ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เพทุบายกามเทพ (สนพ.ทัช)

    ลำดับตอนที่ #8 : โลกกว้าง...พรหมลิขิต (2)

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 2.14K
      8
      3 ก.ย. 59



    3.โลกกว้าง...พรหมลิขิต (2)


    ที่บ้านไร่ชวัลกร
                สวัสดีค่ะคุณภา ว้าว! คุณปริมกลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่คะนี่แพรวาออกอาการดีใจ เมื่อเห็นหญิงสาวอีกคนที่มากับน้องสาวของว่าที่เจ้าบ่าว


                เพิ่งกลับมาเมื่อวานนี้เองค่ะพี่แพร คิดถึงจังมีของฝากพี่แพรด้วยนะคะ

     
                ขอบคุณมากค่ะ ไม่น่าต้องลำบาก เชิญข้างในก่อนค่ะ ต้องอยู่คุยกันนานๆ ให้หายคิดถึงก่อนนะคะ


                แน่นอนอยู่แล้วค่ะพี่แพร พวกเรากะจะมาฝากท้องอาหารกลางวันที่นี่ด้วย” น้องเล็กสุดพูดอย่างร่าเริง


                ด้วยความยินดีเลยค่ะ นี่คุณแม่กำลังเตรียมอาหารกลางวันอยู่พอดี

     
                เดี๋ยวพี่แพรกับพี่ปริมขึ้นบ้านไปก่อนะคะ เดี๋ยวภาตามไปปริวิภาบอกกับพี่สาวทั้งสองคน

     
                เชิญค่ะคุณภาแพรวาพูดยิ้มๆ อย่างรู้ทันว่าน้องสาวของว่าที่เจ้าบ่าวจะไปไหน ส่วนปริมาไม่รู้เรื่อง
    จึงได้แต่ทำหน้างงๆ


                ไปคอกม้าค่ะคุณปริมแพรวาเฉลย ทำเอาปริมาถึงบางอ้อ สัตวแพทย์สาวเดินตัวปลิวตรงไปยังคอกม้าที่อยู่ไม่ไกลจากตัวบ้าน


                สวัสดีครับคุณภา

                สวัสดีค่ะคุณดลปริวิภายิ้มแย้มแจ่มใสกับผู้จัดการไร่ชวัลกรที่เพิ่งรู้จักกันตอนที่เธอมาเยี่ยมแพรวาในช่วงสองเดือนหลังมานี้ แต่รู้สึกถูกชะตาต้องอัธยาศัยกัน

     

     

     

                มาเยี่ยมอาเธ่อร์หรือครับ

     


                ค่ะ ไม่รู้เป็นอย่างไง ภาชอบม้าลักษณะดีอย่างอาเธ่อร์จัง


                ถ้าอย่างนั้นก็เหมือนกับคุณวัฒน์ล่ะครับ รายนั้นก็ชอบ...ม้ามาก


                ถ้าภาจะเจรจาขอซื้อเจ้าอาเธ่อร์จากเจ้านายของคุณดล ก็คงเห็นจะยากล่ะสิคะ” ปริวิภาพูดทีเล่นทีจริง


                อันนี้ผมก็ไม่ทราบครับ ต้องลองคุยกันเอง บางทีถ้าคุณภามีข้อเสนอดีๆ คุณวัฒน์อาจจะยอมขายให้คุณภาก็ได้ หรือบางทีอย่าว่าแต่ขายเลยครับ อาจจะยกให้ฟรีๆ เลยก็ได้ผู้จัดการหนุ่มพูดอย่างกับรู้ความนัยนัยน์ตามีความหมาย


                อันที่จริงวีรดล ธรรมรส ก็รู้ความนัยจริงๆ เขาค่อนข้างนับถือในความอดทนของภสุวัฒน์ที่เฝ้าแอบรัก แอบมองโดยไม่แสดงตัว และช่วงเวลาสองเดือนที่ปริวิภากลับมาอยู่บ้านไร่ ทำให้วีรดลได้รู้จักเจ้าหล่อนมากขึ้น แล้วก็ได้รู้ว่าเจ้านายของเขาสายตาแหลมคมเลือกผู้หญิงได้ไม่ผิด เธอทั้งสวย ทั้งเก่งและฉลาด เปรียบเสมือนม้าดี ที่ต้องมีทั้งดื้อและพยศ ให้เจ้านายของเขาได้ออกแรงปราบอย่างแน่นอน

     

     

     

                ปิ้น...ปิ้น เสียงแตรรถยนต์ทำให้ปริวิภาชะลอรถจักรยานยนต์ที่เธอกำลังขี่ แล้วหันไปมองรถสปอร์ตที่แล่นขึ้นแซงไปจอดอยู่ข้างหน้า

     

     

                สวัสดีครับคุณปริวิภาชายหนุ่มรูปร่างสูงใหญ่หน้าตาดี ท่าทางภูมิฐานเดินยิ้มกว้างลงมาจากรถ


                คุณเวคิน สวัสดีคะปริวิภาทักทายกลับ ชายหนุ่มนาม เวคิน วรวิชญ์ เจ้าของภูตะวัน มันตรา รีสอร์ท ที่เธอเพิ่งรู้จักกับเขาเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ตอนที่เข้าร่วมสัมมนาพัฒนาชุมชนท้องถิ่นกับทางจังหวัด

     
                เวคินเป็นนักธุรกิจรุ่นใหม่ ที่มีความรับผิดชอบต่อชุมชนและธรรมชาติ โดยมีหลักไม่คิดทำร้าย ทำลายธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อมของชุมชนนั้นๆ ให้ผิดวิถีไปจากเดิม


                ไปไหนมาครับ...คุณภา


                ไปเยี่ยมและฉีดยาให้กับลูกวัวที่เพิ่งตกใหม่ที่บ้านลุงสงัดมาค่ะสัตวแพทย์สาวบอกด้วยน้ำเสียงแจ่มใส นัยน์ตาเป็นประกายแล้วคุณเวคินล่ะคะ ไปไหนมา


                ผมเข้าเมืองมาครับ กำลังจะกลับรีสอร์ท แล้วคุณภาจะไปไหนต่อครับ” 

    เวคินประทับใจสัตวแพทย์สาวตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอกัน เธอสดใสน่ารัก และเป็นกันเองกับทุกคน ยังไม่รวมถึงความรู้ความสามารถในหน้าที่การงาน ที่ไม่น่าเชื่อว่าผู้หญิงรูปร่างอ้อนแอ้นอรชรจะรับผิดชอบงานหนักได้เท่าเทียมกับผู้ชาย

     

     

                กลับบ้านไร่เลยค่ะ

     

     

                “ถ้าผมจะขออนุญาตไปเยี่ยมคุณภาที่บ้านไร่นภศุภ์บ้างจะได้ไหมครับ ได้ยินว่าไร่นภศุภ์เป็นไร่ใหญ่ที่มีการเกษตรแบบผสมผสาน สร้างสมดุลทางธรรมชาติ ช่วยระบบนิเวศของชุมชนให้ดีขึ้น ผมก็อยากจะขอเยี่ยมชม หวังว่าคุณภาคงจะไม่รังเกียจ” เวคินขออนุญาตหญิงสาวที่เขารู้สึกชื่นชม

     

     


                เชิญคุณเวคินค่ะ... บ้านไร่นภศุภ์ยินดีตอนรับเสมอค่ะหญิงสาวยิ้มกว้างยินดีจากใจจริง

     
                ขอบคุณมากครับ แล้วผมจะแวะไปเยี่ยม สำหรับวันนี้ผมเห็นจะต้องขอตัวก่อน แล้วเจอกันใหม่ครับคุณภาเจ้าของรีสอร์ทหนุ่มเดินกลับไปที่รถ แล้วยังไม่วายหันมาโบกไม้โบกมือให้


                ด้วยแสงแดดยามบ่ายที่แผดเผาจนอากาศสองข้างทางเป็นไอระเหยด้วยความร้อนจากดวงอาทิตย์ ปริวิภาขับมอเตอร์ไซค์คันเล็กของเธอไปตามถนนลูกรังแดงเพื่อกลับบ้านไร่ อากาศร้อนทำให้เธอเหงื่อซึมไปเหมือนกัน หญิงสาวสวมหมวกฟางมีสายผ้าสีหวานๆผูกอยู่ใต้คางใส่กันแดดแทนหมวกกันน็อค

     
                แต่เมื่อเธอขับมอเตอร์ไซด์ลมร้อนก็ปะทะเข้าหน้า ทำให้สายผ้าผูกใต้คางคลายปมออก หมวกฟางใบสวยจะปลิว ด้วยความตกใจเธอรีบใช้มือตะครุบไว้ไม่ให้หมวกปลิว ส่วนอีกมือบังคับแฮนด์มอเตอร์ไซด์ ประจวบกับถนนมีหลุมใหญ่ข้างหน้า ทำให้ต้องหักแฮนด์หลบอย่างกะทันหัน จนรถมอเตอร์ไซด์คันเล็กส่ายไปมา ก่อนที่จะเสียหลักล้มกลางถนนลูกรัง


                เอี๊ยดดด!!” เสียงเหยียบเบรกดังสนั่น พร้อมกับเจ้าของรถที่ขับตามหลังหักพวงมาลัยหลบอย่างกะทันหันไม่แพ้กัน เป็นผลให้รถโฟร์วีลไดร์ฟสีดำเสียหลักแฉลบลงข้างทาง 

               
              
    ตายแล้ว!” ปริวิภาร้องขึ้นอย่างตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เธอรีบลุกขึ้นลืมอาการเคล็ดขัดยอกของตัวเอง แล้ววิ่งไปที่รถโฟร์วีลคันโตที่หัวทิ่มลงไปในคูน้ำข้างทาง

     
                คุณคะ...คุณ...เป็นอย่างไรบ้างหญิงสาวเข้าไปตบกระจกด้านคนขับ พร้อมกับร้องเรียกเมื่อเห็นเจ้าของรถฟุบหน้าลงกับพวงมาลัยรถ “คุณ...

     

    สัตวแพทย์สาวร้องเรียกอยู่นาน คนที่นั่งหลังพวงมาลัยเริ่มขยับตัว ก่อนที่จะผลักประตูรถออกมาอย่างแรง จนร่างอรชรที่ยืนอยู่ข้างประตูแทบกระเด็น


                คุณขับรถประสาอะไร ถ้าผมเบรกไม่ทัน คุณคงได้เป็นผีนอนเฝ้าถนนไปแล้ว” หนุ่มเจ้าของรถโฟร์วีลไดรฟ์ผรุสวาทด้วยความโมโหสุดขีด พร้อมกับถอดแว่นกันแดดอันโตออกจากใบหน้า ทำให้ทั้งสองฝ่ายเห็นหน้าค่าตากันอย่างชัดเจนเป็นครั้งแรก แล้วต่างฝ่ายก็ต้องอ้าปากค้างตกตะลึง เพราะนึกไม่ถึงจริงๆ                                                                       


                 “ปริวิภาเจ้าของโฟร์วีลไดร์ฟพึมพำชื่อเธอเบาๆ
                                                                                                                                                                                                                                                                            
                  เช้าวันนั้นภสุวัฒน์ตกใจและรู้สึกเป็นห่วง เมื่อตื่นขึ้นมาไม่พบปริวิภาอยู่ในเพนท์เฮาส์เสียแล้ว
     เป็นเพราะเขาดื่มหนักไปหน่อย จึงหลับสนิทไม่รู้เรื่องตอนที่เธอออกไป ทิ้งไว้เพียงกระเป๋าสะพาย เสื้อเชิ้ตสีขาวเปื้อนอาเจียน กับชุดชั้นในลูกไม้สองชิ้น ซึ่งเขาอดยิ้มกับตัวเองไม่ได้ เมื่อเห็นไซด์ของชุดชั้นในว่า เป็นไซด์คัพซีเจ็ดสิบ ทำให้นึกถึงทรวงอกอวบใหญ่เกินตัวชวนให้หลงใหล ยังติดตาติดอยู่ที่ริมฝีปากของเขาอยู่ ด้วยความเป็นห่วงเขารีบโทรศัพท์เข้าไปที่บ้านนภศุภ์


                ป้าหวีหรือครับ ผมภสุวัฒน์พูด ผมขอสายคุณอรด้วยครับ

     

    ฉวีรู้จักชายหนุ่มในฐานะพี่ชายของแพรวา ภสุวัฒน์ค่อนข้างสนิทสนมกับครอบครัวของปณพลและอรสุดา เขามักจะมาเยี่ยมอรสุดาเกือบทุกครั้งที่เข้ากรุงเทพ ทำให้ฉวีรู้จักเขาเป็นอย่างดีไปด้วย
               

     

     

    สวัสดีค่ะคุณวัฒน์ คุณอรไม่อยู่หรอกคะ คุณพลพาคุณอร และคุณหนูเล็กๆ ไปพักผ่อนที่หัวหินค่ะ
               

    แล้วนี่มีใครอยู่บ้างครับภสุวัฒน์แกล้งถาม

               

    มีคุณภาค่ะ แต่ตอนนี้เธอนอนพักผ่อนอยู่ข้างบน คุณวัฒน์มีธุระอะไรหรือเปล่าคะ” คำตอบของป้าแม่บ้าน ทำให้ชายหนุ่มปลายสายยิ้มออกด้วยความโล่งใจ ก่อนที่จะปฏิเสธและขอวางสายโทรศัพท์ไปในที่สุด

     

     

     

    ในเวลานั้นเขาต้องรีบเข้าไปที่บริษัท ชวัลกร กรุ๊ป เพื่อเคลียร์งานทุกอย่างให้เรียบร้อย ก่อนที่จะเดินทางไปนิวยอร์ค เพื่อเจรจาธุรกิจสำคัญซึ่งอาจจะกินเวลานานถึงสองเดือนหรือมากกว่านั้น หลังกลับจากอเมริกาเขาคงต้องหาโอกาสเคลียร์กับเธออีกที

     

     

     

              และนึกไม่ถึงว่าทันทีที่เขากลับมาถึงเมืองไทย ก็ได้พบเธอที่นี่อย่างไม่คาดคิด

     

     

     

                To be continue…
     

    ***********************************************

     

    เอาแล้วสิ นางเอกของเรา หนีก็แล้ว อธิฐานก็แล้ว สาปแช่ง ก็แล้ว

    แต่ไหงต้องมาเจอกันอีก

    ก็เป็นเพทุบายของกามเทพไงจ๊ะ เธอหนีเขาไม่พ้นแน่ ปริวิภา อิอิ

    แล้วพบกับ โลกกว้าง...พรหมลิขิต (3) ในครั้งต่อไปนะคะ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×