ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Descendant War - สมรภูมิปิตุฆาต

    ลำดับตอนที่ #35 : ตอนที่ 30 END : ยุติความขัดแย้ง (ตอนจบ)

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 157
      3
      23 ก.พ. 62

    ทางด้านรูดิว หลังจากที่เสียงปืนใหญ่หยุดลง กำลังพลของบูลและฟีนด์เตรียมประจำการที่ปืนใหญ่และปืนกลของพวกเขา พวกนั้นรอจนกว่าทางข้าศึกจะบุกเข้ามา

    ฟีนด์ : ดูเหมือนว่าพวกมันเงียบไปนะ

    บูล : ฉันว่า มันคงกำลังเตรียมคนมาบุกหน่ะ

    ทางด้านของโซรอน หลังจากที่เสียงปืนใหญ่หยุดลง โซรอนชักดาบของเขาขึ้นมา

    โซรอน : พวกเรา บุกเข้าไป

    หลังจากที่สิ้นสัญญาณเสียง กองทัพของโซรอนก็บุกเข้าไปยังที่มั่นของนายพลบูล ทหารนับแสนบุกข้ามดินแดนเข้ามาอย่างบ้าคลั่ง อาร์เทมิสเห็นทหารกลุ่มใหญ่นั้นแต่ไกล

    อาร์เทมิส : พวกมันมาแล้ว เตรียมกำลังคนให้พร้อม

    ทหารของบูลเล็งปืนใหญ่และปืนกลไปยังทหารที่บุกเข้ามา

    บูล : ยิงปืนใหญ่ได้เลย

    หลังจากที่สิ้นเสียง ปืนใหญ่ของนายพลบูลก็กระหน่ำยิงใส่พวกของโซรอน ทำเอาทหารของโซรอนตายไปมากมาย แต่ถึงกระนั้นพวกมันก็ยังคงบุกมาอย่างไม่ขาดสาย

    ฟีนด์ : ดูเหมือนพวกมันจะเยอะกว่าที่เราคิดนะเนี่ย

    อาร์เทมิส : รอมันเข้ามาในระยะปืนกลก่อน แล้วค่อยยิงมันเลย

    พวกนั้นบุกเข้ามาแล้วยิงสวนกับพวกของบูล แต่ในตอนนั้นเองอาร์เทมิสก็สั่งยิงปืนกลใส่พวกมัน ทำเอาพวกมันไม่กล้าบุกเข้ามาใกล้พวกเขา

    ฟีนด์ : พวกมันกำลังสับสน ตอนนี้แหละรีบวางแนวป้องกันด่วนเลย

    บูล : ได้เลย ฉันจะไปโอบพวกมันทางซ้ายก็แล้วกัน

    อาร์เทมิส : ถ้างั้นฉันจะไปทางขวาเอง // พวกเขาแยกย้ายกันไปยิงสกัดศัตรูในทุกด้าน ส่วนพวกของโซรอนก็เริ่มสัมผัสได้ถึงการสูญเสียแล้ว

    อเล็กซ์สกี้ : เราต้องทำอะไรซักอย่างนะ ไม่งั้นเราตายกันหมดแน่

    นอสต้าร์ : เราน่าจะยิงปืนใหญ่กดหัวพวกมันเอาไว้นะ

    อันเต้  :ฉันมีของจะต้อนรับพวกมันด้วย // ในตอนนั้นเองอันเต้นำรถคันหนึ่งซึ่งติดเกราะทุกด้านของรถ แล้วมีปืนกลติดเป็นอาวุธไว้ด้วย

    อันเต้ : มันคือรถหุ้มเกราะที่ผมเพิ่งจะสร้างมาเอง

    โซรอน : งั้นก็ใช้มันเลยสิ

    หลังจากนั้นเอง รถหุ้มเกราะสิบคันก็ก็บุกเข้าไปยังใจกลางของสนามรบ นายพลบูลเห็นอาวุธใหม่ของพวกมันก็ตกใจ ไม่รู้ว่าจะรับมือยังไง

    ฟีนด์ : ดูรถนั่นสิ เรายิงยังไงก็ไม่เข้าเลย

    บูล : ลองยิงปืนใหญ่สกัดมันไว้สิ

    อาร์เทมิสเล็งปืนใหญ่ใส่รถหุ้มเกราะคันหนึ่ง จากนั้นรถก็แหลกกระจายไปทั้งคัน แต่ในระหว่างนั้นเอง พวกมันก็บุกเข้ามาอีกระลอก ทำเอาพวกเขาไม่รู้ว่าจะรับมือยอ่างไรต่อ

    บูล : เราต้องถอยกลับไปก่อน อาร์เทมิส ขนปืนใหญ่กลับไปแนวหลังให้ได้มากที่สุดหล่ะ

    พวกเขารีบขนอาวุธหนักไปเก็บที่ด้านแนวหลัง ส่วนคนของฟีนด์ก็คุ้มกันการถอนกำลังไปด้วย

     

    ทางด้านของนอร์ดิก เขาวางกำลังพลไว้ที่แนวตั้งรับที่สอง ห่างจากเมืองหลวงไม่เท่าไหร่ จากนั้นไม่นานทหารคนหนึ่งก็มารายงานข่าวกับนอร์ดิกในทันทีหลังจากที่มีการถอนกำลังที่รูดิว

    ท่านนอร์ดิกครับ ตอนนี้นายพลบูลกำลังถอนทัพกลับมาแล้วครับ

    นอร์ดิก : ดูเหมือนว่าพวกมันจะบุกมาเร็วกว่าที่คิดนะ

    อาร์เทอร์ : ผมว่าเราควรจะวางแนวป้องกันเพิ่มได้แล้วนะครับ

    คูเปอร์ : นั่นสิครับ ตอนนี้ความเคลื่อนไหวของทางบาส์กยังไม่แจ้งมาเลยตอนนี้

    เซนจา : ดูเหมือนว่าพวกมันจะยังไม่ไปทางนั้นมากกว่า

    และในขณะเดียวกัน เมเทอร์ก็นำคนเจ็บที่ต้องการรักษาเคลื่อนมายังแนวรับของนอร์ดิก ในตอนนั้นนอร์ดิกก็ไปต้อนรับพวกเธอในทันที

    นอร์ดิก : อ้าว พวกคุณเป็นยังไงกันบ้างครับ

    เมเทอร์ : เอลิซ่าบาดเจ็บ ช่วยเธอด้วยนะคะ // นอร์ดิกจัดการให้คนเจ็บไปพักฟื้นด้านใน

    นิโคลัส : นอร์ดิก เป็นยังไงบ้างหล่ะเพื่อน

    นอร์ดิก : เฮ้ ฉันนึกว่านายจะไม่มาแล้วซะอีกนะเนี่ย

    นิโคลัส : ฉันฝากช่วยเอลิซ่าเธอด้วยนะ ฉันไม่อยากให้เธอเป็นอะไร

    นอร์ดิก : ไม่ต้องห่วงหรอก พาคนอื่นๆหลบด้านในก่อนดีกว่า

     

    ทางแคว้นบาส์ก ไซโซและเคจากำลังรอศัตรูที่ป้อมบนภูเขา และก็เป็นอย่างที่เขาคาด กองเรือของพวกต่างชาติก็บุกเข้ามายังน่านน้ำบาส์ก จากนั้นก็ระดมยิงปืนใหญ่ใส่ภูเขา แต่กระสุนไม่ระคายพวกเขาเลยแม้แต่น้อย

    ไซโซ : ดูเหมือนว่าภูเขานี้ช่วยเราได้นะ

    เคจา : ถ้างั้นก็เล็งปืนใหญ่ไปที่พวกมันเลยสิ

    สกาย : รับทราบครับ ทางผมจัดการเองครับ

    สกายนำทหารปืนใหญ่จัดการยิงปืนใหญ่จากเขาลงไปใส่กองเรือของศัตรู ทำเอาพวกนั้นเริ่มระส่ำระส่ายกันแล้ว

    อาร์มเมอร์ : สะใจมั้ยหล่ะพวกแก

    ทางด้านกองเรืออังกฤษ พวกเขาโดนระดมยิงปืนใหญ่ใส่อย่างไม่ยั้ง นายพลจอร์จหาที่หลบจากนั้นก็รีบแจ้งทหารของเขาทันที

    จอร์จ : พวกมันอยู่บนเขา ปืนใหญ่เรายิงไม่ถึง เราต้องส่งทหารไป

    อาร์ดวิน : เราจะเสี่ยงไม่ได้นะครับท่าน ผมว่าเราถอยไปให้พ้นระยะปืนใหญ่ของพวกมันดีกว่า

    จอร์จ : ปืนใหญ่เรายิงไม่ถึงพวกมันหรอก พวกมันไม่ได้ตั้งรับที่แนวหาด สั่งทหารพันนายโจมตีเร็วใส่พวกมัน

    อาร์ดวินสั่งให้ทหารลงเรือเล็กแล้วแจวเรือขึ้นฝั่งแคว้นบาส์ก จากนั้นทหารอังกฤษชุดแดงก็จู่โจมไปยังแนวภูเขาในทันที

    สการ์เล็ต : ดูนั่น พวกมันมาแล้ว

    ไซโซ : แย่หล่ะ สั่งทหารไปสกัดพวกมันเอาไว้

    เคจา : ดูทางนั้นสิ พวกกบฏมากันแล้ว

    เคจาชี้ไปให้เห็นเส้นทางอีกด้านหนึ่งซึ่งกลุ่มกบฏนับแสนคนบุกเข้ามายังแคว้นบาส์ก เคจาสั่งปืนใหญ่ให้ยิงเข้าไปในทันที ในขณะเดียวกันกองทัพของฝรั่งเศส อเมริกาและญี่ปุ่นก็ยกพลขึ้นบกที่ชายฝั่งแคว้นบาส์กแล้ว

    ไซโซ : พวกมันมากันแล้ว เราจะเอายังไงกันต่อดีพี่

    เคจา : เราจะขอสู้ตายเพื่อแผ่นดิน ห้ามใครแม้แต่ก้าวเดียว

     

    กลับมายังบ้านพักของเนโร ซึ่งมาร์ธ่าพาคนที่ไม่เกี่ยวข้องกับการรบมาหลบภัยอยู่ในบ้าน พวกเขาต่างพากันรอฟังข่าวสงครามที่ไม่รู้ว่าจะมาถึงเมื่อไหร่กัน

    มาร์ธ่า : ไม่รู้ว่าสงครามจะเป็นยังไงบ้างนะ

    ซาร่า : นั่นสิคะแม่ เสียงปืนใหญ่ก็ดังไม่หยุดเลย

    ดราโก้ : ผมว่างานนี้คงไม่ง่ายแน่ๆ ได้ยินว่ากองเรือพวกอังกฤษแข็งแกร่งมาก

    อาร่า : นั่นสิคะ ไหนจะพวกฝรั่งเศสอีก อเมริกาด้วย

    โคน่า : อย่าเพิ่งถอดใจสิคะ การรบยังไม่สิ้นสุดเลย

    อาเรียส : นั่นสิ ว่าแต่เลออนกับแมทธิวไปไหนหล่ะคะ

    เอ็น : สงสัยคงจะออกไปกับประธานาธิบดีหน่ะครับ

    อาเรีย : นั่นสิ ท่านประธานาธิบดีต้องไปเยี่ยมประชาชนสินะ

    และในระหว่างนั้นเอง ทุกคนก็เห็นนายพลเนโรแต่งเครื่องแบบเต็มยศมา ท่ามกลางความแปลกใจของทุกคน

    ซิลเวียร์ : ท่านนายพลคะ ท่านใส่เครื่องแบบทำไมคะ

    เนโร : ผมจะไปช่วยนอร์ดิก เขาคนเดียวคงทำศึกนี้ไม่ได้หรอก

    มาร์ธ่า : หะ นี่ลูกคิดดีแล้วเหรอเนี่ย

    เนโร : แน่นอนครับ ผมจะไปช่วยนอร์ดิกเอง // จากนั้นเนโรก็ออกจากบ้านไป พร้อมกับควบม้าไปยังสมรภูมิในทันที ท่ามกลางความแปลกใจของทุกคน

    เนม่า : นี่มันเรื่องอะไรกันคะ พอจะบอกได้หรือเปล่า

    มาร์ธ่า : คือความจริงแล้ว เนโรคือพ่อของนอร์ดิกหน่ะ

    คาเนส : หะ จริงเหรอครับเนี่ย ไม่น่าเชื่อเลย

     

    ที่ค่ายของผู้อพยพ ใกล้กับแนวหลัง ประธานาธิบดีซอลก็ได้ไปเยี่ยมประชาชนของเขาเพื่อเป็นขวัญกำลังใจให้กับทุกๆคน โดยที่เฟรย์อา คาลิมบ่า มาร์ธิว เลออนและแมทธิวก็ได้ตามติดไปด้วย

    ซอล : ดูชาวบ้านพวกนี้สิ ท่าทางจะกลัวกันมากเลยนะ

    เฟรย์อา : นั่นสิคะ เพราะสงครามแท้ๆทำให้พวกเขาต้องจากบ้านมา

    และในระหว่างนั้นเอง มีชาวบ้านจากด้านนอกตะโกนมาแต่ไกล ทำเอาพวกเขาตกใจอย่างมาก

    แย่แล้วทุกคน รูดิวแตกแล้ว แย่แล้วทุกคน

    มาร์ธิว : รูดิวโดนยึดแล้ว อีกไม่นานมันก็คงจะมาที่นี่หล่ะครับ

    เลออน : นี่นาย นายจะไปกับฉันมั้ยแมทธิว

    แมทธิว : แน่นอน ฉันไม่รออยู่ที่นี่หรอก

    ซอล : ถ้างั้นฉันขอไปด้วย

    มาร์ธิว : อย่าดีกว่า ท่านควรจะดูแลประชาชนที่นี่นะครับ

    คาลิมบ่า : ผมว่าถ้างั้นเราอย่าเสียเวลาเลย เรารีบไปช่วยที่แนวหน้าดีกว่า ผมจะไปเตรียมม้าให้นะ

    คาลิมบ่าหาม้ามาประมาณ 4 ตัวเพื่อให้มาร์ธิว เลออนและแมทธิวควบม้าไปยังแนวหน้าในทันที

     

    และที่ค่ายของนอร์ดิก หลังจากที่พวกเขารอข่าวจากรูดิว ในตอนนั้นเองพวกเขาก็เห็นกองทัพของฟีนด์และบูลขนปืนใหญ่เข้ามาด้านในค่ายของนอร์ดิก นอร์ดิกรู้สึกแปลกใจจึงไปต้อนรับพวกเขา นอร์ดิกเปิดประตูต้อนรับพวกเขา จากนั้นปืนใหญ่และปืนกลก็ถูกลำเลียงมาในค่าย

    นอร์ดิก : คุณอาร์เทอร์ครับ รีบนำปืนใหญ่ไปตั้งเสริมไว้นะครับ

    อาร์เทอร์ : ได้ครับ // อาร์เทอร์สั่งให้ปืนใหญ่ที่ขนเข้ามาไปประจำการไว้ในทันที

    และจากนั้นไม่นาน นายพลบูล ฟีนด์และอาร์เทมิสก็นำทหารม้าควบออกมาจากแนวหน้า แล้วเข้ามาในค่ายเพื่อพบกับนอร์ดิกในทันที

    บูล : นอร์ดิก นายต้องรีบเสริมกำลังค่ายทันทีเลย

    นอร์ดิก : ทำไม ข้าศึกมีมากแค่ไหนกันหล่ะ

    ฟีนด์ : กองทัพของพวกมันที่มาเนี่ย ยิ่งใหญ่กว่าที่เราคาดไว้มาก

    อาร์เทมิส : ใช่ แถวพวกนั้นยังใช้อาวุธที่เราไม่เคยเห็นอีกต่างหาก

    คูเปอร์ : ที่นี่ปลอดภัย กำแพงเราพอจะต้านพวกมันได้นะครับ

    นอร์ดิก : เตรียมเสริมกำลังที่กำแพงดีกว่าครับตอนนี้

    พวกเขาเตรียมวางกำลังเพื่อป้องกันกองทัพกบฏของโซรอน ที่กำลังบุกมาอย่างบ้าคลั่ง และชาวบ้านทุกคนก็พร้อมที่จะสู้ตายเพื่อแผ่นดินโซราบอล

     

    ทางด้านของโซรอน พวกเขาเคลื่อนทัพข้ามรูดิวมายังพรมแดนโซราบอล พวกเขายึดที่มั่นในรูดิวมาได้แต่ต้องสูญเสียทหารไปมากมาย ซึ่งถือว่าเกินจะรับได้ในตอนนั้น

    โซรอน : เราเสียทหารไปเท่าไหร่กันตอนนี้

    นอสต้าร์ : เท่าที่คำนวณ ราวแสนนายได้ครับ

    อเล็กซ์สกี้ : หะ นี่แค่เมืองเดียวยังเสียคนไปขนาดนี้เลยเหรอ

    โซรอน : แต่ไม่ต้องห่วง ยังไงเราก็มีเยอะกว่าพวกมันอยู่ดี

    นอสต้าร์ : เราควรจะโจมตีมันต่อในตอนนี้ ตอนที่มันอ่อนแอนะครับ

    วิเวียน : จริงด้วย เราน่าจะบุกเข้าไปตอนนี้เลยนะคะ

    โซรอน : แน่นอน เตรียมกำลังพลบุกเข้าไปต่อได้เลย

    อันเต้ : ได้เลย ผมจะนำกำลังพลบุกเข้าไปได้เลย

    พวกเขาเคลื่อนกำลังพลเตรียมข้ามพรมแดน มีแต่อเล็กซ์สกี้เท่านั้นที่ยังนิ่งอยู่

    ท่านครับ เรือที่ผมเตรียมไว้พร้อมแล้วครับ

    อเล็กซ์สกี้ : ตอนนี้รอไปก่อน รอดูว่าสงครามจะเป็นยังไงต่อ

     

    กลับมายังแคว้นบาส์ก ซึ่งการรบยังคงปะทุถึงขีดสุด ทหารต่างชาติและกลุ่มกบฎนับแสนยังคงพยายามบุกขึ้นเขาเพื่อจู่โจมทหารนอลโวร่า ทหารหลายนายพยายามบุกขึ้นเขาแต่ก็ล้มเหลว เนื่องจากว่าหุบเขานั้นสูงชัน แถมพวกเขายังถูกโจมตีจากหลายด้านอีก ทำเอาพวกเขาต้องเริ่มจะวางแผนกันใหม่

    อาร์ดวิน : ท่านครับ ถ้าเราเอาทหารบุกขึ้นเขาไป เราตายกันหมดแน่ครับ

    จอร์จ : ฉันรู้ แต่ฉันจะไม่ยอมแพ้พวกมันหรอก

    อาร์ดวิน : แล้วท่านจะทำยังไงต่อดีครับ

    จอร์จ : เชิงผาด้านหลังเป็นพื้นที่ที่เราจะสามารถขึ้นเขาได้

    อาร์ดวิน : แต่เราจะปีนเขาขึ้นไปได้เหรอครับ

    จอร์จ : ได้สิ ส่งคนขึ้นไปก่อนแล้วให้หย่อนเชือกลงมายังไงหล่ะ

    อาร์ดวินส่งทหารไปยังเชิงผาด้านหลังเขา เพื่อจะปีนเขาเพื่อบุกเข้าไป และทางด้านของเคจา ในตอนนั้นเองเธอคิดว่าเชิงผาด้านหลังเขานั้นอันตราย เธอต้องการจะไปคุ้มกันที่นั่น สการ์เล็ตขออาสาไปสกัดทัพของกลุ่มต่างชาติด้วยตัวเอง เธอนำกำลังไปราวหมื่นนายเพื่อไปป้องกันพวกนั้น เธอวางกำลังซุ่มไว้ตามแนวก้อนหิน เพื่อรอพวกมันปีนขึ้นหน้าผามา และในตอนนั้นเอง เธอเห็นพวกมันสิบกว่าคนขึ้นเขามา จากนั้นก็หย่อนเชือกลงไปรับคนอื่นๆที่อยู่ด้านล่าง

    ท่านครับ เราจะยิงมันเลยมั้ยครับ

    สการ์เล็ต : ใจเย็นก่อน รอให้พวกมันขึ้นมาซักพักนึงก่อน

    พวกมันปีนขึ้นเขามามากมาย จากนั้นสการ์เล็ตก็ให้สัญญาณในทันที

    สการ์เล็ต : เอาหล่ะ ยิงได้

    ทหารของสการ์เล็ตยิงผู้บุกรุกที่ปีนขึ้นเขามาอย่างบ้าคลั่ง พวกนั้นพยายามตั้งรับแต่ไม่มีที่ให้กำบัง ทำเอาพวกเขาถูกยิงตายราวกับใบไม้ร่วง

    แย่แล้ว รีบถอยเร็ว

    พวกนั้นพยายามจะปีนหน้าผากลับลงไป บางคนปีนไม่ทันก็กระโดดลงไป ที่ด้านล่างสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้น

    อาร์ดวิน : นี่มันอะไรกัน ทำไมพวกเราถึง...

    จอร์จ : เป็นไปไม่ได้ ฉันไม่ยอมเด็ดขาด

    ในขณะเดียวกันนั้นเอง ที่กองเรือของพวกต่างชาติ ในระหว่างที่พวกเขากำลังยิงปืนใหญ่ใส่ที่มั่นของข้าศึก จู่ๆก็มีกองเรือนับสิบแล่นเข้ามาใกล้พวกเขา ด้านบนมีธงสีดำมาแต่ไกล

    แย่แล้ว พวกโจรสลัด รีบหันเรือยิงใส่มันเร็ว

    พวกเขาพยายามจะกลับลำเรือเพื่อยิงสกัด แต่เรือของโจรสลัดก็แล่นมาเร็วเกินไป พวกมันเข้าประชิดเรือของต่างชาติอย่างรวดเร็ว

    ลอเรนซ์ : ฆ่าพวกมันให้หมด

    หลังจากที่ลอเรนซ์มีคำสั่ง พวกโจรสลัดก็บุกขึ้นไปบนเรือ จัดการกับคนที่อยู่บนเรือไปมากมาย พวกนั้นพยายามตอบโต้แต่ไม่เป็นผล เนื่องจากทหารส่วนใหญ่ยกพลขึ้นบกกันหมดแล้ว ทำให้เรือของพวกนั้นโดนเล่นงานอย่างง่ายดาย

    นายหญิงครับ เรายึดเรือพวกมันได้แล้วครับ

    ลอเรนซ์ : จัดการจมเรือของพวกมันให้หมด

    ได้ครับ

    กลุ่มของเธอหันหัวเรือไปยังเรือลำอื่น จากนั้นก็ยิงใส่เรือของพวกมันด้วยกัน ทำเอาพวกมันระส่ำระส่ายและหมดกำลังใจจะต่อสู้ ในขณะเดียวกัน ทหารของอาร์ดวินก็ไปรายงานกับเขาเรื่องกลุ่มโจรสลัดในทันที

    ท่านครับ แย่แล้วครับ พวกโจรสลัดปล้นเรือครับ

    อาร์ดวิน : จัดการพวกมันให้หมดสิ

    ตอนนี้พวกมันยึดเรือของพวกเราหมดแล้วครับ

    อาร์ดวิน : เราต้องถอยก่อนหล่ะ

    จอร์จ : เราจะไม่ถอยเด็ดขาด

    อาร์ดวิน : ไม่ ทำแบบนั้นเราก็ตายเปล่า // นายพลจอร์จยิงนายพลอาร์ดวินตายคาที่ ทำเอานายทหารคนอื่นๆตกใจมาก

    จอร์จ : มีใครอยากจะยอมแพ้อีกมั้ย สั่งทหารบุกขึ้นไปใหม่ ฉันจะนำทัพเอง

    นายพลจอร์จปีนเขาไปด้วยตัวเอง โดยที่ไม่ยอมฟังใครค้าน เขาไต่เชือกขึ้นไปจากนั้นก็ใช้ลูกโม่ของเขาไล่ยิงทหารของสการ์เล็ตตายไปมากมาย จากนั้นทหารอังกฤษก็เริ่มรวมตัวกันได้แล้วตอบโต้ สการ์เล็ตต้องกลับเป็นฝ่ายตั้งรับ จากนั้นไม่นานสกายและอาร์มเมอร์ก็นำกำลังพลมาช่วยเธอ

    สกาย : ท่านครับ เป็นยังไงบ้างครับ

    สการ์เล็ต : ฉันไม่เป็นไร แต่ถ้าเราทำอะไรหัวหน้ามันไม่ได้ เราแพ้แน่

    อาร์มเมอร์ : จะจัดการงูต้องจัดการที่หัวสินะครับ

    นายพลจอร์จบุกเข้ามาหมายจะฆ่าทหารนอลโวร่า แต่ในตอนนั้นสการ์เล็ตเล็งและยิงเข้าที่หน้าอกของเขา นายพลจอร์จล้มลงคาที่

    ท่านนายพล เป็นอะไรหรือเปล่าครับ

    จอร์จ : ฉันไม่เป็นไร บุกเข้าไป // แต่ในตอนนั้นเอง ทหารนอลโวร่าก็เกิดลูกบ้าวิ่งไล่ฆ่าทหารอังกฤษตายไปมากมาย ทำเอาพวกนั้นต้องตกเขากลับไปอย่างไม่เป็นขบวน

    จอร์จ : ฉันไม่ยอม ฉันจะฆ่าพวกแก // นายพลจอร์จพยายามลุกขึ้น แต่ก็ฝืนสังขารตัวเองไม่ไหว เขาล้มลงขาดใจอยู่บนหน้าผาตรงนั้น และในระหว่างนั้นเอง ไซโซและเคจาก็รีบวิ่งเข้ามาสการ์เล็ตที่อยู่ตรงนั้นทันที

    สการ์เล็ต : อ้าว พวกเธอมาที่นี่มีอะไรเหรอ

    เคจา : พวกมันถอยไปแล้ว ฉันเลยมาดูเธอหน่ะ

    ไซโซ : ไอ้หมอนี่คงเป็นนายทหารของข้าศึกนะ

    สการ์เล็ต : ปล่อยเขาเถอะ เขาคงไม่เหลืออะไรอีกแล้วหล่ะ แล้วที่โซราบอลจะเป็นยังไงบ้างหล่ะ

    อาร์มเมอร์ : จริงด้วยครับ ไม่รู้ที่นั่นกำลังตกอยู่ในอันตรายหรือเปล่า

    สกาย : ผมว่า เราน่าจะยกกำลังไปช่วยหน่อยนะครับ

    ไซโซ : พวกนายสองคน เตรียมทัพม้าสามหมื่นตามฉันมา

    เคจา : พี่ไปด้วย สการ์เล็ต เธออยู่ที่นี่ก่อนนะ

    จากนั้นโซและเคจาก็รีบนำทัพม้าของพวกเขาขี่ไปช่วยที่โซราบอลในทันที ก่อนที่ทางด้านนั้นจะเป็นอันตรายไปเสียก่อน

     

    ทางด้านโซราบอล แนวรบของนอร์ดิก หลังจากที่นอร์ดิกเตรียมกำลังพลเพื่อเตรียมรับมือข้าศึก และในตอนนั้นเอง พวกข้าศึกก็บุกเข้ามาอย่างรวดเร็ว พวกนั้นพยายามจะยึดที่มั่นของนอร์ดิก แต่ทหารของนอร์ดิกยังสามารถสกัดทัพของพวกมันเอาไว้ได้อย่างเข้มแข็ง จากนั้นไม่นาน รถหุ้มเกราะของพวกมันก็บุกเข้ามายังแนวหน้าของนอร์ดิก

    นอร์ดิก : หะ อาวุธใหม่ของพวกมันนี่ยังไงกันเนี่ย

    ฟีนด์ : คุณนอร์ดิก ยิงปืนใหญ่ใส่มัน ถึงจะหยุดมันได้

    นอร์ดิกจัดการสั่งให้ปืนใหญ่ยิงถล่มรถพวกนั้น  ทำให้กำลังของพวกมันอ่อนลงได้บ้าง แต่พวกมันก็ยังคงบุกมาแบบห่าฝน ทำให้แนวหน้าของเขาเริ่มจะแตกแล้ว

    บูล : บ้าเอ้ย พวกมันจะมาเยอะไปไหน

    อาร์เทมิส : นั่นสิ เราตายกันหมดแน่ถ้าไม่หนี

    นอร์ดิก : แผนสอง ถอนกำลังไปที่กำแพง เร็วเลย

    นอร์ดิกสั่งทหารถอนกำลังไปหลบอยู่หลังกำแพง ส่วนทหารบนกำแพงก็ช่วยกันยิงคุ้มกันให้ มาร์ธิวที่ยิงกับพวกมันอยู่ที่แนวหน้าจะพาคนอื่นถอยไปด้วย แต่ในตอนนั้นเอง เขาก็โดนยิงที่ขาจนล้มลง

    แมทธิว : พี่ ทำใจดีๆไว้นะพี่ ผมจะพาพี่ไปเอง

    มาร์ธิว : นายหนีไปเถอะ ฉันไม่ไปไหนหรอก

    เลออน : อย่าพูดแบบนั้นสิพี่ เราเสียเอเทอร์มาคนนึงแล้วนะ

    คาลิมบ่า : รีบแบกเขาขึ้นมาสิ เร็วๆ // ทั้งคู่พยายามจะแบกมาร์ธิวขึ้น แต่ก็โดนยิงไล่หลังจนพวกเขาต้องหาที่หลบ จากนั้นพวกมันก็วิ่งเข้ามาเพื่อจะยิงเขา แต่ในตอนนั้นเอง

    ปังๆๆ

    เสียงปืนดังมาจากด้านใน เอ็ดเวิร์ดใช้ปืนพกไล่ยิงพวกมันจากนั้นก็ไปหามาร์ธิวในทันที

    เอ็ดเวิร์ด : มาร์ธิว ไม่เป็นไรนะ มาอยู่หลังฉันก่อน // เอ็ดเวิร์ดยิงสกัดพวกนั้นเพื่อให้คนอื่นๆพามาร์ธิวหนีไป หลังจากนั้นเองพวกเขาก็เข้าไปยังกำแพงจนหมด จากนั้นประตูก็ปิดไป เอ็ดเวิร์ดวิ่งเข้าไปกอดมาร์ธิวในทันทีเมื่อเจอเขา

    เอ็ดเวิร์ด : ฉันคิดว่าจะไม่เจอนายอีกแล้ว

    มาร์ธิว : เหมือนกัน ฉันคิดถึงนายมากเลยนะ

    แต่ยังไม่ทันได้ทักทาย กองทัพของโซรอนก็พยายามจะบุกเข้ามาในกำแพงให้ได้ พวกนั้นพยายามระดมยิงปืนใหญ่ใส่แต่กำแพงนั้นแกร่งเกินกว่าที่จะทำลายได้

     

    ทางด้านของโซรอน พวกเขาเริ่มจะสูญเสียทหารไปมากมาย ตอนนี้ทหารของเขาตายไปกว่าสามแสน ซึ่งถือว่าเป็นครึ่งหนึ่งของกองทัพแล้ว แถมอาวุธก็เริ่มจะหร่อยหรอลงทุกที ในตอนนั้นเองอเล็กซ์สกี้ก็เริ่มจะหนีไปแล้ว ในตอนนั้นเองโซรอนพยายามตามหาอเล็กซ์สกี้เพื่อคุยกันต่อ เมื่อพวกเขาเจอกัน พวกเขาจึงใส่คารมกันในทันที

    โซรอน : นี่มันอะไรกัน ทำไมถึงไม่สั่งบุกต่อหล่ะ

    อเล็กซ์สกี้ : ผมได้ยินมาว่า เรากำลังจะเสียท่า ตอนนี้เรากำลังจะแพ้ แล้วตอนนี้ทางประเทศต่างๆเริ่มสั่งถอนกำลังแล้วด้วย

    นอสต้าร์ : ใครว่าเรากำลังจะแพ้ เราเพิ่งจะดันพวกมันถอยไปได้ต่างหากหล่ะ

    อเล็กซ์สกี้ : แต่คนของเราตายมากกว่าครึ่งแล้วนะครับตอนนี้

    โซรอน : แล้วแกจะเอายังไง แกต้องให้คนบุกต่อ ฉันจะจัดการเรื่องนี้เอง // จากนั้นเองโซรอนก็เดินออกไปด้านนอก

    อันเต้ : แล้วคุณจะเอายังไงต่อหล่ะ

    อเล็กซ์สกี้ : เอาตัวรอดกันก่อนดีกว่า เตรียมรถม้าไปท่าเรือที่ใกล้ที่สุด อย่าลืมขนเงินของฉันมาด้วยหล่ะ

    ในตอนนั้นเองอเล็กซ์สกี้ก็เตรียมรถม้าไปกับอันเต้ แล้วก็ขนสมบัติไปทั้งหมด โดยที่ทิ้งให้โซรอนเตรียมกำลังที่เหลือบุกไปยังแนวรับของข้าศึก นายพลโซรอนนำกำลังกองสุดท้ายประมาณแสนกว่านายเตรียมบุกเข้าไปยังแนวรับ

    โซรอน : ฆ่าพวกมันให้เหี้ยน

    พวกของโซรอนบุกเข้ามายังกำแพงของค่าย พวกนั้นพยายามจะบุกเข้ามาราวกับว่าพวกมันไม่มีอะไรจะเสียแล้ว ในตอนนั้นเอง นอร์ดิกก็สังเกตการณ์อยู่บนกำแพง แต่ในตอนนั้นเอง ทุกคนเห็นนายพลเนโรกลับมาอีกครั้ง ท่ามกลางความตกตะลึงของคนอื่นๆ เนโรไม่รอช้ารีบไปหาลูกของเขาทันที

    เนโร : นอร์ดิก ลูกพ่อ

    นอร์ดิก : นี่ พ่อมาทำอะไรเนี่ย ควรจะพักอยู่ที่บ้านนะ

    เนโร : พ่อไม่ปล่อยให้เธอสนุกคนเดียวหรอก // ในตอนนั้นเอง นายพลเนโรใช้กล้องส่องทางไกล มองไปเห็นนายพลโซรอนกำลังขี่ม้าบุกมายังกำแพงแล้วสั่งให้ลูกน้องบุกมาอย่างบ้าคลั่ง

    เนโร : ไอ้โซรอน มันคงจะไม่เหลืออะไรแล้วหล่ะ

    นอร์ดิก : ทำไมถึงคิดแบบนั้นหล่ะครับ

    เนโร : คนอย่างมันถ้าไม่เหลืออะไรแล้ว มันจะออกมาสู้ด้วยตัวเองหล่ะ

    นอร์ดิก : ท่าทางมันจะไม่เหลือกำลังอีกแล้วนะครับ // ในขณะเดียวกัน เซนจาก็ขึ้นมาบนกำแพงเพื่อมาหานอร์ดิก เกี่ยวกับแผนการของเธอ

    เซนจา : นอร์ดิก คูเปอร์กับอาร์เทอร์พร้อมแล้วหล่ะ

    นอร์ดิก : ครับผม บอกพวกเขาว่าถ้าได้สัญญาณ ให้โจมตีทันที

    พวกของโซรอนกำลังรบติดพันที่กำแพง โดยไม่พวกนั้นไม่รู้เลยว่ากำลังจะเจออะไรอยู่ จากนั้นเอง นอร์ดิกก็ชูสัญญาณธงขึ้นมา จากนั้นเอง ทหารม้าของคูเปอร์และอาร์เทอร์ก็บุกไปขนาบซ้ายและขวาของกองทัพพวกมัน พวกเขาทั้งคู่จู่โจมอย่างรวดเร็ว ทำเอาทหารของโซรอนไม่ทันได้ตั้งตัวเลย

    นอสต้าร์ : ลุงโซรอน พวกมันเล่นงานเราทีเผลอ

    โซรอน : สั่งคนของเราให้ถอยกลับไปก่อน จัดการทัพม้ามันให้ได้

    ในระหว่างที่โซรอนกำลังจะถอยทัพ ทัพม้าของไซโซและเคจาก็บุกเข้ามาโจมตีทหารของโซรอนข้างหลัง คนของโซรอนเริ่มจะระส่ำระส่ายแล้ว

    นอสต้าร์ : แย่แล้ว พวกมันมาจากไหนกันหล่ะเนี่ย

    โซรอน : บ้าเอ้ย สั่งทหารให้ตั้งแนวรับไว้

    และในตอนนั้นเอง นอร์ดิกและเซนจาก็ขี่ม้านำทหารออกไปรบกับพวกมันด้วยตัวเอง ทัพหลวงของนอร์ดิกบุกไปจัดการพวกมันอย่างรวดเร็ว ตอนนี้พวกมันถูกล้อมทุกด้าน ทำเอาพวกมันเริ่มจะวางอาวุธหนีแล้ว นอร์ดิกและเซนจาพยายามจะตามหาตัวโซรอน จนกระทั่งนอร์ดิกเจอตัวโซรอน เขาชักดาบออกมาแล้วพยายามจะฟันมัน แต่โซรอนเอาดาบกันไว้ได้แต่ตัวเองก็ตกลงจากม้า นอสต้าร์เห็นจึงเข้าไปช่วย ในตอนนั้นเองนอร์ดิกก็ลงจากม้ามาเพื่อจัดการกับทั้งคู่เหมือนกัน

    นอร์ดิก : เกมของแกจบแล้วโซรอน

    โซรอน : ไม่มีอะไรจบถ้าฉันยังอยู่

    นอสต้าร์ : ใช่ ฉันไม่ยอมแพ้ง่ายๆหรอกไอ้นอร์ดิก

    เซนจา : เฮ้อ ไอ้เด็กปากไม่สิ้นกลิ่นน้ำนม วิเวียนแม่แกไปไหนซะหล่ะ

    โซรอน : เซนจา ความจริงฉันน่าจะฆ่าแกตั้งแต่วันนั้นแล้ว

    เซนจา : แต่ก็ไม่ทำ เพราะแกสู้ฉันไม่ได้ยังไงหล่ะ

    นอสต้าร์ : อย่าปากดีไปหน่อยเลย // นอสต้าร์ชักดาบออกมาจะฟันนอร์ดิก แต่ในตอนนั้นเอง ไซโซและเคจาก็ขี่ม้ามาช่วย ไซโซขี่ม้ามาฟันนอสต้าร์แต่นอสต้าร์ป้องกันตัวเอาไว้ได้

    ไซโซ : นอสต้าร์ มาตัดสินเรื่องของเรากันดีกว่า

    นอสต้าร์ : ไอ้ไซโซ ฉันจะฆ่าแก // นอสต้าร์วิ่งเข้าไปจะจัดการไซโซ แต่ไซโซก็ใช้ดาบฟันที่ลำตัวของนอสต้าร์ ทำเอานอสต้าร์ถึงกับล้มลงในทันที ในตอนนั้นโซรอนกำลังจะหนี แต่เซนจาก็ชักดาบออกมาแล้วไปประดาบกับโซรอน โซรอนพยายามจะสู้กับเซนจาแต่เซนจาเล่นงานเขาเข้าที่ขา ทำเอาโซรอนล้มลงและไปไหนไม่ได้

    เซนจา : ความชั่วของแกจบลงตรงนี้แล้ว

    ในระหว่างที่เธอกำลังจะฆ่าเขา จู่ๆนายพลเนโรก็มาห้ามเซนจาไว้ ในตอนนั้นเองโซรอนพยายามจะคลานไปหานายพลเนโรเพื่อขอความเมตตา

    โซรอน : พี่ ผมขอโทษ ผมผิดไปแล้ว

    เนโร : ขอโทษงั้นเหรอ สายไปแล้วหล่ะสำหรับคนอย่างแก

    แต่ในระหว่างนั้นเอง พวกเขาโดนทหารของโซรอนล้อมเอาไว้ แต่ก็มีชายคนหนึ่ง ใช้ปืนอัตโนมัติยิงใส่ทหารของโซรอน แถมยังใช้ระเบิดมือขว้างใส่ทหารของโซรอนอีกกลุ่มหนึ่ง จากนั้นเขาก็เดินมาหาพวกของนอร์ดิก ทำเอาเขาถึงกับสงสัย

    เคยเห็นคนในรูปนี้หรือเปล่าครับเขาโชว์รูปหญิงสาววัยรุ่นที่มีหูแมวสีขาวให้นอร์ดิกดู

    นอร์ดิก : อ่า ไม่เคยนะ นี่เป็นคนงั้นเหรอ ว่าแต่นายเป็นใครเนี่ย

    ผมชื่ออมตะ เรียกผมแค่นั้นพอ

    ในขณะเดียวกัน เขาก็เจอเป้าหมายของเขาจนได้ จากนั้นเขาก็วิ่งไล่ตามเธอจนจับตัวเธอได้

    อมตะ : แหม่นี่ กว่าจะจับตัวได้นะ ซนจริงๆนะเธอเนี่ย // จากนั้นเขาก็กดปุ่มที่ข้อมือของเขา จากนั้นทั้งตัวเขาและหญิงสาวหูแมวคนนั้นหายวับไปกับตา ทำเอาคนอื่นๆแทบจะไม่เชื่อในสายตาของเขาเลย

     

    ทางด้านของอเล็กซ์สกี้กับอันเต้ เขาเดินทางด้วยรถม้าเดินทางมายังท่าเรือแห่งหนึ่งในแคว้นมอร็อค ในตอนนั้นเองเขาก็เห็นลูกน้องพร้อมกับเรือลำหนึ่ง ทั้งคู่ไม่รอช้ารีบไปขึ้นเรือพร้อมกับขนสมบัติไปด้วย แต่ในระหว่างนั้นเอง ก็มีชายในชุดทหารรัสเซียบุกเข้ามาจัดการคนของอเล็กซ์สกี้ ทำเอาเกิดการปะทะครั้งใหญ่ในตอนนั้น

    อันเต้ : ไอ้พวกนี้มันเป็นใครกันวะ

    อเล็กซ์สกี้ : นั่นพวกไอ้โทมารอฟ รีบไปจากที่นี่เร็ว

    แล้วก็อีกด้านหนึ่ง โทมารอฟและแอนตาร์กติกก็นำกำลังพลมาตามจับอเล็กซ์สกี้ การปะทะกันมั่วไปหมด ทหารรัสเซียฆ่าคนของอเล็กซ์สกี้ตายไปมากมาย โดยที่โทมารอฟพยายามตามตัวอเล็กซ์สกี้ไปอย่างติดๆ

    โทมารอฟ : อเล็กซ์สกี้ ยอมให้จับซะดีๆ

    เขาไล่ยิงอเล็กซ์สกี้ มันวิ่งหนีจนมันจะขึ้นเรือได้แล้ว

    แอนตาร์กติก : มันกำลังจะขึ้นเรือไปแล้ว

    โทมารอฟ : ฉันจัดการเอง // โทมารอฟวิ่งไปในซอยอีกด้านหนึ่ง เขาปีนตึกแถวนั้นขึ้นไป จากนั้นเขาก็วิ่งไป จนถึงจังหวะหนึ่ง เขากระโดดลงไปจับอเล็กซ์สกี้ที่กำลังจะขึ้นเรือ ในตอนนั้นเองอันเต้พยายามจะสู้กับโทมารอฟแต่ก็สู้ไม่ได้ ทั้งคู่รุมจัดการโทมารอฟแต่แอนตาร์กติกมาช่วยเอาไว้ อันเต้พยายามจะหยิบปืนมายิงแอนตาร์กติก แต่แอนตาร์กติกก็กระโดดปัดมือของอันเต้ จากนั้นก็เชือดคออันเต้จนแน่นิ่งไปในทันที

    อเล็กซ์สกี้ : บ้าเอ้ย // อเล็กซ์สกี้พยายามจะหนี แต่โทมารอฟก็จับตัวอเล็กซ์สกี้เอาไว้ได้ ส่วนลูกน้องคนที่เหลือของอเล็กซ์สกี้ก็โดนจับกันหมด

    โทมารอฟ : แกโดนประหารแน่ไอ้ระยำ

    อเล็กซ์สกี้ : แกคิดว่าราชวงศ์โรมานอฟที่แกรับใช้จะอยู่ได้ค้ำฟ้าอย่างงั้นเหรอ

    โทมารอฟ : ฉันว่าแกอย่าพูดถึงอนาคตเลยดีกว่า

    แอนตาร์กติก : ดูเหมือนว่าทุกอย่างจะเป็นไปด้วยดีแล้วนะเนี่ย

     

    หลังจากเหตุการณ์ทุกอย่างคลี่คลายลง เหตุการณ์ในหน้าหนังสือพิมพ์ก็ตีข่าวกันยกใหญ่

    จับตัวอเล็กซ์สกี้ อาชญากรสงครามผู้ยั่วยุให้เกิดสงคราม และฆาตกรรมชาวต่างชาติ ศาลจักรวรรดิรัสเซีย มีมติให้ประหารชีวิต

    อังกฤษ ฝรั่งเศส อเมริกา ญี่ปุ่น ลงนามในสนธิสัญญาสันติภาพกับสาธารณรัฐนอลโวร่า และให้การรับรองสาธารณรัฐนอลโวร่า นอลโวร่าตอบแทนโดยการชดใช้เงินค่าเสียหายให้แกเหล่าประเทศนั้นๆ
    สาธารณรัฐนอลโวร่า ส่งจดหมายอย่างเป็นทางการแสดงความเสียใจกับการจากไปของนายพลจอร์จ

    ศาลสูงแห่งสาธารณรัฐนอลโวร่า พิพากษาตัดสินคดีของโซรอน ข้อหาอาชญากรสงคราม โทษคือประหารชีวิต

    ทุกๆอย่างในนอลโวร่าเริ่มจะกลับมาฟื้นตัว ในวันนั้นนอร์ดิกกำลังนั่งอย่าในสวนกับซิลเวียร์สองต่อสอง

    นอร์ดิก : ในที่สุด มันก็จบลงซะทีนะ ความขัดแย้งเนี่ย

    ซิลเวียร์ : นั่นสิคะนอร์ดิก // ในตอนนั้นเอง นอร์ดิกยื่นแหวนแต่งงานให้กับซิลเวียร์

    นอร์ดิก : แต่งงานกับฉันนะซิลเวียร์

    ซิลเวียร์ : ขอบคุรมากนะคะนอร์ดิก // ซิลเวียร์ยื่นมือซ้ายให้นอร์ดิก จากนั้นเขาก็สวมมันไว้ในนิ้วนางของเธอ จากนั้นเขาก็จูบกับเธออย่างดูดดื่มในสวนแห่งนั้น เขาอยากให้ช่วงเวลานี้อยู่กับเขาให้นานที่สุด

     

    หลังจากที่เหตุการณ์สงบลง นอร์ดิกและซิลเวียร์ตกลงปลงใจที่จะแต่งงานกัน ทั้งคู่อยู่ด้วยกัน มีลูกถึง 3 คน

     

    ทางด้านไซโซและเคจา ไซโซแต่งงานกับโรสและมีลูกด้วยกัน ส่วนเคจาและสการ์เล็ต ทั้งคู่ก็อยู่ด้วยกันในบ้านหลังเล็กหลังหนึ่งในแคว้นบาส์ก

     

    ทางด้านนิโคลัสและเอลิซ่า หลังจากที่ทั้งคู่ฝ่าฟันเรื่องร้ายๆมาด้วยกันได้ ทั้งคู่ตกลงปลงใจที่จะแต่งงานกัน แล้วไปใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันที่เนเธอร์แลนด์ ในขณะที่เธอประกาศยุบสมาคมลับ สมาชิกที่เหลือถูกจับกุมในข้อหากบฏ

     

    ทางด้านฟีนด์และเมเทอร์ ทั้งคู่แต่งงานกันเป็นคู่ถัดจากคู่เอลิซ่า ฟีนด์ได้รับตำแหน่งเป็นผู้ว่าการใหญ่แห่งมอร็อค

     

    ทางด้านของซอลและเฟรย์อา ซอลได้รับเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดีอีกสมัย โดยมีเฟรย์อาเป็นสตรีหมายเลขหนึ่งของเขา ทั้งคู่ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันอย่างสงบในเวลาต่อมา

     

    ส่วนนายพลบูลและอาร์เทมิส ทั้งคู่ได้เป็นผู้ว่าการใหญ่แห่งรูดิวและเดลล์ และแต่งงานกันในเวลาต่อมา

     

    ทางด้านมาร์ธิวและเอ็ดเวิร์ด หลังจากที่เอ็ดเวิร์ดรู้ว่าโซรอนได้ชดใช้อย่างสาสม เขาไม่คิดที่จะหวนคืนบังลังค์ เขาขอใช้ชีวิตที่เหลือร่วมกับมาร์ธิวและอยู่ด้วยกัน ส่วนเลออนและแมทธิวก็ได้แต่งงานกับโคน่าและอาเรียสในเวลาต่อมา

     

    ทางด้านเอ็นและอาเรีย ทั้งคู่แต่งงานกันอย่างเงียบๆ จากนั้นเอ็นก็ซื้อกิจการน้ำมันในฟิลล์บอนจนกลายเป็นมหาเศรษฐีได้ในไม่กี่ปี

     

    ทางด้านคาเนสและเนม่า ทั้งคู่ได้แต่งงานกันหลังจากคู่ของนอร์ดิก คาเนสได้รับเลือกให้เป็นผู้ว่าการรัฐฟิลล์บอน ส่วนเนม่าหลังจากที่เธอโตพอ เธอก็ได้รับเลือกให้เป็นผู้ว่าการของริงก้า

     

    ทางด้านแอนตาร์กติกและโทมารอฟ หลังจากที่สงครามจบง พวกเขาทั้งคู่คบหากันซักพักก่อนที่ตกลงจะแต่งงานด้วยกัน

     

    ทางด้านนายพลเนโร เขาขอใช้ชีวิตที่เหลือเพื่อดูแลหลุมศพของนีจา ส่วนเซนจาก็ขอวางมือกับเรื่องการทหารจริงๆเพื่อใช้เวลาที่เหลือเลี้ยงลูกบุญธรรมของเธอ ส่วนวิเวียน ทหารจับตัวเธอได้ที่แคว้นเดลล์ ในขณะที่เธอกำลังหลบหนีออกจากนอลโวร่า เธอถูกตัดสินให้จำคุกตลอดชีวิต ต่อมาได้รับการปล่อยตัวและตายอย่างน่าอนาถในเวลาต่อมา

    ส่วนคูเปอร์และอาร์เทอร์ ทั้งคู่เกษียณและวางมือจากสงครามในเวลาต่อมา


    ทางด้านของสกายและอาร์มเมอร์ ทั้งคู่ยังคงรับราชการทหาร โดยมีแพทและเมดเป็นแม่บ้านให้กับพวกเขา


    ทางด้านของลอเรนซ์ หลังจากวีรกรรมของเธอ รัฐบาลได้ให้อภัยโทษกับกลุ่มของเธอ จากนั้นเธอก็ละทิ้งวิถีทางของโจรสลัดแล้วไปใช้ชีวิตอย่างสงบสุขกับคาลิมบ่า ปิดฉากตำนานโจรสลัดแห่งแคว้นบาส์กที่ยาวนานเกือบ 10 ปี


    END!!



     


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×