ลำดับตอนที่ #8
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #8 : CHAPTER 7
Part 7
เป็นเวลาหลายวันแล้วที่แฮร์รี่ปล่อยให้มัลฟอยและทินเซลได้ใช้เวลาอยู่ด้วยกัน ซึ่งดูเหมือนว่านับวันแฮร์รี่ดูจะเหม่อลอยมากขึ้นทุกที บางครั้งก็ถึงขั้นหงุดหงิด ถึงแม้ว่ามัลฟอยจะพาทินเซลออกมากินอาหารเช้าที่ห้องโถงทุกวันแต่ก็เป็นเพียงแค่ช่วงเช้าเท่านั้นที่แฮร์รี่จะได้เห็นทินเซล ไหนจะต้องโหมซ้อมควิชดิชอย่างหนังจนลูกทีมพากันโอดครวญว่าแฮร์รี่เหมือนวู้ดกับแองเจลิน่ารวมกัน แม้กระทั่งรอนบางที่ยังอดบ่นเอากับร่างบางไม่ได้ ก็เวลาว่างทั้งหมดที่มีเล่นหมดไปกับการซ้อม รอนก็เลยอดสวีทหวานกับเฮอร์ไมโอนี่ไปโดยปริยาย ส่วนเฮอร์ไมโอนี่ก็ดูจะไม่ทุกข์ร้อนอะไร ว่างเมื่อไหร่เจ้าหล่อนเป็นต้องเข้าห้องสมุด ด้วยเหตุผลที่ว่า “อีกไม่กี่เดือนเราก็จะเรียนจบแล้ว ชั้นยังมีหนังสืออีกหลายสิบเล่มที่ยังอ่านไม่จบ”
“แฮร์รี่นายเป็นอะไรนะ ทำไมเดี๋ยวนี้นายดูแปลกๆ แล้วนี่นายบอกให้พวกเรามาซ้อมนะแล้วทำไมตัวนายเองกลับเอาแต่นั่งเหม่อ ยืนเหม่อ จนบางทีเกือบจะตกจากไม้กวาด ถ้านายไม่มีสมาธิก็เลิกซ้อมเถอะ ชั้นจะได้ไปหาเฮอร์ไมโอนี่” เฮิร์มจ๋า รอนกำลังจะไปหาแล้วนะ...ที่รัก
“นั่นซิ...แฮร์รี่ เธอเป็นอะไรหมู่นี้ดูแปลกชอบกล” สาวผมแดงจินนี่ วีสลีย์ เอ่ยสนับสนุนในคำถามของพี่ชาย
“ไม่มีอะไรหรอก ชั้นไม่ได้เป็นอะไรจริงๆ งั้นเราเลิกซ้อมก็ได้ ดูเหมือนพวกนายจะเริ่มเหนื่อยกันแล้ว” ตัดสินใจสั่งเลิกการซ้อม เพราะดูสภาพของลูกทีมแต่ละคนแล้วเหมือนกับเพิ่งไปสนามรบมา
“เราไม่ได้แค่เริ่มเหนื่อยนะแฮร์รี่ แต่เราเหนื่อยสุดๆ เลยล่ะ ขอบใจที่สั่งเลิกการซ้อมอันมหาโหดนี้ได้ซะที” รอนโอดครวญ ก็แน่ล่ะเล่นปลุกให้ลุกขึ้นตั้งแต่ฟ้ายังไม่สว่าง จนนี่มันจะเก้าโมงแล้วข้าวก็ยังไม่ได้กิน กัปตันทีมยังไม่ยอมสั่งหยุดพักเลย ไม่รู้จะอะไรนักหนา เฮ้อ...เช้าวันหยุดที่แสนจะน่านอนทำไมเค้าต้องมาตกระกำลำบากแบบนี้ด้วย
เพื่อนร่วมทีมต่างทยอยกันเข้าไปในตัวปราสาท มุ่งหน้าไปยังห้องโถงด้วยความหิว เด็กหนุ่มได้แต่มองตามหลังเสื้อคลุมสีแดงสดที่ค่อยๆ ไกลออกไป แฮร์รี่ล้มตัวลงนอนบนพื้นหญ้านุ่ม สายตาทอดมองไปบนท้องฟ้า ปุยเมฆขาวลอยตัดกับสีฟ้าสดใส แล้วหูของร่างบางก็ได้ยินเสียงที่เฝ้าคิดถึงมานาน
“เมี้ย~ว  เมี้ย~ว” เจ้าทินเซลเดินตรงมาหาร่างบางด้วยความดีใจ
“ทินเซล...มาได้ยังไงแล้วมัลฟอยล่ะ ปล่อยให้เราออกมาเดินเพ่นพ่านแบบนี้ได้ไงนะ” นัยห์ตาสีมรกตเป็นประกายสดใสเมื่อได้เจอเจ้าตัวดีอีกครั้ง มือเล็กๆ เอื้อมไปลูบขนนุ่มอย่างอ่อนโยน
“อืม...ตัวหอมเชียวแสดงว่ามัลฟอยดูแลเราอย่างดีใช่มั้ย” กลิ่นหอมอ่อนๆ ของแชมพูลอยเข้ามากระทบโสตประสาท
“เมี้ย~ว” ขานรับอดีตเจ้านายอย่างร่าเริง
“ทีหลังอย่าออกมาเดินตัวเดียวนะ มันอันตรายแกอาจจะถูกใครทำร้ายเอาก็ได้ เพราะเดี๋ยวนี้แกออกจะเป็นแมวตัวโปรดของมัลฟอยจนใครๆ ก็พากันอิจฉาไปแล้ว” เกาคางให้อย่างอ่อนโยน
“เราก็คงไม่ได้เจอกันบ่อยๆ ตอนกลางวันมันไม่ค่อยสะดวกนัก ชั้นไม่อยากให้ใครเห็นแกอยู่กับชั้น”
“แง๊ว” สะบัดหน้าออกจากมือเล็กที่กำลังเกาคางให้
“ปล่าวๆ ไม่ใช่ว่าชั้นไม่อยากเจอแก แต่ชั้นกลัวว่ามัลฟอยจะรู้น่ะว่าชั้นเป็นคนให้แกกับมัลฟอย” รีบแก้ตัวเป็นพัลวันเมื่อเห็นอาการงอนของเจ้าตัวดี
“แต่ถ้าเรามาเจอกันตอนกลางคืนก็น่าจะได้นะ ไว้เราค่อยหาที่เหมาะๆ เจอกันก็ได้นี่เนอะ ทินเซล”
“เมี๊ย~ว” กลับไปนั่งคลอเคลียให้ร่างบางเกาคางให้อย่างสุขใจ
************************************
ร่างสูงบนเตียงกว้างภายในห้องที่เป็นส่วนตัวกำลังครุ่นคิดถึงอะไรบางอย่างที่เค้าเฝ้าสงสัยมานาน คิ้วเรียวขมวดเข้าหากันสีหน้าที่ดูเคร่งเครียด ปากหนาได้รูปกำลังพึมพำอะไรซักอย่างที่จับใจความไม่ได้ กลางดึกของเมื่อหลายคืนที่ผ่านมาเด็กหนุ่มสะดุ้งตื่นขึ้นมาจากการนอนที่เพิ่งผ่านไปได้เพียงไม่กี่ชั่วโมง แต่ต้องแปลกใจเมื่อหันไปมองที่ตระกร้าหวายหน้าเตาผิงกลับไม่พบร่างของทินเซลแมวตัวโปรด ภายในตระกร้าว่างเปล่าเหลือแค่เพียงรอยยุบของที่นอนที่บ่งบอกได้ว่าเจ้าของเพิ่งลุกออกไปได้ไม่นาน  และมันก็เป็นเช่นแบบนี้เกือบทุกคืน ซึ่งเดรโกไม่รู้ว่าทินเซลไปไหน ไปทำอะไร เด็กหนุ่มได้แต่เก็บความสงสัยเอาไว้ในใจ
จนกระทั่งเมื่อตอนเย็นนี้เองที่เค้าได้ยินเด็กบ้านกริฟฟินดอร์พูดคุยกัน ตอนแรกร่างสูงไม่สนใจที่จะฟังนัก แต่ถ้าเพราะไม่บังเอิญไปได้ยินชื่อที่คุ้นหูเข้าเสียก่อน
“นี่ๆ...เธอว่าทินเซลเป็นแมวของคุณชายมัลฟอยจริงๆ เหรอ” เด็กปีสามบ้านกริฟฟินดอร์ถามเพื่อนร่วมบ้านระหว่างเปลี่ยนคาบเรียน
“ก็ใช่นะซิ ทำไมล่ะ ก็รุ่นพี่คอลินเข้าบอกอย่างนั้นนี่ อีกอย่างข่าวนี้ก็ได้มาจากปากรุ่นพี่เกรนเจอร์เองเลยนะ เธอก็รู้นี่ว่ารุ่นพี่เกรนเจอร์เป็นเพื่อนสนิทกับรุ่นพี่พอตเตอร์นะ”  ทำตาฝันหวานเมื่อเอ่ยถึงรุ่นพี่หน้าหวานที่โด่งดัง
“แต่ชั้นว่ามันแปลกๆ อยู่นะ ถึงรุ่นพี่เกรนเจอร์จะบอกก็เถอะ แต่ทำไมรุ่นพี่พอตเตอร์ไม่บอกเองล่ะ” นั่นแม่เพื่อนตัวดียังถามเซ้าซี้ไม่เลิก
“ชั้นจะไปรู้ได้ไง เลิกสงสัยซักทีจะได้มั้ยกับไอ้แค่แมวตัวนึงเธอจะอยากรู้อะไรนักหนา ตลอดทั้งอาทิตย์มานี่เธอถามคำถามนี้กับชั้นมากี่รอบแล้ว อยากรู้นักก็ไปถามจากปากคุณชายมัลฟอยเองซิ ปะ...ไปเรียนได้แล้วเดี๋ยวก็สายหรอก”
“หึ...ไม่เอาง่ะ ยังไงชั้นก็ไม่กล้าไปถามหรอกถึงจะหล่อแค่ไหนแต่ดูน่ากลัวชะมัด”
“งั้นก็เลิกถามได้แล้ว น่ารำคาญ” เสร็จแล้วก็ลากเพื่อนสาวเดินลิ่วๆ  เพื่อไปยังห้องเรียน
“แหม...ก็คนมันอยากรู้นี่” ยังไม่วายบ่นตามหลังให้เพื่อนสาวได้ยิน เลยได้รับค้อนวงโตกลับมา
จากบทสนทนาเมื่อสักครู่ทำให้ร่างสูงต้องขมวดคิ้ว    จริงๆ แล้วลูกผู้ดีมีตระกูลอย่างมัลฟอยก็ได้รับการสั่งสอนมาหรอกว่าการฟังคนอื่นพูดคุยกันมันเป็นมารยาทที่ไม่ดี แต่ในเมื่อบทสนทนาเมื่อครู่มีชื่อตัวเองเข้ามาเกี่ยวข้อง ถึงจะได้รับการสั่งสอนมาดีแค่ไหนแต่ก็ขอแอบฟังหน่อยจะเป็นไร เผื่อจะได้รู้ว่ามีใครแอบนินทาลับหลังบ้าง พ่อ...จะได้สั่งเก็บซะให้หมด แต่แล้วความคิดก็ต้องกลับมาที่ชื่อของบุคคลอีก 2 คนที่ถูกกล่าวถึง
“เกรนเจอร์ กับ พอตเตอร์ เหรอ” หึ...รอยยิ้มตามแบบฉบับของคุณชายแห่งบ้านสิลิธีรินและสายตาเจ้าเล่ห์ปรากฏขึ้นบนใบหน้าหล่อเหลาในทันที
“เห็นทีต้องใช้คนของมัลฟอยหน่อยแล้ว” ร่างสูงเดินลับหายเข้าไปในเงามืด
************************************
หลังจากส่งข่าวให้ผู้ติดตามออกไปสอบถามหาตัวนักเรียนฮอกวอตส์ที่ซื้อทินเซลมาจากร้านขายสัตว์เลี้ยงในตรอกไดแอกอน ตอนนี้คุณชายมัลฟอยกำลังใจเย็นรอคำตอบจากลูกน้องอย่างใจจดใจจ่อ แต่รอเท่าไหร่ก็ยังไม่มีวี่แววว่าจะได้รับคำตอบใดกลับมาทั้งสิ้น จนทำให้ร่างสูงชักจะใจเย็นไม่พอเค้าตัดสินใจแล้วว่าคืนนี้เค้าจะแอบสะกดรอยตามทินเซลออกไป ตลอดหลายวันที่ผ่านมาหลังจากได้ยินบทสนทนาที่ชวนให้น่าพิศวงในวันนั้น เด็กหนุ่มก็คอยจับตามองเกรนเจอร์กับพอตเตอร์มาโดยตลอด แต่คนที่น่าสนใจที่สุดนี่ซิ  เห็นจะไม่พ้นเด็กหนุ่มร่างบางคู่อริตลอดกาลของเค้า ก็จากที่ได้สังเกตทำให้เด็กหนุ่มเห็นว่าทุกเช้าที่เค้าพาทินเซลไปที่ห้องโถง เมื่อไหร่ที่ร่างสูงอุ้มแมวตัวโปรดเดินเข้ามาสายตาของพอตเตอร์จะจับจ้องอยู่ที่ทินเซลทุกครั้ง และดูเหมือนในดวงตาสีมรกตนั้นจะมีปริศนาอะไรซ่อนอยู่ แต่ยังก่อน...แค่นี้ยังไม่สามารถสรุปอะไรได้ว่านักเรียนที่ซื้อทินเซลมาคือพอตเตอร์ แต่คืนนี้แหละที่เราจะได้รู้กันซะที
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น