ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    บันทึกรักพลทหาร Private Supermodel and the Love Commander

    ลำดับตอนที่ #16 : ตอนที่ 15 Protection (You Make Me Feel So Emotional)

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 174
      1
      18 เม.ย. 57

    ตอนที่ 15 Protection (You Make Me Feel So Emotional)

     

    "ช้าสุดอีกตามเคย" เสียงทักทายยามเช้าจากคนที่คุณก็รู้ว่าใคร แต่อย่างหวังว่าจะโรแมนติกเหมือนเพลงเฮียแสตมป์ของฉันนะ

     

    "อรุณสวัสดิ์ค่ะหมวด" ฉันหันไปประชดกลับด้วยคำแรกที่คนปรกติเค้าพูดกัน แน่นอนไม่มีคำว่าพี่ตั้มเหมือนเมื่อคืนให้ได้ยินแน่นอน ก่อนจะเดินมาเข้าแถวที่ตอนนี้เป็นแถวเรียงหน้ากระดาน แถวละน่าจะ 10 คนได้ ฉันเลือกเดินมายืนหลังสุด เอ็มไปยืนหน้าแล้วอ่ะ สูงเด่นขาววิ๊งๆ ไม่เกรงใจใคร

     

    "ตัวสูงน่ะ มายืนหน้าไม่เห็นหรือไง" เสียงตะโกนมาจากคนเดียวที่กล้าโวยวายกับฉัน ฉันถอนหายใจแต่ก็เดินไปยืนตามลำดับที่กะจากสายตา เดินมาเรื่อยๆ มันหน้าสุดแล้วอ่ะ แปลว่าแถวนี้ชั้นสูงสุดเลยนี่หน่า ทำไมผู้ชายไทยเตี้ยกันจัง

     

    "นี่มันรองเท้าอะไร" คำถามจากผู้ชายตรงหน้าทำให้คนอื่นเริ่มก้มมามอง บางคนกันหัวเราะ

     

    "ทำไม มีปัญหาอะไรอีก ของ Jimmy Choo นายจะซื้อมาใส่หรอไง" ดูท่านายคนนี้จะมีปัญหากับอะไรที่เป็นฉันทุกอย่างเสียจริง

     

    "คุณมองสิว่าคนอื่นเค้าใส่อะไรกัน" ฉันก้มไปมองซึ่งจริงๆ ไม่ใช่แค่รองเท้าหรอก คนอื่นใส่รองเท้าดำหนาๆ กับถุงเท้ายาวจนตลก แต่ฉันสิ กางเกงก็ขายาว แต่เค้าจัดมาแบบนี้เองนิ

     

    "ฉันไม่มี" ฉันตอบไปตามความจริง ฉันเอาคู่นี้มาเพราะมันสูงกำลังดี ใส่สบาย ให้วิ่งก็ยังได้เลย ส่วนอีกคู่เป็นผ้าใบ อยู่ในกระเป๋ารองเท้าในกระเป๋าใหญ่นั้นแหละ

     

    "จ่าเฉย" หมอนั้นหันไปถามจ่าแทน

     

    "คือว่าเมื่อคืนคุณภัทรยังไม่ทันได้รับถุงอีกถุง หมวดก็ไล่เธอไปยืนรวมแล้วน่ะครับ แต่ผมเอาไปไว้ที่ห้องทำงานหมวดแล้วนะ เผื่อไว้หลายเบอร์เลย ลองเลือกดูละกัน ผมไม่รู้คุณเค้าใส่เบอร์อะไร" จ่าเฉยตอบยาวเหมือนท่องสคริปมา แต่ฉลาดมาก ไม่เหมือนหมอนี่เลย ฉันส่ายหัวเบาๆ ไปที่คนผิด

     

    แต่หมอนั้นทำเป็นไม่สนใจเรื่องที่ตัวเองทำผิดเอง แต่หันไปสั่งจ่าให้เริ่มนำออกกายบริหารแทน การยืดเส้นยืดสายผ่านไปอย่างหน้าเบื่อหน่าย ทำไมไม่เป็นเพลงสนุกแล้วให้จ่านำเต้นนะ แต่จ่าเต้น ฉันว่าคงตลกกว่าดูแก๊งสามช่าอ่ะ

     

    "งั้นเช้านี้ก็ไม่มีอะไรแล้วจ่าพูดเรื่องวันนี้คร่าวๆ ไปก่อนละกัน ใครที่เตรียมตัวมาเรียบร้อยก็รอพบกันก่อน 8 โมงที่โรงเลี้ยง เคารพธงชาติและกินข้าวเช้า ทราบ" หมวดพูดเสียงดังฟังชัด ท่าทางที่ดูหนักแน่นหน้านิ่งๆ แต่แอบมีความใจดีอยู่ในคำพูด ดูซื้อใจคนได้เยอะเลยแหะ ฉันเห็นคนอื่นยิ้มออกกันแล้ว แต่ประเด็นคือแล้วทำไมไม่นัดสายๆ หน่อยนะ สัก 7 โมงก็ยังทัน

     

    "ทราบ" ทุกคนขานรับ ฉันขยับปากเบาๆ ตาม

     

    "เลิกกองได้" เมื่อได้ยินคำนี้ ฉันอยากจะกระโดนแล้วเฮ้ มากกว่ากระทืบเท้าแหะ เบื่ออ่ะ เริ่มหิวแล้วด้วย ไปหาขนมกินดีกว่า แต่...

     

    "ส่วนคุณตามมา" ตล๊อด ตล๊อด อยากทำเสียงแบบดีเจเจ๊ปุ๊กโก๊ะใส่คนสั่งจริงๆ แต่คงทำตอนนี้ไม่ดี ขออ้อนไปหาขนมกินร้องท้องก่อน

     

    "นี่ๆ หิวแล้วอ่ะ หาอะไรรองท้องก่อนได้ไหม" คนอื่นแยกไปอีกทางหมดแล้วส่วนฉันต้องเดินต๋อยๆ ตามคนข้างหน้าที่ยังเดินไม่หยุด จนฉันต้องเอานิ้วไปจิ้มจึกๆ ที่ไหล่แทน

     

    "หนูหิวๆ ผู้หมวดได้ยินป่าว ดูสิ ท้องร้องใหญ่แล้วน๊าาาา น่าฉงฉารจัง โอ๋ๆ อย่าร้องน้า" ฉันพูดกับท้องตัวเอง พลางเอามือลูบพุงเหมือนกำลังปลอบใจ พยายามทำเหมือนตอนอ้อนพี่วิวให้ทำกับข้าวให้กินเผื่อจะได้ผล

     

    หมอนั้นหันกลับมายิ้มแล้ว เย้

     

    "อื้อหื้อ จริงด้วย แต่ต้องรอก่อนนะครับเด็กดี คุณครูสอนว่า ท. ทหารอดทน จำได้ไหมครับคนเก่ง" ผู้ชายตรงหน้าทำเสียงเล็กเสียงน้อยโยกหัวชั้นเบาๆ และโดยไม่รู้ตัวชั้นก็เผลอตอบกลับไปว่า

     

    "ครับผ๋ม" ฉันทำสามนิ้วขึ้นตะเบ๊ะแบบลูกเสือสมัยเด็กๆ ส่วนผู้หมวดนั้นหันไปแล้วปล่อยฉันยืนเอ๋อต่อไป...ทำไมมันขิขุ อนุบาลหมีน้อยจังวะ

     

    "เห้ยยยย นี่หยุดเดี๋ยวนี้นะ นายเห็นฉันเป็นเด็กปัญญาอ่อนหรอถึงมาพูดหลอกฉันแบบนี้อ่ะ ห่ะ" กว่าจะนึกได้ว่าโดนแกล้ง ฉันก็เห็นหมอนั้นหัวเราะ ตัวโยน ปล่อยก๊ากแบบไม่เคยเห็นมาก่อน

     

    ฉันรีบวิ่งไปทุบคนที่แกล้งฉัน หมอนั้นก็หลบเป็นพัลวัน "นี่ๆ หยุดก่อน ผมเจ็บนะคุณ ฮ่าๆ ไม่แกล้งล่ะ สัญญา โอ๋ๆ เด็กดี อย่าตีน้า ฮ่าๆ โอ้ย อย่าหยิกดิ เจ็บนะคุณ" ดูเหมือนหมอนี่จะซาดิสแหะ ทั้งทุบทั้งตี หยิกก็แล้ว แต่ยังหัวเราะไม่เลิก

     

    "ไอ้บ้า" พอกันทีคนยิ่งหิวๆ อยู่ ไม่ยุ่งด้วยแล้ว ฉันเดินเงียบๆ นำไปแทน ห้องเมื่อวานฉันจำได้รีบไปเอา จะได้รีบไปหาอะไรกิน

     

    เสียงหัวเราะเงียบไปแล้ว ฉันหันไปมองด้านหลัง อ้าวหายไปไหนอ่ะ เห้ย หลงทางหรอ ไม่น่ารีบเดินเลยอ่ะ ฟ้ายังมืดอยู่เลย น่ากลัวอ่ะ ฉันพยายามหันไปชะเง้อมอง ตะโกนเรียกก็แล้ว แต่ยังคงมีแต่ความเงียบตอบกลับมา...พอหันกลับมาจะดูด้านหน้า

     

    "แฮ่" อยู่ดีๆ ก็มีเสียงดังขึ้นมา

     

    "อร้ายยยย ผีโผล่มาแล้ว" ฉันร้องพร้อมเอามือปิดตา แต่รู้สึกผีอะไรหน้าคุ้นๆ...

     

    มันอีผู้หมวดคนเดิมนั้นแหละ แม่ง เล่นอะไรแต่ละอย่าง ฉันยังตกใจอยู่ แต่ตอนนี้ความรู้สึกอื่นมันมีมากกว่าขอบตามันร้อนๆ เหมือนน้ำตามันกำลังจะไหล

     

    "เห้ย คุณ ผมขอโทษผมแค่เล่นด้วย" หมอนั้นดูตกใจกับอาการของฉัน แต่ฉันสัญญากับพ่อแล้ว จะไม่มีน้ำตาให้ใครเห็น ฉันสูดลมหายใจเข้าลึกๆ และสะบัดหน้าหนีเดินกระแทกไหล่คนที่แกล้งฉันไปเลย

     

    ฉันไม่ชอบเป็นตัวตลกให้ใครมาหัวเราะ ไม่ชอบให้คนมาแหย่ ยิ่งทำอะไรกลับไม่ได้ ยิ่งทำให้ฉันดูอ่อนแอ แล้วคนอื่นก็จะเริ่มทำแบบเดียวกันแล้วทุกคนก็จะมารุมแกล้งฉัน วิว...วิวอยู่ไหนอ่ะ ปรกติวิวต้องมาจัดการให้ภัทรแล้วสิ พอพูดถึงวิวก็ยิ่งอยากร้องไห้ วิวไม่อยู่ที่นี่...ไม่มีคนปกป้องฉันอีกแล้ว

     

    มีมือใหญ่ๆ เอื้อมมือฉันไปกุมไว้ ฉันรู้ว่าเจ้าของมือเป็นใครจึงพยายามสะบัดออก "ปล่อยนะ ปล่อยฉันเลย นายจะแกล้งอะไรฉันอีก นายต้องเป็นคนที่ต้องมาปกป้องดูแลฉันสิ แล้วนี่อะไร ขนาดนายยังแกล้งฉันเลย เดี๋ยวก็มีคงคนอื่นตามมารุมแกล้งอีกใช่ไหมล่ะ" น้ำตาที่กำลังเอ่อล้น พร้อมจะไหลลงมาได้ทุกเมื่อ แต่ฉันจะไม่ให้มันไหลออกมาเด็ดขาด ฉันยังคงพยายามสะบัดมือออก และในที่สุดมือฉันก็เป็นอิสระ แต่คราวนี้ไม่ใช่แค่มือ แต่ฉันถูกผู้ชายตรงหน้ารวบไว้ทั้งตัว อ้อมกอดกระชับแน่น รับรู้ถึงไออุ่นจากร่างกายของอีกฝ่าย

     

    "พี่ขอโทษนะภัทร พี่ขอโทษ เชื่อพี่นะ ไม่มีใครแกล้งภัทรได้ พี่สัญญา พี่จะปกป้องภัทรเอง เชื่อพี่นะครับ"

     

    สรรพนามที่เปลี่ยนไป คำสัญญาจากคนตรงหน้า พร้อมอ้อมกอดอบอุ่นจากแขนที่แข็งแกร่งทำให้ความรู้สึกในใจที่กำลังสั่นคลอนและหวาดกลัว กลับมารู้สึก...ปลอดภัยอีกครั้ง

     

    หน้าแปลกตรงที่ทั้งสองความรู้สึกเกิดขึ้นจากคนๆ เดียวกัน ฉันซบหน้าลงบนไหล่ และยกแขนขึ้นมากอดเอวคนที่กำลังกอดฉันอยู่ ไม่รู้เพราะอะไรแต่ฉันพยักหน้าตอบรับเค้าไปแล้ว อีกฝ่ายเอามือลูบหลังเหมือนกำลังปลอบฉันเบาๆ ฉันยังคงซบอยู่ในอ้อมแขนนั้น เวมาผ่านไปนานเท่าไหร่ก็ไม่รู้ แต่อ้อมแขนนี่ก็ยังคงกอดฉันไว้อยู่ จนเมื่อฉันรู้สึกดีเหมือนเดิม จึงขืนตัวออกเบาๆ และเจ้าของอ้อมแขนก็ปล่อยแต่โดยดี เปลี่ยนมากุมมือไว้แทน

     

    "หิว" ฉันก้มหน้างุด ไม่อยากให้เค้าเห็นหน้าฉันตอนนี้เลย ยิ่งคิดยิ่งอายในสิ่งที่ตัวเองทำลงไป น่าขายหน้าชะมัด

     

    "ป่ะ งั้นเดี๋ยวพี่พาไปกินข้าวก่อน แต่ต้องหายโกรธก่อนโอเคไหมครับ" เวลาพูดเพราะแล้วมันเขินจัง

     

    "โอเค...ก็ได้" ฉันตอบแต่ยังเก็กฟอร์มอยู่นิดๆ แต่เหมือนคนตรงหน้ายังไม่พอใจกับคำตอบเท่าไหร่

     

    "พี่ถามว่าโอเคไหมครับ" คำตามเดิมจึงถูกถามอีกครั้ง โดยเน้นคำสุดท้าย ฉันรู้ว่าพี่ตั้มหมายความว่ายังไง

     

    "โอเคค่ะ" ฉันเงยหน้าไปยิ้มตอบ ก่อนจะเห็นว่าพี่ตั้มที่กำลังยิ้ม ยิ้มกว้างกว่าเดิมเหมือนพอใจในคำตอบที่ได้ พอพูดเพราะๆ แบบนี้ก็ดีเหมือนกันแหะ

     

    เจ้าของมือใหญ่ๆ ที่กุมมือฉันเอาไว้ออกแรงนิดๆ เพื่อจูงมือฉันเดินต่อ แม้จะไม่ได้หันไปมองหน้าของอีกฝ่าย แต่มือของเราทั้งคู่ก็ยังคงจับกันไว้อย่างนั้น เหมือนความรู้สึกบางอย่างถูกส่งจากมือผ่านมาถึงจิตใจ ความรู้สึกที่มันกำลังเกิดขึ้นตอนนี้ มันคืออะไรกันนะ

     

                                                      ..............................................


     

    ช่วงนี้นางเอกกำลังอารมณ์อ่อนไหวเนอะ อิอิ  ลองไปฟังกันดูค่ะ So Emotional จากChristina Aguilera
     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×