ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Got7]Got 2 Survive {BNior,JackJae,MarkBam}

    ลำดับตอนที่ #27 : ตอนที่ 26 : 26th Bullets

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.8K
      16
      18 ก.ย. 57



    ตอนที่ 26 : 26th Bullets



                    ที่ประเทศญี่ปุ่นนั้น โชว์ฆ่าคนเป็นรายการที่ได้รับความนิยมอย่างมาก  นอกจากสื่อ

    บันเทิง คือช่องทีวีหลายสถานีจะมีอำนาจในการดำเนินธุรกิจนี้แล้วแล้ว ยังมีเหล่าผู้คนที่อยู่เบื้อง

    หลังวงการดำมืดนี้อีก นั่นคือ พวกยากูซ่า  เบื้องหน้ารายการเรียลลิตี้ที่ดูเหมือนจะถูกกฎหมาย 

    กลับอยู่ภายใต้อิทธิพลของยากูซ่าไม่กี่กลุ่ม กลุ่มพวกนี้จะมีนักฆ่าในสังกัดที่มีฝีมือโดดเด่นเป็น

    ซุปเปอร์สตาร์อยู่แล้ว  พวกนักฆ่าจากต่างประเทศที่คิดจะมาตีตลาดแย่งความนิยมมักต้องถูก

    กีดกันและโดนอิทธิพลมืดเก็บไปนักต่อนัก  ยิ่งหากมีการโชว์ด้วยวิธีที่ใกล้เคียงกัน  เช่น หาก  

    เอเจนซี่ไหนใช้นักฆ่าอายุน้อย หน้าตาดี มักถูกเก็บทันที  เพราะไปขัดผลประโยชน์ของกลุ่ม  

    ยากูซ่าพวกนี้ 







                     โชคดีที่ บริษัท JYP นำนักฆ่าแนว ไอดอลสัตว์ป่า ดิบเถื่อน ไม่เหมือนใคร มาเดบิว

    เบิกทางที่นี่ก่อน เลยไม่ทับไลน์แก๊งไหน และประสบความสำเร็จอย่างสูงในเวลาต่อมา  การออก

    รายการเรียลลิตี้ฆ่าคน ทางทีวีญี่ปุ่น ไม่ต่างจากที่เกาหลีมากนัก มีการแบ่งระดับมีมาตรฐาน

    ชัดเจน จากฐานแฟนคลับ และฝีมือจากการโชว์ในรายการต่างๆ  ส่วนการทำโชว์แบบ
    tour นอก

    สถานที่
    เก็บค่าเข้าชมตามเมืองต่างๆนั้น จะต้องผ่านยากูซ่าผู้มีอิทธิพลประจำเมืองนั้นๆโดยตรง

    รูปแบบการโชว์ฆ่าคนที่เป็น
    event ใหญ่ จะจัดตามขนาดสนามแข่ง ขึ้นอยู่กับจำนวนแฟนคลับ

    และความนิยม( โดย สนามแข่ง
    จะแบ่งเป็น 4 ประเภท แบบ Zepp  คือสนามขนาดเล็ก จุคนได้


    1,000 3,000 คน  ประเภท Arena-hall  สามารถจุคนได้ 10,000-30,000 คน สนามประเภท

    Dome จุคนได้ 30,000-55,000 คน ( 2PM เคยจัดระดับนี้แล้ว) และสนามระดับ ที่ถือเป็นจุด

    สูงสุด ในการ ทำ
    tour คือ สนามประเภท Stadium สามารถจุคนได้ 40,000-80,000+ คน ซึ่ง

    ในปัจจุบันมีเพียงทีม TVXQ เท่านั้นที่เป็นชาวต่างชาติและสามารถมาถึงจุดนี้ แต่ก็ใช้เวลาถึง 8 ปี )






     

    โชว์พวกนี้ส่วนใหญ่จะใช้เวลา 3 ชั่วโมง  ฆ่ากันตามเงื่อนไขแล้วแต่ที่ยากูซ่าผู้คุมเมืองนั้นๆ จะตั้ง

    ขึ้นมาเพื่อโปรโมทงานแต่ละครั้ง  แน่นอนว่า ไม่มีง่าย  โดยถ้าทีมยิ่งมีชื่อเสียง แฟนคลับมาก

    สนามแข่งมีขนาดใหญ่มาก  โชว์ฆ่าคนก็จะอลังการมาก อันตรายมาก และแน่นอนว่า ค่าบัตรเข้า

    ชม จะแพงมาก  ซึ่งทำเงินมหาศาลให้ทั้งผู้จัด และเอเจนซี่นักฆ่าแน่นอน  ถ้าทีมนักฆ่าไหน ฝีมือ

    ดี ลีลาดี ก็จะยิ่งมีคนติดตามมากขึ้นๆ ซึ่ง ทีม 2
    PM จัดว่าประสบความสำเร็จได้ระดับหนึ่ง จาก

    การมาเยือนญี่ปุ่นในระยะ เวลา 1 ปีที่ผ่านมา  ยิ่งกว่านั้นสมาชิกของ
    2PM บางคนยังสามารถจัด

    โชว์เดี่ยวได้ บ่งบอกได้ว่าความนิยม และฝีมือในการฆ่าคนนั้นไม่ธรรมดา  ตอนนี้ทางค่ายเลยคิด

    ผลักดัน ทีม น้อง
    Got7 เข้าสู่เส้นทางเดียวกัน






     

    เมื่อ 2PM กลายเป็นทีมที่มีชื่อเสียงระดับหนึ่ง  เริ่มทำให้แก๊งยากูซ่าต่างๆ เกรงใจได้  มีฐานแฟน

    คลับมากขึ้นแล้ว
    Got7 จึงปลอดภัยที่จะทำกิจกรรมต่างๆระดับหนึ่ง  ไม่ต้องถูกแทรกแซง หรือ

    กำจัดทิ้ง เหมือนทีมหน้าใหม่อื่นๆ แต่ตอนนี้แนวทางการฆ่าคนของ
    Got7 นั้นยังไม่ชัดเจนใน

    สายตาคนทั่วไปเท่าไหร่นัก นอกจาก
    Martial art tracking ที่เน้นการโจมตีแบบผาดโผนของ

    มาร์ค และแจ๊กสันแล้ว  คนอื่นๆยังไม่มีจุดเด่นที่ทำให้พวกเขาแตกต่างจากนักฆ่ากลุ่มอื่นๆในท้อง

    ตลาดเท่าที่ควร แถมดูเหมือนยังฝึกมาไม่ดีเท่าไหร่ด้วย  ทางค่ายจึงให้พวกเขามาลองเป็นทีม

    เปิด ในสนามโชว์จริงของ
    2PM เพื่อเก็บเกี่ยวประสบการณ์  ก่อนจะมาเดบิวจริงที่นี่จริงๆใน

    อนาคต






     

    ครับ ฟังไม่ผิดหรอกฮะ เดบิว ได้ 3 เดือนกว่าๆ งานก็เข้าแล้ว แถม ต้องเตรียมตัว คัมแบค เดือน

    5 นี้แล้วด้วย
    แจบอมเคยถกเถียงประเด็นนี้ กับจินยองก่อนที่จะมา ญี่ปุ่นแล้วครั้งหนึ่ง







    ท่าน CEO บอกว่าไม่ต้องเทรนแล้ว ไปหาแนวทางของตัวเองจากสนามแข่งจริงเลย (คล้ายๆไป

    ตายเอาดาบหน้า ประมาณนั้น -..- )  จะได้ไม่เสียเวลาถกเถียง
    และพัฒนาตัวเองไปพร้อมกัน 

    ให้หาทางเอาชีวิตรอดในโลกแห่งความจริงกันเอาเอง เป็น
    Survival แบบหนึ่ง ที่โหดกว่า

    Survival ของอีกค่ายที่จัด สภาพแวดล้อมต่างๆให้พร้อม แล้วเอาเทรนนี่มาแข่งกันเองซะอีก 






    มันก็ใช่ สุดท้ายผู้ที่เอาชีวิตรอดในโลกแห่งความจริงได้คือผู้ชนะ  แจบอมในฐานะลีดเดอร์ยิ้ม

    ออกมาได้ในที่สุด เพราะสมาชิกทีมทั้ง 7 รวมทั้งตัวเขา เขาประเมินเองว่าทีมเวิกและความ

    สามารถของทุกคนอยู่ในระดับที่ดีและมีโอกาสพัฒนาได้อีกมาก





    .

    .

    .


                   คืนก่อนขึ้น ทัวร์ที่โอซาก้า กับ 2PM สมาชิก Got7 ได้พักผ่อนในเรียวกัง(โรงแรม)

    เล็กๆที่มี ออนเซ็น(บ่อน้ำพุร้อน)ส่วนตัว ค่อนข้างหรูหรา สะดวกสบาย







    หลังจากเช็คอิน ก็มีกิจกรรมเล็กน้อยคือ รายงานชื่อบลัดดี้กับผู้จัดการ โดยแจบอมเอากระป๋องที่

    เก็บมาเกินจากหลังโรงอาหารให้มาร์ค ที่กลับมามือป่าว ดังนั้น ชื่อ บลัดดี้จึงเป็นไปตามนี้  ( มีคน

    เดาถูกหมดแล้ว
    ~ เก่งมากค่ะ 555)





    แจบอม  take ยองแจ    ยองแจ take แจ๊กสัน    แจ๊กสัน take จินยอง     จินยอง  take  แจบอม
     

    มาร์ค take ยูคยอม       ยูคยอม take แบมแบม     แบมแบม take  มาร์ค  XD





     

    หลังจากถ่าย สกู๊ปเปิดตัวเล็กน้อย ทั้งหมดก็แยกย้ายกันพักผ่อน   โดยจัดให้นอน ห้องละ 2 คน

    แจบอม นอนกับจินยอง แจ๊กสันนอนกับ มาร์ค  แบมแบมนอนกับ ยูคยอม และ ยองแจ นอนกับผู้

    จัดการ






     

    ในห้องนอนแบบ ญี่ปุ่น  มีเสื่อทาทามิปูโดยรอบ และมีฟูกหนานุ่มน่านอน  สองอันวางติดกัน  

     ริมห้องมีระเบียงเล็กๆเปิดออกไปเห็นวิวทะเลสาบไกลๆ ในความมืด มีแสงไฟจากตัวเมือง เป็น

    จุดเล็กๆระยิบระยับเหมือนหมู่ดาวประดับทิวทัศน์สวยงาม และ  มีพระจันทร์ทอแสงนวล สว่าง

    กลางท้องฟ้า ดวงกลมโต เป็นจุดเด่น






     

    แจบอมในชุดยูกาตะสีเทาเข้ม คาดโอบิ(ผ้ารัดเอว) สีขาว  กำลังนั่งชันเข่าข้างหนึ่ง เอามือเท้า

    แขนข้างหนึ่งกับระเบียง ในขณะที่อีกมือ ยกถ้วยสาเกอุ่นๆขึ้นมาจิบให้คลายความหนาว พร้อมกับ

    ดื่มด่ำบรรยากาศที่จะโรแมนติกมากๆถ้ามีอีกคนอยู่ข้างๆ แต่ตอนนี้เขารู้สึกเหงา มากกว่า เพราะ

    ถูกทิ้งให้อยู่คนเดียว







    หลังจากสนทนาสารทุกข์สุขดิบ กับเหล่าสมาชิกเสร็จ  จินยอง ก็ไปแช่ออนเซ็น กับแบมแบม

    สองคน จนเวลาล่วงไปเกือบเที่ยงคืนเขาจึงกลับมายังห้องพัก






     

    จินยองเลื่อนบานประตูห้องนอนเบาๆ เพราะไม่เห็นแสงไฟเปิดไว้ เขาจึงคิดว่าแจบอมน่าจะหลับ

    แล้ว เลยไม่อยากรบกวน แต่ก็ไม่เป็นเช่นนั้น






     

    ภาพแสงจันทร์นวลกระจ่าง กระทบใบหน้าและร่างของแจบอม สะท้อนความหล่อ คม ดูดีจนเรียก

    ได้ว่า แทบจะเป็นการตกหลุมรักแจบอมอีกครั้งทันทีที่เห็น  ชุดยูกาตะสีเทาเข้มตัดกับผิวขาว

    ละเอียดของแจบอม  เลื่อนหลุดลงมาเปิดคอกว้างไปจนเกือบถึงไหล่ โชว์ไหปลาร้า  และหน้าอก

    แกร่งแน่นไปด้วยมัดกล้าม  ด้านสาบเสื้อก็ เลิกเปิดอ้าลงไปโชว์ซิกแพคจนเกือบถึงท้องน้อย

    เซ็กซี่สุดๆ






     

    จินยองสาวเท้าไปทางระเบียงตรงที่แจบอมนั่งอยู่  แสงจันทร์ค่อยๆอาบร่างของเขาเช่นกัน ทันที

    ที่เขามาคุกเข่าแล้วยิ้มให้ข้างๆ  แจบอมก็ลืมความขุ่นข้อง ก่อนหน้านี้ไปจนหมด






     

    ปอยผมดำขลับที่ยังเปียกน้ำ พร้อมกลิ่นสบู่ และแชมพูหอมอ่อนๆ จากร่างของจินยอง ลอยมา  

    กระทบจมูก  ซอกคอขาวๆนั่นมาอยู่ใกล้จนแจบอมแทบ อดใจไม่ไหว  ใบหน้าขาวเนียนเปื้อนยิ้ม

    เข้ามาใกล้มาก
    ดูเป็นการออดอ้อนอย่างจงใจ  นาทีนี้ใครจะไปโกรธลง






     

    ทำไมมาช้าจัง  พักนี้ นายไม่คอยสนใจชั้นเลยอ่า แจบอมรวบเอวจินยองมานั่งตัก แล้วก็กอด

    จากด้านหลังอย่างนุ่มนวล







    ตั้งแต่กลับมาจากโรงเรียนร้างนั่น นายกับแบมแบมก็ตัวติดกันแจเลยน๊า มีอะไรหรือป่าว?”  

     แจบอม ไม่กอดป่าว พยายามไซร้ซอกคอจินยองไปด้วย เนื้อนุ่มเนียนที่ยังชุ่มชื้นนิ่มหลังอาบน้ำ

    นั่นหอมหวาน ถูกใจแจบอมสุดๆ







    นายเหงาเหรอ  แจบอม จินยองยิ้ม ยั่ว พร้อมกับหันหน้าไปจุ๊บ แก้มแจบอม






    ใช่ แจบอมตอบเสียงทุ้ม นุ่ม หวาน จนจินยองแทบละลาย






    ฉันนี่โชคดีจังเลยน๊า  ที่นายเป็นคนปากตรงกับใจ อิอิ จินยองให้รางวัลด้วยการประคองหน้า

    ของแจบอมเข้ามาใกล้แล้วหันหน้าเอี้ยวตัวไปมอบจุมพิษหวานหวามให้






     

    ไม่เอา ไม่งอลน๊า ก็แค่เรื่อง มาร์ค แบม นั่นแหละ น้องขอความช่วยเหลือนิดหน่อย นายช่วยทำ

    เป็นไม่รู้ไม่เห็นได้ไหม
    ?” จินยองพักจูบ แต่จมูกและใบหน้าของทั้งสองก็ยังแนบชิด ซุกไซร้ กัน

    อยู่






     

    ได้สิ แต่ต้องมีค่าปิดปาก แล้วก็ต้องสมน้ำสมเนื้อด้วยนะ ประโยคสุดท้ายแจบอมกระซิบข้างหู

    จินยองพร้อมงับเข้าเบาๆที่ติ่งหู ขาวนุ่ม จนจินยองจั๊กกะจี้ บิดเอียงคออย่างน่ารัก







    แจบอมทำตาเชื่อม กรุ้มกริ่ม มองจินยองตั้งแต่ศีษระ จรด ปลายเท้า เล่นเอาร่างบางเขินจนหน้า

    แดง
    จากนั้นมือของแจบอมก็เลื่อนไปปลดสายโอบิคาดเอวของชุดยูคาตะ ที่จินยองสวมอยู่ให้

    หลุดออกมา






     

    หันมาทางนี้เลยแจบอมกระซิบเสียงหวาน ด้วยสีหน้าและแววตาที่ใครเห็นก็ไม่มีทางปฏิเสธได้





     

    จินยองจึงเปลี่ยนท่าหันหน้าเข้าหาอย่างรู้งาน   ------------------ ( nc )





     

    "ยิ้มอะไรคนเจ้าเลห์" แจบอมค่อยๆประคองร่างของจินยองวางลงบนฟูกที่ปูไว้อย่างนุ่มนวลและ

    หวงแหน






     

    คนในอ้อมแขน เต็มไปด้วยเหงื่อทั้งๆที่เพิ่งอาบน้ำไป มองสบตากับคนที่กำลังโอบร่างเขาอย่าง

    ถะนุถนอม พร้อมกับยิ้มอย่างมีความสุข






     

    จินยองเอื้อมมือไปปัดผมหน้าของแจบอมให้เข้าที่ แล้วพินิจคนตรงหน้าอย่างละเอียด 6 ปีที่รู้จัก

    กันมานี่ รอยยิ้มของแจบอมที่มอบให้เขาเป็นรอยยิ้มที่จริงใจเหมือนเดิมไม่เคยเปลี่ยน คิ้วคมนั่น

    จะชี้ขึ้นพร้อมหางตาเฉี่ยวๆ ตาปิดจนเป็นรูปสระอิ น่ารัก






     

    ถ้าวันนั้นเขาไม่กล้าเปิดใจก่อน  พวกเขาจะมีวันนี้ไหมนะ? จินยองมองหน้าแจบอมอย่างมีความ

    หมาย พร้อมยิ้มน้อยยิ้มใหญ่อยู่คนเดียว






     

    "นี่...ฉันรักนายจนอยากจะขอนายแต่งงานเลยนะ" แจบอม จูบหน้าผากของจินยองที่กำลังนอน

    มองหน้าเขา






     

    "ถึงเราจะแต่งงานกันไม่ได้ แต่ทำไมนายไม่ลองขอฉันแต่งงานดูก่อนหล่ะ" จินยองยิ้มพริ้ม ดูมี

    ความสุข จนทำให้แจบอมอดไม่ได้ที่จะยิ้มมีความสุขไปด้วย






     

    "แต่งงานกับผมนะครับ ปาร์คจินยอง" แจบอมก้มลงจูบที่เปลือกตาของจินยองอีกที






    "ใช่แล้ว  แบบนี้หล่ะที่ฉันฝันไว้  ฉันจะจดจำช่วงเวลานี้ตลอดไปนะ อิมแจบอม" จินยองยิ้มปลื้ม

    จนน้ำตาไหล







    "อย่าพูดอะไรเป็นลางแบบนี้สิ  ถ้านายต้องการฉันจะพูดให้ฟังทุกวัน พวกเราต้องอยู่ด้วยกัน นาย

    ต้องคอยฟังเสียงชั้นซ้ำๆตลอดไปนะ
    " แจบอมใช้สองมือดึงร่างจินยองเข้ามากอดไว้ในอ้อมแขน

    ก่อนจะผลอยหลับไปด้วยความเหนื่อยอ่อน






     

    จินยองซุกอ้อมอกอุ่นอย่างมีความสุข พร้อมกับครุ่นคิดถึงบทสนทนาของเขากับแบมแบมตอนที่

    ไปแช่ออนเซ็นด้วยกัน





    .

    .

    .


    "แบมแบม ขึ้นจากบ่อมานี่สิ ฮยองจะขัดหลังให้" จินยองเรียก แบมแบมมานั่งเก้าอี้เล็กๆข้างหน้า

    เขา พร้อมบีบสบู่เหลวใส่ฝ่ามือ







    แบมแบมลุกจากบ่อ มานั่งหันหลังให้จินยองขัดหลัง







    "แบมแบมขาวนะเนี่ย  ผิวก็เนียนนุ่มลื่น เต่งตึง  มาร์กเก่งมากที่ไม่ยอมแตะต้องเนี่ย" จินยองใช้

    มือลูบไล้หลังแบมแบมพร้อมกับใช้ผ้าเช็ดตัวขัดหลังให้







    "จินยองฮยอง มีอะไรๆครั้งแรกตอนอายุเท่าไหร่ฮะ" แบมแบมรวบรวมความกล้าถามจินยอง จน

    เขาตกใจแทบหงายหลัง







    "อ่า... นั่นสินะ เอาเป็นว่า..... เด็กกว่านายตอนนี้......นิดนึงมั้ง ..อ่ะ" จินยองหน้าแดงไปถึงหู เมื่อ

    คิดถึงเรื่องนี้  แต่คิดไปคิดมาแบมแบมคงอยากจะปรึกษาอย่างจริงจังมั้งเนี่ย







    "คือ แบม อยากได้คำแนะนำอ่ะครับ แบมเป็น คน take มาร์คฮยอง แล้วอยากให้ มาร์คฮยองยอม

    แพ้ แบมจะได้ขออะไรคนแพ้ได้ 1 อย่างตามกฏ
    แต่แบมไม่รู้ว่าจะทำยังไงให้มาร์คฮยองยอมแพ้

    โดยความไม่แตกว่าแบมเป็น แองเจิลได้อ่ะสิ
    " เด็กน้อยทำหน้าจริงจัง จ้องจินยองตาโตแป๋วด้วย

    ความตั้งใจ







    "แล้ว แบมแบม อยากขออะไรเหรอ ปรกติมาร์คมันก็ตามใจแบมแบมทุกอย่างอยู่แล้วหนิ" จินยอง

    ยิ้ม พร้อมกับเทแชมพู สระผมให้แบมแบม






     

    "แบม อยากขอให้มาร์คฮยองช่วยทำให้แบมแบมเป็นของมาร์คฮยองจริงๆได้ไหมอ่ะครับ" แบม

    แบมพูดไป หน้าก็แดงไปไม่ใช่สิ นี่มันแดงทั้งตัวแล้วหล่ะ จินยองอยากจะหัวเราะ กับท่าทางของ

    เด็กน้อยแต่ก็ไม่กล้า กลัวน้องอายไม่กล้าปรึกษาแล้วจะไปกันใหญ่อีก







     

    "โอเค เรื่องนี้ฮยองจะช่วยจัดการเอง" จินยองยิ้มพร้อมกับล้างแชมพูสระผมให้ แล้วชวนแบมแบม

    ลงไปแช่น้ำอุ่นต่ออีกนิด....





    ............................





     

    ขณะเดียวกัน มาร์คในชุดยูกาตะสีครีม ถกแขนเสื้อสองข้างขึ้นถึงไหล่ มีเชือกสีดำคาดไว้ กำลัง

    ฝึกสมาธิด้วยการถอดประกอบ ปืนพกอย่างมักเขม้นอยู่คนเดียวในห้องนอน ก่อนที่แจ๊กสันจะเปิด

    ประตูเดินเข้ามา






     

    "อ่าว มาทำอะไรอยู่ในคนห้องเดียวอ่ะ ไม่ไปแช่ออนเซ็นกับพวกแบมแบมเหรอ ?" แจ๊กสันเดิน

    เข้ามาตบไหล่ แหย่มาร์คทันทีที่เข้ามาถึง






    มาร์คจับปืนที่เพิ่งประกอบเสร็จจ่อศีรษะแจ๊กสัน ก่อนจะโบกปืนให้เขาถอยไป ด้วยใบหน้าแก้ม

    ป่อง อารมณ์บูด
    หน้าบอกบุญไม่รับ







    แจ๊กสัน ยกสองมือทำท่ายอมแพ้ แล้วเดินอ้อมตัวมาร์คไปที่ฟูกของตัวเอง ก่อนจะนั่งลงคลี่ผ้าห่ม

    เอามาคลุมตัก
     เขาเปิดฝาขวดน้ำที่วางอยู่ใกล้ๆที่นอน แล้วยกขึ้นดื่ม






    ...


     

    ......


     

    ........





     

    ภายในห้องเงียบอยู่พักหนึ่ง ก่อนที่มาร์คจะทำลายความเงียบก่อน ...






    "ถ้าคนที่นายชอบมาแก้ผ้าตรงหน้า  นายจะทำยังไงอ่ะ?" มาร์คถามแจ๊กสันขึ้นมาแบบไม่มีปี่มี

    ขลุ่ย
     ทำให้แจ๊กสันสำลักน้ำพุ่งออกมาเปียกที่นอน






     

    "แค๊กๆ ..."แจ๊กสันยกมือปาดน้ำที่ริมฝีปาก แล้วยิ้ม พร้อมทำตาโตเลิกคิ้วบิดคอ นิดๆหันมาตอบ




     

    "จะเหลือเหรอครับ?" พร้อมกับพยักหน้าเป็นเชิงถามมาร์คกลับว่าแล้วนายหล่ะ?




     

    มาร์คถอนหายใจยาว...





    "ฉันไม่กล้าสู้หน้าแบมแบมหว่ะ  เห็นหน้าน้องแล้วแมร่งใจคิดอกุศล ถ้าไปอาบน้ำด้วยกันนี่มีหวัง

    คง หัวใจวายตายพอดี
    " มาร์ควางปืน แล้วเอามือปิดหน้าตัวเองที่แดงจัดจนไปถึงหูพร้อมบิดตัว

    แล้วตีขาบนเสื่อรัวๆไปมาด้วยท่าทางดีดดิ้น เพราะความเขิน  จนแจ๊กสันหมั่นไส้ ต้องเอาหมอน

    ขว้างใส่






     

    "โธ่เอ๋ย  พักนี้แกเลยหลบหน้าน้องสินะ  เห็นยองแจบอกว่าแบมแบมดูไม่ค่อยร่าเริงอยู่   ยังไม่

    ก้าวหน้าอีกเหรอว๊า กองเชียร์ลุ้นจนเหนื่อยมาหลายรอบแล้วนะเว้ยเฮ้ย
    "  แจ๊กสันส่ายหน้า เอามือ

    กุมขมับ แล้วบิดปิดฝาขวดน้ำเพื่อความปลอดภัย







    "ก็.... เออ... แล้วนายกับยองแจไปถึงขั้นไหนกันแล้วอ่ะ?" มาร์คหันมาถาม เพราะในทีมก็ยังไม่มี

    ใครรู้เรื่องความสัมพันธ์ของแจ๊กสันกับยองแจชัดๆ ด้วยภายนอกทั้งสองดูเหมือนคู่กัดที่ไม่ค่อย

    ถูกกัน แต่ก็พอดูออกว่ามีซัมติงผิดปรกติอยู่ลึกๆ






     

    "ไม่บอก....แต่รับรองว่าฉันไม่อ่อนหัดเหมือนนายหรอกนะ วะ ฮ่า ฮ่า " แจ๊กสันหัวเราะและยิ้มหน้า

    บานเมื่อพูดถึงยองแจ ก่อนจะดึงผ้าห่มมาคลุมตัวแล้วล้มตัวลงนอนสบายใจเฉิบ






     

    มาร์คทำหน้าสงสัย  ไม่ถูกใจ หวาดระแวง รู้สึกเหมือนโดนสบประมาทยังไงไม่รู้ แต่สงสัยอะไรไป

    ก็ช่วยไม่ได้ เพราะเขาเองยังเอาตัวไม่รอดเรื่องแบมแบมเลย  อ๊าคคคคคคคคคคค ไม่รู้ทำไม

    ตั้งแต่มาญี่ปุ่น แบมแบมดูน่ารักมากกกก  มากขึ้นทุกวัน ทุก นาที  หลังๆมานี่  ทุกครั้งที่เจอแบม

    แบม มาร์คก็ไม่รู้จะเอามือตัวเองไปวางไว้ตรงไหน  ไม่รู้จะทำหน้ายังไง  คิดแต่เรื่องอยากจับกด

    แต่ก็ไม่กล้าทำอะไร  แค่คิดมาร์คก็เขิน ดิ้นไปดิ้นมา มีเสียงดัง ตึง
    !ตัง!  ของขา กระทบพื้นเสื่อ

    ทาทามิ ไม่หยุด จนแจ๊กสันต้องขว้างขวดน้ำแถวนั้นใส่อีกรอบ






     

    "เงียบดิวะ หยุดทำเสียงแปลกๆด้วย เดี๋ยวข้างห้องก็เข้าใจพวกเราผิดหรอก เว้ย" แจ๊กสันบ่น

    พร้อมคลุมโปง หนีหนุ่มสติไม่ดีแถวนั้น
    แล้วเงียบไป  แต่ก็ไม่รู้ว่าเขาจะนอนหลับหรือไม่เหมือน

    กัน

     




    .

    .

    .

     

    อีกด้าน  ระหว่างที่ยูคยอม รอแบมแบม อาบน้ำเสร็จ เขาก็สั่งอาหารอีกชุดมากินในห้องนอน




     

    หลังจากจัดการหมดจนอิ่มหนำสำราญแล้ว คุณยายที่เป็นพนักงานผมขาวหลังค่อม ใส่กิโมโน

    สีชมพูของโรงแรม ก็เข้ามาเก็บสำรับอาหารไป






     

    ตอนนั้นยูคยอมไม่ทันสังเกตอะไรมาก  เพราะเขากำลังนึกถึงการ take บลัดดี้  เขาเป็นแองเจิล

    ของแบมแบม  จะวางแผนแกล้งเพื่อนรักยังไงดีน๊า






     

    ยูคยอมกำลังจะเดินไปรื้อกระเป๋าตัวเอง แล้วเขาก็เดินไปสะดุดกับ อะไรบางอย่าง...





     

    ตุ๊กตาฟางสาปแช่ง  วางอยู่ตรงตำแหน่งที่เคยเป็นสำรับอาหารเมื่อกี้ตั้งแต่เมื่อไหร่  ยูคยอมรู้สึก

    ขนลุกซู่ พร้อมกับนึกอะไรดีๆได้แล้ว







    เขาไม่ค่อยเชื่อเรื่องไสยศาสตร์อะไรเท่าไหร่ แต่ก็อยากรู้อยากเห็น อยากมีอะไรเล่นแก้เหงา





     

    ยูคยอมจึงไปเปิดกระเป๋า แบมแบม หาหวี ที่มีเส้นผมของแบมแบมติดอยู่ เอามาผูกกับตุ๊กตาฟาง

    สาปแช่งนั้น แล้วใช้ปากกาเมจิก เขียนชื่อแบมแบมลงบนกระดาษขาว แล้วแปะลงบนตัวตุ๊กตา

    ฟางด้วยความนึกสนุก






     

    แต่สิ่งที่เขาทำไปนั้น เรียกว่าความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ เพราะตุ๊กตาฟางสาบแช่งตัวนี้ทำให้เกิดเรื่อง

    ต่างๆมากมายขึ้นในเวลาต่อมา...






     

    เริ่มจาก ยูคยอมพลาดเผลอ เหยียบตรงข้อมือของตุ๊กตา ก่อนที่เขาจะก้มเก็บมันใส่กระเป๋าไว้ 

    และเข้านอนก่อนเพราะหนังท้องตึงหนังตาเลยหย่อนด้วยความอิ่ม จัด  ไม่ได้รอแบมแบมกลับมา

    ที่ห้อง
    ...

     



     

    เมื่อถึงเวลาอาหารเช้า  ยูคยอมอาบน้ำแต่งตัวลงมาเป็นคนที่ 5 มี แจบอม มาร์ค แจ๊กสัน และ

    ยองแจนั่งรออยู่ที่โต๊ะอาหารก่อนแล้ว






     

    แจ๊กสันกำลังร้องไห้? อาละวาดเพราะถูก take ด้วยช่อบูเก้ เป็นดอกไม้สดมีกุหลาบสีชมพูแซม

    ยิบโซ่สีขาวผูกริบบิ้นสีฟ้าอ่อนทิ้งชายยาว  ห่อด้วยกระดาษลูกไม้ฉลุอย่างสวย 






     

    แจ๊กสันกำลังน้ำหูน้ำตาไหล ตาแดง ไม่ใช่เพราะความเศร้า หรือดีใจอะไร  แต่เป็นเพราะเขาแพ้

    เกสรดอกไม้มาก  มากจนจามไม่หยุด แสบตาไปหมด หายใจไม่ออกอีกด้วย  ทุกคนในโต๊ะ

    อาหารตอนนั้นก็หัวเราะชอบใจกับความทรมานของเขากันใหญ่  ตอนนี้แจ๊กสันจดบัญชีดำบลัดดี้

    ไว้ในใจอย่างโมโห






     

    ไม่นานนัก จินยองกับแบมแบมก็เข้ามาที่ห้องอาหาร  ข้อมือของแบมแบมถูกพันผ้ายืดสีเนื้อ หนา

    แล้วสวมปลอกข้อมือสีดำทับอีกชั้น  แบมแบมกุมข้อมือท่าทางเจ็บปวด






     

    นั่นทำให้ยูคยอมนึกถึงเจ้าตุ๊กตาฟางเมื่อคืนขึ้นมาทันที  ตอนแรกเขานึกว่าเป็นเรื่องฝันเพ้อเจ้อ

    เพราะกินอิ่มมากไป แต่ตอนนี้ชักไม่แน่ใจเพราะข้อมือซ้ายนั่น ตรงกับมือข้างที่เขาเหยียบมันเมื่อ

    คืน
    !! บังเอิญเหรอ!!?






     

    "แบมแบม  ข้อมือไปโดนอะไรมา" มาร์ครีบเข้าไปดูแล แบมแบมด้วยความเป็นห่วง





     

    "โดนบลัดดี้แกล้งเหรอ? ใคร take แบมแบม ให้เจ็บตัวแบบนี้เนี่ย วันนี้มีแข่งนะ  อย่าให้รู้นะเฟ้ย 

    พ่อจะจับหักคอ
    !" มาร์คโมโหแทนแบมแบมเกินเหตุ  พร้อมแยกเขี้ยวใส่ทุกคนในห้อง แต่ก็ไม่มี

    ใครมีท่าทีน่าสงสัยอะไรผิดสังเกต






     

    แต่แค่ ยูคยอมทานข้าวเช้ามื้อนั้นไม่หมดแค่นั้นเอง



     

     

    หลังทานอาหารเช้าเสร็จ สมาชิกทุกคนก็แยกย้ายไปเก็บของเตรียมไปสนามแข่ง





     

    ยูคยอมรีบวิ่งกลับเข้าห้องคนแรก แล้วเปิดเช็คกระเป๋าเดินทางของเขา  มี เจ้าตุ๊กตาฟางสาปแช่ง

    ติดชื่อแบมแบมอยู่จริงๆด้วย  เขารีบเอาเจ้าตุ๊กตาฟางแยกใส่เป้ส่วนตัว  แต่ด้วยความเร่งรีบจัด

    กลัวแบมแบมจะตามเข้ามาเห็นและซุ่มซ่าม เป็นทุนเดิม เขาก็ทำตุ๊กตาหลุดมือ หัวตุ๊กตาฟางฟาด

    เข้ากับขอบโต๊ะใกล้ๆ ก่อนที่เขาจะคว้ามันลงกระเป๋าอย่างหวุดหวิด






     

    "โอยยย!!" แบมแบมร้องเสียงดังเข้ามาถึงในห้อง ก่อนที่เจ้าตัวจะเดินกุมศีรษะตามเข้ามา





     

    "ไม่ใช่เรื่องบังเอิญแล้วมั้ง  ตายแน่แล้วงานนี้" ยูคยอมยกมือขวาที่นิ้วงอเกร็งขึ้นมางับเข้าที่ข้อนิ้ว

    ตัวเองด้วยความเครียด
    ก่อนจะนึกได้ว่าควรเดินไปดูอาการแบมแบมก่อน







    "เฮ้ เป็นอะไรหรือป่าว?" ยูคยอมเข้าไปลูบผมเปิดหน้าผากแบมแบมดู มันบวมแดงนูน ออกมา

    เยอะอยู่เหมือนกัน






     

    "ชั้นเดินมาดีๆ ก็ล้มหัวโขกวงกบประตูเฉยเลยอ่ะ เห็นดาวเลย มึนตึบ ทำไมซวยจังน๊า เมื่อคืน

    ตอนออกมาจากห้องน้ำก็ล้ม เลยเอามือไปเท้าไว้  ข้อมือเคล็ดไปแล้ว
    " แบมแบมเดินไปส่อง

    กระจกตรงโต๊ะเครื่องแป้งเพื่อสำรวจร่องรอยปูดบวมของแผล






     

    "นายไปหาจินยองให้ดูแผลก่อนเถอะ เดี๋ยวชั้นเก็บของกับถือกระเป๋าลงไปให้นะ" ยูคยอมส่งยิ้ม

    ให้แบมแบมเหมือนปรกติ  แต่ในใจเริ่มแอบอยากเอาเจ้าตุ๊กตาฟางในกระเป๋าไปเผาทิ้ง  แต่ก็กลัว

    จะเกิดเรื่องไม่ดีกับแบมแบมอีกถ้าทำลายผิดวิธี






     

    "ทำไงดี ทำไงดี ทำไงดี " โอย... นาทีนี้ ยูคยอมอยากจะร้องไห้มากกว่านึกถึงการกลั่นแกล้งตาม

    เกมบลัดดี้อะไรนั่น
    แถมถ้ามาร์คฮยอง รู้ว่าแบมแบมบาดเจ็บเพราะฝีมือเขา ต้องโดนเล่นงานปาง

    ตายแน่ๆ






     

    ยูคยอมมองส่ง แบมแบมที่เดินสโลสเล มือกุมศีรษะออกไปหาจินยอง อย่างน่าสงสาร

     



     

    .

    .

    .

    สนามแข่งวันนี้ เป็น สนามไม่ใหญ่นัก  ความจุ ประมาณ 20
    ,000 ที่นั่ง โดยที่นั่งคนดู จะติดกับเวที

    มากเป็นพิเศษ เพราะสนามนี้มักใช้เป็นสนามแข่งกีฬาซูโม่ในเวลาปรกติ   รายการ
    Survival ฝั่ง

    ญี่ปุ่นนั้นเน้นความสามารถเฉพาะตัวของนักฆ่ามากเป็นพิเศษ มักไม่ค่อยให้ใช้อาวุธ เครื่องทุ่น

    แรงพวกปืน หรือ ระเบิด เพราะมันทำให้เกมจบไว คู่ต่อสู้เสียชีวิตเร็วเกินไป  เดี๋ยวจะได้เห็นเลือด

    และความทรมานไม่ชัดสะใจเท่าไหร่นัก  แต่ก็มีการอนุโลมให้ใช้อาวุธที่หาได้ในสนาม และ อาวุธ

    ประเภท
    Blade - ของมีคม พวกมีด สั้น - ยาว - ดาบ - คาตาน่า ให้นำเข้าแข่งขันได้ ดังนั้นถ้า

    ไม่มีความสามารถจริงๆการประสบความสำเร็จในญี่ปุ่นนั้นยากมาก  มันไม่ใช่แค่การแข่งขันโชว์

    เอาชนะกัน  แต่มันคือการฆ่ากันเพื่อเอาชีวิตรอดจริงๆ






     

    "ทำไมนายไม่วางเป้นั่นลงหล่ะ เอาเข้าสนามแข่งด้วยไม่ได้นะ" มาร์คเดินมาตบไหล่ยูคยอม ก่อน

    จะแย่งเป้ของน้องมาแล้วโยนเข้าข้างฝา ตรงที่มีข้าวของของสมาชิกคนอื่นๆกองอยู่ ภายในห้อง

    เก็บตัว หลังเวที





     

    "เฮ้ย !!" ยูคยอมร้องเสียงหลง พร้อมกับรีบวิ่งไปลูบเป้อย่างหวงแหน แล้วค่อยๆหาที่ซุกตรงมุมใต้

    โต๊ะอย่างทะนุถนอม จนทุกคนแปลกใจ เพราะปรกติยูคยอมไม่ค่อยดูแลข้าวของ ยิ่งเป้ใบนั้น

    บางทีก็เห็นยูคยอมใช้เท้าเขี่ยบ่อยๆ หรือเอามารองนั่งก็ทำมาแล้ว






     

    ยูคยอมเหมือนคนมีชนัก มีความผิดติดหลังไม่กล้าหันไปโวยวายกับมาร์ค เขากลืนน้ำลายเอือก

    หนึ่ง ก่อนจะมองหาแบมแบม ด้วยใจที่ร้อนรน






     

    และเป็นอีกครั้ง ที่ จินยองประคองแบมแบม เข้ามาในห้องเก็บตัว ด้วยสีหน้ากังวล





     

    สายตาของสมาชิกทุกคนในห้องมองแบมแบมเป็นจุดเดียวกัน วันนี้ แบมแบม มีผ้าพันข้อมือซ้าย

    แล้วก็ผ้าก๊อซแปะที่หน้าผาก ยังมาเดินกระเผลกๆ อีก ทั้งที่ตอนมาถึงสนามยังสภาพดีกว่านี้






     

    "ขอโทษนะครับ ไม่รู้ทำไมอยู่ดีๆ แบมแบมก็ล้มตกบันไดเหมือนโดนใครผลัก แต่ไม่เป็นไรนะครับ

    ผมยังไหว
    " แบมแบมรีบปล่อยมือจินยองออก แล้วยืนด้วยตัวเองโชว์เก่งว่ายังไหว ลงแข่งได้






     

    ยูคยอม หน้าเสียรีบเดินเข้าไปช่วยประคองแบมแบมมานั่ง ก่อนที่มาร์คจะเข้ามาแทรกกันยูคยอม

    ออกไป  






     

    มาร์คนั่งคุกเข่าตรงหน้าแบมแบมที่นั่งอยู่บนเก้าอี้  เขาช่วยปัดฝุ่นตามตัวแล้วก็สำรวจร่างกายแบม

    แบม ด้วยการลูบตามแขนขา ว่ามีอะไรแตกหักไหม ข้อต่อขยับได้ปรกติหรือป่าว เขาค่อยๆจับข้อ

    มือข้างที่ไม่ได้พันผ้า มาขยับหมุนด้วยท่าทางเป็นห่วง จากนั้นก็ไล่ขยับข้อศอก ข้อไหล่ คอ เอว

    ข้อเข่า และข้อเท้าทีละข้าง อย่างระมัดระวัง และนุ่มนวล







    หน้าตาและท่าทางที่เป็นห่วงอย่างจริงจังของมาร์ค ทำให้แบมแบมแอบยิ้มอย่างมีความสุข  ถ้า

    เขาเจ็บตัวแล้วพี่มาร์คสนใจดูแลเป็นพิเศษแบบนี้ เขาก็ยินดี






     

    "คราวนี้ผลักตกบันไดเลยเหรอ  บลัดดี้ของแบมแบมเป็นใครเนี่ย โหดจริง  เฉลยเมื่อไหร่ ฮยอง

    จะตามไปคิดบัญชีให้สาสมแน่ๆ
    " มาร์คลุกขึ้นยืน แล้วกอดปลอบ โอ๋ ให้กำลังใจ  แบมแบม






     

    "มาร์ค... ฮยอง..." แบมแบมทำเสียง งอแง ง้องแง้ง ออดอ้อนน่ารัก ใส่มาร์ค





     

    แต่นั่น ทำให้มาร์ค รีบปล่อยตัวแบมแบม แล้วเดินหนีไป  ทิ้งให้ แบมแบมหันไปสบตาจินยองที่

    ยืนสังเกตการณ์อยู่ไม่ไกล อย่าง งง งง






     

    ไม่นานนัก แจบอมก็เดินลากคอมาร์คกลับเข้ามาในห้อง เพื่อประชุมแผนต่อหลังจากที่เขาไป

    ประชุมแผนกับพวกรุ่นพี่
    2PM มา







    กติกาการแข่งวันนี้ คร่าวๆคือ ทีมผู้จัดทางโอซาก้า จะส่งยากูซ่า มา 100 คน แต่อาวุธ จะให้ ฝั่ง

    ละ 10 ชิ้น ดังนั้น พี่ๆ 2
    PMจะได้อาวุธ 6 ชิ้น พวกเราได้ 4 ชิ้น เลยจะมีพวกเรา 3 คนที่จะไม่ได้ถือ

    อาวุธในตอนแรก   เนื่องจากเป็นครั้งแรกของพวกเราฉันอยากจะให้เกาะกลุ่มกันไว้  จินยอง ยอง

    แจ แล้วก็  แบมแบม ให้อยู่แนวหลังสังเกตการณ์ไปก่อน ในชั่วโมงแรก  ทีมเราได้รับอนุญาตให้

    เคลื่อนไหวได้ไม่เกิน ระยะ 20 เมตร จากฐาน  เพราะจะไปเกะกะเป็นภาระให้พี่ๆ 2
    PM ป่าวๆ พี่ๆ

    เขาฝากบอกมาด้วยว่า
    " ยืนให้ครบ 3 ชั่วโมงกันนะ อย่ารีบตายกันหล่ะ และถ้าเป็นไปได้

    ช่วยจัดการพวกยากูซ่าด้วย โควต้าอย่างน้อยคนละ 2- 5 ราย
    " แจบอมพูดจบพร้อมรอยยิ้ม

    ที่พยายามช่วยให้สมาชิกทีมไม่เครียดและผ่อนคลายมากที่สุด  แต่ก็ช่วยอะไรไม่ค่อยได้มาก 

    เพราะ หลังจากประชุมจบไม่นาน จอโทรทัศน์ ที่ใหญ่เท่ากำแพงห้องด้านหนึ่งก็ฉายภาพ สนาม

    แข่ง และผู้คนที่อยู่ด้านนอกกำลังโห่ร้อง เชียร์ ยากูซ่า 100 คน ที่กำลังเดินแถวเข้ามาในสนาม

    แข่ง แต่ละคนรูปร่างสูงใหญ่กำยำ  บางคน มีรอยสักน่าเกรงขาม บางคนมีแผลเป็นน่ากลัว

    ทั้งหมดเดินแถวเป็นระเบียบ ดวงตาดุดัน ดูเจนสนาม หน้าตาดูโหดเหี้ยม บางคนก็ตาขวางดู

    เหมือนคนโรคจิต  แต่สิ่งที่พวกแบมแบมรับรู้ได้เหมือนกันก็คือ ยากูซ่าพวกนี้ ต้องแข็งแกร่ง และ

    ฝีมือไม่ธรรมดา  หากประมาท ชะล่าใจเกินไปพวกเขาอาจต้องเป็นฝ่ายเสียใจเองแน่ๆ







     

    ธุรกิจที่เงินสะพัดขนาดนี้ แม้แต่ยากูซ่ายังออกมาแสดงอยู่เบื้องหน้า  แบบนี้ไม่ต้องหวังแล้วว่าจะ

    มีความปราณีใดๆ  คงต้องเอาชีวิตรอดให้วันนี้ผ่านไปให้ได้เท่านั้น 










     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×