คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #21 : CHAPTER 19 - 100 %
CHAPTER 19
“ปล่อยเฮียคริสเดี๋ยวนี้!!!!!!!”
เสียงหวานแผดดังลั่นพร้อมเจ้าตัวที่กำมือเกร็งแน่น ร่างบางตัวสูงส่งสายตาเฉียบคมไปให้กลุ่มคนตัวใหญ่กำลังลากร่างอ่อนปวกเปียกของคนรักไป
ทางคริสที่พอมีสติเหลืออยู่บ้างถึงกับมึนงงปนเป็นห่วงที่อยู่ๆคนน่ารักกำลังกลายร่างเป็นปีศาจร้าย พอยิ่งมองไปทางเทาเทาแล้วเหมือนเห็นภาพหลอนเป็นเขาสีแดงแถมหางโผล่ออกมาอีก
..สงสัยกูจะเบลอ ; w ;
“คุณ.. ฮวางจื่อเทา? อ่าน้องจื่อเทาครับ..”ชายหนุ่มในชุดสูทที่เหมือนเป็นหัวหน้าบอดี้การ์ดหันกลับมามองพร้อมเรียกชื่ออีกคนด้วยรอยยิ้มอบอุ่น
“ปล่อยเฮียคริสซะ!!”ดูเหมือนคนตรงหน้าคงไม่มีทางอารมณ์เย็นลงได้แล้วแน่นอน ชายชุดสูทถอนหายใจยาวอย่างช้าๆก่อนจะสาวเท้าเข้ามาใกล้อีกคนเล็กน้อย
“ผมไม่อยากทำร้ายคุณนะครับ เพราะคุณคงทำให้คุณอู๋ฟานตายได้ทั้งเป็นแน่ๆ”
“…”
“ดังนั้นกรุณาอย่าขัดขวางพวกเราเลยครับ.. ผมขอตัว”พูดจบก็รีบโค้งแล้วจะเดินออกไปไม่รอให้คนฟังได้ทักท้วงอะไรทั้งนั้น เพียงแต่ร่างกายของคนที่เขาหันหลังให้กลับไวกว่าเท่าตัว
มือเรียวคว้าเข้าที่ปกคอเสื้อแล้วออกแรงกระชากเข้าหาตัว แผ่นหลังกว้างกระทกเข้าอกบางดังอั้ก ก่อนเจ้าตัวจะใช้แรงที่ดูมากมายเกินกว่าตัวจับอีกคนทุ่มลงกับพื้น
“แอร้กก!”เสียงร้องหลุดออกมาได้เพียงแค่นั้นเพราะเท้าบางก็เหยียบเข้าที่อกของคนโดนทุ่มจนจุกไปทั้งตัว
“มาเป็นบอดี้การ์ดได้ยังไง? ทำได้แค่นี้นะ..”เสียงหวานที่เอ่ยอย่างเย้ยหยันจนดูน่ากลัว
ชายร่างใหญ่อีกเกือบสิบคนที่หันมองหน้ากันเลิ่กลั่กก่อนจะตัดสินใจกล้าตายพุ่งเข้าไปหาคนที่ยืนอยู่ตรงกลาง หมัดแรงๆเตรียมซัดเข้ากับใบหน้าหวานห้าว
เทาเทาตวัดตามองมาทางด้านข้างของตัวด้วยความรวดเร็วก่อนเท้าขวาหนักๆจะถูกอัดใส่เต็มท้องคนตัวใหญ้ากว่า ตามด้วยซ้ายที่ซ้ำลงไปอีกครั้ง
คนตัวบางหมุนตัวด้วยองศาที่สวยงามพร้อมส่งหมัดเข้ากระแทกกรามชายอีกคนจนได้ยินเสียงกระดูกกระทบกัน
“เห้ย!! ทำไมในข้อมูลไม่เห็นบอกว่าน้องจื่อเทาบู๊ได้นะเว่ย!!”เสียงลูกน้องที่เหลือสองสามคนตะโกนคุยกันดังเรียกสติให้คนอายุยังน้อยหันไปมอง
“กูไม่รู้ กูยังไม่ได้อ่านประวัติเขาเลย!!”ตอบไปเหมือนเอาตลก.. มือบางที่กำแน่นเป็นเหมือนค้อนเหล็กกระแทกเข้าที่จมูกคนพูดมากจนหงายหลังลงไปกองกับพื้น
ศอกบางหันไปกระทุ้งเสยคางให้คนที่ย่องเข้ามาล็อคคอทางด้านหลัง เทาเทาก้มยกตัวให้ชายชุดสูทหล่นลงมาจากหลังเขาในจังหวะเดียวกับที่ลำขายาวของใครบางคนเตะพลาดมา
มุมปากบางสีระเรื่อยกยิ้มอย่างนึกสนุกพร้อมส่งฝ่าเท้าไปกระหน่ำลงที่กลางลำตัวผู้เคราะห์ร้ายยกใหญ่
“หึ.. บอกไว้ก่อนนะ ว่าวันนี้ใครเอาเฮียคริสออกไปนอกสายตาเทาเทาแม้แต่วินาทีเดียว..”
“มันต้องตาย!!!”
คนพูดประกาศกร้าวแต่เหมือนคนฟังอีกเกือบสิบชีวิตแทบจะไม่มีสติได้หลงเหลือเพื่อฟังอะไรอีกแล้ว
“เฮียคริส.. เฮียคริสฮะ!!”พอนึกขึ้นได้ว่าตัวเองสู้ไปเพื่อใคร คนตัวบางก็รีบสาวเท้าเข้าไปดูคนที่นอนพะงาบๆไปเป็นท่าอยู่ข้างรถ รุ่นพี่ตัวสูงกระพริบตาปริบๆมองคนตรงหน้าด้วยสายตาที่ดูยากจะอธิบาย
เอิ่ม.. กูขอหลับแล้วตื่นอีกทีเถอะ เมื่อกี้กูตาฝาดไปรึเปล่า? ;[];
“เฮียคริส.. เฮียคริสกลัวเทาเทาหรอ?”
“ไม่ใช่ครับ!.. โอ่ย”รีบตอบทันควันจนลืมสังขารตัวเอง คริสเด้งตัวขึ้นร้องโอดโอยก่อนจะจ้องมองใบหน้าหวานเคล้าไปด้วยหยาดเหงื่อ ดวงตาคู่คมที่กำลังจ้องเขาตอบคลอหน่อยด้วยน้ำตา
“เฮียคริสเจ็บมากมั้ยฮะ?”มือบางพยายามประคองเอวกว้างให้ลุกขึ้นยืน
“เฮียไม่เป็นไร.. เรานั่นแหละบู๊ขนาดนั้น โดนอะไรตรงไหนรึเปล่า?”
“ไม่ๆๆ เทาเทาไม่เป็นไร ไม่โดนอะไรเลย ไม่เจ็บ ไม่..”
เสียงหวานขาดห้วงไปเพราะริมฝีปากเรียวของคนตรงหน้าทาบทับลงมาอย่างอ่อนโยน กลีบปากบางได้แต่ขยับตอบรับอย่างไม่ประสีประสาปนเปไปกับความรู้สึกหอบเหนื่อย
คนตัวสูงค่อยๆผละออกมาพลางทอดมองคนตรงหน้าด้วยสายตาอ่อนหวานเช่นเคย นิ้วเรียวยกขึ้นเกลี่ยริมฝีปากอิ่มแสนหวานที่เพิ่งได้ลิ้มลองเบาๆ
“คราวหลังอย่าทำอะไรแบบนี้อีกนะ เฮียเป็นห่วง ต่อให้เราสู้เก่งแค่ไหนก็ตาม..”
“อื้อ..”คนตัวบางตอบรับพร้อมพยักหน้ารัวๆ
“เฮียสัญญาว่าเฮียจะพยายามปกป้องเราให้ได้มากกว่านี้”
“เฮียไม่ต้องก็ได้นิฮะ เทาเทาทำได้นะ เทาเทาอยากปกป้องเฮีย”คริสใช้มือลูบหัวเด็กดื้อในโอวาทตัวเองเบาๆพร้อมรอยยิ้มในแบบฉบับเดิม
“ยังไงซะ.. เทาเทาก็ต้องให้เฮียปกป้องอยู่ดีนะครับ”
“อ่า..”ร่างบางทำหน้าครุ่นคิดอย่างน่ารักยิ่งทำให้คนตัวสูงอยากจะลิ้มลองริมฝีปากอิ่มอีกรอบ
“ไม่มีแต่ครับ เพราะเฮียรักเทาเทานะ”
“ก็ได้ฮะ เทาเทาก็รักเฮียนะ!”บอกรักหวานซึ้งพร้อมโผกอดคริสแน่นจนเจ้าตัวต้องเผลอร้องออกมาด้วยความเจ็บปวดทางร่างกาย เทารีบถอนตัวออกด้วยความตกใจ
“เทาเทาขอโทษ..”
“ไม่เป็นไรครับไม่เป็นไร.. เฮียว่าไปกันเถอะ”
ร่างสูงรีบบอกให้อีกคนสบายใจก่อนจะเขยิบตัวเข้านั่งที่ข้างคนขับ ให้คนตัวบางรีบวิ่งไปนั่งประจำที่ก่อนรถคันหรูจะแล่นออกไปด้วยความเร็ว
อู๋อี้ฟาน.. ถ้านอกใจมีหวังได้เตรียมดินกลบหน้าแน่นอน
ลู่หานอยากจับไอ้คนข้างๆมาโขกกะโหลกให้ยุบไปข้างนึงจริงๆ!
ร่างเล็กฮึดฮัดในใจพลางเหลือบมองคนที่นอนเหยียดยาวอ่าหนังสือการ์ตูนอยู่บนเตียง ท่าทีสบายๆยิ่งทำให้คนมองรู้สึกหงุดหงิดขึ้นเป็นเท่าตัว
“ไม่เคยได้ยินรึไง? ว่าที่ที่อันตรายที่สุดคือที่ที่ปลอดภัยที่สุด”เสียงเรียบนิ่งถูกเอ่ยออกมาจากคนที่เขากำลังด่นด่าในใจ ร่างบางสาวเท้าเข้าไปยืนท้าวเอวจ้องใบหน้าคม
“แล้วพามาบ้านคนที่ฉันจะแต่งงานด้วยเนี่ยนะ!! โอ้ยยย ม๊าคงตามหาไม่เจอเล้ยยย”
เสียงหวานบ่นประชดยกใหญ่ อี้ชิงปิดหนังสือการ์ตูนในมือลงก่อนจะเอื้อมคว้าเอวบางให้อีกคนไม่ทันตั้งตัว ลู่หานเซถลาเข้าอ้อมกอดคนบนเตียงทันที
“มีเมียขี้บ่นนี่มันดีหรอ?”คำถามส่อแง่ส่อง่ามที่ทำให้คนในอ้อมกอดหน้าแดงแปร้ดขึ้นอย่างไม่ต้องสงสัย กลมตากลมใสเหมือนลูกแก้วได้แต่จ้องคนใกล้ตัวปริบๆ ปาก็พะงาบๆไม่รู้จะเริ่มพูดอะไรหรือต้องทำยังไงในตอนนี้
เขิน.. จนอยากแทรกตัวหายไปกับที่นอนจริงๆ
“อะ..อะไรของนาย?”พอไม่มีใครพูดอะไรออกมาก่อนคนตัวบางเลยเปิดปากส่งเสียงออกมาเป็นคนแรก อี้ชิงไม่ตอบแต่กลับส่งยิ้มแบบที่เขาชอบแกล้งแหย่อีกคนไปอีกครั้ง
รอยยิ้มที่ลู่หานอยากจะฟาดหน้าให้ดั้งยุบชะมัดเลย!!
แต่.. ไม่เอาดีกว่า เดี๋ยวอี้ชิงเจ็บ.. ;[];
“มองอยู่ได้ไม่เคยเห็นหน้าฉันรึไง?!”
“เดี๋ยวนี้เริ่มพยศใส่ฉันแล้วนะ..”
ถึงกับต้องเบิกตากว้างใส่คนตรงหน้า ไม่รู้กี่ครั้งแล้วที่ร่างบางเป็นแบบนี้ เพราะหลังจากเจอร่างสูงดูท่าอีกคนเหมือนจะไปเดินหัวโขกเสามา หรือโดนยาล้างห้องน้ำกรอกปากไปก็ไม่รู้
ดูสภาพแล้ว ไม่ค่อยเหมือน จางอี้ชิง คนเดิมเลยแฮะ..
ใบหน้าคมที่จ้องนิ่งๆด้วยสายตาที่แปลกไปพร้อมกับรอยยิ้มบางๆ แววตากลมใสจ้องประสานกับแววตาคมติดหวานของอีกคน ก่อนจะเลื่อนไปจ้องค้างไว้ที่ริมฝีปากเรียวที่กำลังจะเอื้อนเอ่ย
“ทำไมถึงไม่หนีไปละเสี่ยวลู่หาน?”
“ก็..”
นั่นสินะ.. ทั้งที่อีกคนแค่ลักพาตัวมาเฉยๆ แต่ทำไมเขากลับยังอยู่ที่นี่.. ทั้งที่หนีออกไปได้ง่ายๆเลยด้วยซ้ำ
“ยังรักฉันอยู่เหมือนเดิมใช่มั้ย.. ลู่หาน?”
..จางอี้ชิงได้ยินเสียงหัวใจของฉันรึเปล่า.. มันกำลังเต้นดังมากเลยนะ..
“ถ..ถามทำไม?”เสียงหวานตอบออกไปอย่างแผ่วเบาพร้อมดวงตากลมใสที่เสมองไปอีกทาง
“ตอบสิ..”เลย์ยังคงกดดันคนใกล้ตัวด้วยน้ำเสียงและคำถามแบบนั้น ใบหน้าคมหวานขยับเข้าใกล้พร้อมสะกดอีกคนให้หยุดนิ่งด้วยสายตาที่สื่อความหมาย
“ไม่ได้รู้อยู่แล้วรึไง!”
“รู้?.. รู้อะไรหรอ?”คนขี้แกล้งยังคงลอยหน้าลอยตาตั้งคำถามใส่ร่างบางที่แทบจะเตะก้านคอเขาได้อยู่แล้วถ้ามีโอกาส ลู่หานสะบัดหน้าหันมาจ้องอย่างคาดโทษ
“ไม่ต้องมาทำหน้าใสซื่อแบบนั้นเลยนะ! ฉันไม่เชื่อนายหรอก!”
“แต่ฉันเชื่อว่านายรักฉัน..”
“เลิกสำคัญตัวผิด เลิกเข้าข้างตัวเองสักที!”
“ทำไมล่ะ? ในเมื่อฉันก็รักนายเข้าแล้วนะ”
“แล้วมันจะทำไมล่ะ ในเมื่อฉัน.. ห้ะ?! เมื่อกี้..”ดวงตากลมใสจ้องคนตรงหน้าตาไม่กระพริบ ริมฝีปากเล็กก็เผยอขึ้นเหมือนเดิมเวลาทำอะไรไม่ถูก
เมื่อกี้เขาไม่ได้ฟังผิดไปใช่มั้ย..? อี้ชิงพูด..?
“หืม?”คิ้วเรียวเลิกขึ้นพร้อมอมยิ้มขึ้นที่มุมปาก
“เมื่อกี้ๆ นายพูดว่าอะไรนะอี้ชิง!?”ลู่หานเค้นถามด้วยแววตาระยิบระยับเหมือนดวงดาวในค่ำคืนของท้องฟ้า ความคาดหวังที่แสดงออกมาอย่างปิดไม่มิด
“อ่อเปล่า.. ไม่มีอะไร”เลย์ยักไหล่ตอบอย่างไม่ใส่ใจ ก่อนจะเขยิบตัวหนีพร้อมปล่อยพันธนาการที่ตัวเองสร้างไว้ที่ช่วงเอวอีกคนออกทันที
“ไม่ๆๆ! เมื่อกี้นายพูดว่าอะไรบอกฉันมานะ!”
“ก็บอกว่าไม่มีอะไรไง”คนตัวใหญ่กว่าตอบเสียงเนือยๆพร้อมเหลือบคนตัวเล็กที่คว้าคอเสื้อเขาไว้แล้วกำแน่น
“บอกมาเดี๋ยวนี้จางอี้ชิง!”ขึ้นเสียงใส่นิดหน่อยแถมถลึงตาอีกนิด.. เหมือนตุ้กตาบาร์บี้เป๊ะ!
“จูบก่อนดิ”
เจอประโยคนี้เข้าไปบอกได้คำเดียว.. ลู่หานเงิบ ;/////-/////;
“ไม่..”
“งั้นนอนละ..”ดึงผ้าห่มขึ้นและเตรียมจะมุดเข้าไปเต็มที่ แต่สุดท้ายร่างสูงก็ต้องลอบยิ้มกับตัวเองเมื่อรู้สึกได้ถึงมือเล็กๆที่เกาะไว้ตรงต้นแขน
“ก็ได้..”ลู่หานได้แต่ก้มหน้าก้มตาตอบไป
ไม่ต้องรอนานทันทีที่อีกคนตอบรับ เลย์ก็โน้มหน้าเข้าไปใกล้ริมฝีปากอิ่มก่อนจะแนบสนิททับอย่างบางเบาด้วยริมฝีปากของตัวเอง มือเรียวรั้งเข้าที่เอวบางให้กระชับเข้าหาตัว ก่อนจะค่อยขยับปรับองศาให้ใบหน้าหวานรับรสจูบจากตัวเองให้ถนัด
ทั้งโหยหาทั้งคิดถึง.. ไม่ว่าจะกี่ครั้ง หรือแม้แต่จะน้อยครั้งเพียงใด แต่คนตัวเล็กคนนี้ไม่เคยจะหวานน้อยลงเลยสักครั้ง
“อื้อ..”เสียงร้องประท้วงในลำคอดังขึ้นเรียกให้คนตัวสูงผละออกมาช้าๆ แต่สายตาคู่คมยังคงจ้องไปที่ริมฝีปากอิ่มแดงเรื่ออย่างหลงใหล
“ฉันไม่เคยจูบกับใคร”
“หื้อ?”ขมวดคิ้วยุ่งเหยิงให้กับคำพูดที่อยู่ๆก็ลอยออกมาจากปากของเลย์ อีกทั้งเขายังจับใจความไม่ได้ด้วย
“ฉันไม่เคยมีใครไปหาถึงบ้าน”
“โหย...”
“ฉันไม่เคยพาใครไปร้านกาแฟนั่นด้วย”
“อ่า..”ได้แต่ฟังอีกคนพูดไปเรื่อยๆโดยไม่รู้ตัวเลยว่าหน้าของตัวเองนั่นแดงไปถึงไหนต่อไหน
“และฉัน..ไม่เคยนอนกับใครมาก่อน”สายตาที่ดูมั่นคงและจริงจังถูกส่งมาให้กับร่างบางที่นั่งจ้องอีกคนไว้อยู่แล้วตาไม่กระพริบ เรียกเสียงก้อนเนื้อข้างซ้ายให้ดังก้องขึ้นไปในหัวยกใหญ่
“อี้ชิง..”
“ฉันรักนาย”
“..!?”ประโยคที่ลู่หานไม่เคยคิดว่าจะได้ยินกลับออกมาจากปากคนตรงหน้า ดวงตากลมใสราวลูกแก้วนั่นแทบจะถลนออกมาอยู่รอมร่อ เลย์ยิ้มกว้างจนตาหยีให้กับคนตัวเล็กที่เขารู้สึกได้ว่ารักเต็มหัวใจ ก่อนจะโดนอีกคนโถมเข้ากอดทันที
“ฮึก..อี้ชิง”เสียงสะอื้นเหมือนเด็กน้อยดังขึ้นข้างๆหูคนที่เพิ่งจะเปิดปากบอกรักไป เรียกให้เลย์ต้องหลุดขำออกมาอย่างห้ามไม่อยู่ มือเรียวยกขึ้นกอดอีกคนกลับแถมยังต้องลูบผมคอบปลอยไปด้วย
“ร้องไห้ทำไมเนี่ย? ฮ่ะๆ”
“ก็ดีใจอ่า..ฮือออ”ยิ่งปลอบเหมือนอีกคนจะยิ่งร้องหนัก เลย์เลยตัดสินใจโยกตัวเบาๆให้คนในอ้อมกอดโคลงตัวตามไปมาเล่นๆ ไม่นานคู่รักหมาดๆก็ต้องหลุดหัวเราะออกมาทั้งคู่
“ฉันก็รักอี้ชิงนะ! รักมากเลย!”
‘ปัง!!!!’
อยู่ๆเสียงประตูก็เปิดกว้างเข้ามาดังลั่น ทั้งสองคนหันไปมองพร้อมกันทันที และก็พบว่าเป็นเจ้าของบ้านที่เข้ามาด้วยสภาพกรึ่มเต็มที่ และยังเกี่ยวเอวมาพร้อมกับสาวสวยในชุดซีทรูสีแดงเช่นเคย
“อันแหนะ.. กำลังเข้าด้ายเข้าเข็มเลยน้า”เหยียนเย่เอ่ยแซวด้วยน้ำเสียงติดยานคางเล็กน้อย ไม่ต้องเดาอะไรมากก็น่าจะรู้ว่าอีกคนคงไปดื่มมาแน่ๆ
“อาเย่! เธอจะล้มงานแต่งทำไมไม่บอกฉันก่อนล่ะ!”ลู่หานได้ทีเลยถามคนที่เกือบจะเป็นเจ้าสาวของเขาให้กระจ่างเสียหน่อย
“ก็นายมัวแต่เล่นตัวนี่หว่า อีกอย่างแฟนนายก็อาสาจะช่วย.. ก็เลยตามนั้น ฮ่าๆๆ”
“แล้วอาซ้อไม่ว่าหรอ?”
“เดี๋ยวคงว่ามั้ง.. ช่างเห้อะ! ไว้เขามาเอาเรื่องค่อยไปเถียง”สาวหล่อตอบได้น้ำเสียงไม่ใส่ใจแล้วหันไปคลอเคลียกับแฟนตัวเองสักพักก่อนจะหันกลับมา
“ฉันไปดีกว่าว่ะ ไม่อยากขัดล่ะ.. เอ้อ! วันนี้ยกห้องให้หนึ่งวันหนึ่งคืนเลย บ๊ายบาย!”
‘ปัง!!!!’ ..อยากมาก็มา อยากไปก็ไป
“ฮึ่ย! ทำอะไรก็น่าจะบอกกันบ้างนะ! นายด้วยแหละ”ค้อนวงโตถูกส่งให้เลย์ที่ยังทำหน้าเหมือนไม่รู้สึกอะไรอยู่ดี ร่างสูงยักไหล่ในแบบที่ไม่สนใจเหมือนเดิม
“ช่างเรื่องนั้นเถอะนะ”
“มองแบบนั้น.. หมายความว่าไง?”อยู่ๆเขารู้สึกระแวงในสายตาของร่างสูงแปลกๆ ..ไม่สิ จางอี้ชิงนะแปลกไปทั้งตัว หัวจรดเท้าเลยต่างหาก!
“ได้ยินแล้วไม่ใช่หรอ? เมื่อกี้ เหยียนเย่เขายกห้องให้แล้ว”
“แล้วทำไม?”
คนตัวสูงกว่าลุกขึ้นยืนพร้อมค่อยๆเดินเข้ามาหาเจ้าลูกกวางตัวน้อยของเขา แววตาคู่คมที่สื่อสารทุกอย่างออกมาโดยไม่มีปิดบังยังคงสะกดให้ร่างบางไม่กล้าขยับตัวไปไหน..
“แสดงว่าคืนนี้สำหรับเรา.. ยังมีเวลาเหลือเฟือเลยนะเสี่ยวลู่..”
“หยอยยยย เมื่อยแล้วอ้ะ อยากพักกกก”แบคฮยอนบ่นออกมาหลังจากที่เดินอยู่นานสองนาน ใบหน้าหวานงอง้ำและเต็มไปด้วยหยาดเหงื่อ มือบางยกขึ้นปาดมันทิ้งไปลวกๆไม่รู้เป็นรอยที่เท่าไหร่
“ทนหน่อยนะเตี้ยนะ.. ถ้ามีเพื่อนดีไม่ต้องมาเดินให้น่องปูดแบบนี้หรอก”
..ยิ่งนึกถึงไอ้เพื่อนผู้น่ารักทั้งแล้วมันยิ่งแค้นใจ!
“แล้วนี่.. โอ่ยย ไม่มีทางติดต่อใครได้เลยหรอ?”เสียงหวานยังคงหอบออกมาเรื่อยๆ พร้อมกวาดสายตามองรอบๆ ตอนนี้พวกเขาอยู่บนถนนใหญ่ที่ตรงไปไหนสักแห่ง..
ว่าแต่ตอนมากูมายังไงวะ T^T
“เออว่ะ!!”อยู่ๆคนข้างตัวก็ร้องออกมาเสียงดังจนร่างบางสะดุ้งตัวโยน ชานยอลที่เหมือนจะนึกอะไรขึ้นได้ก็รีบล้วงมือเข้าไปควานในกระเป๋ากางเกง ก่อนจะควักมันออกมาพร้อมยิ้มแฉ่ง
“ที่รัก.. เค้ามีโทรสับอยู่ แต่เค้ามิรู้วววว”
‘พลั่ก!!!!’ ทันทีทันใดของขวัญจากร่างบางผู้น่ารักก็ประเคนใส่คนตัวสูงกว่า
“ย๊า!! แบคฮยอน ต่อยกูทำไมวะ??”ชานยอลร้องถามเสียงดังพร้อมประคองแผลที่ปากตัวเอง รสขมปร่าของเลือดกำลังทำให้เขาต้องถุยทิ้ง
“ไอ้โง่!!!! มึงแม่งโง่จริงๆ!!! มีอยู่ทำไมไม่โทรวะ ไอ้เหี้ย!!!! กูมีแฟนแบบมึงได้ยังง้ายยยยย!!!!”
ร่างสูงเหลือบมองสุดที่รักตัวเองที่เริ่มกระโดดโหยงเหยงดิ้นพลาดๆไปมาแล้วก็รู้สึกผิดนิดๆ.. แขนเรียวจับล็อคตัวคนที่เริ่มจะสติแตกไว้ในอ้อมแขน
“ขอโทษ ขอโทษ ขอโทษ”เสียงทุ้มเอ่ยเรียบนิ่งข้างใบหูเล็กๆ
“มึงมันไม่เคยได้ดั่งใจกูเลยจริงๆนะ!”คนตัวเล็กยังคงดิ้นต่อไปแต่ก็ไม่มีผลต่ออ้อมกอดของอีกคนเลยไม่แม้แต่น้อยและยิ่งดิ้นก็เหมือนจะโดนกอดรัดมากขึ้นอีก
“กูมันแฟนที่ไม่ดีขนาดนั้นเลยหรอ?”
“เห้ย..มึงอย่าดราม่าดิวะ”เสียงหวานแผ่วลงเพราะจับได้ถึงรังสีแห่งความน้อยใจที่แผ่ออกมาจนล้น
“แต่มึงก็บอกไม่ใช่หรอว่ากูไม่ดีอะไรสักอย่าง”
“…”
“กูมันเอาแต่ทำตัวโง่ๆ เป็นที่พึ่งให้มึงไม่ได้”
“…”
“ไม่หล่อ ไม่เท่ กูมัน.. เหี้ยว่ะ”
“พูดจบแล้วบอกนะ”
“จบแล้ว เห้ย!!”เสียงเข้มร้องลั่นทันทีที่อีกคนหมุนตัวกลับมาในจังหวะเผลอ แบคฮยอนโถมตัวใส่จนล้มลงไปนอนราบกับพื้นทั้งคู่ ดวงตาคู่ใสจ้องมาที่ดวงตาคู่คมอีกคนเขม็ง
“มึงมันเพ้อเจ้อ น่าเบื่อ”ริมฝีปากอิ่มจิ้มลิ้มเบะลงเล็กน้อย
“นั่นไงมึงด่ากูอีกแล้ว.. เห้อ”
“แต่แล้วทำไมวะ ในเมื่อกูก็รักมึงนิ ต่อให้มึงโง่หรือเป็นห่าอะไรก็แล้วแต่..”
“คนที่กูรักก็คือมึงอยู่ดีไม่ใช่หรอ? ปาร์คชานยอล”
ใบหน้าหวานริ้วไปด้วยแก้มแดงระเรื่อพร้อมรอยยิ้มหวานในแบบที่ชานยอลหลงใหล คนตัวเล็กกำลังทำให้เขาเริ่มสติแตก ร่างสูงค่อยๆพยุงตัวขึ้นแล้วกระชับกอดอีกคนไว้แน่น
“ขอบคุณนะแบคฮยอน ขอบคุณจริงๆ”
“ฮ่าๆๆ ไอ้หยอยเอ้ย!”
“นี่! เรารีบโทรหาไอ้พวกนั้นกันเถอะ เผื่อมันจะมาช่วยได้”
ร่างสูงกล่าวพร้อมรีบคว้ามือถือของตัวเองมากดเบอร์โทรออก แบคฮยอนนั่งจ้องคนที่เถียงกับคนในสายสักพักก็ต้องหลุดขำเมื่อได้ยินเสียงโวยวายของมินซอกดังลอดออกมา
“เดี๋ยวไอ้ไคมารับ รออีกแปปนึง ไอ้อ้วนขี้อยู่”
“ประจำอะแม่ง..”ร่างบางแกล้งบ่นทีเล่นทีจริง แต่ก็ยังหลุดยิ้มออกมาตลอด
“แบคฮยอนอา..”
“หืม?”
..นิ้วเรียวสวยถูกประคองขึ้นอย่างแผ่วเบาก่อนจะสวมแหวนใบไม้บางๆแต่ดูน่ารักลงไป คนสวมให้ยิ้มกว้างกับผลงานของตัวเอง ก่อนริมฝีปากเรียวจะประทับลงไปบนหลังมือนุ่ม..
“คนนี้จองนะ จริงจังเลยด้วย”
“อื้อ..”ตอนนี้ไม่ต้องบอกอะไรก็รู้ว่าแบคฮยอนคงหน้าแดงไปถึงไหนต่อไหนแล้ว คนตัวสูงเลยเอื้อมมาหยิกแก้มนิ่มด้วยความหมันไส้
“วันนี้เรามาทำสัญญาพูดเพราะกันเถอะที่รัก งดด่ากันหนึ่งวันนะ”
“เอางั้นหรอ? โอเคก็ได้นะ ชานยอลอา..”ลองทดสอบครั้งแรกกับสัญญาของพวกเขา รอยยิ้มสดใสยังคงระบายบนใบหน้าหวานไม่หยุดหย่อนจนลืมความเหนื่อยก่อนหน้านี้ไปปลิดทิ้ง
“รักนะครับ รักบยอนของปาร์คที่สุดเลย!”
..หยุดเพิ่มซิคแพ็คแล้วมาเพิ่มโหนกแก้มกันบ้างเนอะ *ขยิบตา*
..ทะเล.. กลิ่นทะเล..?
ร่างบางปรือตาขึ้นช้าๆจากลมแรงที่ปะทะใบหน้า ดวงตาคู่สวยพยายามปรับโฟกัสที่แสงแยงตาให้คงที่ก่อนจะต้องเบิกตากว้างกับภาพตรงหน้า
..ชายหาดขาวสะอาดดูกว้างไกลสุดลูกหูลูกตา เสียงคลื่นสาดกระเซ็นรับกับเสียงลมที่เคล้าคลออย่างสดชื่น สีฟ้าเข้มอ่อนของน้ำทะเลทำให้รู้สึกอยากดำดิ่งลงไปอย่างบอกไม่ถูก..
“ตื่นแล้วหรอ?”เสียงทุ้มทางด้านหลังทำให้เขาต้องเอี้ยวตัวกลับไปดู ก็พบว่าเป็นรุ่นน้องคนสนิทที่กำลังขับบิ๊กไบค์คันโตอยู่
“อื้อ.. ที่นี่ ที่ไหนเซฮุนนา”ขยี้หูขยี้ตาเหมือนเด็กไม่มีผิด ยิ่งทำให้ร่างสูงที่ซ้อนอยู่ด้านหลังต้องยกยิ้มกว้าง
พี่จุนมยอน พี่จะรู้มั้ย.. เวลาที่เพิ่งตื่นเนี่ย น่ารักที่สุดเลยนะ!
“หาดแถวๆบ้านเทาเทานะ พวกผมนัดกันว่าเดี๋ยวมาเจอที่นี่”
“หื้อ? บ้านเทาเทา?”ขมวดคิ้วงุนงงงประกอบกับสติยังไม่เข้าร่องเข้ารอย แต่ก็เริ่มจะตื่นเต็มตาเพราะรู้สึกได้ถึงแรงโอบที่รอบเอว
“ก็เทาเทาเป็นคนจีนไง แต่เป็นญาติกับไอ้หยอยเลยไปเรียนนู่นด้วย ประมานนั้น”
“อ่อ.. แล้วนี่คนอื่นๆกำลังตามมาหรอ?”
“ใช่ครับ แต่ผมว่าเราพักสวีทกันแถวนี้หน่อยดีกว่า”
คนตัวสูงจอดรถเทียบเข้าข้างทางริมชายหาดช้าๆ ขาเรียวหยั่งลงยันกับพื้นพร้อมประคองให้คนที่นั่งซ้อนด้านหน้าลงมา แต่เพราะยอมนั่งมาเป็นเวลานานคนตัวขาวเลยสะดุดเล็กน้อย
“ระวังหน่อยนะ”..ยังไงไหล่กว้างของใครอีกคนก็ทันเข้ามาให้เกาะไว้พอดี
“อื้อ ^^”
..สองคู่เท้าของคนสองคนกำลังเหยียบย่ำบนผืนทรายในจังหวะเดียวกันทั้งหัวใจและการเดิน มือบางที่กอบกุมมือเรียวไม่แน่นอย่างที่ไม่เคยเป็น ความอบอุ่นที่หลอมรวมให้หัวใจสองดวงเป็นหนึ่งเดียวกันอย่างชัดเจน..
“พี่จุนมยอนสวยจัง”เซฮุนเลือกที่จะเอ่ยชมออกมาอย่างชัดเจนไม่มีปกปิด เรียกให้ใบหน้าหวานสวยของอีกคนต้องหันหนีไปด้วยความเขิน
“อะไรของนายเล่า..”บ่นพึมพำกับตัวเองแต่ยังไม่ยอมหุบยิ้มอยู่ดี
“พี่ครับ ตอนนี้เราเป็นแฟนกันแล้วรึยังนะ?”
“เซฮุนนา..”
“ผมถามไม่ใช่ผมหรอไม่ได้นะ.. แต่ผมแค่อยากรู้ความเป็นไป”
คำถามที่รุกหนักเสียจนอีกคนไม่ทันตั้งตัว ริมฝีปากอิ่มเม้มเข้าหากันแน่นจนคนมองกลัวว่ามันจะห้อเลือดเสียจริง มือเรียวกระชับมือบางไว้แน่นแล้วดึงเข้าหาตัวช้าๆ
“พี่เชื่อในตัวผมรึยัง?”
“เซฮุน..”
“ผมรักพี่จริงๆนะ”
สิ้นเสียงคำบอกรักหวานหู.. ร่างสูงค่อยๆบรรจงประทับกลับปากสีแดงระเรื่ออย่างอ่อนโยนราวกับสายลมคอยพัดผ่านมาอย่างแผ่วเบา ความหอมหวานที่ตักตวงจากอีกคนอย่างไม่รู้จักพอยิ่งทำให้เขาถลำลึกลงไปจนยากที่จะถอนตัวขึ้น
“…?”เลิกคิ้วเป็นเชิงรอคำตอบจากคนตัวขาว หัวใจของร่างสูงเองก็พาลจะระเบิดออกมานอกอกเช่นกัน
“พี่รักเซฮุนแล้วนะ รักแล้วเหมือนกัน”
ถึงจะเป็นเสียงหวานที่กล่าวออกมานิ่งๆแต่ก็ฝังลึกลงในใจของคนฟังอย่างไม่ต้องสงสัย เซฮุนระบายยิ้มกว้างพร้อมคว้าอีกคนเข้ามาในอ้อมกอด
“ผมดีใจๆๆ โคตรดีใจเลยครับ!”เสียงทุ้มเข้มดังลั่นไปรอบหาดทรายสีขาวสะอาดที่ไร้ผู้คนแต่ดูอบอวลไปด้วยความรักของพวกเขา
เสียงคลื่นที่ตอบรับพร้อมสายลมที่พัดเอื่อยราวกับเป็นพยาน ..ให้โอเซฮุนและคิมจุนมยอน
“พี่ดูสิ ตอนเย็นท้องฟ้าจะหลอมรวมกับทะเล”
“สวยจังเลย เซฮุนนา..”
“ท้องฟ้าจะอยู่คู่กับทะเลตลอดไป เหมือนผมกับพี่เลยนะ!”
“อายมั้ยเฮียยย อายมั้ยยยย กร้ากกกก!” เสียงหัวเราะลั่นของไคดังไปทั่วบริเวณบ้านพักของเทาที่ตอนนี้เริ่มจะเละเพราะมารวมตัวกันนี่แหละ -___-“
“มึงเงียบไปเลยนะไอ้มืด! ใครมันจะไปสู้คนได้เยอะแยะวะ!!”คริสโวยวายกลับพร้อมปาก้อนสำลีที่ตัวเองกำลังโดนคนน่ารักทำแผลให้อยู่
“เทาเทาไงเฮีย บู๊ได้! ฮ่าๆๆๆ”ได้ทีชานยอลก็ยังคงซ้ำเติมไม่หยุด
..ไอ้เฮฮานี่ไม่ใช่เรื่องอะไร ก็คงไม่พ้นเรื่องเทาเทาบู๊แหลกแทนพ่อคนยอดเมะอย่างเฮียไง!
“ฉันเรียนมาไง ชานยอลอย่าว่าเฮียคริสสิ”เทาหันมาเอ็ดญาติคนสนิทเบาๆ แล้วหันไปตั้งใจทำแผลให้รุ่นพี่ตัวสูงต่อ
“แบบนี้เทาเทาก็ทำแบบวิ่งสู้ฟัดได้เลยดิ!”
“ไม่หรอกน่า ฮ่าๆๆ”เทาหัวเราะกับท่าทางเลียนของไคที่กำลังพยายามทำวิทยายุทธแบบในหนังที่เคยดู
“วันหลังสอนบ้างนะเทาเทา เอาให้แบบเฉินหลงยังอาย!”เซฮุนก็อีกคนที่เป็นไปด้วย
“ยังไงเฉินหลงก็ต้องอาย อาเฉินอย่างพี่อยู่แล้วละ”จงแดเดินยิ้มร่าออกมาพร้อมถาดอาหารขนาดใหญ่ในมือ ตามติดมาด้วยมินซอกที่ยังเคี้ยวตุ้ยๆอยู่
“อายเพราะไม่มีใครหน้าแก่ได้เท่าพี่แล้วละสินะ ฮ่าๆๆๆ”คนตัวอวบแกล้งแหย่แล้วขำไปพร้อมกับเพื่อนๆ
“เปาเปา..”
‘จุ้บบ!!’ ไม่ทันตั้งตัวก็โดนอีกคนขโมยหอมแก้มไปเต็มๆหนึ่งฟอด เรียกให้ซาลาเปากลายเป็นสีแดงทันที ทางจงแดที่ได้กำไรเต็มๆก็รีบโกยหนีเข้าครัวไปอีกที ทิ้งให้อีกคนต้องรีบคว้าถาดแล้วโวยวายตามหลังไป
“สงสัยจะได้มีศึกในครัวต่อแน่เลยจงอินนี่ ฮ่าๆ”คยองซูที่เดินสวนออกมากล่าวพร้อมอมยิ้มอย่างน่ารัก ท่าทางแม่ศรีเรือนที่ทำให้ไคต้องมองตาไม่กระพริบ
“มายเดสตีนี่มานั่งนี่เลยๆนะ มาป้อนหน่อยเร้วววว”ร่างโปร่งโบกมือรัวๆ คนตาโตก็รีบเดินไปทิ้งตัวลงข้างๆอย่างว่าง่าย
อาหารเย็นวันนี้ขอเสมอ อาหารต้นตำรับแบบจีนที่บ้านเทาเทารับรองแน่นอนว่าอร่อยชัวร์!
“พี่จุนมยอนนนน ไอ้เตี้ยยยย ลงมาได้แล้ววววว!”
เซฮุนที่ลุกขึ้นไปตะโกนเรียกคนตัวบางสองคนบนบ้านที่ขึ้นไปอาบน้ำได้สักพักแล้ว ไม่นานซูโฮกับแบคฮยอนก็เดินลงมาด้วยสภาพที่หัวลงเปียกน้ำอยู่หน่อยๆ
ทั้งสองคนใส่เสื้อยืดพอดีตัว กับกางเกงขาสั้นตัวเล็กยิ่งทำให้ดูเหมือนเด็กๆเข้าไปอีก
“ที่รักแต่งตัวน่ารักจุงเรยยยย”ชานยอลพูดพร้อมทำหน้าเคลิ้มเสียยกใหญ่
“จัญไรรึเปล่าวะไอ้หยอย? ฮ่าๆๆๆ”ไคที่ยังคงแซวคนอื่นได้ไม่เลิกก็หันไปแท็คมือกับเซฮุนทันที
“อยากเข้าไปนอนพะงาบๆในโรงบาลอีกมั้ยวะไอ้มืด?!”
มือบางยกตะเกียบชี้หน้าเพื่อนสนิทพร้อมเขม่นเสียยกใหญ่ แต่มันกลับดูน่ารักตลกๆซะมากกว่า ทุกคนเลยหัวเราะออกมาพร้อมๆกันก่อนจะลงมือจัดการกับอาหารตรงหน้า
..บรรยากาศอบอุ่นแบบนี้ เนี่ยแหละใช่เลย!
“เออมึง ว่าแต่ไอ้เลย์แม่งจะเป็นไงมั่งวะเนี่ย?”เซฮุนถามขึ้นพร้อมหยิบของกินให้ตัวเองบ้าง ให้แฟนหมาดๆบ้าง
“กูว่าไม่น่ารอด..”ไคบอกพร้อมกลืนข้างลงไป
“ใครไม่รอด? ไอ้เลย์จะโดนยิงกบาลแหกหรอ?”มินซอกถามตาโต ก่อนคนพูดจะส่ายหัวน้อยๆแล้วตอบ
“กูว่าพี่ลู่หานไม่รอด ไอ้เลย์จัดหนักชัวร์! ฮ่าๆๆๆ”
“ทะลึ่งนักนะมึง! ดูหน้าแฟนมึงดิ้ งงชิบหายแล้วเนี่ย!”ชานยอลบอกพร้อมพยักเพยิดไปทางคยองซูที่นั่งฟังอยู่เงียบๆเหมือนไม่รู้อะไรทั้งนั้น
“มายเดสตีนี่กูเขาใสซื่อเว้ย! ใครจะไปเจนโลกแบบพวกมึงล่ะ”คนผิวสีแทนทำท่าทีเชิดหน้าอย่างน่าถีบ จนคริสต้องเอาเท้าสะกิดให้เอาบุญ
“มึงนี่มันน่าให้ไปนอนโรงบาลใหม่ๆจริงเลยว่ะ”ปากว่ารุ่นน้องไปก็หันไปรับข้าวจากคนข้างๆตัวด้วย
“ไอ้คริสได้ข่าวว่ามึงไม่ได้เป็นอะไรที่แขนนะครับ?”
“อะไรกูปวดแขนจะตายเหอะ.. เนอะเทาเทา เฮียปวดแขนจัง..”
“อีคริสตี้ กูขอร้องมึงอย่าทำแบบนั้นอีก =___=”จงแดทำหน้าแขยะแขยงทันทีที่เห็นเพื่อนตัวเองกระพริบตาปริบๆมองเทา แถมยังส่งเสียงแปล่งๆในแบบฉบับสวดมนต์อีกต่างหาก
ให้ตายเถอะ.. นั่นอ้อนหรือเรียกอ้วก?
“ไว้พรุ่งนี้ค่อยไปดูไอ้เลย์มันแล้วกันเนอะ เอ้าพวกเราฉลอง!”
“เฮ้!!!!”
“นายหมายความว่ายังไงเรื่องลูกชายของฉัน!!!”
“ก็ผมบอกแล้วไงครับ ว่าเราสองคนรักกัน”
เลย์ยังคงตอบคำถามทุกอย่างของคุณเสี่ยวหลินอย่างชัดถ้อยชัดคำ ผิดกับร่างเล็กที่แทบจะร้องไห้และบุบสลายหายไปเพราะสายตาทิ่มแทงของคนเป็นแม่
“ผู้ชายกับผู้ชายอยู่กินกันไปมันจะได้ประโยชน์อะไรขึ้นมาห้ะ!?”
“ได้สิครับ..”
“แกไม่ต้องพูด!! ไหนเสี่ยวหาน ลองพูดมาสิว่ามันมีประโยชน์อะไร?”
“มาม๊า.. คือ..”ลู่หานเริ่มสะอื้นขึ้นอีกครั้ง เสียงที่พึมพำออกมาดูจะจับใจความไม่ได้เลยสักนิด
“คืออะไร!?”
อีกครั้งที่โดนตวาดใส่.. ร่างเล็กปล่อยโฮออกมาเต็มที่ เลย์จึงรีบรั้งอีกคนเข้ามาในอ้อมกอดพร้อมถอนหายใจหนัก เขาเตรียมทำใจไว้อยู่แล้วในเรื่องนี้ เพียงแต่ไม่คิดเลยว่าอีกคนจะอ่อนแอขนาดนี้
“คุณเสี่ยวหลินครับ เลิกคาดคั้นพวกเราสักทีเถอะ ลูกคุณเองที่จะแย่ไม่ใช่ผม”
‘เพี๊ยะ!!!’ ฝ่ามือของหญิงสาวฟาดเข้ากับใบหน้าคมฉาดใหญ่จนหันไปตามแรง
“แกอย่ามาสอนฉันนะ!!!”
“..ผมไม่ได้สอน”เลย์พยายามข่มอารมณ์ทุกอย่างไว้ภายใน และเอ่ยตอบไปด้วยเสียงในระนาบเท่าเดิม อ้อมกอดเขาก็ยังกระชับอีกคนไว้แน่น
“ผมแค่พูดในสิ่งที่มันเป็นความจริง”
“ใช่ คุณอาก็เห็นใช่มั้ย? เห็นในสิ่งที่พวกเราเป็นรึเปล่า?”
กลายเป็นไป่เหยียนเย่ที่ยืนมองอยู่นิ่งๆกลับเดินออกมาสมทบด้วย สาวห้าวที่เอ่ยด้วยเสียงหนักแน่นไม่แพ้กันเพราะความทนไม่ไหวที่ทิฐิทางเรื่องความรักกำลังทำให้คนสองคนเริ่มจะตายทั้งเป็น
..เธอเองก็ผ่านเรื่องแบบนี้มาก่อนเช่นกัน
“อาเย่เธอไม่เกี่ยว หลบไป!”
“ไม่! คุณอาอย่าเอาเรื่องสังคมบ้าบออะไรพวกนั้นมาตัดสินพวกเราสิ!”
“ไป่เหยียนเย่!! เธออย่าริอาจมาสอนฉันนะ!!! อาซ้ออยู่ไหนล่ะ เรียกมาดูสภาพลูกตัวเองสิ!!”
“ม๊ารู้เรื่องหมดแล้วฮะ คุณอาไม่ต้องบอกใหม่หรอก”
สิ้นคำตอบของเหยียนเย่ทุกอย่างก็ดูนิ่งสงัดไปทันที เสี่ยวหลินได้แต่ยืนนิ่งทำอะไรไม่ถูกเหมือนสมองของเธอถูกทาทึบด้วยสีดำ พลางก็เหลือบมองภาพลูกตัวเองกับคนรักที่กำลังกอดปลอบกันอยู่ตรงหน้า
..อยู่ๆน้ำตาของผู้เป็นแม่ก็รินไหล
“เสี่ยวหาน.. ม๊าผิดหรอ ที่ม๊าอยากให้ลูกรักในสิ่งที่ถูกต้อง”หญิงสาวทิ้งตัวลงร้องไห้กับพื้นจนตัวโยน เดือดร้อนให้ลูกรักต้องถลาเข้าไปกอดปลอบไว้ ลู่หานส่ายหน้ารัวพร้อมสะอื้นไปด้วย
“ฮึก..ม๊าไม่ผิดนะ ไม่ผิด ผมผิดเอง..ฮืออ”
“เสี่ยวหานเข้าใจม๊าใช่มั้ยลูก..”คนเป็นแม่ก็โต้ตอบกลับมาด้วยเสียงที่สั่นเครือเช่นเดียวกัน เธอกดันตัวลูกชายคนเดียวออกพร้อมจ้องมองใบหน้าที่ถอดแบบมาจากเธอไม่มีผิด
ในวินาทีนั้นเธอสังเกตได้ทันที.. ว่าลูกของเธอไม่มีเหมือนใคร..
“แต่..ผม ฮึก อยากให้ม๊าเชื่อในตัว.. พวกเราฮะ”ลู่หานเริ่มอ้อนวอนด้วยน้ำตาอีกครั้ง
เสี่ยวหลินนิ่งเงียบไปอีกพักใหญ่ เธอหันมองร่างสูงของอีกคนที่ยังคงนั่งนิ่งแสดงท่าทีเรียบเฉยต่อไป แต่หากแววตาคู่คมนั้นไม่เคยลดความจริงจังเลยแม้แต่น้อย
“ม๊ายอมแล้ว.. ม๊ายอมแล้วจริงๆ”
คำพูดที่เรียกให้หัวใจหลายๆดวงพองโต คนตัวเล็กเบิกตากว้างแล้วโผกอดผู้เป็นแม่ทันที เสี่ยวหลินแย้มยิ้มอ่อนโยนให้ลูกชายตัวเองก่อนจะหันไปพยักหน้าเป็นเชิงให้กับเลย์
ร่างสูงเองก็ตอบรับด้วยรอยยิ้มกว้างที่แสดงถึงความจริงจังของตัวเองเช่นกัน
“ขอบคุณนะม๊า ขอบคุณมากๆเลยฮะ รักม๊ามากเลยนะ”
“ได้แฟนแล้วอย่าลืมคำที่บอกว่ารักม๊าละ ฮ่าๆ”แม้เธอจะหัวเราะด้วยน้ำตา แต่ถ้าลูกเธอมีความสุขเธอก็คงจะมีความสุขได้ด้วยเช่นกัน
“เยส!! อย่างนี้ต้องฉลอง!!”เหยียนเย่เอ่ยขึ้นพร้อมกระโดดไปรอบๆกับแฟนสาวของตัวเอง แถมยังจูบโชว์ให้อีกครั้งหนึ่ง
“นี่อาเย่!! ทำอะไรอายซะบ้างนะ!!”เสี่ยวหลินหันมาแว้ดใส่หลานสาวสุดห้าวตัวแสบ ซึ่งเธอเองก็คงได้แต่ปลงแล้วขอตัวแยกไปนอนพักเสียก่อน เนื่องจากเหนื่อยมาทั้งวันแล้ว
แต่ก็ยังไม่ลืมทิ้งท้ายไว้อย่างเจ็บแสบเช่นเคย.. “ฉันจะคอยดูนายไว้นะ จางอี้ชิง”
“ขืนทำตัวไม่ดีกับฉัน ฉันโดนพรากจากนายไปตลอดชีวิตแน่”
“ไม่มีวันนั้นหรอก”เลย์หันไปบอกคนข้างตัวที่แกล้งทำหน้าทะเล้นใส่เขา ร่างบางพาคนรักของตัวเองออกมาเดินเล่นในสวนหย่อมหน้าบ้านหลังจากผ่านสถานการณ์ตึงเครียดมาได้
“สัญญาแล้วนะ”หันมามองอีกคนด้วยแววตาจริงจัง มือบางกระตุกมือเรียวเบาๆ
“อื้ม.. สัญญายิ่งกว่าชีวิตเลย”
“ขอบคุณมากจริงๆนะอี้ชิง รักที่สุดเลย!”อีกครั้งที่โผกอดกันด้วยความรัก เลย์ลอบยิ้มกว้างแล้วโอบรัดเอวบางไว้แน่น ก่อนจะโยกตัวเบาๆ
..ตามจังหวะแห่งความสุขของหัวใจ
“วันนี้ลองจูบใต้แสงจันทร์กันหน่อยมั้ยครับ.. มายเดียร์”
________________________
121001
ความจริงยังสอบไม่เสร็จเลย TT
แต่อยากมาลงให้ก่อน 5555555
คิดถึงกันรึเปล่าาาาา คิดถึงสิ !!!
ได้ฟิคเรื่องใหม่แล้วนะฮะ จะลงละ.
ลงให้หลังสอบเสร็จคือ วันศุกร์นี้
เรื่องใหม่จะเป็นแนวไหน รอคอยยย
ขอให้มีความสุขนะ ตอนนี้หวานมั้ย?
หวานสิ มันต้องหวานนะ! 5555555
ความคิดเห็น