แก้ไขคำแปลใหม่แล้ว...ดีขึ้นหรือแย่กว่าเดิมหว่า
ก่อนอื่นมาทำความเข้าใจกันก่อนกับการแปลด้วยความมึนๆ คนอ่านเลยมึนตาม
Catalyst แปลตรงตัวคือ ตัวเร่งหรือตัวกระตุ้นให้เกิดการเปลี่ยนแปลงบางอย่าง ในทางเคมีมันก็คือตัวเร่งปฏิกิริยานั่นเอง
จากที่เราอ่านความคิดเห็นจากหลายๆที่ ส่วนใหญ่เห็นตรงกันคือ "The Catalyst" ก็ไม่ใช่ใครที่ไหนแต่เป็นพวกเราเหล่ามนุษย์ทั้งหลายนั่นแล มาถึงจุดนี้มีความคิดเห็นแตกเป็น 2 ประเด็นหลักคือ LP กำลังส่งสัญญาณเตือนว่าพวกเรากำลังเป็นตัวการที่เร่งให้โลกใบนี้เลวร้ายลง ส่วนอีกประเด็นคือ LP หวังจะเห็นการเปลี่ยนแปลงของโลกไปในทางที่ดีขึ้นโดยกระตุ้นให้พวกเราร่วมมือร่วมใจเร่งให้เกิดการเปลี่ยนแปลงนั้น มีบางคนบ้างก็ว่าเป็นเรื่องของสงคราม บ้างว่าเป็นเรื่องการกดขี่จากผู้มีอำนาจ เรื่องนิวเคลียร์ เรื่องนาซี เรื่องการปกครองโลกโดยรัฐบาลเดียว...oh, my god แต่ละคนจินตนาการบรรเจิดทั้งนั้น...ความจริงเป็นอย่างไรมีแต่ LP เท่านั้นที่รู้ อิๆ
ใครมีความคิดเห็นยังไงลองมา share กัน
Broken People คือพวกที่ชีวิตเจอแต่มรสุมและมีสภาพจิตใจที่ย่ำแย่ หรืออาจเป็นพวกที่ถูกกดขี่ข่มเหง รังแก จากผู้ที่มีอำนาจเหนือกว่าและไม่สามารถแข็งขืนต่อต้านได้ ถ้าเป็นในอินเดียก็อาจหมายถึงชนชั้นที่อยู่ในวรรณะต่ำสุด
Loaded gun แปลตรงตัวคือ ปืนที่บรรจุกระสุนพร้อมเหนี่ยวไกยิง จากความเห็นที่อ่านมา หลายคนว่ามันอาจเป็นสัญลักษณ์ของผู้ที่มีอำนาจอยู่ในมือ เช่น ทรราช รัฐบาล ทหาร ตำรวจ เจ้านาย
Bleed: ความหมายที่พอจะเทียบเคียงกับเนื้อเพลงได้ คือ แพร่กระจาย (to run together or be diffused), ซึมออกมา (to exude a fluid)
Blinding เจิดจ้ามากจนมองไม่เห็น
Cold โดยสิ้นเชิง ทั้งหมด ทั้งสิ้น
the fires of a thousand suns บางคนบอกว่าเป็นนิวเคลียร์ บ้างก็ว่านรก, เห็นด้วยไหม?
ที่มาของการตีความเนื้อเพลง
http://www.linkinpark.com/forum/topics/what-is-the-meaning-of-the
http://www.linkinpark.com/forum/topics/round-table-discussion-of-new?xg_source=activity
http://www.songmeanings.net/songs/view/3530822107858834558/
Note ยังไม่ค่อยเข้าใจอยู่ดีว่าคำพูดช่วงนี้มันเกียวโยงกันยังไง (ท่อนนี้ก็เห็นตีความต่างๆนาๆ แต่เราก็ยังเอ๋ออยู่)
'Like memories in cold decay
Transmissions echoing away
Far from the world of you and I
Where oceans bleed into the sky'
--------------------------------------------------
The CATALYST
Credit: Elzadel
God bless us everyone
ขอพระองค์โปรดคุ้มครองเรา
We're a broken people living under loaded gun
ผู้แสนเขลาและต้อยต่ำที่ต้องใช้ชีวิตใต้ไกปืน
And it can't be outfought
ซึ่งไม่อาจฝืนต่อกร
It can't be outdone
ไม่อาจบ่อนทำลาย
It can't outmatched
ไม่อาจได้ดีกว่า
It can't be outrun
ไม่อาจวิ่งตามทัน
No!
ไม่!
God bless us everyone
ขอพระองค์โปรดคุ้มครองเรา
We're a broken people living under loaded gun
ผู้แสนเขลาและต้อยต่ำที่ต้องใช้ชีวิตใต้ไกปืน
And it can't be outfought
ซึ่งไม่อาจฝืนต่อกร
It can't be outdone
ไม่อาจบ่อนทำลาย
It can't outmatched
ไม่อาจได้ดีกว่า
It can't be outrun
ไม่อาจวิ่งตามทัน
No!
ไม่!
And when I close my eyes tonight
และในคืนนี้ยามข้าหลับตา
To symphonies of blinding light
เพียงสบประสานแสงอันเจิดจ้า
God bless us everyone
ขอพระองค์โปรดคุ้มครองเรา
We're a broken people living under loaded gun
ผู้แสนเขลาและต้อยต่ำที่ต้องใช้ชีวิตใต้ไกปืน
Oooooh!
โอ้!
Like memories in cold decay
ดุจความทรงจำที่เสื่อมถอยสิ้น
Transmissions echoing away
ผ่านผินสะท้อนก้องกลับออกไป
Far from the world of you and I
เหินห่างไกลจากโลกของเรานี้
Where oceans bleed into the sky
ที่ซึ่งผืนน้ำผสานกับผืนฟ้า
(= horizon เส้นขอบฟ้า, ใช่ป่ะ?)
God save us everyone,
ขอพระองค์ช่วยเราด้วยเถิด
Will we burn inside the fires of a thousand suns?
เราจะมอดไหม้ด้วยเปลวเพลิงจากตะวันนับพันหรือ?
For the sins of our hand
เพื่อชดเชยบาปจากมือเรา
The sins of our tongue
บาปจากวาจาเรา
The sins of our father
บาปจากคนรุ่นก่อนเรา
The sins of our young
บาปจากคนรุ่นเรา
No!
ไม่!
God save us everyone,
ขอพระองค์ช่วยเราด้วยเถิด
Will we burn inside the fires of a thousand suns?
เราจะมอดไหม้ด้วยเปลวเพลิงจากตะวันนับพันหรือ?
For the sins of our hand
เพื่อชดเชยบาปจากมือเรา
The sins of our tongue
บาปจากวาจาเรา
The sins of our father
บาปจากคนรุ่นก่อนเรา
The sins of our young
บาปจากคนรุ่นเรา
No!
ไม่!
And when I close my eyes tonight
และในคืนนี้ยามข้าหลับตา
To symphonies of blinding light
เพียงสบประสานแสงอันเจิดจ้า
God save us everyone,
ขอพระองค์ช่วยเราด้วยเถิด
Will we burn inside the fires of a thousand suns?
เราจะมอดไหม้ด้วยเปลวเพลิงจากตะวันนับพันหรือ?
Oooooh!
โอ้!
Like memories in cold decay
ดุจความทรงจำที่เสื่อมถอยสิ้น
Transmissions echoing away
ผ่านผินสะท้อนก้องกลับออกไป
Far from the world of you and I
เหินห่างไกลจากโลกของเรานี้
Where oceans bleed into the sky
ที่ซึ่งผืนน้ำผสานกับผืนฟ้า
Like memories in cold decay
ดุจความทรงจำที่เสื่อมถอยสิ้น
Transmissions echoing away
ผ่านผินสะท้อนก้องกลับออกไป
Far from the world of you and I
เหินห่างไกลจากโลกของเรานี้
Where oceans bleed into the sky
ที่ซึ่งผืนน้ำผสานกับผืนฟ้า
Lift me up
ดึงข้าขึ้นไป
Let me go
ปล่อยข้าเถิด
(x10)
God bless us everyone
We're a broken people living under loaded gun
ผู้แสนเขลาและต้อยต่ำที่ต้องใช้ชีวิตใต้ไกปืน
And it can't be outfought
ซึ่งไม่อาจฝืนต่อกร
It can't be outdone
ไม่อาจบ่อนทำลาย
It can't outmatched
ไม่อาจได้ดีกว่า
It can't be outrun
(X3)
กลับห้อง Music Video
กลับห้อง A Thousand Suns Album
ความคิดเห็น
รอคอยจุดสิ้นสุด
This is not the end นี่ยังไม่ใช่จุดสิ้นสุด
This is not the beginning นี่ก็ไม่ใช่จุดเริ่มต้นด้วย
Just a voice like a riot เป็นเพียงแค่เสียงที่เหมือนกับเสียงที่สับสนวุ่นวาย
Rocking every revision ที่คิดทบทวนอย่างหนักถึงทุกเรื่อง
But you listen to the tone แต่คุณฟังเพียงแค่เสียง
And the violent rhythm และท่วงทำนองที่รุนแรง
Though the words sound steady แม้ว่าคำร้องจะเป็นคำพูดตรง มีความเด็ดเดี่ยว
Something emptys within em แต่มันมีบางอย่างที่ฟังดูแล้วเป็นคำพูดแบบหลักลอย ไม่มีแก่นสารใดๆ
We say yeah เราพูดว่าใช่
With fists fly up in the air ในขณะที่กำลังชูกำปั้นอยู่เหนือหัว
Like were holding onto something เป็นเหมือนกับว่าเรากำลังยึดถืออะไรบางอย่างอยู่
Thats invisible there สิ่งซึ่งมองไม่เห็นด้วยตาเปล่า
Cuz were livin at the mercy เพราะว่าเรากำลังอาศัยอยู่ในความเมตตากรุณา
Of the pain and the fear ที่มาจากความเจ็บปวดและความกลัว
Until we dead it จนกว่าเราจะตาย
Forget it ลืมไปซะ
Let it all disappear ปล่อยให้มันหายไปให้หมด
Waiting for the end to come รอคอยจนกว่าวันแห่งการจบสิ้นนั้นจะมาถึง
Wishing I had strengh to stand ฉันหวังว่าฉันจะมีพลังที่จะลุกยืน
This is not what I had planned สิ่งนี้ไม่ใช่สิ่งที่ฉันวางแผนไว้ล่วงหน้า
Its out of my control มันอยู่เหนือการควบคุมของฉัน
Flying at the speed of light ความคิดที่เปลี่ยนไปเปลี่ยนมาอย่างรวดเร็วมากเปรียบเหมือนกับความเร็วของแสง
Thoughts were spinning in my head ตวามคิดต่างๆ หมุนเวียนอยู่ในหัวสมองของฉัน
So many things were left unsaid มีหลายสิ่งหลายอย่างที่ยังค้างคาใจอยู่ (ยังไม่ได้พูดให้จบ)
Its hard to let you go เป็นการยากเหลือเกินที่จะยอมปล่อยให้คุณจากไป
I know what it takes to move on ฉันรู้ว่ามันจะเป็นอย่างไรบ้างหากต้องมีชีวิตอยู่ต่อไป
I know how it feels to lie ฉันรู้จะต้องรู้สึกอย่างไรหากต้องโกหก
All I wanna do สิ่งที่ฉันต้องการทำ
Is trade this life for something new คือการยอมแลกชีวิตนี้กับบางสิ่งบางอย่างใหม่ๆ
Holding on to what I havent got ยืดกับสิ่งที่ฉันยังไม่เคยมี
Sitting in an empty room นั่งอยู่ในห้องว่าง คนเดียว
Trying to forget the past พยายามลืมอดีต
This was never meant to last สิ่งนี้คงจะไม่อยู่ตลอดไป
I wish it wasnt so ฉันหวังว่ามันคงไม่อยู่ตลอดไป
I know what it takes to move on ฉันรู้ว่าจะเป็นเช่นไรหากต้องมีชีวิตอยู่ต่อไป
I know how it feels to lie ฉันรู้ว่าจะรู้สึกอย่างไรหากต้องโกหก
All I wanna do สิ่งที่ฉันต้องการทำ
Is trade this life for something new คือการยอมแลกชีวิตนี้กับบางสิ่งบางอย่างใหม่ๆ
Holding on to what I havent got ยืดกับสิ่งที่ฉันยังไม่เคยมี
What was left อะไรจะยังคงเหลืออยู่
When that fire was gone เมื่อไฟได้ดับลงไปแล้ว
I thought it felt alright ฉันคิดว่าคงไม่รู้สึกอะไรหรือไม่เป็นไร
But that right was wrong แต่ที่คิดว่าไม่รู้สึกหรือไม่เป้นไรน่ะผิดถนัด
All caught up in the eye of the storm สิ่งที่อยู่ตรงหน้าฉันคือพายุหนัก
And trying to figure out และฉันก็พยายามคิดหาหนทาง
What its like moving on ว่าจะต้องเป็นเช่นไรหรือจะดำรงชีวิตอยู่ต่อไปอย่างไร
And I dont even know และฉันก็ไม่รู้แม้แต่ว่า
What kind of things I said มีอะไรบ้างที่ฉันได้พูดออกไป
My mouth kept moving ปากของฉันพร่ำพูดไม่หยุด
And my mind went dead แต่ใจของฉันมันหยุดหรือตายไปแล้ว
Picking up the pieces เมื่อคิดทบทวนถึงสิ่งต่างๆ เรื่องราวในอดีตแต่ละเรื่อง
Now where to begin ตอนนี้ จะเริ่มจากตรงไหนดี
The hardest part of ending ส่วนที่ยากที่สุดคือตอบจบ
Is starting again ที่กำลังเริ่มต้นอีกครั้ง
All I wanna do สิ่งที่ฉันต้องการทำ
Is trade this life for something new คือการยอมแลกชีวิตนี้กับบางสิ่งบางอย่างใหม่ๆ
Holding on to what I havent got ยืดกับสิ่งที่ฉันยังไม่เคยมี
This is not the end นี่ยังไม่ใช่จุดสิ้นสุด
This is not the beginning นี่ก็ไม่ใช่จุดเริ่มต้นด้วย
Just a voice like a riot เป็นเพียงแค่เสียงที่เหมือนกับเสียงที่สับสนวุ่นวาย
Rocking every revision ที่คิดทบทวนอย่างหนักถึงทุกเรื่อง
But you listen to the tone แต่คุณฟังเพียงแค่เสียง
(Im holding on to what I havent got - ฉันกำลังยึดติดกับสิ่งที่ฉันยังไม่เคยมี)
And the violent rhythm และท่วงทำนองที่รุนแรง
Though the words sound steady แม้ว่าคำร้องจะเป็นคำพูดตรง มีความเด็ดเดี่ยว
Something emptys within em แต่มันมีบางอย่างที่ฟังดูแล้วเป็นคำพูดแบบหลักลอย ไม่มีแก่นสารใดๆ
We say yeah เราพูดว่าใช่
With fists fly up in the air ในขณะที่กำลังชูกำปั้นอยู่เหนือหัว
Like were holding onto something เป็นเหมือนกับว่าเรากำลังยึดถืออะไรบางอย่างอยู่
Thats invisible there สิ่งซึ่งมองไม่เห็นด้วยตาเปล่า
Cuz were livin at the mercy เพราะว่าเรากำลังอาศัยอยู่ในความเมตตากรุณา
(Im holding on to what I havent got - ฉันกำลังยึดติดกับสิ่งที่ฉันยังไม่เคยมี)
Of the pain and the fear ที่มาจากความเจ็บปวดและความกลัว
Until we dead it จนกว่าเราจะตาย
Forget it ลืมไปซะ
Let it all disappear ปล่อยให้มันหายไปให้หมด
http://my.dek-d.com/elzadan/blog/?blog_id=10115063
ดุจความทรงจำในความเสื่อมโทรมที่แสนเย็นชา
Transmissions echoing away
และส่งผ่านสะท้อนก้องออกไป
Far from the world of you and I
ไกลจากตัวของพวกเรา
Where oceans bleed into the sky
ณ ที่ผืนน้ำมหาสมุทรเลือดไหลท่วมถึงผืนฟ้า
สูทั่นแปลกันตรงตัวมั่กมาก ^_^ สรุปแล้ว ท่อนนี้เค้าต้องการบอกอะไรอ่ะ?
(ฟังมาตั้งนานเพิ่งจะนึกอยากรู้คำแปลเอาตอนนี้ = = )
LPฮะ
แฟนเพลงหลายคนรอฟังเพลงของคุณอยู่ๆ
รีบๆปั่นผลงานออกมานะฮะๆๆๆ
55+