ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Evil-Dragon อันธพาลสุดโฉด VS ยัยโหดสุดแสบ

    ลำดับตอนที่ #2 : แม่มดในคราบนางฟ้า

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 4.03K
      6
      8 ก.ย. 51

    ตอนที่ 2 : แม่มดในคราบนางฟ้า

             รู้สึกว่าการยุ่งเรื่องของคนอื่นจะเป็นสิ่งที่มนุษย์ชอบกันเหลือเกิน โดยเฉพาะไอ้แผลช้ำเป็นจ้ำสีเขียวอมม่วงตรงมุมปากของผมเนี่ยจะเป็นเรื่องทอล์คออฟเดอะทาวน์ไปทั่วโรงเรียน O.S.I. ในวันนี้ ไม่ว่าผมเดินไปไหนมาไหนก็จะมีนักเรียนชายหญิงแอบซุบซิบวิพากษ์วิจารณ์กัน =_=*

             “เห็นแผลตรงปากพี่จีมั้ย นั่นน่ะ...เห็นเขาลือกันว่าโดนผู้หญิงต่อยมา...” ( ลือไวเหลือเกินนะพวกเอ็ง =_=* )

             “โห...จริงเหรอ...นึกว่าพี่จีจะเก่งซะอีก อะไรกัน...ผู้หญิงต่อยทีเดียวก็จอด” ( ก็มันต่อยแบบตูไม่รู้เนื้อรู้ตัวนี่หว่า =_=* )

             “แล้วทำไมถึงโดนต่อยล่ะ...?” ( นั่นสิ...ตูก็งงๆเหมือนกัน... )

             “เฮ้ย...หรือว่าพี่จีไปทำสาวท้องวะ!!!” ( ไปกันใหญ่แล้วเว้ย!!! แม้แต่ปลายนิ้วตูยังไม่ทันได้แตะ มีแต่ปลายหมัดกับปลายตีนเขาที่มาแตะตูเนี่ย!!! ) ว้ากกก...ผมรู้สึกหงุดหงิดสุดๆ ไม่รู้จะนินทาอะไรกันนักหนากะอีแค่หัวหน้าแก๊งค์อันธพาลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดใน ตอนนี้โดนผู้หญิงตัวเล็กๆต่อยทีเดียวจอดแค่นั้นเอง!! ( ไม่อายเลยเนอะ จาก Sw. )

             ผมเบื่อหน่ายที่จะฟังเสียงร่ำลือไร้สาระพวกนี้เลยเลี่ยงเข้าห้องเรียนไป อย่างเซ็งๆ แน่นอนว่าเพื่อนในห้องก็เพ่งความสนใจมาที่แผลช้ำๆ ทว่า...ไม่มีใครเอ่ยปากพูดถึงคงเห็นจนชินแล้วกระมังเพราะแก๊งค์อันธพาลอย่างพวกเราจะมีเรื่องชกต่อยก็เป็นธรรมดา

             “เฮ้ย...เป็นไงบ้างวะจี ได้ข่าวว่าโดนสาวชกปากแตก ไหนๆดูหน่อยเด่ะ โอ้โห...มุมสวยซะด้วย จุ๊ๆๆ...” โอ๊คทักทายอย่างร่าเริง ( แล้วเดี๋ยวมันจะได้ตายอย่างรื่นรมย์ )

             “อย่าแตะสิวะ เจ็บ...” ผมปัดมือโอ๊คที่เอามาจิ้มแผล

             “อ้าว...โดนต่อยจริงเหรอ นึกว่าเขาลือกันเล่นๆแล้วนายก็รับมุกเอาสีมาทาซะอีก”

             “ล้อเล่นๆบ้านแกสิ...ผู้หญิงอะไรก็ไม่รู้หมัดหนักชิบ...” ผมสบถออกมาพลางลูบแผลเบาๆ

             “เฮ้ย...แกถูกผู้หญิงต่อยจริงอะ ที่ไหนวะ...?”

             “ที่หน้าโรงเรียนไง ตอนพวกแกกลับไปได้สักพัก”

             “ไม่ใช่...หมายถึงเป็นผู้หญิงที่ไหน เป็นพวกแก๊งค์อื่นหรือเปล่าอะไรแบบนั้น...”

             “เออ...ก็ทำนองนั้นล่ะ” ผมตอบโอ๊คที่ซักไซ้ราวกับเจ้าหน้าที่ทะเบียนราษฎร์

             “แก๊งค์ไหน...?”

             “เฮอะ...จะมีแก๊งค์ไหน ก็ D@rK-DeviL ไง“

             “อ้าว...แผนสำเร็จเหรอเนี่ย ในที่สุดมันก็เริ่มเคลื่อนไหวจนได้ แต่เอ๊ะ... D@rK-DeviL นี่มันมีสมาชิกในแก๊งค์เป็นผู้หญิงด้วยเหรอวะไม่ยักรู้” สหายร่วมก๊วนทำหน้างุนงงปนสงสัย

             “สำเร็จบ้าอะไร ไอ้ที่บอกว่าแก๊งค์ D@rK-DeviL เนี่ย ยัยนั่นไม่ได้เป็นสมาชิกอะไรนะ แต่เป็น น้องสาว คิว แก๊งค์ D@rK-DeviL ต่างหาก”

             “ห๊ะ...!!! คิวมีน้องสาวโหดขนาดนั้นด้วยเหร้อ!!!” โอ๊คทักอย่างตกใจสุดๆ...

             “เออสิ”

             “สวยป่ะ?” ชักสงสัยว่าที่มันถามๆมาเนี่ย ต้องการอะไรจากผมกันแน่ =_=”

             “สวย...แต่ดุยังกับหมา...” ผมตอบสั้นๆได้ใจความ โอ๊คเลยได้แต่ทำสีหน้าเหยเกพลางถามต่อ

             “สงสัยดุจริงอย่างที่นายว่า เพราะคงไม่มีผู้หญิงคนไหนมาหาเรื่องต่อยตีกับเจ้าถิ่นขนาดนี้ เอ่อ...แล้วเขาพูดว่าอะไรบ้างมั้ย?”

             "เขาไม่ให้เราไปสร้างเรื่องเพื่อให้ D@rK-DeviL เสื่อมเสียอีกน่ะสิ ไม่งั้น...จะโดนไม่ใช่น้อย...” พูดถึงตรงนี้แล้วผมรู้สึกหนาวสันหลังวาบๆพิกล โอ๊คเองก็คงไม่ต่างกันทำหน้าซีดเซียวราวกับไร้เลือดมาหล่อเลี้ยง

             “กลัวอะไรขนาดนั้น เราไม่ได้ไปทำเรื่องอะไรให้เขาอีกสักหน่อย ต่อไปก็ต่างคนต่างอยู่ละกัน...” ผมปลอบใจเพื่อนสนิท

             “จะแน่ใจได้ไงวะ ในเมื่อไอ้ฟิล์มบอกเมื่อวานนี้ว่ามันจะไปก่อเรื่องอีก...” คำพูดโอ๊คเตือนสติผม เราสองคนรู้สึกอยู่ในอลาสก้า เท้าเหยียบพื้นน้ำแข็ง ตามตัวมีหิมะปกคลุมพร้อมลมพายุที่หนาวกระหน่ำพัดผ่านร่าง...
     

             ตอนนี้ผมกับโอ๊คกำลังนั่งกระวนกระวายอยู่ในห้องเรียน แม้อาจารย์จะเริ่มสอนแต่พวกเรายังไม่ได้เริ่มเรียน =_=” จิตใจพะว้าพะวงถึงคนที่ยังไม่ได้มา นั่นคือ ฟิล์ม ไอ้บ้าเอ้ย!!! มันหายหัวหายตัวไปไหนฟะ!!! ไม่รู้ว่าเมื่อคืนไปก่อเรื่องก่อราวอะไรอีกหรือเปล่า แถมเมื่อเช้าดันมัวแต่ห่วงแผลบนหน้าเลยลืมหยิบ เอ้ย...ลืมซื้อหนังสือพิมพ์ร้านอาแปะมาด้วย...

             “นี่...นายรัตนกร หันรีหันขวางอยู่ได้ ตั้งใจเรียนหน่อยสิยะ...” อาจารย์มินตรา อาจารย์สาวผมยาวสลวย หน้าตาดีแถมอึ๋ม =///= สอนวิชาสุขศึกษาดุผม...

             “โห...จารย์มิน ไอ้โอ๊คก็ไม่ได้ตั้งใจเรียน ทำไมว่าแต่ผมคนเดียวอะ” ผมเถียงกลับไป

             “เอ้า....เอาแล้วไง พาฉันซวยไปด้วย” โอ๊คพึมพำเบาๆอยู่ข้างๆ

             “ก็นายธนศักดิ์เขาไม่ได้เลิ่กลั่กเหมือนเธอนี่ยะ ทำไม!!!...จะไปเป็นพระเอกหนังแขกเหรอ หันไปหันมาอยู่ได้” เสียงหัวเราะของเพื่อนร่วมห้องดังขึ้น หลายคนในโรงเรียนนี้ล้วนกลัวผมเว้นเสียแต่อาจารย์มินตรากับเพื่อนในระดับ ชั้นเดียวกัน =_=” ผมเลยได้แต่นั่งหน้ามุ่ยตั้งใจเรียนสุขศึกษาอย่างเบื่อหน่าย จนกระทั่งพักเที่ยง...แต่ก็ยังไม่ปรากฏเงาของเพื่อนร่วมแก๊งค์ที่นามว่า ฟิล์ม

             “ไม่รู้ไอ้ฟิล์มหายหัวไปไหน มันไปทำอะไรร้ายแรงแล้วโดนจับหรือเปล่าวะเนี่ย” ผมบ่นพึมพำอยู่ที่โต๊ะหินอ่อนข้างสนามฟุตบอล

             “เฮ้ย...แกคิดมากไปหรือเปล่าเนี่ย มันอาจจะแค่นอนขี้เกียจอยู่บ้านก็ได้ ไอ้ฟิล์มโดดเรียนบ่อยจะตาย” โอ๊คปลอบใจ อาจจริงอย่างที่มันว่า...แต่ผมก็อดกังวลไม่ได้

             “เฮ้ย...ฉันจะไปหาหนังสือพิมพ์มาอ่านสักหน่อย ไม่งั้นต้องไม่สบายใจไปทั้งวันแน่ๆ” ผมบอกโอ๊คที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้าม

             “เฮ้ย...แล้วแกจะไปหาหนังสือพิมพ์ที่ไหน?”

             “ไอ้บ้า!!! ห้องสมุดมีไว้ทำไมวะ” ถามซะคนอ่านรู้เลยว่าพวกผมไม่ค่อยสนใจอ่านหนังสือหนังหา =_=” และโอ๊คต้องตามใจโดยการเดินไปห้องสมุดเป็นเพื่อนเพราะผมไม่กล้าไปคนเดียว เขิน~~นน =///=เรียนมาหกปียังไม่เคยเฉียดเข้าไป

             “สงสัยวันนี้ฝนจะตกใหญ่...จีเข้าห้องสมุด” เสียงเพื่อนระดับชั้นเดียวกันเอ่ยแซวจากหน้าสมุด

             “โดนสาวต่อยจนสมองกลับหรือเปล่าฟะ” ชิ...แซวได้แซวไป =_=* ทำไมตูไม่มีใครยำเกรงเหมือนไอ้คิว D@rK-DeviL เลยฟะ รายนั้นไปที่ไหนมีแต่ความสงบ ไอ้เราไปที่ไหนมีแต่ความสนุก ( สำหรับพวกมัน!! )

             ผมไม่ใส่ใจเสียงนกเสียงกาเดินตรงเข้าห้องสมุดอย่างรวดเร็ว สายตาของรุ่นน้องมากมายมองเราสองคนราวกับเห็นตัวประหลาด แต่พอสบตาเข้าจังๆแต่ละคนก็รีบก้มหน้าก้มตาอ่านหนังสือต่อไป ผมกวาดสายตาหาสิ่งที่ต้องการก่อนพบมันอยู่ที่ชั้นแขวนหนังสือพิมพ์เลยตรง เข้าไปหยิบอ่านอย่างรวดเร็ว

             # อันธพาลหนักข้อ!!! แข่งมอเตอร์ไซค์ไล่ปาหินใส่กระจกร้านค้าดังย่าน XXX ( อ่านต่อหน้า 3 )

             # เสียหายนับแสน ร้านค้าดังแจ้งจับแก๊งค์อันธพาล D@rK-DeviL ( อ่านต่อหน้า 16 )

             # D@rK-DeviL ปากระจกร้าน กวาดทรัพย์สินมูลค้าหลายแสน ( อ่านต่อหน้า 18 )


             “ไอ้โอ๊ค...ฉันจะเป็นลมว่ะ” ผมโยนหนังสือพิมพ์ให้เพื่อนสนิทอ่านก่อนทรุดตัวลงไปนั่งกับพื้น รู้สึกใจเต้นโครมคราม แต่มือและเท้าเย็นเชียบ โอ้ย...รู้สึกชีวิตไม่ค่อยปลอดภัยยังไงไม่รู้...

             “ไอ้จี...ฉันรู้สึกไม่ค่อยสบายเลยว่ะ หนาวๆร้อนๆ” โอ๊คทรุดตัวลงมานั่งข้างๆ ผมล่ะอยากรู้จริงๆไอ้ฟิล์มมันต้องการทำให้ D@rK-DeviL เคลื่อนไหว หรือ ต้องการให้ตำรวจเคลื่อนไหวกันแน่ จากอันธพาลเริ่มกลายเป็นอาชญากรรมยังไงไม่รู้

             “ไปกันเถอะ” ผมลุกขึ้นหยิบหนังสือพิมพ์ติดมือพลางจะเดินออกจากห้องสมุด แต่โอ๊คดึงชายเสื้อไว้

             “เฮ้ย...แกไม่คืนหนังสือพิมพ์เหรอ?”

             “ไม่...ฉันจะเอาไปปาใส่หน้าไอ้ฟิล์มตอนเจอ มันจะได้รู้ว่าตัวเองทำอะไรลงไปบ้าง” ทว่า...จังหวะนั้นเอง อาจารย์บรรณารักษ์ก็ปรี่มาขวางหน้าเอ่ยบอกเสียงดัง

             “เธอจะเอาหนังสือพิมพ์ออกจากห้องสมุดไม่ได้นะ...” ชิ!!!...มารผจญ ผมรีบครุ่นคิดหาวิธีก่อนปิ๊งไอเดีย...

             “อาจารย์มินตราบอกให้ผมมาเอากระดาษหนังสือพิมพ์ไปเช็ดกระจกห้องพักครูหมวดพลานามัยครับ”

             “เอ๊ะ...อาจารย์มินตราเนี่ยนะ เอ่อ...งั้นก็เอาหนังสือพิมพ์เก่าไปสิ นี่มันฉบับใหม่นะ” อาจารย์บรรณารักษ์บอกด้วยน้ำเสียงอ่อนลง

             “ไม่ได้ครับ...อาจารย์มินตราบอกว่าถ้าเอาหนังสือพิมพ์เก่ากระจกจะไม่สะอาด ต้องเอาหนังสือพิมพ์ใหม่แบบซิงๆ” แถสุดๆเลยตู หุหุ...

             “แต่นั่นมันไม่ซิงแล้วนะ อ่านไปตั้งหลายคนแล้ว” อาจารย์บรรณารักษ์ยังไม่ละความพยายาม ผมเริ่มหมดความอดทน

             “อาจารย์มินตราถือแต่ผมไม่ถือครับ ดีซะอีกแบบมีประสบการณ์ผมชอบ ขอตัวนะครับ...” พูดจบก็เดินออกไป ปล่อยให้อาจารย์บรรณารักษ์งุนงงตรงนั้นว่าผมหมายถึงอะไรกันแน่ ฮี่ๆๆ...และถือเป็นการเอาคืนอาจารย์มินตราที่ว่าผมในคาบด้วย ( เลวจริงๆตู )


             สรุปแล้ววันนี้ทั้งวันฟิล์มก็ไม่ได้มาโรงเรียน ผมมองนาฬิกาข้อมือที่บ่งบอกเวลาบ่ายสองกว่าๆอีกไม่นานก็ถึงเวลาเลิกเรียนที่ หลายคนรอคอย อาจารย์ภัทระ อาจารย์หนุ่มสอนวิชาคณิตศาสตร์ยังสอนเจื้อยแจ้วอยู่หน้าห้องแต่ผมไมได้ใส่ใจ เท่าไร เพราะไม่รู้เรื่องวิชานี้มาตั้งแต่อยู่มัธยมศึกษาปีที่หนึ่ง =_=” สมองปิดกั้นสุดๆ...

             เฮ้อ...อยากกลับบ้านจังเลย หวังว่าวันนี้คงไม่มีเรื่องวุ่นวายเหมือนเมื่อวานตอนเย็นนะ พลัน...ผมก็ฉุกคิดอะไรขึ้นมาได้ ตายล่ะ...แล้ววันนี้ยัยบ้านั่นจะมาอาละวาดที่นี่มั้ยเนี่ย ไอ้หยา...ผมไม่อยากคิดเลยพอเห็นข่าวหน้าหนึ่งบนหนังสือพิมพ์ก็วัดดีกรีความ แรงของหญิงสาวได้ไม่ยากเย็น

             “เฮ้ยๆๆ...โอ๊ค เรากลับกันก่อนดีมั้ย?” ผมกระทุ้งศอกใส่โอ๊คที่นั่งสัปหงกหงึกหงักอยู่ข้างๆ

             “เอ๊ะ...ทำไมล่ะ” มันถามพลางสูดน้ำลายที่ไหลยืดเข้าปาก =_=”

             “เมื่อวานยัยบ้านั่นมาต่อยฉันเพราะของ D@rK-DeviL ตอนหลังเลิกเรียน ฉันไม่อยากรอจนถึงตอนนั้นเลยว่ะ กลัวประวัติศาสตร์ซ้ำรอย” ผมยอมรับตรงๆ ให้ผู้หญิงมาต่อยปากแตกอีกรอบเนี่ยไม่เอาหรอกนะ เสียเครดิตหัวหน้าแก๊งค์ Evil-Dragon หมด

             “อืม...งั้นไปโรงเรียนสตรีนารีวิทยามั้ย ฉันว่าจะไปรับแฟน แกก็มาม่อหญิงสิ สาวๆสวยๆน่ารักตรึมเลยนะเว้ย” โอ๊คเสนอความคิดที่ดีมาก =_=b

             “โอเคเลย...” ว่าแล้ว...ผมกับโอ๊คก็เก็บข้าวของใส่กระเป๋าพลางไหลไปตามพื้นเพื่อไม่ให้ อาจารย์ภัทระที่ยังตั้งอกตั้งใจกับตัวเลขมากมายบนกระดานเห็น

             เรื่องโดดเรียนไม่ใช่ปัญหายากเย็น เพราะตอนนี้ผมกับโอ๊คได้หลุดพ้นจากรั้วโรงเรียน O.S.I. และกำลังแข่งมอเตอร์ไซค์กันว่าใครจะไปถึงก่อน โอ้ย...แค่คิดถึงสาวๆน้ำลายก็หกแล้ว >.,<

             โรงเรียนสตรีนารีวิทยา เป็นโรงเรียนรัฐบาลที่ไม่เด่นไม่ดัง แต่ก็ขึ้นชื่อว่ามีแต่เด็กนักเรียนหญิงที่เรียบร้อยราวกับกุลสตรีมากมาย หุหุ...ท่าทางจะตะล่อมง่าย... ผมกับโอ๊คจอดรถหน้าโรงเรียนก่อนเวลาเลิกเรียนของที่นั่นนิดหน่อย

             “เดี๋ยวฉันไปรอแนนด้านในตรงลานว่าง แกจะเข้าไปด้วยกันมั้ย?” โอ๊คหันมาถามผม...

             “ไม่ดีกว่า นั่งเก็กตรงมอเตอร์ไซค์เท่ห์กว่าเยอะ แกเข้าไปเกี่ยวมาให้สักคนก็พอ” ผมปฏิเสธ เพื่อนชายเลยรีบเดินเข้าไปทันที

             เสียงออดของโรงเรียนดังขึ้นได้ไม่นาน นักเรียนหญิงน่ารักๆ ขาว สวย หมวย รวยเสน่ห์ก็ออกมาตรึม อ้ากกก!!! ผมแทบเก็กไม่ทัน หลายคนมองผมด้วยสีหน้าเขินอาย ไม่อยากบอกหรอกนะ...ว่าตัวเองเป็นผู้ชายที่หน้าตาดีคนหนึ่ง หุหุ...

             ระหว่างที่กำลังรื่นรมย์กับความน่ารักน่าชังของสาวๆ โอ๊คก็พาแนนแฟนมันออกมาพร้อมกับผู้หญิงคนหนึ่งสง่างามราวกับคุณหนู อ๊า...ไอ้โอ๊คเกี่ยวออกมาได้แจ่มมากเพื่อน ผมโบกมือทักทายแนนเพราะรู้จักกับเธออยู่แล้ว ส่วนอีกคนนั้นรอให้ใครสักคนแนะนำอยู่

             “เฮ้ย...จี นี่เป็นเพื่อนแนนแถมยังเป็นประธานนักเรียนของที่นี่ เป็นไงสวยมั้ย...” โอ๊คแนะนำเปิดโอกาสให้ผมหวานเสน่ห์

             “สวัสดีครับ ชื่อจีครับ...”

             “สวัสดีค่ะ...ครีมค่ะ” ทันทีที่เราแนะนำตัวเสร็จก็สบตากัน ก่อนที่ผมจะต้องช็อกตาค้างเมื่อพบว่า คุณหนูผู้น่ารักและสง่างามคือยัยโหดเมื่อวานนี้ อ้ากกกก!!!!

             “เฮ้ย..เธอ...ทำไมมาอยู่ที่นี่ได้” ผมแหกปากด้วยความตกใจ

             “เฮ้ยๆ...เป็นไรไปวะจี?” เพื่อนสนิทถามผม

             “โอ๊ค...ยัยนี่แหละที่ต่อยฉันปากแตกเมื่อวาน หนอยๆๆ...ปลอมตัวเป็นคุณหนูเหรอ ตบตาฉันไม่ได้หรอกเฟ้ย...” ผมโวยวายอย่างหัวเสีย แต่โอ๊คกับแนนทำหน้าเหมือนไม่เชื่อ

             “จำผิดคนหรือเปล่าวะ ครีมเขาเป็นประธานนักเรียนที่นี่นะ แถมยังเป็นนักเรียนดีเด่นมรรยาทดีงามด้วย จะไปต่อยนายปากแตกได้ไง”

             “ใช่ค่ะ...เพื่อนแนนคนนี้เรียบร้อยมากๆเลย จีจำผิดคนแล้วล่ะ” สองคนยืนยันแต่ผมยังคงไม่เชื่อ...

             “นี่เธอ...อย่ามาทำหน้าใสซื่อ รีบๆเผยตัวจริงมาเดี๋ยวนี้ยัยจิ้งจอกเจ้าเล่ห์” ผมเขย่าไหล่เธออย่างแรง หวังให้หล่อนโมโหแล้วอาละวาด แต่ผิดคาด...

             “โอ้ย...อย่าทำครีมค่ะ ครีมเจ็บ” เธอเอ่ยพร้อมน้ำตาที่ไหลคลอเบ้าสองข้าง ผมชะงักอย่างตกใจ เฮ้ย...อะไรกันวะ อ่อนแอบอบบางเหลือเกินแม่คุณ หรือว่าผมจะจำผิดคน แต่...ชื่อครีมเหมือนกัน หน้าตาเหมือนกัน เอ๊ะ...หรือจะเป็นฝาแฝด... =_=”

             “เอ่อ...ขอโทษนะ” ผมเอ่ยพลางยกมือยกไม้ขอโทษขอโพย ครีมปาดน้ำตาออกจากใบหน้าส่งยิ้มหวานให้ผม

             “ไม่เป็นไรค่ะ...” อ๊า...ราวกับนางฟ้า ผมเกิดอาการเคลิบเคลิ้มไปชั่วขณะ

             “โอเค...เข้าใจกันก็ดีแล้ว งั้นเดี๋ยวฉันจะไปส่งแนนแล้วกลับเลย ส่วนนายก็อยู่คุยกับครีมหรือไปส่งอะไรก็ว่ไป “ โอ๊คได้แฟนแล้วทิ้งเพื่อน แต่เอาเถอะตอนนี้งานเข้า หุหุ...ต้องเทคแคร์สาวน้อยผู้น่ารักซะหน่อย...


             “พรุ่งนี้เจอกันเว้ยยย” โอ๊คโบกมือบ๊ายบายพลางบึ่งมอเตอร์ไซค์ออกไปจากหน้าโรงเรียน ผมมองเขาจนลับสายตาก็หันมาหาครีมที่ยืนแอ๊บแบ้วอยู๋ =///=

             “ครีม...กลับบ้านเองหรือเปล่า ให้ผมไปส่งมั้ย?”

             “เอ่อ...เดี๋ยวมีรถทางบ้านมารับค่ะ...” เธอตอบกลับมา ท่าทางจะเป็นคุณหนูจริงๆแถมรวยวุ้ย...มีรถมารับซะด้วย...

             “ว้า...แย่จัง...” ผมพึมพำอย่างเสียดาย

             “เอ่อ...พอดีอีกนานกว่ารถทางบ้านจะมา เราไปหาอะไรทานฆ่าเวลามั้ยค่ะ ตรงหัวมุมนั้นมีร้านค๊อฟฟี่ช็อป ...” เธอส่งยิ้มให้ผม อะฮ้า~~~สาวสวยเปิดโอกาสอย่างนี้ใครจะปล่อยให้หลุดมือ

             “ครับๆ...” ผมตามครีมต้อยๆราวกับลูกหมา จนกระทั่งถึงหัวมุมที่ว่าแต่ก็ไม่พบค๊อฟฟี่ช็อปนอกจากซอยตันที่ไร้คน...

             “เอ๊ะ...ครีมพามาผิดทางหรือเปล่าครับ?” ผมหันไปถามเธอ รอยยิ้มหวานๆที่เห็นตอนแรกแปรเปลี่ยนเป็นการแสยะยิ้ม ก่อนที่มือเล็กๆสองข้างจะผลักผมอย่างแรงไปติดกำแพงดัง...อั่ก!!!

             “โอ้ย...อะไรกันเนี่ย!!!” ผมอุทานขึ้นมาด้วยความตกใจ...

             “กล้ามากเลยนะ มาเหยียบถึงถิ่นฉัน ห๊ะ!!นายจี!!” น้ำเสียงดุดันกระตุ้นให้ผมฟื้นความทรงจำขึ้นมาได้ ว้ากก...นี่มันยัยครีมจริงๆด้วย เธอยืนกอดอกด้วยท่าทางมาดมั่น คราบนางฟ้ากลายเป็นแม่มดร้ายอย่างไม่คาดคิดมาก่อน

             “ฉันมาเหยียบถิ่นอะไร...?”

             “หนอย...ยังมาเถียงอีก ก็นี่มันถิ่นฉัน นายตั้งใจมาหาเรื่องคืนใช่มั้ยห๊ะ!!” เปรี้ยงง!!! หมักแรกฮุกเข้าที่เบ้าตาซ้ายผม TT^TTนี่ตูไปทำกรรมอะไรไว้ชาติที่แล้วเนี่ย!!!

             “จะบ้าเหรอ...โอ๊คมาหาแนน ฉันก็แค่มาเป็นพื่อนมันเท่านั้นเอง จะไปรู้ได้ไงว่าเธอเรียนที่นี่” ผมรีบอธิบายในขณะที่ครีมใช้มือข้างหนึ่งยันตัวผมติดกำแพงไว้ไม่ให้ขัดขืน

             “งั้นเหรอ...แน่ใจ๊!!!”

             “เออสิ!! ปล่อยฉันสักที!!” ผมโวยวาย...แต่เธอยิ้มเล็กน้อย

             “ได้...แต่ก่อนปล่อย...ขออีกสักดอก!!!” เปรี้ยงงง!!! หมัดสองฮุกเข่าที่เบ้าตาขวา

             “โอ้ย...เธอเป็นบ้าอะไรเนี่ย ต่อยเอาๆอยู่ได้” ผมโวยวายเอามือปิดตาสองข้างที่เริ่มเจ็บจี๊ด

             “โทษฐานที่นายยังก่อเรื่องไง ข่าวหน้าหนึ่งในหนังสือพิมพ์ตอนเช้าวันนี้ พาดหัวข่าวตัวเบ่อเริ้มไม่เห็นเหรอ ฉันบอกแล้วใช่มั้ยว่าอย่าสร้างความเดือดร้อนให้พี่ชายกับแก๊งค์ D@rK-DeviL อีก ทำไมไม่จำ!!!”

             “ฉันไม่ได้ทำ เพื่อนฉันทำ!!!” ผมร้องบอก

             “อย่ามาโกหก นายเป็นหัวหน้าแก๊งค์ อย่าคิดว่าฉันไม่รู้ จะมีลูกน้องคนไหนกล้าทำอะไรเกินกว่าที่หัวหน้าแก๊งค์สั่ง ห๊ะ!!! “ ครีมบอก แม่...งขนาดรู้ว่าเป็นหัวหน้าแก๊งค์ยังทำกับตูขนาดนี้ TT^TT มันก็จริงอยู่เรื่องที่พูด...แต่เธอคงยึดหลักแก๊งค์พี่ชายมากเกินไปซึ่งใช้ไม่ ได้สำหรับแก๊งค์ผมที่มีลูกน้องเกเร ขนาดสองปีก่อนยังแอบไปค้ายาสร้างเรื่องเสื่อมเสียให้แก๊งค์เลย

             “หวังว่าจะไม่มีครั้งต่อไป แล้วนายก็ห้ามเอาเรื่องที่ฉันทะเลาะกับนายไปเล่าให้ใครฟังด้วย เข้าใจมั้ยห๊ะ!!! ไม่งั้นเจ็บแน่” แค่นี้ตูก็เจ็บแล้วเว้ย!!! ผมกู่ร้องในใจ

             “โอเค รู้แล้ว เข้าใจแล้ว”

             “ดีมาก...”เธอบอกพลางปัดไม้ปัดมือแล้วเดินนำออกไป ผมเลยค่อยๆเดินตามมองดูมาดนักเลงโตของครีมที่พอพ้นหัวมุมก็แปรเปลี่ยนเป็น คุณหนูเรียบร้อยอะโนเนะตามเดิม...เป็นจังหวะที่รถลีมูซีนสีดำคันใหญ่แล่นมา จอดเทียบ เธอหันมาบอกผมด้วยสีหน้าอ่อนหวาน

             “รถทางบ้านครีมมารับแล้ว ไว้เจอกันใหม่นะจี” เธอยิ้มแล้วขึ้นรถจากไป ( ใครอยากเจอหล่อนอีก ห๊ะ!!!) ท่ามกลางเสียงจ็อกแจ๊กของนักเรียนหญิงที่ยังทยอยออกมาจากโรงเรียน

             “ครีมนี่น่ารักจัง”

             “นั่นสิเกิดมาเพียบพร้อมสุดๆ ทั้งสง่างาม ทั้งร่ำรวย พี่ชายก็หล่อ เฮ้อ...เพอร์เฟค” ผมฟังเสียงวิพากษ์วิจารณ์ที่มีแต่คำชื่นชมอย่างสะอิดสะเอียนในใจ เฮอะ...แม่มดในคราบนางฟ้าแท้ๆ

    + +
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×