ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    {BJIN} POSE SEXILY ❥ iKON

    ลำดับตอนที่ #12 : P O S E ❥ 9 | Fall in luv

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 439
      0
      19 เม.ย. 58

    ©
    t
    h
    e
    m
    y
    b
    u
    t
    t
    e
    r
     P O S E  S E X I L Y ❥  9






    Fall in luv.





     

    HUNBIN TALK:

                สองคนนี้มานั่งรอหน้าห้องทุกวันเลยเว้ย อิจฉาจริงดงฮยอกทำหน้าทะเล้นเมื่อเห็นผมกับไอ้จีวอนมานั่งรอหน้าห้อง พี่ยุนฮยองหัวเราะเบาๆ ที่เห็นหน้าผมก่อนจะหันไปซุบซิบอะไรสักอย่างกับจินฮวานขณะที่เดินมาหาผม

                แหมๆ เหมือนลูกแมวตัวน้อยๆ เลยนะฮันบินพี่ยุนฮยองเอ่ยแซวทันทีที่เดินมาถึงผม ผมยักไหล่อย่างไม่ใส่ใจก่อนจะลุกขึ้นและคว้ากระเป๋าของคนตัวเล็กมาถือไว้

                ไปกินไอศกรีมกันนะครับ?” ผมส่งยิ้มให้ จินฮวานยิ้มตอบ เห็นแบบนั้นผมเลยอดไม่ได้ที่จะเอื้อมมือไปดึงแก้มเขาเบาๆ อย่างหมันเขี้ยว

                โอ้ยยย อิจฉาจริงเลยโว้ยยยย ยุนฮยองเราไปกินไอศกรีมกับพวกนี้ดีกว่าไอ้จีวอนพูดพลางพาดแขนลงบนไหล่ของพี่ยุนฮยอง ผมหันไปแยกเขี้ยวให้มัน

                ใครชวนวะ?”

                “กูชวนตัวเองว่ะจีวอนเอ่ยกวนๆ เห็นแบบนั้นพี่ยุนฮยองที่ยืนอยู่ข้างๆ เลยฟาดมือเข้าที่หัวมันเข้าให้

                โอ้ยยย!” คนถูกฟาดร้องโอดโอยพลางยกมือขึ้นลูบหัวตัวเองป้อยๆ

                ใครเค้าชวนนายกันคิมจีวอน! จะไปเป็นก้างขวางคอสองคนนั้นทำไม อีกอย่างวันนี้เราไปจะไปทำความสะอาดห้องนาย มันรกแล้วนะไอ้บ้า!” พี่ยุนฮยองบ่นเป็นชุด มือก็ดึงหูจีวอนไปด้วย ผมหัวเราะให้กับภาพที่เหมือนกับสามีภรรยาทะเลาะกัน ไอ้จีวอนอย่างกับหมาน้อยเลยเวลาอยู่กับพี่ยุนฮยอง หมอนี่ไม่กล้าหือกล้าอืออะไรหรอก ฮ่าๆ

                หัวเราะอะไรวะไอ้ห่าน!” จีวอนโวยวายทั้งๆ ที่ยังคงทำหน้าโอดโอยและใช้มือพยายามดึงมือพี่ยุนฮยองออกจากหูของตัวเอง

                “หัวเราะมึงไง ไอ้คนกลัวเมีย ฮ่าๆ

                “ไอ้ห่านมึง! กูไม่ได้กลัวเว้ย!”

                “ว่าไงนะคิมจีวอน!” พี่ยุนฮยองตะคอกเสียงดังก่อนจะย้ายมือจากที่ดึงหูไอ้จีวอนอยู่เปลี่ยนเป็นกระชากคอเสื้อแทน เมื่อกี้พูดว่าไม่กลัวฉันใช่มั้ย ห๊ะ?!”

                “เออๆ กลัวก็ได้ กลัวแล้วครับ ปล่อยนะยุนฮยองจีวอนโอดครวญพลางทำหน้าหงอยเหมือนลูกหมา พี่ยุนฮยองพ่นลมหายใจเฮือกใหญ่ก่อนจะยอมปล่อยมือที่คอเสื้อของอีกคน ผมหัวเราะออกมาอย่างสะใจ ไอ้จีวอนทำท่าจะเข้ามาซัดผมสักทีสองทีแต่ก็ถูกพี่ยุนฮยองที่ยืนอยู่ข้างๆ ลากคอเสื้อออกไปซะก่อน

                ไอ้ห่านบินนนนนน ไอ้เพื่อนเลววววววววว

                เสียงโหยหวนของจีวอนทำเอาผมหัวเราะด้วยความสะใจดังขึ้นกว่าเดิม แม้แต่จินฮวานที่ยืนยิ้มอยู่ข้างๆ เมื่อกี้ยังเผลอหลุดหัวเราะออกมาอย่างเสียไม่ได้

                จีวอนนี่กลัวยุนฮยองจริงๆ เลยนะ ฮ่า ๆ ๆ ๆ

                เสียงใสเอ่ยปนหัวเราะ ผมหันไปมองคนข้างๆ ที่ยืนหัวเราะเสียงใสอยู่ ใบหน้าหวานยามหัวเราะของเขาเหมือนกับภาพวาดที่ทำให้ผมเผลอมองค้าง

                น่ารักชะมัดเลย

                “ฮันบิน

                “น่ารัก

                “หืม? ว่าไงนะ?” เสียงตกใจของจินฮวานทำเอาผมสะดุ้งและตื่นจากภวังค์ทันที บ้าเอ้ย! เผลอพูดออกมาซะอย่างนั้น ไอ้ฮันบิน ไอ้กากเอ้ย!

                “พูดว่าอะไรนะ?” จินฮวานถามย้ำ ผมยกมือขึ้นเกาท้ายทอยตัวเองเบาๆ ก่อนจะส่ายหัวปฎิเสธ

                ไม่มีอะไรหรอก ผมบอกว่าไปกินไอศกรีมกันเถอะ

                “ทำไมประโยคมันยาวขึ้นล่ะ?”      

                “เอาน่าผมโบกมือไปมาในอากาศเป็นเชิงปฎิเสธก่อนจะเอื้อมมือไปดึงมือคนตัวเล็กมาจับไว้และพาเดินโดยไม่ให้เขาได้ถามอะไรอีก










               

    @ YG Cafe’

    JINHWAN TALK:

                กริ๊ง ~

                เสียงโมบายหน้าร้านดังขึ้นทันทีที่ผมผลักประตูเข้าไป ฮันบินจูงมือผมให้เข้าไปนั่งในสุดของร้าน ร้านนี้เป็นร้านโปรดของฮันบิน เขาบอกผมว่าเขามักจะมานั่งที่นี่เสมอเวลาที่เขาไม่สบายใจหรือเวลาที่เขาอยากพักผ่อน กลิ่นหอมๆ ของกาแฟที่คละคลุ้งไปทั่วทั้งร้านให้ความรู้สึกอบอุ่นและละมุนอย่างบอกไม่ถูก การตกแต่งร้านในสไตล์วินเทจด้วยโทนสีขาว น้ำตาล และสีครีม ยิ่งทำให้ร้านนี้ดูอบอุ่นมากขึ้นไปอีกเท่าตัว

                ผมนั่งลงบนโซฟาสีครีม ฮันบินเดินไปสั่งไอศกรีมที่เค้าท์เตอร์ให้ ที่ร้านนี้มีทั้งเค้ก กาแฟ และไอศกรีม ฮันบินรู้ทั้งหมดว่าผมชอบอะไร เขาบอกว่าเขาสังเกตเอาจากเวลาที่ไปเที่ยวกับผมแล้วผมมักจะสั่งแต่ของเดิมๆ น่ะ

                ว่าแต่ผม เขาเองก็เหมือนกันนั่นแหละ

                ต่อให้มีไอศกรีมร้อยพันชนิด ฮันบินก็ไม่เคยจะสนใจเลยสักนิด เขายังคงยึดมั่นในช็อกโก้โคน สาบานได้เลยว่าผมไม่เคยเห็นฮันบินสั่งไอศกรีมรสอื่นเลย

                เหมือนที่ตอนนี้เขากำลังยืนเลียช็อกโก้โคนในขณะที่วางช็อกโกแลตพาร์เฟ่ลงตรงหน้าผมยังไงล่ะ

                “อร่อยมั้ย?” ผมเอ่ยพลางตักช็อกโกแลตเข้าปากในขณะที่มองคนตรงหน้านั่งเลียช็อกโก้โคนด้วยใบหน้ามีความสุข

                หืม? ช็อกโก้โคนน่ะหรอครับ?” ฮันบินเอ่ยงงๆ พลางชูช็อกโก้โคนในมือตัวเอง ผมหลุดหัวเราะออกมาเบาๆ ให้กับท่าทางเหมือนเด็กของเขาก่อนจะพยักหน้าเบาๆ

                ก็เห็นชอบกินมากเลยนี่นา เวลากินก็เห็นทำหน้ามีความสุขมากขนาดนั้นด้วย

                “ผมทำหน้ามีความสุขขนาดนั้นเลยหรอ?”

                “มากผมหัวเราะเบาๆ ฮันบินหัวเราะตามก่อนจะยื่นช็อกโก้โคนมาตรงหน้าผมและพยักหน้าเบาๆ เป็นเชิงบอกให้ผมลองชิม ผมแลบลิ้นเลียช็อกโก้โคนในมือของอีกคนก่อนจะชูนิ้วโป้งให้

                อื้อ อร่อย

                “ใช่มั้ยล่ะ?” ฮันบินเอ่ยอย่างภูมิใจในช็อกโกโคนของโปรดของตัวเอง งั้นเรื่องที่ว่าอร่อยก็เคลียร์แล้วนะครับ เพราะงั้นผมถึงได้ชอบมันไงล่ะ

                “อาฮะผมพยักหน้าเบาๆ คนตรงหน้าส่งยิ้มให้ก่อนจะเลื่อนมือมาเช็ดคราบไอศกรีมที่มุมปากผมเบาๆ แล้วเลียนิ้วมือตัวเองด้วยท่าทางมีความสุข

                ส่วนเรื่องที่ว่าทำไมผมดูมีความสุขมากมายเวลาที่กินมัน

                “…..

                “ไม่ใช่เพราะว่าผมชอบมันมากหรอกครับ

                “…….”

                “แต่มันเป็นเพราะผมชอบพี่มากต่างหาก

                “…….”

                ได้กินของที่ชอบกับคนที่ชอบ ใครจะไม่มีความสุขล่ะครับ จริงมั้ย?”

                อาไอศกรีมรสโปรดรสต่อไปของผมต้องเป็นช็อกโก้โคนแน่ๆ เลย

     












     

               

                “พี่คิดจะกลับห้องเมื่อไหร่ครับ?” ฮันบินเอ่ยถามในขณะที่เราเดินเล่นกันอยู่ที่สวนสาธารณะแถวๆ หอพัก ผมถอนหายใจเบาๆ ก่อนจะตอบ

                ไม่รู้สิ พี่แค่ยังไม่อยากเจอหน้าเฮียมินโฮ

                ตั้งแต่เกิดเรื่องวันนั้นผมก็มาอยู่ที่ห้องของฮันบิน ไม่กลับห้อง ไม่ไปทำงานที่คลับ ถึงจะเดินผ่านเฮียมินโฮกับแทฮยอนผมก็จะทำเป็นไม่สนใจและทำราวกับว่าผมมองไม่เห็นพวกเขาแทน ไม่ใช่ว่าผมโกรธพวกเขามากมายจนไม่มีโอกาสให้อภัย มันก็จริงที่ว่าผมโกรธเขา แต่ตอนนี้ผมให้อภัยพวกเขาแล้ว ที่ผมยังไม่กลับไปเพราะผมยังไม่สามารถทำใจมองหน้าพวกเขาได้ต่างหาก

                โดยเฉพาะคังซึงยูน

                พี่จินอูโทรหาผมเป็นพันๆ ครั้งแต่ผมก็เลือกที่จะไม่รับ ผมเข้าใจว่าเขาเองคงอยากขอโทษ แต่คนนิสัยแบบผม ผมอาจจะเผลอพูดอะไรที่ไม่ดีออกไปจนทำให้พี่จินอูเสียใจก็ได้ พี่จินอูน่ะบอบบาง น่าทะนุถนอม เปราะบาง อ่อนไหว เขามักจะเก็บคำพูดของใครๆ ไปคิดมากเสมอ เขาไม่เคยปฎิเสธคำขอร้องจากใคร แล้วเขาก็มักจะเป็นฝ่ายโดนทำร้ายเสมอ

                โดยเฉพาะ เขา ที่ฉีกหัวใจของพี่จินอูอย่างไม่มีชิ้นดี

                “พี่จินฮวานครับ เสียงฮันบินปลุกผมให้ตื่นจากภวังค์ ผมหันไปหาเขาก่อนจะกระพริบตาปริบๆ เมื่อเห็นว่าฮันบินมองหน้าผมขำๆ

                ใจลอยไปถึงไหนกันครับเนี่ย เดินเหยียบสายรองเท้าตัวเองจนเกือบจะสะดุดล้มไปหลายรอบแล้วนะ

                ผมก้มมองเท้าตัวเองทันทีที่ได้ยินคำบอกจากอีกคน อ้าว นี่เชือกรองเท้าผมหลุดตั้งแต่เมื่อไหร่กันเนี่ย เกือบล้มแล้วมั้ยล่ะ เฮ้อ

                ผมถอนหายใจเบาๆ ก่อนจะเตรียมทรุดตัวลงนั่งผูกเชือกรองเท้า แต่ก็ต้องชะงักเมื่อร่างสูงตรงหน้าทรุดตัวลงนั่งตรงหน้าผม ฮันบินก้มลงผูกเชือกรองเท้าที่เท้าของผมอย่างเรียบร้อยก่อนจะเงยหน้าขึ้นมาส่งยิ้มให้ผมที่ยืนอึ้งกับการกระทำของเขาอยู่

                ผูกดีๆ สิครับ มันจะได้ไม่หลุด

                “ขอบใจนะ

                ฮันบินส่งยิ้มให้ผมอีกครั้งก่อนจะปัดมือของตัวเองกับกางเกงและเอื้อมมือมาดึงมือผมไปสอดนิ้วไว้พลางเดินไปข้างหน้า

                เรื่องแค่นี้ผมดูแลได้น่า 

                ฮันบิน

                “ครับ?”

                ทำไมทำดีกับพี่ขนาดนี้ล่ะ?” สุดท้ายผมก็ถามคำถามที่ค้างอยู่ในใจมานานออกไป ฮันบินดีกับผมมาก มากจนผมรู้สึกว่าเขารักผมมากจริงๆ ทั้งๆ ที่ในตอนแรกเขาเป็นคนที่พยายามต่อต้านผม หลีกเลี่ยงผม แต่เขากลับบอกว่าเขารักผม พอเป็นแฟนกันเขาก็ทำดีกับผมมาก เขาน่ารัก อบอุ่น อ่อนโยน ใจดี เขาไม่เหมือนฮันบินที่ผมรู้จักก่อนหน้านี้เลยสักนิด

                เขาปลอบผมเวลาที่ผมร้องไห้ เขาทำให้ผมยิ้มได้ในวันที่ผมรู้สึกเบื่อ เขายอมให้ผมไปอยู่ด้วยแล้วก็ไม่เคยแม้แต่จะทำอะไรกับผมเลยสักนิดทั้งๆ ที่ผมพยายามอ่อยเขาแทบตาย เขาทำเพียงแค่ดุผมแล้วก็นอนกอดผมไว้เท่านั้น

                เขาดีกับผมมากจริงๆ

                “คำถามอะไรของพี่น่ะ?” ฮันบินขมวดคิ้วงงๆ พลางจ้องหน้าผมด้วยแววตาสงสัย ผมก้มหน้าหลบสายตาของอีกคนที่มองมาก่อนจะเอ่ยถามอีกครั้ง

                พี่ก็แค่อยากรู้ว่าทำไมเราถึงดีกับพี่ขนาดนี้

                ผมรักพี่

                คำตอบของฮันบินที่ตอบกลับมาอย่างไม่คิดทำเอาผมเงยหน้ามองเขาทันที นัยน์คู่สวยของคนตรงหน้ามองลึกเข้ามาในตาของผม แววตาจริงจังของเขาทำเอาผมพูดไม่ออก ได้แต่ยืนมองเขาอย่างนั้น ฮันบินกระชับมือเราที่สอดประสานกันไว้ให้แน่นขึ้นกว่าเดิม

                เหมือนเป็นการย้ำให้ผมมั่นใจในคำตอบของเขา..

                “ทำไมพี่ต้องถามคำถามที่เหมือนกับว่าเราไม่ได้รักกันด้วยล่ะ?”

                “…...

                “ผมบอกพี่ได้เป็นร้อยเป็นพันครั้งเลยว่าผมรักพี่ นั่นคือเรื่องจริง

                “…….

                “ผมมีความสุขมากที่พี่เป็นแฟนของผม ผมทำดีกับพี่ก็เพราะว่าผมรักพี่

                “…….

                “ยังมีอะไรให้ต้องสงสัยอีกหรอครับ?”

                “แล้วทำไมถึงรักพี่ล่ะ ตอนแรกฮันบินพยายามผลักไสพี่นี่นา” 

                “พี่จินฮวานฮันบินดึงผมเข้าไปกอดไว้ มือที่จับแน่นยังคงจับไว้อย่างนั้นไม่ยอมปล่อยเลยสักนิด ฮันบินวางคางแหลมลงบนไหล่ของผมก่อนจะพึมพำข้างหูผม

                ผมรักพี่ตลอด รักมานานแล้ว แล้วก็ไม่เคยเลิกรัก

                “หมายความว่างะ...”

                ยังไม่ทันที่ผมจะได้ถาม ฮันบินก็ผละอ้อมกอดออกก่อนจะเลื่อนนิ้วเรียวสวยจรดริมฝีปากผม นัยน์ตาคู่สวยของเขามีรอยของความสั่นไหว เสียงนุ่มเอ่ยอีกครั้งในขณะที่เลื่อนใบหน้าเข้ามาประทับริมฝีปากลงบนปากของผม

                อย่าถามอะไรผมอีกเลยครับ เพราะทุกอย่างมันก็มีเหตุผลเดียว

                “…...

                “แล้วถึงเวลา พี่ก็จะรู้เองโดยไม่ต้องเอ่ยถาม

                เวลานั้นมันเมื่อไหร่กันนะ…         

                ฮันบินถอนจูบออกก่อนจะลูบหัวผมเบาๆ ผมส่งยิ้มให้เขาพลางยกมือขึ้นเกาแก้มตัวเองเขินๆ ใช่ ผมเขินเขา แล้วก็เหมือนว่าจะเขินมากๆ ด้วยสิ

                พี่หน้าแดง?” ฮันบินเอ่ยอย่างตื่นเต้นพลางชี้นิ้วมาที่หน้าผม ผมกระพริบตาปริบๆ พลางยกมือขึ้นปิดแก้มตัวเองเอาไว้

                อย่าล้อนะ!”

                “เฮ้ย พี่หน้าแดงมากเลยอ่ะเด็กขี้ตื่นเต้นยังไม่เลิกโวยวาย ฮันบินพยายามแกะมือที่ผมปิดแก้มไว้ออก นัยน์ตาสุกใสมีประกายของความตื่นเต้น ดีใจ แล้วก็ตกใจปนๆ กัน

                ตื่นเต้นอะไรหนักหนาเนี่ย!” ผมโวยวายกลบเกลื่อนความอาย แต่คนตรงหน้าก็เอาแต่ยิ้มกว้างจนปากแทบจะฉีกไปถึงหู ผมพยายามจะยกมือขึ้นมาปิดแก้มตัวเองอีกครั้งแต่ฮันบินก็ดึงมือผมไปกุมไว้แน่นซะก่อน

                ผมดีใจจังฮันบินเอ่ยด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น ผมเลิกคิ้วขึ้นข้างหนึ่งอย่างนึกสงสัย ดีใจ? เขาดีใจอะไรของเขากัน?

                “พี่หน้าแดง มันแปลว่าพี่เขินผมฮันบินไขข้อข้องใจของผม และแน่นอนว่าคำเฉลยของเขามันทำเอาผมหน้าแดงกว่าเดิมซะอีก คนบ้า! ได้ทีก็แกล้งกันใหญ่เลยนะ

                เลิกล้อสักทีได้มั้ยคิมฮันบิน!”

                “ผมไม่ได้ล้อพี่นะ

                “เนี่ย นายกำลังทำอยู่!”

                “ผมบอกแล้วไงว่าผมดีใจต่างหาก

                “ไม่ต้องมา…!”

                ในขณะที่ผมกำลังเถียงกับเขาหน้าดำหน้าแดงจู่ๆ ฮันบินก็โน้มใบหน้าลงมาหาผมจนปลายจมูกชนกัน นัยน์ตาของเขามองผมอย่างอ่อนโยน ริมฝีปากได้รูปขยับคำพูดเบาๆ

                ผมไม่เคยเห็นพี่เขินผมเลยสักครั้งเดียว

                “…….

                “เพราะงั้นผมถึงได้ดีใจที่วันนี้ผมได้เห็นมัน นั่นแปลว่าพี่ก็รักผมเหมือนกันJ

                ผมนิ่งไปกับคำพูดของเขา ใช่ นี่ถือเป็นครั้งแรกที่ผมรู้สึกแบบนี้กับเขา ทั้งๆ ที่ตอนนี้มันเป็นเรื่องของแผนนั่น แต่ความรู้สึกแบบนี้มันไม่ได้อยู่ในแผนของผมเลยสักนิด และมันน่ากลัวมากสำหรับผม

                ให้ตายสิผมกำลังหลงรัก เป้าหมาย

               

     

     

     



               


     

               To be continued.








     

              มาพูดคุยกับอินดี้กัน :3            



    *สวัสดีค่ะ มาต่อตามสัญญาในวันอาทิตย์ดึกนิดหน่อย แฮะ
    ขอโทษด้วยน้าที่เบี้ยวอาทิตย์ที่แล้ว เราเที่ยวหนักมาก 555555555
    หลายๆ คนคงเดาเรื่องออกบ้างแล้ว อ่านคอมเม้นแล้วสนุกดีอ่ะ ได้รู้ว่าเขาคิดแบบนี้นะ
    แต่บอกได้เลยว่ามีอะไรมากกว่าที่คุณคิดแน่นอน (:

    มีนิยายที่แต่งใหม่ด้วย เป็นโปรเจคคู่กับไรท์เตอร์ม่อน
    แฟนตาซีนิดหน่อย ตามไปได้เลยนะ
    คลิก 



    ติดต่อกันได้ทั้งสองเพจเลยนะคะ
    IDOL FIC THAILAND
    INDY_LIQUEUR
    ทวิตเตอร์ Indydoll

    สกรีมลงแท็กที่ 
    #จินฮวานคนขี้อ่อย

    เชิญชวนต่อแท็ก
    #ฮันบินคนกาก

     

           


     

     

     





     

     


     

     



     

     
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×