
Prebiotic หมายถึงใยอาหารที่รับประทานเข้าไปแล้วไม่ถูกย่อยและดูดซึมโดยกระเพาะอาหาร และลำไส้เล็ก สามารถผ่านลงไปยังลำไส้ใหญ่ไปเลือกเลี้ยงและส่งเสริมการเจริญเติบโตเจาะจง เฉพาะจุลินทรีย์ชนิดที่มีผลดีต่อสุขภาพ เช่น แลคโตแบซิลัส บิฟิโดแบคทีเรีย แต่ทำให้แบคทีเรียชนิดที่มีผลเสียต่อสุขภาพลดจำนวนลง ซึ่งแตกต่างจาก colonic food ซึ่งเป็นใยอาหารที่ไม่ถูกย่อยและดูดซึมโดยกระเพาะอาหารและลำไส้เล็กและ สามารถผ่านลงไปถึงลำไส้ใหญ่เช่นเดียวกันกับ prebiotic
แต่ colonic food เป็นใยอาหารที่ไม่เลือกเจาะจงเลี้ยงกระตุ้นการเจริญเติบโตของจุลินทรีย์ชนิด ที่มีผลดีต่อสุขภาพเท่านั้น แต่จะเลี้ยงจุลินทรีย์ทุกชนิดทั้งชนิดที่มีผลต่อดีและผลเสียต่อสุขภาพรวม ทั้งจุลินทรีย์ชนิดฉวยโอกาสที่อาจทำให้เกิดโรค Prebiotic จึงมีผลดีต่อสุขภาพของคนที่รับประทานเข้าไปทำให้เยื่อบุลำไส้แข็งแร็ง ลดติดเชื้อ เช่น โรคท้องเสีย โรคติดเชื้อระบบทางเดินหายใจและโรคภูมิแพ้ เช่น ลมพิษ ผื่นแพ้ และหอบหืด ทำให้อุจจาระนิ่มถ่ายบ่อยขึ้นช่วยแก้ปัญหาโรคท้องผูก
prebiotic มีมากในน้ำนมแม่แต่ไม่มีในนมวัว ทารกที่เลี้ยงด้วยนมแม่จึงถ่ายอุจจาระนิ่มเหลวบ่อย ปัจจุบันจึงเริ่มมีการเติม fructooligosaccharide, galactooligosaccharide และ inulin ลงในนมผสม ซึ่งจากการวิจัยพบว่านมผสมที่เติม prebiotic ปริมาณที่เหมาะสมคือ 0.4-0.8 กรัมเปอร์เซ็นต์ จะมีผลช่วยให้ลักษณะอุจจาระนิ่ม ขับถ่ายสะดวกขึ้นช่วยป้องกันและลดอุบัติการณ์ของโรคติดเชื้อและภูมิแพ้![]()
สำหรับอาหารตามธรรมชาติที่มี prebiotic มากได้แก่ ข้าวสาลี หอมหัวใหญ่ กระเทียม กล้วย น้ำผึ้ง ต้นหอม หน่อไม้ฝรั่ง และ chicory root ผลดีของ prebiotics นอกจากจะมีผลดีต่อสุขภาพของคนที่รับประทานดังที่กล่าวมาแล้ว ยังช่วยให้ลำไส้ดูดซึมแร่ธาตุ เช่น แคลเซียม ธาตุเหล็ก ทองแดง และแมกนีเซียมเพิ่มขึ้น ส่วนผลต่อไขมันในเลือด โรคเบาหวาน โรคกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดไปเลี้ยง โรคกระดูกโปร่งบาง และโรคมะเร็งนั้นกำลังอยู่ระหว่างทำการศึกษา เราจึงควรหันมาสนใจและรับประทาน prebiotic ใยอาหารเพื่อสุขภาพให้มากขึ้นกันนะครับ
ความคิดเห็น