คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : สับ JLS01 #1 : Rule is Infringed แหกกฎสาย ทลายกำแพงหัวใจพี่รหัสสุดที่รัก
สวัสดีค่ะคุณ Minnie
เราคือหนึ่งในคณะโค้ชลับแห่งโครงการนักเขียนหน้าใสปีเจ็ด โค้ชลับ... สับให้เละ
(ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง และส่วนได้ส่วนเสียกับทางสำนักพิมพ์แจ่มใสทั้งสิ้น)
จะมารับหน้าที่วิจารณ์งานของคุณ Minnie JLS01 Rule is Infringed แหกกฎสาย ทลายกำแพงหัวใจพี่รหัสสุดที่รัก ตอนที่ 1 ค่ะ
ก่อนอื่น เราก็รู้สึกดีใจเล็กๆ ที่ได้รับงานที่มีคะแนนโหวตอันล้นหลามมากที่สุดในบรรดานักเขียนหน้าใสทั้งหมด
แต่ทว่า... เมื่อได้อ่านนิยายของคุณ Minnie แล้ว ก็พบว่าเรื่องนี้ได้คะแนนโหวตเพราะมีคนรู้จักเยอะเท่านั้น ไม่ใช่จากคุณภาพของนิยายเลย ไม่ใช่ว่านิยายแย่นะ แต่มันไม่ได้ดีเลิศเลอขนาดว่ายอดโหวตถล่มทลาย เรื่องนี้คุณภาพก็พอๆ กับเรื่องอื่นๆ
บทนำถือว่าเปิดออกมาได้ดีในระดับหนึ่ง ในครั้งแรกที่อ่านนั้นก็รู้สึกว่า ปีนี้มีเรื่องเด่นๆ เข้ามาหนึ่งเรื่องแล้ว แต่ว่าความคิดนั้นกลับหายไปเมื่อได้อ่านบทที่หนึ่ง
เรื่องนี้ก็เหมือนกับเรื่องอื่นๆ ที่บรรยายแบบบุคคลที่หนึ่งในแบบบุคคลที่สาม เรียกง่ายๆ ก็บรรยายแบบบุคคลที่สาม แค่เปลี่ยนจากชื่อตัวละครเอกเป็นคำว่าฉัน เสน่ห์ของการบรรยายแบบบุคคลที่หนึ่งคือการมองเรื่องราวผ่านมุมมองของบุคคลเดียว รู้ถึงเหตุการณ์ที่ผู้บรรยายเจอ รู้ทุกสิ่งที่ผู้บรรยายคิด
สำหรับเรื่องนี้นั้น แทบไม่มีการบรรยายว่าตัวละครนั้นคิดอย่างไรเลย นั่นทำให้คนอ่านไม่อินไปตามเนื้อเรื่อง เรารู้แค่ว่าตัวนางเอก (กัส) คิดอะไร เรารู้แค่กัสตกใจ แต่ไม่รู้ว่ากัสคิด ‘อย่างไร’ เช่น
“…กัสจัง!?” ฉันสะดุ้งทันทีเมื่ออยู่ดีๆ ชื่อของตัวเองก็หลุดออกมาจากปากใครสักคนที่อยู่ทางด้านหลัง และเมื่อหันกลับไปมองก็พบว่าเป็น...
เรารู้แค่ว่ากัสสะดุ้ง แต่มองไม่เห็นภาพ ยังไม่อินตาม แทนที่จะบรรยายว่าฉันสะดุ้ง ก็เปลี่ยนเป็นบรรยายสิ่งที่ตัวละครคิดเมื่อสะดุ้ง เช่น
“…กัสจัง!?” อยู่ๆ เสียงหนึ่งหลุดออกมาจากปากใครซักคนที่อยู่ทางด้านหลัง ตกใจหมดเลยให้ตายสิ!
เราก็ยกตัวอย่างได้ไม่ค่อยดีซะด้วยสิ เพราะเรื่องนี้บทพูดเยอะซะส่วนใหญ่ เลยหาจุดที่โชว์ให้เห็นชัดๆ ยากหน่อย
ยังมีบางคำที่ใช้ซ้ำ อย่างตัวอย่างข้างล่างนี้ มีแต่คำว่า พลาง พลาง พลาง เต็มไปหมดเลย...
“พี่โนวเลจน์ -0-!” ฉันเอ่ยชื่อของคนตรงหน้าพลางถอนหายใจอย่างโล่งอก
“แปลว่าเมื่อกี้เหม่ออยู่” รุ่นพี่ตรงหน้าว่าพลางกระตุกยิ้มมุมปาก ก่อนจะก้มลงมองของที่อยู่ในมือฉันแล้วถามว่า “กำลังจะไปหาพวกน้องๆ เหรอ?”
“ค่ะ (_ _)” ฉันพยักหน้ารับ ก่อนจะบอกว่า “แต่ตอนนี้กัสก็ลืมหมดแล้วว่าขนมถุงไหนเป็นของใครบ้าง ...เพราะพี่คนเดียวเลย -w-!”
“พี่ยังไม่ได้ทำอะไรเลย” พี่โนวเลจน์เถียงพลางขมวดคิ้ว
“พี่ทำให้กัสตกใจจนลืม -^-” ส่วนฉันก็ให้เหตุผล (ปลอมๆ) พลางเชิดหน้าใส่เล็กๆ
“...แน่ใจเหรอว่าเราไม่ได้ลืมก่อนพี่จะมาอยู่แล้ว?” พี่โนวเลจน์ถามพลางยิ้มราวกับรู้ทัน
อีกคำที่คุณ Minnie ใช้ซ้ำนอกจากคำว่า “พลาง” คือคำว่า “ก่อนจะ” ค่ะ ลองไปแก้ดูนะคะ กด ctrl+f หาดูก็ได้
“มันอันตราย” พี่โนวเลจน์พูดขัด ก่อนจะบอกว่า “ส่งให้เสร็จแล้วค่อยเดินก็ได้”
“แต่มันจะถึงเวลาเข้าแถวแล้ว” ฉันให้เหตุผล ก่อนจะบอกอย่างมั่นใจว่า “และกัสก็เชื่อว่าพี่คงไม่ปล่อยให้กัสเดินชนหรือสะดุดอะไรแน่ๆ ใช่มั้ยล่ะ?”
“…” คนตรงหน้าไม่พูดอะไร เพียงแต่จับไหล่ฉันให้กลับหลังหันก่อนจะออกแรงดันเพื่อให้ฉันเดิน
สุดท้าย... เรื่องอิโมติค่อน บางตัวไม่ได้เข้ากับอารมณ์ของเนื้อเรื่องเลยค่ะ อ่านแล้วทำให้สะดุด เช่น...
“พี่โนวเลจน์ -0-!” ฉันเอ่ยชื่อของคนตรงหน้าพลางถอนหายใจอย่างโล่งอก ให้ตายสิ! ฉันเกือบหัวใจวายตายแล้ว =_= “กัสตกใจหมด”
ตกใจอยู่ดีๆ ทำหน้าปลง... หัวใจจะวายตายทำหน้าปลงอีกหรือ... การใช้อิโมที่ไม่ดีจะอ่านสะดุดและกลบการบรรยายเรานะคะ พึงระวังไว้ดี และอย่าใช้มากเกินจำเป็นล่ะ
นี่ก็เป็นแค่คำวิจารณ์เล็กๆ ที่คุณ Minnie จะเลือกสนใจมันหรือไม่ก็ได้นะคะ
ด้วยความปรารถนาดี จากโค้ชลับ...สับให้เละ
โชคดีค่ะ
ความคิดเห็น