ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    The Little Project Devil Boy ปฏิบัติการร้ายของนายตัวแสบ

    ลำดับตอนที่ #1 : The Little Project Devil Boy [ 1 ] [[ ยัยแบม !! >_< ]]

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 743
      2
      6 ต.ค. 49

    ตอนที่ 1 : The Little Project Devil Boy [ 1 ] [[ ยัยแบม !! >_< ]]
            
             ณ. โรงเรียนมัธยมศึกษา B โรงเรียนรัฐบาลที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่งในกรุงเทพมหานคร......นักเรียนหลายพันคนเริ่มทยอยเข้ามารวมตัวรอเข้าแถวเคารพธงชาติที่ลานตัวหนอนหน้าเสาธง.....แม้เสียงออดเตรียมเคารพธงชาติจะดังไปได้สักระยะแล้ว...แต่นั่นมันก็ไม่ได้ทำให้ฉันยกก้นงามๆลุกจากบริเวณโต๊ะหินอ่อนริมสนามบาสเก็ตบอลหลังโรงเรียนไปได้...ทำไม..เพราะอะไรน่ะเหรอ....ก็เพราะฉันยังมีการบ้านที่ต้องรีบปั่นให้เสร็จ...ให้ตายสิ..เปิดเทอม 1 ยังไม่ถึงสัปดาห์แต่การบ้านรายงานก็ท่วมหัวเสียแล้ว...

             "แป้ง!!!"

             เสียงผู้หญิงคนหนึ่งเอ่ยดังใกล้ๆโต๊ะหินอ่อนที่ฉันกำลังนั่งอยู่...แม้สายตากับมือของฉันจะร่วมมือร่วมใจที่สมุดการบ้านกับปากกา...หากแต่สมองและหูของฉันก็ยังไวพอต่อเสียงรบกวนทำลายสมาธินั่น...

             "ยัยแป้ง!!!"

             เสียงนั้นดังเป็นครั้งที่ 2 ให้ตายสิ...ยัยนั่นช่างไม่มีมรรยาทเอาเสียเลย..มันน่าจะซื้อหนังสือคุณสมบัติผู้ดีให้เอาไปต้มกิน..แถมยัยคนที่โดนเรียกชื่อก็ดันไม่ขานรับไปเสียที...ไม่ได้เอาหูมาโรงเรียนหรืออย่างไรกันนะ -_-***

             "ยัยแป้งงง!!!!!"

             ยัยนั่นตะโกนอีกครั้ง....ทนไม่ไหวแล้วเว้ย!!! มันจะตะโกนทำไมเนี่ย...ทว่า..เมื่อฉันหันไปมองเจ้าของเสียง...ก็ต้องพบว่า..มันคือ แนท เพื่อนสนิทของฉันนี่เอง

             "อ่ะ..อ้าว..ยัยแนท"

             โป๊กกก!! มะเหงกงามๆของแนทเขกลงบนหัวของฉันด้วยน้ำหนักที่พอดีมาตรฐานสากล TTwTT ก่อนมันจะโวยวาย

             "ก็เออสิ...นี่แกมัวแต่ลอกการบ้านของฉันจนไม่สนใจอะไรเลยเหรอ..หัวจะมุดเข้าไปในสมุดอยู่แล้วนะยะ"

             มันบ่นออกมาเป็นชุด....ฉันได้แต่ยิ้มแห้งๆอย่างไร้คำแก้ตัว.....

             "แนทก็..แนทต้องเข้าใจเราสิ..."

             "เข้าใจว่าแกเอาเวลาทำการบ้านไปนั่งดูการ์ตูนเซลเลอร์มูนตั้งแต่ภาคแรกเพื่อย้อนความทรงจำในวัยเด็กน่ะเหรอ"

             ง่ะ..ยัยบ้า..พูดออกมาแบบนี้คนอ่านเขาก็รู้หมดน่ะสิ TTwTT

             "เออน่า...แกไปเข้าแถวก่อนไป...เดี๋ยวฉันก็ปั่นไม่เสร็จพอดี เสร็จแล้วจะเอาสมุดการบ้านไปคืน"

             ฉันพูดพลางโบกมือไล่แนทให้ไปเข้าแถว..เพื่อนสุดที่รักทำหน้างอหงิกก่อนสะบัดหน้าเดินออกไป...เฮ้อ..ไปสักที เมื่อมารผจญเดินจากไป ฉันจึงได้เริ่มลงมือปั่นการบ้านต่อ...สู้ๆ..อีกนิด..อีกนิด..ใกล้เสร็จแล้ว.....

             โป๊กกก!!!! หัวของฉันโดนมะเหงกเขกลงมาอีกครั้ง..โอ้ย....นี่ถ้าสมองซีกซ้ายกับซีกขวาของฉันไหลมารวมกัน ใครจะรับผิดชอบห่ะ!!!... ยัยแนทนี่ไล่ก็ไม่ไป..แถมมาเขกหัวฉันถึง 2 ครั้ง 2 ครา....ต้องเฉ่งสักหน่อย...

             "นี่ยัยแน................"

             เฮือกกก...เมื่อฉันหันไปจะโวยวายกับคนที่คิดว่าเป็นแนท พลัน ก็ต้องตกใจ....

             "ยัยภัทรธิดา..มัวแต่ทำอะไรอยู่ เพื่อนทั้งโรงเรียนเขาไปเข้าแถวที่หน้าเสาธงกันหมดแล้ว...!!!"

             อาจารย์กัญญาภา อาจารย์สาวฝ่ายกิจการนักเรียนเอ่ยดุฉัน พลางถือไม้เรียวอันยาวไว้ในมือเป็นอาวุธประจำกาย...

             ฮ่าๆๆ...ฉันยิ้มแห้งๆส่งให้อาจารย์กัญญาภา ก่อนที่ 2 มือของฉันจะรวบสมุดการบ้านและอุปกรณ์การเขียนและ 2 เท้าของฉันก็โกยอ้าววิ่งออกไปจากบริเวณนั้นมุ่งสู่ลานตัวหนอนทันที...

    ........................

             ฉันค่อยๆนั่งลงที่แถวประจำของตัวเอง นั่นคือ ม.6/15 สายวิทย์คณิต.. ห้องที่รวมคนหน้าตาดีและฉลาดปราดเปรื่องเอาไว้ทุกคน.. เอ่อ..รวมถึงฉันด้วยนะ -_-a

             "อ้าว..เสร็จแล้วเหรอ"

             แนทพูดพลางดึงสมุดการบ้านของมันไปไว้กับตัวด้วยความรวดเร็วทันที.... ชิ..ยัยงก...แค่ขอยืมสมุดการบ้านลอกเฉพาะตอนเช้า ( มาตลอดตั้งแต่ม. 1 ยัน ม.6 แค่นี้เอง )

             "เปล่าหรอก...โดนอาจารย์กัญญาภาไล่มาน่ะสิ"

             แนทพยักหน้าอย่างเข้าใจ...เพราะใครๆในโรงเรียนก็รู้ว่าอาจารย์ฝ่ายกิจการนักเรียน โหด เฉียบ เนี้ยบ คม ขนาดไหน.. จริงๆน่าจะเปลี่ยนจาก ฝ่ายกิจการนักเรียน เป็น ฝ่ายจัดการนักเรียน มากกว่านะ -_-b

             เสียงอาจารย์ชาญนเรศ อาจารย์ผู้ชายสอนพลานามัย อีกทั้งยังอยู่ฝ่ายจัดการ..เอ้ย..กิจการนักเรียน ส่งเสียงผ่านไมค์ขณะอยู่บนเวทีบริเวณลานตัวหนอน....เรื่องที่พูดถึงในวันนี้ก็เรื่องการมาโรงเรียนให้ตรงเวลา ระเบียบการแต่งกาย และ อื่นๆอีกมากมาย..แต่ฉันไม่ใส่ใจฟังหรอก ก็แหม...ฟังมาตั้ง 5 จะ 6 ปีแล้ว ปล่อยให้พวกน้องๆฟังไปบ้างละกัน ฮี่ๆๆ^^"

             เอาเวลาฟังไปนั่งมองดู เต้ เพื่อนร่วมห้องที่ฉันหมายปองมาเกือบ 2 ปีดีกว่า...ทั้งหล่อ เข้ม สูง 180 กว่าๆ...แถมยังเป็นนักกีฬาบาสเก็ตบอลของโรงเรียน....ดังนั้นไม่ต้องคิดเลยว่าจะมีแต่ฉันที่หมายตาหมายปองเขาอยู่คนเดียว...

             "วันนี้ครูจะแนะนำเพื่อนใหม่ที่เพิ่งย้ายเข้ามาเรียนที่นี่ให้ทุกๆคนได้รู้จักกันนะ..."

             ทั้งๆที่คิดว่าจะไม่ฟังอาจารย์ชาญนเรศพูด แต่ก็อดไม่ได้ที่จะหันไปสนใจฟัง....ใครกันที่ย้ายเข้ามากระทันหันแบบนี้ เด็กเส้นล่ะสิท่า...ปกติแล้วโรงเรียนฉันเวลามีใครย้ายเข้ามาก็มักจะขึ้นมาแนะนำตัวที่เวทีหน้าเสาธงในวันแรกของการเปิดเทอม ไม่ใช่เปิดมาเกือบสัปดาห์แบบนี้ ไหนๆขอดูหน้าหน่อยสิ...ว่าแล้วฉันก็เริ่มยืดคอคล้ายๆตะพาบน้ำเพื่อมองนักเรียนใหม่ที่ย้ายเข้ามา...

             เด็กสาวรุ่นราวคราวเดียวกับฉัน หน้าตาน่ารัก แก้มใสๆขาวๆอมชมพู ตาโตบ้องแบ๊วแป๋วแหวว ( อะไรจะขนาดนั้น ) จมูกโด่งได้รูป ริมฝีปากเรียวบางเอิบอิ่ม ผมสีน้ำตาลดำของเธอมัดเรียบร้อยด้วยโบว์สีขาวเข้ากับชุดนักเรียนโรงเรียนรัฐบาลยิ่งนัก..ให้ตายสิ..นี่เธอหลุดออกมาจากหนังสือแฟชั่นอย่าง คาวาอิ , ไอไลค์ อะไรพวกนี้หรือเปล่าเนี่ย...

             "เฮ้ย....น่ารักว่ะ..เด็กญี่ปุ่นหรือเปล่าเนี่ย.."

             "เฮ้ย..กูจองๆ...น่ารักโคตรๆ...."

            เสียงเสือ สิงห์ กระทิง ( เอ่อ..แต่คงไม่มีแรด -_-" ) เริ่มส่งเสียงเจี๊ยวจ๊าว..... ไม่ต่างอะไรไปจากนักเรียนชายในห้องที่มันพยายามเข้าร่วมเป็นสปีชีส์เดียวกันกับฉัน นั่นคือ ตะพาบน้ำ -_-"

             "สวัสดีค่ะ...ชื่อ รัตติกาล ศิริวัฒนา ชื่อเล่น แบม ค่ะ"

             เธอเอ่ยแนะนำตัวด้วยน้ำเสียงเล็กๆใสๆ แต่แค่นั้นก็ทำให้ผู้ชายเกือบทั้งโรงเรียนใจละลายไปเรียบร้อยแล้ว ส่วนผู้หญิงก็พากันหมั่นไส้ตามประสาเช่นเดียวกับฉัน...ก็จะไม่ให้หมั่นไส้ได้อย่างไร..ก็ดูสิ...เต้ยังชะเง้อคอมองมันเลย กรี๊ดดๆๆ...เต้นะเต้..มีดอกกุหลาบงามๆอยู่ในมือไม่ชอบ ดันไปมองยัยดอกซากุระปลอมๆนั่น.. ( ฉันว่าแกก็เป็นดอกกุหลาบปลอมเหมือนกัน -_-" จาก Sw. )

             ดูสิคะท่านผู้อ่าน..มันจะไม่ให้น่าหมั่นไส้ได้อย่างไร อยากรู้นักห้องไหนจะรับเคราะห์ให้ยัยนี่ไปอยู่ร่วมนะ..คงจะซวยโคตรๆ

             "เอาล่ะ....รัตติกาลจะอยู่ห้องมอหกทับสิบห้านะ ขอให้เพื่อนๆทุกคนเทคแคร์เธอด้วยล่ะ"

             อาจารย์ชาญนเรศเอ่ยบอก ทำเอาผู้หญิงม. 6/15 รวมทั้งฉันอ้าปากค้างแต่พวกผู้ชายนั้นวี้ดวิ้วยินดีกันใหญ่ ต่างจากผู้หญิงห้องอื่นที่ถอนหายใจอย่างโล่งอกแต่พวกผู้ชายห้องอื่นต่างทำหน้าเสียดายกันยกใหญ่...ฮึ่ยยยยย!!!!

    ........................

             ฉันกำลังนั่งหน้าหงิกบ่งบอกบุญไม่รับ มีสิทธิ์งับหัวคนได้ถ้าเข้าใกล้ในรัศมี 2 เมตร... เมื่อไรมันจะมา...เมื่อไรมันจะมา.. ฉันกำลังนั่งคิดคำๆนี้วนไปวนมาอยู่ในหัวสมอง...ตลอดระยะเวลาที่รอคาบโฮมรูม ฉันกำลังรอใครอยู่น่ะเหรอ...ก็รอยัยแบมอะไรนั่นน่ะสิ....เมื่อไรจะมาสักที ไม่รู้มรรยาทอะไรบ้างเลย ว่าให้คนอื่นเขารอนานๆไม่ดีนะยะ!!! แถมไอ้พวกผู้ชายห้องฉันก็ไปยืนเฝ้ารอรับเสด็จคุณเธอที่หน้าห้องเรียนเต็มไปหมด...

             "เฮ้ย...มาแล้ว!!!"

             เสียงโจ้ เพื่อนสนิทเต้เอ่ยโวยวายแล้ววิ่งเข้ามาในห้องด้วยท่าทางตื่นเต้น....เหล่าผู้ชายที่ยืนออในตอนแรกรีบกรูกันเข้ามานั่งประจำโต๊ะเรียนของตัวเองอย่างเรียบร้อย ก่อนที่ อาจารย์ส่องจรัส อาจารย์สาวสอนวิชาสังคมศึกษาและยังเป็นอาจารย์ที่ปรึกษาห้องของฉันจะเข้ามายืนหน้าห้องเรียนพร้อมนักเรียนใหม่

             "ทุกๆคนคงได้ยินอาจารย์ชาญนเรศพูดที่หน้าเสาธงแล้วว่า เราจะมีเพื่อนร่วมห้องใหม่.....นั่นคือ รัตติกาล ศิริวัฒนา หรือ แบม...ครูขอให้ทุกๆคนเทคแคร์เธอและเป็นเพื่อนกับเธอด้วยนะ"

             อาจารย์ส่องจรัสเอ่ยบอก ในขณะที่นักเรียนทั้งห้องต่างพยักหน้าหงึกหงักอย่างเข้าใจ

             "เอาล่ะ.....พวกเราจะให้แบมนั่งที่โต๊ะไหนได้บ้าง"

             อาจารย์สาวเอ่ยคำถามสวรรค์ขึ้น แทบไม่ต้องบอกก็รู้ได้เลยว่าพวกผู้ชายยกมือกันพรึ่บพรั่บแถมไม่เกี่ยงกันเลยสักคน

             "ตรงนี้ครับอาจารย์"

             "ตรงนี้ว่างครับ....นั่งตรงนี้ได้ครับ"

             "ที่ไม่ว่างแต่หัวใจยังว่างครับ..."

             เฮ้ย..ใครฟะ แม่งเสี่ยวว่ะ...อยากจะอ้วก...เอาเถอะจะนั่งที่ไหนก็นั่งไปแต่อย่ามานั่งข้าง.......ยังไม่ทันที่จะคิดเสร็จ ฉันก็เหลือบไปเห็นว่าเต้กับโจ้ที่นั่งด้วยกันกำลังจะยกมือ คงจะให้ยัยนั่นนั่งโต๊ะด้านหลังพวกเขาที่ว่างอยู่แล้วนั่นเอง กรี๊ดดดด...ใครจะไปยอม!!! เพิ่งคิดอยู่ว่าอย่ามานั่งข้างเต้

             "อาจารย์คะ..ให้นั่งข้างหนูก็ได้ค่ะ"

             เหมือนไม่รู้ตัวแต่ฉันก็ได้ยกมือพร้อมตะโกนออกไปอย่างนั้นเรียบร้อยแล้ว....ทุกคนในห้องหันมามองด้วยความงุนงง....ในขณะที่ยัยแนทงุนงงยิ่งกว่าเพราะตอนนี้โต๊ะประจำมันอยู่ข้างฉันนั่นเอง...

             "เฮ้ย..แป้ง แกจะบ้าเหรอ...ฉันนั่งอยู่นะเว้ย"

             แนทกระซิบกระซาบ อาจารย์ส่องจรัสทำสีหน้าฉงนพลางเอ่ยถามกลับมา...

             "แต่ที่ข้างๆ ณัฐชยา ( แนท ) นั่งอยู่ไม่ใช่เหรอภัทรธิดา"

             "ออ..ณัฐชยาบอกหนูว่าจะขออาจารย์ย้ายไปนั่งข้างหลังธาริน ( เต้ ) กับ อมรพงศ์ ( โจ้ ) พอดีเลยค่ะ..."

             OoO" แนททำสีหน้างุนงงคูณ 2 มันคงกำลังคิดว่า ตูไปบอกมันตอนไหนฟะ...แต่ช่างเถอะ...ฉันต้องรักษาสวัสดิภาพของประชากรชายในห้องที่ยังโสดให้เหลือเป็นตัวเลือกมากที่สุด..ขอโทษนะแนท ^ ^

             "โอเคๆ...ดีเหมือนกัน..ให้นั่งกับพวกผู้ชายดูจะไม่ปลอดภัย เอาเป็นว่ารัตติกาลไปนั่งข้างภัทรธิดาละกัน"

             ในที่สุดอาจารย์ส่องจรัสก็ให้แบมมานั่งกับฉัน ส่วนยัยแนทก็ต้องระเห็จไปนั่งด้านหลังเต้กับโจ้แทน.. ในขณะที่พวกผู้ชายทั้งห้องก็ส่งสายตาอาฆาตมาให้ฉัน..อะไรฟะ...ฉันอุตส่าห์ช่วยพวกนายนะเนี่ย...ฮี่ๆๆ.... ช่วยให้พวกนายมีสมาธิในเวลาเรียน ไม่เช่นนั้นคงได้จ้องหน้ายัยแบมแทนหน้าอาจารย์กับกระดานไวท์บอร์ดทุกวี่ทุกวัน

    ........................

             "เอาล่ะ นักเรียนทุกคนวันนี้เราจะมาเริ่มเรียนสังคมและวัฒนธรรมไทยในยุคสมัยต่างๆนะ... วันนี้ครูจะมาสอนเรื่องสมัยสุโขทัยก่อน..ให้นักเรียนเปิดหนังสือตามไปด้วยเลย"

             อาจารย์ส่องจรัสเอ่ยบอก...ขณะที่ทุกคนในห้องเปิดตามแต่ฉันกลับไม่มีอารมณ์มานั่งตั้งใจเรียน เพราะมัวแต่จดจ้องยัยกุลสตรีที่นั่งเรียบร้อยราวกับผ้าพับไว้อยู่ข้างๆ...( อ้าว..ไปว่าแต่พวกผู้ชาย ตัวเองมาเป็นเอง จาก Sw. ) แบมนั่งหลังตรง ขาไขว้กันไว้เพื่อความเรียบร้อย...เธอเปิดหนังสือสังคมศึกษาตามที่อาจารย์ส่องจรัสสั่ง ในมือของเธอถือปากกาสีชมพูหวานแหววลายคิทตี้ไว้จดเลกเชอร์ อีกทั้งยังมีปากกาเน้นข้อความสีชมพูแปร๊ดอยู่ข้างๆ....มันจะเพอร์เฟคอะไรขนาดนี้เนี่ย -_-a ทั้งขยัน หน้าตาก็ดี....หรือแกไปแอบทำศัลยกรรมมาห่ะ!! ฮึ่ย..อิจฉาๆ....

             "ในสมัยสุโขทัย พ่อขุนรามคำแหง  ได้ทรงคิดแบบตัวอักษรไทยขึ้นมาในปีพุทธศักราชหนึ่งพันแปดร้อยยี่สิบหก ทรงจารึกเหตุการณ์ในสมัยนั้นลงในหลักศิลาจารึก  นับได้ว่ามีคุณค่ามากในการศึกษาประวัติศาสตร์ คนในสมัยหลังได้ทราบเรื่องราวต่างๆ ในสมัยกรุงสุโขทัยจากจารึกนี้เป็นอย่างมาก..."

             อาจารย์ส่องจรัสยังคงสอนต่อไปตามเรื่องตามราว.....หากแต่ว่าเสียงนั้นเงียบลงก่อนที่เสียงนั้นจะเปลี่ยนจากการสอนมาเป็น....

             "ยัยภัทรธิดา!!!"

             อาจารย์ส่องจรัสเอ่ยเรียกเสียงดัง จนฉันสะดุ้งตกใจเล็กน้อยพลางหันไปมองอาจารย์ส่องจรัสที่ยืนขบเขี้ยวเคี้ยวฟันอยู่

             "ค่ะ...."

             ฉันเอ่ยรับขานไปอย่างว่าง่าย..อาจารย์ก็… หนูแค่ไม่ได้มองอาจารย์ขณะสอน ไม่ได้เปิดหนังสือขณะเรียน แต่หนูก็ไม่ได้ตั้งใจฟังนะคะ.. -_-"

             "พ่อขุนรามคำแหงทรงทำอะไรให้คนไทยรุ่นหลังได้ศึกษา"

             คำถามประลองเชาวน์ยัยแป้งเริ่มแล้ว...เอ่อ..อะไรวะ..แง ไม่ได้ฟังด้วย...ให้ตายสิ..ฉันไม่ค่อยชอบวิชาสังคมศึกษานี่....

             "ถ้าเธอตอบไม่ได้..ฉันจะให้เธอไปล้างห้องน้ำโทษฐานที่ไม่ตั้งใจฟังฉันขณะสอน"

             เอาล่ะสิ..อาจารย์ขา...ยิ่งคาดโทษหนู..หนูก็ยิ่งลนลานสิคะ..ยิ่งลนลานหนูก็ยิ่งตื่นเต้น ยิ่งตื่นเต้นหนูก็ยิ่งลืม.. ยิ่งลืมก็ยิ่ง...เอ่อ..ว่าแต่โจทย์คืออะไรนะ..ลืมไปแล้ว TTwTT เอาวะ มั่วๆไป....

             "มหาวิทยาลัยรามคำแหงค่ะ"

             O_O ( หน้าอาจารย์ ) OoO ( หน้าเพื่อนทั้งห้อง ) =_=" ( หน้าฉันเอง ) ว่าแต่..มะ..มันไม่ถูกเหยอ....-_-a

             "ยัยภัทรธิดา ฉันจะให้โอกาสเธออีกครั้ง...."

             อาจารย์ส่องจรัสให้โอกาสฉันอีกครั้ง ไม่รู้ว่าเพราะสงสารหรือสมเพชกันแน่.. แต่ฉันว่าอย่างหลังมากกว่า -_-" แม้อาจารย์จะให้โอกาสหนูตอบอีกครั้ง แต่อาจารย์คิดว่าหนูจะตอบได้เหรอคะ TTwTT

             "ศิลาจารึก"

             น้ำเสียงใสๆข้างกายฉันเอ่ยแผ่วเบาแต่ก็ยังได้ยิน...แบม..เธอช่วยฉันเหรอเนี่ย TTwTT ฉันล่ะซาบซึ้งจริงๆ...

             "ศิลาจารึกค่ะ"

             ฉันตอบฉะฉานด้วยความมั่นใจเต็มเปี่ยม..อาจารย์และเพื่อนทั้งห้องที่รอลุ้นพลางถอนหายใจอย่างโล่งอก...ฮี่ๆๆ...ฝีมือเฟ้ย....คนมันเก่งพวกแกต้องเข้าใจ....หมายถึงแบมนะ -_-a

             ฉันถอนหายใจอย่างโล่งอกเช่นกัน...ถ้าไม่ได้แบมช่วย ฉันคงต้องโดนลงโทษให้ไปล้างห้องน้ำแน่ๆ....เธอนี่...ทั้งหน้าตาดี..เรียนดี..ยังจิตใจดี.....คนเรานี่มองกันที่รูปลักษณ์ภายนอกไม่ได้จริงๆ ฮี่ๆ....

             "ขอบใจนะที่ช่วย"

             ฉันเอ่ยขอบคุณแบมเบาๆ......แบมทำสีหน้านิ่งๆแล้วเอ่ยตอบมาด้วยเสียงแผ่วเบาจนแทบไม่ได้ยินว่า...

             "ถือว่าโปรดสัตว์"

             เอ่อ...เมื่อสักครู่ฉันคงได้ยินผิดไป...หูฝาดหูเฝื่อน..

             "อะไรนะ"

             ฉันถามแบมกลับไปทันทีเพราะต้องการความมั่นใจว่าหูตัวเองดีหรือไม่ดีกันแน่

             "เอ่อ..แบมบอกว่า สังคมเป็นวิชาที่แบมโปรดปรานมากน่ะค่ะ ถ้าแป้งไม่เข้าใจอะไรก็ถามแบมได้นะ"

            หูฉันฝาดไปจริงๆ...ว่าแต่ประโยคแรกมันยาวเท่านี้เหรอ -_-a ช่างมันเถอะ......

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×