ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    WONDER GIRLS . Short fiction ( WG - Yuri )

    ลำดับตอนที่ #7 : [SF] Yubin x Jessica : Ugly Ducky...part1

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 657
      9
      23 ก.ย. 59

     


    Shot Fiction : Ugly Ducky
    Characters : Yubin x Jessica
     
     

     

    1

     

     

     

              “อ๊ายยย !! เธอเรียกฉันว่าอะไรนะ !” เสียงใสตะโกนลั่นทางเดินภายในตึกเรียน เรียกความสนใจแก่สายตาทุกคู่ได้เป็นอย่างดี แต่เมื่อมองมาที่ตัวต้นเสียงกับคนที่เป็นต้นเหตุของเสียงนั่น ทุกคนก็ถึงกับส่ายหน้าอย่างระอา....

     

              ทะเลาะกันอีกแล้วสองคนนี้....

     

              “ดูปากฉันให้ดีนะ เธอมันคือ ยัยขี้เหร่" เสียงทุ้มเน้นย้ำชื่อพรางชี้ไปที่ปากตน เรียกเสียงวีนจากสาวตัวเล็กที่ยืนตรงหน้าได้เป็นอย่างดี

     

              “นั่นปากเธอหรอยัยบ้า !! มาให้ฉันตบสักทีซิ !” 

     

              ร่างบางง้างมือกว้างก่อนจะเตรียมวิ่งไล่อีกคนที่สตาร์ทตัววิ่งหนีไปแล้ว แต่ก็ถูกแขนเรียวของเพื่อนรั้งไว้ก่อนที่เธอจะได้ทำอะไร

     

              “ใจเย็นสิเจสสิก้า !”

     

              “ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้นะซันนี่ ฉันจะไปฆ่ามัน !!”

     

              “ใจเย็นๆ หน่อยได้มั้ยเนี่ย คนอื่นหันมามองหมดแล้ว” เพื่อนตัวเล็กมองไปรอบๆ ก่อนจะเห็นสายตาหลายคู่ที่มองมาที่เพื่อนเธออย่างหวาดกลัว

     

              “มองก็มองไปสิ หึ่ย !” เจสสิก้าสะบัดมือเพื่อนทิ้งก่อนที่เดินนำเข้าห้องเรียนไป.... 

     


     

     

              “ทะเลาะอะไรกับยูบินอีก ?” ซันนี่เอ่ยถามอีกครั้งก่อนจะนั่งลงข้างเพื่อนสาวที่หน้าบูดไปถึงไหนแล้ว

     

              “ก็ยัยนั่นมาหาเรื่องฉันอีกแล้ว บอกว่าฉันขี้เหร่เลยหาแฟนไม่ได้ โมโหชะมัด !”

     

              “ยูบินมันก็หาเรื่องแกอย่างงี้ทุกวัน แกก็ควรจะชินได้แล้วนะ” คนตัวเล็กพูดอย่างรู้ดี ก็เพราะว่าวันไหนเพื่อนสองคนนี้ไม่ได้ทะเลาะกัน วันนั้นคงกำลังเกิดภัยธรรมชาติครั้งยิ่งใหญ่

     

              “กวนประสาทอย่างงี้จะให้ชินได้ยังไงเล่า หงุดหงิดเว้ย !!” เจสสิก้าพูดก่อนจะตระโกนลั่นห้องขึ้นมาจนซันนี่ต้องหันไปมองอย่างกลัวๆ..... เธอเองก็ยังไม่ชินกับนิสัยขี้วีนของเพื่อนคนนี้สักเท่าไหร่

     

              .

              .

              .

              .

     

              “ว้าๆ อยู่คนเดียวอีกแล้ว ไม่เหงาหรือไงนะ....” 

     

              เสียงทุ้มที่ลอยผ่านอากาศมา เรียกความสนใจให้กับร่างบางที่กำลังนอนฟุบหน้าลงกับโต๊ะเป็นอย่างดี ใบหน้าบึ้งตึงเงยหน้าขึ้นมองเจ้าของเสียงทุ้ม ที่ฟังดูก็รู้แต่แรกแล้วว่าไม่ใช่ใครอื่น...... คิม ยูบิน ยัยคนปากเสีย !

     

              “ยุ่งอะไรด้วยเนี่ยห๊ะ ไปไหนก็ไปเลยไป”

     

              “ซันนี่ไปหาแฟน เธอก็ต้องอยู่คนเดียว น่าสงสารจัง” คนผิวแทนนั่งลงข้างๆ อย่างไม่สนใจร่างบางที่ไล่เธออย่างตรงไปตรงมาเลยสักนิด

     

              “นี่ บอกว่าไปไหนก็ไปไงเล่า อย่ามายุ่งนักได้มั้ยเนี่ย !” เอ่ยปากไล่อีกครั้งก่อนจะฟุบหน้าลงกับโต๊ะ

     

              “แล้วไม่ไปกินข้าวหรือไง พักเที่ยงอยู่นะ” เสียงทุ้มเอ่ยขึ้นแต่เจสสิก้ายังคงนิ่ง ใบหน้าคมเคลื่อนเข้าไปใกล้ก่อนจะพูดที่ข้างหู “ยัยขี้เหร่...”

     

              “!!!” ร่างบางสะดุ้งเฮือกก่อนจะเอามือขื้นมาจับหูตน “ทำบ้าอะไรหน่ะ !”

     

              “อ่าว ก็คุยกับเธอไง” 

     

              “แล้วใครให้พูดใกล้ขนาดนี้ห๊ะ !” 

     

              “ก็พูดดีๆ แล้วเธอตอบไหมล่ะ”

     

              “.......” ร่างบางมองค้อนก่อนจะหันไปทางอื่น “ฉันไม่อยากคุยกับเธอ”

     

              “ทำไมพูดอย่างนั้นหล่ะ ใครๆ ก็ตามตื้อให้ฉันพูดด้วยเพราะอยากได้ยินเสียงฉันนะ” 

     

              ยูบินพูดพร้อมยิ้มอย่างมั่นใจทำให้เจสสิก้าหันกลับมามองค้อนอีกครั้ง..... ยอมรับนะว่าเสียงทุ้มของยัยนี่มีเสน่ห์ใครๆ ก็อยากได้ยินจริงๆ แต่ไม่เคยคิดจะใช้มันดีๆ สักครั้งเวลาอยู่กับเธอ

     

              “แต่มันไม่ใช่กับฉันไง”

     

              “โถ่ เธอนี่นะ......” เสียงทุ้มพูดอีกครั้งก่อนจะขาดหายไป เป็นเพราะเจ้าของเสียงทุ้มนั้นเอาแต่นั่งท้าวคางมองใบหน้าเรียวตรงหน้า...

     

              “ม....มองอะไร” 

     

              เจสสิก้าถามอย่างเกร็งๆ เมื่อตาคมนั่นมองมา แล้วใบหน้าก็รู้สึกร้อนผ่าวขึ้นมาฉับพลันเมื่อได้ยินคำตอบ...

     

              “ปากเธอหน้าจูบดีนะ”

     

              “พูดบ้าอะไรหน่ะ !” ยัยนี่คิดจะแกล้งอะไรเธออีกนะ !

     

              “ก็พูดจริงๆ..... นี่ ยัยขี้เหร่ เรามาเล่นอะไรกันดีมั้ย ?” ยูบินพูดพร้อมยิ้มเจ้าเล่ห์ เจสสิก้ามองเธออย่างไม่ไว้ใจ...

     

              “ล... เล่นอะไร ?” 

     

              “เธออยากตบฉันใช่มั้ย ? ฉันจะโยนเหรียญ ถ้ามันออกตามที่เธอเลือก ฉันจะให้เธอตบฟรีๆ กี่ครั้งก็ได้” 

     

              “โรคจิต.....” เจสสิก้านิ่งอยู่ครู่หนึ่ง จริงๆ ให้ตบยัยปากเสียนี่ ก็น่าสนดีอยู่นะ “แล้วถ้าเธอทายถูกหล่ะ ?”

     

              “ถ้าออกข้างฉันหรอ....” ยูบินพูดก่อนจะเว้นระยะแล้วยิ้มอย่างร้ายกาจ “เธอต้องให้ฉันจูบไง”

     

              “จะบ้าหรอ !!” เจสสิก้าโวยวายขึ้นมาอีกครั้ง ยัยบ้านี่ทะลึ่งชะมัด !

     

              “ทำไมหล่ะ ? นิดๆหน่อยๆ นะ ฉันก็ไม่ได้พิศวาสอะไรเธอนักหรอกนะ แค่อยากได้จูบแรกเธอเท่านั้นเอง”

     

              “ร้ายกาจ เธอรู้ได้ไงว่าจูบแรก ไม่ใช่หรอกนะ !” เจสสิก้าปฏิเสธพร้อมจิกตามองอย่างไม่พอใจ บังอาจมารู้ได้ว่าเธอยังไม่เคยมี first kiss หน่ะ

     

              “เรื่องนั้นไม่เห็นสำคัญ ว่าไงหล่ะ..... ตกลงมั้ย ?”

     

              “.......” ตกลงดีมั้ย ถ้าชนะก็ได้ตบยัยนั่นสมใจ แต่ถ้าแพ้....... “ไม่!”

     

              “กลัวหรือไง ? งั้นเราลองทดลองเล่นกันสักหน่อยมั้ยหล่ะ วัดดวงไง”

     

              “.......”

     

              “เอางี้....” เสียงทุ้มพูดพรางหยิบเหรียญออกมาจากกระเป๋า “ถ้าออกหัว เธอต้องไปซื้ออะไรให้ฉันกิน แต่ถ้าออกก้อย ฉันจะไปเอง ตกลงมั้ย ?”

     

              “อืม....” เจสสิก้าตอบตกลงอย่างง่ายดาย คิดไปคิดมาแบบนี้ก็ไม่เสียหายอะไร วัดดวงดูสักหน่อยจะเป็นไร

     

              นิ้วเรียวดีดเหรียญหมุนขึ้นกลางอากาศก่อนที่มันจะตกลงมาในมือ ยูบินค่อยๆ คลายมือออกท่ามกลางสายตาลุ้นระทึกของคนสองคน....

     

              “ฮะ ฮะ !! ฉันชนะ ! ไปซื้อให้ฉันเดี๋ยวนี้เลย เอาขนมปังกับน้ำส้มกระป๋องนะ” ร่างบางหัวเราะอย่างมีชัย ก่อนที่จะชี้นิ้วออกไปทางประตู ทำให้ยูบินต้องเดินออกไปซื้อให้แต่โดยดี



     

     

              เวลาผ่านไป...

     

              “อ่ะยัยขี้เหร่” มือยาววางของลงบนโต๊ะก่อนจะนั่งลงที่เดิม เจสสิก้ายิ้มร่าเริงหยิบขนมปังขึ้นมาแกะกิน


              “ดีมากไอน้อง”


              “มีความสุขใหญ่เลยนะ” ยูบินเหน็บก่อนจะหยิบขนมปังของตัวเองขึ้นมากินบ้าง

     

              “แน่นอน”

     

              “พี่ยูบินคะ.....” เสียงใสจากใครคนนึงดังขึ้นที่หน้าประตูห้องเรียน ทำให้ทั้งสองหันไปมองเห็นเด็กสาวท่าทางเขินอายยืนอยู่หน้าประตู

     

              “มีอะไรหรือเปล่าคะ ?” เสียงทุ้มเอ่ยถาม พรางกัดขนมปังในมือ

     

              “ฉันมีเรื่องจะคุยกับรุ่นพี่ค่ะ” เธอเอ่ยพร้อมมองหน้ายูบินอย่างขัดเขิน ก่อนจะเบนสายตามาที่เจสสิก้าเป็นการบอกว่า ‘เธอต้องการความเป็นส่วนตัว’ เจสสิก้าที่ดูเหมือนจะรู้ตัวดีทำท่าว่าจะลุกขึ้นเพื่อเดินออกไป แต่ก็โดนมือยาวรั้งไว้ให้นั่งลงอย่างเดิม


              “มีอะไรก็พูดมาได้เลยค่ะ” ยูบินหันไปยิ้มใจดีให้กับเด็กสาว


              “เอ่อคือว่า.....” เด็กสาวลังเลสักพักก่อนจะเอ่ยขึ้นมาอย่างขัดเขิน “ฉันชอบรุ่นพี่ค่ะ”


              “.......” ทั้งสองอึ้งเล็กน้อยก่อนจะมองหน้ากันสักพัก แล้วเจสสิก้าเลือกที่หันหน้าหนีมองไปนอกหน้าต่างเป็นเพราะว่ามันไม่ใช่เรื่องของเธอเลยสักนิด..... ก็พอรู้มาบ้างว่าเจ้าคนเสียงทรงเสน่ห์นี่ป็อปปูล่าขนาดไหน แต่จู่ๆ เธอก็มาอยู่ในสถานการณ์สารภาพรักแบบนี้ ก็ทำตัวไม่ถูกนะ ! ปล่อยให้เธอออกไปตั้งแต่แรกก็ดี รั้งไว้ทำไมกัน


              “ขอบใจนะ....” ยูบินยิ้มอย่างอ่อนโยน ทำให้สาวน้อยที่รู้ตัวว่ามันคือการปฏิเสธ ร่างบางวิ่งออกจากห้องไปทันที



              เธอมันใจร้าย” เจสสิก้าบ่นอุบอิบก่อนจะคว้ากระป๋องน้ำส้มขึ้นมาเปิด

              
              “ก็ฉันไม่ได้เค้าชอบนี่”


              “ฉันก็เห็นว่าเธอปฏิเสธคนนู้นคนนี้ตลอด ใจร้ายเป็นบ้า” นิ้วเรียวพยายามจะเปิดกระป๋องออกแต่ก็ไม่ได้สักที

     

              “จะให้รับรักคนอื่นทั้งๆ ที่ไม่ได้คิดอะไร ไม่ยิ่งใจร้ายหรอ” เสียงทุ้มเอ่ยก่อนจะคว้ากระป๋องน้ำส้มมาเปิดให้อย่างง่ายดายแล้วส่งคืนเจ้าของ “ถ้าเธอไม่ชอบน้ำส้ม แล้วถ้าฉันให้เธอกิน เธอจะกินหรอ ?”


              “.......” มือเล็กรับคืนมาก่อนจะมองหน้าอย่างไม่เข้าใจ ใครจะไปรู้ว่าคนแบบนี้จะมีสมองคิดเรื่องแบบนี้เป็นด้วย 

     

              .

              .

              .

              .

     

              ป้ายรถเมล์

     

              “ทำไมเพิ่งกลับหล่ะ ยัยขี้เหร่” เสียงทุ้มที่นั่งอยู่ก่อนแล้วทักขึ้น ก่อนจะเดินดุ่มเข้ามาไปหาเจสสิก้าที่เพิ่งเดินมาถึง

     

              “ฉันอยู่ทำเวร แล้วเธอมาทำอะไรอยู่นี่ ? คงไม่ได้อยู่รอแกล้งฉันหรอกนะ !” จู่ๆ เจสสิก้าก็คิดระแวงแล้วโวยวายขึ้นมา ทำเอายูบินต้องขมวดคิ้วมองอย่างไม่เข้าใจ

     

              “อะไรของเธอ ฉันก็ทำเวรห้องฉันสิ” ร่างสูงตอบอย่างสบายๆ ก่อนจะมองออกไปที่ถนน “ฉันว่าเดินกลับเถอะ รถไม่มาสักที”

     

              “จะเดินก็เดินไปคนเดียวสิ ฉันจะรอรถ” เจสสิก้าตอบก่อนจะหันไปมองถนนอย่างไม่สนใจ

     

              “ฉันรอตั้งนานแล้วไม่มาสักที เดินเถอะหน่า” พูดขึ้นพร้อมมือยาวที่ลากให้เดินตาม 

     

              “ทำไมชอบบังคับคนอื่นนักนะยัยบ้า !” เจสสิก้าเริ่มวีนแต่ก็ยอมเดินตามมาแต่โดยดี ก่อนที่จะหยุดกึ่กเมื่อคิดอะไรออก... “เดี๋ยว”


              “อะไร ?”


              “ฉันเมื่อย ถือกระเป๋าให้หน่อย” เจสสิก้าพูดอย่างเอาแต่ใจก่อนจะยื่นกระเป๋าให้ ยูบินเลิกคิ้วสูงอย่างไม่เห็นด้วย


              “ทำไมฉันต้องทำ ?”

     

              “ถ้าออกหัวเธอต้องถือให้ฉัน” ร่างบางพูดพร้อมล้วงเอาเหรียญขึ้นมาดีด โดยที่อีกฝ่ายยังไม่ได้ตกลงอะไรด้วยเลย เหรียญหมุนขึ้นกลางอากาศก่อนจะตกลงในมือ มือเล็กเปิดออกแล้วเก็บเหรียญอย่างรวดเร็ว เร็วจนแทบจะไม่เห็นว่าออกหัวหรือก้อย....

     

              “ฉันชนะ ! เอาไปเลย” ร่างบางยิ้มร่าก่อนจะยัดกระเป๋าใส่มือยูบินแล้วเดินนำไปอย่างอารมณ์ดี คนผิวแทนมองตามก่อนจะยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์..... เล่นอย่างนี้ใช่มั้ย

     

              ขาเรียวรีบสาวท้าวเดินตามไปหยุดอยู่ที่หน้าเจสสิก้า นิ้วยาวหยิบเหรียญขึ้นมาดีดก่อนจะแบมืออกและเก็บเหรียญลงกระเป๋าอย่างรวดเร็วเช่นกัน

     

              “ฉันชนะ !”

     

              “ชนะอะไร ยังไม่ได้ตกลงอะไรด้วยเลยน..... อุ๊บ......!!” ยังไม่ทันพูดจบก็โดนรั้งเอวเข้าไปหาแล้วโน้มหน้าลงมาจูบอย่างรวดเร็ว ร่างบางยืนนิ่งเป็นหุ่นขี้ผึ้งหลังจากที่อีกฝ่ายถอนจูบออก ใบหน้าร้อนผ่าวขึ้นสีแดงระเรื่ออย่างเห็นได้ชัด

     

              “จูบแรกชัดๆ” เสียงทุ้มยิ้มกวนประสาทก่อนจะเดินนำหน้าไปอย่างอารมณ์ดี

     

              “กรี๊ดดดดด !!” สาวขี้วีนเมื่อได้สติก็กรี๊ดขึ้นมาอย่างไม่อายใคร หมดกัน....... จูบแรกของเธอ หมดกัน !!


              .

              .

              .

              .

     

              เช้าวันต่อมา

     

              “อรุณสวัสดิ์ยัยขี้เหร่” เสียงทุ้มเอ่ยทักอย่างอารมณ์ดี ก่อนจะเดินเข้าไปใกล้ร่างบางที่เจอกันบนทางเดินระหว่างห้องเรียน

     

              “หวัดดี” เจสสิก้าตอบห้วนๆ ก่อนจะเดินก้มหน้างุดๆ เข้าห้องเรียนไป ทำให้ขายาวก้าวเท้าตามไปหา

     

              “เป็นไรไปยัยขี้เหร่ เห็นไม่พูดอะไรตั้งแต่เมื่อเย็นแล้ว” ร่างสูงถามก่อนจะยื่นหน้าเข้ามาดูอย่างเป็นห่วง ส่งผลให้เจสสิก้าสะดุ้งเล็กน้อย

     

              “ฉ.... ฉันไม่สบายนิดหน่อย” เจสสิก้าตอบตะกุกตะกัก มือยาวจะยกขึ้นมาแตะหน้าผากเธอเพื่อเช็ดอุณหภูมิ ส่งผลให้ใบหน้าหวานซับสีเลือดทันที


              “ตัวก็ไม่ร้อนหนิ แต่ทำไมหน้าแดงอย่างงี้หล่ะ” ยูบินพูดก่อนจะดึงร่างบางให้เดินตาม “ไปห้องพยาบาลกัน”


              “ด...เดี๋ยว....”

     

     

     



              
              ห้องพยาบาล 

     

              “หายไปไหนกันหมดเนี่ย....” ยูบินบ่นอุบอิบพรางจูงมือเล็กให้เดินตาม แล้วพามานั่งที่ปลายเตียงภายในห้องพยาบาลที่ไร้ผู้คน “รอแป็ปนะ”

     

              “........” 

     

              “ปวดหัวมั้ย ?” ร่างสูงที่เดินไปค้นชั้นยาหันมาถามอาการอีกครั้ง

     

              “น...นิดหน่อย.....” 

     

              “ปรอทวัดไข้อยู่ไหนนะ” ยูบินก้มๆ เงยๆ หาปรอทวัดไข้แต่ก็ไม่เจอสักที เลยตัดสินใจเดินกลับมาหาพร้อมยาเท่าที่มี


              “กินข้าวเช้าหรือยัง ?” เสียงทุ้มถามอย่างอ่อนโยนก่อนจะนั่งลงข้างๆ


              “ยัง......”


              “ทำไมไม่กินหล่ะ มื้อเช้าสำคัญที่สุดไม่รู้หรอไง”


              “........”

     

              “เธอนี่นะขี้เหร่แล้วยังโง่อีก เอ้า ถือยานี่ซะ เดี๋ยวฉันมา” ยูบินส่งยาให้ก่อนจะเดินออกจากห้องไป

     

              ร่างบางนั่งนิ่งอยู่คนเดียว สายตามองตามร่างสูงที่เพิ่งเดินออกไป ใบหน้าหวานก้มลงมองยาในมือที่เพิ่งได้รับมาก่อนที่หน้าจะแดงขึ้นมาอีกครั้ง..... เป็นอย่างงี้ตั้งแต่เมื่อเย็นวาน ตั้งแต่ยัยคนปากเสียจูบเธอ ตั้งแต่ตอนนั้น.....

              เจสสิก้าอยากจะกรี๊ดออกมาดังๆ อย่างที่ชอบทำ แต่วันนี้ทำไมกรี๊ดไม่ออกเลยหล่ะ ในหัววนเวียนอยู่แต่ภาพเมื่อตอนเย็น จะบ้าตาย !

     


     

     

              “กินนี่ซะ” เสียงทุ้มพูดขึ้นพร้อมยื่นซองขนมปังมาให้ ส่งผลให้เจสสิก้าจะสะดุ้งเล็กน้อย “เป็นอะไรเนี่ย ชักกระตุกหรอ สะดุ้งอยู่นั่น” 


              “จ...จะบ้าหรอ”


              “ชักกระตุกไม่พอ ยังจะติดอ่างอีก” ร่างสูงพูดก่อนจะเปิดขวดน้ำแล้วยื่นให้ “อ่ะน้ำ”

     
              “ขอบใจ !” เจสสิก้ารับไว้ก่อนเอ่ยเสียงแข็ง.... ยัยบ้านี่ปากเสียยังไงก็ยังงั้นเลย


              “เรียนไหวมั้ย ? เรียนไม่ไหวก็นอนนี่ซะนะ เดี๋ยวไปบอกอาจารย์ให้”


              “ไหว ฉันไม่เป็นอะไรหรอกหน่ะ”


              “เอางั้นก็ได้ เดี๋ยวฉันเดินไปส่ง” พูดจบก็ลุกขื้นยืนแล้วพยุงร่างบางให้ลุกขึ้นตาม แต่เจสสิก้าขัดขืน


              “ฉันเดินเองได้”

              
              “โอ้โห แตะนิดแตะหน่อยไม่ได้เลยนะแม่คุณ คิดว่าอยากทำมากนักหรอไง !” ยูบินเสียงดังขึ้นมาทันทีก่อนจะยอมปล่อยมือออกอย่างง่ายดาย เจสสิก้ามองหน้าอย่างไม่พอใจ ตกลงนี่ไม่เต็มใจทำใช่มั้ยเนี่ย !

     

              “เจสสิก้ามาทำอะไรอยู่นี่?” เสียงหนึ่งเอ่ยถามขึ้นระหว่างที่เดินสวนกันที่ทางเดิน ทำให้ทั้งคู่หันไปมอง

     

              “อ้าวทิฟฟานี่ ยังไม่เข้าเรียนอีกหรอ?” เจสสิก้าทักกลับอย่างสดใสทำเอาร่างสูงข้างๆ เหล่มอง..... เมื่อกี้ยังบอกไม่สบายอยู่เลยนะ ทีงี้หล่ะร่าเริงเชียว !

     

              “พอดีมาสายหน่ะ” ทิฟฟานี่ยิ้มอ่อนโยนก่อนจะหันไปทักคนผิวเข้มที่ยืนอยู่ข้างๆ “หวัดดียูบิน”


              “หวัดดี” 

     

              “เธอกำลังจะกลับห้องใช่มั้ย เดินไปด้วยกันสิ” ทิฟฟานี่หันมาถามร่างบางที่ยืนอยู่ทำให้เจสสิก้ายิ้มตอบอย่างดีใจ

     

              “ไปสิๆ” ร่างบางยิ้มสดใสก่อนจะวิ่งไปขนาบข้าง แต่ก็ยังไม่ลืมที่จะหันไปลายูบิน “ฉันไปก่อนนะ”

     

              “......” คนผิวแทนยืนมองก่อนจะขมวดคิ้วอย่างขัดใจ ทำไมต้องร่าเริงขนาดนั้นด้วยห๊ะ ยัยขี้เหร่ !

     

              .

              .

              .

              .

     

              “ไม่กินข้าวกลางวันอีกละ บ้านเธอจนมากหรือไงเลยไม่มีค่าอาหารกลางวันหน่ะ ?” เสียงทุ้มเอ่ยถามก่อนจะเดินมานั่งข้างๆ ในที่นั่งเดิม

     

              “ฉันไม่ชอบกินข้าวโรงอาหาร” ร่างบางหันมาตอบก่อนจะก้มหน้าก้มตาเขียนหนังสือ มือยาวใกล้ตัวดึงปากกาออกก่อนจะวางมันไว้ห่างๆ ทำให้เจสสิก้าหันไปมองอย่างไม่พอใจ “ทำอะไรของเธอห๊ะ !”


              “เอาเหมือนเมื่อวาน ออกหัวเธอไปซื้อให้ฉันกิน ออกก้อยฉันไปเอง” ยูบินพูดพร้อมเอาเหรียญขึ้นมาดีดทันที มือยาวเก็บเหรียญเข้ากระเป๋าอย่างรวดเร็ว จนทำอีกคนมองไม่ทันเหมือนเดิม....

     

              “ว้า.... ฉันอีกแล้วหรอเนี่ย” ยูบินทำทีเป็นถอนหายใจเล็กน้อย ก่อนจะหันมายิ้ม “งั้นรอแป็ปนึงนะ”

     

              ร่างบางมองตามยูบินที่วิ่งออกไปไม่นาน ก่อนจะกลับมาพร้อมถุงขนมปังกับน้ำส้มของโปรดของเธอ

     

              “กินซะ” ยูบินยื่นขนมปังให้พร้อมเปิดกระป๋องน้ำส้มให้เสร็จสรรพ ก่อนจะนั่งลงข้างๆ อย่างอารมณ์ดี

     

              “เธอก็ไม่ไปกินข้าวหรือไง ทำไมต้องถึงเดินเตร่มาห้องฉันทุกพักกลางวัน” ร่างบางขมวดคิ้วถามอย่างสงสัย ตั้งแต่เปิดเทอมมาคนผิวแทนนี่ก็ขยันแวะเวียนมาหาเรื่องทะเลาะกับเธอทุกพักกลางวัน

     

              “ก็เพราะรู้ว่าเธอต้องนั่งเหี่ยวอยู่ไง”


              “ขอเหตุผลจริงๆ ไม่ได้หรือไงเนี่ย ตอบกวนประสาทอยู่ได้”

     

              “กวนประสาทอะไรกันหล่ะ ก็เพราะรู้ว่าเธออยู่นี่ไงถึงมา” 


              “........” มาที่นี่เพราะรู้ว่าฉันอยู่หรอ....ทำไมถึงรู้สึกดีใจจังนะ

     

              “จริงๆ แล้วเพราะว่าฉันไม่ชอบไปโรงอาหารเหมือนเธอนั่นแหล่ะ แต่เหตุผลของฉันคือคนมันเยอะ” 


              “.......” ห๊ะ! ยัยนี่แกล้งให้ฉันดีใจแท้ๆเลย ยัยบ้า!


     


              “อิ่มแล้วใช่มั้ย ?” ยูบินยิ้มถามพร้อมท้าวคางมอง


              “อืม....” เจสสิก้าพยักหน้าในขณะที่มองรอยยิ้มตรงหน้าอย่างไม่วางใจ ยัยนี่คิดจะแกล้งอะไรเธออีกแน่ๆ.... แล้วก็คิดไม่ผิด เมื่อมือยาวล้วงเหรียญจากกระเป๋าขึ้นมาดีดอีกครั้งและเก็บอย่างรวดเร็ว


              “ฉันชนะ !” เสียงทุ้มพูดอย่างร่าเริงก่อนจะดึงร่างบางเข้ามาประกบริมฝีปากอย่างรวดเร็ว

     

              “อื้ออ... !!” เอาอีกแล้ว เจสสิก้ากลายเป็นหุ่นขี้ผึ้งในพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์อีกครั้ง ใบหน้าแดงก่ำกับร่างกายที่อ่อนระทวย ไร้แรงที่จะผลักตัวอีกคนออก

     

              “จูบครั้งที่สองของยัยขี้เหร่ ว้าว ชื่นใจจัง !” ยูบินยิ้มร่าก่อนจะลุกขึ้นบิดขี้เกียจแล้วเดินออกไปทันที โดยไม่สนใจเสียงวีนของคนข้างหลังเลยแม้แต่น้อย


              “ย....ยัยบ้า!!” แกล้งกันอีกแล้วนะ!

     
    .
    .
    .
    .
     
     
    TO BE CON……




    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×