ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ✷ S O N D E R ✷

    ลำดับตอนที่ #9 : ✷ maybe it's all just a dream ✷ [rp]

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 49
      0
      28 มิ.ย. 62






    ความทรงจำ...

    "ข้าจะคืนความทรงจำให้เจ้า"

    เสียงที่ไม่ยินดียินร้ายยังคงก้องอยู่ในหูของเขา นับตั้งแต่วินาทีที่เขาหันหลังแล้ววิ่งออกมา รูปและเหตุการณ์ต่าง ๆ
    ที่เขาไม่เคยเห็นมาก่อนก็ปรากฏขึ้นในหัวเป็นระลอก ผู้คนและแสงแดด งานเทศกาลและการเดินเรือ ครอบครัวที่... เขาจากมา?

    ทาราฟาฮ์เปิดประตูกระท่อมของตนด้วยสายตาที่พร่ามัว ทุกอย่างดูเลือนรางไปหมด
    ภาพของตัวเขาเองในอดีตและบทสนทนากับกลุ่มคนที่มีทั้งแปลกหน้าและคุ้นตา กลุ่มคน... กลุ่มคน
    ชายหนุ่มบีบขมับตัวเองเพื่อพยายามเค้นความทรงจำให้กลับมา
    เขาสัมผัสได้ถึงอาการปวดหัวที่กำลังจะมาในไม่ช้า นี่เขาคิดไปเองหรือว่าตอนนี้มันหายใจลำบากขึ้น?

    ทุกอย่างตีกันอยู่ในหัว ทั้งคำถามเกี่ยวกับเรื่องในอดีตและบุคคลที่เขาเจอในกลุ่มหมอกแปลกพิกล
    ความรู้สึกต่าง ๆ ที่ถาโถมเข้ามาเหมือนกับว่าสิ่งที่หายไปได้กลับมายังที่เดิมของมันแล้ว

    ทว่าในความสับสนของชายหนุ่ม มันกลับมีอีกเสียงหนึ่งที่ดังฟังชัด
    เป็นเสียงที่แฝงไปด้วยความน่านับถือสมกับตำแหน่งและสกุลของเจ้าของที่เขาจำได้ว่ารู้จักดี

    "ผู้คนมักจะกลัวในสิ่งที่หาคำตอบไม่ได้"

    'สิ่งที่หาคำตอบไม่ได้' นี่หรือคือความทรงจำของเขา ทาราฟาฮ์คงจะยกปากยิ้มมากกว่านี้ถ้าหากสถานการณ์มันไม่ได้พิศวงจนตัวเขาเองก็ทำอะไรไม่ถูก

    เขารู้ดีว่าอากาศข้างนอกกระท่อมคงจะเริ่มหนาวขึ้นมาหน่อย ด้วยหมอกที่เริ่มปกคลุมและกลางคืนที่ใกล้เข้ามา แต่ในตอนนี้ เขากลับรู้สึกถึง...

    ความอบอุ่น อย่างน่าประหลาดใจ

    ความอบอุ่น...

    ... ของแสงแดดที่ฉาบบนตัวเขา เสียงของธรรมชาติและนกที่ขับร้องให้ได้ยินอยู่กลาย ๆ สีสันของผ้าม่านและของประดับหลากเฉดสีในห้องโอ่โถง

    บทสนทนากับผู้เป็นพี่ชายบนระเบียงที่ทอดมองเห็นประชาชนที่กำลังพลุกพล่านในตลาดเมือง
    ถ้าหากเพ่งมองให้ไกลอีกนิดก็จะมีชายหาดและกลุ่มเรือเทียบท่าให้ดูเป็นขวัญตา

    "ความเอาแน่เอานอนไม่ได้สร้างความลำบากให้กับทุกคนที่ใช้ชีวิตพึ่งอยู่กับทะเล เฮ้อ วัสสานฤดูช่างเป็นอะไรที่เอาใจยากเสียจริงนะ"
    สิ้นเสียงถอนหายใจ ดวงตาสีส้มเหลืองที่ละม้ายคล้ายกับของเขาก็หันมามองในเชิงถามความคิดเห็น
    "แต่นั่นก็ยิ่งเป็นเหตุผลให้พวกเราต้องขยันมากขึ้น"
    ก็เหมือนกับทุกครั้ง ทุกคำพูดที่ออกมาจากปากของพี่เขาต้องมีคำสั่งสอนแทรกไว้อยู่ด้วยเสมอ

    ทาราฟาฮ์พยักหน้ารับ "ถ้าพายุฝนเข้าอย่างที่พยากรณ์กันไว้ ผมก็คงมีเวลาว่างมากกว่านี้"
    คนเป็นน้องเดินเข้าไปหาอีกฝ่ายที่ยืนชิดกับระเบียง สำหรับเขาแล้ว
    หน้าที่หลักที่รองมาจากการเล่าเรียนคือการต้อนรับดูแลแขกและกลุ่มคนที่มาค้าขายจากต่างเมือง
    ซึ่งถ้าหากว่าพายุฝนเห่มาอย่างที่ว่ากันไว้เฟอร์ดอสก็คงจะมีคนเดินทางเข้ามาน้อยกว่าปกติเป็นแน่แท้
    "ผมมาที่นี่เพื่อขออนุญาตให้ผมได้ช่วยงานพี่ในช่วงฤดูฝนที่กำลังใกล้เข้ามา"

    เจ้าชายคนโตเว้นเงียบไว้ชั่วครู่ก่อนที่จะพยักหน้า แต่ก่อนอื่นใด
    เขาละสายตาจากโลกข้างนอกอย่างรู้ทัน
    ความสนิทสนมของราชวงศ์นี้ทำให้คนเป็นพี่พอจะเดาได้ว่าเจ้าราฟาฮ์ยังมีอีกสิ่งหนึ่งที่ใคร่พินิจอยู่ในหัว

    "... นี่วางแผนจะออกไปเยี่ยมชาวบ้านอีกแล้วละสิถึงน้ำเสียงจะส่อไปในทางดุแต่สายตาของพี่ชายเขากลับมีความเอ็นดูอยู่ในนั้น
    "เจ้าชายองค์กลางแห่งเมืองเฟอร์ดอส 'ทาราฟาฮ์ อัลฟารูค' ผู้เป็นถึงคนช่วยจัดการด้านการค้าขายและ
    ต้อนรับแขกจากราชวงศ์ต่างเมือง ภายใต้การดูแลของพระราชาและเจ้าชายองค์โตโดยตรง"
    ทาราฟาฮ์ก้มหัวรับพร้อมผายมืออย่างติดตลกไปด้วย
    "แต่กลับมีงานอดิเรกชอบวางแผนที่จะหนีออกจากวังไปเยี่ยมเยียนคนในเมืองโดยไม่ให้มีใครเห็น
    ทั้งทั้งที่เข้าใจดีว่ากระบวนการที่ถูกต้องตามกฎหมายต้องทำอย่างไร"

    เขายิ้มแหย "พี่เองก็ทราบดีว่าจะให้ผมยื่นทำเรื่องทุกครั้งที่จะไปเยี่ยมชาวบ้านก็คงจะเป็นอะไรที่เสียเวลาไปหน่อย
    ผมว่าเราสามารถเอาเวลานั้นไปทำอย่างอื่นที่มีประโยชน์มากกว่านี้กับชาวเมืองได้เสียด้วยซ้ำไป"

    อีกฝ่ายส่ายหัวแล้วเอ่ยคำพูดขึงขัง... ที่สุดท้ายแล้วก็ติดอารมณ์ขบขันไปบ้างอยู่ดี
    "พอได้แล้ว ถ้าจะพูดเรื่องการใช้เวลาอย่างสมควรน่ะ เชิญเจ้ากลับไปอ่านหนังสือที่ห้องสมุดได้แล้ว"
    ก่อนที่คนเป็นพี่จะเริ่มร่ายชื่อบทเรียนต่าง ๆ ที่เขารู้ว่าทาราฟาฮ์ต้องจำ ศึกษา และเข้าใจให้เสร็จภายในเดือนนี้
    คงไม่ต้องสงสัย น้องชายอย่างทาราฟาฮ์และเจ้าหญิงองค์เล็กเป็นสองคนที่พี่ชายจะยอมอ่อนข้อให้ในหลาย ๆ เรื่องอยู่ร่ำไป
    แต่ถึงกระนั้นก็ยังมีเรื่องการศึกษาเล่าเรียนที่เจ้าชายคนโตของเฟอร์ดอสยังขับเคี่ยวอย่างไม่เคยลดละ...

    แสงแดดและผู้คน งานเทศกาลและการเดินเรือ ครอบครัวของเขา

    ทั้งผู้เป็นบิดามารดา พี่ชาย และน้องสาวของเขา ทุกคนต่างก็รักและสนิทสนมกันดั่งที่ชาวเมืองเฟอร์ดอส—เมืองแห่งการเดินเรือและการค้า—รู้

    ว่าแต่ทำไมเขาถึงลืมทุกอย่างที่เป็นชีวิตเขาไปได้นะ?

    มือที่หนักแน่นของพี่ชายถูกวางลงบนไหล่ขวาของเขา แสงจากดวงอาทิตย์สอดส่องมาอาบระเบียงเปลี่ยนทุกอย่างให้กลายเป็นสีทองอ่อน ๆ
    เสียงของธรรมชาติที่ยังดำเนินคลอต่อไป เงาของคนตรงหน้าและสายตาจริงจังที่หันกลับมามอง
    เขาจำได้ว่ามันเป็นภาพที่ทำให้เขาเข้าใจดีว่าคงไม่มีใครเหมาะจะขึ้นไปอยู่ตำแหน่งสูงสุดต่อจากบิดาของทั้งสองได้มากไปกว่าพี่ชายของเขาแล้ว

    "... สุดท้ายนี้ ทาราฟาฮ์ เจ้าจำทุกอย่างได้หรือยัง?"

    ทาราฟาฮ์ลืมตาขึ้นช้า ๆ ในตอนนี้เขาพบว่าตัวเองกำลังนั่งพิงกำแพงไม้ข้างประตูกระท่อม
    ดูท่าเหมือนเขาจะเผลอหลับไป เพราะอาการปวดหัวเมื่อครู่ในบัดนี้เหลือแค่ความรู้สึกหน่วง ๆ เหมือนกับว่าพักผ่อนไม่เพียงพอหรืออย่างใดอย่างนั้น
    ชายหนุ่มปาดเหงื่อที่ยังเหลือรื้นบนหน้าผากก่อนที่จะลดมือลงช้า ๆ ดวงตาสีส้มเหลืองกะพริบตาถี่
    เขาลุกขึ้นเดินท่ามกลางความมืดมิดและเสียงของจักจั่นที่ร้องระงมอยู่ข้างนอก ไปหยุดอยู่หน้ากระจกในห้องน้ำก่อนที่จะเอื้อมไปแตะตรงไหล่ขวา

    ที่เดียวกันกับที่พี่ชายของเขาจับในความทรงจำที่เขาเห็น

    ที่เดียวกันกับที่เขามีปานสีเข้มที่นับวันชักจะเริ่มดูออกว่ามันเป็นรูปอะไร

    ความทรงจำ…

    หรือทั้งหมดเป็นแค่การฝันละเมอ?




    S
    N
    A
    P
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×