ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Fic Harry [DM/HP] : You Are My Little Cat (Yaoi)

    ลำดับตอนที่ #14 : CHAPTER 13

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 9.44K
      96
      22 ธ.ค. 48





    Part 13



    ภายในห้องนั่งเล่นรวมสลิธีรินแพนซี่ พาร์กินสันกำลังทำลับๆ ล่อๆ อยู่หน้าห้องคุณชายแห่งบ้านสลิธีริน สองมือเล็กๆ ค่อยๆ ผลักบานประตูเข้าไป สองเท้าพยายามลงน้ำหนักอย่างเบาที่สุด กวาดสายตาไปทั่วห้องเพื่อมองหาร่างเล็กขนฟู แต่แล้วก็ต้องพบกับความผิดหวังเมื่อไม่เจอไอ้แมวบ้าอย่างที่ตั้งใจ

    “ไอ้แมวบ้าไปมุดหัวอยู่ที่ไหนนะ” สบถออกมาอย่างหงุดหงิด ช่างไม่สมเป็นกุลสตรีเอาซะเลย



    สาวน้อยแพนซี่ถือโอกาสเดินสำรวจรอบๆ ห้องที่หล่อนไม่เคยอย่างกรายเข้ามาเลย เตียงนอนหลังใหญ่กับผ้าปูสีน้ำเงินเข้มให้ความรู้สึกน่าหลงใหล เมื่อคิดถึงร่างสูงที่เอนกายนอนหลับบนเตียงนี้ทุกคืน แพนซี่ค่อยๆ เดินเข้าไปใกล้เตียงใหญ่หย่อนกายลงนั่งและทิ้งตัวลงนอนราบไปกับผ้าปูเนื้อดี กลิ่นหอมอ่อนๆ ลอยเข้ามายังประสาทการรับกลิ่น แค่นี้ก็ทำให้สาวน้อยเคลิบเคลิ้มไปได้ง่ายๆ แต่เมื่อนึกถึงแมวอัปลักษณ์ที่ได้อยู่ร่วมห้องกับที่รักของหล่อนทุกคืนก็ทำให้แพนซี่หลุดออกจากภวังค์ หล่อนยันกายลุกขึ้นอย่างรวดเร็วก่อนที่จะเดินปึงปังออกไปนอกห้อง



    “ฉันต้องหาแกให้เจอให้ได้ คอยดู” สายตาอาฆาตมาดร้ายปรากฏชัดอยู่ในแววตาของผู้พูด พร้อมกับร่างของแพนซี่ค่อยๆ หายลับไปตรงมุมระเบียงทางเดิน



    หลังจากเดินตามหามาจนทั่วฮอกวอตส์แพนซี่ก็เริ่มถอดใจ        ทำไมมันหายากหาเย็นแบบนี้      นี่ก็ใกล้เวลาพวกที่ไปฮอกมี้ดจะกลับมาแล้ว แม่สาวพาร์กินสันจึงตัดสินใจเข้าไปรอคาธรีน่าเพื่อนรักที่ห้องโถงด้วยอารมณ์ที่หงุดหงิดเหลือจะกล่าว ฝ่ายผู้ถูกตามหากลับไปนั่งๆ นอนๆ ในกระท่อมของแฮกริดอย่างสบายใจถึงจะมีเจ้าเขี้ยวคอยกวนใจก็เถอะแต่ก็ดีกว่านอนเหงาอยู่ในห้องของผู้เป็นนายตัวเดียว



    “กลับมาแล้วเหรอคาธรีน่าเป็นไงสนุกมั้ย” พาร์กินสันถามไถ่เพื่อนรักอย่างไม่ค่อยใส่ใจนัก ในหัวสมองกำลังครุ่นคิดถึงแมวขนฟูอัปลักษณ์ หายไปไหนนะ ทำไมถึงหาไม่เจอแล้วโอกาสดีๆ แบบนี้มันจะมีอีกเมื่อไหร่



    “ไม่หรอก ถ้าไม่มีเธอไปด้วยมันก็ไม่สนุก ว่าแต่ที่ไม่สบายหายหรือยัง”  อันที่จริงคาธรีน่าในตอนนี้ก็ไม่ต่างอะไรไปจากแพนซี่นักหรอก เพราะวันนี้ทั้งวันเธอตามหาร่างสูงสง่าที่แอบหลงใหลมานานแสนนาน แต่เดินหาเท่าไหร่ก็ไม่พบ ที่ต้องพยายามทำเป็นร่าเริงก็เพียงเพื่อไม่ให้แพนซี่ติดใจสงสัยอะไร



    “หายแล้ว” คำตอบสั้นๆ ออกมาจากปากเรียวเล็กนั่น ทำให้คาธรีน่ารู้ได้ว่าแผนการณ์ของตนนั้นไม่สำเร็จ



    “อีกหนึ่งเดือนการแข่งขันควิชดิชรอบสองจะเริ่มขึ้นเธอจะไปดูมัลฟอยแข่งกับฮัฟเฟิลพัฟมั้ย” คาธรีน่าถามหยั่งเชิงเพื่อนสาวที่ยังคงอารมณ์เดิมไว้ไม่เปลี่ยนแปลง



    “ต้องไปดูสิ ถามมาได้ยังไงคาธรี...น่าขอบใจนะเธอทำให้ชั้นนึกอะไรออกแล้ว” รอยยิ้มกลับมาบนใบหน้าของแพนซี่อีกครั้ง

    “อะไรกันแพนซี่ฉันไม่เห็นเข้าใจเธอเลย” ถึงปากจะบอกว่าไม่เข้าใจ แต่ยิ้มที่ถูกส่งกลับไปให้แพนซี่มันมีความหมายอะไรแอบแฝงที่คนได้รับไม่ทันได้สังเกตเห็น



    ************************************



    บริเวณหน้าห้องโถงแฮร์รี่กำลังเดินวนไปวนมาอย่างกระสับกระส่าย หลังกลับจากฮอกมี้ดจนทานข้าวเสร็จเด็กหนุ่มบอกให้เพื่อนสนิททั้งสองกลับหอนอนไปก่อนโดยที่ตัวเองมีธุระอะไรบางอย่างที่ต้องไปทำ



    “คงไม่เป็นไรหรอกมั้ง ก็หมอนั่นเอ่ยปากบอกเองว่าถ้าอยากเจอก็ให้บอก แครบ กอยล์” เด็กหนุ่มกำลังนึกทบทวนคำพูดเมื่อคืนของร่างสูง แล้วคนที่เค้ากำลังรอคอยก็เดินออกมาจากห้องโถง



    “เอ่อ...” ร่างบางเกิดอาการพูดไม่ออกขึ้นมากระทันหัน



    “ว่าไง พอตเตอร์มีอะไรก็ว่ามาเรารีบ” แครบถามร่างบางตรงหน้าเมื่อเห็นว่าไม่พูดธุระของตนเองซะที



    “คือ...คือว่าฉันอยากเจอทินเซล” เฮ้อ...ในที่สุดก็พูดออกไปจนได้ไม่รู้ว่ามัลฟอยจะบอกสองคนนี้ให้รู้เรื่องหรือยังนะ



    “อ๋อ...ได้ซิ ลูกพี่สั่งไว้ว่าถ้านายอยากเจอก็ให้เราสองคนพาทินเซลมาหานาย”



    “แต่ตอนนี้เราคงช่วยอะไรนายไม่ได้หรอกนะ เพราะทินเซลอยู่กับมัลฟอยที่ริมทะเลสาบโน้นแน่ะ” กอยล์เสริมคำพูดของเพื่อนร่างยักษ์



    “งั้นเหรอ...ขอบใจ” แววตาสดใสสลดลงวูบนึง ก่อนที่จะตัดสินใจหมุนตัวเดินออกไปนอกปราสาท” สองเท้าพาตัวเองเดินมาที่ริมทะเลสาบโดยอัตโนมัติ เมื่อมาถึงแฮร์รี่ก็เห็นมัลฟอยกำลังนอนหลับอยู่ตรงใต้ต้นไม้ใหญ่ โดยมีทินเซลนอนหมอบอยู่ข้างๆ



    เด็กหนุ่มเดินเข้าไปใกล้ร่างสูงเรื่อยๆ จนมาถึงที่หมายแฮร์รี่นั่งลงใกล้ๆ ร่างที่กำลังนอนหลับ ดวงตากลมโตกำลังพิจารณาใบหน้าคมอย่างสนใจ รูปหน้าคมสมส่วน คิ้วเรียวเข้ม จมูกโด่งและปากเรียวได้รูป ทุกอย่างที่รวมเป็นมัลฟอยมันช่างหน้าหลงใหลเสียจริงๆ แต่เมื่อนึกถึงปากเสียๆ ที่คอยชอบพูดจาถากถางมันก็ชวนอยากให้ฝากรอยแผลที่ปากนั่นซักแผล คนอะไรตอนหลับก็ดูสงบดีหรอกแต่พอตื่นขึ้นมา ทำไมมันกวนประสาทชะมัด กว่าจะรู้สึกตัวว่าเผลอจ้องร่างสูงอยู่นาน คนที่ตัวเองคิดว่ากำลังหลับก็ลืมตาขึ้นมือแกร่งรวบตัวร่างบางทันควัน ตอนนี้กลับกลายเป็นว่าแฮร์รี่ได้ลงไปนอนอยู่บนพื้นหญ้านุ่มโดยมีร่างของคุณชายมัลฟอยคร่อมทับอยู่ด้านบน ไม้กายสิทธิ์ของร่างสูงกำลังชี้อยู่ที่คอขาวผ่องของร่างบาง แต่เมื่อเห็นว่าร่างข้างใต้คือใครเดรโกก็รีบปล่อยแฮร์รี่ให้เป็นอิสระ ปลายไม้ถูกเลื่อนออกไปจากคอก่อนที่จะถูกเก็บเข้าเสื้อคลุม

    “นายเองเหรอพอตเตอร์” ร่างสูงพยายามปรับน้ำเสียงให้เป็นปกติ แต่ใบหน้ายังคงความเรียบเฉยเอาไว้ได้อย่างดี



    “เอ่อ...ขอโทษที่ทำให้ตกใจ มัลฟอย”



    “มีธุระอะไร” คำพูดห้วนๆ ชวนน่าหมั้นไส้ ที่ทำให้คนฟังถึงกับนึกอยากจะหาอะไรกระแทกให้ปากมันแตกสักที

    “ฉันไม่ได้มาหานาย ก็แค่มาหาทินเซล ลูกสมุนของนายบอกว่าทินเซลอยู่กับนายที่นี่” ร่างบางตอบกลับไปทั้งที่ๆ สายตายังอยู่ที่ทินเซล มือเรียวลูบขนนุ่มๆ ไปมาก่อนที่จะอุ้มเจ้าตัวดีขึ้นมานั่งบนตักอุ่น



    “ดูท่ามันจะติดนายมากนะ มากกว่าชั้นด้วยมั้ง”



    “แหงล่ะ    ก็ชั้นเป็นคนซื้อทินเซลมาเอง   ชื่อฉันก็เป็นคนตั้งให้      แล้วทินเซลน่ะอยู่กับฉันที่กริมโมลด์เพลซก่อนที่จะมาฮอกวอตส์   แถมยังอยู่กับชั้นอีกอาทิตย์ก่อนที่จะมาเจอกับนายซะอีก” เป็นครั้งแรกในรอบ 7 ปี ที่คู่กัดตลอดกาลอย่างแฮร์รี่และมัลฟอยจะพูดจากันดีๆ สักครั้ง



    “มัลฟอย...ฉันเสียใจด้วยเรื่องพ่อและแม่ของนาย” อยู่ๆ ร่างบางก็เปลี่ยนเรื่องพูดขึ้นมาเสียเฉยๆ



    “ช่างมันเถอะพอตเตอร์ มันผ่านมานานมากแล้ว ตอนนี้ฉันก็ชินซะแล้วที่ต้องอยู่คนเดียว นายไม่ต้องมาสงสารชั้นหรอก” ร่างสูงบอกปัด เก็บซ่อนความเหงาไว้อย่างมิดชิด



    ตั้งแต่การสูญเสียนายและนางมัลฟอยในครั้งนั้น แฮร์รี่ยังไม่มีโอกาสที่จะได้แสดงความเสียใจกับเดรโก มัลฟอย เลยสักครั้ง ถึงร่างสูงจะบอกว่าไม่เป็นไรแต่เด็กหนุ่มก็รู้สึกได้ว่า มัลฟอยไม่ได้รู้สึกอย่างที่ปากพูดเลยสักนิด



    “นายไม่ได้อยู่คนเดียวแล้วนี่ ตอนนี้นายมีทินเซลแล้วก็ยัง...” ร่างบางหยุดคำพูดไว้แค่นั้นก่อนที่จะหลุดความรู้สึกที่มีต่อร่างสูงออกไป



    “หือ...แล้วก็ยังอะไร พอตเตอร์” คิ้วเรียวขมวดขึ้นเมื่ออยู่ดีๆ แฮร์รี่ก็หยุดพูดไปซะเฉยๆ



    “เอ่อ...แล้วก็ยังมีแครบ กอยล์ อยู่ด้วยไง”



    “สองคนนั่นเหรอ ฉันไม่นับว่าเป็นคนในครอบครัว แต่ก็ขอบใจนะพอตเตอร์ที่นายทำให้ชั้นได้เจอกับทินเซล”  ร่างสูงส่งมือให้ร่างบาง แฮร์รี่ลังเลอยู่นิดๆ ว่าเขาสมควรรับมิตรภาพใหม่ที่มัลฟอยหยิบยื่นให้หรือไม่  ในที่สุดเด็กหนุ่มก็ตัดสินใจยื่นมือไปสัมผัสกับมือใหญ่ที่ถูกส่งมาให้ก่อนหน้า



    มิตรภาพใหม่ได้เริ่มก่อตัวขึ้น เพียงเท่านี้แฮร์รี่ก็มีความสุขแล้ว จากที่ไม่เคยคิดฝันว่าความสัมพันธ์ระหว่างตัวเขากับมัลฟอยจะสามารถเปลี่ยนรูปแบบจากศัตรูมาเป็นมิตรได้เพียงแค่ชั่วข้ามคืน หรือว่านี่จะเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ตามที่ซินิตร้า วอนแทรปป์ได้ทำนายเอาไว้



    “นายจะนั่งตรงนี้อีกนานมั้ยพอตเตอร์ ชั้นจะกลับเข้าไปข้างในแล้ว...ไปทินเซล” ไม่ทันให้ร่างบางได้ตอบ เดรโกก็ลุกขึ้นเดินจากไปพร้อมกับที่ทินเซลกระโดดลงจากตักของแฮร์รี่และเดินตามร่างสูงไป แฮร์รี่ได้แต่มองตามแผ่นหลังกว้างของอีกฝ่ายไกลออกไป ก่อนที่เด็กหนุ่มจะลุกขึ้นเดินกลับหอนอนไปตามลำพัง

    อันที่จริงเดรโกไม่อยากจะเดินหนีแฮร์รี่ออกมาเร็วขนาดนี้หรอก แต่เพราะเด็กหนุ่มกำลังกลัวๆ ที่จะยอมรับกับตัวเองว่าตอนนี้ความรู้สึกที่เขามีให้กับพอตเตอร์มันเริ่มจะเปลี่ยนไป ยิ่งเมื่อหวนกลับไปนึกถึงคำทำนายที่ผู้หญิงประหลาดได้บอกกับเขาไว้ มันยิ่งทำให้คุณชายมัลฟอยคนนี้นึกกลัวและสับสนอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน



    ..........ยามเย็นในหมู่บ้านฮอกมี้ด ตามทางเดินที่เริ่มร้างผู้คนร่างสูงสง่าเดินมาตามทางอย่างช้าๆ มือข้างหนึ่งกำลังหมุนแหวนประจำตระกูลที่นายลูเซียส มัลฟอยมอบไว้ให้ก่อนจะสิ้นใจ ทุกวันนี้เดรโกยังนึกสงสัยอยู่ว่า เพราะเหตุใดพ่อของเขาจึงกลับใจหันไปช่วย อัลบัส ดัมเบิลดอร์ แต่แล้วความคิดก็ต้องยุติลงเมื่อแหวนวงสำคัญร่วงหลุดไปจากมือ ขายาวก้าวตามแหวนที่กำลังกลิ้งไปตามทาง แต่ก่อนที่ร่างสูงจะสาวเท้าก้าวไปถึง ก็ปรากฏมือๆ หนึ่งหยิบมันขึ้นมาเสียก่อน หญิงวัยกลางคนผิวขาวกำลังเดินเข้ามาหาเด็กหนุ่มอย่างช้าๆ เมื่อมาถึงมือเรียวขาวก็ยื่นแหวนวงนั้นให้ร่างสูง ปลายนิ้วสัมผัสกันในช่วงเวลาหนึ่งขณะที่ส่งแหวน  ตาคมยังคงจ้องตาของอีกฝ่ายอย่างไม่ลดละ ก่อนที่คุณชายมัลฟอยจะได้พูดอะไร หญิงวัยกลางคนก็ชิงพูดขึ้นซะก่อน



    “จงเชื่อในพรหมลิขิต และอย่าอวดดีกับโชคชะตา” คำพูดออกมาจากริมฝีปากบางเพียงแค่หนึ่งประโยค แต่ความหมายของมันนี่สิ ผู้หญิงคนนี้ต้องการจะสื่ออะไรกับเขางั้นเหรอ กว่าเดรโกจะรู้สึกตัวหญิงวัยกลางคนในชุดสีม่วงสดก็ได้หายไปเสียแล้ว บริเวณรอบๆ ตัวเขาในเวลานี้มันเริ่มว่างเปล่าปราศจากผู้คน..........



    คำพูดปริศนายังคงดังก้องอยู่ในหัวของเด็กหนุ่มมาจนถึงตอนนี้ จริงๆ แล้วที่ริมทะเลสาบ คุณชายมัลฟอยไม่ได้นอนหลับ     แต่เด็กหนุ่มเพียงแค่พักสายตาและคิดทบทวนคำพูดของหญิงวัยกลางคนที่เขาเจอที่ฮอกมี้ด      จนเมื่อมีคนมารบกวนความเป็นส่วนตัวนั่นแหละ ร่างสูงถึงได้รู้สึกว่าที่ตรงนั้นไม่ได้มีแค่เขากับทินเซล ตามสัญชาตญาณจึงทำให้เดรโกคว้าตัวผู้บุกรุกพร้อมกับหยิบไม้กายสิทธิ์เพื่อป้องกันตัว แต่เมื่อพบกับดวงตาสีเขียวใสและใบหน้าเนียนของอีกฝ่ายเดรโกจึงได้ลดไม้กายสิทธิ์ลง ดวงตาคู่นั้นมันทำให้เด็กหนุ่มรู้สึกแปลกๆ ทุกครั้งเมื่อใดที่ได้สบตา



    “พรหมลิขิตเหรอ...ไร้สาระน่า มันก็แค่คำพูดของผู้หญิงสติไม่ดีคนนึงก็เท่านั้นเอง” ร่างสูงพึมพำกับตัวเองก่อนจะเดินกลับเข้าหอนอนสลิธีรินพร้อมกับมีแมวขนฟูเดินตามไม่ยอมห่าง









    ***********************************



    เอามาลง 2 ตอนรวดเหมือนเคย

    แต่...

    อ่านแล้วไม่เม้นต์...................จาดอง
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×