คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #16 : life isn't easy ❣ Chanyeol X You [1]
หลังจากที่ฉันโดนไอ้ผู้ชายเฮงซวยนั่นทิ้ง
ชีวิตฉันก็เผชิญกับความอึ้งแดก
ไม่รู้จะอึ้งที่มันบอกเลิกฉันก่อน
หรืออึ้งเพราะมันมีแฟนใหม่เป็นผู้ชายก่อนดี..
ให้ตายสิ ทำไมฉันต้องมาเจอเรื่องบ้าบอนี่ด้วยวะ!
กลับมาถึงคอนโดก็ได้แต่ร้องไห้ฟูมฟาย ทำไมกัน ผู้หญิงอย่างฉันมันไม่ดีตรงไหน
ก็แค่เป็นผู้หญิงถึกและบึกบึนอย่างที่ไอ้ห่าแบคฮยอนมันด่า
ถึงจะไม่อยากยอมรับแต่มันก็เป็นเรื่องจริง
การที่ผู้หญิงดูแลและรับผิดชอบตัวเองได้โดยไม่ต้องคอยให้ใครมาปกป้องนี่มันแปลกมากเลยเหรอสังคม
Fuckkk !!
สองเท้าพาร่างกายที่มีแต่ความเหนื่อยล้าออกมารับลมเย็นๆตรงระเบียง
มือเล็กเอื้อมไปเลื่อนบานกระจกให้เปิดและเดินออกไปสูดอากาศของกรุงโซลยามค่ำคืน
ตากลมโตปิดลงช้าๆเพื่อซึมซับบรรยากาศรอบข้าง ลมเย็นพัดประทะใบหน้าขาวใส
ปล่อยให้สมองได้รับการพักผ่อนไปพร้อมกับความรู้สึกที่เพิ่งเสียไปกับการโดนผู้ชายที่รักเท..
“ชีวิตมันก็ส้นตีนแบบนี้แหละ ” น้ำเสียงทุ้มต่ำดังมาจากระเบียงข้างๆ
ทำให้คนตัวเล็กสะดุ้งน้อยๆด้วยความตกใจ ดึกป่านนี้ยังมีคนอยู่อีกเรอะ - -
เมื่อหันไปก็ต้องอ้าปากค้าง..
ผู้ชายรูปร่างสูงโปร่ง โครงหน้าได้รูป คิ้ว ตา จมูกปาก อหหหหหหห. เขาหล่อจังเลยค่ะแม่
ลากสายตาลงมาเรื่อยๆ น.. นั่น กล้าม กล้ามโตๆที่ดูเหมือนชายร่างสูงเต็มใจจะโชว์ให้ชะนีน้อยตรงหน้าได้เขินเล่น
แม่!!! หนูเจอเนื้อคู่แล้ว
รักแท้เลยอ่ะ
ผู้ชายคนนั้นพ่นควันบุหรี่เป็นวงกลมแล้วหันมาสบตากับคนตัวเล็กที่ยังคงยืนอึ้ง
คิ้วได้รูปเลิกขึ้นเล็กน้อยเป็นเชิงว่า ‘จะมองหน้ากูอีกนานไหมครับ หื้มม’
คนตัวเล็กสะบัดหัวตั้งสติให้ตัวเอง
ก่อนจะหันไปสบตาร่างสูงตรงหน้านี้ ป๊าดดด!
ยิ่งมองยิ่งหล่อเว้ย ลืมไปเลยว่ากูเคยอกหัก
อยากจะเริ่มต้นใหม่กับคนตรงหน้าซะเดี๋ยวนี้เลยอ่ะ จะยอมพลีทั้งใจและกายให้เลยเอ้า!!
“อ๋อ ค่ะ แหะๆ” หัวน้อยๆพยักขึ้นลงและจบลงด้วยรอยยิ้มโง่ๆ
ก็ไม่รู้จะพูดอะไรกลับไปมากกว่านี้แล้วแหละ
แค่นี้ก็เขินเป็นบ้าเป็นหลังแล้วค่ะคุณกิตติ
ได้แต่ปล่อยให้ความเงียบครอบงำก่อนที่เราทั้งสองคนจะหันกับไปมองวิวกรุงโซลอีกครั้ง
ปล่อยให้ความคิดทำงานไปได้สักพักก็ต้องหันกลับไปทางผู้ชายคนนั้นอีกครั้ง
!!!!
“มึง?!” สองเสียงเรียกประสานกันทันทีที่หันไปสบตากัน
ไอ้แบคฮยอน
คนตัวเล็กได้แต่มองหน้า ‘บยอนแบคฮยอน’
เพื่อนสนิทสมัยเด็ก
สลับกับผู้ชายสูงโปร่งตรงหน้าด้วยความสงสัยที่หมายังรู้ว่าอินี่อยากเสือกเต็มที่แล้ว
และหน้าของคนตัวเล็กคงไปสะกิดต่อมอะไรสักอย่างที่ทำให้แบคฮยอนรีบพูดแก้ตัว
“เห้ยๆ อย่ามองอย่างนั้น.. นี่เพื่อนกู ไม่ใช่แฟนไอสัสใจเย็น” แบคฮยอนรีบพูดห้ามความคิดของคนตัวเล็ก
“เห่ยย กูก็ยังไม่ได้ว่าอะไรเลยป่าวว้า มึงร้อนตัว” ปากก็พูดไปแต่สายตานี่ล้อจนแบคฮยอนต้องเอื้อมมือไป..
เปี๊ยะ!!
เสียงดีดหน้าผากดังขึ้นพร้อมกับเสียงร้องโอดโอยของผู้หญิงคนเดียวในตอนนี้
มือเล็กยกขึ้นกุมหน้าผากตัวเองพร้อมขยับปากด่าขมุบขมิบอะไรก็ไม่รู้
ซึ่งผู้ชายทั้งสองคนคงไม่ได้ยินคำด่าเหล่านั้น
“แล้วนี่มายืนทำเอ็มวีอะไรตรงนี้เนี่ย”
เสียงของเพื่อนสนิททำให้คนตัวเล็กต้องเงยหน้ามองอีกครั้ง
“กูอกหักอ่ะเพื่อน ผู้ชายเฮงซวยนั่นมันทิ้งกูอ่ะ ฮือออออ”
เท่านั้นแหละ แบคฮยอนถึงกับกุมขมับ
ทำไมเพื่อนเขามันฉลาดแต่เรื่องโง่ๆอย่างงี้วะ นี่เหรอดีกรีเด็กนักเรียนนอก
มึงไปเรียนเมืองนอกหรือบ้านนอกกันแน่วะ เอาดีๆ
ไอ้เวรนั่นดูก็รู้แล้วว่าหลอกแดกเพื่อนเขา แต่เขาเองก็ไปห้ามอะไรมันมากก็ไม่ได้
พอจะห้ามนู้นห้ามนี่ไอ้ตัวเล็กมันก็กวนส้นตีนจนเขาขออยู่เฉยๆดีกว่า
ถ้าไม่อยากปวดกบาลก็ไม่ควรจะเข้าไปเสือกนะจ๊ะ แต่ก็นะ
พอมันร้องไห้ก็เขานี่แหละที่ต้องเป็นคนปลอบ เวรกรรมของแบคฮยอนจริงๆเล้ยยย
“มึงควรจะเข็ดได้แล้วนะเพื่อน
หันมามองกูนี่มาา ผู้ชายอกสามศอกอย่างกูเนี่ยดีสุดแล้ว”
“ฮืออออ ไม่เอาอ่ะ มึงไม่หล่อ”
ถามว่าหน้าผมสั่นไปกี่ริกเตอร์ครับผ้มมมม เหรี้ยย! กูออกจะหล่อ
มึงมองไงของมึงวะ!!
“แบคฮยอนๆ เพื่อนมึงอ่ะ ชื่อไรอ่อ?” ฉันถามพลางชะเง้อมองไปที่คนหล่อตรงนั้น
“ทำมะ? นี่มึงยังไม่เข็ดอีกเหรอเพื่อนจ๋า”
“เห่ยย ทำไมเพื่อนจ๋าพูดอย่างนี้หละ เค้าก็แค่อยากรู้จักเฉยๆ
ไม่มีอะไรแอบแฝงเลยจริงๆ” ประโยคท้ายๆเสียงนี่โหนซะสูงเลยนะชะนีน้อย
“ชานยอลมานี่หน่อย มีคนอยากรู้จัก”
สิ้นเสียงของแบคฮยอน คนตัวสูงก็บี้บุหรี่ลงที่เขี่ยและเดินตรงมาทางฉันและแบคฮยอน
คนตัวสูงเลิกคิ้วแล้วมองมาประมาณว่า ‘อะไรของมึงอีกครับ’ โอ้โห้!
ดึงหน้าไปอี้กกก ยิ้มเป็นไหมคะสุดหล่อ
แบบนี้ไม่ปลื้มเท่าไหร่แต่หล่อเลยให้อภัยแล้วกันโน๊ะ
“นี่เพื่อนสมัยเด็กของกู... ส่วนนี่ชานยอลเพื่อนกูเอง”
แบคฮยอนพูดแนะนำตัวให้ทั้งสองคนได้รู้จักกัน
หลังจากที่ยืนซึมซับรสชาติชีวิตด้วยกันแต่เสือกไม่แนะนำตัวอะไรกันเลย
“ชื่ออะไร... ครับ”
เสียงทุ้มต่ำมีเสน่ห์เอ่ยขึ้น พร้อมหางเสียงที่เพิ่งนึกได้ว่าควรพูด
“ชื่ออะไรดีน้า
ช่วยตั้งให้หน่อยสิ” ได้ทีกูขออ่อยหน่อยเถอะ โอกาสไม่ได้มีบ่อยๆ คริ
คนตัวสูงจ้องหน้าคนตัวเล็กที่ดูเผินๆแล้วคงจะเป็นคนกวนตีนไม่น้อย
นี่แบคฮยอนมันมีแต่เพื่อนแนวนี้เหรอวะ
ทำไมเลือกคบเพื่อนได้ชวนหัวปวดเช้ากลางวันเย็นแบบนี้เนี่ย
คนตัวสูงโนมตัวลงไปให้หน้าอยู่ในระดับเดียวกับคนตัวเล็ก
ปากอิ่มกระตุกยิ้มให้ก่อนจะเอ่ยปากพูด
“ชากียา.. อืมมม” เสียงทุ้มครางอยู่ในคอพร้อมทำท่าขุ่นคิด
“…”
“เอาชื่อนี้แล้วกันเนอะ”
เนอะที่หน้า -0-
“…”
“หึหึ”
สิ้นเสียงหัวเราะในลำคอ ร่างสูงก็เดินหายเข้าไปในห้อง ทิ้งให้คนตัวเล็กยืนเหวอแดกอยู่ตรงนั้น ถ้าไม่มีแบคฮยอนเรียกสติก็อาจจะยืนตรงนั้นจนถึงเช้า ก็เป็นได้...
คุณรักแท้ ชื่ออะไรไม่สนแล้วตอนนี้ ต้องเป็นรักแท้แน่ๆเลยอ่ะ
หลังจากวันนั้นจนถึงวันนี้
ชีวิตฉันก็ได้พบกับคำว่ายุ่งชิบหาย
เรียนหนักจริงไรจริง ไหนจะทำเรื่องย้ายมาเรียนเกาหลีอีกหละ
ฉันรู้นะว่ามันออกจะกะทันหันไปหน่อย เพราะนี่ก็เรียนปีสุดท้ายแล้ว
ก่อนหน้านั้นฉันกลับมาที่นี่ตอนที่โรงเรียนต่างๆทั้งเกาหลีกำลังปิดเทอม
ฉันเลยได้ทบทวนเส้นทางและเที่ยวไปในตัว และก็ต้องตกใจที่ได้พบแบคฮยอนอีกครั้ง
ทั้งๆที่ห่างหายกันไปนานหลายปี แต่ก็กลับมาเจอกันจนได้
โลกไม่ได้กลมอย่างเดียวแบบนี้เขาเรียกว่ามีเวรกรรมต่อกันด้วย
คอนโดที่ฉันอยู่ ข้างๆก็ห้องเป็นเพื่อนของแบคฮยอน
และคงยังต้องเจอไอ้หมาแบคพร้อมกับผองเพื่อนที่โรงเรียนอีกจนกว่าจะเรียนจบ
ถือซะว่าชาติที่แล้วเราสร้างเรื่องบาปให้กันแล้วกันนะเพื่อนจ๋า
“เหม่อไรนักหนาเนี่ย ให้เราพูดคนเดียวอีกแล้วนะ”
เสียงแหลมๆที่ออกมาจากปากคนข้างตัวฉันทำให้คนตัวเล็กหันไปมอง
“ใจเย็นเพื่อนฝูง แค่คิดอะไรเพลินๆหน่ะ เมื่อกี้ยองจีพูดว่าไงนะ”
เสียงหวานพูดห้ามพายุขนาดหย่อมพร้อมถามทวนคำพูดของเพื่อนสาว
“ก็เราถามว่าจะกินข้าวอะไรกันดี ตอนนี้คนยังไม่เยอะนะ
เราควรจะไปซื้อเลย” เมื่อได้ยินเพื่อนพูดอย่างนั้นก็ได้แต่พยักหน้าแล้วเดินไปทางร้านข้าวหน้าเนื้อเจ้าประจำ
อาหารถูกวางลงพร้อมกับคนตัวเล็กที่นั่งลง เพราะยองจีขอตัวไปซื้อน้ำและยังไม่ลืมถามคนตัวเล็กว่าจะกินน้ำอะไร ถือว่าฉันโชคดีที่ได้ยองจีเป็นเพื่อน
น่ารักสดใส นิสัยก็ดี ใจดีกับคนอื่นเขาไปทั่ว แต่ติดอยู่เรื่องเดียว
แม่งหัวเราะน่ากลัวชิบหาย หัวเราะออกมาทีนี่แทบจะแดกหัวเขา
555555555555555555555555555555
ระหว่างที่นั่งรอยองจีก็ได้แต่กวาดสายตาไปเรื่อย
จะมีบางที่หลายคนหันมาสบตากัน แล้วก็เป็นตัวฉันเองที่ได้แต่ทำหน้าเอือม แม่ง!
มึงจะนินทากูขอเนียนๆกว่านี้ไม่ได้เรอะ รำ!
มาเรียนไม่นานก็มีแต่คนหมันหน้า
มันจะไม่แปลกเพราะมีคนชอบก็ต้องมีคนเกลียด แต่ที่มันแปลกคือ คนพวกนั้นเกลียดฉัน
เพราะฉันไปสนิทกับกลุ่มไอ้แบคฮยอน ซึ่งดูเหมือนจะดังอยู่พอตัว ไม่ดิ
ดังที่สุดแล้วหล่ะ..
ฉันเองก็ไม่ได้ใส่ใจจนวันหนึ่งเดินผ่านหน้าห้องดนตรี แล้วหูดีเกินไปได้ยินคำด่าจากชะนีขี้อิจฉาอ่ะดิ
เลยรู้ว่า อ๋อ!ที่เขามองกูแปลกๆนี่คือเกลียดกูช้ะ - -
ไม่สน เพราะฉันสวย ขีดเส้นใต้ชัดๆ ฉันสวย
หมันหน้าไปอี้กนั่นนนน
โต๊ะขยับเล็กน้อยเมื่อมีคนมานั่งข้างๆ
ทำเอาคนตัวเล็กที่เหม่อๆอยู่หันกลับไปมอง บางทียองจีอาจจะกลับมาแล้วก็ได้ เร็วจริง..
!!!
“SHIT!!” เสียงหวานสบถดังพร้อมตัวกระตุกเล็กน้อยเพราะแรงสะดุ้ง
^__________^
“มองหน้าหาพ่อเธอหรือ” เสียงของคนที่มานั่งด้วยพูดพร้อมรอยยิ้มที่ทำให้ตีนกระตุกไม่น้อย
“ตลกละ”
เป็นบยอนแบคฮยอนและผองเพื่อนนั่นเองที่มานั่งกับฉัน ข้างขวาที่ว่างๆก็กลายเป็นปาร์คชานยอล
คุณรักแท้ของฉันที่มานั่งข้างๆ โห้ยยย ไม่อยากจะคุย ปาร์คชานยอลแม่ง…
หน้าม่อไอ้สัส!!
เจ้าชู้ที่สุด!!!
วันนั้นฉันเดินจะไปเข้าห้องน้ำ
โดยต้องเดินผ่านทางเชื่อมของตึกไปเพื่อที่จะไปห้องน้ำที่อยู่ริมสุดของตึก ขาเล็กก็เดินมาเรื่อยๆจนมาถึงห้องวิทยาศาตร์
จากตอนแรกจะเดินผ่านแล้วไปเข้าห้องน้ำเลย
กลับต้องชะงักเท้าและกลับไปเงี่ยหูฟังดีๆว่ากูไม่ได้หูฟาด
‘พ.. พอก่อน’ เสียงเล็กของผู้หญิงคนหนึ่งดังขึ้น
แต่ไม่เท่าประโยคถัดไปที่ทำให้คนตัวเล็กต้องหยุดเดินและเข้าไปเสือก
‘ช.. ชานยอล นี่! เดี๋ยวมีคนมาเห็น อ๊ะ… ‘
WHAT????!!!!
คุณรักแท้มึงกำลังพลอดรักกับใครคะ? นอกใจเหรอห้ะ! ปี้ดเลยสัส ปี้ดเลย
ในตอนนั้นสมองคิดแต่ว่าไม่จริงต้องไม่ใช่คุณรักแท้แน่นอน แต่พอแอบดูผ่านประตูที่แง้มไว้
เป็นต้องทำให้ตกใจรอบที่สอง และสาม เมื่อรู้ว่าบักห่านั่นเป็นคุณรักแท้จริงๆด้วย
กูไม่รักมึงแล้วคุณรักแท้!!!
ล้อเล่น แหะ
นั่นไงนั่น! ยังไม่ทันขาดคำ ปาร์คชานยอลมันก็หันไปยักคิ้วลิ่วตากับสาวโต๊ะข้างๆ ชะนีหน้าขาวนั่นก็เขินไปสิ
แล้วคุณรักแท้ก็บ้ายอไปกับชะนีพวกนั้นด้วย เขาสั่งให้ส่งจุ๊บก็ทำ
สั่งให้ส่งหัวใจก็ทำ มันจะมากไปแล้วนะ!คุณรักแท้
“ไม่ย้ายไปนั่งโต๊ะนั้นเลยล่ะคะปาร์คชานยอล”
เสียงหวานกระแนะกระแหนคนตัวสูงด้วยความหมั่นไส้สุดๆ
“หึงเหรอครับชากียา” คนตัวสูงหันกลับมามองหน้าคนตัวเล็กที่ทำท่าเบะปากใส่เขาเต็มทีแล้ว
“หึงสิคะ คุณรักแท้ ทำไมหน้าม่ออย่างนี้ล่ะคะ” คนตัวเล็กก็ไม่ยอมเหมือนกัน
เอาเซ่!
“ชากียากับคุณรักแท้ว่ะ ฮิ้ววววววววววววววววววววว”
เพื่อนฝูงแซวเสียงดังตามด้วยหัวเสียงหัวเราะ ให้ตายสิ ยองจีก็เป็นไปกับเขาด้วย เออแซวกันเข้าไปเถอะ
ไม่อายโว้ยยยย
“นั่นปากเหรอครับ น่า..”
เสียงทุ้มต่ำพูดขึ้นพร้อมไล่สายตามองปากจิ้มลิ้มก่อนจะเบนสายตาไปสบตาคนตัวเล็ก
“น่าอะไรคะ น่ารัก น่าฟัด หรือน่าจูบ”
“หึหึ”
สิ้นเสียงหัวเราะในลำคอ เพื่อนๆก็ส่งเสียงโห่แซวกันยกใหญ่
กว่าจะเงียบก็คือเพิ่งนึกได้ว่าหิวข้าว..
บ้าไปแล้ว
หลังจากนั้นเราก็สนใจแต่อาหารของตัวเองและแยกย้ายกันเข้าเรียนเมื่อถึงเวลาเรียนแล้ว
ห่างหายไปนานเลย ยังไงก็ฝากช็อตฟิคเล็กๆน้อยไว้ด้วยนะคะ
จะตั้งใจแต่งให้มากกว่านี้ค่ะ แหะ
ความคิดเห็น