จอมคาถา มหาติงต๊อง - นิยาย จอมคาถา มหาติงต๊อง : Dek-D.com - Writer
×

    จอมคาถา มหาติงต๊อง

    หนุ่มน้อยผู้มีพลังดึงดูดภูตผี จอมคาถาสาวผู้ท่องเพียงบทสนทนาการ์ตูนก็เปล่งเวทเปี่ยมฤทธานุภาพออกมาได้ เรื่องราวความร่วมมือของสองศิษย์อาจารย์ที่ปราบปิศาจได้อลเวงหลุดโลก...

    ผู้เข้าชมรวม

    17,673

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    25

    ผู้เข้าชมรวม


    17.67K

    ความคิดเห็น


    114

    คนติดตาม


    48
    หมวด :  แฟนตาซี
    จำนวนตอน :  19 ตอน
    อัปเดตล่าสุด :  3 เม.ย. 52 / 14:01 น.

    อีบุ๊กจากนิยาย ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ


     

    จอมคาถา มหาติงต๊อง

       


    ออกในงานสัปดาห์หนังสือครั้งที่ 37 นี้จ้า

     

    บทนำ

     

    ผมไม่รู้เลยว่าผมเป็นนักพรตคนสุดท้ายของศตวรรษนี้หรือเปล่า

    หรือน่าจะบอกว่า ผมไม่รู้ว่าเป็นนักพรตคนสุดท้ายของไต้หวันหรือเปล่า

    แม้วิชาพรตสำนักเหมาซานของพวกเราที่ตกทอดกันสืบมาจะมีประวัติศาสตร์ยาวนานถึงห้าร้อยปี สืบช่วงจากแผ่นดินใหญ่ข้ามน้ำข้ามทะเลมาฝั่งไต้หวัน แต่ว่าตระกูลเรามีกฎเข้มงวดมาก ห้ามถ่ายทอดวิชาประจำตระกูลแก่คนนอก แล้วก็ยังมีกฎหยุมหยิมอีกมากมายก่ายกอง...

    แต่ว่าเมื่อมาถึงรุ่นผม คัมภีร์และวิชาไสยเวทมากมายก็หายสาบสูญไปอย่างช่วยไม่ได้แล้ว นอกจากผมแล้วก็ไม่มีใครอยากรับช่วงสืบทอด ส่วนตัวผมเองน่ะเหรอ เหตุที่คิดจะรับสืบทอดวิชาก็เพราะเนตรอินหยาง*บัดซบคู่นี้ ถ้าไม่สืบทอดวิชา ผมต้องตายโหง

    และก็เพราะมีร่างกายแบบนี้ พ่อจึงส่งผมไปฝึกฝนแต่เล็กๆ ก่อนแล้ว เพียงแต่...สถานที่ที่ผมได้ออกนอกประเทศ ได้ไปเรียนเมืองนอก กลับกลายเป็นสำนักงานใหญ่กาชาดที่ทำให้ผมตกตะลึงพรึงเพริดอยู่บ้าง

    ความจริงนั้นน่าจะเรียกว่า หน่วยบรรเทาภัยพิบัติกาชาด เพียงแต่ตัวสำนักงานจริงๆ ของทีมบรรเทาภัยพิบัติหรูหราโอ่อ่ากว่าสำนักงานใหญ่มากเหลือเกิน  มันตั้งอยู่ในปราสาทยุโรปแห่งหนึ่งที่ไม่ได้บูรณะซ่อมแซมมานานปี รอบด้านมีป่าไม้แน่นขนัดโอบล้อมอยู่ วันแรกที่ไปถึง ผมยังนึกว่าหลงเข้ามาในโลกของแฮร์รี่ พ็อตเตอร์เสียอีก เพียงแต่ไม่มีควิดดิชเท่านั้นเอง...

    แต่ว่ามีคนขี่ไม้กวาด และที่ยิ่งประหลาดกว่านั้นก็คือมีคนขี่เครื่องดูดฝุ่นอีกด้วย

    ผมอยู่ที่หน่วยบรรเทาภัยพิบัติห้าปี มักถูกเสียงระเบิดของวิชาเวททำให้ตกใจตื่นบ่อยๆ ส่วนภาพปิศาจร้ายตัวน้อยที่ถูกเรียกมาแต่ส่งกลับไปไม่ได้กำลังกระโดดเต้นแร้งเต้นกาโวยวายเอากับผู้อัญเชิญ หรือภาพผู้อัญเชิญน้ำตาคลอ คอตก เอาแต่พร่ำขอโทษไม่ขาดปาก ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกประหลาดแต่อย่างใดแล้ว

    ได้ยินมาว่าหน่วยบรรเทาภัยพิบัติของประเทศต่างๆ เดิมมีโครงสร้างและภารกิจเฉพาะของตนเอง ส่วนใหญ่เป็นการดูแล โลกวิญญาณ (อย่างไรก็ตาม เรื่องในเขตพิเศษอู่อีถูกหัวหน้าของพวกเราปฏิเสธไปแล้ว มนุษย์ต่างดาวไม่อยู่ในขอบเขตความดูแลของเรา) ต่อมาภารกิจค่อยๆ ขยายเป็นงานระดับสากลและประสานงานกับกาชาด ดังนั้นจึงร่วมงานกันเสียเลย

    ผมบำเพ็ญเพียรได้ห้าปีแล้ว เรียนวิชาความรู้สารพัดสารเพเต็มท้อง ทว่า ให้ว่ากันตามตรงแล้ว วิชาเวทของผมไม่ก้าวหน้าเลยแม้แต่น้อย ว่ากันว่าเป็นเพราะไสยเวทของโลกตะวันออกตามปกติยึดวิชาของญี่ปุ่นเป็นหลัก ไม่ค่อยเหมือนกับสายวิชาของผม ทว่าผมเรียนวิชาประวัติศาสตร์โลกวิญญาณได้ไม่เลวทีเดียว ถึงอย่างนั้น ผมกลับไม่เคยคิดจะเป็นนักวิชาการ

    เป็นอย่างนี้หรือ... อาจารย์แนะแนวการหางานเกาหัว งั้นเปลี่ยนมานับถือคาทอลิกเป็นไง จะได้เรียนการไล่ผีอย่างเป็นระบบ ในอนาคตก็เข้าร่วมกลุ่มนักรบกางเขนกุหลาบดำ...

    ผมไม่อยากบวช! เส้นเลือดดำบนหน้าผากผมปูด ต่อให้ตอนนี้ยังไม่มีแฟน วันหน้าผมก็ต้องมีแน่นอน! นอกจากนี้ ที่ผมเรียนมาคือวิชาพรต...

    เป็นนักพรตแต่คิดจะมีแฟนเรอะ อาจารย์บ่นอย่างไม่พอใจ เอาเถอะ ฉันจะจัดการให้เธอไปเป็นผู้ช่วยของยอดฝีมือวิชาพรตตำรับแท้คนหนึ่งก็แล้วกัน

    วิชาพรตตำรับแท้? ผมมองฝรั่งตาสีมรกตผมทองที่อยู่เบื้องหน้าด้วยความสงสัย ฝรั่งจะมาเข้าใจอะไรกับวิชาพรตตำรับแท้ด้วยเรอะ ผมเป็นศิษย์สำนักเหมาซานที่สืบทอดประวัติศาสตร์มายาวนาน อย่าแนะนำอะไรซี้ซั้วให้ผมนะ

    ไม่อย่างนั้น เธอจะเป็นบรรณารักษ์ที่นี่ก็ได้นะ อาจารย์พูดอย่างไม่สบอารมณ์

    สองทางเลือกที่ไม่ได้เรื่องอย่างแท้จริง ผมไม่มีวันเป็นบรรณารักษ์หรอก

     

    ---------------------

     

    ผมไปหา จอมคาถา ท่านนี้ด้วยใจที่เต้นไม่เป็นส่ำ ฟังชื่อแล้วเหมือนผู้เชี่ยวชาญศาสตร์องเมียวของญี่ปุ่นอะไรทำนองนั้นมาก...

    ผมบ่นอุบอิบอยู่ในใจ พวกฝรั่งทุเรศมักแยกวิชาไสยเวทของจีนกับญี่ปุ่นไม่ออก ถ้าส่งผมไปเรียนกับพวกคนญี่ปุ่น ผมก็แย่สิ ภาษาญี่ปุ่นของผมมันห่วยมากเลยนะ!

    ผมระดมกดกริ่งไฟฟ้าตามที่อยู่ที่ได้มา แต่กริ่งไฟฟ้ากลับไม่ดังแม้แต่น้อย เคาะประตูก็ไม่มีเสียงตอบรับ ผมเงยหน้ามองตึกแถวมืดครึ้มวังเวงหลังนี้ ทำไมถึงมาอาศัยอยู่ที่หมู่บ้านในภูเขารกร้างตามชนบทเมืองไทเปแบบนี้นะ

    ผมลองอ้อมไปดึงประตูหลัง เอ๊ะ เปิดออกแล้ว!

    พอเปิดประตู ผมก็ประจันหน้ากับตัวประหลาดน้ำลายสีขาวเป็นเงินยวงไหลย้อยเต็มปากตัวหนึ่ง มันร้องคำรามขึ้น ผมก็แหกปากร้องเสียงแหลมตามมัน ยกมือขึ้นวาดยันต์อัคคีใส่มันไปหนึ่งครั้ง แล้วเริ่มบริกรรมคาถาโอ สวรรค์ คาถาอะไรดี ทำไมผมถึงลืมไปแล้ว!

    ตายแน่! มันพุ่งเข้ามาแล้ว...

    ทันใดนั้น มีเงาดำสายหนึ่งกระโดดเข้ามาขวางระหว่างมันกับผม ผู้หญิงวัยรุ่นสวมเสื้อสายเดี่ยวกับกางเกงขาสั้น คลุมกายด้วยเสื้อคลุมหนังตัวใหญ่ผู้หนึ่ง ท่วงท่าน่าเกรงขาม ตวาดเสียงดังหนึ่งครั้งก็ขับไล่ตัวประหลาดล่าถอยไป ที่ถืออยู่ในมือคือกระบี่ไม้ท้อขนานแท้ดั้งเดิม...

    ผมซาบซึ้งใจจนน้ำตาคลอเบ้าจริงๆ! (ไม่ใช่ว่าผมกลัวจนร้องไห้หรอกนะ!)

    มองดูหล่อนก้าวเท้าท่านักพรต เท้าหนึ่งกระโดด อีกเท้าชี้ขึ้น ต่อสู้กับตัวประหลาดอย่างคล่องแคล่ว วิชาท่าร่างกับวิชากระบี่เลิศล้ำไร้เปรียบปาน ผมคิดว่าผมได้พบสุดยอดอาจารย์เข้าแล้วจริงๆ ผมรู้สึกตื่นเต้นเหลือเกิน!

    ไม่รู้ว่าคนคนนั้นเป็นคนจากสำนักไหนนะ ถ้าเป็นศิษย์พี่หญิงแห่งเหมาซานก็ยิ่งวิเศษเลย ผมเงี่ยหูพยายามฟังเวทศักดิ์สิทธิ์ที่หล่อนบริกรรม...

    เฮ้ย! หล่อนตวาดเสียงหวานหนึ่งครั้ง น้ำเสียงน่าฟังมาก ล่วงเกินจอมเวทแล้วยังคิดจะหนีอีกเรอะ! กระบี่ไม้ท้อสาดประกายแสงสีทอง ทำลายตัวประหลาดไปในพริบตานั้นเอง

    ผมยืนตะลึงค้างไปแล้ว นี่...น่าจะเป็นแค่คำพูดติดปากของหล่อนเท่านั้นเองละมั้ง แต่ยังรู้สึกมีอะไรทะแม่งๆ อยู่บ้าง

    หัวตัวประหลาดกลิ้งหลุนๆ อยู่บนพื้น พยายามจะคืนชีพขึ้นมาอีกครั้ง หล่อนจ้องมองมันอย่างเย็นชา เจอเพลงสรรเสริญพระเจ้าจากข้าดูบ้างเป็นไง! อาเมน จากนั้นใช้ยันต์อัคคีระเบิดมันทิ้ง

    ลมฤดูใบไม้ร่วงพัดมาวูบหนึ่ง หลงเหลือเพียงใบไม้ร่วงอันอ้างว้างไม่กี่ใบเท่านั้น

    คุณคือจอมคาถา? ผมไม่สามารถบังคับนิ้วมือไม่ให้สั่นเทา

    ผู้หญิงคนนั้นกวาดตามองผมขึ้นๆ ลงๆ อ้อ นายคือคนที่สำนักงานใหญ่ส่งมาเป็นผู้ช่วยล่ะสิ ได้ยินว่าเป็นศิษย์น้องร่วมสำนักของฉันใช่มั้ย หล่อนเสียบกระบี่คืนกลับเข้าฝักอย่างเกียจคร้าน

    เป็นคนสำนักเหมาซาน? หลอกลวง!

    ที่คุณเพิ่งท่องเมื่อครู่นี้คือ...เวท?

    ใช่สิ! หล่อนยกเท้าที่สวมรองเท้าบู๊ทล่าสัตว์ขึ้นพาดบนโต๊ะด้วยมาดก๋ากั่น คนมีความสามารถ แม้เพียงบริกรรมบทสนทนาในการ์ตูนก็ใช้ปราบปิศาจได้! นั่นล่ะถึงจะเป็นคาถาที่มีพลานุภาพ!

    หล่อนหาวปากกว้างแล้วพูดอีกว่า ตอนแรกว่าจะร่ายบทสนทนาของนูเบ มืออสูรล่าปิศาจ แต่ดันลืมซะก่อนน่ะ

    เหวอ...ผมว่าผมกลับไปทำงานเป็นบรรณารักษ์ดีกว่ามั้ง...



    * คล้ายตาทิพย์ของไทย เนตรอินหยางจะเห็นภูตผีปิศาจและสิ่งประหลาดต่างมิติ แต่ไม่เห็นอนาคต

    ตั้งแต่วันที่ 26 มีนาคม - 6 เมษายน 2552
    เวลา 10.00น. -21.00น.
    ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์

    สำนักพิมพ์สถาพรบุ๊คส์อยู่ที่บูธ Q40 โซนซี 2 (หนังสือทั่วไป, เด็ก, แบบเรียน, เก่า)

    * รายการหนังสือ / ตารางนักเขียน / โปรโมชั่นในงานจะแจ้งให้ทราบอีกทีค่ะ

    รายการหนังสือที่จะออกในงานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติครั้งที่ 37 มาแล้วจ้า






    B

     Aom

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    คำนิยม Top

    "ผมคิดว่าเอาออกมาขายให้หมดเลย"

    (แจ้งลบ)

    อยากอ่านจนลงแดงจาตายแว้ว เหอ ๆๆ เหลือ อีก 4 เล่มเอง สู้ ๆๆ อ่านเพิ่มเติม

    อยากอ่านจนลงแดงจาตายแว้ว เหอ ๆๆ เหลือ อีก 4 เล่มเอง สู้ ๆๆ  

    ยอดคุง | 29 พ.ค. 52

    • 17

    • 0

    "อัพเถอะ....."

    (แจ้งลบ)

    สนุกมากเลย มาอัพไวไวนะ อ่านเพิ่มเติม

    สนุกมากเลย มาอัพไวไวนะ  

    5 E-vil | 20 เม.ย. 52

    • 8

    • 0

    ดูทั้งหมด

    คำนิยมล่าสุด

    "นครหลวงเงามายา"

    (แจ้งลบ)

    ชอบเรื่องนี้มากค่ะ ภาคพิเศษของซูฉีทำให้อยากอ่านเรื่องของซูฉีด้วย อยากให้แปลเรื่องนี้นะคะ คือมันจะเป็นความสุขอย่าสุดซึ้งเลยประมาณนั้น อ่านเพิ่มเติม

    ชอบเรื่องนี้มากค่ะ ภาคพิเศษของซูฉีทำให้อยากอ่านเรื่องของซูฉีด้วย อยากให้แปลเรื่องนี้นะคะ คือมันจะเป็นความสุขอย่าสุดซึ้งเลยประมาณนั้น  

    lazy_lochness | 3 ก.ย. 55

    • 3

    • 0

    "ผมคิดว่าเอาออกมาขายให้หมดเลย"

    (แจ้งลบ)

    อยากอ่านจนลงแดงจาตายแว้ว เหอ ๆๆ เหลือ อีก 4 เล่มเอง สู้ ๆๆ อ่านเพิ่มเติม

    อยากอ่านจนลงแดงจาตายแว้ว เหอ ๆๆ เหลือ อีก 4 เล่มเอง สู้ ๆๆ  

    ยอดคุง | 29 พ.ค. 52

    • 17

    • 0

    ดูทั้งหมด

    ความคิดเห็น