เตารีดไฟฟ้า
ส่วนประกอบที่สำคัญจากเตารีดไฟฟ้า เตารีดไฟฟ้าประกอบด้วยส่วนประกอบที่สำคัญ คือ แผ่นความเทอร์โมสตัท แผ่นขดลวดความร้อน แผ่นทับผ้า และปุ่มปรับความร้อนเตารีดไฟฟ้าใช้แผ่นขดลวดความร้อนทำด้วยลวดนิโครมแผ่นแบนๆ วงสับไปมาไม่ได้ทำเป็นขดลวดเหมือนเตาไฟฟ้า หรือ อาจที่เรียกว่า ไส้เตารีด ซึ่งจะสอดอยู่ภายในระหว่างไมก้า (Mica) 2 แผ่น ไมก้านี้เป็นวัตถุทนไฟและเป็นฉนวนด้วย
เหตุที่ต้องใช้ไมก้ามากั้นนั้น เนื่องจากเตารีดต้องการน้ำหนังจึงจะทำให้ผ้าเรียบได้ ดังนั้นเตารีดจะมีเฉพาะแต่ไส้เตารีดจึงต้องมีฐานโลหะที่หนัง เมื่อไส้เตารีดร้อนก็จะทำให้ฐานโลหะร้อนตามด้วย
หลักการทำงานของเตารีดไฟฟ้า
โดยทั่วไปเตารีดไฟฟ้าเมื่อใช้เต้าเสียบเสียบเต้ารับแล้ว กระแสไฟฟ้าจะไหลผ่านขดลวดให้ความร้อน คือแถบลวดนิโครม หรือขดลวดความร้อน และจะถ่ายเทความร้อนให้กับแผ่นทับผ้า ทำให้แผ่นทับผ้าร้อน การตั้งอุณหภูมิให้มีความร้อนมากหรือน้อยเท่าไร ขึ้นอยู่ชนิดของผ้าที่จะรีด เช่นผ้าไนลอนหรือผ้าแพรต้องใช้อุณหภูมิไม่สูงมากนัก แต่ถ้าเป็นผ้าหนาต้องใช้อุณหภูมิสูง การตั้งความร้อนมีปุ่มปรับความร้อน ซึ่งจะไปกดแผ่นโลหะคู่ให้ตัดไฟตามอุณหภูมิที่ต้องการ
ชนิดของเตารีดฟ้า
เตารีดไฟฟ้าแบ่งได้ 3 ชนิด คือ
1.เตารีดไฟฟ้าแบบธรรมดา เตารีดไฟฟ้าชนิดนี้เป็นเตารีดไฟฟ้าที่ให้ความร้อนแก่เตารีดตลอดเวลาไม่สามารถปรับอุณหภูมิได้ เมื่อใช้เตารีดเสียบเต้ารับแล้วขดลวดความร้อนจะไห้ความร้อนตลอดเวลาเมื่อต้องการลดอุณหภูมิต้องดึงเต้าเสียบออก และถ้าต้องการเพิ่มอุณหภูมิก็ใช้เต้าเสียบเสียบเต้ารับใหม่อีกครั้ง ซึ่งเตารีดชนิดนี้ไม่นิยมกันเพราะเกิดอันตรายได้ง่าย
2.เตารีดไฟฟ้าชนิดอัตโนมัติ เตารีดชนิดนี้เป็นเตารีดไฟฟ้าที่มีเครื่องปรับอุณหภูมิหรือเทอร์โมสตัท สามารถตั้งอุณหภูมิตามที่ต้องการได้เพื่อให้ได้อุณหภูมิที่เหมาะสมกับผ้าที่ต้องการรีด
3.เตารีดไฟฟ้าชนิดไอน้ำ เตารีดชนิดนี้เป็นเตารีดไฟฟ้าที่มีที่เก็บน้ำไว้ในตัวเตารีดด้วยทำให้ผู้ใช้ไม่ต้องพรมน้ำตลอดเวลารีดผ้า เมื่อเตารีดร้อนก็จะทำให้น้ำภาชนะภายในที่เก็บเดือดเป็นไป เมื่อต้องการใช้น้ำก็กดปุ่มให้ไปน้ำพุ่งออกมา จึงรีดผ้าได้เรียบดียิ่งขึ้น อย่างไรก็ตามที่ใช้ในเตารีดชนิดนี้ต้องเป็นน้ำสะอาด มิฉะนั้นแล้วจะเกิดเป็นตระกอนอุดตันได้
วิธีใช้เตารีดไฟฟ้าให้ประหยัดพลังงาน
1. ควรรีดผ้าคราวละมากๆ ติดต่อกันจนเสร็จ และควรเริ่มรีดผ้าบางๆ ก่อนในขณะที่เตารีดยังไม่ร้อน และก่อนรีดเสร็จประมาณ 2-3 นาทีให้ถอดปลั๊กออก
2. เมื่อไม่ได้ใช้งานควรถอดปลั๊กออก และก่อนจะเก็บควรทิ้งให้เตารีดเย็นก่อน
คำแนะนำด้านความปลอดภัยของเตารีด
1. ควรระวังไม่ให้ความร้อนจากเตารีดสัมผัสสายไฟฟ้าเพราะจะทำให้เปลือกสาย(ฉนวน) เสียหายได้
2. สายปลั๊กของเตารีด เปลือกสาย (ฉนวน) ต้องไม่เสื่อมสภาพหรือฉีกขาด
3. ต้องคอยหมั่นตรวจสอบฉนวนยางที่หุ้มสายเข้าเตารีด หากพบว่าเปื่อยหรือฉีกขาดควรรีบเปลี่ยนใหม่โดยช่างผู้มีความรู้ เพราะหากไม่รีบเปลี่ยนสายไฟบริเวณนั้นอาจชำรุดและถูกไฟดูดได้
4. ขณะใช้งาน เมื่อหยุดรีดต้องวางบนวัสดุที่ไม่ติดไฟง่าย
5. เตารีดที่ใช้ควรมีสายดินและต่อลงดินผ่านทางเต้าเสียบเต้ารับที่มี
สายดินด้วย และหมั่นตรวจสอบไฟรั่วด้วยไขควงลองไฟเสมอ
6. ดูข้อควรปฏิบัติในการใช้ไฟฟ้า หรือเครื่องใช้ไฟฟ้าอย่างปลอดภัย
หม้อหุงข้าวไฟฟ้า
ปัจจุบันหม้อหุงข้าวไฟฟ้าเป็นเครื่องใช้ที่สำคัญและจำเป็นในชีวิตประจำวันเนื่องจากหม้อหุงข้าวไฟฟ้ามีระบบการทำงานอย่างอัตโนมัติ จึงอำนวยสะดวกและประหยัดเวลาในการหุงต้มเป็นอย่างมาก ถึงแม้ว่าปัจจุบันนี้จะมีบริษัทหม้อหุงข้าวเป็นจำนวนมากก็ตาม แต่หม้อหุงข้าวไฟฟ้ามีหลักการทำงานเหมือนกัน
ส่วนประกอบของหม้อหุงข้าวไฟฟ้า
หม้อหุงข้าวไฟฟ้ามีส่วนประกอบที่สำคัญ ได้แก่ แผ่นแผ่กระจายความร้อนหรือแผ่นความร้อน เทอร์โมสตัท ที่ใช้ควบคุมอุณหภูมิ สวิตซ์ หลอดไฟบอกสภาวะการทำงาน หม้อหุงข้าวชั้นใน และ หม้อหุงข้าวชั้นนอก ซึ่งมีรายละเอียดดังนี้
1.แผ่นความร้อน เป็นแผ่นโลหะผสมให้ความร้อนแก่หม้อหุงข้าวชั้นใน อยู่ส่วนล่างของหม้อ มีขดลวดความร้อนแฝงอยู่ในโลหะผสมนี้ ขดลวดความร้อนก็คือ ขดลวดนิโครม เมื่อมีกระแสไฟฟ้าผ่านความร้อนจากลวดนิโครมส่งไปยังแผ่นความร้อน บริเวณส่วนกลางของแผ่นความร้อนจะมีลักษณะเป็นช่องวงกลม ซึ่งเป็นช่องว่างของเทอร์โมสตัท
2.หลอดไฟบอกสภาวะการทำงาน โดยปกติมี 2 หลอดได้แก่ หลอดไฟที่ใช้กับวงจรการหุงข้าว และหลอดไฟที่ใช้กับวงจรอุ่นข้าว
3.หม้อข้าวชั้นใน ส่วนนี้มีความสำคัญมากทำด้วยอลูมิเนียมหรือโลหะผสม และต้องไม่บุบเบี้ยวง่าย มิฉะนั้นแล้วจะทำให้บริเวณก้นหม้อสัมผัสกับความร้อนได้ไม่ดี
4.หม้อข้าวชั้นนอก ส่วนนี้ทำด้วยโลหะที่พ่นสีให้มีลวดลายที่สวยงาม และมีหูจับสองด้าน บริเวณด้านล่างติดกับแผ่นความร้อน มีสวิตซ์ติดอยู่และมีเต้าเสียบที่ใช้กับเต้ารับวงจรไฟฟ้าในบ้าน
5.เทอร์โมสตัท เป็นอุปกรณ์ควบคุมอุณหภูมิความร้อนอัตโนมัติ การทำงานของเทอร์โมสตัทหม้อหุงข้าวไฟฟ้าต่างจากอุปกรณ์ชนิดอื่นๆเพราะไม่สามารถใช้แผ่นโลหะคู่ได้
หลักการทำงานของหม้อหุงข้าวไฟฟ้า
เมื่อผู้ใช้ใส่ข้าวและน้ำในหม้อชั้นในตามสัดส่วนที่กำหนดและวางหม้อชั้นในลงในที่แล้วก้นหม้อจะกดเทอร์โมสตัทที่อยู่ตรงกลางของแผ่นความร้อน พร้อมที่จะทำงานเมื่อเรากดสวิตซ์ ON แล้ว คันกระเดื่องจะดันให้แท่งแม่เหล็กเลื่อนขึ้นไปดูดกับแท่งแม่เหล็กอันบนที่อยู่ในทรงกระบอก ทำให้คันโยกปล่อยให้หน้าสัมผัสเตะกัน กระแสไฟฟ้าไหลผ่านจุดสัมผัสผ่านลวดความร้อน ทำให้แผ่นความร้อนมีอุณหภูมิสูงขึ้น เมื่อข้าวเดือดจะเกิดความร้อนสะสมอยู่ภายในหม้อมากและเนื่องจากเราใส่น้ำและข้าวสัดส่วนที่บริษัทผู้ผลิตกำหนดไว้ เมื่อน้ำเดือดกลายเป็นไอ ข้าวก็จะสุกพอดี เมื่อน้ำภายในหม้อหมดอุณหภูมิของหม้อชั้นในสูงเกิน 100 องศาเซลเซียสโดยสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว เพราะไม่มีน้ำคอยรักษาอุณหภูมิแล้ว ความร้อนภายในหม้อจะทำให้แท่งแม่เหล็กกลายสภาพเป็นแม่เหล็กขดสปริงก็ดันให้แท่งแม่เหล็กอันล่างเลือนลงคันกระเดื่องก็จะดันให้หน้าสัมผัสแยกออกจากกัน ทำให้วงจรเปิดของกระแสไฟฟ้าจึงไหลเข้าสู่ลวดความร้อนไม่ได้ ถึงแม้จะไม่มีไฟฟ้าผ่านภายในหม้อหุงข้าวยังมีความร้อนอยู่ จึงทำให้ข้าวสุกและระอุได้พอดีในหม้อหุงข้าวบางแบบ จะมีสวิตซ์อุ่นข้าวโดยมีเทอโมสตัทตัดวงจรไฟฟ้าแล้วเปลี่ยนมาเป็นสวิตซ์อุ่นข้าวแทน
นอกจากเครื่องไฟฟ้าที่กล่าวมา ยังมีเครื่องใช้ไฟฟ้าประเภทอื่นๆสามารถเปลี่ยนพลังงานไฟฟ้าเป็นพลังงานความร้อน เช่น เตาปิ้งขนมปังกาต้มน้ำร้อน กาชงกาแฟ เป็นต้น
หม้อต้มน้ำร้อน (กาต้มน้ำ หรือกระติกน้ำร้อน)
วิธีใช้หม้อต้มน้ำร้อนอย่างประหยัดพลังงานและปลอดภัย
1. ควรใส่น้ำให้พอเหมาะกับความต้องการ
2. ถอดปลั๊กทันทีเมื่อเลิกใช้งาน
- เมื่อน้ำเดือดจะต้องถอดปลั๊กทันที
- อย่าเสียบปลั๊กทิ้งไว้โดยไม่มีคนอยู่
3. ขณะใช้งานควรวางบนพื้นที่ไม่ติดไฟ และไม่ควรตั้งวางใกล้วัสดุติดไฟ
4. หม้อต้มน้ำร้อนต้องต่อสายดิน แม้ว่าจะมีฉนวนหุ้มภายนอกหรือไม่ก็ตาม เนื่องจากจะมีไฟรั่วมากับน้ำที่เท หรือกดให้ไหลออกมากับท่อ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากนำภาชนะโลหะรองรับน้ำอาจถูกไฟดูดได้ (สามารถทดสอบได้ด้วยไขควงลองไฟ)
5. ดูข้อควรปฏิบัติในการใช้ไฟฟ้าหรือเครื่องใช้ไฟฟ้าอย่างปลอดภัย
พัดลมไฟฟ้า
ประเทศไทยตั้งอยู่ในเมืองเขตร้อนชื้น ดังนั้นพัดลมจึงเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าชนิดหนึ่งที่มีความจำเป็น พัดลมที่ใช้กันทั่วมีหลายประเภท สามารถแบ่งตามลัก ษ ะการใช้งานได้ดังนี้ พัดลมตั้งพื้น พัดลมตั้งโต๊ะ พัดลมติดเพดาน พัดลมติดผนัง และพัดลมดูดอากาศ แม้ว่าพัดลมที่มีหลายประเภทแต่ก็มีหลักการทำงานเหมือนกัน
พัดลมโดยทั่วไปใช้มอเตอร์ไฟฟ้า 3 ชนิด คือ
ยูนิเวอร์ซัลมอเตอร์ เป็นมอเตอร์ชนิดที่ใช้ได้ทั้งไฟฟ้ากระแสตรงและกระแสสลับ มอเตอร์แบบบังขั้วและสปลิตเฟสมอเตอร์ มอเตอร์ทั้งสองชนิดเป็นมอเตอร์ไฟฟ้าเหนี่ยวนำที่ใช้กับกระแสสลับ
การดูแลรักษา
การดูแลรักษาพัดลมอย่างสม่ำเสมอจะช่วยทำให้พัดลมทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ และยังช่วยยืดอายุการทำงานให้ยาวนานขึ้นโดย มีวิธีการดังนี้
-หมั่นทำความสะอาดตามจุดต่าง ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ใบพัด และตะแกรงครอบใบพัด
-อย่าให้ฝุ่นละอองเกาะจับ และ ต้องดูแลให้มีสภาพดีอยู่เสมออย่าให้แตกหักหรือชำรุด หรือโค้งงอผิดส่วนจะทำให้ลมที่ออกมามีความแรงหรือความเร็วลดลง
-หมั่นทำความสะอาดช่องลมตรงฝาครอบมอเตอร์ของพัดลม ซึ่งเป็นช่องระบายความร้อนของมอเตอร์ อย่าให้มีคราบน้ำมันหรือฝุ่นละอองเกาะจับ เพราะจะทำให้ประสิทธิภาพของมอเตอร์ลดลง และสิ้นเปลืองพลังงานไฟฟ้ามากขึ้น
เครื่องดูดฝุ่น
ในปัจจุบันนี้เครื่องดูดฝุ่นเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าที่นิยมกันมากในชีวิตประจำวัน เครื่องดูดฝุ่น เป็นเครื่องช่วยทำความสะอาดภายในบ้านโดยใช้ระบบสุญญากาศดูดผงฝุ่นและเศษขยะต่างๆเข้าไปเก็บในที่เก็บ เครื่องดูดฝุ่นแบ่งออกเป็น 2 ชนิด คือ เครื่องดูดฝุ่นแบบถุงและเครื่องดูดฝุ่นแบบทรงกระบอกใบพัดที่ใช้ในเครื่องดูดฝุ่นเป็นใบพัดประเภทเดียวกับพัดลมดูดอากาศและใช้มอเตอร์แบบยูนิเวอร์ซัล
เครื่องดูดฝุ่นแบบถุง
เป็นเครื่องดูดฝุ่นที่ใช้ทำความสะอาดได้เฉพาะที่พื้นที่เท่านั้น ตัวเครื่องประกอบด้วยแปรงทรงกระบอกต่อสายพานเข้ากับแกนมอเตอร์ ทำให้แปรงหมุนขณะมอเตอร์ทำงานแปรงจะช่วยมอเตอร์ปัดฝุ่นให้ขึ้นมาจากพื้นพัดลมจะช่วยดูดอากาศที่มีฝุ่นให้ผ่านไปยังถุงเก็บถุงทำให้ผงฝุ่นปลิวขึ้นและเข้าไปรวมกันอยู่ในถุงเก็บฝุ่น ส่วนอากาศก็จะออกจากถุงโดยที่ฝุ่นออกจากถุงไม่ได้ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับความละเอียดของผ้าที่ใช้ทำถุงแต่ถ้าฝุ่นมาอุดที่ผนังถุงมากๆจะทำให้อากาศออกจากถุงได้ยากกำลังดูดของมอเตอร์ก็จะลดลงดังนั้นเพื่อให้การใช้เครื่องดูดฝุ่นมีประสิทธิภาพมากขึ้นก็ต้องทำความสะอาดถุงเก็บฝุ่นเสมอ
เครื่องดูดฝุ่นแบบทรงกระบอก
เป็นเครื่องดูดฝุ่นที่วางมอเตอร์และใบพัดไว้ในแนวนอนในเครื่องดูดฝุ่นบริเวณด้านหน้าจะมีถุงเก็บฝุ่น ส่วนหลังของถุงเก็บฝุ่นจะมีมอเตอร์ดูดอากาศให้ออกไปด้านหลังของตัวเครื่องซึ่งจะทำให้อากาศบริเวณตอนหน้าของเครื่องถูกดูดไปจึงเป็นบริเวณที่มีความกดดันน้อยและอากาศด้านหน้าของหัวดูดก็จะพัดเข้ามาตลอดเวลาการใช้เครื่องดูดฝุ่นชนิดนี้สะดวกกว่าแบบถุงเพราะสามารถเปลี่ยนหัวดูดได้หลายแบบและสามารถใช้ดูดฝุ่นตามฝาผนัง ตามซอกมุมหรือบริเวณเบาะรถยนต์ได้ด้วย
เครื่องรับวิทยุ
เมื่อสถานีส่งวิทยุแปลงสัญญาณไฟฟ้าเป็นคลื่นวิทยุที่มีความถี่ต่างๆ กันแล้ว คลื่นวิทยุดังกล่าวจะถูกส่งไปยังสถานีต่างๆ เมื่อคลื่นวิทยุไปกระทบกับเสาอากาศของเครื่องรับวิทยุภาครับของเครื่องรับวิทยุที่เลือกความถี่ได้ตรงกับความถี่คลื่นวิทยุที่ส่งออกมา จะรับเอาคลื่นวิทยุดังกล่าวไปแปลงเป็นสัญญาณไฟฟ้า แล้วสัญญาณไฟฟ้านี้จะเข้าสู่วงจรขยายเพื่อให้สัญญาณไฟฟ้ามีแอมปลิจูดสูงขึ้น สัญญาณนี้จะผ่านอุปกรณ์อิเลคทรอนิกส์ เพื่อแยกคลื่นเสียงออกจากคลื่นพาหะ แล้วผ่านวงจรขยายอีกครั้งหนึ่งให้สัญญาณมีความแรงขึ้นจนเพียงพอที่จะทำให้ลำโพงเกิดการสั่นสะเทือนเป็นเสียงที่เหมือนกับเสียงที่ออกมาจากแหล่งกำเนิดเสียงสถานีส่งดังนั้น ลำโพงจึงทำหน้าที่เปลี่ยนสัญญาณไฟฟ้าเป็นสัญญาณเสียง
ความคิดเห็น