ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    บันทึกรักพลทหาร Private Supermodel and the Love Commander

    ลำดับตอนที่ #71 : ตอนที่ 69 The Red Bike Story

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 105
      0
      21 พ.ค. 57

    ตอนที่ 69 The Red Bike Story

     

    (เฟิร์ส's)

     

    "ช่วยอะไรกูหน่อยดิ"

     

    "หา?" ผมว่าตัวเองได้ยินอะไรผิดไหมนะ มันเนี่ยนะ ผมหมายถึงไอ้บอสที่ยืนอยู่หน้าผมตอนนี้

     

    "คือกูอยากรู้หมวดอิฐอยู่กะหมวดตั้มรึเปล่าน่ะ" มันถามผมด้วยสีหน้าจริงจัง

     

    "แล้วกูจะไปรู้ได้ไง" ผมตอบส่งๆ แต่ในใจก็อดอยากรู้ไม่ได้

     

    "มึงก็โทรถามดิว่ะ"

     

    "แล้วทำไมกูต้องโทร" ผมพูดแล้วเดินหันหลังให้มัน ไม่ต้องบอกก็รู้ ผมไปโทรแน่ แต่ถ้าโทรตอนนี้ก็กลายเป็นผมทำตามที่มันสั่งน่ะสิ

     

    "เชี่ย มึงเป็นอะไรกับกูหนักหนา" มันกระชากไหล่ผมให้หันมาหามัน และผลักอกผมเบาๆ

     

    "อย่ามาหาเรื่องกู" ผมผลักมันออกบ้าง

     

    "หรือเป็นอะไร มึงหวงพี่ชายมึงหรือไง" บอสตะโกนจี้จุดผม ที่จริงผมกับมันก็ไม่ได้เกลียดอะไรกัน แต่ก็อย่างที่บอก...หมั้นไส้ ที่มันมาตีสนิทพี่ชายผม ผมหมายถึงพี่ตั้ม ที่แม้ไม่ใช่พี่แท้ๆ แต่ก็รักและเคารพไม่ต่างกัน แต่ไอ้นี่อ่ะดิ ชอบทำให้พี่ตั้ม พี่อิฐเอือมระอาผมมากขึ้น คอยเอาผมไปเปรียบเทียบกับคนอย่างมัน

     

    "มึงพูดแบบนี้แสดงว่าเกี่ยวกับยัยนางแบบนั้นอีกแล้วดิ กูไม่เข้าใจเลย ทั้งมึงทั้งพวกพี่ตั้มเป็นอะไรกับยัยนี่หนักหนา" ผมถามด้วยความรำคาญ ยัยภัทรอะไรนี่ก็อีกคน ผมยังหาเหตุผลที่ทำให้เธอมาอยู่ที่นี่ไม่ได้

     

    "มึงไม่รู้อย่าพูดเลยดีกว่า"

     

    "เอาเป็นว่าถ้ามึงไม่อยากให้พี่มึงต้องปวดหัวทีหลัง ก็รีบบอกมา ไม่ช่วยกูก็ถือว่าช่วยพี่มึงละกัน" มันเริ่มพูดด้วยอารมณ์ที่เย็นลง

     

    "ช่วย? กูช่วยยั้ยนั้น แล้วมันจะช่วยพี่ตั้มยังไง"

     

    "กูว่ามึงรู้ว่ะ ว่ารายนั้นฤทธิ์เยอะแค่นั้น พี่ชายมึงเดือดร้อนแน่" มันพูดออกมาแล้วหัวเราะนิดๆ ทำให้ผมหัวเราะหึออกมาตามมัน

     

    ก็จริง อยู่ๆ หายออกไปด้านนอก กลับมามีหวังต้องมานั่งง้อยัยนั้น แค่คิดก็ไร้สาระแล้ว

     

    "เออๆ แต่กูจะไปดูเอง ยัยนั้นมันจะก่อเรื่องอะไร" ผมเองก็ไม่ใช่คนเลวร้ายที่จะเห็นพี่ชายตัวเองต้องรับมือกับยัยปีศาจนั้น ถือว่าช่วยเป็นของขวัญวันเกิดละกัน

     

    ผมเองที่เจอผู้หญิงมาเยอะ แต่ก็ยังไม่เคยพบเจอใครบ้าดีเดือด หลุดโลกเท่านี้มาก่อน หรือเพราะเธอจะอารมณ์เกินหญิงละมั้ง

     

    "ดีเหมือนกัน มึงรับปากล่ะนะ ติดรางแหอะไรไป กูไม่รับผิดชอบด้วยล่ะ" มันพูดด้วยรอยยิ้มแปลกๆ แต่ก็เอาว่ะ ลงเรือลำเดียวกันละนิ่

     

    ผมเดินตามมันมาที่ห้องของพี่ตั้ม ก็เห็นยัยนั้นนอนหลับอยู่ บอสเดินเข้าไปนั่งลงข้างๆ และปลุก...ในสไตล์ของมัน

     

    "ตื่นได้แล้วคนสวย คงไม่ต้องให้จูบแบบในนิทานใช่ป่าว เจ้าชายไม่อยู่นะ มีแต่เจ้ากรรมนายเวร" เสียงกวนฝาตรีนแบบนี้ คงไม่ใช่แค่ผมที่เกลียด ร่างบางๆ ที่กำลังหลับอยู่นั้นคงเช่นกัน

     

    "นับ 1 ถึง 3 ถ้ายังไม่ตื่น ผมถือว่าอนุญาตนะ หนึ่งงงงงง สองงงงง สะ.."

     

    "ถ้าอยากตายก็ลองดู" เธอลืมตา และเอามือรีบดันหน้าบอสไว้ โดยที่มันทำปากจู๋รอไว้ต้องอดอย่างเสียดาย จริงๆ มันคงแกล้งมากกว่า เพราะนับจริง ป่านนี้คงได้จูบแลกลิ้นไปล่ะ นี่นับซะยานเป็นเทปค้างปี

     

    "อี๋ย์ เอาหน้าไปห่างๆ ฉันเลยนะ" บอสยิ้มขำๆ แต่ก็เลื่อนหน้าออกแต่โดยดี

     

    "แล้วนั้นตัวอะไรมายืนทำหน้าเป็นหมาขี้หักในแบบนั้นอ่ะ" แม่นางแบบคนสวยพูดเบ้หน้าไปมาหาผม มองประหนึ่งว่าผมเป็นเจ้ากรรมนายเวรอีกตัว...ดูเธอจะแค้นอะไรผมหนักหนา แกล้งนิดแกล้งหน่อย ทำมาเป็นแค้นฝังหุ่น เดี๋ยวปั๋ด!!!

     

    "กูไปล่ะ" ผมหันไปพูดกับบอส และเตรียมหันหลังกลับ ให้มันรู้ซะบ้าง ตอนนี้ใครใหญ่

     

    "เห้ย เดี๋ยวก่อนดิ ซ้อพูดกะมันดีๆ หน่อยดิ มันพาซ้อไปหาหมวดได้นะ" เสียงบอสพูดจิ๊จ๊ะใส่อาซ้อของมัน

     

    "อ้าวหรอ ล่ะก็ไม่รีบบอก แหม เฟิร์สสุดหล่อ พ่อยอดขมองอิ่ม ล้อเล่นแค่นี้ทำมาเป็นน้อยใจ หัวก็ไม่ล้านนี่หน่า โอ๋ๆ" ทันใดนั้น เธอก็รีบพุ่งตัวลอยมาหาผม พร้อมเอามือลูบหน้าลูบตา

     

    "โธ่ๆ บอกกันก่อนสิ วันหลัง ทำหน้าเบื่อโลกแบบนี้ ใครจะไปรู้" ยัยนี่คำพูดฟังดูจริงใจ ผิดกับแอคติ้งที่...แย่มาก ถ้าจะเฟค+เล่นใหญ่ขนาดนี้

     

    และก็อีกครั้งไม่ใช่ผมคนเดียว ที่คิดว่ายัยนี่เล่นละครใหญ่มาก เพราะตอนนี้ผมเห็นไอ้บอสทำหน้าเบ้ แต่เจ้าตัวยังยิ้มภูมิใจทำหน้าหยั่งกับว่า 'พวกนายจะลุกขึ้นปรบมือก็ได้นะ' อะไรประมาณนั้น

     

    "อย่าเว่อร์ ไม่ต้องแสดงละคร ขอความจริง" ผมพูดพร้อมจับมือเธอให้หยุด

     

    "พูดเองนะ" เธอพูดแล้วดึงมือตัวเองออก ก่อนจะสะบัดหน้าใส่...นี่สิ ภัทรียาตัวจริง เห้อออออ ผมถอนหายใจหนักๆ

     

    "นี่มึงเจออะไรแบบนี้ทุกวันเลยหรอ" ผมมองภัทรหัวจรดเท้า และหันไปถามบอสด้วยความสงสาร

     

    "แบบนี้? แบบไหนย่ะ พูดดีๆ นะ" นางเท้าเอว เชิดหน้าถามผม เมื่อกี้ล่ะมาทำเป็นแม่คนดี แม่ยอดขมองอิ่ม ถุ้ย ชีวิต

     

    "อืม แรกๆ ก็ไม่ชินว่ะ มึงก็ใจเย็นหน่อยล่ะกัน อย่าไปถือสาแกเลย แกล้งทำเป็นไม่ได้ยินไปก็ได้" บอสพูดหน่ายๆ

     

    "หน๊อยยยย ที่ผ่านมา แกคิดแบบนี้ใช่ไหม" เธอหันไปเหวใส่ไอ้บอส พร้อมมองผมอย่างโกรธเกรี้ยวเคี้ยวฟัน

     

    "พี่ตั้มทนยัยนี่เข้าไปได้ไง" ผมถามทิ้งท้ายแล้วเดินออกไปอย่างเงียบๆ ปล่อยให้นางยกมือชี้หน้าผมค้างไว้ อ้าปากจะด่าแต่ด่าไม่ออก

     

    ...ก็แน่ล่ะ ผมพูดความจริง จะเถียงยังไง

     

    ก่อนออกมาผมเห็นเธอไปเหวี่ยงใส่บอสที่ได้แต่ยืนเอากุมท้องหัวเราะแทน แล้วมันก็รีบเอามือปิดปาก ก่อนจะยกมือยอมแพ้และเดินตามผมออกมา

     

    "วันนี้วันดี ฉันยอมให้ก็ได้ อารมณ์เสีย เดี๋ยวไม่สวย ชิส์" เธอพูดเดินตามหลังออกมาอีกคน จริงๆ ผมอยากจะบอก เธอเป็นคนสวยนะ แต่จะสวยมาก ถ้าไม่พูด ผมหันไปมองหน้าไอ้บอสแต่ไม่พูดอะไร และมันก็มองผมตอบอย่างเข้าอกเข้าใจโดยที่ไม่พูดอะไรเช่นเดียวกัน คงเป็นครั้งแรกที่ผมกะมันแค่มองตาก็เข้าใจ อยากขำว่ะ ถ้าไม่เห็นอะไรบางอย่างตรงหน้า....

     

    ณ ตอนนี้ พวกเราสามคนกำลังยืนมองพินิจพิจารณาเศษเหล็กที่เรียกว่าจักรยานสีแดงของจ่าเฉย

     

    "เอาไง" ผมหันไปหาไอ้บอสเพราะดูทรงแล้ว อย่าว่าแต่ซ้อนสาม สองคนยังจะไม่ไหว

     

    "ถามได้ว่าเอาไง ฉันยอมเดินตาม แล้วเสียสละให้นายสองคนขี่จักรยานกระหนุงกระหนิงไปก็ได้มั้ง" แม่นางแบบพูดยิ้ม ซึ่งแปลได้ว่า...ไม่

     

    "ซ้อแม่งเจ๋งว่ะ" บอสพูดแล้วกอดคอภัทรเอาไว้ มึงแกล้งไม่รู้ หรือไม่รู้จริง?

     

    "บอสค่ะ กูประชดค่ะ แล้วมือ?" เธอปรายตาไปมองมือไอ้บอสที่พาดไว้สวยงามบนไหล่ของเจ้าหล่อน

     

    "อุ้ย..." มันรีบชักมือกลับ ยิ้มแหยๆ

     

    "เอางี้ งั้นซ้อไปกับเฟิร์สเหอะ ผมเอาใจช่วยนะ หน้าที่ผมหมดแล้ว" บอสรีบสรุปอย่างรวดเร็ว ปล่อยให้ผมกับภัทรยืนอ้าปากจะแย้ง แต่มันก็รีบชิงพูดต่อ

     

    "อ่อ ฝากแฮปปี้เบิร์ธเดย์หมวดด้วยนะ ส่วนซ้อก็ ขอให้ได้ ขอให้โดน โชคดีคร้าบบบบ"

     

    ฟิ้วววววววววว

     

    แล้วมันก็หายวับไปกับสายลม ผมไม่แปลกใจหรอกที่มันวิ่งเร็วได้ขนาดนั้น เจอยัยนี่ เป็นผมผมก็เผ่น

     

    ผมก้มหน้าก้มตารับชะตากรรมตัวเอง แล้วขึ้นคร่อมจักรยาน เอาขาตั้งขึ้น

     

    "จะไปได้ยัง ฟ้าจะมืดแล้ว" ผมหันไปถามเธอที่ยังยืนทำท่าบ้าบอๆ ตะโกนเรียกไอ้บอสอยู่

     

    "ให้ไปกับนายสองคนอ่ะนะ" เธอหันมามองกอดอกดูเหย่อหยิ่ง

     

    "หรือจะไม่ไป?" ผมถามสั้นๆ แล้วเตรียมเอาขาตั้งลง แต่...

     

    "ไปดิ!" แล้วนางก็ก็กระโดดขึ้นซ้อนอย่างรวดเร็วและสวยงาม ชนิดที่ว่ากรรมการจากยูเครนกดคะแนนให้สิบเต็ม

     

    "เห้ออออ จะบ้าตาย" ผมถอนหายใจเฮือกใหญ่ ก่อนจะออกแรงถีบเศษเหล็กนี่ออกไป

     

    เอี๊ยด อ๊าด เอี๊ยด อ๊าด เอี๊ยด

     

    เสียงจักรยานที่ว่าน่ารำคาญแล้ว พูดเลยว่ายังไม่น่ารำคาญเท่า...

     

    "นายว่ามันจะพังก่อนหรือถึงก่อน" เสียงแม่คนข้างหลังนั้นเอง

     

    "ไม่รู้" ผมตอบปัดๆ

     

    "แล้วนายรู้ไหมทำไมจ่าไม่เปลี่ยนคันใหม่" ยังไม่จบแหะ

     

    "...ไม่รู้" แค่ขับให้ตรงก็ว่ายาก ยิ่งมีคนซ้อนล่ะไหนต้องคอยตอบคำถามยัยนี่

     

    "เป็นฉันนะ ฉันเปลี่ยนไปนานแล้ว แต่ซื้อมาก็คงไม่ได้ใช้ @&฿^*=}{#^^%#" ผมปล่อยให้เธอพูดชงเชงล้งเล้งไปคนเดียวไปเรื่อยเปื่อย เอาเข้าจริงเธอเหมือนพูดคนเดียว คำถามไม่ได้จะเอาคำตอบ...คือพูดลอยๆ แล้วกูเสือกไปตอบเองว่างั้นเหอะ!!!

     

    ขับไปสักพักผมก็ต้องกลับมาสนใจอีกครั้ง เพราะเริ่มมีเสียง ป๊าปๆ ตุ๊บตั๊บๆ ไม่ก็เจ็บจิ๊ดบนหลังผม

     

    "ไม่รู้ว่าทำไมวันนี้ฉันถึงพูดมากจัง แต่รู้สึกว่าอะดรีนาลีนมันกำลังหลั่ง ความรู้สึกมันเป็นแบบนี้เองน่ะหรอ เวลาตื่นเต้น ได้แอบทำอะไรให้ผู้ชายที่ตัวเองแอบหลงรัก ว้ายๆ พูดอะไรออกไปเนี่ย เขินจังเลย คิกคิก" ผมเริ่มหันไปมอง ความเพ้อเจ้อของแม่นี่ ที่ชักจะมากขึ้นเรื่อยๆ แถมพาลทุบ ตบตี หยิก จิก...ผมไม่ใช่หมอนนะ

     

    "-_-" เหมือนใช้เวลาสักพักเธอถึงรู้สึกถึงพลังงานบางอย่างจากสายตาผม...สักที

     

    "มองไร ไม่เคยเห็นคนสวยซ้อนท้ายจักรยานหรอจ๊ะ ทำหน้าขัดฟีลสาวใสวัยรักแรกกระแทกจิ้นอย่างฉันจริงๆ พูดแล้วก็เขินอ่าาา ฉันไม่เคยทำอะใรแบบนี้เลย นายรู้ไหม..." พร้อมเสียง ป้าบๆๆๆ บนหลังผม

     

    "ไม่อยากรู้ และก็ไม่อยากมองด้วย เราไม่สนหรอกนะว่าเธอจะนั่งยิ้มน้อยยิ้มใหญ่อะไร แต่ช่วยหยุดทำร้ายร่างกายเราด้วย" พอผมพูดจบเธอก็เริ่มรู้สึกตัว เอามือออกจากหลังผม

     

    "อุ้ย ไปทำอะไรมาเสื้อยับยู่ยี่ ฝึกหนักหรอ" เธอทำตาปริบๆ ถามอย่างอินโนเซ้นต์

     

    เห้อออออ ไอ้บอส มึงฆ่ากูเลยดีกว่า

     

    พอได้ยินดังนั้น ผมก็ฮึดเอาเอาแรงเฮือกสุดท้ายมาจากไหนไม่รู้ ปั่นจักรยานเส็งเคร็งนี่ด้วยแรงมหาศาล พุ่งไปข้างหน้าด้วยความรวดเร็วอย่างไม่กลัวมันจะหลุดแยกมาเป็นชิ้นๆ

     

    "วู้วววว ไม่น่าเชื่อเนอะ ว่ารถเก่าๆ จะยังขับเร็วได้ขนาดนี้ นายว่าไหม นี่นะ...~>$&^*+=%$>~¥+<$" ผมปล่อยเธอพูด ไม่สิ พล่ามไปเรื่อย

     

    ต้องทำอย่างไอ้บอสบอกจริงๆ...แกล้งทำเป็นไม่ได้ยิน!

     

    แต่พอขับผ่านสวนริมทางที่มีดอกไม้ อะไรบางอย่างดลใจให้ผมหันกลับไปมอง ภาพที่ผมเห็นตอนนี้เป็นภาพที่ผมรู้สึกได้ว่าตัวเองกำลังยิ้มตาม ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมต้องยิ้ม ทั้งที่มันออกจะฟังดูบ้าๆ บอๆ แต่คงเป็นเพราะคำพูดที่กลั่นออกมาจากความรู้สึกจริงๆ ของเธอล่ะมั้ง มันถึงฟังดูจริงใจขนาดนี้ ยิ่งพอได้เห็นรอยยิ้มสวยฉายเด่นชัด เป็นประกายอยู่บนหน้าเธอตอนนี้ บางทีผมว่าผมรู้แล้วแหละว่าเพราะอะไร พี่ชายสุดหล่อของผมที่ยอมให้เธอ...

     

    ภัทรหันไปมองรอบๆ ตัว ก้างแขนออกกว้างๆ แล้วพูดด้วยใบหน้าที่เปื้อนยิ้มหวาน

     

    "เป็นครั้งแรกเลยนะที่ฉันดื่มด่ำกับบรรยากาศยามเย็น ไม่เคยคิดมาก่อนว่าพระอาทิตย์ตอนตกดินมันจะสดใสได้ขนาดนี้ นายรู้สึกไหมดอกไม้ที่บานอยู่ริมทางมันกำลังยิ้มให้ฉัน"

     

    ดอกไม้ผมไม่รู้ แต่ถ้าเป็นคน ผมว่าใครเห็นเธอยิ้มตอนนี้ก็ต้องยิ้มตามแน่นอนแหละ...จริงไหม

     

    ………………………………………………….

     



    เกาะกระแสประกาศกฎอัยการศึก พี่ๆ ทหารหล่อๆ เต็มเฟสเลย เข้าทางเราค่ะ



    เครดิต Gthai movie เกย์เว้ยเฮ้ย'sphoto

     
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×