ปีนี้น้ำท่วมหนัก หลายๆพื้นที่เดือดร้อนกันทั่วหน้า โดยเฉพาะนครสวรรค์และอยุธยา...อ่วม แทบจะจมบาดาลกันยกเมือง เราอยู่กรุงเทพชั้นในไม่เจอน้ำท่วมเพราะที่อื่นรับเคราะห์แทนก็คิดทำตัวให้มีประโยชน์บ้าง ซึ่งนอกจากบริจาคเงินและสิ่งของแล้ว เมื่อวานนี้ 15 ตุลา ก็อาสาไปช่วยแจกของให้ผู้ประสบภัยน้ำท่วม ซึ่งเพื่อนที่เป็นผู้นำทีมเค้าก็ไปแจกหลายที่มาแล้วมาเที่ยวนี้ก็เลือกไปที่ผักไห่ อยุธยา
เริ่มออกเดินทางกันตอนแปดโมงกว่าด้วยขบวน 7 คันรถ รถคันอื่นๆเค้าโฟร์วีล ออฟโรด กันหมด แต่คันที่เรานั่งหาญกล้าเป็นเก๋ง ออนโรด คันเดียว เหอๆ ก๊อ รถอื่นๆใส่ของบริจาคซะล้นปรี่แทบจะทะลักคันรถ คนเกือบจะต้องนั่งหลังคารถไปแระ แต่ได้ยินว่าถนนที่ไป...แห้งกิ๊ก เก๋งไปได้ซำบายๆ อ่า...เพื่อนเราคนนึงก็อาสาสละเก๋งพาคนที่เหลือไป ระหว่างทางก็...อ้าว มีน้ำล้นถนนเป็นระยะๆ ลุ้นๆ...ผ่านไปได้ด้วยดี ขับต่อไป น้ำไม่ท่วมถนน แต่หลุมอื้อ เกร็งกันทั้งคันรถ ลุ้นกันตัวแทบโก่ง อ๊ะ ระวัง! นั่นหลุมอุกกาบาต นี่หลุมนรกกกก เฮ่ย! มองซ้าย พ้นมั๊ยๆ แล้วมองขวา อ่า หวุดหวิดๆ ยังไม่พอๆ แล้วยังเจอรถที่ขับสวนมา น้ำกระจายสาดดด คนไม่เปียกแต่เหม็นเน่าทั้งคัน...เจอน้ำเน่าอ่ะ และแล้วในที่สุดก็มาถึงอยุธยาอย่างสวัสดิภาพทั้งคนและรถ
สามล้อเครื่องหนีน้ำ เห็นตอนระหว่างทางที่อยุธยา แว่บแรกนึกถึงตั๊กแตน ขอเรียกตั๊กแตนเครื่องรึกัน หุๆ (จิ๊กรูปนี้จากใครไม่รู้ thanks ก่อนรึกัน)
ตอนจะเอาของบริจาคไปแจก ก็ต้องนั่งเรือไป ช่วงที่รอเรือ ได้ยินชาวบ้านแถวนั้นพูดถึงไอ้เข้ที่เห็นกันเมื่อวาน แถมยังว่าถ้าเรือล่มก็เสร็จกัน อ้าว...ไอ้คนนั่งรอเรืออย่างเราก็ชักเสียวๆ ทำมะมาพูดให้เราได้ยินด้วยฟระ ยิ่งปอดๆอยู่ และแล้วเรือก็มา เป็นเรือท้องแบนทำจากไฟเบอร์กลาส สีแดงแจ๊ดๆ เรารีบสวมเสื้อชูชีพอันดับแรก ใครจะว่าไอ้ปอดแหกก็เต๊อะ...ม่ายสน ระหว่างล่องเรือไป เราก็เห็นภาพ...ไม่รู้บรรยายยังไงดี นึกว่าบึงบอระเพ็ด ทะเลสาบเรียกพี่ ชาวบ้านอยู่กันได้อย่างไรหนอ นึกถึงตัวเองที่อยู่สุขสบายที่กรุงเทพ ก็ชักละอายใจ...เฮ้อ
น้ำท่วมมิด มีแต่น้ำไกลสุดลูกหูลูกตา
เรือพามายังเกาะกลางหมู่บ้าน ซึ่งเป็นที่แห่งเดียวที่น้ำยังไม่ท่วมถึง เห็นมีชาวบ้านจำนวนหนึ่งมารอรับบริจาคแล้ว
คุณยายก็มารับของบริจาคด้วย
พอของบริจาคมาถึงชาวบ้านก็ช่วยกันขนของขึ้นมา ช่วยกันคนละไม้ละมือ ทั้งเด็กทั้งผู้ใหญ่ ทั้งหนุ่มทั้งแก่ เดินกันเป็นสาย ดูแล้วรู้สึกดี
คนไทยไม่แล้งน้ำใจ ของบริจาคอื้อ
แล้วชาวบ้านยังมีน้ำใจทำกล้วยทอดร้อนๆเอามาให้ด้วย เป็นกล้วยทอดที่อร่อยที่สุดในโลกเพราะเต็มล้นไปด้วยน้ำใจทั้งๆที่ตัวเองก็ประสบภัยแทบแย่
กล้วยทอดรวยน้ำใจ
หลังจากส่งมอบของให้ผู้ใหญ่บ้านพร้อมชาวบ้านที่เป็นสักขีพยานเสร็จสรรพ พวกเราก็นั่งเรือกลับขึ้นฝั่ง
ขากลับไม่มีเสื้อชูชีพให้ มะเข้าจาย...ไอ่ตอนมีชูชีพนี่ เดินทางราบรื่นดีแท้ แต่พอไม่มีให้ใส่ดันมีเรื่องระทึก มะช่ายไอ้เข้ที่ไหน แต่เป็นลูกคลื่นจากเรือลำอื่นที่ทำเรือที่นั่งมาน้ำเข้า ด้วยความกลัวตายสุดฤทธิ์เพราะว่ายน้ำไม่เป็น เรารีบตะครุบโฟมหัดว่ายน้ำที่สะเหร่อเอามาคนเดียวเอามากอดหนึบยิ่งกว่าตุ๊กแกเกาะข้างฝา ดีที่วิดน้ำออกได้ทัน เรือหวิดล่มซะแระ ไอ้เข้เลยอดเขมือบเนื้อตรู 555
ตอนระหว่างทางที่นั่งเรือนี่ คนขับที่เป็นชาวบ้านแถวนั้นก็เล่าว่าที่นี่ท่วมทุกปี แล้วแต่จะมากหรือน้อย แต่ปีนี้ท่วมมากแถมน้ำยังมาเร็วกว่าปีที่ผ่านๆมา ทำให้หลายคนเก็บเกี่ยวพืชผลทางการเกษตรกันไม่ค่อยทัน ชาวบ้านหลายครอบครัวที่น้ำท่วมมิดหลังคาก็ต้องพากันไปนอนริมถนนที่น้ำยังท่วมไม่ถึง แล้วพอพูดถึงของบริจาคก็มีที่โยนมาให้จาก ฮ. ของตกกระแทกน้ำอย่างแร๊งงง เลยแตกกระจายเกลื่อน เสียหายก็แยะ คราวหน้าสงกะสัยต้องผูกร่มชูชีพมาด้วยละมั๊ง เหอๆ...เฮ่อ!
พวกเรายกขบวนกลับกรุงเทพตอนสี่โมงกว่า ขากลับเปลี่ยนเส้นทางไปเข้าทางนนทบุรี แต่เจอฝนตกน้ำท่วมรถติดแหง็ก เลยเปลี่ยนเป็นอ้อมเข้าทางนครปฐมแทน แต่ก็ไม่พ้นรถติดเช่นกัน เพราะเจอน้ำท่วมขังและรถคันอื่นจอดเสียเป็นระยะๆ กว่าจะกลับถึงบ้านได้ก็เล่นเอาตอนสามทุ่มกว่า ปวเดเมื่อยและเหนื่ยสุโค่ย แต่งานนี้สุขใจโคตรๆ...
ใครที่ยังไม่ได้ช่วย ก็น่าจะลงมือได้ละ ช่วยกันคนละนิด แม้ไม่อาจลดความโหดร้ายของกระแสน้ำได้ แต่อาจลดความลำบากของเพื่อนร่วมชาติได้บ้างไม่มากก็น้อยหล่ะนะ เอ้า! ช่วยๆกันเร้วววว จบละ!
ความคิดเห็น
ดีใจที่ยังมีคนแบบนายและทีมให้เห็นอยู่ในสังคมบางกอก
แต่ที่น่าเศร้า คืิิอ อัตราส่วนของคนที่เดือดร้อนกับคนที่ไม่เดือดร้อนหรือไม่เจอเหตุน้ำท่วมนั้นมันมากมายคิดเป็น 80 ต่อ ยี่สิบเปอร์เซ็นต์เลย 80 คือ คนเดือดร้อน ส่วน 20 คือ คนที่ไม่เดือดร้อน น่าเห็นใจและเป็นห่วงมาก ว่าพวกที่อยู่ไกล ๆ จะได้รับการดูแลอย่างทั่วถึงมั้ยน้อ เพราะทางขาดก็ไปช่วยกันไม่ได้ ดีใจที่นายและคณะปลอดภัยกลับมา คนดีผีคุ้มอยู่ละ เคยได้ยินมั้ย
ปรบมือให้คนทำความดีจ้ะ