ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ซัมปากีตา...สีหม่น : The Gray Jasmine

    ลำดับตอนที่ #36 : 6 เปิดตา เปิดใจ 4/6

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 3.66K
      1
      2 ก.พ. 65


    นักวิโอลาสาวเปลี่ยนจากเดรสยาวสีดำตัวสวยมาเป็นเสื้อยืดสวมสบายกับกางเกงยีนเข้ารูปตัวเก่ง ก่อนสะพายเป้แล้วหิ้วกล่องเจ้าเครื่องสายออกจากตัวร้านหลังเล่นดนตรีในคืนนี้เสร็จเรียบร้อยแล้ว หากยังไม่ทันได้ออกจากเขตร้านเท้าเรียวเล็กสองข้างก็ถึงกับชะงัก ไม่อาจก้าวต่อได้เมื่อมีร่างโต ๆ ของคนเจ้าปัญหามาขวางไว้

    “ผมไปส่ง” เขาคว้ากล่องวิโอลามาถือไว้เสียเอง

    “ไหนคุณบอมบอกว่ามีธุระแถวนี้ไงคะ” มานิลานึกแปลกใจ ไม่คิดด้วยซ้ำว่าเขาจะยังอยู่จนเธอเล่นดนตรีเสร็จ ซึ่งรวม ๆ แล้วก็กินเวลาหลายชั่วโมง

    “ธุระของผมก็คือมากินข้าวที่ร้านนี้” ชายหนุ่มตอบหน้าตาย ไม่ใคร่สนใจสักเท่าไรว่าคำตอบนั้นจะระคายหูอีกฝ่าย “ขึ้นรถเถอะ ที่นี่กับอะพาร์ตเมนต์คุณไกลกันเยอะ กลับคนเดียวอันตราย”

    มานิลากัดริมฝีปากอย่างระงับอารมณ์มากมายที่แย่งกันประดังประเดเข้ามา ธตรัฐพูดเหมือนกับว่าหากไปกับเขาแล้วจะปลอดภัยอย่างนั้นแหละ จากเหตุการณ์ในห้องปฏิบัติการทำให้เธออยากติดป้ายใหญ่ ๆ บนตัวเขาว่าวัตถุอันตรายด้วยซ้ำ

    “หนูกลับแบบนี้มาตั้งนานแล้ว ขอกล่องวิโอลาคืนด้วยค่ะ”

    “คุณจะบอกผมว่าคุณเดินจากร้านออกไปขึ้นรถไฟฟ้าหน้าปากซอยแบบนี้ทุกครั้งที่มาเล่นดนตรีนี่นะมะลิ” ธตรัฐถามหลังจากที่เบี่ยงกล่องไม้สีเบจไปไว้ด้านหลังกันเจ้าของแย่งคืนไปเรียบร้อยแล้ว แม่คุณคิดว่าตัวเองเป็นซูเปอร์วูแมนหรืออย่างไร ถึงได้ไม่กลัวภยันตรายที่อาจเกิดขึ้นแบบไม่ทันตั้งตัว ถึงในซอยนี้จะมีร้านรวงมากมาย แต่เวลาดึกดื่นเช่นนี้ร้านเหล่านั้นก็ปิดหมดแล้ว ผู้หญิงตัวเล็ก ๆ เดินคนเดียวไม่ต่างจากเป็นเป้านิ่งให้โจรชัด ๆ

    “เปล่าค่ะ”

    “เปล่าอะไร ปกติคุณไม่ได้เดินแบบวันนี้ ?”

    “หนูเดินแบบนี้ทุกวันค่ะ แต่เดินไปป้ายรถเมล์ ไม่ได้นั่งรถไฟฟ้ากลับค่ะ” เธอไม่เห็นความจำเป็นที่จะต้องเสียเงินเพิ่มอีกหลายเท่าเพื่อให้ถึงห้องเร็วขึ้น ถึงจะต้องนั่งรถเมล์สองต่อแต่ก็ไปถึงอะพาร์ตเมนต์เหมือนกัน แล้วอีกอย่างช่วงดึก ๆ รถก็ไม่ติดแล้วด้วย

    “คุณเป็นมนุษย์ค้างคาวหรือไง ได้นอนวันละกี่ชั่วโมง” ชายหนุ่มกุมขมับ น้ำเสียงที่เปล่งออกมาค่อนไปทางเป็นห่วงมากกว่าจะต่อว่าจริงจัง เขานึกไม่ออกเลยว่าลูกศิษย์คนโปรดของแม่มีเวลาเหลือให้ตัวเองหายใจบ้างหรือเปล่า

    ผู้หญิงคนนี้ทำทุกอย่างที่ขวางหน้าราวกับเครื่องจักรไปแล้ว และสมองคงทำงานหนักพอกันทั้งสองซีก เธอมีสมองซีกซ้ายไว้ควบคุมด้านวิชาการอย่างการเรียนปริญญาโทและเป็นครูสอนพิเศษให้ธริษตรี มีสมองซีกขวาไว้สร้างสรรค์เสียงดนตรีอย่างวิโอลาที่พักนี้เขาชอบฟังมากเป็นพิเศษ เท่านั้นคงยังไม่พอ เธอยังมีใบหน้าหวาน ๆ กับนัยน์ตาคู่ดำสนิทไว้เล่นงานก้อนเนื้อดิ้นได้ขนาดเท่ากำปั้นในอกด้านซ้ายของเขาด้วย

    มนุษย์ค้างคาวสาวกำสายกระเป๋าสะพายหลังแน่น ในชีวิตมีคนถามคำถามนี้กับเธอมาสองคนแล้ว คนแรกคือพลอยพิมพ์ที่เป็นห่วงเธออย่างเปิดเผย ส่วนอีกคนก็คือผู้ชายตรงหน้าซึ่งแทบไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันเลย

    ...แต่นั่นสินะ เธอได้นอนวันละกี่ชั่วโมงกัน

    “ถ้าคุณไม่ขึ้นรถก็ต้องยอมให้ผมเดินไปส่ง เลือกเอาแล้วกันว่าจะเอาแบบไหน ผมมีเจ้านี่เป็นตัวประกัน”

    มือแกร่งยกกล่องวิโอลาขึ้นราวกับมันเบาหวิว พร้อมกับส่งรอยยิ้มเป็นต่อหลายขุมนัก

     

    “ถึงป้ายรถเมล์แล้ว ขอบคุณนะคะที่เดินมาเป็นเพื่อน” หญิงสาวยิ้มให้คนมาส่งเล็กน้อยตามมารยาทอันพึงมี ก่อนเอื้อมมือคว้ากล่องเครื่องดนตรี ทว่ากลับคว้าได้แค่ลมเพราะเขาเบี่ยงมันหลบไปไกลมือเธอ

    “ไม่ต้องรีบขอบคุณผมขนาดนั้นก็ได้”

    “คะ ?”

    “กลับรถเมล์สายไหนได้บ้าง ผมจะได้ช่วยมอง” ธตรัฐรอคอยคำตอบ ขณะมองรถเมล์ที่ขับผ่านไป “ว่าไง หืม”

    “38 ค่ะ” มานิลาบอกสายรถเมล์ออกไป พลางชะเง้อคอมองรถที่กำลังเคลื่อนมาด้วย เธอต้องนั่งสายนี้ไปลงอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ จากนั้นก็นั่งรถอีกต่อหนึ่งเพื่อกลับไปยังที่พัก ซึ่งก็มีหลายสายที่สามารถนั่งไปได้ “มาพอดีค่ะ ”

    “ไปกัน” คนที่เตรียมพร้อมอยู่แล้วคว้าข้อมือหญิงสาวที่ทำหน้างุนงงหมายจับจูงจะให้เดินขึ้นรถตามผู้โดยสารรายอื่นที่ค่อย ๆ ทยอยกันขึ้น แต่เธอกลับขืนตัวไว้

    “ไปไหนคะ”

    “ก็กลับไง คุณไม่ให้ผมขับรถไปส่งผมก็นั่งรถเมล์ไปเป็นเพื่อน”

    “แต่ว่า...” เธอจะทำอย่างไรกับผู้ชายคนนี้ดี สำนวนไทยสำนวนหนึ่งซึ่งเรียนรู้มาจากนิยายไทยที่พลอยพิมพ์มักซื้อให้อ่านอยู่บ่อย ๆ คือ ได้คืบจะเอาศอกเพิ่งจะเห็นตัวอย่างชัดเจนก็วันนี้

    “ถ้านั่งรถเมล์คงไม่ต่ำกว่าชั่วโมง” เขาเว้นวรรคแล้วทอดสายตามองไปยังบันไดเลื่อนทางขึ้นสถานีรถไฟฟ้า “แต่ถ้าคุณไม่อยากอยู่กับผมนานนักก็รถไฟฟ้าไปลงหน้ามหาลัยเลยไม่ดีหรือไง สายสีเขียวเปิดมาได้เดือนกว่าแล้วนี่ใช่ไหม”

    “ค่ะ” สถานีรถไฟฟ้าอยู่หน้ามหาวิทยาลัยแท้ ๆ แต่เธอใช้บริการแทบนับครั้งได้ ทั้งที่ต้องมาเล่นดนตรีในร้านอาหารกลางสวนประมาณสามวันต่ออาทิตย์ “หนูไปรถไฟฟ้าก็ได้ค่ะ แต่คุณบอมไม่ต้องไปส่งได้ไหมคะ”

    “คุณไม่มีสิทธิ์เลือกแล้วมะลิ ไปกันเถอะ เร็วเข้า” จอมบงการกระชับฝ่ามือเข้ากับข้อมือเล็กให้มั่นคงขึ้น แล้วออกเดินนำไปยังบันไดเลื่อนท่ามกลางอาการขัดขืนของเจ้าตัว แต่เพียงไม่นานเธอก็เลิกพยศ คงตระหนักได้บ้างแล้วว่าถึงอย่างไรเขาก็ไม่มีทางยอมเป็นฝ่ายพ่ายแพ้

    มานิลายืนมองชายหนุ่มที่เดินเร็ว ๆ ไปยังห้องจำหน่ายบัตรโดยสารด้วยอารมณ์ที่บอกไม่ถูก เปลือกตาบางหลับลงด้วยความรู้สึกหน่วง ๆ ในใจ เธอไม่ชอบให้เขามาบังคับแบบนี้ แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าลึก ๆ แล้วรู้สึกปลอดภัยที่มีพี่ชายธริษตรีอยู่ด้วย

    “อุ๊ย !” หญิงสาวสะดุ้งเมื่อมีอะไรแข็ง ๆ มาจิ้มแก้ม พอหันมองก็เห็นว่าเป็นบัตรสีส้มลายกระต่ายสองใบ กับใครอีกคนที่ส่งยิ้มให้


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×