คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : ตอนที่ 1++มืดแปดด้าน++
3 ธันวาคม 2551.....
เรื่อง หนึ่งรักปักใจ
โดย
...ธุวดารา
ผืนน้ำสีมรกตใสราวกระจกบานใหญ่ที่กว้างไกลสุดลูกหูลุกตา ค่อย ๆ ม้วนตัวเป็นเกลียวคลื่นน้อยใหญ่ ซัดเข้าหาเวิ้งชายหาดเล็ก ๆ ซึ่งโรยรายไปด้วยเม็ดทรายขาวละเอียดราวครีมเทียมที่ริมฝั่งเป็นระลอก คลื่นจากท้องทะเลล้ำลึกลูกแล้วลูกเล่า เคลื่อนตัวเข้ากระทบสองร่างสิ่งมีชีวิตที่นอนแน่นิ่งสนิทอยู่บนผืนทราย แล้วจึงแตกออกเป็นฟองขาวพราวพร่างดังปุยฝ้ายอ่อนนุ่มกระจัดกระจายตามแนวชายฝั่ง
หนึ่งในสองของร่างซึ่งนอนสลบอยู่ตรงชายหาดเริ่มขยับตัวเล็กน้อย สิ่งแรกที่รับรู้คืออาการเจ็บแปลบบริเวณด้านหลัง ราวกับกระดูกไขสันหลังของตนกำลังจะแตกร้าวออกเป็นเสี่ยง ๆ เสียให้ได้ จากนั้นจึงเริ่มได้ยินเสียงคลื่นกระทบเข้าหาฝั่งเป็นจังหวะสม่ำเสมอ
เขาสะบัดศีรษะไปมาเพื่อขับไล่ความมึนงง แล้วจึงพลิกตัวหงายขึ้น รู้สึกเหมือนมีอะไรมารั้งแขนของตัวเองไว้นิด ๆ ตอนที่ขยับตัว แต่ก็ไม่ทันได้สนใจ ดวงตาคมสองชั้นสีดำสนิทที่ลึกล้ำราวกับห้วงสมุทรตรงหน้ากะพริบอยู่สองสามที เพื่อปรับภาพพร่าเลือนของท้องฟ้าผืนใหญ่เบื้องบน ประจวบกับจังหวะที่น้ำทะเลรสชาติราวเกลือสมุทรซัดเข้าปะทะกับใบหน้าคมเข้มเข้าเต็มเปา ทำให้เจ้าตัวสำลักหน้าดำหน้าแดงเพราะไม่ทันตั้งตัว
และในจังหวะที่ชายหนุ่มกำลังจะยกมือขึ้นทุบแผงอกแข็งแกร่งของตนโดยหวังจะไล่ของเหลวรสเค็มจัดที่สร้างความแสบเคืองไปทั่วลำคอและทำให้สำลักจนรู้สึกคับแน่นที่หน้าอกไปหมด เขาก็ต้องชะงักกึก เมื่อไม่สามารถขยับท่อนแขนของตนได้ตามใจปรารถนา
ชายหนุ่มยกแขนข้างซ้ายขึ้นดูจึงพบว่า มีเชือกเส้นหนึ่งผูกรัดตรงตำแหน่งรอบข้อมือแข็งของเขาไว้ด้วยความแน่นหนา คิ้วเข้มขมวดมุ่นด้วยความแปลกใจ พร้อมกับอาการเจ็บจี๊ดซึ่งแล่นเข้าโจมตีที่ศีรษะโดยฉับพลัน เขาจึงต้องยกมือที่ว่างอีกข้างขึ้นกุมที่ขมับอย่างต้องการยับยั้งอาการปวดรุนแรงนี้ให้หมดไป ก่อนที่มันจะทรมานเขาจนต้องตายกลายเป็นผีเฝ้าทะเลไปเสียก่อน
เมื่อเริ่มคลายจากความเจ็บปวดลงบ้าง ชายหนุ่มจึงเริ่มหันมาสำรวจตัวเองอีกครั้ง ด้วยจักษุประสาทที่สามารถรับรู้ภาพต่าง ๆ ได้ชัดเจนมากขึ้น เขาชันตัวขึ้นในลักษณะกึ่งนั่งกึ่งนอน ไม่สนใจเกลียวคลื่นที่ทยอยซัดเข้ามาจนถึงครึ่งค่อนตัว เพราะถึงอย่างไรสภาพของเขาก็เปียกจนเกินกว่าจะมาพะวงเรื่องนี้แล้ว
เขาหมายจะใช้มือที่ว่างอีกข้างกระตุกเชือกที่รัดข้อมือสร้างความรำคาญออกเสีย แต่เมื่อสายตาเหลือบแลไปทางด้านซ้ายของตนเล็กน้อย หางตาของเขาก็ได้ปะทะเข้ากับมนุษย์อีกคน ที่ดูจะตกอยู่ใสภาพเดียวกับเขาไม่ผิดเพี้ยน
...มนุษย์ที่นอนสลบอยู่ข้าง ๆ เขา....
...สภาพร่างกายเปียกชุ่มเหมือนกับเขา...
...สวมชูชีพสีส้มสว่างตาเหมือนกันเสียด้วย...
...แตกต่างกันก็เพียงตรงที่ เธอเป็นผู้หญิง !...
ชายหนุ่มรีบเขยิบตัวเข้าไปใกล้ร่างบอบบางที่นอนคว่ำอยู่ระยะเอื้อมมือถึง ไล่สายตาจากเส้นเชือกที่รัดข้อมือไปเรื่อย ๆ ด้วยหวังจะพบปลายอีกข้างของมัน แต่ก็ทำไม่ได้ เพราะเชือกเส้นนี้ ถูกหญิงสาวผู้นั้นนอนทับไว้ เขาจึงตัดสินใจพลิกร่างอ้อนแอ้นให้หงายขึ้นด้วยท่าทางทุลักทุเลเล็กน้อย ด้วยสภาพร่างกายที่ปวกเปียกเต็มที ประกอบกับการมีเชือกเส้นหนึ่งรัดข้อมือไว้ทำให้ไม่ถนัดนัก เมื่อจัดที่จัดทางและเพ่งพินิศมองร่างนั้นชัด ๆ เขาถึงเพิ่งรู้
...ปลายเชือกอีกด้าน ถูกรัดไว้ที่ข้อมือบอบบางของหญิงสาวด้วยลักษณะเงื่อนที่คล้ายกัน สรุปว่า เขากับเธอ ถูกผูกติดกันไว้ด้วยเชือกเส้นหนึ่ง แต่ปัญหาคือ
...ใครเป็นคนผูก แล้วผูกมันไว้ทำไมกัน !
ยิ่งคิดชายหนุ่มก็ยิ่งปวดหัว ราวกับสมองจะระเบิดออกเป็นเสี่ยง ๆ สุดท้ายจึงต้องยอมจำนนหยุดคิดไปเอง เขาก้มลงเขย่าร่างบอบบางเบา ๆ
“คุณ” เปล่งเสียงออกมาเป็นครั้งแรกหลังจากที่ฟื้นขึ้นมาก็ต้องพบว่า ลำคอของตนแห้งผากจนแทบเป็นผุยผงเลยทีเดียว
“คุณ” เรียกอีกครั้งเมื่ออีกฝ่ายยังคงไม่ตอบสนอง
...หรือจะตายแล้วก็ไม่รู้
“คุณ เป็นอะไรรึเปล่า” คราวนี้ใบหน้าคมเผือดลงเล็กน้อย เมื่อหญิงสาวนิรนามยังคงไม่ยอมลุกขึ้นมาตามเสียงเรียกของเขา
เขาก้มลงเอาหูแนบตรงบริเวณหน้าอกด้านซ้าย พอได้ยินเสียงตุบ ๆ เบา ๆ พอให้คลายความกังวลไปได้บ้าง ครั้นเห็นว่าเธอคงไม่ฟื้นแน่ ๆ ชายหนุ่มจึงตัดสินใจช้อนร่างของเพื่อนร่วมชะตากรรมออกห่างจากทะเลอีกนิด โชคดีที่บริเวณนั้นมีร่มไม้ร่มรื่นที่พอจะช่วยบังแสงแดดที่เริ่มจะแรงกล้าขึ้นเรื่อย ๆ
“โอ๊ย” เขาส่งเสียงโอดโอยเบา ๆ เมื่อทิ้งตัวลงนั่งข้างร่างบอบบางที่เขาวางลงใกล้ ๆ โคนต้นไม้ เพราะรู้สึกปวดร้าวที่แผ่นหลังขึ้นมาอีกครั้ง
ชายหนุ่มสบถอย่างเสียมิได้ด้วยความหงุดหงิดใจกับอาการเจ็บแปลบที่ตนไม่รู้สาเหตุ พลางหันไปเขย่าร่างแน่นิ่งข้าง ๆ อีกทีด้วยความหวังว่าเธออาจจะช่วยตอบข้อสงสัยที่มีอยู่เต็มหัวของเขาได้บ้าง
“คุณ
คุณ ตื่นเถอะ” เมื่อพยายามทุกอย่างก็ยังคงไร้ผล อีกทั้งน้ำลายเหนียวหนืดที่แทบจะไม่มีกลืนลงไปหล่อเลี้ยงเพิ่มความชุ่มฉ่ำให้ลำคอ ก็ทำให้เขาตัดสินใจหยุดร้องเรียกเธอไปเอง ก่อนจะค่อย ๆ ถอดชูชีพบนตัวเขาและเธอออกเพื่อความสบายตัว พยายามจะแกะเชือกเส้นเหนียวที่ผูกตัวเขากับเธอไว้ติดกันออก แต่ด้วยมือข้างเดียวก็ไม่สามารถทำได้สำเร็จ โชคดีที่ความยาวของเชือกยังเหลือพอที่เขาจะเขยิบทิ้งระยะออกมาจากตัวเธอเกือบคืบ เพื่อหาที่พิงหลังและนั่งรอเงียบ ๆ ด้วยความอดทน
เขาใช้เวลานั้นสำรวจหญิงสาวนิรนามด้วยความสนใจ เขาไม่รู้จักเธอ ไม่รู้ว่าเธอเป็นใคร ไม่รู้ว่าเธอมาจากไหน .....ไม่รู้อะไรเลยทั้งนั้น !
ความคิดเห็น