คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : พระวรุณ - ผู้ชายแสนดี... ผู้บริหารที่ยอดแย่
พระวรุณ – ผู้ชายแสนดี... ผู้บริหารที่ยอดแย่
ในบทก่อนๆ ผมได้กล่าวถึงกัศยปเทพบิดรและพระอินทร์ไปแล้ว เพื่อความต่อเนื่องของเนื้อหา บทนี้เราจะมาโฟกัสกันไปที่ “เทวดากลุ่มอาทิตย์” กันก่อนเลยนะครับ
เนื่องด้วยช่วงนี้สภาพอากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย เดี๋ยวร้อน เดี๋ยวหนาว บางครั้งบางคราวก็มีฝนตก มันทำให้ผมอดนึกถึงเทวดาองค์หนึ่งไม่ได้ เทวดาองค์นั้นคือ “พระวรุณ “ หรือ “พระพิรุณ” เทพเจ้าผู้เป็นพี่ใหญ่ที่สุดในเทวดากลุ่มอาทิตย์ทั้งแปด ซึ่งเกิดจากกัศยปเทพบิดรนั่นเอง
เทวดากลุ่มอาทิตย์ทั้งแปดนั้นบางรายไม่เป็นที่รู้จักเท่าไรนัก จากรายชื่อดังต่อไปนี้ ซึ่งคาดว่าบางชื่อคงคุ้นกันบ้างไม่คุ้นกันบ้าง ได้แก่
พระวรุณ – เทพแห่งสภาพอากาศ
พระมิตราทิตย์ – เทพผู้ดูแลท้องฟ้าเวลากลางวัน
พระอริยมนาทิตย์ – ไม่ทราบข้อมูลว่าเป็นเทพแห่งอะไร
พระภคาทิตย์ – ไม่ทราบข้อมูลว่าเป็นเทพแห่งอะไร
พระองศาทิตย์ – ไม่ทราบข้อมูลว่าเป็นเทพแห่งอะไร
พระอินทราทิตย์ – เทพสายฟ้าผู้ครองสถิติแพ้พอกับชนะ
พระธาตราทิตย์ – ไม่ทราบข้อมูลว่าเป็นเทพแห่งอะไร
พระสุริยาทิตย์ – เทพแห่งดวงตะวันที่เรารู้จักกันดี และเมื่อกล่าวถึงพระอาทิตย์ ก็ย่อมนึกถึงคนนี้ก่อนพี่น้องคนอื่น
จากรายชื่อที่เห็นด้านบน จะพบว่าพระวรุณเป็นพี่ใหญ่สุดในบรรดาพวกเขา และด้วยความเป็นพี่นี้เอง ทำให้หลังจากยึดสวรรค์จากพวกอสูรได้ พระวรุณก็กลายเป็นเทพที่มีอำนาจมากที่สุดในสวรรค์ รวบความรับผิดชอบทั้งหมดมาที่ตนเองคนเดียว กลายเป็นเทพที่ถูกบูชามากที่สุดอีกองค์หนึ่งในยุคที่ศาสนาพราหมณ์นับถือพระเวท ในฐานะเทพผู้สร้างสรวงสวรรค์ ผู้ดูแลท้องฟ้า ดูแลสภาพอากาศ ดูแลน้ำ ดูแลการเกษตร เป็นเทพแห่งความสัตย์จริง เป็นเทพผู้รับวิญญาณผู้ตายไปยังโลกหลังความตาย เป็นเทพผู้ดูแลการโคจรของดวงดาว เป็นผู้ลงโทษคนทำผิดคำสาบาน ฯลฯ เรียกได้ว่าควบหลายตำแหน่งในหนึ่งเดียว หากเป็นมนุษย์ก็คงเป็นนายกฯ ที่คุมเกือบทุกกระทรวงเลยล่ะมั้ง
คาดว่าหลายคนคงไม่รู้มาก่อนว่าเทพที่มนุษย์รู้จักกันในฐานะแห่งฝนนี่จะเคยมีภาระหน้าที่มากมายขนาดนั้น ดังนั้นผมขออธิบายภาระหน้าที่ในช่วงพีคของเทพผู้เป็นพี่ใหญ่ของเหล่าอาทิตย์องค์นี้เสียหน่อย
เทพผู้สร้างสรวงสวรรค์ – เนื่องจากเหล่าอสูรถูกขับลงไปแล้ว พี่คนโตคนนี้แหละ ที่เป็นคนจัดระเบียบความเป็นไปของสรวงสวรรค์และโลก
เทพผู้ดูแลท้องฟ้า – สมัยก่อนพระวรุณได้ฉายาว่า “เจ้าฟ้าอันอยู่ทั่วไป” มีหน้าที่ดูแลรับผิดชอบท้องฟ้าทั้งหมด นอกจากนี้ยังมีฉายาว่า “สินธุปติ” อันแปลว่าผู้ยิ่งใหญ่แห่งท้องน้ำ บางตำนานเล่าว่าบางครั้งเราเรียกพระวรุณว่า “พระสมุทร” แต่บางคนวิเคราะห์ว่าพระสมุทรเป็นเพียงบริวารพระวรุณ
ดังนั้นทุกสิ่งทุกอย่างบนแผ่นฟ้าและผืนน้ำ พระวรุณจะต้องรับผิดชอบทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นการโคจรของดวงดาวหรือกระแสน้ำทะเล ซึ่งภายหลังเหลือเพียงตำแหน่งผู้ยิ่งใหญ่แห่งท้องน้ำเท่านั้น การดูแลท้องฟ้าถูกพระสุริยะและเทพนพเคราะห์อื่นๆ เทคโอเวอร์ตำแหน่งไป
เทพแห่งความสัตย์ผู้ลงโทษคนทำผิดคำสาบาน – เนื่องจากพระวรุณไม่ชอบคนพูดโกหก และเป็นเทพที่รักษาความสัตย์ซื่อ ดังนั้นสมัยที่พระวรุณเป็นที่นับถือ เวลาคนจะทำอะไรก็มักสาบานโดยการดื่มน้ำแล้วอ้างพระวรุณเป็นพยาน ถ้าใครทำผิดคำสาบานจะเป็นท้องมาน อย่างพระราชาหริศจันทร์
ไหนๆ ก็พูดถึงแล้ว ก็เล่าเสียหน่อยว่ากาลครั้งหนึ่งมีพระราชานามพระเจ้าหริศจันทร์ ครองราชย์มานานแต่ไม่มีลูกชายสืบสกุลสักที จึงไปทำพิธีขอพระวรุณให้ตนเองมีลูกได้ ซึ่งก็พบความเชื่อหรือการกระทำทำนองนี้ได้ในยุคปัจจุบัน ที่คนไม่มีลูกแล้วไปขอเจ้าแม่นั่นเจ้าพ่อนี่ให้ตัวเองมีลูก ซึ่งพวกนั้นก็จะส่งบริวารตัวเองมาเกิดบ้าง หรือไปขอเทพที่ใกล้หมดอายุขัยให้มาเกิดบ้าง
เนื่องจากในนิทานปรัมปรา เทวดาติดต่อกับมนุษย์ง่ายดายราวกับมีโทรศัพท์หรือวิดีโอลิงก์ ภาพโฮโลแกรมเสมือนจริงของพระวรุณก็ปรากฏกายต่อหน้าพระราชาในพิธี และยื่นข้อเสนอว่าถ้าจะให้พระราชามีลูก ลูกของพระราชาจะต้องถูกเอามาเป็นเครื่องบูชายัญให้ตัวเอง ซึ่งคิดว่าถึงจะบูชายัญจริงๆ พระวรุณก็คงไม่รับและให้พรพ่อลูกคู่นี้เหมือนกับกรณีของเทวดาหรือพระเป็นเจ้าอื่นๆ ที่จะทดสอบศรัทธาและความสัตย์ของมนุษย์นั่นแหละ พระราชาก็โอเคกับข้อเสนอของพระวรุณ ตัวเองจะได้มีลูกชายสมใจ แม้ว่าสุดท้ายจะต้องเอาลูกไปบูชายัญให้กับพระวรุณก็ตาม
แต่เวลาเปลี่ยนคนก็เปลี่ยน พระราชาเป็นพ่อคนแล้วเกิดรักลูกขึ้นมา ไม่ยอมให้ลูกไปเป็นเครื่องบูชายัญกับพระวรุณ ไม่ว่าพระวรุณจะทวงสัญญาสักกี่ครั้งก็หาโอกาสเลื่อนไปตลอด จนลูกชายโตเป็นหนุ่มแล้วก็ไม่ยอมสักที พระวรุณคงรำคาญมาก เลยเลิกทวงสัญญาไป แล้วดลบันดาลให้พระราชาป่วยเป็นโรคท้องมาน คือมีน้ำในช่องท้องมากเพราะความผิดปกติของตับ และทำให้อวัยวะภายในค่อยๆ เน่าเปื่อย
แต่ปัจจุบันเวลาคนเราสาบานแล้วไม่ค่อยอ้างพระวรุณเท่าไร แต่จะไปอ้างทำนองว่า “ขอให้ฟ้าผ่าตาย” ซึ่งเป็นหน้าที่ของพระอินทร์ที่จะประทานวัชระลงมาฟาดกบาลคนผิดคำพูด คงเพราะท้องมานมันรักษาได้ แต่ไม่ได้ตายในทันที แต่ฟ้าผ่าทีนี่ไม่ตายก็สาหัส เรียกได้ว่าบริการรวดเร็วทันใจกว่าเยอะ
เทพผู้พาคนตายไปส่งยมโลก – ไหนๆ ก็กล่าวถึงประเด็นนี้แล้ว ก็ขอกล่าวถึงอาวุธวิเศษของพระวรุณเสียก่อน
พระวุรณมีของวิเศษประจำตัว ได้แก่
“อาโภค” – ร่มวิเศษรูปร่างเหมือนพญานาค สร้างบาเรียกันน้ำได้ ผู้ถือร่มนี้จะไม่เปียกน้ำไม่ว่ากรณีใดๆ
หม้อน้ำกมัณฑลุวิเศษ – ใช้บรรจุน้ำได้ในปริมาณมหาศาล
บ่วงบาศวิเศษ – ใช้คล้องตัวผู้ประพฤติผิดคำสาบานไปทำโทษ
และเจ้าบ่วงบาศวิเศษนี้เองที่ทำให้พระวรุณรับหน้าที่คล้องวิญญาณคนตายไปส่งยังยมโลก โดยคนตายที่พระวรุณจะคล้องไปนั้นต้องเป็นคนที่ไม่รักษาสัญญา หรือเป็นคนโกหกปลิ้นปล้อน
ปัจจุบันพระวรุณไม่ได้ปฏิบัติหน้าที่นี้แล้ว เพราะหลังจากยึดสวรรค์มาจากอสูรได้สักพัก ยมโลกก็มียมทูตมาทำหน้าที่นี้แทนต่อไป
เทพผู้ดูแลสภาพอากาศ – ตำแหน่งนี้ยังเป็นของพระวรุณอยู่ กล่าวคือพระวรุณนั้นจะเป็นผู้จัดการของทีมเทวดากลุ่ม “วลาหก” ซึ่งทีมนี้จะมีแผนกต่างๆ ได้แก่
วัสสวลาหกเทพ (เทพแห่งเมฆฝน)
สีตวลาหกเทพ (หนาวเย็น)
อุณหวลาหกเทพ (ความร้อน)
อัพภวลาหกเทพ (เมฆหมอก)
นอกจากเหล่าวลาหกทั้งหลายแล้ว ทีมงานของพระวรุณยังประกอบไปด้วยหมู่นาคประเภทที่อาศัยอยู่บนวิมานในอากาศอีกด้วย ซึ่งจะขออธิบายเรื่องนาคประเภทนี้ในบทต่อๆ ไป
ดังนั้นไม่ว่าจะเกิดอากาศหนาว อากาศร้อน หรืออะไรก็แล้วแต่ที่เกี่ยวข้องกับสภาพอากาศ พระวรุณจะเป็นผู้รับผิดชอบทั้งหมด เพราะจะคอยสั่งการให้เหล่าเทวดาวลาหกไปสร้างสภาพอากาศแบบต่างๆ ในแต่ละฤดูกาลนั่นเอง และเมื่อควบคุมสภาพอากาศ จึงเป็นที่นับถือว่าเป็นผู้อำนวยความสะดวกต่อการทำการเกษตรโดยปริยาย
บางทีก็อดคิดไม่ได้นะว่าที่ช่วงนี้อากาศวิปริตแปรปรวนบ่อย เพราะพระวรุณแกอารมณ์เสียหรือว่านึกคึกมาจากไหน หรือดูแลสมาชิกทีมตัวเองไม่ดีหรือเปล่า วันเดียวนี่มีสภาพอากาศทุกแบบเลยแฮะ...
หลังจากโค่นเหล่าอสูรได้ไม่นานและเป็นผู้เสียสละเอาหน้าที่เกือบทุกอย่างมาทำคนเดียวแล้ว พระวรุณได้ถูกพระอินทร์ผู้เป็นน้องชายทำการปฏิวัติ ยึดอำนาจพี่ไป ซึ่งว่ากันว่าการยึดอำนาจนั้นเกิดขึ้นเพราะพระอินทร์ก๊งเหล้ามากจนเมา และไปก่อเรื่องวิวาทกับพระวรุณ ซึ่งผู้เป็นพี่ชายสู้ไม่ได้ก็เสียสละตำแหน่งให้น้อง พระอินทร์จึงเป็นเจ้าสวรรค์แทน ส่วนพระวรุณก็กลายเป็นเทพชั้นรองลงไป ลดบทบาทมาคุมแค่สภาพอากาศเท่านั้น
จริงๆ พระวรุณอาจจะอยากหาทางลงจากอำนาจและความรับผิดชอบอย่างเนียนๆ ก็ได้ เพราะถ้าผมเป็นพระวรุณ คนเดียวควบตำแหน่งเยอะขนาดนั้นก็คงไม่เอาด้วยเหมือนกัน ไม่มีเวลาพักผ่อนทำอะไรสนุกๆ กันพอดี ดูแลทั้งฟ้า ทั้งแหล่งน้ำ ทั้งสภาพอากาศ ลงโทษทำผิดคำสาบาน รับวิญญาณคนตาย.... ถึงจะเป็นเทพแต่ก็คงเหนื่อยๆ เหมือนกันนั่นแหละ
หรือถึงจะสู้กับพระอินทร์จริงๆ ก็คงไม่ไหวหรอกมั้ง แค่ทำงานทุกอย่างก็ดูน่าเหนื่อยพอแล้ว แถมอาวุธวิเศษของพระอินทร์กับพระวรุณดูสิ... พระอินทร์มีอาวุธวิเศษเป็นวัชระ สายฟ้าที่เป็นหนึ่งในสิ่งทรงอำนาจที่สุดในสามโลก ส่วนพระวรุณมีแค่ร่มกันน้ำ บ่วงบาศ กับหม้อน้ำ...
ท่าไม้ตายของพระวรุณที่ทำให้คนกลัวคือควบคุมน้ำในช่องท้อง ทำให้ท้องมาน อวัยวะภายในค่อยๆ เน่า และตายไปช้าๆ ส่วนพระอินทร์มีไม้ตายเป็นสายฟ้า ฟาดทีเดียวไหม้เกรียมแน่ๆ... ท่ารองๆ ที่ทำให้คนกลัวอย่างสร้างพายุฝนกระหน่ำหรือเปลี่ยนสภาพอากาศ พระอินทร์ก็ทำได้เหมือนกัน...
แล้วจะเอาอะไรไปสู้...
ดังนั้นไม่ว่าจะเพราะอยากเนียนลงจากอำนาจเอง หรือเพราะสู้ไม่ได้จริงๆ พระวรุณก็ได้เสียสละอำนาจให้น้อง พระอินทร์ที่ยึดอำนาจจากพระวรุณกลายเป็นราชาจอมเทพให้คนอื่นมาสู้รบเล่น แล้วก็แพ้อยู่บ่อยๆ อย่างที่กล่าวไปในบทก่อน ส่วนพระวรุณก็กลายเป็นเทพแห่งสภาพอากาศ และเป็นโลกบาลแห่งทิศตะวันตกตามความเชื่อฮินดูไป
กล่าวถึงชีวิตการงานของพระวรุณแล้วเรามากล่าวถึงชีวิตส่วนตัวของเขากันบ้าง
นอกจากจะมีวิมานบนยอดเขาพระสุเมรุแล้ว พระวรุณยังมีวังและเมืองของตัวเองให้ปกครอง คือเมือง “วสุธา” บนยอดเขา “ปุษปคีรี” ซึ่งอยู่ใต้ทะเลลึกอีกด้วย ว่ากันว่าพระวรุณเป็นใหญ่และเป็นที่นับถือของในหมู่นาคทั้งปวง
เช่นเดียวกับชาวสวรรค์บนยอดเขาพระสุเมรุ พระวรุณมีชายาและบริวารเป็นนางสนมจำนวนมาก ซึ่งที่เด่นๆ ได้แก่ “นางวารุณี” – เทวีแห่งเหล้าที่เกิดมาครั้งกวนเกษียรสมุทร “นางเชษฐา” – ลูกสาวของพระศุกร์ และมีลูกกับชายาและนางสนมมากมายทั้งชายหญิง ซึ่งลูกที่เป็นที่รู้จักมากที่สุดคือ “มณีเมขลา” – เทพธิดาแห่งฟ้าแลบ ผู้ถือลูกแก้ววิเศษ รองลงมาคือ “สุรเสน” – หนึ่งในบรรดาลิงสิบแปดมงกุฏของพระราม
พระวรุณมักมีนิสัยอย่างหนึ่งที่ประหลาดที่พูดได้ยากว่านิสัยดีหรือไม่ดี คือเวลามีความต้องการทางเพศกับใครแล้วเขาไม่ยอม ก็จะไม่ข่มขืน ไม่ใช้กำลังบังคับ และไม่ไปมีอะไรกับคนอื่นแทนคนนั้น แต่จะไปชอบสำเร็จความใคร่โดยเอาคนคนนั้นเป็นอารมณ์แทน อาทิเช่นนางอุรวศี ผู้เป็นอัปสรสวรรค์ที่กำลังติดธุระต้องไปพบพระมิตราทิตย์ พระวรุณก็เลือกที่จะเอานางมาเป็นอารมณ์ในการสำเร็จความใคร่แทนจะใช้กำลังบังคับขืนใจ
(ภาพจากหนังสือ รามายณะ ของ ราเมศ เมนอน)
นิสัยดังกล่าวจะบอกว่าดีก็คงไม่ถูก เพราะยังมีความฝักใฝ่ในกามราคะ ทำให้ยังเกี่ยวพันกับกิเลส แต่ก็ยังเป็นนิสัยที่ไม่เลวร้าย เพราะไม่ได้ใช้กำลังบังคับขืนใจฝ่ายหญิงที่ไม่ยินยอม หรือปลอมตัวเป็นสามีเขาแบบที่พระอินทร์ หรือพระสุริยะเคยทำ... เรียกได้ว่าเป็นพี่ชายผู้เป็นตัวอย่างที่ดีของน้องๆ จริงๆ แต่ไหงน้องๆ ไม่เอาเป็นแบบอย่างก็ไม่รู้สิ...
เนื่องจากเป็นเทพ ซึ่งการปฏิสนธิคงต่างจากคนปกติ การสำเร็จความใคร่ของพระวรุณนั้นมักก่อกำเนิดชีวิตแบบไม่อาศัยครรภ์มารดาอยู่เนืองๆ อาทิ "ฤๅษีวสิษฐ์" – หนึ่งในอาจารย์ของพระราม "ฤๅษีวาลมิกิ" – ผู้แต่งรามายณะ เป็นต้น
พาหนะของพระวรุณนั้นมีหลายชนิด บางแห่งก็ว่าขี่นาค ขี่จระเข้ ขี่มกร หรือนั่งรถเทียมด้วยหงส์ ซึ่งเอาเข้าจริงแล้วผมเชื่อว่าทั้งหมดคือพาหนะของพระวรุณ แต่พระวรุณเลือกขี่ให้เหมาะกับสถานการณ์ เหมือนกับเศรษฐีที่มีรถหรูๆ หลายแบบให้เลือกนั่นแหละ ไม่จำเป็นต้องขับรถแค่คันเดียวเสียหน่อย
โดยรวมแล้ว พระวรุณจัดว่าเป็นพี่ชายที่แสนดีและผู้ชายที่น่าเอาเป็นแบบอย่างพอควรเลยล่ะ ไม่ว่าจะเป็นการเสียสละให้น้อง การเคร่งครัดสัญญา หรือการไม่ใช้กำลังบังคับขืนใจหญิงสาว... แต่ในฐานะผู้บริหารแล้วจัดว่าแย่ เพราะการรวมศูนย์อำนาจหน้าที่ทั้งหมดไว้ที่ตนเองเพียงคนเดียวแบบเมื่อครั้งโค่นอสูรใหม่ๆ ทำให้ตนเองแบกรับภาระหนักเกินไป... และคาดว่าตอนนี้ก็ยังคงไม่ใช่ผู้จัดการทีม “วลาหก” ที่ดี... เพราะอากาศช่วงนี้เดี๋ยวหนาวเดี๋ยวร้อนหรือไม่ก็มีฝนตกลงมาในวันเดียวกันประจำ...
เรียกได้ว่าเป็นเทวดาที่ควรเอาเยี่ยง แต่ไม่ควรเอาอย่างสักเท่าไร...
ความคิดเห็น