ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic Exo] พิษรัก สัญญาลวง [ChanBaek] [NC18+]

    ลำดับตอนที่ #14 : ยายของเซฮุน

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.68K
      10
      16 พ.ย. 56











                “กริ้งงงงงงงง”

     

     

    เมื่อเสียงนาฬิกาปลุกบนหัวนอนดังขึ้น ชานยอลจึงงัวเงียลุกขึ้นจากเตียงในช่วงเช้าตรู่ของวันใหม่ แล้วเดินเข้าไปห้องน้ำ ทำธุระกิจวัติประจำวัน ก่อนจะออกมาเปลี่ยนอยู่ในชุดนักธุรกิจราคาแพง เพื่อเตรียมตัวไปทำงานที่ค้างไว้รอให้เขาจัดการ ร่างสูงจ้องมองตัวเองตรงหน้ากระจก สำรวจการแต่งตัวให้เป็นระเบียบเรียบร้อย ประธานบริษัทบริษัทอย่างเขาต้องดูดีที่สุด ถึงจะเหมาะสมกับฐานะ และตำแหน่ง 

     

     

    เมื่อคิดว่าชุดที่ใส่นั้นเรียบร้อยดีแล้ว ชานยอลก็ปิดประตูบ้านแล้วล็อกกลอนไว้เสียแน่นหนา พลางหันไปมองสุนัขของเขา ซึ่งกำลังถูกล่ามโซ่อยู่หน้าบ้านหลังเล็กของมัน 

     

     

    “เมื่อวานแกดื้อมากเลยนะ เพราะฉะนั้นฉันจะไม่ให้แกออกไหนอีก เฝ้าบ้านอยู่แบบนี้แหละ แล้วก็ห้ามให้ใครเข้ามาขโมยเด็ดขาด เข้าใจมั้ย ไอ้ตัวแสบ” เข้าก้มตัวลงไปขยี้หัวมันอย่างรักใคร่ 

     

     

    “ส่วนอาหารของแก ฉันใส่ไว้ให้จนเต็มจานแล้วนะ แกกินทั้งวันก็ไม่หมดหรอก ฉันไปก่อนล่ะ”  พูดจบ ชานยอลก็ผละออกจากบริเวณนั้น แล้วขึ้นรถคันหรูของเขาไป 

     

     

    อีกไม่นาน หลังจากที่ทำโปรเจ็คใหญ่นี้เสร็จเมื่อไหร่  ชานยอลก็จะย้ายออกไปอยู่ที่บ้านหลังใหม่ทันที พร้อมกับขายบ้านหลังนี้ทิ้ง 

     

     

    เจ้าของร่างสูง ขับรถไม่ถึงชั่วโมงก็มาทันเวลาเข้าบริษัทพอดี ซึ่งวันนี้ โชคดีที่รถไม่ค่อยติดเหมือน ทุกๆวัน ถ้าสายก็คงโดนเซฮุนดุอีกแน่ๆ 

     

     

    “แหม วันนี้มาเร็วผิดปกตินะเนี่ย” 

     

     

    เซฮุนผลักประตูเข้ามาพูดทักทาย หลังจากที่ชานยอลหย่อนกายลงนั่งเก้าอี้ทำงานของเขา 

     

     

    “ก็รถไม่ติดน่ะ เลยมาเช้า” 

     

     

    “ขับรถมาไกลแบบนี้ผมก็เป็นห่วงนะ” 

     

     

    “อืม เสร็จโปรเจ็คใหญ่แล้ว ฉันกะว่าจะตบแต่งบ้านหลังใหม่ที่ฉันซื้อแล้วก็ย้ายเข้าไปอยู่ทันที ฉันเองก็ไม่อยากขับรถไปไกลมาไกลแบบนี้เหมือนกัน” 

     

     

    “งั้นก็ดีแล้ว” 

     

     

    “อืม ว่าแต่ยายของนายเป็นยังไงบ้าง” 

     


    ชานยอลเปลี่ยนประเด็นใหม่ถาม เอาจนคนทีกำลังจะตอบถึงกับตีสีหน้าเหนื่อยๆ เมื่อมันป็นปัญหาใหญ่ของเซฮุน 

     

     

    “เฮ้อ... รู้สึกว่าจะหนักขึ้นกว่าเดิมครับ เมื่อคืนหมอก็ถึงกับต้องให้ยาสลบ... แต่ยังดี ที่เมื่อเช้านี้ ยายผมตื่นมาแล้วยังจำผมได้ เพราะบางครั้ง แกก็จะจำใครไม่ได้เลย” 

     

     

    “คนแก่ก็อย่างงี้แหละ หลงๆลืมๆเป็นเรื่องธรรมดา” 

     

     

    “ครับ แต่ผมก็ยังมีอะไรสงสัยมากกว่านั้น คือยายของผมไม่ได้เพ้อถึงคนที่ชื่อแบคฮยอนอะไรนั้นอย่างเดียวนะครับ เธอยังเพ้อถึงชื่อ คุณ ซอฮยอน รวมทั้ง พี่ด้วยนะ” 

     

     

    “เพ้อถึงฉันกับคูหมั้นของฉันอย่างงั้นเหรอ”  เขาทวนคำถามขึ้น พลางขมวดคิ้วเข้าหากันอย่างงุนงง 

     

     

    “ใช่ครับ แล้วก็บอกว่า ความผิดทั้งหมดเป็นเพราะพวกพี่ เเกไม่เกี่ยว จากนั้นยายของผมก็อาละวาดหนัก เขวี้ยงของจนแตกไปหมดทั้งห้อง ค่ายายังไม่แพงเท่ากับที่สิ่งเเกทำเลยครับ เหมือนว่าไล่ใครสักคนให้ไปพ้นๆอย่างนั้นแหละ” 

     

     

    เซฮุนระบายอาการของยายให้ชานยอลฟังอย่างละเอียด รู้สึกสงสารยายตัวเองทุกครั้ง เมื่ออาการยายกำเริบ... คิ้วหนาๆของชานยอลยิ่งขมวดเข้าหากันใหญ่  ก่อนจะตามมาด้วยคำถามด้วยความสงสัย 

     

     

    “นายจะหมายความว่า ยายของนายกลัวในสิ่งที่มองไม่เห็น แล้วก็กลัวว่าจะโดนทำร้าย อย่างงั้นหรอ” 

     

     

    “ไม่รู้สิครับ ผมยังหาข้อสรุปอะไรไม่ได้เลย แม่ผมบอกว่าอาการของยายกำเริบมาสามครั้งแล้วครับ... ครั้งแรก ก็เมื่อสิบกว่าปีแล้ว แต่ว่าอยู่ๆจากนั้นอาการของเเกก็หายไปเอง แล้วก็ไม่ได้เพ้ออะไรอีกเลย เหมือนกับว่าลืมทุกอย่าง....ครั้งที่สอง เมื่อแปดปีที่แล้ว ยายผมก็กลับมาคลุ่มคลั่ง เเล้วอาการก็หายไปเองอีกเหมือนกัน ส่วนตอนนี้ ล่าสุด สามเดือนที่ผ่านมา ยายผมก็กลับมาเป็นอีก แล้วก็เป็นหนักกว่าทุกครั้งด้วย”

     

     

    สิบกว่าปีที่แล้ว แปดปีที่แล้ว และปัจจุบัน

     

     

    ชานยอลทวนคำถามครุ่นคิดในใจ ก่อนจะขยับปากพูดขึ้นด้วยเสียงเครียดจัด 

     

     

    “แต่ละครั้งที่อาการของเธอกำเริบ มันเป็นเวลาที่ฉันมาเกาหลีทุกครั้งเลยนะ” 

     

     

    “เหรอครับ” เซฮุนถามด้วยความสนใจ 

     

     

    “อืม สิบกว่าปีที่แล้ว มันเป็นเวลาที่ฉันจบมอต้น แล้วแม่ของฉันก็พามาเที่ยวเกาหลีตอนช่วงซัมเมอร์ ส่วนแปดปีแล้วก็เหมือนกัน ฉันมาเที่ยวตอนฉันจบมอปลาย แล้วก็เมื่อสามเดือนที่แล้วฉันมาดำเนินธุระกิจต่อจากพ่อของฉัน”  ชานยอลชี้แจ้งอย่างละเอียด 

     

     

    เซฮุนนิ่งฟัง ก่อนจะขยับปากพูดออกความเห็น 

     

     

    “แล้วมันจะเกี่ยวกันมั้ยครับ” เซฮุนต่อเสียงอย่างสงสัย 

     

     

    ชานยอลนิ่งคิด ยังคงสรุปไม่ได้หรอก ว่ามันจะเกี่ยวกันหรือว่าเป็นเรื่องบังเอิญ ในเมื่อ หนังสือเรียนมันไม่เคยพิมพ์ออกมาเกินเลยจากลักษณะประวัติศาสตร์เลยสักครั้ง 

     

     

    “ไม่รู้ แต่เลิกงานแล้วนายพาฉันไปหายยายของนายหน่อยนะ” 

     

     

    “ได้ครับ” เซฮุนรับปากทันที 

     

     

    “โอเค ถ้างั้นนายก็กลับไปทำงานเถอะ ต้องรีบทำให้เสร็จเร็วๆ” 

     

     

    “ครับ” ว่าแล้วเซฮุนก็ผละออกจากห้องทำงานของพี่ชายไป แล้วเดินตรงไปยังห้องทำงานของตัวเอง เพราะยังมีเอกสารหลายกองรอให้เขาต้องจัดการ 

     

     

     

     

     

    เมื่อเวลาหลายชั่วโมงผ่านไปก็ถึงเวลาเลิกงาน 

     

     

    เซฮุนขับรถเบนซ์คันหรูไปยังโรงพยาบาลแห่งหนึ่ง โดยที่มีชานยอลขับตามรถหลังมา ซึ่งโรงพยาบาลดังกล่าวก็ดูทันสมัยที่สุดในกรุงโซล  ชานยอลเงยหน้าขึ้นมองตึกสูงราวเชียดฟ้า ก่อนจะปลดเข็มขัดนิรภัยเดินตามเด็กหนุ่มรุ่นน้องไป 

     

     

    เซฮุนพาชานยอลมาที่ห้องคนไข้บนชั้นเจ็ด เขาผลักประตูเข้าไปเมื่อมาถึงห้องพักของยายเขา 

     

     

    ภายในห้อง มีเพียงแค่หญิงชราคนหนึ่งนอนหลับตาพริ้มบนเตียงคนไข้ พร้อมทั้งหญิงวัยกลางคน ซึ่งนั่งปลอกผลไม้อยู่ข้างๆเตียง 

     

    ครอบครัวของเซฮุนมีเพียงแค่สามคน.. ถึงแม้บิดาจะเสียชีวิตไปนานแล้วเพราะอุบัติเหตุ แต่ความรักของครอบครัวเซฮุน ก็ยังคงอบอุ่นอยู่เสมอ สังเกตุได้จากรอยยิ้มที่แม่เขาส่งมาให้ 

     

     

    “มาเยี่ยมยายแล้วหรอลูก”

     

     

    “ครับ ตอนนี้ยายเป็นอย่างไรบ้าง” กระแสเสียงของชายหนุ่มล้วนแต่แสดงถึงความห่วงใย 

     

     

    “ก็เหมือนเดิมแหละ  แล้วลูกพาใครมาด้วยล่ะนั่น” 

     

     

    หญิงวัยกลางคนถาม เมื่อสังเกตุเห็นชายหนุ่มที่มีรูปร่างสูงกว่า ยืนอยู่ข้างๆบุตรชาย 

     

     

    “ออ พี่เขาประธานของบริษัทครับ เขาอยากมาเยี่ยมอาการของยายเราน่ะครับ” เซฮุนแนะนำให้รู้จัก 

     

     

    “สวัสดีครับคุณน้า ผมปาร์คชานยอลครับ” ชายหนุ่มก้มหัวทักทายผู้ใหญ่ตามมารยาท 

     

     

    “ปาร์ค ชานยอลอย่างงั้นหรอ” เธอทวนชื่อของเขา พลางขมวดคิ้วเรียวเข้าหากัน 

     

     

    “ครับ  ผมชื่อปาร์ค ชานยอล” เขายืนยันเสียงเดิม

     

     

    “บังเอิญใช่มั้ยครับ แม่” 

     

     

    “ใช่ บังเอิญมาก” เธอครางเสียงบางเบา 

     

     

    “เซฮุน เขาเล่าเรื่องคุณยายให้ผมฟังหมดแล้วครับ เห็นว่าท่านเพ้อเรียกชื่อผมเกือบทุกครั้งทเมื่ออาการกำเริบ” 

     

     

    “ใช่จ้า แล้วก็ชื่อแบคฮยอนอะไรนั่นด้วย ฉันไม่เข้าใจเลย อาการของแกเป็นมาหลายครั้งแล้ว แต่คราวนี้รู้สึกว่าจะหนักกว่าแต่ก่อนมาก” 

     

     

    “น้ำ ฉันหิวน้ำ” 

     

     

    เสียงแหบพร่าของหญิงแก่ดังแทรกขึ้นระหว่างการสนทนา ทำให้ทุกคนที่เหลือต่างก็หันหน้าไปมอง หญิงแก่พยายามลืมเปลือกตาขึ้นมองด้วยความที่อ่อนล้า 

     

     

    “น้ำเหรอคะ เดี๋ยวฉันจะเอาให้นะแม่” 

     

     

    ผู้เป็นลูกสาว รีบหยิบแก้วน้ำ รินน้ำให้มารดาทันที เธอค่อยๆพยุงแม่ให้ลุกขึ้นดื่มน้ำอย่างกระหาย ก่อนจะประคองหญิงชราให้หงายตัวนอนลงตามเดิม 

     

     

    “เป็นไงบ้างคะ แม่” 

     

     

    “ค่อยยังชั่วแล้ว นี่แม่หลับไปนานมากหรอ ทำไมท้องฟ้าถึงได้มืดแล้ว” 

     

     

    หญิงชราถามเพราะจำได้ว่าตอนที่เธอหลับไป ยังเป็นช่วงบ่ายแก่ๆอยู่เลย....  แม่ของเซฮุนยิ้มให้บางๆ เพราะยังดีที่ผู้เป็นแม่ยังจำได้ว่าเธอคือลูกสาว 

     

     

    “ค่ะ.... แม่คะ วันนี้หลานชายของแม่มาเยี่ยมด้วยนะ รวมทั้งหัวหน้าบริษัทของหลานด้วย นั่นไงคะ” 

     

     

    เธอผ่ายมือให้หญิงชราไปมองหลานชาย พร้อมทั้งรอยยิ้ม แต่เมื่อขณะที่สายตาไปสะดุดกับร่างสูงของชานยอลเข้า เธอก็เบิ่งตากว้างขึ้น ราวกับไม่เชื่อในสิ่งที่เห็น 

     

     

    “คุณ คุณ ชานยอล กรี๊ด!!” หญิงชรากรีดร้องออกมาดังๆ คนที่เหลือถึงกับผงะด้วยความตกใจ โดยเฉพาะกับคนที่ถูกเอ่ยชื่อ 

     

     

    ออกไปเดี๋ยวนี้! ออกไป อย่ามาหาฉัน ฉันไม่ได้เป็นคนผิด ออกไป!!เธอตวาดเสียงโวยวายดังลั่น ราวกับคนเสียสติ พร้อมทั้งใช้มือเหี่ยวย่น หยิบของใกล้ๆที่พอจะเป็นอาวุธได้ เธอก็จัดการขว้างมันไปยังชานยอล และด้วยความที่เขาหลบไม่ทันจึงโดนลูกหลงเข้าเต็มหน้าผาก 

     

     

    “โอ๊ย!!” 

     

     

    ชานยอลยกมือขึ้นกุมหน้าผากด้วยความเจ็บปวด พอคลายมือออกมา เขาก็เห็นว่ามีเลือดสีแดงสดไหลออกมาไม่หยุด 

     

     

    “คุณยายครับ เขามาดีนะครับ คุณยายไปทำร้ายเขาทำไม” เซฮุนรีบถลาเข้าไปกอดกระชับยายของเขาไว้ ไม่ปล่อยให้เธออาระวาดไปมากกว่านี้

     

     

    “ออกไป ฉันบอกให้ออกไป” 

     

     

    หญิงแก่ไล่ ขณะที่มารดาของเซฮุนก็รีบกดปุ่มเรียกพยาบาลข้างนอก 

     

     

    “คุณชานยอล ไปให้หมอทำแผลก่อนนะคะ เลือดไหลออกไม่หยุดเลย” แม่ของเซฮุนสั่ง ขณะที่หญิงชรายังดิ้นอยู่ในอ้อมกอดของหลานชายอย่างทุรนทุราย 

     

     

    “ครับๆ ผมจะออกไปเดี๋ยวนี้แหละ” ว่าแล้ว ชานยอลก็หมุนตัวออกจากห้องนั้นไป มือใหญ่หนายังกุมเลือดไม่ให้มันไหล 

     

     

     

    เป็นจังหวะที่หมอหลายคนรีบวิ่งเข้ามาดูอาการอย่างชุลมุน พร้อมทั้งให้ยาสลบชนิดรุนแรงเพราะมันเป็นวิธีเดียว ที่จะห้ามยายของเขาให้สงบสติอารมณ์ลงได้














    ตอนหน้าก็จะได้เจอกับแบคแล้วนะ แล้วก็เป็นวิธีไม่กี่วิธีที่จะเห็นแบคฮยอนจ้า 

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×