแบคกับคยองจะแต่งงานกันแล้วจะอยู่ไปด้วยกันจนวันตายเลยล่ะ

    ผมมองเขาอย่างเหลือเชื่อ รอยยิ้มสี่เหลี่ยมนั้นสดใสมากเมื่อพูดถึงเรื่องนี้ แบคฮยอนเป็นคนที่ดูเงียบ นิ่งขรึม ฉลาด ทำงานเก่ง แต่ลึกๆแล้วเขาดูหวังกับเรื่องพวกนี้มากเลยนะ เขาดูเป็นคนที่ฝันอยากจะมีความรักที่งดงามเหมือนที่เขาวาดไว้ เขากำลังหวังความรักจากผมอย่างเต็มเปี่ยม

    นายวาดฝันไว้มากเลยนะ ไม่กลัวผิดหวังหรอ

    ไม่หรอก ทำไมล่ะ คยองยังมีใครอยู่อีกหรอ ไหนบอกว่าไม่มีแฟนไง

    แบคฮยอนถามผมด้วยสีหน้าสงสัยแต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่วายที่จะคอยป้อนพาสต้าเข้าปากผมอย่างบรรจง

    ก็ไม่มีหรอก แค่คิดว่านายหวังสูงมากเกินไป มันจะดีแล้วจริงๆหรอ

    เฉยๆน่ะ แบคแค่คิดว่าถ้าคยองไม่รักก็จะพยายามตัดใจ พอพูดถึงมันแล้วแบคเจ็บใจล่วงหน้าเลยแฮะ

    เขาเข้มแข็งจัง...

    ครืด ครืด

    พ่อโทรมา OoO!”

    ผมว่าอย่างดีใจแล้วกดรับทันที กว่าจะกลับบ้านมาได้นะพ่อ ต้องรอให้แม่กับลูกเฉาตายก่อนรึไง

    ยอโบเซโย

    ผมกดเปิดลำโพงเมื่อรับสายของพ่อ เพราะพ่อชอบพูดเสียงเบาก็เลยไม่ค่อยได้ยิน ยิ่งพ่อชอบใส่สมอลทอร์คนี่ยิ่งไม่ได้ยินเข้าไปใหญ่เลย

    [คยองซู พ่อเข้าบ้านไม่ได้ พ่อเผลอทำกุญแจตกน้ำตอนไปตกปลา]

    พ่อทำกุญแจบ้านตกน้ำไปหารอบแล้วนะฮะ =_=”

    ไม่อยากจะบอกว่าผมต้องไปปั๊มกุญแจบ้านนับสิบกว่าอันมาเก็บไว้ในลิ้นชักเผื่อเวลาพ่อทำตกน้ำ พ่อชอบทำตกบ่อยๆจนผมขี้เกียจออกไปปั๊มแล้วล่ะ เพราะเจ้าของร้านจำหน้าผมได้แล้วเนี่ย

    [เถอะน่า อย่าโกรธเลย กลับมาเปิดบ้านให้พ่อก่อนสิ พ่อเหนื่อยจะตายอยู่แล้ว ตอนนี้แกอยู่ในเนี่ย]

    อยู่คอนโดแบคฮยอนฮะ

    [แบคฮยอน... ลูกยัยแทยอนน่ะหรอ เออ รีบกลับมาเลย อยากเห็นหน้าลูกยัยนั่นมานานแล้วล่ะ รีบมานะลูก]

    ตู๊ด ตู๊ด ตู๊ด

    ปะ ไปกันเหอะ

    วางสายไปไม่ถึงห้าวิ แบคฮยอนก็หยิบกุญแจรถเตรียมพร้อมจะเดินทางอย่างว่องไว เอ่อ... ฉันอยากกินพาสต้าต่อนะแบคฮยอน นายกระตือรือร้นยิ่งกว่าคนเป็นลูกจริงๆอย่างฉันเลยนะ T.T

    ก็ได้...

    ผมจำใจต้องลุกขึ้นยืนแล้วเดินไปพร้อมกับเขาเสียไม่ได้ ลาก่อนนะ พาสต้าแสนอร่อย...

    ทำไมคยองทำหน้าเหมือนจะบาดใจตายแบบนั้นล่ะ เขาทักขึ้นหลังจากที่เข้ามาในลิฟต์

    ก็ฉันอยากกินพาสต้าต่อนี่นา มันอร่อยมาก แต่นายจะไปรับพ่อก็เลยต้องตามมา T_T”

    อีกอย่างเราก็วางจานทิ้งไว้บนโต๊ะซะด้วย เดินออกมาโดยไม่ได้เก็บจานพาสต้าที่ยังเหลืออยู่เต็มจานเลยล่ะ อยากกิน ผมชอบทุกอย่างที่มีกิมจิ

    ไว้กลับไปบ้านเดี๋ยวแบคทำให้ใหม่ก็ได้

    แต่ว่า...

    ไปหาพ่อคยองก่อนนะ เห็นอาหารสำคัญกว่าพ่อได้ยังไงฮะคยอง

    ถ้าเป็นเรื่องกิมจิมันจะสำคัญกว่าสิ่งใดในโลกเลยล่ะ

    ผมว่าด้วยสีหน้าจริงจัง กิมจิเป็นอาหารหลักของเกาหลี กินมาตั้งแต่เด็กยันโตยังไม่เบื่อเลย ชอบมากเลยด้วย!

    นับวันยิ่งน่ารักนะเรา

    จุ๊บ!

    อยู่ดีๆเขาก็พูดด้วยน้ำเสียงหวานแล้วจูบที่ปลายจมูกผมซะงั้น นายชักจะทำให้หัวใจของฉันทำงานหนักขึ้นเรื่อยๆนะแบคฮยอน ถ้าฉันไม่ได้เป็นแค่โรคกลัวเสียง ฉันอาจจะเป็นโรคคลั่งความรักของนายก็ได้นะเนี่ย

    นับวันนายก็ยิ่งแต๊ะอั๋งฉันบ่อยขึ้นเรื่อยๆเลยนะ -///-”

    ผมหยิกหูเขาเบาๆอย่างหมั่นไส้ แต่ด้วยความแอคติ้งโอเว่อร์ของเจ้าตัว แบคฮยอนก็เป็นมีเสียงร้องโอดโอยเหมือนโดนกัดหูขาดอย่างไงอย่างงั้น

     

    หลังจากที่แบคฮยอนจอดรถในบ้านตัวเอง ผมก็ดิ่งออกมาจากบ้านเขาแล้วตรงไปหาพ่อที่นั่งรออยู่สวนหน้าบ้านทันที ดูสิ แบกกล่องโฟมมาด้วย คราวนี้สองกล่องเลยหรอเนี่ย คงได้ปลามาเยอะน่าดูเลยนะ

    อ้าว ไอ้แบคฮยอน จำหน้าได้แล้วๆ ไอ้เด็กที่มันชอบมาช่วยพ่อทำสวนบ่อยๆเมื่อหลายปีก่อนนี่หว่า

    พ่อซีวอนหรอ ก็ว่าอยู่ว่าทำไมหน้าคุ้นๆ ไม่ได้เจอกันนานเลย แบคฮยอนเดินเข้าไปกอดพ่อผมทีหนึ่ง

    อะไรกัน รู้จักกันตอนไหนเนี่ย ทำไมผมไม่รู้เรื่องเลย ผมถามพลางมองหน้าพ่อกับแบคฮยอนสลับกันไปมาด้วยความงง

    สมัยแกยังมัธยมโน่น ไอ้แบคฮยอนชอบมาช่วยพ่อทำสวนช่วงเที่ยงๆน่ะ มันเรียนโรงเรียนเอกชนก็เลยออกมากินข้าวที่บ้านเราบ่อยๆ ก็เลยไม่เคยเจอหน้าแก

    แล้วแบคฮยอนมาที่นี่ได้ยังไง เขาไม่มีบ้านอยู่แถวนี้สักหน่อย

    ถามมากจริงไอ้ลูกคนนี้ บ้านก็อยู่กันคนละฟากโลกนั่นแหละ แต่โรงเรียนไอ้แบคมันใกล้บ้านเรา ไอ้แบคก็เลยมาที่นี่บ่อยๆไง

    งั้นก็แสดงว่าทุกคนรู้จักกันหมดอยู่แล้ว มีแค่ผมไม่รู้จักใครงั้นหรอ

    เออน่ะสิ แกน่ะมันชอบหมุดอยู่ในหลุมอยู่เรื่อย เวลาให้ไปเที่ยวด้วยกันจะได้เจอไอ้แบคก็ไม่ยอมไป

    ก็คนมันขี้เกียจนี่นา

    เออๆ เข้าบ้านๆ อยู่ด้านนอกหนาวจนตับแข็งแล้วเนี่ย

    พ่อผมปัดมืออย่างไม่ใส่ใจแล้วไล่ให้ผมไปเปิดประตูให้ก่อนจะช่วยกันยกของเข้าบ้าน มันหนักมาก! หนักกว่าครั้งไหนๆที่เคยยกซะอีก

    หนักจังผมบ่นเบาๆ

    หนักอยู่แล้ว พ่อได้ปลาหมึกยักษ์มา ว่าจะให้แม่ผัดกับกิมจิให้ แต่แม่โทรมาบอกพ่อว่าจะไปเที่ยวกับยัยแทยอนนี่หว่า

    ผมเปิดกล่องโฟมให้ดู เผยให้เห็นปลาหมึกสีแดงสดๆที่ยังไม่ตายกำลังใช้หนวดเตาะแตะ(?)สะเปะสะปะไปมาอยู่ในกล่อง

    จริงหรอฮะ แต่ผมอยากกินตอนนี้เลยนี่นา

    จะทำยังไงล่ะ พ่อก็อยากกินนะแต่พ่อทำไม่เป็นซะด้วย

    “*o*”

    ผมหันไปมองแบคฮยอนด้วยสายตาระยิบระยับ แบคฮยอนยิ้มบางๆอย่างอ่อนโยนแล้วยีหัวผมเบาๆก่อนจะเอ่ยออกมา

    ถ้าอยากกินแบคก็จะทำให้

    เย้!”

    ผมยกมือขึ้นทำท่าดีใจแล้วช่วยแบคฮยอนยกกล่องปลาหมึกไปไว้ที่ห้องครัวอีกที ส่วนพ่อก็แยกตัวออกไปอาบน้ำบนบ้าน ผมทำขนมเป็น แต่ผมทำอาหารไม่เป็น เพราะฉะนั้นผมก็เลยต้องยืนดูแบคฮยอนอยู่ห่างๆ

    ทำไมแบคไม่เคยเห็นคยองทำขนมเลยล่ะ อยากถามมานานละ เป็นผู้จัดการคาเฟ่แท้ๆแบคฮยอนจับหนวดปลาหมึกมาเฉือนไปด้วยพลางคุยกับผมไปด้วยอย่างชิลๆ

    พี่เฉินไม่ยอมให้ทำน่ะ ความจริงอยากจะช่วยมากๆเลยแต่โดนไล่ตะเพิดออกมาตลอด แต่ว่าฉันกับพี่เฉินปาติซิเย่ระดับมืออาชีพเหมือนกันก็คงทำอร่อยไม่แพ้กันหรอก เพราะก่อนจะเข้ามาเป็นคนทำขนมให้ร้านต้องสอบให้ฉันตรวจความสามารถก่อนน่ะ

    งั้นหรอ แบคอยากกินขนมฝีมือคยองบ้างจัง

    ไว้วันหลังฉันจะทำให้กินนะ ตอนนี้ฉันขอรอนายทำปลาหมึกผัดกิมจิก่อนดีกว่า ^o^”

    เรื่องกิมจิต้องไม่พลาด งานอาหารต้องมาอันดับหนึ่ง อยากช่วยนะฮะ แต่ว่าผมทำไม่เป็น ผมกลัวมีดจะบาดด้วยล่ะ แต่ถ้าเรื่องทำขนมละก็ ถ้ามีหั่นเนยแบบนั้นพอทำได้ แต่เรื่องอาหารมันคนละอย่างกันเลย

    แล้วงานของนายมันหนักมากมั้ยผมถามเขาบ้าง

    หนักสิคยอง พรุ่งนี้แบคต้องไปอเมริกาสองวันก็กลับแล้ว คยองอยู่ได้นะ

    พูดเหมือนฉันขาดนายไม่ได้เลยนะ -3-”

    แน่นอนอยู่แล้ว ทำอาหารก็ไม่ค่อยจะเป็น ทำเป็นแค่ขนม แล้วคยองจะอยู่ได้หรอ

    ซื้ออาหารสำเร็จรูปมากินก็ได้นี่นา เบอร์เกอร์ก็มี

    แบคฮยอนขมวดคิ้วเป็นโบว์แล้วหันมามองผมอย่างดุๆ รู้สึกเหมือนได้ยินเสียงอะไรขาดปึ๊ดสักอย่างเลยนะว่ามั้ย เหมือนจะเป็นเส้นอารมณ์ของแบคฮยอนนะ...

    นั่นมันอาหารขยะนะคยอง มีแต่สารกันบูด ห้ามกินเด็ดขาดเพราะแบคจะให้พี่เลย์คอยตามมาดูคยองทุกวันเลย

    แบค... นายอย่าทำแบบนี้สิ กิมจิสำเร็จรูปก็อร่อยนะ T..T”

    ห้าม กิน เด็ด ขาด

    ไม่นะ กิมจิสำเร็จรูปยี่ห้อดังที่ผมชอบจะไม่ถูกผมหยิบมาอีกแล้วหรอ ไม่ได้การล่ะ ถ้าพี่เลย์หรือว่าแบคฮยอนเปิดตู้เย็นแล้วเจอกิมจิสำเร็จรูปที่ผมซื้อมาตุนไว้กว่ายี่สิบห่อ พวกเขาต้องเอาไปทิ้งแน่ๆ

    อ้อ ส่วนกิมจิสำเร็จรูปในตู้เย็น...

    ไม่น้าาา อย่าทิ้ง ขอร้องล่ะ T__T”

    นายทำให้ฉันถึงกับร้องโอดครวญเลยนะแบคฮยอน กิมจิมันคือตัวแทนชีวิตครึ่งหนึ่งของฉันเลยนะเว้ย ทำแบบนี้ได้ยังไง นายมันนิสัยไม่ดี!

    ไม่สนล่ะ ทำผัดหมึกกิมจินี่เสร็จเมื่อไหร่ แบคจะริบไปทิ้งขยะให้หมดเลย

    ต้องวางแผนซะแล้ว อย่างน้อยๆผมก็ขอแอบเก็บไว้สักสองสามห่อเลยก็ได้ หรือถ้ามากกว่านั้นก็เก็บไว้ทั้งหมดเลยดีกว่า ดีนะที่ห้องผมก็มีตู้เย็นตู้เล็กอยู่ข้างบน จะเอาไปยัดเก็บไว้ในนั้นให้หมดเลย

    ผมไม่รอช้ารีบเปิดตู้เย็นระหว่างที่แบคฮยอนเผลอแล้วหยิบกิมจิออกมาก่อนสองห่อ แล้วเอาไปวางไว้ที่โซฟาในห้องรับแขกเพื่อตุนไว้แล้วจะได้หอบขึ้นไปแช่ด้านบนทีเดียวเลย

    คยองซู เอากิมจิมากองไว้ที่โซฟาทำไมวะ มันเกะกะ พ่อจะนอน

    ชิ้ง!

    T^T

    แบคฮยอนหันมามองผมด้วยสายตาที่แหลมคมพร้อมจะจับผมไปย่างได้ในตอนนี้ ส่วนผมก็ทำหน้าไม่ถูกเลยได้แต่ยิ้มแห้งๆแล้วเดินออกไปที่ห้องรับแขกอย่างรวดเร็ว

    พ่อนะพ่อ จะพูดเสียงดังทำไมเนี่ย รู้งี้ไม่เอาออกมาวางไว้บนโซฟาดีกว่า T__T

    เอ้อ ไอ้เด็กคนนี้ เอาของมาวางไม่รู้จักที่จักทางเลยนะ เอาไปเก็บไว้ในตู้เย็นเหมือนเดิมเลยนะ

    ฮะๆ จะเอาไปเก็บแล้วฮะ

    ผมตอบรับอย่างป่วยจิตเมื่อพ่อบ่นออกมา แต่สิ่งที่ทำให้ผมต้องหยุดชะงักก็คือเสียงของแบคฮยอนเอ่ยออกมาพร้อมกับร่างสูงกว่าผมที่กำลังเดินมาทางนี้

    พ่อไม่ต้องให้คยองเอาไปเก็บหรอก เอาไปทิ้งเลยดีกว่า อาหารสำเร็จรูปมันไม่ดีต่อสุขภาพนะครับ

    งั้นเรอะ แต่คยองมันจะตายเอาได้นะ ชีวิตมันขาดกิมจิได้ที่ไหน

    ผมพยักหน้าอย่างเห็นด้วย รู้สึกซาบซึ้งใจกับสิ่งที่พ่อพูดออกมาอย่างบอกไม่ถูกจนผมคิดว่าผมอยากจะร้องไห้กับคำพูดนี้จนเป็นสายเลือด

    ไม่เป็นไรครับ ไม่ตายง่ายๆหรอก แต่ถ้าจะตายง่ายก็คงเป็นเพราะสารกันบูดในอาหารนั่นแหละ

    ไม่เอานะแบค นายอย่าทำแบบนี้สิ

    ผมเดินตามติดแบคฮยอนไปตลอดทางจนถึงหน้าบ้านซึ่งมีถังขยะคอยต้อนรับกิมจิที่แบคฮยอนกำลังหอบไปทิ้ง

    ไม่นะ สุดที่รักของผม... ToT

    ถ้าคยองไม่อยากให้แบคทิ้งก็ต้องหาอะไรมาแลกเปลี่ยนก่อนสิ

    งั้นหรอ อืม... คิดไม่ออกเลยว่าจะเอาอะไรมาแลก เอาปลาหมึกของพ่อฉันไปกินที่อเมริกาด้วยมั้ยล่ะ

    ทุกอย่างมีค่าสำหรับผมมากเลยนะ มันคงยากที่ผมจะเอามาแลก

    ไม่ล่ะ =_=”

    แล้วนายจะเอาอะไรล่ะ ฉันไม่มีอะไรจะแลกนายหรอก

    มีสิ ก็จูบไงล่ะ

    อะ อะไรนะ O///O”

    ไม่นะ... หัวใจของผมมันจะเต้นแรงเกินไปแล้ว

    จูบครั้งหนึ่งแลกกับกิมจิหนึ่งห่อ

    ไม่พูดพร่ำทำเพลงอะไรทั้งนั้น ผมยืนหลับตาแล้วเผยอปากให้เขาทันที

    ยอมเสียทุกอย่างเพื่อกิมจิเลยนะ!

    นิ้วเรียวสัมผัสที่ปลายคางผมเบาๆแล้วยกให้เงยหน้าขึ้น ริมฝีปากของผมถูกประกบเข้าช้าๆอย่างนุ่มนวลและเต็มไปด้วยความละมุน แทบจะไม่มีแรงเมื่อลิ้นร้อนนั้นเอาแต่วนรอบลิ้นของผมไปมาแล้วหยอกเล่นจนรู้สึกอาย ก็ผมจูบไม่เป็นนี่นา

    แค่ครั้งเดียวนายจูบซะนานเลยนะ แบบนี้ฉันแลกไม่ไหวหรอก

    ผมบ่นอุบเมื่อเขาถอนริมฝีปากออก ผมไม่สบสายตาเขาสักนิด มันเขินจนไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหนแล้ว แรกก็ๆไม่อายแต่ตอนนี้เริ่มรู้สึกอายแล้วล่ะ ทำเพื่อกิมจิจนลืมศักดิ์ศรีอันน้อยนิดของตัวเองไปเลย

    แต่มันก็ยิ่งน่าอายกว่าเดิมเมื่อผมเพิ่งรู้ตัวได้ว่า...

    เราจูบกันหน้าบ้าน!

    หน้าผมคงจะแดงแข่งกับเท้าช้าง(?)แล้วล่ะ T///T

    งั้นทิ้งล่ะนะ

    ไม่นะ!”

    ผมมองกิมจิทุกห่อด้วยสายตาละห้อย มันกำลังล่องลอยลงถังขยะไปทีละห่อ แล้วผมยอมให้เขาจูบไปเพื่ออะไรล่ะ ไอ้คนเจ้าเล่ห์!

    ฉันเกลียดนายที่สุดเลยแบค กิมจิของฉัน...

    งั้นแบคจะทำกิมจิเก็บไว้ในตู้เย็น คยองจะกินมั้ยล่ะ

    กินอยู่แล้ว ทำเยอะๆเลยนะ *o*”

    ได้ของดีต้องไม่พลาด ผมไม่โง่ปฏิเสธหรอก ทุกอย่างที่มีกิมจิต้องเป็นของผมคนเดียวเท่านั้น ให้ตายเถอะ เวลาพูดเรื่องกิมจิทีไรผมเหมือนเปลี่ยนไปเป็นคนละคนเลย แทบจะเป็นบ้าตายเพราะกิมจิอยู่แล้วเนี่ย

    พ่อ! แบคบอกว่าจะทำกิมจิให้ผมด้วยล่ะ ดีใจจังเลย

    ผมเดินไปนั่งข้างพ่ออย่างอารมณ์ดีเมื่อเดินเข้าบ้านแล้วฮัมเพลงเบาๆ

    แต่พ่อไม่ได้อยู่กินด้วยนะ พรุ่งนี้พ่อมีนัดไปดูบ่อตกปลาที่กวางจูน่ะ เผลอๆอาจจะค้างที่นั่น แกก็เฝ้าบ้านดีๆละกัน

    อีกแล้ว ช่วงนี้พ่อไปบ่อยเกินไปแล้วนะ

    ผมมองพ่ออย่างชั่งใจ ชีวิตการตกปลาแค่ผมเห็นก็เหนื่อยแทนแล้วนะเนี่ย ไปนู่นไปนี่บ่อยมากจริงๆ แต่ผมก็ไม่ได้ว่าอะไรหรอก เพราะพ่ออยากมีชีวิตว่างๆที่แสนสุขแบบนี้มานานแล้วนี่นา

    แต่ก่อนพ่อกับแม่ทำงานหนักจะตายไป ผมก็เลยพยายามเรียนเก่งๆถึงจะไม่ได้เก่งมากแต่สุดท้ายก็จบจนมีงานทำจนได้ พอมีงานผมก็บอกให้พ่อกับแม่ลาออกจากบริษัทเพื่อจะได้อยู่บ้านสบายๆสักที ก็เลยกลายเป็นผมเนี่ยแหละที่เป็นเสาหลักของบ้าน

    อยากให้พ่อกับแม่มีชีวิตที่ผาสุขเพราะผม อยากทำงานทดแทนบุญคุณ คอยช่วยคอยดูแลให้พ่อกับแม่มีความสุข เท่านั้นผมก็พอใจแล้วล่ะ แค่ได้เห็นพ่อกับแม่ยิ้มอย่างมีความสุข ไม่ได้แฝงไปด้วยความเหนื่อยจากการทำงาน แค่นั้นผมก็ดีใจแล้ว

    เถอะน่า อยากไปแข่งตกปลาอีกสักรอบ

    พอจบรอบนี้เดี๋ยวก็ขออีกสักรอบใช่มั้ยล่ะ พ่อก็เป็นแบบนี้ตลอดนั่นแหละ ผมเป็นห่วงนะ

    ไอ้ลูกคนนี้นี่ -*-”

    พ่อเริ่มงอนผมอีกเช่นเคยเมื่อโดนเอ็ด ก็เลยทำให้ผมอดยิ้มไม่ได้ เดี๋ยวพ่อก็หายโกรธเองนั่นแหละ ขี้น้อยใจอยู่เรื่อยเลย

    อาหารมาเสิร์ฟแล้วค้าบบบ

    หอมน่ากินดีว่ะไอ้แบค

    พ่อทิ้งตัวลงนั่งกับพื้นทันทีเมื่อแบคฮยอนวางจานลงบนโต๊ะเล็กหน้าโซฟา ส่วนผมก็คอยให้แบคฮยอนป้อนใส่ปาก

    ทำไมไม่กินเอง ให้แบคฮยอนป้อนทำไม

    พ่อถามผมงงๆแล้วมองที่มือผมก่อนจะทำหน้าถึงบางอ้อ เจอกันตั้งนาน เพิ่งจะมาเห็น พ่อผมตาถั่วสุดๆ

    มือไปโดนอะไรมา ไปเล่นกับมีดมาหรอ

    เล่นมีดซะที่ไหนล่ะ จะโดนเค้าแทงตายน่ะสิไม่ว่า

    อุบัติเหตน่ะพ่อผมว่าสรุปๆเพราะรู้ว่ายังไงพ่อก็ไม่ได้ใส่ถามลึกเท่าแม่หรอก

    ถ้าเป็นแม่ก็คงจะถามว่าไปโดนเมื่อไหร่ ที่ไหน เพราะอะไรถึงโดน แล้วก็บลาๆมากมายเลยล่ะ

    แต่แกก็กินได้แบบไม่ให้ไอ้แบคป้อนไม่ใช่หรอ

    กินยังไง พ่อพูดอะไรของพ่อ -o-”

    ก้มลงกินกับจานไง

    ผมไม่ใช่หมานะ

    นิสัยชอบหลอกด่าของพ่ออยากจะเก็บเอาไปโยนทิ้งจริงๆเลย ชอบหลอกด่าลูกตัวเองอยู่ตลอดเวลา ถ้าไม่หลอกด่านี่ก็คงไม่ใช่พ่อผมแน่นอนล้านเปอร์เซ็น

    เป็นสุนัขก็ได้

    มันต่างกันตรงไหนฮะพ่อ ผมเบะปากใส่พ่อแล้วอ้าปากเมื่อแบคฮยอนคีบปลาหมึกกับกิมจิใส่ปากอย่างบรรจง

    มองแกสองคนทีไร รู้สึกเหมือนตัวเองเห็นโลกเป็นสีชมพูเลยว่ะ พวกแกสองคนอย่างกับเป็นแฟนกัน =_=”

    พ่อมองผมกับแบคฮยอนสลับกันไปมาด้วยสายตางงๆ พ่ออย่าเข้าใจผิดแบบนั้นสิ โลกของผมมันเป็นสีพาสเทลอาร์ตๆเท่ๆนะ โลกสีชมพูมีที่ไหนล่ะถ้าพ่อไม่คิดไปเอง ถ้าอย่างแบคฮยอนก็เป็นโลกสีดำทะมึนต่างหากล่ะ เข้ากับลุคนักธุรกิจดี(เกี่ยวไหมเนี่ย -__-)

    ยังไม่เป็นแฟนกันหรอกครับ แค่กำลังดูใจกันอยู่ ^_^”

    =[]= >> หน้าผม

    -w- >> หน้าพ่อ

    นี่อย่าบอกนะว่าพวกแกชอบพอกันน่ะ แล้วคยองมันต้องไปแปลงเพศมั้ยล่ะไอ้แบค เดี๋ยวพ่อจะพามันไปทำ

    พ่ออ่ะ!”

    ผมมองค้อนพ่ออย่างเสียไม่ได้ ก็ดูพ่อพูดสิ จะบ้าตาย! ผมไม่ไปแปลงเพศหรอกนะ ไม่ได้อยากเป็นผู้หญิงซะหน่อย ถ้าคนเรามันจะชอบกันจริงๆก็ไม่เห็นต้องเปลี่ยนแปลงอะไรมากมายหรอก ชอบในสิ่งที่ต่างฝ่ายต่างมีก็พอแล้วไม่ใช่รึไง

    ไม่จำเป็นหรอกครับ ชอบอย่างที่คยองเป็นนั่นแหละ

    เอางั้นเรอะ ก็ดี พ่อก็อยากให้ตระกูลแกกับตระกูลพ่อรวมกันเป็นหนึ่งอยู่แล้ว ไอ้แรกๆได้ลูกชายเหมือนกันก็พากันน้ำตาเล็ดอยู่ว่าสุดท้ายไม่ได้อยู่ตระกูลเดียวกันแน่ๆ แต่มีลูกเป็นเกย์ก็ดีแบบนี้นี่เอง

    พ่อว่ายิ้มๆแล้วคีบปลาหมึกกินต่อ ไม่มีท่าทีต่อต้านเรื่องที่ลูกตัวเองชอบเพศเดียวกันเลยสักนิด ซึ่งมันก็ดีที่ไม่เป็นอุปสรรคต่อความรักของพวกผม แต่เอ๊ะ! ความรักหรอ อา

    ผมก็คงยืนยันได้แล้วว่าตอนนี้ผมชอบแบคฮยอนนะ เพราะเขาดูแลผมดีมากๆ แต่เขาเองก็ชอบดุผมด้วย เรื่องนี้ผมต้องยอมรับจริงๆว่ากลัวแบคฮยอนโหมดนี้มาก

    แล้วพรุ่งนี้พ่อไปกวางจูกี่โมงฮะ

    แปดโมงเช้า ไม่ต้องลุกมาเตรียมชาให้พ่อหรอก เดี๋ยวพ่อแวะไปกินในร้านอาหารระหว่างเดินทางเอง

    แล้วนายล่ะ ผมพยักเพยิดหน้าถามแบคฮยอนบ้าง

    ห้าโมงเช้า ทำไมหรอ

    ก็จะไปส่งน่ะสิ

    แหวะ!” ดูพ่อทำสิ ทำไมต้องทำเสียงอ้วกออกมาด้วย กำลังกินข้าวอยู่นะ

    หลังจากที่กินปลาหมึกผัดกิมจิหมดแล้ว พ่อก็แยกตัวขึ้นไปบนห้อง ส่วนผมก็ป้วนเปี้ยนไปมาอยู่ในห้องครัวคอยสอดส่องแบคฮยอนที่กำลังทำกิมจิให้ผมอย่างขมักเขม้น เขาทำน่ากินจังเลย อยากให้แม่มาเห็นจัง แต่ไม่ว่ายังไงแม่ผมก็ต้องทำอร่อยกว่าอยู่แล้วล่ะ

    คยองลองมาชิมสิ ผมรีบวิ่งไปหากิมจิในมือแบคฮยอนทันที ก่อนจะอ้าปากให้แบคฮยอนป้อนให้

    อร่อยจัง แต่ทำไมรสชาดเหมือนฝีมือแม่ฉันเลยล่ะ

    ก็แม่คยองเป็นคนสอนแบคทำ -_-”

    สุดท้ายเรื่องกิมจิก็ไม่พ้นฝีมือแม่เลยสินะ ยังคงฝากจิตวิญญาณกิมจิที่เร่าร้อนให้คนอื่นด้วยหรอเนี่ย ถ้าทำอร่อยเพราะแม่สอนก็ไม่ว่ากัน แต่ถ้าไม่อร่อยผมจะไปแช่งถึงหน้าบ้านเลยนะคอยดู

    ทำแค่นี้ก็คงพอแล้วมั้ง ทำเยอะคยองคงกินไม่หมดหรอกแบคฮยอนว่าพลางยกหม้อกิมจิไปใส่ตู้เย็น

    โอเค ขอบใจมากนะ ผมยิ้มร่าอย่างดีใจ

    แบคฮยอนยีหัวผมทีหนึ่งแล้วเดินไปเก็บข้าวของใส่ตู้เหมือนเดิม ก่อนจะทำความสะอาดอุปกรณ์ที่เหลือ

    คยองขึ้นไปนอนได้ แบคเก็บของเสร็จแบคก็จะกลับบ้านแล้วล่ะ

    แต่ฉันอยากไปบ้านนาย บ้านนายสวยดี ฉันยังไม่ได้ไปสำรวจบ้านนายให้มันหนำใจเลยนะ

    ตอนนี้มันดึกแล้วนะ ไว้วันอื่นละกัน แบคกลับมาเมื่อไหร่จะพาทัวร์เลย

    จริง! งั้นโอเคเลย ฉันไปนอนแล้วนะ

    ผมหันหลังจะวิ่งขึ้นไปบนชั้นสองของบ้านแต่ก็โดนมือเรียวรั้งมือเอาไว้แล้วใช้มืออีกข้างจับหน้าผมให้หันไป

    จุ๊บ!

    “Good night kiss.”

    จบคำแบคฮยอนก็เดินออกไป ปล่อยให้ผมยืนหน้าแดงมองตามหลังเขาตาปริบๆ ผมเม้มริมฝีปากแน่นเมื่อความรู้สึกร้อนผ่าวที่ริมฝีปากยังคงติดอยู่

    นายชักจะทำให้ฉันแดดิ้นตายแล้วนะแบคฮยอน

     

    คนอันตราย!!







    _____________________________________________________________________________________



     

    Please Do for me.

    Vote. l Fav. l commment.

    themy butterthemy butterthemy butterthemy butter

    © themy  butter
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×