จอมคาถา มหาติงต๊อง
หนุ่มน้อยผู้มีพลังดึงดูดภูตผี จอมคาถาสาวผู้ท่องเพียงบทสนทนาการ์ตูนก็เปล่งเวทเปี่ยมฤทธานุภาพออกมาได้ เรื่องราวความร่วมมือของสองศิษย์อาจารย์ที่ปราบปิศาจได้อลเวงหลุดโลก...
ผู้เข้าชมรวม
17,673
ผู้เข้าชมเดือนนี้
25
ผู้เข้าชมรวม
ข้อมูลเบื้องต้น
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
จอมคาถา มหาติงต๊อง
ออกในงานสัปดาห์หนังสือครั้งที่ 37 นี้จ้า
บทนำ
ผมไม่รู้เลยว่าผมเป็นนักพรตคนสุดท้ายของศตวรรษนี้หรือเปล่า
หรือน่าจะบอกว่า ผมไม่รู้ว่าเป็นนักพรตคนสุดท้ายของไต้หวันหรือเปล่า
แม้วิชาพรตสำนักเหมาซานของพวกเราที่ตกทอดกันสืบมาจะมีประวัติศาสตร์ยาวนานถึงห้าร้อยปี สืบช่วงจากแผ่นดินใหญ่ข้ามน้ำข้ามทะเลมาฝั่งไต้หวัน แต่ว่าตระกูลเรามีกฎเข้มงวดมาก ห้ามถ่ายทอดวิชาประจำตระกูลแก่คนนอก แล้วก็ยังมีกฎหยุมหยิมอีกมากมายก่ายกอง...
แต่ว่าเมื่อมาถึงรุ่นผม คัมภีร์และวิชาไสยเวทมากมายก็หายสาบสูญไปอย่างช่วยไม่ได้แล้ว นอกจากผมแล้วก็ไม่มีใครอยากรับช่วงสืบทอด ส่วนตัวผมเองน่ะเหรอ เหตุที่คิดจะรับสืบทอดวิชาก็เพราะเนตรอินหยาง*บัดซบคู่นี้ ถ้าไม่สืบทอดวิชา ผมต้องตายโหง
และก็เพราะมีร่างกายแบบนี้ พ่อจึงส่งผมไปฝึกฝนแต่เล็กๆ ก่อนแล้ว เพียงแต่...สถานที่ที่ผมได้ออกนอกประเทศ ได้ไปเรียนเมืองนอก กลับกลายเป็นสำนักงานใหญ่กาชาดที่ทำให้ผมตกตะลึงพรึงเพริดอยู่บ้าง
ความจริงนั้นน่าจะเรียกว่า หน่วยบรรเทาภัยพิบัติกาชาด เพียงแต่ตัวสำนักงานจริงๆ ของทีมบรรเทาภัยพิบัติหรูหราโอ่อ่ากว่าสำนักงานใหญ่มากเหลือเกิน มันตั้งอยู่ในปราสาทยุโรปแห่งหนึ่งที่ไม่ได้บูรณะซ่อมแซมมานานปี รอบด้านมีป่าไม้แน่นขนัดโอบล้อมอยู่ วันแรกที่ไปถึง ผมยังนึกว่าหลงเข้ามาในโลกของแฮร์รี่ พ็อตเตอร์เสียอีก เพียงแต่ไม่มีควิดดิชเท่านั้นเอง...
แต่ว่ามีคนขี่ไม้กวาด และที่ยิ่งประหลาดกว่านั้นก็คือมีคนขี่เครื่องดูดฝุ่นอีกด้วย
ผมอยู่ที่หน่วยบรรเทาภัยพิบัติห้าปี มักถูกเสียงระเบิดของวิชาเวททำให้ตกใจตื่นบ่อยๆ ส่วนภาพปิศาจร้ายตัวน้อยที่ถูกเรียกมาแต่ส่งกลับไปไม่ได้กำลังกระโดดเต้นแร้งเต้นกาโวยวายเอากับผู้อัญเชิญ หรือภาพผู้อัญเชิญน้ำตาคลอ คอตก เอาแต่พร่ำขอโทษไม่ขาดปาก ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกประหลาดแต่อย่างใดแล้ว
ได้ยินมาว่าหน่วยบรรเทาภัยพิบัติของประเทศต่างๆ เดิมมีโครงสร้างและภารกิจเฉพาะของตนเอง ส่วนใหญ่เป็นการดูแล โลกวิญญาณ (อย่างไรก็ตาม เรื่องในเขตพิเศษอู่อีถูกหัวหน้าของพวกเราปฏิเสธไปแล้ว มนุษย์ต่างดาวไม่อยู่ในขอบเขตความดูแลของเรา) ต่อมาภารกิจค่อยๆ ขยายเป็นงานระดับสากลและประสานงานกับกาชาด ดังนั้นจึงร่วมงานกันเสียเลย
ผมบำเพ็ญเพียรได้ห้าปีแล้ว เรียนวิชาความรู้สารพัดสารเพเต็มท้อง ทว่า ให้ว่ากันตามตรงแล้ว วิชาเวทของผมไม่ก้าวหน้าเลยแม้แต่น้อย ว่ากันว่าเป็นเพราะไสยเวทของโลกตะวันออกตามปกติยึดวิชาของญี่ปุ่นเป็นหลัก ไม่ค่อยเหมือนกับสายวิชาของผม ทว่าผมเรียนวิชาประวัติศาสตร์โลกวิญญาณได้ไม่เลวทีเดียว ถึงอย่างนั้น ผมกลับไม่เคยคิดจะเป็นนักวิชาการ
เป็นอย่างนี้หรือ... อาจารย์แนะแนวการหางานเกาหัว งั้นเปลี่ยนมานับถือคาทอลิกเป็นไง จะได้เรียนการไล่ผีอย่างเป็นระบบ ในอนาคตก็เข้าร่วมกลุ่มนักรบกางเขนกุหลาบดำ...
ผมไม่อยากบวช! เส้นเลือดดำบนหน้าผากผมปูด ต่อให้ตอนนี้ยังไม่มีแฟน วันหน้าผมก็ต้องมีแน่นอน! นอกจากนี้ ที่ผมเรียนมาคือวิชาพรต...
เป็นนักพรตแต่คิดจะมีแฟนเรอะ อาจารย์บ่นอย่างไม่พอใจ เอาเถอะ ฉันจะจัดการให้เธอไปเป็นผู้ช่วยของยอดฝีมือวิชาพรตตำรับแท้คนหนึ่งก็แล้วกัน
วิชาพรตตำรับแท้? ผมมองฝรั่งตาสีมรกตผมทองที่อยู่เบื้องหน้าด้วยความสงสัย ฝรั่งจะมาเข้าใจอะไรกับวิชาพรตตำรับแท้ด้วยเรอะ ผมเป็นศิษย์สำนักเหมาซานที่สืบทอดประวัติศาสตร์มายาวนาน อย่าแนะนำอะไรซี้ซั้วให้ผมนะ
ไม่อย่างนั้น เธอจะเป็นบรรณารักษ์ที่นี่ก็ได้นะ อาจารย์พูดอย่างไม่สบอารมณ์
สองทางเลือกที่ไม่ได้เรื่องอย่างแท้จริง ผมไม่มีวันเป็นบรรณารักษ์หรอก
---------------------
ผมไปหา จอมคาถา ท่านนี้ด้วยใจที่เต้นไม่เป็นส่ำ ฟังชื่อแล้วเหมือนผู้เชี่ยวชาญศาสตร์องเมียวของญี่ปุ่นอะไรทำนองนั้นมาก...
ผมบ่นอุบอิบอยู่ในใจ พวกฝรั่งทุเรศมักแยกวิชาไสยเวทของจีนกับญี่ปุ่นไม่ออก ถ้าส่งผมไปเรียนกับพวกคนญี่ปุ่น ผมก็แย่สิ ภาษาญี่ปุ่นของผมมันห่วยมากเลยนะ!
ผมระดมกดกริ่งไฟฟ้าตามที่อยู่ที่ได้มา แต่กริ่งไฟฟ้ากลับไม่ดังแม้แต่น้อย เคาะประตูก็ไม่มีเสียงตอบรับ ผมเงยหน้ามองตึกแถวมืดครึ้มวังเวงหลังนี้ ทำไมถึงมาอาศัยอยู่ที่หมู่บ้านในภูเขารกร้างตามชนบทเมืองไทเปแบบนี้นะ
ผมลองอ้อมไปดึงประตูหลัง เอ๊ะ เปิดออกแล้ว!
พอเปิดประตู ผมก็ประจันหน้ากับตัวประหลาดน้ำลายสีขาวเป็นเงินยวงไหลย้อยเต็มปากตัวหนึ่ง มันร้องคำรามขึ้น ผมก็แหกปากร้องเสียงแหลมตามมัน ยกมือขึ้นวาดยันต์อัคคีใส่มันไปหนึ่งครั้ง แล้วเริ่มบริกรรมคาถาโอ สวรรค์ คาถาอะไรดี ทำไมผมถึงลืมไปแล้ว!
ตายแน่! มันพุ่งเข้ามาแล้ว...
ทันใดนั้น มีเงาดำสายหนึ่งกระโดดเข้ามาขวางระหว่างมันกับผม ผู้หญิงวัยรุ่นสวมเสื้อสายเดี่ยวกับกางเกงขาสั้น คลุมกายด้วยเสื้อคลุมหนังตัวใหญ่ผู้หนึ่ง ท่วงท่าน่าเกรงขาม ตวาดเสียงดังหนึ่งครั้งก็ขับไล่ตัวประหลาดล่าถอยไป ที่ถืออยู่ในมือคือกระบี่ไม้ท้อขนานแท้ดั้งเดิม...
ผมซาบซึ้งใจจนน้ำตาคลอเบ้าจริงๆ! (ไม่ใช่ว่าผมกลัวจนร้องไห้หรอกนะ!)
มองดูหล่อนก้าวเท้าท่านักพรต เท้าหนึ่งกระโดด อีกเท้าชี้ขึ้น ต่อสู้กับตัวประหลาดอย่างคล่องแคล่ว วิชาท่าร่างกับวิชากระบี่เลิศล้ำไร้เปรียบปาน ผมคิดว่าผมได้พบสุดยอดอาจารย์เข้าแล้วจริงๆ ผมรู้สึกตื่นเต้นเหลือเกิน!
ไม่รู้ว่าคนคนนั้นเป็นคนจากสำนักไหนนะ ถ้าเป็นศิษย์พี่หญิงแห่งเหมาซานก็ยิ่งวิเศษเลย ผมเงี่ยหูพยายามฟังเวทศักดิ์สิทธิ์ที่หล่อนบริกรรม...
เฮ้ย! หล่อนตวาดเสียงหวานหนึ่งครั้ง น้ำเสียงน่าฟังมาก ล่วงเกินจอมเวทแล้วยังคิดจะหนีอีกเรอะ! กระบี่ไม้ท้อสาดประกายแสงสีทอง ทำลายตัวประหลาดไปในพริบตานั้นเอง
ผมยืนตะลึงค้างไปแล้ว นี่...น่าจะเป็นแค่คำพูดติดปากของหล่อนเท่านั้นเองละมั้ง แต่ยังรู้สึกมีอะไรทะแม่งๆ อยู่บ้าง
หัวตัวประหลาดกลิ้งหลุนๆ อยู่บนพื้น พยายามจะคืนชีพขึ้นมาอีกครั้ง หล่อนจ้องมองมันอย่างเย็นชา เจอเพลงสรรเสริญพระเจ้าจากข้าดูบ้างเป็นไง! อาเมน จากนั้นใช้ยันต์อัคคีระเบิดมันทิ้ง
ลมฤดูใบไม้ร่วงพัดมาวูบหนึ่ง หลงเหลือเพียงใบไม้ร่วงอันอ้างว้างไม่กี่ใบเท่านั้น
คุณคือจอมคาถา? ผมไม่สามารถบังคับนิ้วมือไม่ให้สั่นเทา
ผู้หญิงคนนั้นกวาดตามองผมขึ้นๆ ลงๆ อ้อ นายคือคนที่สำนักงานใหญ่ส่งมาเป็นผู้ช่วยล่ะสิ ได้ยินว่าเป็นศิษย์น้องร่วมสำนักของฉันใช่มั้ย หล่อนเสียบกระบี่คืนกลับเข้าฝักอย่างเกียจคร้าน
เป็นคนสำนักเหมาซาน? หลอกลวง!
ที่คุณเพิ่งท่องเมื่อครู่นี้คือ...เวท?
ใช่สิ! หล่อนยกเท้าที่สวมรองเท้าบู๊ทล่าสัตว์ขึ้นพาดบนโต๊ะด้วยมาดก๋ากั่น คนมีความสามารถ แม้เพียงบริกรรมบทสนทนาในการ์ตูนก็ใช้ปราบปิศาจได้! นั่นล่ะถึงจะเป็นคาถาที่มีพลานุภาพ!
หล่อนหาวปากกว้างแล้วพูดอีกว่า ตอนแรกว่าจะร่ายบทสนทนาของนูเบ มืออสูรล่าปิศาจ แต่ดันลืมซะก่อนน่ะ
เหวอ...ผมว่าผมกลับไปทำงานเป็นบรรณารักษ์ดีกว่ามั้ง...
ตั้งแต่วันที่ 26 มีนาคม - 6 เมษายน 2552
เวลา 10.00น. -21.00น.
ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์
สำนักพิมพ์สถาพรบุ๊คส์อยู่ที่บูธ Q40 โซนซี 2 (หนังสือทั่วไป, เด็ก, แบบเรียน, เก่า)
* รายการหนังสือ / ตารางนักเขียน / โปรโมชั่นในงานจะแจ้งให้ทราบอีกทีค่ะ
รายการหนังสือที่จะออกในงานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติครั้งที่ 37 มาแล้วจ้า
Aom
ผลงานอื่นๆ ของ อินากะ ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ อินากะ
"ผมคิดว่าเอาออกมาขายให้หมดเลย"
(แจ้งลบ)อยากอ่านจนลงแดงจาตายแว้ว เหอ ๆๆ เหลือ อีก 4 เล่มเอง สู้ ๆๆ อ่านเพิ่มเติม
อยากอ่านจนลงแดงจาตายแว้ว เหอ ๆๆ เหลือ อีก 4 เล่มเอง สู้ ๆๆ
ยอดคุง | 29 พ.ค. 52
17
0
"นครหลวงเงามายา"
(แจ้งลบ)ชอบเรื่องนี้มากค่ะ ภาคพิเศษของซูฉีทำให้อยากอ่านเรื่องของซูฉีด้วย อยากให้แปลเรื่องนี้นะคะ คือมันจะเป็นความสุขอย่าสุดซึ้งเลยประมาณนั้น อ่านเพิ่มเติม
ชอบเรื่องนี้มากค่ะ ภาคพิเศษของซูฉีทำให้อยากอ่านเรื่องของซูฉีด้วย อยากให้แปลเรื่องนี้นะคะ คือมันจะเป็นความสุขอย่าสุดซึ้งเลยประมาณนั้น
lazy_lochness | 3 ก.ย. 55
3
0
ความคิดเห็น