ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Fic Harry [DM/HP] : You Are My Little Cat (Yaoi)

    ลำดับตอนที่ #28 : Chapter 26

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 9.54K
      79
      14 เม.ย. 49

    Part 26

    ตามระเบียงทางเดินที่คลาคล่ำไปด้วยเหล่านักเรียนต่างชั้นปี เฮอร์ไมโอนี่ เกรนเจอร์ กำลังฉุดข้อมือของแฮร์รี่ให้เดินตามด้วยความเร่งรีบ หลายคนหันไปมองทั้งสองคนอย่างสงสัยทำไมหนอนหนังสือเกรนเจอร์ถึงได้ทั้งลากทั้งจูงพอตเตอร์แบบนั้น อีกมุมหนึ่งนักเรียนหญิงปี 6 ที่แอบหลงรักเจ้าชายแห่งสลิธีรินถึงกับร้องไห้โฮอย่างไม่อายใครเมื่อเห็นหน้าหวานๆ ของคนที่มัดใจหนุ่มหล่อที่หล่อนเฝ้าใฝ่ฝันมานาน และยิ่งเห็นร่างสูงสง่าของคนที่ตนหลงใหลวิ่งตามมาด้วยสีหน้าที่แสดงออกว่าเป็นห่วงร่างบางที่เพิ่งเดินผ่านไปเมื่อสักครู่ เพียงแค่นั้นมันก็ทำให้เจ้าหล่อนยิ่งร้องไห้ฟูมฟายหนักเข้าไปอีกจนเพื่อนสาวที่นั่งอยู่ข้างๆ ต้องรีบเข้าไปปลอบใจกันอยู่นาน

    ระหว่างทางที่เดินตามกันไปนั้นไม่ว่าแฮร์รี่จะพยายามถามเฮอร์ไมโอนี่เท่าไหร่แต่คำตอบที่ได้รับยังคงเป็นความเงียบเหมือนเดิม

    “เฮอร์ไมโอนี่...ฉ..ฉันเหนื่อย ขอพักก่อนได้ไหม” แฮร์รี่พูดพลางหอบหายใจอย่างเหนื่อยอ่อน มือเรียวที่ไม่ได้รับการลากจูงเอื้อมไปจับข้อมือเล็กของอีกฝ่าย

    “อ๊ะ...แฮร์รี่ฉันขอโทษฉันลืมไปว่าเธอ...”

    “เกรนเจอร์!...ใครใช้ให้เธอลากแฮร์รี่มาแบบนี้ ห๊ะ!...ยายหัวฟู ถ้าเกิดลูกฉันเป็นอะไรไปใครจะรับผิดชอบ” เสียงตะโกนจนเกือบจะตวาดดังขึ้นมาจากทางด้านหลังของพวกเขาทั้งสองคน

    “เอ่อ...มัลฟอยฉันขอโทษคือฉันลืมไปว่าต้องระวังไม่ให้แฮร์รี่เคลื่อนไหวเร็วเกินไป” เด็กสาวกล่าวอย่างสำนึกผิด

    “ไม่เอาน่า...ช่างมันเถอะเดรโก ว่าแต่เธอไปเจออะไรมาเหรอเฮอร์ไมโอนี่ ถึงได้ดูรีบร้อนขนาดนี้”

    “เออ...ใช่ ทินเซล...ฉันเจอทินเซลเมื่อเช้านี้ เร็วเข้าเถอะ! ตอนนี้รอนกำลังพาทินเซลไปที่กระท่อมของแฮกริด”

    “อะไรนะ!...เธอเจอทินเซลเหรอ ที่ไหนเธอเจอที่ไหน เฮอร์ไมโอนี่” เด็กหนุ่มถามด้วยความร้อนรน

    “เมื่อเช้าระหว่างที่ฉันกับรอนออกไปเดินเล่นริมทะเลสาบฉันเจอทินเซลนอนซุกตัวอยู่ใต้พุ่มไม้แถวนั้น แต่...”

    “งั้นเรารีบไปหามันกันเถอะ เร็วสิเดรโก” ดวงตากลมโตฉายแววดีใจ โดยไม่ทันได้ฟังเด็กสาวพูดให้จบเสียก่อน แฮร์รี่คว้าข้อมือเล็กของเฮอร์ไมโอนี่เตรียมจะวิ่งไปด้วยกัน แต่แล้วร่างเล็กกลับลอยขึ้นด้วยฝีมือของคนที่ยืนอยู่ข้างหลัง

    “แฮร์รี่นายจะวิ่งไปไหนมาไหนอย่างเมื่อก่อนไม่ได้ ต่อไปนี้นายห้ามวิ่งเด็ดขาด ถ้าอยากจะรีบไปหาทินเซลเร็วๆ ล่ะก็ ฉันจะอุ้มนายไปเอง” เดรโกกล่าวเสียงเรียบ

    “ทินเซลอยู่ที่กระท่อมของแฮกริดใช่ไหม เกรนเจอร์ ไป!...เราไปกันได้แล้ว”

    “ปล่อยนะ! เดรโกฉันเดินเองได้” เสียงโวยวายจากคนในอ้อมแขนดังขึ้น

    ตลอดทางที่เดินผ่านแฮร์รี่ยังคงต่อว่าร่างสูงไม่หยุด แก้มขาวใสเปลี่ยนเป็นสีแดงด้วยความอายต่อสายตานับสิบคู่ที่กำลังจ้องมองมาทางเขา ยิ่งมองสบกับดวงตาสีเทาร่างบางก็ต้องรีบหลบสายตาด้วยความเขิน ทั้งๆ ที่ในใจก็นึกดีใจอยู่ไม่น้อยที่เดรโกเป็นห่วงตัวเขาถึงเพียงนี้

    ************************************

    ในระหว่างทางที่เดินมุ่งหน้าไปยังกระท่อมของแฮกริด นอกจากเสียงโวยวายของแฮร์รี่แล้วก็ไม่มีใครพูดคุยกันอีกเลย บ่อยครั้งที่เดรโกอดคิดไม่ได้ว่าท่าทางแก้เขินของคนที่เขากำลังอุ้มอยู่ในตอนนี้มันช่างดูน่ารักเสียจริงๆ แต่แล้วใบหน้าคมต้องเปลี่ยนเป็นเรียบเฉยความไม่พอใจในตัวเด็กสาวที่ลากแฮร์รี่ออกมาอย่างไม่ระวังยังคงหลงเหลืออยู่มาก ถึงอย่างนั้นเขาก็ต้องพยายามระงับอารมณ์เอาไว้ ซึ่งเฮอร์ไมโอนี่เองก็รู้ตัวดีเพราะถึงแม้จะขำกับท่าทางของเพื่อนรักแต่ตัวเธอเองก็รู้สึกผิดที่ตัวเองทั้งจูงทั้งลากแฮร์รี่มาตั้งไกล ในขณะที่ร่างกายของเด็กหนุ่มยังไม่พร้อมที่จะเคลื่อนไหวรวดเร็วขนาดนั้น เสียงต่อว่าเงียบหายเมื่อเจ้าของเสียงเริ่มรู้สึกเหนื่อย  ดวงตากลมโตมีประกายแห่งความดีใจเมื่อคิดได้ว่าอีกไม่นานเขาก็จะได้พบกับแมวตัวโปรดที่เฝ้าตามหาอยู่เป็นแรมเดือน ยิ่งพวกเขาเดินเข้าไปใกล้กระท่อมหลังเล็กมากเท่าไหร่เสียงเห่าของเจ้าเขี้ยวก็ดังชัดขึ้นทุกขณะ ร่างบางเก็บอาการตื่นเต้นดีใจเอาไว้ไม่ไหว หันไปอ้อนร่างสูงให้เร่งฝีเท้าเร็วขึ้น

    “เดรโกเร็วๆ หน่อยได้ไหม แล้วก็เลิกทำหน้าแบบนั้นสักที นายไม่ดีใจหรือไงที่เราจะได้เจอทินเซลแล้ว” นิ้วเรียวจิ้มไปที่หว่างคิ้วของคนรักให้คลายออก เดรโกได้แต่ผ่อนลมหายใจก่อนจะยิ้มเอ็นดูไปกับท่าทางดีใจราวกับเด็กได้ของเล่นของคนในอ้อมแขน

    ประตูบานสูงเปิดออกกว้างร่างสูงใหญ่ของแฮกริดเดินออกมาอย่างเร่งรีบ เด็กทั้งสามหยุดชะงักไปกับสีหน้าและท่าทางของผู้ใหญ่ตัวโตตรงหน้า มือใหญ่ยกขึ้นเหมือนเป็นการบอกว่าอย่าเพิ่งถามอะไรในตอนนี้ ก่อนที่ร่างใหญ่โตจะเดินผ่านไป ทั้งหมดได้แต่มองตามด้วยความแปลกใจ

    “เดรโกปล่อยฉันลงได้แล้ว ฉันจะเข้าไปหาทินเซล” ร่างเล็กร้องเตือนเมื่อเห็นว่าเดรโกยังไม่ยอมปล่อยตนลงสักที

    “เอ้า...ก็ได้ๆ แต่ต้องสัญญาก่อนว่านนายจะไม่ทำตัวให้ฉันต้องเป็นห่วงอีก”

    “ฉันสัญญา นายวางใจเถอะทีนี้ก็ปล่อยฉันลงได้แล้ว” ริมฝีปากบางแตะสัมผัสแก้มของคนรักแทนคำสัญญา แขนแข็งแรงปล่อยร่างบางลงยืน เมื่อเท้าได้แตะพื้นแฮร์รี่ก็รีบเดินเข้าไปในกระท่อมทันที

    “รอน...ทิน..ซะ...” เสียงเรียกแมวตัวโปรดขาดหายเมื่อมองเห็นร่างเล็กขนฟูนอนหายใจแผ่วเบาอยู่ในตะกร้าหวายหน้าเตาผิง แฮร์รี่รีบถลาเข้าไปหาแมวสาว สองมือช้อนร่างที่ดูเหนื่อยล้าไร้เรี่ยวแรงขึ้นมากอดแนบอก ความดีใจเมื่อสักครู่แปรเปลี่ยนเป็นความกังวลกับอาการของทินเซลในตอนนี้

    “ระ...รอน..ทำไมทินเซลเป็นแบบนี้ล่ะ ทินเซลเป็นอะไร”  น้ำเสียงสั่นระริกพยายามควบคุมไม่ให้มันสั่นไปมากกว่านี้

    “แฮกริดบอกว่าร่างกายขาดน้ำและอุณหภูมิในตัวลดลงจนน่ากลัว  ฉันคิดว่าตลอดเวลาที่มันหายไปทินเซลคงพยายามหาทางกลับมาหาพวกนายโดยไม่ได้หยุดพัก”

    “เมื่อเช้าฉันกับเฮอร์ไมโอนี่ไปเจอมันนอนขดตัวหนาวสั่นอยู่ใต้ต้นไม้ เห็นอาการไม่ค่อยดีฉันเลยให้เฮอร์ไมโอนี่ไปบอกนายสองคน ส่วนฉันก็รีบพามาหาแฮกริดนี่แหละ ไม่ต้องห่วงหรอกแฮร์รี่ยังไงทินเซลก็ต้องหายเพียงแค่ต้องให้ความอบอุ่นกับร่างกายมากขึ้นเท่านั้น นี่แฮกริดก็ออกไปหาไม้มาทำฟืนเพิ่มแล้ว” มือหยาบเอื้อมไปแตะบ่าของเพื่อนรักให้คลายความกังวล

    “ทินเซล..ทินเซล...เจ้าเหมียวได้ยินเสียงฉันไหม” เสียงใสกระซิบถามหวังให้ร่างเล็กในอ้อมกอดลืมตาขึ้นมามองหน้าตน

    “แง้...ว~~”  แมวสาวขานรับอย่างอ่อนแรงตากลมลืมขึ้นด้วยความยากลำบาก แต่ในที่สุดแฮร์รี่ก็ได้เห็นดวงตาสีเขียวใสของทินเซล

    “ทินเซลหายไปไหนมาฮึ...เจ้าตัวยุ่ง ไม่เป็นไรแล้วนะเดี๋ยวก็กลับไปแข็งแรงเหมือนอย่างเดิมแล้ว” มือเรียวลูบไล้ไปตามลำตัวก่อนจะเลื่อนไปลูบหัวให้อย่างอ่อนโยน

    ร่างสูงเคลื่อนกายเข้ามาใกล้ร่างบาง ใบหน้าคมโน้มลงไปมองร่างเล็กของแมวตัวโปรด ดวงตาคมไหววูบและเปลี่ยนเป็นแข็งกร้าวแทบจะในทันที ใครกันที่มันบังอาจทำให้ทินเซลต้องตกอยู่ในสภาพแบบนี้ มือแกร่งเอื้อมไปจับตัวที่เย็นชืดของร่างเล็กในอ้อมกอดของคนรัก ขนที่เคยฟูนุ่มมือกลับแข็งกระด้างและไม่ขาวสะอาดเหมือนอย่างแต่ก่อน เนื้อตัวเต็มไปด้วยรอยขีดข่วนซึ่งเกิดจากการเกี่ยวของกิ่งไม้ ขาข้างหนึ่งมีผ้าสีขาวพันไว้รอยเลือดสีแดงไหลซึมออกมาตามเนื้อผ้า จากที่เจ้าหัวแดงวีเซิ่ลบอกแผลนี้คงเกิดจากการถูกสัตว์ใหญ่ทำร้ายแต่ทินเซลก็ยังคงเอาตัวรอดกลับมาได้ แววตาแปรเปลี่ยนเป็นอ่อนโยนเห็นทีคราวนี้เจ้าตัวยุ่งคงต้องพักฟื้นอีกนานกว่าจะกลับมาเป็นแมวสาวแสนสวยเหมือนเดิม

    “โอ้...แฮร์รี่เธอเป็นยังไงบ้าง ฉันได้ข่าวว่าเธอไม่สบาย ขอโทษด้วยนะที่ฉันไม่ได้ไปเยี่ยมเธอเลยหลังจากที่เธอพลัดตกจากไม้กวาดในวันนั้น พอดีว่าฉันกำลังยุ่งอยู่กับการเตรียมบทเรียนใหม่ในชั้นเรียนสัตว์วิเศษน่ะ” เสียงของแฮกริดหันเหความสนใจจากทุกคนให้หันไปมอง

    กองฟืนขนาดย่อมถูกขนย้ายเข้ามาวางในกระท่อม รอนและเฮอร์ไมโอนี่ช่วยกันโยนท่อนฟืนเข้าไปในเตาผิงเพื่อสร้างความอบอุ่นให้กับร่างเล็กที่ยังคงนอนขดตัวในตะกร้าหวาย แฮร์รี่เตรียมจะเข้าไปช่วยเพื่อนรักเพราะเห็นว่าท่อนฟืนบางท่อนมีขนาดใหญ่เกินกำลังของผู้หญิงตัวเล็กๆ อย่างเธอ แต่ข้อมือของเขากลับถูกเดรโกฉุดเอาไว้พร้อมกับสายตาดุๆ ถูกส่งมาให้ ท่อนฟืนถูกแย่งไปจากมือของเฮอร์ไมโอนี่โดยฝีมือของร่างสูงที่มาทำหน้าที่นี้แทน   เด็กสาวกล่าวคำขอบคุณก่อนจะเดินไปนั่งลงข้างๆ แฮร์รี่

    “แฮกริดฮะ ทินเซลจะหายเป็นปกติเมื่อไหร่”

    “อืม...ฉันคิดว่าสองสามวันก็คงลุกขึ้นมาเดินได้เหมือนเดิมแล้วล่ะ แต่คงจะยังออกแรงวิ่งไม่ได้นะต้องรอให้แผลหายสนิทเสียก่อน...เอาคุกกี้หน่อยไหมแฮร์รี่”  มือใหญ่ยื่นคุกกี้หินไปตรงหน้าร่างบาง

    “เอ่อ...ไม่เป็นไรฮะ ผมยังไม่ค่อยหิวเท่าไหร่” แฮร์รี่เบือนหน้าหนี กลิ่นของมันชวนให้อยากจะอาเจียนเสียจริงๆ

    “ฉันคิดว่าเราควรจะกลับกันได้แล้ว นายยังต้องพักผ่อนให้มากนะแฮร์รี่” เดรโกเอ่ยขัดการสนทนาของบุคคลทั้งสี่ เขาทนฟังคนพวกนี้พูดคุยแต่เรื่องไร้สาระมานานแล้ว และที่เขาเป็นห่วงมากที่สุดก็คือร่างกายของคนรัก เพราะสีหน้าของแฮร์รี่ในตอนนี้ยังดูไม่ค่อยดีนัก

    “จริงสิฉันว่าเธอควรจะรีบกลับไปพักผ่อนนะแฮร์รี่ พวกเธอสองคนไปกันก่อนเถอะ ฉันกับรอนจะอยู่คุยกับแฮกริดอีกสักพัก”

    “เอางั้นก็ได้...ไปก่อนนะฮะแฮกริดผมฝากดูทินเซลด้วย ขอบคุณฮะ เดรโกนายควรจะขอบคุณแฮกริดด้วยนะ” หันไปสั่งคนรักให้ทำตาม แต่เมื่อเห็นว่าร่างสูงยังคงนิ่งเฉยใบหน้าหวานก็เริ่มงอง้ำด้วยความไม่พอใจ

    “ขอบใจ...” คำขอบคุณแบบสั้นๆ ง่ายๆ และดูจะไม่ค่อยเต็มใจนักหลุดออกมาจากปากของคุณชายมัลฟอยอย่างเสียไม่ได้ ก็จะให้เขาทำไงล่ะแค่เห็นหน้าหวานๆ ของอีกฝ่ายทำท่าทางไม่พอใจแค่นั้นเขาก็ไม่กล้าขัดใจเสียแล้ว

    ************************************

    เดรโกพาแฮร์รี่กลับเข้ามาในห้องพยาบาลก่อนอาหารมื้อเช้าในห้องโถงใหญ่จะเริ่มขึ้น ถ้วยเงินทั้งสี่ใบถูกนำมาวางเรียงกันตรงหน้าร่างเล็กที่มองมันด้วยความผะอืดผะอม แต่ก็ต้องยอมทนกินยาตามที่มาดามสั่งจนหมดเพื่อความปลอดภัยของลูกในท้อง ซึ่งแฮร์รี่เริ่มจะทำใจยอมรับกับเรื่องนี้ได้แล้ว และที่สำคัญไปกว่านั้นหลังจากอาการตกใจและความวิตกกังวลได้หายไปความรู้สึกของเขาในตอนนี้กลับกลายเป็นความอบอุ่นใจอย่างประหลาด มันเป็นอะไรที่เหลือเชื่อในท้องของเขามีอีกหนึ่งชีวิตกำลังถือกำเนิดขึ้น ลูกของเขากับเดรโก เด็กที่เกิดจากความรักของเขาทั้งสองคนและตัวเขาเองก็พร้อมที่จะปกป้องคุ้มครองเลือดเนื้อนี้ไว้ ไม่ว่ายังไงเขาจะไม่ยอมสูญเสียลูกน้อยไปเป็นอันขาด ความรู้สึกของคนเป็นแม่เริ่มเข้ามาเกาะกุมจิตใจตั้งแต่วินาทีแรกที่เขาทำใจให้ยอมรับเรื่องนี้ได้ มันคือความรู้สึกที่เขาไม่เคยคาดคิดว่าชั่วชีวิตนี้เขาจะได้สัมผัสมัน

    “แฮร์รี่...หลังอาหารเช้านายอยากจะทำอะไรหรือเปล่า” เสียงทุ้มเอ่ยถามระหว่างที่เดินไปยังห้องโถง

    “อืม...ฉันอยากไปดูทินเซลน่ะ ได้ไหมเดรโก” มือเล็กกระตุกแขนเสื้อของร่างสูง ดวงตาสวยช้อนมองสบตาสีหม่น

    “ถ้างั้นก็ได้ฉันจะให้แครบกอยล์เดินไปส่งนายที่กระท่อม แต่นายต้องกลับมากินยาตามที่มาดามสั่ง ตกลงไหม”

    “อือ...ฉันจะทำตามที่นายบอก” เสียงใสตอบรับ

    “ช่วงเช้าฉันคงอยู่กับนายไม่ได้นะแฮร์รี่เพราะว่ามีบางอย่างให้ฉันต้องไปทำอะไรนิดหน่อย นายอยู่คนเดียวได้ใช่ไหม” ร่างบางพยักหน้ารับ ก่อนจะยื่นมือให้ร่างสูงรับไปเกาะกุมเอาไว้แล้วจึงเดินเข้าไปยังห้องโถงใหญ่ด้วยกันท่ามกลางสายตาทุกคู่ที่จ้องมองมาทางตน
     
    ร่างสูงพาแฮร์รี่ไปยังโต๊ะของกริฟฟินดอร์ เมื่อเห็นว่าร่างบางนั่งลงเรียบร้อยแล้วจึงแยกตัวไปยังฝั่งของสลิธีริน เดรโกทรุดกายลงนั่งข้างๆ ร่างระหงของคาธรีน่าอย่างมีจุดประสงค์ ตลอดเวลาที่อยู่ในห้องโถงตาคมเฝ้ามองร่างบางไม่ให้คลาดสายตา หันไปสั่งความกับลูกสมุนร่างยักษ์ทั้งสองก่อนจะหันไปหาเด็กสาวผมดำริมฝีปากขยับบอกอะไรบางอย่าง และคาธรีน่าเองก็พยักหน้ารับพร้อมกับปรายตามองไปยังแพนซี่ พาร์กินสันที่นั่งอยู่อีกมุมหนึ่งของโต๊ะ

    เด็กนักเรียนในห้องเริ่มทยอยออกไปกันบ้างแล้วมือเรียวรวบช้อนยันกายลุกขึ้นหันไปสะกิดเพื่อนสนิททั้งสองให้ไปกับตน ทันทีที่เดินออกมาจากห้องโถงสมุนร่างยักษ์ของคุณชายสลิธีรินก็เดินมาขวางทางไว้

    “มัลฟอยให้เราพานายไปส่งที่กระท่อม” ทั้งสองบอกจุดประสงค์ให้ทั้งสามได้รับรู้

    “เอ่อ...ขอบใจแต่ไม่เป็นไรฉันไปกับรอนและเฮอร์ไมโอนี่ได้” แฮร์รี่เอ่ยปฏิเสธ

    “ไม่ได้ถ้ามัลฟอยรู้พวกเราตายแน่” กอยล์ตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงปกติ แต่ผิดกับหน้าอ้วนกลมที่มีแววหวาดหวั่น จนแฮร์รี่สังเกตเห็น ทั้งหมดจึงใจอ่อนยอมให้แครบและกอยล์เดินตามไปด้วย

    มุมหนึ่งตรงระเบียงทางเดินซึ่งปราศจากผู้คน ร่างสูงสง่าของคุณชายมัลฟอยกำลังยืนพูดคุยกับเด็กสาวเพื่อนร่วมบ้าน ใบหน้าคมยังคงเรียบเฉยแม้ว่าในบางครั้งดวงตาสีเทาคู่นั้นเหมือนมีอะไรบางอย่างที่ดูน่ากลัวซ่อนอยู่ อารมณ์โกรธถูกระงับไว้อย่างเต็มที่ ยิ่งได้ยินคำบอกเล่าออกมาจากปากของคู่สนทนาแรงโทสะก็ยิ่งยากต่อการควบคุม สองมือกำแน่นด้วยความโกรธตอนนี้เขามั่นใจแล้วว่าใครเป็นคนลักพาตัวทินเซลไปในวันนั้น

    “ขอบใจเธอมากฟอนเทียร์ แต่จำเอาไว้ว่าเรื่องนี้ห้ามให้แฮร์รี่รู้เด็ดขาด หวังว่าเธอคงจะเข้าใจ” สั่งกำชับกับเด็กสาวก่อนจะหมุนกายเดินจากไป

    “เอ่อ!...เดี๋ยว!..มัลฟอย.....อย่าทำอะไรรุนแรงได้ไหมยังไงเขาก็เป็นเพื่อนรักของฉันถึงแม้ว่าครั้งนี้เขาจะทำเกินไปก็เถอะ” เสียงตะโกนร้องบอกให้หยุด แต่เดรโกกลับไม่ใส่ใจและไม่ยอมรับปากอะไรทั้งสิ้น ดวงตาสีนิลมองตามแผ่นหลังกว้างไปจนลับสายตา รอยยิ้มชั่วร้ายปรากฏบนใบหน้าสวยๆ ของหล่อนในทันที

    “หึหึ...ช่วยไม่ได้นะแพนซี่เธอมันอยากโง่ให้ฉันหลอกใช้เอง”

    ************************************

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×