คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #56 : [SF] In bed (ครึ่งหลัง)
In bed vol.2
ร่างสูงของอู๋คนพี่ยืนเงียบๆคนเดียวริมระเบียง ท่าทางของเขาสมกับเป็นนายแบบ เสื้อยืดสีขาวและกางเกงยีนส์เท่ๆที่เขาสวมแค่นี้ก็ดูเท่อย่างกับหลุดมาจากแคทวอล์ค ควันบุหรี่ลอยคลุ้งไปทั่ว เขาใจยังใจเย็นและสูบมันเข้าปอดโดยไม่ทันรู้ตัวว่าร่างเล็กที่ยืนมองอยู่นานแล้วเดินเข้ามาหาเงียบๆ
“คริส”
“หืม?”
เขาลดฝ่ามือลงแล้วก็หันมาหาเพื่อรับอ้อมกอดเหมือนอย่างเคย
“หิวข้าวหรือยัง?”
“ยัง”
เขาตอบ ปลายนิ้วยังคงจับปลายผมนิ่มๆแล้วกดจูบแก้มเนียนของแทมินอย่างรักใคร่
“โกรธฉันหรือปล่าว?”
“……………….”
“นี่….อย่าเล่นหัวมากนักซี่ ถามหน่อยโกรธฉันหรือปล่าว?”
“เรื่อง?”
“จะเรื่องอะไรเล่า”
คนสวยถูกรั้งให้นั่งตักแกร่ง เก้าอี้สามสี่ตัวและโต๊ะเท่ๆที่อี้ฟานเลือกมาถูกร่างสูงอุ้มเอาร่างเล็กขึ้นไปนั่งห้อยขาอยู่ด้านบนแทน โคมไฟสำหรับเปิดกลางคืนเพื่อความโรแมนติกของอู๋ฟานก็ถูกโยนลงพื้นอย่างไม่ใยดี
“ถ้าโกรธน่ะ…โกรธไปตั้งนานแล้ว”
นั่นสินะ ถ้าโกรธเพราะเรื่องแทมินกับอี้ฟานน่ะ ป่านนี้โกรธไปตั้งนานแล้ว
“ขอโทษนะ”
“ขอโทษทำไมหืม?”
“ขอโทษจริงๆ เพราะฉันคนเดียว ถ้าอู๋ฟาน….อยากมีคนอื่น….ก็ได้นะ ฮึก….ฉันรู้ว่าฉันผิด ฉันงี่เง่า แต่ฉันก็ไม่อยากเลือกใครสักคน ไม่ว่าอู๋ฟานหรืออี้ฟาน”
“ลีแทมินเงียบน่า หยุดพูดอะไรแบบนั้น ไม่มีใครผิดไม่ต้องขอโทษและฉันก็ไม่เคยพูดว่าจะมีใคร เราตกลงกันแล้วว่าจะอยู่กันสามคนแบบนี้”
แบบนี้….แบบทุกวัน
คนสวยรู้สึกแย่เพราะแบ่งเวลาไม่ค่อยถูก เดี๋ยวนี้อี้ฟานงอแงบ่อยขึ้นแล้วเขาก็เอาแต่ใจมากๆ ส่วนอู๋ฟานแม้เขาจะดูเป็นผู้ใหญ่ชอบคิดอะไรเงียบๆนานๆจะเปิดปากพูดแต่ละที แทมินอยากให้เวลากับทั้งสองคนอย่างเท่าๆกัน แต่อู๋ฟานเป็นนายแบบไลฟ์สไตล์ของเขาไม่ได้อยู่เฉย เขาถ่ายแบบนอกสถานที่อยู่บ่อยๆบางครั้งก็ไปต่างประเทศ แต่ก็ใช่ว่าพวกเขาจะไม่เคยหิ้วกันไปทั้งสามคน แต่มันก็ไม่บ่อย เพราะฉะนั้นแล้วแทมินคิดว่าอี้ฟานคนน้องแทบจะได้เปรียบอู๋ฟานคนพี่อยู่มากหน่อย เขาเป็นนักดนตรี เล่นที่ผับที่เขาหุ้นกับเพื่อนสมัยเรียนมหาวิทยาลัยและค่อนข้างรักสนุกแต่ทุกครั้งก็กลับมาตายรังเสมอ
เมื่อสามเดือนก่อน ก่อนที่จะเป็นรักสามเราอยู่แบบนี้
แทมินเป็นแฟนกับอู๋คนพี่แล้วก็รักกันมาก งานวันเกิดของฝาแฝดแทมินก็อยู่ด้วย แล้วก็เผลอไปจูบกับอี้ฟานเข้า เรื่องมันก็เลยเลยเถิดและกลายเป็นรักสามเรา แต่แทมินไม่กล้าที่จะให้ใครออกไปสักคน แม้ว่าวันนั้นอู๋ฟานจะโกรธมากก็ตาม
“จะเอายังไงพูดมา!”
อู๋ฟานยืนชี้หน้าอี้ฟานแล้วก็มองเลยไปถึงร่างเล็กที่นั่งร้องไห้อยู่บนเตียง
“มันแก้ไขอะไรไม่ได้แล้วนี่หว่า”
คำพูดของอี้ฟานชวนให้ถูกหมัดหนักๆเสียจริง แต่คริสกลับใจเย็น แม้แววตาของเขาสามารถฆ่าทุกคนได้ก็ตาม
“ฉันรักแทมิน”
“ฉันก็รักแทมิน”
สองพี่น้องยืนยันหนักแน่นอย่างไม่มีใครยอมแพ้ใคร
“ไอ้ฟ่าน!”
“ทำไมวะ!”
สองหนุ่มเลือดร้อนพอกันทั้งคู่ ปล่อยหมัดใส่กันคนละหมัด
“พอแล้ว พอทั้งสองคนนั่นแหละ!”
“นายจะเลือกใครแทมิน ตอบมา ฉันหรืออู๋ฟาน!”
แทมินอึกอักตอบไม่ได้ แม้สายตาของสองหนุ่มจะกดดันให้พูดมากแค่ไหนก็ตาม
“ฉัน….ฉันตอบไม่ได้”
เกิดความเงียบพักใหญ่ก่อนที่อู๋คนน้องจะหุนหันคว้าแจ็คเก็ตสีดำแล้วหายออกไป อี้ฟานเป็นคนใจร้อนมากกว่าคนพี่เพราะฉะนั้นเขาน่าเป็นห่วงที่สุด
“คริส….ฉัน”
“ทำไมต้องเป็นเขา”
“………………”
“ทำไมต้องเป็นอี้ฟาน”
แทมินเงียบแล้วก็ร้องไห้เพียงอย่างเดียว จะให้เขาตอบว่ายังไง ในเมื่อแทมินเองก็หลงรักทั้งคู่ไปแล้ว
“ตอบฉัน นายจะเลือกใคร?”
“ม…ไม่รู้…ฉัน….”
“ถ้าอย่างนั้นฉันจะไปเอง”
“ไม่!....ไม่ คริส ฉัน….ฉันรักนายแต่ฉันก็รักอี้ฟาน ”
“บ้าน่า นายรักเขาเพราะเขาเหมือนฉันหรืออะไร”
“ฉันไม่รู้…แต่ฉันก็ไม่กล้าให้นายหรือเขาไป เราอยู่ด้วยกันสามคนไม่ได้หรือยังไง”
คำขอของแทมินดูจะเห็นแก่ตัวไปหน่อย แต่อย่างน้อยตอนนี้ร่างบางก็ไม่อยากเสียใครไปทั้งนั้นไม่ว่าจะเป็นอู๋ฟานหรืออี้ฟาน
อยู่กันสามคน อยู่กันแบบไหนลีแทมิน?
“ฟ่าน…นายอยู่ไหนวะ?”
ไม่บ่อยนักที่คนอย่างอู๋ฟานจะโทรหาน้องชายคนเดียวก่อนแบบนี้ ถ้าไม่มีเรื่องด่วนหรือสำคัญอะไร แม้พวกเขาทั้งคู่จะมีเบอร์ของกันและกันอยู่ในมือถือตามที
เป็นเวลาค่อนข้างดึกที่อู๋ฟานตัดสินใจอย่างเด็ดขาดที่จะโทรหาน้องชาย แทมินนอนหลับไปนานแล้วหลังจากที่ร้องไห้จนเหนื่อย แทมินคงจะแคร์อี้ฟานมากจริงๆเพราะขนาดหลับยังไม่ยอมห่างจากโทรศัพท์
‘เผื่ออี้ฟานโทรมาน่ะ’
แทมินบอกแบบนี้ เขาซึ่งรักแทมินไม่น้อยไปกว่าอี้ฟานเลย เข้าใจ….และใจกว้างพอที่จะไกล่เกลี่ยรักสามเรา ระหว่างเขา อี้ฟานและแทมิน
“นายจะรู้ไปทำไม”
“หยุดกวนตีนแล้วฟังฉัน”
เสียงปลายสายส่งเสียงกวนประสาทเล็กน้อยแล้วไม่นานเสียงเพลงดังๆที่ดังแทรกเข้ามาในโทรศัพท์ก็เงียบลง
“ว่าไง?”
“นายอยู่ไหน?”
“ฉันจำเป็นต้องตอบ”
“ฟ่าน….ฉันถามดีๆ ช่วยหยุดกวนตีนสีกทีสิวะ อยากมีเรื่องมากนักก็นัดมาไอ้ลูกหมา”
“เราได้มีเรื่องกันแน่อู่ฟาน”
“อยู่ไหน?!”
อู่ฟานขึ้นเสียงเพราะถ้าไม่เข้าเรื่องสักที อี้ฟานคงจะกวนตีนเขาอยู่แบบนี้ แม้เขาจะดูเงียบๆแต่ก็อดทนกับอี้ฟานไม่ได้มาก
“ผับ”
“กลับบ้าน ฉันมีเรื่องจะคุยกับนาย”
“คุยในโทรศัพท์ก็ได้ ฉันไม่ว่างมากพอที่จะมาฟังเรื่องไร้สาระของนาย”
อี้ฟานตัดสายทิ้งแล้วก็สบถคำด่าออกมาก่อนจะเก็บโทรศัพท์เข้ากระเป๋ากางเกง
*ค_ย
เสียงสมาร์ทโฟนดังขึ้นติดๆกันหลายครั้ง พร้อมกับข้อความวีดีโอปากฎอยู่ตรงหน้า ในวีดีโอคือแทมินที่ถูกถ่ายโดยอู๋ฟาน คิ้วเรียวขมวดเข้าหากันแน่น แม้ว่าจะหลับอยู่ก็ตาม คราบน้ำตาและตาบวมๆรวมถึงโทรศัพท์ที่วางอยู่ข้างตัว แค่นี้ก็บอกให้รู้แล้วว่าแทมินกำลังรอเขากลับบ้าน
อี้ฟานยกแก้วสุดท้ายกรอกลงคอรวดเดียวหมด พอกันที เขาไม่สนอะไรทั้งนั้น เขารักแทมินและก็ยอมไม่ได้ที่จะต้องเสียแทมินไปแม้ว่าคนที่เป็นแฟนกับแทมินคนแรกจะเป็นพี่ชายฝาแฝดแท้ๆก็ตาม ก่อนกลับบ้านคริสค่อนข้างเมานิดๆ เขามีเรื่องกับแขกที่ผับจนได้แผลที่มุมปาก เขาเดินเซมาที่มอเตอร์ไซค์คันใหญ่ก่อนจะตวัดขายาวๆขึ้นค่อมและพุ่งทยานออกไปในถนนแห่งแสงสี แรงลมยามค่ำคืนเย็นจัดจนต้องกระชับเสื้อคลุม ในหัวของเขาไม่มีอะไรเลยนอกจากเรื่องราวของแทมินและพี่ชายฝาแฝด
อยู่กันสามคน….แค่คิดก็ผิดแล้ว
แล้วใครสน ก็แค่มีคนยอมถอยแค่เพียงคนเดียว แต่ก็นั่นแหละ ไม่มีใครยอมถอยซ้ำยังก้าวเข้ามาคนละก้าวและก็ผูกติดกันโดยไม่มีใครยอมไปไหน
แทมินถูกอู๋ฟานจูบจนเจ็บปากไปหมด แต่ก็ยิ้มอย่างเต็มใจแล้วก็ปล่อยให้ร่างสูงกอดและโยกตัวเบาๆ
“คืนนั้นที่นายเห็นสภาพอี้ฟานแล้วร้องไห้ ฉันเกือบจะเป็นบ้า”
อู๋ฟานกระชับตัวแทมินแน่นๆ แล้วก็ซุกซอกคอขาวเบาๆ
“เขาเจ็บหนัก….แล้วฉันก็กลัวว่าจะเสียเขาไป”
แทมินตอบ
“เหมือนกับที่ฉันกลัว…”
“อู๋ฟาน….”
“แล้วตอนนี้ฉันดูรักเขามากกว่านายหรือไง?”
“หมอนั่นเจ้าเล่ห์ สำออย นายเองก็เชื่อ”
“โธ่คริส…นายเองก็เป็นไปกับอี้ฟานด้วยหรือไง ฉันรู้หรอกน่า ว่าอันไหนเรื่องจริงอันไหนหลอก”
“แล้วคืนนี้ว่าไง?”
เขาเผยยิ้มอย่างมีเลศนัยน์ ดวงตาอู๋ฟานไม่ได้เจ้าเล่ห์น้อยกว่าอี้ฟานเลย เขานิ่งแต่เวลาจริงจังขึ้นมาล่ะก็….ยากจะปฏิเสธ
“ไม่เอาน่า นายขอแบบนี้คืนต่อไปอี้ฟานก็จะเอาบ้างนะ แล้วนายก็จะพาลโกรธน้องไม่ใช่หรือไง”
“ไอ้หมอนั่นมันอยู่กับนายจนนำหน้าฉันไปแล้ว”
“ไม่เอาน่าคุณนายแบบ งอแงมากๆเดี๋ยวผิวนายจะเสียนะ”
แทมินว่า เพราะเมื่อครั้งหนึ่งเคยร่วมรักกับเขา แล้วมันก็สุดยอดมากจนทำให้ผิวสีแทนของเขาเกิดรอยขึ้นมา ทั้งต้นคอ กลางแผ่นหลัง เขาไม่ใช้เมคอัพใดๆลบแม้ว่าการถ่ายแบบในวันนั้นจะเต็มไปด้วยรอยอะไรๆก็ตาม
“ฉันไม่สน”
เอาอีกแล้วพ่อฝาแฝดคนพี่
“คริส”
แทมินเสียงอ่อน ปล่อยให้เขาจับ เขาจูบจนพอใจ บางอย่างที่เหนือการควบคุมมันค่อยๆส่งผลให้ร่างขาวเนียนร้อนขึ้นไปอีกทีละนิด
“คริส….ไม่ได้นะ”
“อยู่เฉยๆน่า”
“แต่เสียงมันอาจจะ…..”
“อย่ากลัวน่าคนสวย ป่านนี้อี้ฟานมันคงจะบ้าตายกับกีตาร์ตัวโปรดไปแล้ว”
“คริส?!”
แทมินตาโต และกว่าจะได้ตำหนิที่เขาบังอาจไปทำของรักของหวงของอี้ฟานเข้า นายแบบรูปหล่อก็จัดการปลดกางเกงนอนตัวเล็กๆของแทมินออกแล้วก็จัดการตรงระเบียงกลางแจ้งนั่นแหละ
“คริส….อือ….ไม่ไหวนะ”
แทมินเสียงสั่น ตึกสูงหลายสิบชั้นไม่ได้มีแค่ตึกเดียว ถ้าเกิดว่าใครเปิดประตูระเบียงออกมาแล้วมองมาที่ฝั่งตรงข้าม อาจจะเห็นบทรักร้อนๆของคุณนายแบบกับแฟนหนุ่มเข้า
“ไม่เป็นไรน่า คนสวย”
เขาปลอบ แล้วจัดการอุ้มร่างบางขึ้นมาทั้งที่ด้านล่างยังผูกติดกัน อู๋ฟานกัดฟันแน่น ตรงนั้นของแทมินแน่นซะจนเขาหายใจลำบาก ยิ่งเขากระแทกเข้าไปด้านในความอุ่นร้อนที่โอบแน่นยิ่งทำให้เขารู้สึกดี
แทมินเองก็กอดคอเขาแน่นเสียงครางก็สั่งเหมือนคนจะขาดใจตาย มีบางจังหวะที่แทมินอาจจะเสียวหรือรู้สึกดีมากๆจนตอบสนองเขาอย่างรุนแรง ร่างสูงจึงทำได้เพียงครางฮึมในลำคอคล้ายเสือล่าเหยื่อ ฝ่ามือแข็งแรงก็บีบนวดก้นนิ่มๆอย่างพอใจ
“คริส….”
“ครับ”
“ข้างในนะ…ขอเถอะ…อืออ”
แทมินอ้อนแล้วก็เป็นฝ่ายโน้มศรีษะของคริสลงมาเพื่อขอจูบ ใบหน้าแดงๆที่คริสเห็นประจำเวลาร่วมรัก ยิ่งทำให้เขาเอ็นดูแทมินมากกว่าทุกวัน
“ไม่มีใครเห็นเราน่า”
“คริส….อื้อ…จะตายแล้วนะ…บนเตียง”
“หืม?”
“นะ…..”
เขาหัวเราะแล้วก็เปิดประตูระเบียงเข้ามาในห้อง เสียงทุบประตูดังอย่างต่อเนื่อง ไม่บอกก็รู้ว่าใครเป็นคนทำ
“อู๋ฟานเปิดประตูเดี๋ยวนี้!!!!”
อี้ฟานเป็นพวกใจร้อน เขาให้อู๋ฟานช้าแค่ห้านาทีก็เกินพอแล้ว
“แกเอาแทมินไปไว้ไหนวะ!!!!”
“คริส”
“เงียบน่าคนสวย เดี๋ยวฟ่านมันก็หยุดไปเอง”
“อือ….อา…”
เสียงโครมครามเงียบลงจนนึกว่าอี้ฟานถอดใจไปซะแล้วแต่ไม่นานนักก็ตามมาด้วยเสียงกริ้กเบาๆ ทั้งแทมินและอู๋ฟานผละจากกันอย่างไม่ตั้งใจ สีหน้าของแฝดพี่ไม่ค่อยสบอารมณ์ เขาเกือบจะโยนกีตาร์สุดหวงของอี้ฟานทิ้งระบายอารมณ์ลงพื้นซะแล้ว
“เอาแทมินมาซ่อนไม่พอ นายยังเอากีตาร์ของฉันมาเล่นอีก!”
อี้ฟานหงุดหงิด แล้วก็เกือบจะพาลทะเลาะกับอู๋ฟาน
“ทำไมฉันจะเล่นกีตาร์ของนายไม่ได้วะ?”
“นายโกหกไม่เนียนว่ะ นายเล่นไม่เป็น”
ใช่…..เป็นฝาแฝดกันก็จริงแต่ความเชี่ยวชาญต่างกันอย่างเห็นได้ชัด อู๋ฟานรักกีฬาเขาเก่งบาส ส่วนอี้ฟานได้พรสวรรค์เรื่องดนตรีมาเต็มๆ เขาเล่นได้เกือบทุกอย่าง แต่ที่เขาโปรดปราณที่สุดก็คงจะเป็นกีตาร์ตัวปัญหาที่วางอยู่บนตักของแทมิน
อี้ฟานเดินเข้าไปนั่งซ้อนหลังแทมินแล้วก็จับมือเล็กๆของแทมินไล่ไปตามโน้ต ส่วนอีกมือก็โอบเอวบางๆเอาไว้
“ไอ้ฟ่านปล่อยแทมิน!”
“นายกอดแฟนฉันมาพอแล้ว”
หลักฐานชัดเจนอยู่ในกางเกงอู๋ฟาน มันชี้หน้าเขาชัดเจนและไอ้บ้านี่ยังมายืนให้ลูกชายตั้งเด่อยู่ได้
“คริส…อือ….”
แทมินเองก็คงไม่ต่างกัน
ฝ่ามือของอี้ฟานสอดเข้าใต้กางเกงและจับร่างกายของแทมิน
“คริส….”
สายตากลมเว้าวอน เมื่อถูกฝ่ามือหนาสัมผัสอย่างแผ่วเบา ริมฝีปากกลมๆถูกจูบซำแล้วซ้ำเล่า ความเอาแต่ใจของแฝดน้องเริ่มต้นขึ้น เขาโยนกีตาร์ตัวโปรดลงข้างเตียงอย่างไม่สนใจเพราะตอนนี้สิ่งที่เขาสนใจกว่าคือเครื่องดนตรีดิ้นได้และส่งเสียงได้บนเตียงนี้ต่างหาก ไม่ว่าจะจับตรงไหน ถูกตรงไหนมักจะเปล่งเสียงครางหวานๆให้ใจสั่นได้ทุกที
แทมินอ้าขาเมื่ออี้ฟานโน้มตัวลงมา สายตากลมมองผ่านไปหาอู๋ฟาน เขายืนทำน่านิ่งจนน่าใจหาย
“สนใจกันหน่อยคนสวย”
เขาบอกและรุกจูบจนแทมินความคิดเตลิด ก่อนหน้าอี้ฟานเข้ามาเขาก็พึ่งถูกอู๋ฟานเล้าโลม ฝ่ามือและริมฝีปากของอู๋ฟานยังไม่ทันจางหาย คราวนี้คนน้องก็เข้ามาอีก อี้ฟานบดคลึงริมฝีปากอิ่มอย่างรุนแรง ขณะเดียวกันฝ่ามือของเขาก็ปัดป่ายไปทั่วผิวขาวๆอย่างย่ามใจ เสียงแทมินครางด้วยความทรมานอยู่ข้างหู แล้วหลังจากนั้นก็กลายเป็นอี้ฟานอุ้มร่างเล็กให้เป็นฝ่ายควบคุมตนเองบ้าง
“อื้ออออ….”
“เครื่องร้อนแล้วคนสวย จัดการให้หน่อย”
เขาบอกด้วยท่าทีสบาย คนสวยที่นั่งทับหน้าท้องแกร่งแต่แรก ย้ายตัวเองลงไปนั่งตรงหน้าขาและปลดกางเกงยีนส์ของพ่อหนุ่มร็อคเกอร์ลงมา ความใหญ่โตของเขาผงาดอยู่ภายใต้กางเกงชั้นในสีเข้ม
คนสวยที่ไม่ว่ามองมุมไหนก็วิวดีไปหมดก้มหน้าลงไปจัดการกับลิตเติ้ลอู๋ ความใหญ่โตของมันตึงคับปากจนร่างบางเกือบสำลักออกมาหลายครั้ง แต่แบบนั้นก็ยังตั้งใจจัดการลิตเติ้ลอู๋เพื่อให้คริสพอใจ
“อ๊ะ!......”
แทมินตาโตด้วยความตกใจเมื่อมือหนาจับหมับเข้าที่สะโพกด้านหลัง ปลายลิ้นอุ่นๆก็โลมเลียอยู่ตรงเนื้อนิ่ม ชักเข้าออกเบาๆจนร่างบางอดครางด้วยความเสียวไม่ได้
“อือ…..”
อู๋ฟานละมือออกจากผิวเนื้อหวานลิ้น เขากุมสะโพกนิ่มแล้วยกขึ้นสูงก่อนจะแทรกกายเข้าไปด้านในอย่างไม่ต้องเล้าโลมให้สียเวลา ความร้อนในกายของแทมินบีบเขาแทบคลั่งตาย คนสวยที่ถูกปลุกเร้าทั้งด้านหน้าด้านหลัง สอดรับกับเกมส์รักอย่างไม่ยอมแพ้ เสียงครางหวานๆยามเมื่ออี้ฟานปล่อยให้เป็นอิสระ แต่ไม่นานนักอู๋ฟานก็แทรกเข้ามาเป็นแบบนี้อยู่เรื่อยๆ สองหนุ่มไม่มีท่าทีหมดแรงแม้ว่าพึ่งผ่านศึกรักอันหนักหน่วงมาตั้งแต่เมื่อคืน
“ฟ่านอย่าเอาแต่ใจนักสิวะ เดี๋ยวแทมินก็ไม่สบาย”
อู๋ฟานดุอี้ฟานอย่างไม่จริงจังนักเมื่อพ่อร็อกเกอร์หนุ่ม จัดการคนสวยท่ามกลางแอร์เย็นจัด อู๋ฟานยอมรามือแล้วออกไปสูบบุหรี่เงียบๆอยู่บนโซฟา สายตาคมเข้มก็จดจ้องน้องชายฝาแฝดที่กำลังรั้งสะโพกนิ่มๆเข้าหาตัวอย่างไม่ออมมือ
“ฉันจะดูแลเองถ้าแทมินไม่สบาย”
อี้ฟานตอบอย่างไม่มีสมาธิ เพราะตรงนั้นกำลังโอบรัดร่างกายเขาแน่น การที่จะรอฟังคำถามหรือคำสั่งจากอู๋ฟานละก็ ฝันไปเถอะ สมาธิเขาหายไปกับเสียงหวานๆนั่นแล้ว
“ไอ้ฟ่าน!”
อู๋ฟานว่าแล้วก็เตรียมจะกัดอี้ฟาน แต่ร่างบางกลับช้อนตาโตๆขึ้นมอง
“นี่…อึก…ยะ….อย่างี่เง่าได้มั้ย”
“นายก็ดูมันสิ พอเห็นนายตามใจหน่อยไอ้หมอนี่ก็เอาใหญ่”
“อี้ฟาน…..”
เสียงแทมินขาดไปตามแรงกระแทก หัวกลมๆสั่งคลอนจนมองเห็นห้องทั้งห้องหมุนไปหมด แต่ไม่นานนักพ่อหนุ่มร็อคเกอร์เร่งจังหวะโซโล่ดนตรีกับร่างบางๆของแทมิน
เขาครางเสียงสั่นแล้วก็รั้งสะโพกนิ่มเข้าหาตัวอัดฉีดน้ำร้อนๆเข้าไปจนล้นออกมาด้านนอก
“อื้อ….หนัก!”
แทมินว่าตอนที่ฟุบลงไปบนเตียงแล้วฝาแฝดคนน้องก็ฟุบลงมาติดๆกัน
“โอเคๆ ฉันยอมแล้ว”
เขาจูบแทมินแล้วก็กอดแน่นๆไว้ในอ้อมแขน จังหวะนั้นอู๋คนน้องยื่นมือเพื่อขอบุหรี่จากคนพี่และเขาก็ได้มันไป
“วันนี้นายดูแปลกๆนะอู๋”
“ยังไงวะ?”
“ปกตินายไม่ยอมให้ฉันกอดแทมินคนเดียวแน่”
“ก็พอดีมีงานด่วน”
“ก็ดี คราวนี้ก็ไปไกลๆเลยนะ ไปสักอาทิตย์นึงยิ่งดี”
อี้ฟานซุกหน้าลงกับต้นคอด้านหลังของแทมินแล้วก็พรมจูบอยู่แบบนั้น
“แน่นอน คราวนี้ฉันไปนิวยอร์ก”
อี้ฟานดีดนิ้วดังเป๊าะแล้วก็ยิ้มระรื่นในใจ
“แต่ไม่ต้องห่วง ฉันจองทริปสวีทสำหรับสองคนเอาไว้แล้ว ส่วนนายก็อยู่ที่นี่ไป แต่ถ้าขืนนายยุ่มย่ามหรือเอาแต่ใจจนแทมินใจอ่อนละก็…..ไอ้ผับกระจอกๆของนายน่ะมันจะกลายเป็นร้านเหล้าธรรมดาไปเลย”
นี่สินะเหตุผลว่าทำไมอู๋ฟานถึงใจดียอมให้กอดแทมินแถมยังไม่คิดค่าเสียโอกาส เขาได้ยินเสียงร่างเล็กหัวเราะเบาๆนี่คงจะแอบไปเตรียมการกันไว้แน่ๆ ให้มันได้อย่างนี้สิ!
สามคนสามความคิด…..ก็เลือกแล้วนี่….ก็ต้องยอมๆกันไป
วันพระไม่ได้มีหนเดียว!
ความคิดเห็น