ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    หนึ่งรักปักใจ

    ลำดับตอนที่ #1 : ตอนที่ 1++มืดแปดด้าน++

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 4.05K
      42
      4 ธ.ค. 51

    3 ธันวาคม 2551.....

    เรื่อง หนึ่งรักปักใจ

    โดย

    ...ธุวดารา

     

                ผืนน้ำสีมรกตใสราวกระจกบานใหญ่ที่กว้างไกลสุดลูกหูลุกตา ค่อย ๆ ม้วนตัวเป็นเกลียวคลื่นน้อยใหญ่ ซัดเข้าหาเวิ้งชายหาดเล็ก ๆ ซึ่งโรยรายไปด้วยเม็ดทรายขาวละเอียดราวครีมเทียมที่ริมฝั่งเป็นระลอก  คลื่นจากท้องทะเลล้ำลึกลูกแล้วลูกเล่า เคลื่อนตัวเข้ากระทบสองร่างสิ่งมีชีวิตที่นอนแน่นิ่งสนิทอยู่บนผืนทราย แล้วจึงแตกออกเป็นฟองขาวพราวพร่างดังปุยฝ้ายอ่อนนุ่มกระจัดกระจายตามแนวชายฝั่ง

                หนึ่งในสองของร่างซึ่งนอนสลบอยู่ตรงชายหาดเริ่มขยับตัวเล็กน้อย สิ่งแรกที่รับรู้คืออาการเจ็บแปลบบริเวณด้านหลัง ราวกับกระดูกไขสันหลังของตนกำลังจะแตกร้าวออกเป็นเสี่ยง ๆ เสียให้ได้ จากนั้นจึงเริ่มได้ยินเสียงคลื่นกระทบเข้าหาฝั่งเป็นจังหวะสม่ำเสมอ

    เขาสะบัดศีรษะไปมาเพื่อขับไล่ความมึนงง แล้วจึงพลิกตัวหงายขึ้น รู้สึกเหมือนมีอะไรมารั้งแขนของตัวเองไว้นิด ๆ ตอนที่ขยับตัว แต่ก็ไม่ทันได้สนใจ ดวงตาคมสองชั้นสีดำสนิทที่ลึกล้ำราวกับห้วงสมุทรตรงหน้ากะพริบอยู่สองสามที เพื่อปรับภาพพร่าเลือนของท้องฟ้าผืนใหญ่เบื้องบน ประจวบกับจังหวะที่น้ำทะเลรสชาติราวเกลือสมุทรซัดเข้าปะทะกับใบหน้าคมเข้มเข้าเต็มเปา ทำให้เจ้าตัวสำลักหน้าดำหน้าแดงเพราะไม่ทันตั้งตัว

    และในจังหวะที่ชายหนุ่มกำลังจะยกมือขึ้นทุบแผงอกแข็งแกร่งของตนโดยหวังจะไล่ของเหลวรสเค็มจัดที่สร้างความแสบเคืองไปทั่วลำคอและทำให้สำลักจนรู้สึกคับแน่นที่หน้าอกไปหมด เขาก็ต้องชะงักกึก เมื่อไม่สามารถขยับท่อนแขนของตนได้ตามใจปรารถนา

    ชายหนุ่มยกแขนข้างซ้ายขึ้นดูจึงพบว่า มีเชือกเส้นหนึ่งผูกรัดตรงตำแหน่งรอบข้อมือแข็งของเขาไว้ด้วยความแน่นหนา คิ้วเข้มขมวดมุ่นด้วยความแปลกใจ พร้อมกับอาการเจ็บจี๊ดซึ่งแล่นเข้าโจมตีที่ศีรษะโดยฉับพลัน เขาจึงต้องยกมือที่ว่างอีกข้างขึ้นกุมที่ขมับอย่างต้องการยับยั้งอาการปวดรุนแรงนี้ให้หมดไป ก่อนที่มันจะทรมานเขาจนต้องตายกลายเป็นผีเฝ้าทะเลไปเสียก่อน

                เมื่อเริ่มคลายจากความเจ็บปวดลงบ้าง ชายหนุ่มจึงเริ่มหันมาสำรวจตัวเองอีกครั้ง ด้วยจักษุประสาทที่สามารถรับรู้ภาพต่าง ๆ ได้ชัดเจนมากขึ้น เขาชันตัวขึ้นในลักษณะกึ่งนั่งกึ่งนอน ไม่สนใจเกลียวคลื่นที่ทยอยซัดเข้ามาจนถึงครึ่งค่อนตัว เพราะถึงอย่างไรสภาพของเขาก็เปียกจนเกินกว่าจะมาพะวงเรื่องนี้แล้ว

                เขาหมายจะใช้มือที่ว่างอีกข้างกระตุกเชือกที่รัดข้อมือสร้างความรำคาญออกเสีย แต่เมื่อสายตาเหลือบแลไปทางด้านซ้ายของตนเล็กน้อย หางตาของเขาก็ได้ปะทะเข้ากับมนุษย์อีกคน ที่ดูจะตกอยู่ใสภาพเดียวกับเขาไม่ผิดเพี้ยน

                ...มนุษย์ที่นอนสลบอยู่ข้าง ๆ เขา....

                ...สภาพร่างกายเปียกชุ่มเหมือนกับเขา...

            ...สวมชูชีพสีส้มสว่างตาเหมือนกันเสียด้วย...

                ...แตกต่างกันก็เพียงตรงที่ เธอเป็นผู้หญิง !...

            ชายหนุ่มรีบเขยิบตัวเข้าไปใกล้ร่างบอบบางที่นอนคว่ำอยู่ระยะเอื้อมมือถึง ไล่สายตาจากเส้นเชือกที่รัดข้อมือไปเรื่อย ๆ ด้วยหวังจะพบปลายอีกข้างของมัน แต่ก็ทำไม่ได้ เพราะเชือกเส้นนี้ ถูกหญิงสาวผู้นั้นนอนทับไว้ เขาจึงตัดสินใจพลิกร่างอ้อนแอ้นให้หงายขึ้นด้วยท่าทางทุลักทุเลเล็กน้อย ด้วยสภาพร่างกายที่ปวกเปียกเต็มที ประกอบกับการมีเชือกเส้นหนึ่งรัดข้อมือไว้ทำให้ไม่ถนัดนัก เมื่อจัดที่จัดทางและเพ่งพินิศมองร่างนั้นชัด ๆ เขาถึงเพิ่งรู้

                ...ปลายเชือกอีกด้าน ถูกรัดไว้ที่ข้อมือบอบบางของหญิงสาวด้วยลักษณะเงื่อนที่คล้ายกัน สรุปว่า เขากับเธอ ถูกผูกติดกันไว้ด้วยเชือกเส้นหนึ่ง แต่ปัญหาคือ

                ...ใครเป็นคนผูก แล้วผูกมันไว้ทำไมกัน !

            ยิ่งคิดชายหนุ่มก็ยิ่งปวดหัว ราวกับสมองจะระเบิดออกเป็นเสี่ยง ๆ สุดท้ายจึงต้องยอมจำนนหยุดคิดไปเอง เขาก้มลงเขย่าร่างบอบบางเบา ๆ

                คุณเปล่งเสียงออกมาเป็นครั้งแรกหลังจากที่ฟื้นขึ้นมาก็ต้องพบว่า ลำคอของตนแห้งผากจนแทบเป็นผุยผงเลยทีเดียว

                คุณเรียกอีกครั้งเมื่ออีกฝ่ายยังคงไม่ตอบสนอง

                ...หรือจะตายแล้วก็ไม่รู้

                คุณ เป็นอะไรรึเปล่าคราวนี้ใบหน้าคมเผือดลงเล็กน้อย เมื่อหญิงสาวนิรนามยังคงไม่ยอมลุกขึ้นมาตามเสียงเรียกของเขา

                เขาก้มลงเอาหูแนบตรงบริเวณหน้าอกด้านซ้าย พอได้ยินเสียงตุบ ๆ เบา ๆ พอให้คลายความกังวลไปได้บ้าง ครั้นเห็นว่าเธอคงไม่ฟื้นแน่ ๆ ชายหนุ่มจึงตัดสินใจช้อนร่างของเพื่อนร่วมชะตากรรมออกห่างจากทะเลอีกนิด โชคดีที่บริเวณนั้นมีร่มไม้ร่มรื่นที่พอจะช่วยบังแสงแดดที่เริ่มจะแรงกล้าขึ้นเรื่อย ๆ

                โอ๊ยเขาส่งเสียงโอดโอยเบา ๆ เมื่อทิ้งตัวลงนั่งข้างร่างบอบบางที่เขาวางลงใกล้ ๆ โคนต้นไม้ เพราะรู้สึกปวดร้าวที่แผ่นหลังขึ้นมาอีกครั้ง

            ชายหนุ่มสบถอย่างเสียมิได้ด้วยความหงุดหงิดใจกับอาการเจ็บแปลบที่ตนไม่รู้สาเหตุ พลางหันไปเขย่าร่างแน่นิ่งข้าง ๆ อีกทีด้วยความหวังว่าเธออาจจะช่วยตอบข้อสงสัยที่มีอยู่เต็มหัวของเขาได้บ้าง

                คุณคุณ ตื่นเถอะ เมื่อพยายามทุกอย่างก็ยังคงไร้ผล อีกทั้งน้ำลายเหนียวหนืดที่แทบจะไม่มีกลืนลงไปหล่อเลี้ยงเพิ่มความชุ่มฉ่ำให้ลำคอ ก็ทำให้เขาตัดสินใจหยุดร้องเรียกเธอไปเอง ก่อนจะค่อย ๆ ถอดชูชีพบนตัวเขาและเธอออกเพื่อความสบายตัว พยายามจะแกะเชือกเส้นเหนียวที่ผูกตัวเขากับเธอไว้ติดกันออก แต่ด้วยมือข้างเดียวก็ไม่สามารถทำได้สำเร็จ โชคดีที่ความยาวของเชือกยังเหลือพอที่เขาจะเขยิบทิ้งระยะออกมาจากตัวเธอเกือบคืบ เพื่อหาที่พิงหลังและนั่งรอเงียบ ๆ ด้วยความอดทน

                เขาใช้เวลานั้นสำรวจหญิงสาวนิรนามด้วยความสนใจ เขาไม่รู้จักเธอ ไม่รู้ว่าเธอเป็นใคร ไม่รู้ว่าเธอมาจากไหน .....ไม่รู้อะไรเลยทั้งนั้น !

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×