ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เพทุบายกามเทพ (สนพ.ทัช)

    ลำดับตอนที่ #28 : เป็นเหตุ (3) (100%)

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.74K
      7
      25 ก.ย. 59


    8.เป็นเหตุ (3) (100%)

     

    บ้านแสนนครเป็นอำเภอหนึ่งของจังหวัดใกล้เคียง ระยะทางในการขับรถไม่ถึงร้อยกิโลเมตร ปริวิภาไม่คิดจะหลับ แต่พอเอาเข้าจริงๆ ก็เผลอหลับไปตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่ทราบ มารู้ตัวอีกทีรถจอดสนิทแล้ว ภสุวัฒน์ไม่ได้นั่งอยู่บนรถ แต่เขากำลังยืนคุยอยู่กับชาวบ้านชายหญิงอายุวัยกลางคนคู่หนึ่ง เธอจึงเปิดประตูรถเดินตามลงมา

                อ้าว! น้องภาตื่นแล้วเหรอ พี่ก็ว่าจะไปปลุกอยู่พอดีเขาพูดด้วยน้ำเสียงและแววตาอ่อนโยนน้องภาคะ นี่ลุงผล กับป้าสอางค์ คนดูแลไร่นี้

                ลุงกับป้าทั้งสองคนหันมาไหว้เธอ ก่อนที่ภสุวัฒน์จะอธิบายต่อ

                “พี่เพิ่งตกลงซื้อไร่มันสำปะหลังนี้ พอดีเจ้าของเขาบอกขาย และอพยพครอบครัวไปอยู่กับลูกสาวกับลูกเขยที่เชียงใหม่ พี่เห็นว่าไร่นี้ดีให้ผลผลิตงามดินดีน้ำเยอะเ พราะมีแหล่งน้ำอยู่ใกล้ๆ เขาบอกขายราคาสูง แต่พี่ก็ต่อรองได้ลดราคาลงมานิดหน่อย
     
                ปริวิภาก็ยังไม่เข้าใจว่า...เขาจะพาเธอมาที่นี่ทำไม แต่ยังไม่ทันที่เธอจะถามไถ่อะไร หญิงสาวก็ต้องเบิกตากว้างเมื่อเห็นลูกช้างเชือกหนึ่งเดินเพ่นพ่านอยู่ไม่ไกลจากบริเวณนั้น

     

                ลูกช้าง!” สัตวแพทย์สาวอุทานออกมา แล้วเดินลิ่วเข้าไปหามันมาอยู่ที่นี่ได้ยังไงคะ

                มันคงพลัดหลงกับพ่อแม่ในป่าครับคุณ มันโซซัดโซเซ และคงจะหิว เลยเข้ามาลักพืชผลในไร่กิน ผมไปเจอเข้าไม่รู้จะทำอย่างไร เลยพามันกลับมา แล้วดูแลกันไปก่อน

                อุ้ย! น่ารักมากเลย ตั้งชื่อให้มันหรือยังคะปริวิภาเอามือลูบหัวลูบงวงของมัน

                ชื่อขวัญใจครับ เพราะมันเป็นขวัญใจของเด็กแถวๆ นี้

                กินจุไหมคะ

                เอาเรื่องครับคุณ กินกล้วยทีเป็นเครือๆ ที่สำคัญมันยังเด็กยังต้องกินนม ผมก็ได้เงินจากคุณวัฒน์นี่แหละครับไปซื้อนมผงเด็กให้มันกิน

                พี่ก็เลยอยากให้คุณหมอภาช่วยตรวจดูขวัญใจให้สักหน่อย ว่าสุขภาพเป็นอย่างไรแข็งแรงดีไหมภสุวัฒน์บอกด้วยสายตาอ่อนโยน และชื่นชมคุณหมอว่าที่ภรรยาไปในตัว

                แต่ภาไม่ได้เอากระเป๋าเครื่องมือมา

                พี่ให้หมอวินช่วยเตรียมให้แล้วอยู่ท้ายรถ เดี๋ยวพี่ไปหยิบให้เขาเดินไปหยิบกระเป๋าด้วยท่าทางขมีขมัน หลังจากที่ปริวิภาตรวจดูอาการโดยทั่วไปแล้ว พบว่าลูกช้างอยู่ในสภาวะปกติ แข็งแรงดี แต่ติดว่ายังผอมไปสักนิด

                ต้องให้กินได้มากกว่านี้อีกสักหน่อยค่ะ
                                                                                      
              
    ไม่ต้องห่วงครับคุณ ขวัญใจกินเก่งมาก ตอนมาใหม่ๆ น่าตกใจมาก มันผอมแทบจะเรียกได้ว่าหนังหุ้มกระดูกเลยทีเดียว นี่ดีขึ้นมากเลยนะครับ ต้องขอขอบคุณคุณวัฒน์ที่ช่วยเหลือ เพราะลำพังผมกับเมียก็คงไม่มีปัญญานายผลหันมายกมือไหว้ภสุวัฒน์อีกครั้ง
                                                  

    ปริวิภามองชายหนุ่มด้วยแววตาลึกซึ้ง รู้สึกเหมือนได้รู้จักเขาในอีกแง่มุมหนึ่งว่า เป็นคนอ่อนโยนและมีเมตตา ไม่ใช่คอยจะตามยียวนกวนประสาทเธอแต่เพียงอย่างเดียว

     

           “ขอบคุณนะคะ” เธอบอกกับเขา ภสุวัฒน์หันมามองด้วยสายตาเป็นคำถาม “ก็ที่พี่...พี่วัฒน์พาภามารู้จักกับขวัญใจ

               คุณหมอคนสวยยังรู้สึกไม่ถนัดปากที่จะเรียกเขาว่าพี่ เธอส่งยิ้มให้กับเขาเหมือนกับไม่มีข้อแม้เป็นครั้งแรก และเต็มใจให้เขาพาเธอเที่ยวชมไร่ใหม่

           ไร่นี้...ใช้ได้เลยทีเดียวให้ผลผลิตดี แต่เจ้าของไร่คนเก่าขาดการทำนุบำรุงรักษาเท่าที่ควร ปล่อยไปตามยถากรรมมานาน พี่คงต้องปรับปรุงครั้งใหญ่ ทางด้านหลังไร่มีน้ำตกด้วยนะ น้ำจะเยอะในหน้าฝน แล้ววันหลังพี่จะพาน้องภาไปดู”


               “แล้วไร่นี้ชื่ออะไรคะ”

     

               “ยังไม่มีชื่อเลยค่ะ น้องภาช่วยตั้งให้หน่อยสิ”

     

              “ให้ภาตั้ง!” ปริวิภาทำหน้าเหลอ ก่อนที่จะทำท่าคิดอย่างเอาจริงเอาจัง “คุณแม่พี่วัฒน์ชื่ออะไรคะ”

     

               ภสุวัฒน์เลิกคิ้วก่อนที่จะตอบ “แววดาว”

     

              “ถ้าอย่างนั้นชื่อไร่แววดาวดีไหมคะ เพื่อเป็นการระลึกถึงคุณแม่ของพี่วัฒน์” 

              
    ชายหนุ่มอมยิ้ม เมื่อคนช่างคิดอธิบายจบ

              “ตกลงค่ะ ไร่นี้จะได้ชื่อใหม่ว่า ไร่แววดาว พี่รู้สึกเป็นสิริมงคลดี”


     

               คนตั้งชื่อยิ้มอย่างภูมิใจ แล้วหนุ่มเจ้าของไร่ตัวจริงก็รู้สึกอบอุ่นที่ได้ชื่อมารดาของตน มาตั้งเป็นเป็นชื่อไร่ใหม่ ต้องขอบคุณเธอที่ละเอียดอ่อน และช่างคิด

                คุณวัฒน์ครับ สงสัยฝนจะมานะครับลุงผลพูดขึ้นเมื่อเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้า ที่อยู่ดีๆสว่างจ้ากลับแปรเปลี่ยนเป็นมืดครึ้มลงอย่างรวดเร็ว มีเมฆฝนลอยคล้อยต่ำ ก่อนที่ผู้อาวุโสจะพูดอย่างมีประสบการณ์คงจะตกหนักเสียด้วย เพราะมันร้อนมากมาหลายวันแล้ว เรารีบกลับบ้านใหญ่กันเถอะครับ


                 เจ้าของไร่คนใหม่เห็นด้วยกับลุงผลผู้มากประสบการณ์รีบจูงมือหญิงสาวออกวิ่งมาที่รถ แต่ยังไม่ทันจะถึงรถด้วยซ้ำ ฝนก็เทกระหน่ำลงมาอย่างไม่ลืมหูลืมตา ทุกคนพากันเปียกปอนไปหมด อีกทั้งมีลมพายุที่โหมกระหน่ำ ทำให้ภสุวัฒน์ต้องใช้ความระมัดระวังอย่างเต็มที่ในการขับรถกว่าจะถึงตัวบ้านใหญ่

                ภสุวัฒน์พาหญิงสาวขึ้นมาบนบ้านใหญ่ที่เพิ่งปรับปรุงเสร็จ แล้วพาเธอมาที่ห้องนอนห้องหนึ่งที่อยู่ชั้นล่าง

                พี่ว่า...น้องรีบถอดเสื้ออาบน้ำสระผมซะ ก่อนที่จะไม่สบาย

                อุ้ย! ไม่เอาหรอก ไม่ถอด ไม่อาบปริวิภารีบปฏิเสธทันควันหน้าตาแดง เธออยู่ในสภาพที่เปียกชุ่มไปทั้งตัว เสื้อยืดตัวกระชับสีขาวจับเกาะติดเรือนร่าง อวดโชว์สัดส่วนที่โดดเด่นท้าทายสายตา แต่เมื่อรู้ตัวว่ากำลังตกเป็นเป้าสายตา ก็รีบยกแขนขึ้นบังตัวเอง


     

                “น้องภา! นี่ไม่ใช่เวลาที่จะดื้อนะ บอกอะไรก็เชื่อฟังกันบ้าง”

     

                “ถ้าจะให้เชื่อฟัง อาบน้ำเสร็จแล้วจะให้ใส่อะไร ในเมื่อเสื้อผ้ามันก็เปียกอย่างนี้

                โอเค! พี่มีกระเป๋าเสื้อผ้าสำรองอยู่ท้ายรถ เดี๋ยวจะไปหยิบมาให้ แล้วก็อย่าชักช้านะ เดี๋ยวพี่กลับมา แล้วน้องภายังไม่เสร็จ พี่จะเข้าไปอาบด้วย


                “ยี้ คนบ้า” ปริวิภาโกรธจนแทบเต้น แต่เขากลับหัวเราะเสียงดัง แล้วเดินผิวปากออกไปอย่างอารมณ์ดี ภสุวัฒน์หายไปไม่นานก็กลับมาพร้อมกระเป๋าเสื้อผ้าสีดำใบกระทัดรัด

                น้องภาได้แล้วนะชายหนุ่มร้องบอก

                เอาวางไว้ข้างหน้านั่นล่ะปริวิภาร้องบอกเสียงแหลม ก่อนที่จะเปิดประตูห้องน้ำออกมา แล้วก็ต้องชะงักเมื่อเห็นเขายังยืนพิงพนังอยู่

                เอ้า! จะมายืนทำไม ออกไปข้างนอกสิ คนจะแต่งตัวคนที่เพิ่งอาบน้ำเสร็จโผล่ออกมาแต่หน้าด้วยกระดาก

                ครับ...ครับ จะออกไปเดี๋ยวนี้ล่ะครับคุณผู้หญิงหนุ่มเจ้าของบ้านล้อเลียน แล้วเดินออกไปจากห้อง

                ปริวิภารื้อกระเป๋าเจอผ้าเช็ดตัวสีขาวสะอาดก็นำออกมาเช็ดตัวจนแห้ง ค้นกุกกักต่อไปก็เจอเสื้อทีเชิ้ตคอกลมสีเทาตัวใหญ่ย้วยๆนิดๆ เมื่อใส่แล้วความยาวปิดเลยต้นขา แล้วก็ได้กางเกงขายาวสีครีมเนื้อไม่หนามาอีกตัว แต่พอสวมแล้วเอวก็หลวมโพรกจนหลุดไปเกาะอยู่ที่สะโพก เธอมองหาเข็มขัดหรือเชือกที่พอจะนำมารัดเอวได้ แต่ก็ไม่มี จึงเปิดลิ้นชักใต้อ่างล้างหน้าโชคดีเจอเข้าเข็มกลัดซ่อนปลายอยู่หลายตัว จึงนำมากลัดที่เอวกางเกงก็ใช้ได้ ก่อนที่จะยิ้มให้กับตัวเองในกระจกเงา


     

                หญิงสาวยังเจอกระเป๋าใส่ของใช้กระจุกกระจิกของเขาข้างในมีพวกหวี แปรงสีฟัน และอุปกรณ์โกนหนวด เธอหยิบหวีออกมาสางผมที่เปียกและยุ่งเหยิง ก่อนที่จะส่องกระจกดูความเรียบร้อยของตัวเองเป็นครั้งสุดท้าย แล้วออกมาจากห้องน้ำโดยที่ไม่ลืมหยิบเสื้อกางเกงที่เปียกของตัวเองออกมาด้วย ก็เจอกับภสุวัฒน์
    ที่เปิดประตูห้องนอนกลับเข้ามาพอดี ร่างสูงยังอยู่ในชุดเดิมที่ตอนนี้เริ่มหมาด

                เสร็จแล้วหรือคะ ดีจังพี่จะได้อาบบ้างเจ้าของบ้านหนุ่มทักนัยน์ตาเป็นประกาย เห็นว่าเธอน่ารักในชุดหลวมโครกเครกของเขาอ้อ! เสื้อผ้าเปียกเอามา เดี๋ยวพี่ไปตากให้
     
                ไม่ต้อง...ค่ะ ตากที่ไหน เดี๋ยวภาเอาไปตากเองเขาไม่ยอม ตรงเข้าดึงผ้าเปียกในมือ แต่เจ้าของผ้าเปียกยื้อไว้ “ไม่ต้อง ภาตากเองได้”

                เดี๋ยวพี่เอาไปตากให้ทั้งสองดึงกันไปดึงกันมา จนชุดชั้นในตัวน้อยทั้งสองชิ้นที่ถูกซุกไว้ร่วงหล่นลงพื้น ร่างสูงไวกว่าตามเคย ก้มตัวลงเก็บอือ...คัพซี มิน่าถึงอึ๋มนัก” 

                 เจ้าของบ้านหนุ่มลากเสียงยาวจ้องมองทรวงอกของหญิงสาวที่กำลังสะท้อนขึ้นลงด้วยแรงหายใจ
                

    คนบ้าปริวิภาทิ้งผ้าเปียกในมือลงพื้น แล้วยกมือขึ้นปิดหน้าอกของตัวเองตามสัญชาตญาณ

                ก็แค่นี้...คนเจ้าเล่ห์หัวเราะหึ...หึ แล้วก้มลงเก็บผ้าเปียกทั้งหมด แล้วเดินออกไปจากห้อง เขากลับเข้ามาอีกครั้งในเวลาไม่นาน เห็นหญิงสาวกำลังยืนมองออกไปนอกหน้าต่าง ซึ่งขณะนี้มีทั้งลมและพายุฝนกระหน่ำลงมาอย่างหนัก และไม่มีทีท่าว่าจะหยุดลงง่ายๆ

                สงสัยจะเป็นพายุฤดูร้อน นี่ฝนยังตกหนักอยู่เลยร่างสูงมาหยุดยืนอยู่ข้างๆ

                แล้วเมื่อไหร่เราจะกลับได้คะปริวิภาเริ่มมีสีหน้าเป็นกังวล

                เราก็คงต้องรอให้ฝนหยุดก่อนล่ะค่ะ ถึงจะกลับได้เจ้าของไร่หนุ่มสรุป เธอก็พยักหน้ายอมรับ แล้วเหมือนทั้งคู่จะสงบศึกกันชั่วคราว เพราะตกที่นั่งเดียวกัน

                น้องภา! รอพี่แป๊บเดียว เดี๋ยวพี่อาบน้ำเสร็จ แล้วเราค่อยออกไปทานข้าวด้วยกัน ป้าสอางค์กำลังทำกับข้าวมื้อเย็นให้เราอยู่ 

                 ปริวิภาพยักหน้ารับเป็นคำรบสอง เธอนั่งมองสายฝนข้างนอกที่ยังตกอย่างไม่ลืมหูลืมตา อย่างไม่รู้จะทำอะไร

     

    จบตอนค่า

    ****************************************************

      ครืน! ครืน! ครืน! เปรี้ยง! เปรี้ยง! เปรี้ยง!
      ตอนหน้ามีเสียงซาวน์เอฟเฟคเป็นเสียงฟ้าร้องประกอบค่ะ ฮิฮิ                  
     
    เพราะตอนหน้ามีชื่อว่า...
    ฟ้าร้องคะนองรัก
    (1)
      เห็นชื่อแล้วชวนจั๊กจี๊ๆยังไงก็ไม่รู้ค่ะ 555555
      เราพบกันนะค้า จุ๊บๆๆๆๆๆ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×