คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : ตอนที่ 2 : สมาชิกแก๊งแมงมุมลาย?
ตอนที่ 2 : สมาชิกแก๊งแมงมุมลาย?
“โอ้ยยย...เจ็บคร้าบบบ!” เสียงร้องของชายหนุ่มดังลั่นเมื่อผู้อาวุโสกดไม้สำลีชุบเบตาดีนลงบนบาดแผลถลอกที่มีเลือดออกซิบๆอย่างแรง
“จะได้ฆ่าเชื้อโรคไง”
“จะฆ่าผมน่ะสิครับ...คุณพ่อจี” เคบ่นอุบพลางรีบยกแขนขึ้นมาแล้วเป่าลมจากปากใส่เพื่อบรรเทาอาการ
“คราวหน้าก็อย่าไปเล่นอะไรแผลงๆให้เจ็บเนื้อเจ็บตัวอีกสิ เดี๋ยวแม่เฟิร์นเป็นห่วงเอานะ” ชายสูงวัยเอ่ยบอกอย่างเป็นห่วงเป็นใย แม้ไม่ใช่ลูกแท้ๆแต่ก็เป็นลูกชายของเพื่อนสนิท ซ้ำยังเป็นหลานชายของภรรยาตัวเองซึ่งเขาก็เลี้ยงดูมาแต่อ้อนแต่ออกจนรักเท่ากับลูกแท้ๆ
“งั้นผมขอกลับบ้านก่อน...ขอบคุณมากครับพ่อจี” เคยกมือไหว้ชายตรงหน้า พลางยักไหล่ให้เพื่อนชายที่ยืนมองอยู่ห่างๆก่อนเดินออกไปจากห้อง ทำให้เจหมุนตัวทำท่าจะเดินตามแต่โดนเรียกไว้เสียก่อน
“ไอ้ตัวแสบมานี่ๆ”
ซาตานหนุ่มแทบหยุดชะงักไว้ไม่ทัน พลางหันไปทำหน้าเหรอหราใส่พ่อตัวเอง
“ผมเหรอ?”
“เออ...ไม่ใช่แกแล้วจะใคร หนอย...ฉันกลับจากรักษาคนไข้ที่โรงพยาบาลยังต้องมารักษาคนไข้ที่บ้านอีก!” คำพูดนั้นทำให้จีหัวเราะเบาๆ
“แหม...แค่ทำงานนอกเวลานิดหน่อยไม่ทำให้คุณหมอศัลยกรรมชื่อดังแห่งโรงพยาบาลไซเรนเทรียขาดทุนหรอกครับ...เอ่อ...แล้วมีอะไรเหรอครับ?”
“เสียไปเท่าไรล่ะ?” คำถามนั้นทำเอาเจสะดุ้ง พลางหลบสายตาพ่อตัวเองที่จ้องมองอย่างรู้ทัน
“สะ...เสียอะไรครับ?”
“ค่าพนันแข่งรถไง”
เฮือกกก...เจแทบหยุดหายใจ
อะไรกัน!!!...เขาอุตส่าห์ปิดเรื่องพวกนี้ไว้เป็นความลับ ทำไมคนในครอบครัวถึงรู้ได้?
“คุณพ่อรู้?”
“เออ...แกคิดว่าฉันเป็นใครแล้วแกเป็นใครล่ะ แค่มองแววตาท่าทางพวกแกฉันก็เห็นไปถึงไส้ติ่งแล้ว!”
“แต่ผมเพิ่งผ่าตัดไส้ติ่งทิ้งไปเมื่อปีก่อนนะครับ”
โป้กก!!!
มะเหงกน้อยคอยรักฟาดลงบนกลางศีรษะลูกชายหัวแก้วหัวแหวนทันที โทษฐานกวนส้น....ไม่รู้เวล่ำเวลา
“อย่ามาเฉไฉ...แกกับเคไปตั้งตนเป็นหัวหน้าแก๊ง DeviL-DragoN ทำไมฉันจะไม่รู้”
นั่นสินะ...พ่อเขากับพ่อเคก็เป็นหัวหน้าแก๊งรุ่นก่อน แม้รามือไปนานแล้วแต่ยังคงมีอำนาจและอิทธิพล ไม่แปลกที่จะมีใครมารายงานความเป็นไปให้ฟัง
“คุณพ่อจะบอกพวกคุณแม่มั้ย?” เจถามอย่างหวั่นเกรงผู้เป็นมารดา แม่เขามักอ่อนหวานยามปกติแต่ถ้าโมโหขึ้นมาระเบิดปรมาณูยังยอมแพ้ แม่เฟิร์นยิ่งแล้วใหญ่ตั้งแต่พ่อคิวเสียไปก็ห่วงหวงเคราวกับไข่ในหิน
“บอกทำไม...( ก็พวกแกทำให้แก๊งพวกฉันฟื้นคืนชีพขึ้นมา < คิดในใจแต่ไม่อยากบอก...หุหุ ) ในเมื่อพวกแกโตๆกันแล้วก็น่าจะคิดและรับผิดชอบกับสิ่งที่ตัวเองทำได้ แต่อย่าให้มันเสี่ยงตายหรือท้าทายมากไปละกัน ( เดี๋ยวข่มแก๊งเก่าพวกตูหมด ) เดี๋ยวพวกแม่ๆเขาเป็นห่วง”
เจไม่ตอบอะไร แต่ซาบซึ้งและรับรู้ได้ว่าบุพการีเป็นห่วง ซ้ำยังเข้าใจเขามากเช่นเดียวกับที่เข้าใจเคไม่แปลกที่เพื่อนชายจะรักและเทิดทูนพ่อเขา เช่นเดียวกับเขาที่รักและเทิดทูนพ่อเค
“เอานี่ไป!”
ซองกระดาษสีน้ำตาลถูกยื่นส่งให้เจที่ขมวดคิ้วพลางถามอย่างงุนงง
“อะไรครับ?”
“เปิดดูสิ”
เขารีบเปิดซองสีน้ำตาลดูอย่างเร็ว ก็พบว่าเป็น...ธนบัตรจำนวนสามแสนบาท
“เอ๊ะ?”
“ค่าพนันที่เสีย กับ ค่ารถเค เอาไปซื้อใหม่ซะนะ”
“คุณพ่อรู้เหรอครับ?”
“รู้สิ...ถามเหมือนฉันโง่เรื่องพวกนี้ เคซ้อนท้ายแกกลับบ้านทั้งที่ตัวเองก็มีรถ แถมแผลถลอกยาวแบบนั้นคงไม่ได้หกล้มเองนอกจากสีกับพื้นเพราะรถล้ม ตบตาหมอศัลยกรรมอย่างฉันไม่ได้หร้อกกก!!!”
“ไม่ใช่คุณพ่อเคยขี่รถล้มแพ้คุณพ่อคิวบ่อยๆเหรอครับถึงได้รู้ ฮ่าๆๆ” คำพูดนั้นทำเอาผู้อาวุโสคิ้วขมวดมุ่นทันที
“เอาคืนมาเลย ( เกลียดนักคนรู้ทัน )”
“ขอบคุณมากครับ!” เจรีบขอบคุณเปลี่ยนเรื่อง พลางตรงเข้าไปกอดพ่อตัวเองอย่างประจบประแจง
“ไม่เป็นไร...ร้อยละสามสิบ!”
จบกัน!!!
เมื่อเคกลับเข้าบ้านไปไม่ถึงสิบนาที แม่เฟิร์นก็รีบมาถามไถ่ที่บ้านเจว่าลูกชายของตนไปโดนอะไรมา ซึ่งประมุขของบ้านพรวิเศษอ้างว่าเคไปลื่นล้มตกบันไดทำให้มีแผลถลอกยาว แน่นอนว่าด้วยดีกรีของคุณหมอทำให้หล่อนเชื่อโดยง่ายไม่ซักไซ้ไล่เลียงอะไรอีก
“แผลนายใกล้หายแล้วนี่” เจเอ่ยทักเมื่อเห็นแผลบนแขนเพื่อนชายตกสะเก็ดบ้างแล้วขณะขี่มอเตอร์ไซค์ไปโรงเรียนในเช้าวันจันทร์
“อืม...แต่คุณพ่อจีนี่สุดยอดไปเลยนะ ขนาดพวกเราปิดบังแทบตายยังรู้เลยว่าแอบไปทำอะไรกันมา แถมยังให้เงินฉันซื้อมอเตอร์ไซค์ใหม่ด้วย” เคพูดพลางเหลือบมองหน้าปัดที่วาววับใหม่เอี่ยมอย่างปลื้มใจไม่น้อย
มอเตอร์ไซค์สี่สูบรุ่นเดิม สีเดิม ราคาเหยียบสองแสนกว่าบาท
“แน่นอน...ก็คุณพ่อพวกเราเป็นไอดอลนี่ ทั้งรวย ทั้งเก่ง แค่นี้ขนหน้าแข้งไม่ร่วงหรอก ( แต่เก็บฉันร้อยละสามสิบว่ะ TT^TT )” เจตอบพลางเร่งเครื่องนำขึ้นไป แต่เคไม่ยอมแพ้
“เครื่องแรงแบบนี้แข่งกันหน่อย ใครถึงโรงเรียนก่อนชนะ!!!” เทพบุตรหนุ่มตะโกนแข่งลมพลางเลื่อนหน้ากากกระจกปิดลงมาพลางบิดเร่งนำขึ้นไป
“ได้เลย” เจพึมพำเบาๆพลางเร่งเครื่องตาม ในตอนนั้นเองเขาก็คิดอะไรขึ้นมาได้เลยเลี้ยวเข้าซอยข้างๆซึ่งสามารถลัดออกสู่ถนนใหญ่ซึ่งตัดผ่านหน้าโรงเรียนพอดี
อย่างน้อย...ก็ไม่ได้บอกว่าห้ามใช้ทางลัด! เจหัวเราะในใจ หวังเห็นเพื่อนสนิททำสีหน้าตกตะลึงที่เขาไปถึงก่อน ทว่า...หลังจากที่เลี้ยวลัดเลาะจนถึงปากซอยเพื่อออกสู่ถนนใหญ่สายตาก็เหลือบไปพบใครบางคน และจะไม่ใส่ใจเลยสักนิดถ้าหญิงสาวที่ยืนอยู่กับผู้ชายคนหนึ่งคุ้นหน้าคุ้นตาชอบกล
เจพยายามเพ่งมองสักพักก็พบว่า เธอคือ...ผู้หญิงคนที่ทำให้เครถล้มนั่นเอง!!!
“นี่นายเลิกตอแยฉันสักทีได้มั้ยเนี่ย!” เธอร้องโวยวายพลางสะบัดมือให้หลุดจากชายผมสกินเฮดคนหนึ่งที่ประกบข้างตลอดเวลา
“ได้ไงล่ะ...เธอสัญญาว่าจะไปพบลูกพี่ฉันไม่ใช่เหรอ?” เขาเอ่ยด้วยน้ำเสียงไม่พอใจพลางเดินตามไปอย่างไม่ยอมลดละ รอยสักบนหัวไหล่ด้านซ้ายของชายคนนั้นทำให้เจอดสะดุดใจไม่ได้...นี่มันสัญลักษณ์แก๊งแมงมุมลาย!
“แล้วไงล่ะ...ฉันต้องไปโรงเรียนนี่ ลูกพี่นายไม่มีเรียนหรือไงถึงได้ว่างจัดแบบนี้!”
เธอสะบัดหน้าเชิ่ดใส่ราวกับไม่เกรงกลัวอิทธิพลของแก๊งอันธพาลที่รองลงมาจาก DeviL-DragoN เลยแม้แต่น้อย
ยัยนี่เป็นพวกของแก๊งแมงมุมลายจริงๆด้วย!
“ไม่รู้ล่ะ...ยังไงฉันก็จะพาเธอไปส่งลูกพี่ให้ได้!” ชายคนนั้นโวยวายพลางดึงมือเธอไปยังรถเก๋งคันหนึ่งที่จอดเทียบฟุตบาท
“ปล่อยนะ!!!”
เธอสะบัดมือออกจนอีกฝ่ายต้องกระชากอย่างแรงจนร่างบางปลิวตาม นั่นทำให้เจหงุดหงิดใจร้องห้ามทันที
“เฮ้ย...แกน่ะ!"
แม้เธอจะเป็นพวกแก๊งคู่อริ แต่เขาไม่มีวันอยู่เฉยแน่ถ้าเห็นผู้หญิงโดนรังแกต่อหน้าต่อตาแบบนี้
“แกเป็นใครวะ...อย่ามายุ่ง!” ชายคนนั้นตะโกนตอบกลับมา ทำให้เจขยับตัวลงจากมอเตอร์ไซค์หมายจะไปเอาเรื่องพลางถอดหมวกกันน็อกออก
“เจ DeviL-DragoN!!!...ฝากไว้ก่อนเถอะ หลังเลิกเรียนฉันจะพาเธอไปพบลูกพี่ให้ได้!” มันตะโกนก่อนปล่อยมือผู้หญิงคนนั้นแล้วตาลีตาเหลือกวิ่งขึ้นรถตัวเองขับออกไปทันที
อะไรวะ...ยังไม่ได้ออกแรงเลย! เจสบถพึมพำในใจ พลางหันไปมองผู้หญิงคนนั้น
“นี่เธอน่ะ...” เขาเอ่ยเรียก
“เอ๊ะ...ฉันเหรอ?”
เธอชี้ที่ตัวเองด้วยสีหน้าเหรอหรานิดหน่อย
“ก็เธอน่ะสิ...เมื่อไรจะเลิกสร้างเรื่องวุ่นวายสักทีห๊ะ!” เขาต่อว่า นั่นทำให้หญิงสาวชักสีหน้าเล็กน้อย
“ฉันไปสร้างเรื่องอะไรให้นายตอนไหน!”
“อะไร...จำวีรกรรมที่ตัวเองสร้างไว้เมื่อวันเสาร์ไม่ได้แล้วเหรอ เพราะเธอดันทะเล่อทะล่าข้ามถนนตอนเพื่อนฉันแข่งมอเตอร์ไซค์มันถึงต้องเจ็บตัวเพราะรถล้ม!”
หญิงสาวชักสีหน้างุนงงชั่วครู่ก่อนจะตบมือฉาดใหญ่เหมือนเพิ่งนึกออก
“ออ...นายนั่นเอง!!!”
“จำได้แล้วสินะ“
“อืม...แล้วไงล่ะ ใครใช้ให้เพื่อนนายมาแข่งมอเตอร์ไซค์บนท้องถนน สมน้ำหน้า!!!”
เธอเชิ่ดหน้าราวกับไม่สนใจว่าตัวเองก็มีส่วนผิดทำให้เจเฮิร์ทมาก
“เธอนี่มัน!!!”
เขาปรี่เข้าไปหาแต่ต้องชะงักยั้งเอาไว้เมื่อหญิงสาวทำหน้าตาลอยชายแล้วยั่วยิ้มแพรวพราว
“จะทำอะไรฉันล่ะ เมื่อสักครู่เพิ่งทำตัวเป็นเทพบุตรช่วยผู้หญิง โอ้ย...ฉันต้องขอบคุณจริงๆเพราะแค่ไม่กี่นาทีหลังจากนั้นก็กลายเป็นซาตานจะลงไม้ลงมือกับผู้หญิงซะแล้ว เอาสิ...จะทำอะไรฉันล่ะ ตบ หรือ ต่อย มาๆ...!!!”
หล่อนยื่นหน้าเข้ามาหาเจอย่างไม่เกรงกลัวมันทำให้ชายหนุ่มกัดฟันกรอดเพราะต้องสะกดกลั้นอารมณ์โกรธจนถึงที่สุด...
“ฮึ่ยยยย...ช่างเถอะ!!!”
เจหันหลังกลับอย่างหัวฟัดหัวเหวี่ยง...เขาคงผิดเองที่แส่ช่วยยัยนี่ถึงสองครั้งสองครา ทั้งช่วยพูดกับเคให้ใจเย็นไม่เอาเรื่องเมื่อวันเสาร์ และ เมื่อสักครู่นี้ ซาตานหนุ่มหยิบหมวกกันน็อกขึ้นมาสวมพลางลงไปนั่งยังมอเตอร์ไซค์ ทันใดนั้นเอง...เธอคนนั้นก็ตรงเข้ามาซ้อนท้ายเขาหน้าตาเฉย
“เฮ้ย...ทำอะไรของเธอน่ะ?” เจโวยวายทันที
“เอ้า...ก็นายต้องไปส่งฉันไง”
“ห๊ะ!!! ทำไมฉันต้องไปส่งเธอด้วยล่ะ บ้าหรือเปล่า?” เขาถามกลับไป
“รถเมล์ออกไปแล้วเห็นมั้ย ถ้าขืนรอคันหน้าฉันต้องไปโรงเรียนสายแน่ๆ”
เธอชี้รถโดยสารประจำทางสีแดงครีมที่วิ่งตุเลงๆอยู่ไกลลิบ
“ก็เรื่องของเธอสิ!” เจตอบอย่างไม่ใส่ใจ
“อะไรกัน...ไหนๆนายจะช่วยฉันทั้งทีก็ให้มันถึงที่สุดได้มั้ย ยังไงนายก็ต้องรับผิดชอบที่ทำให้ฉันเสียเวลา หรือว่าเมื่อสักครู่แค่ทำดีเอาหน้าล่ะ ก็ดี...ฉันจะได้ประกาศให้ทุกคนรับรู้ นี่ๆๆ...ทุกคน อีตานี่อะนะ...”
หมับบบ!!!
เจเอามือปิดปากเธอทันทีเมื่อสายตาหลายคู่ของคนที่กำลังยืนอยู่ตรงป้ายรถหันมาเพ่งมองอย่างสนใจ
“เออๆ...ก็ได้ๆ อยู่โรงเรียนอะไรล่ะ?” เขาถามกลับไปอย่างเซ็งๆ
เอาเถอะ...ถือว่าวันนี้เป็นวันซวย!
“โรงเรียนสตรีนารีวิทยา”
ทันทีที่หญิงสาวพูดจบเจก็บิดมอเตอร์ไซค์ออกไปอย่างเร็ว เล่นเอาคนซ้อนท้ายแทบหงายหลังรีบคว้าเอวเขาไว้แน่น
“นี่นาย...ขี่ให้มันดีๆหน่อยสิ!” เธอโวยวายเสียงดังไล่หลังแข่งกับลม
“ไปส่งให้ก็บุญแล้ว ถ้าเธอยังไม่หยุดพูดมากฉันจะสะบัดให้ตกลงไปตอนนี้เลย!” เขาเอ่ยเสียงเข้มเพื่อบ่งบอกให้รู้ว่าไม่ได้ขู่
ให้ตายเถอะ...ผู้หญิงบ้าอะไรหน้าด้านหน้าทนจริงๆ แบบนี้ไงถึงได้เกลียดชะมัด น่ารำคาญ!
เพียงไม่นานนักมอเตอร์ไซค์คันใหญ่ก็ค่อยๆจอดเลียบหน้าโรงเรียนหญิงล้วนที่เต็มไปด้วยสาวๆมากมายหันมามองอย่างสนใจ ถ้าเป็นผู้ชายคนอื่นคงรู้สึกเปรมปรีที่ได้อยู่ท่ามกลางหมู่มวลดอกไม้ แต่สำหรับเจเขารู้สึกเหมือนอยู่ท่ามกลางรังมดคันไฟมากกว่า
“รีบๆลงไปซะ!” เจสั่งหญิงสาวที่กระโดดลงจากเบาะหลัง
“ขอบใจนะ คุณซาตาน”
รอยยิ้มหวานที่เธอส่งให้ทำเอาเจชะงักนิดหน่อย...รู้สึกหัวใจเต้นแรงขึ้นมาอย่างหาสาเหตุไม่ได้จนต้องมองตามร่างเพรียวบางที่เดินไปร่วมกลุ่มเพื่อนๆ
“จินนี่...นั่นใครน่ะ?”
“ว้าย...ผู้ชายคนนั้นเป็นใครน่ะจินนี่ ท่าทางเท่ชะมัด!”
เพื่อนสาวหลายคนแห่มาห้อมล้อมเธอเอาไว้ ทำให้เจได้สติรีบบิดมอเตอร์ไซค์ออกจากบริเวณนั้นทันที และกว่าเขาจะฝ่ารถติดรวมถึงไฟแดงหลายแยกไปได้ก็แทบทะเลาะกับตำรวจจราจรทั้งโรงพัก
“แปดโมงสิบนาที!” เจพึมพำเมื่อมองหน้าปัดนาฬิกาข้อมือเรือนหรู
นับว่าเป็นการสายครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของซาตานหนุ่ม จึงไม่แปลกที่นักเรียนทั้งโรงเรียนซึ่งกำลังเข้าแถวอยู่หันมามองเขาเป็นทางเดียว
“นายราชันย์ พรวิเศษ หยุดตรงนั้นเลย...เป็นประธานนักเรียนเสียเปล่า ทำไมถึงมาสายแบบนี่!!!” เสียงเคซึ่งเป็นรองประธานนักเรียนทำหน้าที่พูดหน้าเสาธงแทนเขาตวาดผ่านไมค์ทะลุทะลวงออกลำโพงจนดังกึกก้องไปทั่ว เจที่กำลังเดินย่องเข็นมอเตอร์ไซค์เข้ามาในโรงเรียนถึงกับหยุดชะงัก
“เฮ้ออออ...” เจถอนหายใจเสียงดัง ทำให้สาวๆหลายคนแอบหัวเราะคิกคัก
“สก็อตจัมป์ยี่สิบทีเพื่อไม่ให้คนอื่นเอาเป็นแบบอย่าง!”
ซาตานหนุ่มถลึงตาใส่เพื่อนชายบนเวทีทันที
“จะบ้าเหร้อ!” เขาโวยวายเสียงดัง
“หรือจะเปลี่ยนเป็นปั่นจิ้งหรีด!” เคยื่นคำขาดด้วยสีหน้าเรียบเฉยดูดุดัน แต่อดยิ้มที่มุมปากไม่ได้
“เออๆๆๆ...” เจตะโกนตอบพลางเริ่มลงมือสก็อตจัมป์ ในใจก็อดแค้นยัยผู้หญิงคนนั้นไม่ได้ เพราะเธอทำให้เขามาสายจนต้องถูกลงโทษต่อหน้านักเรียนทุกคน!
วันนี้คงเป็นวันซวยของเขาจริงๆ...เจปลดปลงกับชะตากรรมในวันนี้
“แกนี่น๊า...แข่งรถอยู่ดีๆไหงถึงเถลไถลมาสายขนาดนี้วะ!”
เคเดินเข้ามาโอบไหล่เจที่เดินหน่ายๆอยู่ตรงระเบียงอาคารอย่างเป็นกันเอง นัยน์ตาเฉี่ยวเหล่มองนัยน์ตากลมโตของเพื่อนสนิทแล้วเอ่ยว่า
“แกนี่น๊า...เป็นเพื่อนกันซะเปล่า อนุโลมให้ฉันหน่อยก็ไม่ได้”
“ฮ่าๆๆ...ฉันก็อยากทำเป็นไม่เห็นอยู่หรอกถ้าแกไม่สะเหร่อเข้าประตูหน้าโรงเรียน แหม...จะแอบๆหน่อยก็ไม่ได้!”
“เออ...ฉันลืมคิดไป พอดีเซ็งๆนิดหน่อย” คำตอบของเพื่อนชายทำให้เทพบุตรหนุ่มขมวดคิ้วแล้วเอ่ยถามอย่างเป็นห่วง
“เกิดอะไรขึ้นเหรอ?”
เจถอนหายใจอีกครั้งก่อนเล่าเรื่องราวทั้งหมดที่ได้เจอเมื่อเช้าให้เพื่อนสนิทฟัง และดูเหมือนว่าเคจะไม่พอใจเป็นอย่างมาก
“ยัยนั่นทำไมหน้าด้านแบบนี้วะ หนอย...ตัวเองผิดยังมาโทษฉันแถมใช้นายไปส่งโรงเรียนด้วย ผู้หญิงอะไรไร้ยางอายสิ้นดี!!!” เคกัดฟันกรอด นัยน์ตาที่เคยสุกสกาวฉายแววแค้นเคืองอย่างเห็นได้ชัด
คอยดูเถอะ...ถ้าเจออีกทีจะเล่นงานให้!!!
ความคิดเห็น