ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [TVXQ & SUJU] Rising Sun Of The Angel Ep.1-3 END

    ลำดับตอนที่ #48 : EP.2 [Level 39] The Hero Return

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 3.79K
      5
      17 ม.ค. 53





    EP.2 [Level 39] The Hero Return



    ‘ช็อก Hero ปรากฏตัว เตรียมแถลงข่าวโกฮอลลีวูด’
     ‘เดอะเจนเทิลแมนรีเทิร์น ย้ำ ที่หายไปเพราะไปเรียนต่อ’
     ‘Hero Return แฟนคลับฮือ กรุงโซลป่วน’
     ‘นักร้องสุดฮ้อต หายไปนาน กลับมาพร้อมชายหนุ่มปริศนา’
    ‘แฟนคลับป่วนโซล แห่ต้อนรับเดอะเจินเทิลแมนแห่งแดนกิมจิ’
    ‘ผจก.ลี ชี้ชัด HERO ยั่งรุ่ง ไม่มีร่วงแน่’
    ‘คนเก็บขยะโฟ่ HERO พ่นไฟได้’

     
    “ไอ้ข่าวสุดท้ายนี่มันอะไรกันวะ” ผู้จัดการลีโวยวาย โยนนิตยาสาร So Hot Gossip ใส่บุคคลที่กำลังยึดพื้นที่นิตยสารบันเทิงทุกเล่ม เรียกได้ว่าการที่ HERO กลับมาเป็นที่สนใจสื่อมวลชนและประชาชนอย่างล้นหลาม ทุกคนต่างต้องการคำตอบที่ว่าดิไอดอลของพวกเขาหายไปไหนเกือบปี อยู่ ๆ ก็หายไป อยู่ ๆ ก็กลับมากะทันหันแบบนี้ แม้ผู้จัดการลีจะแก้ข่าวให้ว่าแจจุงไปเรียนต่อเมริกาแต่ก็ใช่ว่าทุกคนจะปักใจเชื่อ ดูเหมือนประเด็นนี้จะถูกนำมาวิเคราะห์อย่างหนักยิ่งกว่าประเด็นทางการเมืองเสียอีก
     
    “จะโทษผมไม่ได้หรอกนะหัวหน้าแก๊ง ก็ไอ้พวกนั้นมันพยายามจะพรากความบริสุทธิ์ผุดผ่องไปจากผม แต่ไม่ยักรู้ว่าผมพ่นไฟได้ด้วย คิกคิกคิก”
     
    “เรอะ ไม่ยักรู้เหมือนกันว่าท่านยังบริสุทธิ์ผุดผ่อง”
     
    “อ้าว ไอ้ซาลาเปาเน่า พูดแบบนี้มาต่อยกันเลยมั๊ยครับ” คนสวยพูดพร้อมกับพับแขนเสื้อขึ้น
     
    “ไอ้ติ๊กฮีโร่ หยุดบ้าแล้วไปเก็บของเตรียมขึ้นเครื่องก่อนที่ฉันจะหักคอแก” ผู้จัดการบังเกิดเกล้าขู่ แจจุงต้องไปเป็นพรีเซนเตอร์แบรนด์ดังระดับโลกที่Beverly Hills ซึ่งนั่นถือว่าเป็นก้าวแรกในการโกฮอลลีวูด และจะได้ใช้โอกาสนี้ในการแถลงข่าวเรื่องที่ตนหายตัวไปอีกด้วย
     
    “โหยหัวหน้าแก๊ง เลิกเรียกผมแบบนั้นซักที แก่แล้วยังจะปากเสียอีก
     
    “ไอ้ห่า จะย้ายก้นไปเก็บของดี ๆ หรือจะให้ฉันช่วยสงเคราะห์”
     
    “อ๊ะ ๆ อย่านะคร้าบหัวหน้าแก๊ง ถ้าผมบุบสลายไปเดี๋ยวหาเงินให้หัวหน้าแก๊งไม่ได้นะค้าบบบ โอ๊ย ๆๆๆ ไปแล้ว ๆ”

    แจจุงทิ้งตัวลงบนที่นอนแล้วจมดิ่งสู่ความกลัดกลุ้มเหมือนทุกวัน คิดถึงใครบางคนที่อยู่ห่างแสนไกล ความทุกข์ที่อธิบายไม่ได้ว่ามันคืออะไรกำลังกัดกร่อนหัวใจดวงน้อย

    มันน่าแปลกเหลือเกิน ทั้ง ๆ ที่สวมสร้อยไว้ตลอด แต่พอกลับมายังแดนกิมจิ แสงนางฟ้ากลับหายไป เหลือแค่แสงออร่าตามประสาคนหน้าตาดี สงสัยว่านี่ก็จะเป็นหนึ่งในกระบวนการพิทักษ์นางฟ้าของชางมิน
     
    “เฮ้อ~ ยุนโฮ นายคงกำลังร้องไห้ขี้มูกโป่งคิดถึงฉันอยู่ล่ะสิ ไม่ต้องห่วงนะ ฉันกำลังหาทางกลับไป ถึงไอ้องค์ชายเป็ดกับ F4 รุ่นปู่จะรวมหัวกันกีดกันฉันก็เถอะ ไม่มีอะไรขวางทางดิไอดอลได้หรอก ฮ่ะๆๆๆๆ” แล้วนางฟ้าก็หัวเราะร่วนอยู่คนเดียว...=_=!



    ย้อนกลับไปอาทิตย์ที่แล้ว ในวันที่นางฟ้าและองครักษ์พิทักษ์นางฟ้าทะลุประตูมิติกลับมายังโลกมนุษย์ด้วยหนทางที่ไม่ค่อยจะราบรื่นนักตามประสาคนดวงซวย ร่างบางในชุดสีขาวบางพลิ้วลอยละลิ่วลงมาจากฟากฟ้าทะลุหลังคาโกดังร้างลงมาทับอะไรบางอย่างที่นุ่มนิ่ม และบางอย่างนั้นก็ร้องอ่อกกกกก!!!

     “ไอ้ประตูมิติเฮงซวย” คนสวยสบถ ค่อย ๆ ยันตัวลุกขึ้น อะไรบางอย่างที่ว่าก็คือมนุษย์ในชุดสูท 3 ชีวิต ก่อนที่แจจุงจะทันได้รู้สึกตัวเสียงเว่อร์ ๆ เสียงหนึ่งก็ดังขึ้นด้านหน้า

    “เจ้าพวกจอมมาร ตามมาถึงนี่เชียวรึ ตายซะเถอะ ข้าจะล้างแค้นให้เอเวอร์กรีนคิงดอม” เยซองชูดาบในท่าเตรียมพร้อม แก๊งชุดสูทชักปืนเล็งใส่เป้าหมายทันที

    “ว้ากกกก” แจจุงร้อง รีบกระโจนไปหลบหลังเยซอง

    พวกเขาอยู่กลางวงล้อมของยากุซ่าทั้งฝูง ดูเหมือนจะมีสองแก๊ง สงสัยจะนัดกันมาทำศึกชิงเจ้ายุทธจักร

     “แจจุงแองเจิล ท่านเป็นอะไรหรือไม่” เยซองหันมาถามด้วยความเป็นห่วง

    “ฉันจะฆ่าอิจุ๊น มันถีบฉันทะลุประตูมิติมา คอยดูนะ ถ้ากลับไปไรท์ซิ่งซันได้ฉันจะพ่นไฟใส่มัน”

    “ห๊า ท่านพ่นไฟได้ด้วยรึ ข้าไม่ยักกะรู้”

    “กร๊าซซซซซ ทำไมแกต้องคอยขัดฉันด้วยวะ”

    “ไอ้สองตัวนี่มันบ้าแหงเลย เอาไงดีลูกพี่” ชายหน้าบากหันไปถามผู้เป็นลูกพี่

    “ไอ้พวกจอมมาร ฉันจะแก้แค้นให้เอเวอร์กรีนคิงดอม” เยซองตวัดดาบไปด้านหน้า ทำท่าว่าจะกระโจนเข้าใส่แก๊งมาเฟียผู้มีอาวุธครบมือ

    “อ้าวเฮ้ย” แจจุงคว้าชายเสื้อไอ้องครักษ์บ้าเลือดเอาไว้ก่อนที่พวกนั้นจะเอาปืนเจาะกบาลมันและเขาก็จะโดนลูกหลงไปด้วย เดี๋ยวหุ่นบอบบางจะเป็นรูพรุน

    “พวกแกเป็นใคร” เสียงทุ้มของผู้เป็นหัวหน้าตวาด

    “อะไร แกไม่รู้จักฉันหรอ” แจจุงร้องเสียงสูง ทำหน้าแปลกใจสุดโลก ท่าทางพวกนี้จะไม่มีทีวีดู “ฉันคือ....”

    “ไอ้ติ๊กฮีโร่!!!!” อีกเสียงดังขึ้นด้านหลังสุด

    “หัวหน้าแก๊ง!!!” แจจุงเบิกตาโพลงเมื่อเห็นว่าเป็นใคร ผู้จัดการลีซูมานแหวกกลุ่มลูกน้องออกมาปรากฏแก่สายตา

    หลังจากที่แจจุงหายไปผู้จัดการลีก็กลับมาเป็นเจ้าพ่อยากุซ่าอีกครั้ง วันนี้เขานัดแก๊งเมี่ยงดำคู่อริมาดวลกันเพื่อแย่งชิงความเป็นหนึ่ง กำลังสู้กันอยู่ดี ๆ ไอ้ซาลาเปาตาตี่ในชุดนักรบก็ทะลุหลังคาลงมาทับลูกน้องเขา แล้วก็พูดอะไรเกี่ยวกับจอมมารบ้าบอคอแตก ยังไม่ทันได้หายงง อีกร่างในชุดขาวบางพลิ้วก็หล่นลงมาทับลูกน้องของแก๊งเมี่ยงดำอีก

    “แกหายหัวไปไหนมาห๊า ฉันพลิกแผ่นดินหาแกซะทั่ว ฉันนึกว่าแกถูกข่มขืนฆ่าหมกส้วมสาธารณะไปแล้ว ไอ้ห่า”

    “โห หัวหน้าแก๊งพูดเกินไปแล้ว ว่าแต่ผมหายไปไม่ถึงปี ทำไมหน้าเหี่ยวจังวะ” แจจุงสงสัยตามประสาเด็กมีปัญหา ฝ่ามืออรหันต์จึงพุ่งหวือมาที่บ้องหูของแจจุง แต่เขารู้จักท่านผู้มีพระคุณดีพอจึงโยกตัวหลบได้ทัน แต่ที่ไม่ทันก็คงจะเป็น….

    “อ๊าว!” ....เยซองล้มคะแคงลงไปกับพื้น

    “องครักษ์เย” แจจุงถลามาดูอาการ

    “นี่ผัวแกเรอะไอ้ติ๊กฮีโร่”

    “อ้าว พูดเชี่ย ๆ ไอ้เตี้ยนี่เป็นองครักษ์ของผมต่างหากล่ะ”

    “ไอ้ติ๊กฮีโร่ นี่แกโดนกระทบกระเทือนทางสมองมาใช่มั๊ย ที่แกหายไปหรือว่าแกโดนรถชนแล้วความจำเสื่อมจนจำไม่ได้ว่าตัวเองเป็นใคร แต่ตอนนี้จำได้แล้วเลยกลับมา โอว น่าสงสาร ปกติก็ไม่ค่อยจะเต็มอยู่แล้ว”

    “โห หัวหน้าแก๊ง ดูซีรีย์มากไปรึเปล่าเนี่ย ผมไปกู้โลกมาต่างหาก โฮ่ๆๆๆๆ เดอะฮีโร่แห่งเอเวอร์กรีนคิงดอม”

    “ไอ้ห่า ฉันคงเชื่อแกหรอก ตอนนี้กลับกันก่อนเถอะ เล่าให้ฉันฟังให้หมดว่าเกิดอะไรกับแกบ้าง” ผู้จัดการลีพูด หันไปสั่งลูกน้องให้เอารถออก รถเปอร์เช่สีดำขับออกไปจากลานโกดัง รถสปอร์ตสามคันนำหน้าและ รถแลนรี่อีกสามคันตามหลัง

    “ลูกพี่ เอาไงดี พวกมันไปแล้ว” ลูกน้องแก๊งเมี่ยงดำพูด

    “กรูไม่รู้” ผู้เป็นลูกพี่ตอบอย่างงง ๆ ‘ตกลงกรูมาทำอะไรที่นี่’





    แจจุงเล่าทุกอย่างให้ผู้จัดการลีฟัง ตัดตอนเนื้อหาบางส่วนเพื่อให้ตัวเองดูดี เสริมบางที่เพื่อให้ตนเป็นเยี่ยงวีรบุรุษ

    “แกบอกว่า แกเป็นนางฟ้าพิทักษ์สร้อยไรท์ซิ่งซัน แล้วก็มีไอ้พวกนักรบห่าเหวมาฆ่ากันแย่งตัวแก” ผู้จัดการลีสรุปสิ่งที่ได้ยิน เยซองกำลังง่วนอยู่กับจอ พลาสม่าขนาดมหึมา

    “อืม” แจจุงพยักหน้า ในหัวได้ยินแต่เสียงยุนโฮดังอื้ออึง แจจุงนวดขมับตัวเอง สงสัยว่าคงจะคิดถึงยุนโฮมากเกินไป หรือบางทีมันอาจจะเป็นสารที่ยุนโฮพยามจะสื่อถึง แต่เท่าที่ผ่านมาแจจุงไม่เคยได้ยินความคิดของยุนโฮเลย มีแต่ยุนโฮเท่านั้นที่ได้ยินความคิดของเขา

    “แล้วแกก็บอกว่าแกเท่านั้นที่จะช่วยเอเวอร์กรีนคิงดอมเพื่อหยุดจอมเชื้อราชันนะตุ?? มันเป็นใครวะ” ผู้จัดการลีถามเมื่อมาหยุดที่ประเด็นคนที่ดูเหมือนจะเป็นตัวร้ายในเรื่องเล่าของแจจุง

    “ก็จอมมารไง แต่คนที่นั่นเรียกจอมมารทั้งสามว่างั้น”

    “จอมเชื้อราชันนะตุเนี่ยนะ”

    “ใช่มั๊ง ผมคิดว่างั้น”

    “อ้าว แกนี่มันยังไงกัน สรุปแล้วแกรู้เรื่องอะไรมั่งล่ะเนี่ย เรื่องของแกมันคล้าย ๆ หนังเรื่องลอร์ดออฟเดอะริง รวมกับแฮร์รี่ พอตเตอร์เลยว่ะ นี่แกโม้รึเปล่า”

    “โม้ไรเล๊า เห็นผมเป็นคนแบบนั้นรึไง”

    “เห็นมาตั้งแต่แกเริ่มพูดได้นั่นแหละ”

    “กระจกวิเศษ~~” เสียงโอเวอร์ขององครักษ์เจ้าเก่าดังอยู่หน้าจอทีวีพลาสมา “เจ้ารู้หรือไม่ว่าตอนนี้เอเวอร์กรีนคิงดอมเป็นอย่างไรบ้าง” เยซองถามพิธีการในชุดมาสคอร์ตแม่มดน้อยโดเรมีในรายการการ์ตูนฮิสซี่เบบี้ตูน

    แจจุงกรอกตาไปมา เอือมระอากับไอ้คนหลุดโลก “ให้ตายสิ ผมว่าผมไปนอนดีกว่า”

    นั่นแหละคือจุดเริ่มต้นของ The Hero Return

     






    Beverly Hills Hollywood

    ภายในห้องบอนรูมของโรงแรม It’s speech เปิดให้เฉพาะสื่อมวลชน ทีมงานและตัวแทนแฟนคลับเท่านั้น คนอื่นมีสิทธิ์เพียงยืนรออยู่ด้านนอก เสียงจ้อกแจ้กจอแจเงียบสงบลงเมื่อดิไอดอลของพวกเขาก้าวเท้าขึ้นไปบนเวที ทันทีที่คนสวยวางก้นบนเก้าอี้ คำถามมากมายก็พุ่งเข้าใส่ราวกับห่ากระสุน

    คำถามที่ว่าทำไมอยู่ ๆนักร้องสุดฮ้อตที่กำลังโด่งดังเป็นพลุแตกถึงตัดสินใจมาเรียนต่อที่นี่กะทันหัน ทำไมฮีโร่ถึงไม่เห็นใจหัวอกแฟนคลับที่แทบจะเป็นบ้าตายเมื่อไอดอลของพวกเขาหายไปและอีกต่าง ๆ อีกมากมาย ผู้จัดการลีถึงกับหน้าซีด แจจุงยิ้มหวานให้กับทุกคนในห้องก่อนจะลุกขึ้นโค้งคำนับอย่างจริงใจแล้วกล่าวสั้น ๆ

    “ได้โปรดเชื่อในตัวผม ผมสัญญา จะไม่คำว่า Good Bye สำหรับเรา Believe Me….” แค่นั้นจริง ๆ ที่แจจุงพูด แต่เพียงประโยคนั้นประโยคเดียวก็ทำให้ทุกข้อกังขา ทุกข้อสงสัย ทุกความโกรธเคืองหายวับไปหมดสิ้น ประโยคนี้ถูกโพสไปทั่วโลกอินเตอร์เน็ต กลายเป็นประโยคฮิตอินเทรนด์ นิตยาสารทุกเล่มลงประโยคนี้ของแจจุงถึงสามเดือนติดกันทำลายทุกสถิติในวงการข่าวบันเทิง

    แม้แต่นักการเมืองยังเอ่ยถึง “‘ยังจำที่ฮีโร่พูดได้มั๊ยครับ ได้โปรดเชื่อในตัวผม ผมสัญญา จะไม่คำว่า Good Bye สำหรับเรา Believe Me…’ ผมก็อยากให้ประชาชนเชื่อผมเช่นนั้นเหมือนกัน”

    จากวันเป็นอาทิตย์ จากอาทิตย์เป็นเดือน แจจุงกลับมาอยู่ที่นี่ได้สามเดือนแล้ว ไม่มีคืนไหนเลยที่แจจุงจะหลับได้สนิท ภาพสงคราม การฆ่าฟัน เลือดและซากศพคอยหลอกหลอนทุกครั้งที่หลับตา พยายามอย่างยิ่งที่จะสื่อจิตถึงยุนโฮแต่ก็พบแต่เพียงความว่างเปล่า ทำไมนะยุนโฮถึงไม่มารับเขากลับไป ทำไมถึงทิ้งเขาให้ทนกับฝันร้ายแบบนี้ ตอนนี้ยุนโฮเป็นยังไงบ้าง จะคิดถึงเขารึเปล่า หรือว่าจะดีใจที่เขาจากไปซะได้ ใช่สิ เขามันน่ารำคาญ เป็นตัวยุ่ง

    “บ้าจริง” แจจุงปาดน้ำตาออกเร็ว ๆ ทำไมนะ ทั้ง ๆ ที่ฮอลลีวูดตกลงเซ็นสัญญากับเขาแล้วแต่เขากลับไม่ดีใจซักนิด นี่คือความใฝ่ฝัน คือความต้องการของเขาไม่ใช่หรอ คนในวงการใคร ๆ ก็ต้องการเดินมาถึงจุดนี้กันทั้งนั้น ถ้านี่ไม่ใช่ความต้องการที่แท้จริง แล้วอะไรล่ะ

    “ฉันจะกลับไรท์ซิ่งซัน” แจจุงพูดขึ้นในที่สุด เยซองถึงกับทิ้งดาบลงพื้นทับหัวแม่เท้าผจก.ลี

    “อะไรกัน ไม่ได้นะแจจุงแองเจิล”

    “แกยังจะกลับไปดินแดนห่าเหวอะไรนั่นอีกหรอวะ แล้วฉันจะทำทุกอย่างเพื่ออะไร กว่าฉันจะสร้างหลักฐานเท็จว่าแกมาเรียนต่ออเมริกาจริง ๆ รู้มั๊ยฉันต้องหมดไปเท่าไหร่ เลิกคิดเรื่องนี้ซะ เดี๋ยวฉันจะไปจัดการเรื่องเดินแบบไดมอนมิราเคิลที่ยูนิเวอร์แซล สตูดิโอ แกก็รีบนอนแล้วเลิกคิดเรื่องนั้นซะ” ผจก.ลีชี้หน้าก่อนจะเดินออกจากห้องไปพร้อมกับบอดี้การ์ดอีกขโยง

    ความจริงแจจุงแค่อยากจะไปเดินเฉิดฉายใน Beverly Hills แค่นั้น แต่ก็สามารถก้าวมาถึงยูนิเวอร์แซล สตูดิโอ แห่งนครลอธแองเจอร์ลิสได้ นับเป็นการก้าวเข้าสู่ฮอลลีวูดที่สวยงาม งานไดมอนมิราเคิลนี้ หากแจจุงทำไปได้สวย กระแสตอบรับดี ดิไอดอลอย่างเขาคงจะได้พุ่งไปสู่พาราเมาท์ พิกเจอร์สอย่างไม่ต้องสงสัย

     “แจจุงแองเจิล” เยซองหันมาจ้องหน้าผู้เป็นนางฟ้า “พวกเราทุกคนต่างทำเพื่อท่าน ปกป้องท่านจากจอมราชันย์”

    “โดยการไล่ฉันไป แยกฉันกับยุนโฮ แบบนี้น่ะหรอที่เรียกว่าปกป้องฉัน ไหนบอกว่าฉันคือความหวังของเอเวอร์กรีนคิงดอมยังไงล่ะ มันไม่ตลกไปหน่อยหรอ ในสถานการณ์แบบนี้ทุกคนต้องการความหวังไม่ใช่หรอ แต่นี่กลับขับไล่ความหวังข้ามโลกไปซะไกล”

    “ตอนนี้ทุกอย่างมันเปลี่ยนไปแล้ว ท่านไม่ได้เป็นเพียงความหวัง แต่เป็นเป้าหมายอีกด้วย ถ้าจอมราชันย์ได้นางฟ้าพิทักษ์สร้อยไป เอเวอร์กรีนคิงดอมก็จะเหลือแต่เถ้าถ่าน ท่านอย่าห่วงเอเวอร์กรีนคิงดอมไปเลย องค์ชายชางมินส่งข่าวมาบอกแล้วว่าเขตอาคมสำเร็จแล้ว แต่มันก็ยังอันตรายกับตัวท่านอยู่ดี”

    “อะไรนะ นายติดต่อกับชางมินโดยไม่บอกฉันหรอ ไหนบอกว่าเราถูกตัดขาดจากเอเวอร์กรีนคิงดอมทุกทางยังไงล่ะ”

    เยซองถึงกับหน้าซีด นี่เขาหลุดปากบอกแจจุงไปได้ยังไงนะ องค์ชายอุตส่าห์ย้ำนักย้ำหนา “เอ่อ...คือ..องค์ชายใช้ภูตประจำตัวน่ะ” ภูตประจำตัวสามารถไปทุกที่ที่อยากไปได้ ไม่ว่าจะเป็นนรกหรือสวรรค์

    “ฉันจะกลับไรท์ซิ่งซัน” แจจุงยืนกราน

    “กลับไม่ได้หรอก ประตูมิติทุกบานถูกปิดสนิทด้วยปราการเวทมนตร์ของเดอะกริ๊นทั้งสี่”

    “โหยปู่ ๆ” คนสวยถอนหายใจเฮือก “มันต้องมีทางสิ มันต้องมีซักทาง ฉันจะถามกูเกิ้ล กูเกิ้ลรู้ทุกอย่าง” ว่าแล้วนางฟ้าก็ถลาไปนั่งหน้าโน้ตบุค

    “ใครคือกูเกิ้ล ฉลาดพอ ๆ กับเสนาอำมาตย์นักปราชญ์ชินดงรึเปล่า...อา~ท่านกูเกิ้ล” เยซองครางเมื่อแจจุงพยักหน้ารับ




    ยูนิเวอร์แซล สตูดิโอ

    กว่าแจจุงจะฝ่าบรรดาแฟนคลับมาถึงสตูดิโอได้ก็เกือบจะแต่งตัวไม่ทัน คอนเซปของแจจุงคือเทพแห่งความบริสุทธิ์


    “พี่ฮะ พี่จะให้ผมแบกเจ้านี่เดินบนเวทีจริง ๆหรอฮะ” แจจุงถามอย่างไม่อยากจะเชื่อ เพชรมิราเคิลอันเป็นไคลแม็กของงานอยู่ในรูปแบบของคทาแห่งเวทมนตร์ แถมชุดที่ใส่ยังเป็นสีขาวเนื้อผ้าบางเบามองทะลุไปถึงไหนต่อไหนอีก นี่เขาหนีไอ้ชุดแบบนี้ไม่พ้นจริง ๆ ใช่มั๊ยเนี่ย

    “พี่ฮะ แล้วชุดนี่น่ะ ไม่เห็นมันจะเท่ห์สมกับเป็นเทพตรงไหนเลย ผมว่ามันดูอ่อนหวานไปนะ”

    “ก็เหมาะกับนายแล้วนี่” เสียงทุ้มกล่าวเยาะ ๆ แจจุงหันขวับไปมอง เกือบจะหลุดปากเรียกยุนโฮไปแล้ว โชคดีที่นึกขึ้นได้ว่าหมอนั่นมันคือไอ้ยูโนววงดงบังชิมฉี่นั่นเอง แค่หน้าเหมือนเท่านั้นแหละ ยุนโฮหล่อกว่าเป็นไหน ๆ

    “แล้วคอนเซปนายเป็น ‘ตัวอะไร’” แจจุงถามห้วน ๆ ตามประสาเห็นคนหล่อกว่าไม่ได้ ก็ดูสิ หมอนี่ได้ใส่ชุดราวกับกษัตริย์แห่งนักรบ มงกุฎอันงดงามที่อยู่บนกบาลนั้นยิ่งเสริมให้ดูหล่อเหลาเข้าไปอีก

    “คอนเซปฉันคือคิงอาเธอร์”

    ‘อ้ากกกกกกกกก’ แจจุงได้แต่กรีดร้องอยู่ในใจ ทำไมเขาไม่ได้ใส่ชุดเท่ห์ ๆ แบบนั้นบ้าง

    “เน่ ถามไรหน่อยดิ” แจจุงลดเสียงลง “จริงรึเปล่าที่เค้าว่ากัน”

    “หืม??”


    “เรื่องที่นายติ๊ดชึ่งกับคิมยองอุงคนในวงของนายน่ะ” แจจุงถามด้วยสีหน้ากระหายความจริงอย่างยิ่งยวด “ยัยสวยน้อยกว่าฉันนั่นน่ะนะ” ก่อนจะเปลี่ยนมาทำหน้ารับไม่ได้

    “ยัยสวยน้อยกว่าฉัน??” ยูโนวทวนคำ

    “กว่าฉัน”

    “กว่านาย” ยูโนวชี้นิ้วไปยังคนสวยที่สุด

    “ถูกต้อง”

    “อยากรู้ก็ไปถามยองอุงเองสิ”

    “ตกลง แล้วยัยสวยน้อยกว่าฉันนั่นอยู่ไหนล่ะ” แจจุงชะเง้อคอหา “อ้อ อยู่นั่นเอง” แจจุงเดินฉับ ๆ ตรงดิ่งไปยังเป้าหมายที่สวยน้อยกว่า

    “เดี๋ยวสิ ฮีโร่ อย่าไปถามเชียว นั่นมันเรื่องส่วนตัวนะ” ยูโนวโวยวาย

    “น้องยูโนว ยังแต่หน้าไม่เสร็จเลย นั่งลงก่อนสิคะ” ช่างแต่งหน้าร่างใหญ่หัวใจหญิงกระชากตัวยูโนวให้นั่งลง

    แจจุงเดินผ่านรูปราคาเหยียบล้านของสตูดิโอที่ประดับไว้ตรงโถงทางเดิน แต่แล้วก็ต้องเบรกจนหัวทิ่มเมื่อเสียงพูดคุยแผ่วเบาดังสวนเสียงดนตรีที่เปิดคลอ เบา ๆ มาตามลำโพง ใคร? ใครคุยกันในเมื่อรอบตัวไม่มีสิ่งชีวิตใดเลยนอกจากเขากับภาพ ๆ นั้น

    “นี่มัน~” แจจุงคราง ภาพนั้นเป็นภาพเดียวกันกับภาพที่อยู่ในห้องของยุนโฮแน่ ๆ Begin Tree ร่มไม้ศักดิ์สิทธิ์ ยุนโฮบอกว่ามันจะเปลี่ยนไปตามฤดูกาล ที่ที่แจจุงเพิ่งจากมาเป็นฤดูใบไม้ร่วง แต่ที่นี่เป็นฤดูหนาว ภาพนี้จึงเป็นภาพต้นสีขาวโพลน กิ่งก้านสาขาถูกหิมะเกาะ “Begin Tree~” แจจุงครางเป็นจังหวะเดียวกันที่เยซองเดินมาพอดี

    “แจจุงแองเจิล แม่สาวหุ่นนักรบปากแดงเถือกบอกว่างานจะเริ่มแล้ว”

    “เยซอง Begin Tree ร่มไม้ศักดิ์สิทธิ์ มันไม่ได้มีภาพเดียวใช่มั๊ย ฉันเคยเห็นภาพแบบนี้ตอนอยู่ในห้องน้ำแข็งของยุนโฮ”

    “ท่านไปทำอะไรที่ห้องของเทพยุนโฮ”

    “นั่นมันไม่ใช่ประเด็นนะ”

    “ก็ได้ ๆ” เยซองยกมือยอมแพ้ “ข้าเคยได้ยิน แต่ไม่เคยเห็นหรอก”

    “แต่ฉันเคย นี่ไง เหมือนกันเด๊ะเลย ฟังสิ มีเสียงคนพูดคุยกันด้วย เหมือนมีคนอยู่อีกฝั่ง” แจจุงดันหัวเยซองแนบกับรูปภาพเพื่อฟังเสียง “ฉันคิดว่าภาพนี้จะนำเรากลับไปเอเวอร์กรีนคิงดอมได้”

    “ท่านรู้ได้ยังไง”

    “กูเกิ้ลบอก” แจจุงตอบ “ประตูมิติอาจจะเป็นอะไรอย่างอื่นที่เชื่อมต่ออีกดินแดนหนึ่งสู่อีกดินแดนหนึ่ง”

    “อา~ ท่านกูเกิ้ลช่างรอบรู้เสียจริง”

     “อยู่นี่เอง น้องฮีโร่คะ ได้เวลาแล้วค่ะ” แม่นักรบสาวปากแดงเถือกที่เยซองกล่าวถึง ตรงดิ่งมาลากแจจุงไปเตรียมตัวขึ้นเวที

    “เดี๋ยวสิฮะพี่ พี่ฮะ” แจจุงขืนตัวไว้สุดฤทธิ์ แต่มีหรือจะสู้สาวประเภทสองที่ตัวใหญ่กว่าสามเท่าได้

    “อ้อ น้องฮีโร่คะ ผู้จัดการลีฝากมาบอกว่าไม่ต้องพูดอะไร แค่โพสท่าแล้วก็ยิ้มน้อย ๆ ก็พอ” เธอพูดก่อนจะกระวีกระวาดไปจัดการกับนางแบบนายแบบเจ้าปัญหาคนต่อไป

    “โธ่เอ๊ย เห็นผมเป็นคนแบบนั้นรึไง”


    ขาเรียวยาวก้าวเป็นจังหวะเข้ากับเสียงเพลง ผมทรงใหม่ที่สไตล์ลิสจัดให้แม้จะสั้นเต่อแต่ก็ไม่ได้ทำให้ใบหน้าแสนหวานนั้นดูแข็งแกร่งในแบบผู้ชาย ทุกท่วงท่าอิริยาบถสะกดคนดูให้ตกอยู่ในภวังค์โดยที่ไม่ได้แสดงสีหน้าอะไรเลย แสงแฟรชแหล่านั้นทำให้แจจุงเริ่มเวียนหัว แต่ด้วยเลือดเดอะเจิลเทิลแมนมันแรงกล้า ใบหน้าจึงแอ๊บเข้าไว้

    “เน้นเพชรสิวะไอ้ห่า” หัวหน้านักข่าวฟาดกบาลเหล่าลูกน้องเรียงตัวเมื่อพวกนั้นเอาแต่ถ่ายแจจุง ส่วนเพชรก็ตกขอบเฟรมไป


    งานจบลงอย่างสวยหรู คราวนี้แจจุงได้โกอินเตอร์สมใจแน่ แต่ทว่าคนสวยกลับนั่งหน้าเครียดอยู่หน้าโต๊ะเครื่องแป้ง ดวงตาเหม่อลอยครุ่นคิด ภาพต้นไม้นั่นมันต้องทำให้เขาทะลุมิติเข้าไปอยู่ในห้องของยุนโฮแน่นอน มันต้องเป็นแบบนั้นแหละ แต่เขาจะทำแบบนั้นได้ยังไงในเมื่อมันเป็นแต่ภาพตัน ๆ ไม่ใช่ชานชาลาที่ 9 เศษ 3 ส่วน 4

    “ไอ้ติ๊กฮีโร่ พาราเมาท์ตกลงเซ็นสัญญากับแกแล้วโว้ย อ้าว หายไปไหนวะ” ผจก.ลีหันซ้ายหันขวา เมื่อกี้ยังเห็นแวบ ๆ อยู่ในห้องแต่งตัวอยู่เลย

    “ท่านผู้อาวุโส เห็นแจจุงแองเจิลหรือไม่” เยซองเบียดตัวเข้ามาในห้อง ไม่สนใจว่าจะเป็นตัวเกะกะของใคร บรรดาทีมงานส่งเสียงจิ๊จ๊ะในลำคออย่างหงุดหงิด

    “คงจะไปโฟ่น้ำลายแตกฟองอยู่กับใครซักคนล่ะมั๊ง แล้วใครอนุญาตให้แกเรียกฉันแบบนั้นวะ” ผจก.ลีวาดฝ่ามือขึ้น เป้าหมายคือบ้องหูของไอ้องครักษ์จอมเว่อร์ แต่ดูเหมือนเยซองจะมีประสบการณ์อยู่บ้างจึงหลบหลีกได้ทันแล้วเบียดตัวฝ่าฝูงทีมงานออกจากห้องไป

    “อยู่นี่เองแจจุงแองเจิล” เยซองเดินตามหาจนทั่ว แจจุงกลับมายืนอยู่ที่หน้าภาพต้นไม้นี่อีกแล้ว

    “ฉันคิดว่ากูเกิ้ลพูดถูก มันต้องพาเรากลับเอเวอร์กรีนคิงดอมได้แน่”

    “ห๊า”

    “เยซอง!!” จู่ ๆ แจจุงก็ตะโกนขึ้นจนคนถูกเรียกสะดุ้งโหยง

    “ท่าน อย่ามองข้าแบบนี้สิ ข้ารู้สึกเหมือนจะซวยยังไงไม่รู้”

    “นายลองวิ่งทะลุภาพนี้ไปซิ เผื่อมันจะได้ผล”

    “แล้วถ้ามันไม่ได้ผลล่ะ” ไม่ทันได้ให้ผู้เป็นองครักษ์ได้ตั้งตัว มือบางก็ผลักแผ่นหลังคนดวงซวยไปกระแทกภาพนั้นดังอั่ก!!

    “ก็เจ็บน่ะสิ” แจจุงตอบ มองร่างเยซองไหลครูดลงมากองกับพื้นอย่างหมดท่า “กี่โมงแล้วเนี่ย หิวชะมัดยาดเลย” แจจุงยกโทรศัพท์ขึ้นมากดดูเวลา 22.22 PM ทันใดนั้นเองเสียงพูดคุยก็ดังขึ้นจากภาพต้นไม้นั้น แจจุงหันขวับไปมอง ก่อนที่เยซองจะทันได้รู้ตัวแจจุงก็พุ่งหายเข้าไปในภาพเสียแล้ว โทรศัพท์ของแจจุงตกอยู่บนพื้น หน้าจอแสดงเวลาดิจิตอล 22.23 PM

    “ซวยล่ะสิ” เยซองคราง ทุบภาพนั้นอย่างโมโห ถ้ามันคือประตูมิติจริง ตอนนี้มันก็ปิดสนิทเสียแล้ว

    จริงดังที่กูเกิ้ลบอก ประตูมิติอาจจะเป็นอะไรอย่างอื่นที่เชื่อมต่ออีกดินแดนหนึ่งสู่อีกดินแดนหนึ่ง แต่ลืมไปรึเปล่า เดอะกริ๊นทั้งสี่ร่ายเวทปราการปิดกั้นทุกทาง ไม่ว่าประตูมิตินั้นจะเป็นแค่เศษหิ้นก้อนเล็ก ๆ ที่ติดอยู่ในซอกรองเท้าหรือละอองเกสรที่ปลิวอยู่ในอากาศก็ไม่สามารถที่จะเข้ามาในเอเวอร์กรีนคิงดอมได้

    แล้วแจจุงจะไปโผล่ที่ไหนล่ะ ??

    ซวยจริง ๆ นั่นแหละ ทั้งนางฟ้าและองครักษ์พิทักษ์นางฟ้า หรือไม่ คนที่ซวยก็คือคนที่จะมาจ๊ะเอ๊นางฟ้านั่นแหละ







    ::::: เจ้โฟพล่าม ::::::

    ซาบาล่ะเฮ้ย!!!!!!

    สวัสดีมิตรรักแฟนฟิคทั้งหลาย ฮิ่ววววว ทักทายได้ลาวมากมาย
    ในที่สุด EP.2 ก็มาลงซักที 
    นางฟ้าของเรากลับโลกกิมจิมาได้สามเดือนแล้ว
    ตอนนี้ก็จะกลับไปยังเอเวอร์กรีนคิงดอม อาณาจักรอันเป็นที่รัก
    แต่ความซวยเพื่อนเก่ามักจะเล่นงานตามประสาคนสนิทกัน
    แล้วนางฟ้าตัวแสบจะไปโผล่ถูกที่หรือเปล่าหนอ

    พบกับตอนหน้า [EP.2 Level 40] Captain Kim

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×