ลำดับตอนที่ #8
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #8 : ดอกฮิกันบานะ - ヒガンバナ
ดอกฮิกันบานะ
ดอกฮิกันบานะมีชื่อภาษาอังกฤษสุดเก๋ว่า Red Spider Lily
สำหรับภาษาญี่ปุ่นนั้นคือ 彼岸花(Higanbana) ซึ่งผมจะขอทับศัพท์ญี่ปุ่นนะครับ
ลักษณะ
ฮิกันบานะมีต้นสูงได้ราว 30-70 ซม. ใบใหญ่ราว 1 ซม. ยาว 50-60 ซม.
ดอกสีแดงส้มถึงแดงแบบสีเลือด ช่อดอกเป็นลักษณะช่อซี่ร่ม
มีดอกย่อย 5-6 ดอกในช่อ กลีบดอกม้วนไปด้านหลัง
ที่ญี่ปุ่นดอกฮิกันบานะจะบานสองครั้งในหนึ่งปี
ครั้งแรกจะเป็นสัปดาห์ที่ 3 ของฤดูใบไม้ผลิ (ราวๆ 18-23 มีนาคม)
ครั้งที่สองจะอยู่ในช่วงสัปดาห์ที่ 3 ของฤดูใบไม้ร่วง (ราวๆ 18-23 กันยายน)
ประวัติและเรื่องราว
ดอกฮิกันบานะนี้มีถิ่นฐานอยู่ในประเทศญี่ปุ่นมาแต่โบราณ
เนื่องจากที่ดอกฮิกันบานะจะบานเมื่อ ใกล้ถึงวันฮิกัน ซึ่งเป็นเทศกาลที่ชาวญี่ปุ่นไปเยี่ยมสักการะและทำความสะอาดหลุมศพ ชาวญี่ปุ่นจึงมักเอาดอกฮิกันมาเป็นดอกไม้ประดับสักการะหลุมศพ
อาจเพราะเหตุนี้ดอกฮิกันบานะจึงถูกนำไปเชื่อมโยงกับเรื่องเกี่ยวกับโลกหลังความตายก็เป็นได้
เมื่อหลังสงครามโลกที่ญี่ปุ่นเริ่มเปิดประเทศ กัปตันวิลเลียม โรเบิร์ต ก็ได้นำหน่อของต้นฮิกันบานะ กลับไปที่อเมริกาพร้อมกับพันธุ์พืชอื่นๆ ที่อเมริกาดอกฮิกันบานะจะบานก็เมื่อหลังฝนตกในฤดูใบไม้ร่วง
(ทำนองเดียวกับหน่อกระเจียวของไทยที่จะงอกขึ้นมาหลังจากได้รับฝนในช่วงฤดูฝนเท่านั้น)
ตำนาน
ท่านเคยได้ยินประโยคว่า "เห็นทุ่งดอกไม้อยู่ที่อีกฝั่งแม่น้ำ"มาก่อนหรือไม่?
แม่น้ำปรภพตามความเชื่อของญี่ปุ่นจะ เป็นที่ที่แบ่งระหว่างโลกของคนเป็นและคนตายออกจากกัน โดยมีฝั่งชิกัน(โลกมนุษย์) และฮิกัน(โลกหน้า หรือปรภพนั่นเอง) ไม่มีผู้ใดที่สามารถข้ามแม่น้ำไปได้ ยกเว้นผู้ที่สิ้นชีพแล้วเท่านั้น ที่ฝั่งฮิกันจะมีดอกฮิกันบานะสีแดงบานอยู่เต็มไปหมด
ดอกฮิกันบานะในฝั่งปรภพที่ลู่ดอกไปตามสายลมช่างดูสงบเงียบและหดหู่ หรือมันกำลังต้อนรับวิญญาณที่ข้ามฝั่งแม่น้ำมากันนะ?
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น