drskinhouse
ดู Blog ทั้งหมด

วิธีเลือกซื้อเครื่องสำอางให้ปลอดภัย

เขียนโดย drskinhouse

     คงไม่มีใครกล้าปฏิเสธว่า “ไม่เคยใช้เครื่องสำอาง” หรอกใช่มั้ยค่ะ คนในยุคนี้ไม่ว่าหญิง ชาย เด็ก ผู้ใหญ่ จนถึงวัยชรา ต่างก็ใช้เครื่องสำอางกันทุกคน และทุกวัน ตั้งแต่เช้า เริ่มต้นวันใหม่ เราก็ต้องแปรงฟัน อาบน้ำ ประแป้ง เพียงแค่กิจกรรมแรกเริ่มนี้ก็ต้องใช้เครื่องสำอางกันแล้ว ทำให้ในปัจจุบันเราจะพบเห็นเครื่องสำอางวางขายเกลื่อนกลาดมากมาย ทั้งตามห้างสรรพสินค้าไปจนถึงตลาดนัด ซึ่งมักจะมีราคาที่แตกต่างกันราวฟ้ากับเหว!!! เพียงเสียเงินไม่กี่ร้อยบาท ก็สามารถซื้อสินค้าได้ แล้วคุณเคยคิดมั้ยค่ะว่า “เครื่องสำอางที่คุณซื้อเนี่ย มันเป็นของแท้หรือของปลอม” หรือ “ใช้แล้วจะปลอดภัยหรือไม่” สำหรับอาทิตย์นี้ Doctorskinhouse มีคำตอบให้กับคุณสาวๆ กับวิธีการง่ายๆในเลือกซื้อเครื่องสำอางให้ปลอดภัย มาดูกันดีกว่าค่ะ

     ก่อนอื่น อยากให้คุณสาวๆ รู้จักความหมายของเครื่องสำอาง ซึ่งอยู่ภายใต้การพระราชบัญญัติเครื่องสำอาง พ.ศ. 2535 ที่กำหนดว่า เครื่องสำอางต้องเป็นผลิตภัณฑ์ที่ใช้กับร่างกายมนุษย์ เพื่อความสะอาด และความสวยงาม เท่านั้น ผลิตภัณฑ์ที่กล่าวอ้างสรรพคุณเกินกว่านี้ เช่น อ้างว่าสามารถบำบัด บรรเทา รักษาโรค ป้องกันโรค หรือมีผลต่อโครงสร้าง หรือการกระทำหน้าที่ต่างๆของร่างกาย ผลิตภัณฑ์นั้นจะต้องจัดเป็นยา ไม่ใช่เครื่องสำอาง

     ตัวอย่างผลิตภัณฑ์ที่โอ้อวดสรรพคุณ เช่น โลชั่นปลูกผม ครีมเสริมสร้างทรวงอก ครีมลดไขมัน สบู่ลดความอ้วน โลชั่นกระชับจุดซ่อนเร้น ครีมฆ่าเชื้อโรค ลดอาการผิวหนังอักเสบ แก้คัน ผลิตภัณฑ์เหล่านี้ มีการแสดงสรรพคุณทางยา ต้องขึ้นทะเบียนเป็นยาและปฎิบัติตามพระราชบัญญัติยาฯที่มีความเข้มงวดกว่า พระราชบัญญัติเครื่องสำอางฯ

     แม้เราจะเลือกซื้อเครื่องสำอางมาใช้เพียงเพื่อความสะอาดและสวยงาม แต่ก็ควรจะคำนึงถึงความปลอดภัยด้วย ดังนั้น ก่อนซื้อจึงควรศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์นั้นให้ดีเสียก่อนที่จะซื้อ ซึ่งวิธีการง่ายๆในการเลือกซื้อเครื่องสำอางให้ปลอดภัย มีดังต่อไปนี้
     

1. ควรซื้อเครื่องสำอางจากแหล่งที่เชื่อถือได้

     ควรจะซื้อจากแหล่งที่เชื่อถือได้ มีหลักแหล่งที่แน่นอน เพื่อที่เมื่อเกิดปัญหาขึ้น จะสามารถติดตามตรวจสอบ จากแหล่งที่ซื้อมาได้ และอย่างน้อยที่สุดผู้ขายจะต้องเป็นผู้รับผิดชอบเป็นด่านแรก ในปัจจุบันเราจะเห็นว่ามีการวางขายเครื่องสำอางที่มียี่ห้อตามตลาดนัด โดยขายในราคาที่ถูกแสนถูก ล่อตาล่อใจคุณผู้หญิงได้จำนวนมาก แต่อยากให้คุณสาวๆคิดก่อนนิดนึงนะคะว่า ที่ว่าถูกแบบเว่อร์เนี่ย!!! เป็นของจริงหรือของเซิ่นเจิ้ง!!!! แล้วอาจเกิดปัญหาใช้แล้วหน้าเยิน เราจะสามารถไป Claim ได้หรือไม่??? อย่าลืมคิดก่อนซื้อนะคะ
     

2. ฉลากของเครื่องสำอางจะต้องชัดเจนและต้องมีภาษาไทย

     ตามกฎหมายที่ว่า เครื่องสำอางทุกประเภท ทุกชนิดและทุกชิ้น ต้องมีฉลากภาษาไทย เพื่อให้ผู้บริโภคได้รับทราบข้อมูลรายละเอียดเบื้องต้นที่จำเป็น จะตัดสินใจซื้อเครื่องสำอาง ให้ตรงตามความต้องการ ไม่ถูกหลอกลวง และสามารถนำไปใช้อย่างถูกวิธี เกิดประโยชน์คุ้มค่า มีความปลอดภัย

     ข้อมูลเบื้องต้นที่ฉลากของเครื่องสำอางจำเป็นต้องมี ได้แก่
     ชื่อเครื่องสำอาง : จะต้องชัดเจน สำหรับสิ่งที่เราที่เป็นผู้ซื้อควรระวังก็คือ พวกชื่อสินค้าที่มันคล้ายกัน หรือรุ่น เฉดสี ต่างๆ จะต้องสังเกตให้ละเอียดก่อนซื้อ

     ประเภทหรือชนิดของเครื่องสำอาง : เราจะต้องทราบว่าเราต้องการซื้ออะไร เพราะบางทีพวก Package ของเครื่องสำอางมันค่อนข้างคล้ายกัน อาจจะทำให้ผู้ซื้อเกิดการสับสนได้

     ส่วนประกอบสำคัญ : ตามกฎหมายฉลากบนเครื่องสำอางจะต้องบอกส่วนประกอบที่มีในสูตร โดยเรียงตามปริมาณจากมากไปน้อย ซึ่งเหตุผลที่จะต้องบอกส่วนประกอบ เพื่อให้ผู้ซื้อสามารถหลีกเลี่ยงสารที่ก่อให้เกิดการแพ้ได้

     ชื่อและที่ตั้งของผู้ผลิตและผู้นำเข้า : จะต้องมีการแสดงชัดเจน ถ้าเราหยิบเครื่องสำอางขึ้นมาแล้วไม่มีชื่อผู้ผลิต ถือว่าเป็นเครื่องสำอางอันตรายนะคะ

     วันเดือนปีที่ผลิต : วันเดือนปีที่ผลิตเป็นข้อมูลที่มีประโยชน์อย่างยิ่ง ผู้ซื้อจะต้องรู้ว่าผลิตภัณฑ์นั้นผลิตขึ้นเมื่อใด หากผลิตมานานแล้ว อาจเสื่อมคุณภาพหรืออาจจะใช้แล้วไม่ได้ผล

     วิธีใช้ : ฉลากจะต้องบอกวิธีใช้อย่างชัดเจน เช่น ถ้าเป็นครีมบำรุงผิว จะต้องบอกว่าทาแบบใด ช่วงไหนของวัน ปริมาณเท่าไร เพื่อที่ผู้ซื้อจะได้ใช้อย่างถูกวิธีและเกิดประโยชน์สูงสุด

     ปริมาณสุทธิ : ส่วนนี้จะช่วยให้เราสามารถเปรียบเทียบ ระหว่างเครื่องสำอางในประเภทเดียวกันได้ว่า ปริมาณและราคาของเครื่องสำอาง แตกต่างกันอย่างไร เพื่อที่จะได้เลือกซื้อเครื่องสำอางอย่างคุ้มค่า สมราคา

     คำเตือน : เครื่องสำอางบางชนิดจะต้องแสดงคำเตือนที่ฉลากด้วย แสดงว่าต้องใช้ด้วยความระมัดระวัง ดังนั้น ควรศึกษาคำเตือน ให้เข้าใจอย่างถี่ถ้วน และปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด

     ทั้งหมดนี้เป็นข้อความที่จำเป็นจะต้องมีบนฉลากที่เขียนเป็นภาษาไทย ถ้าเครื่องสำอางใดไม่มีข้อความเหล่านี้ หรือเขียนเป็นภาษาต่างชาติ ไม่ว่าจะชาติใดก็แล้วแต่ ให้พึงระวังไว้เสมอว่า เครื่องสำอางนั้นอาจจะไม่ปลอดภัยก็ได้ เพราะเราจะไม่ทราบข้อมูลรายละเอียดเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์เหล่านั้นเลย

     เป็นยังงัยบ้างค่ะ สำหรับวิธีการเลือกซื้อเครื่องสำอางให้ปลอดภัย ยังเหลืออีก 3 วิธี รอติดตามต่อในสัปดาห์หน้านะคะ สำหรับอาทิตย์นี้ ฝากทิ้งท้ายไว้สักเล็กน้อยว่า “ความสวยนั้นไม่ยากค่ะ ขอแค่มี 3 ฉลาก คือฉลากสังเกต ฉลากเลือก และฉลากใช้” แค่นี้คุณสาวๆก็จะสวยได้อย่างปลอดภัยและคุ้มค่าแล้วค่ะ

Original content
credit 

ที่มา : www.doctorskinhouse.com

ความคิดเห็น

ยังไม่มีความคิดเห็น