ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    {EXO} NEVER :Chanbaek Ft.EXO

    ลำดับตอนที่ #14 : CB:14

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 691
      10
      13 พ.ค. 59






           "มึงแม่งเหี้ยว่ะแบค"อยู่ดีๆเสียงที่คุ้นเคยก็ออกมาจากปากของคนที่คุ้นตาแต่มันกับไม่ใช่เสียงของคนที่ผมคุยด้วยเมื่อกี้แต่กลับกลายเป็นเสียงคนที่ผมนอนอยู่ด้วยทุกวัน และนั้นทำให้ผมตกใจมากจนไม่รู้จะพูดอะไรออกไปบวกกับการที่ผมเป็นคนที่ไม่ชอบอธิบายอะไรอยู่แล้วด้วยยิ่งทำให้เรื่องนี้ชักจะไปกันใหญ่
           "ชานยอล..."เสียงพรึมพรำชื่อของคนมาใหม่ออกมาจากปากของคู่สนทนาของผมเมื่อกี้
           "ไม่คิดจะอธิบายเลยหรอ หึ! กูแม่งโง่ว่ะมึงว่ามั๊ยกูก็รู้นะเว้ยว่ามึงเหี้ยแต่กูก็ไม่คิดว่ามึงจะเหี้ยได้ขนาดนี้ ถ้ากูเดาไม่ผิดมึงคงจะพนันไว้กับไอ้เทาอย่างที่มึงชอบทำล่ะสิถึงกับต้องยอมเสียตัวเลยหรอวะกับไอ้เกมส์พนันบ้าๆบอๆเนี้ย มึงช่วยพูดอะไรหน่อยได้มั๊ยวะ ห้ะ!!"สิ่งที่เขาพูดก็ไม่ผิดไปเลยแต่ก็ใช่ว่าจะถูกหมด เขามองผมแบบที่ผมไม่เคยได้รับมาก่อนไม่ใช่สายตาที่ดุดันเสียใจหรืออะไรก็แล้วแต่เพราะที่ผมสัมผัสได้ก็มีแต่สายตาที่ว่างเปล่าไร้ความรู้สึกจนผมเริ่มหวั่นเกรงกับสายตาที่เขาใช้มองผมตอนนี้มันทำให้ผมตัวชาไปหมดทุกส่วนของร่างกายไม่เว้นแม้กระทั่งก้อนเนื้อตรงหน้าอกด้านซ้ายที่เขาเรียกกันว่าหัวใจ
           "..."
           "หึ ไม่น่าเลยกู"ผมไม่ได้พูดอะไรออกไป เขาจึงกลายเป็นฝ่ายพูดแทนแต่พอจบประโยคร่างสูงก็วิ่งออกจากยิมไปทันที 
           อะไรกันทำไมผมไม่พูดอะไรออกไปเลยล่ะผมไม่เคยเกลียดนิสัยของตัวเองเลยจริงๆแต่นี่ชานยอลเป็นใครกันทำไมเขาถึงทำให้ผมรู้สึกแบบนี้ได้ เกลียดที่ตัวผมเองไม่ค่อยชอบอธิบายอะไร เกลียดที่ชอบเล่นเกมส์กับความรู้สึกคนอื่น เกลียดที่ไม่เคยแคร์ใครเลยนอกจากตัวเอง ให้ตายสิระหว่างที่เราสองคนอยู่ด้วยกันเขาทำบ้าอะไรกับตัวผมไปกันแน่วะ





             ด้านชานยอล

           ผมที่พรุนพลันวิ่งออกมาจากยิมหลังจากที่ได้ยินเรื่องบ้าๆนั้นตอนนี้ก็กำลังงงกับตัวเองอยู่เหมือนกันว่าจะไปที่ไหนดี แต่จะว่าไปนึกถึงเรื่องที่ไปได้ยินเรื่องบัดซบนั้นขึ้นมาก็พาลทำให้ร่างกายชาวาบไปจนน่าใจหายอย่างบอกไม่ถูกที่รู้ๆคือมันเลยคำว่าเสียใจไปแล้วแน่นอน เห้อใครรู้วิธีการแก้ปัญหานี้ช่วยผมด้วยทีเถอะ จะบ้าตายแล้วนะคับ 
           ผมที่ขับรถมาเรื่อยๆก็คงหนีไม่พ้นบ้านพักตากอากาศที่ผมชื่นชอบไม่ได้หรอกนะโดยเฉพาะเวลาที่ผมมีเรื่องทุกข์ใจขนาดนี้อยู่ด้วย พอจอดรถเสร็จผมก็รีบเดินลงมาจากรถและตรงดิ่งไปประจำที่ที่ผมชอบที่สุดในการมาสถานที่แห่งนี้ก็คืออู่เปนอนที่ผูกไว้ตรงกลางระหว่างต้นมะพร้าวสองต้นกลางธรรมชาติมองไปก็จะเห็นทะเลสีฟ้าใสที่ผมโปรดปรานผมเป็นคนชอบสีฟ้าคับ ทะเลเลยกลายเป็นที่ที่ผมชอบที่สุดเห็นแล้วนึกย้อนไปถึงสมัยเด็กๆเสมอเห็นแล้วรู้สึกโล่งใจอย่างบอกไม่ถูก ทำให้ผมลืมเรื่องแย่ๆไปได้ชั่วขณะ แต่น่าแปลกที่ครั้งนี้ไม่เหมือนทุกครั้งไม่ว่าผมจะฟังเพลงและมองดูทะเลไปด้วยแต่ก็ยังสลัดเรื่องของแบคฮยอนออกไปจากหัวไม่ได้เลยสักนิด 
           ไม่รู้ว่าทำไมร่างบางต้องเข้ามาอยู่ในหัวผมได้ขนาดนี้เข้ามาทำให้ระบบความคิดตีรวนกันไปหมดจนหัวสมองของผมจะแตก ตอนนี้ผมสับสนไปหมดไม่รู้ว่าที่ผ่านมานั้นมันมีเรื่องไหนเป็นเรื่องจริงบ้าง ที่แบคฮยอนทำมาทั้งหมดมันเป็นแค่การแสดงเฉยๆใช่มั๊ยหรือยังไงและผมก็ไม่รู้ว่าต้องทำตัวยังไงต่อเพราะเราสองคนไม่ใช่แฟนกันที่พอมีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นแล้วทำแบบแค่ต่างคนต่างอยู่ เราเป็นมากกว่านั้นไงมันติดแค่ตรงนี้นี่แหละที่ทำให้ผมแทบบ้า
           ไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานเท่าไหร่แล้วที่ผมนั่งฟังเสียงคลื่นทะเลกระทบกับพื้นทรายจนทำให้เกิดเสียงดังติดกันอย่างไม่ขาดสาย ทุกๆอย่างที่นี้เงียบสงบจนทำให้เกิดอาการเหงาขึ้นมาได้ในทันที ผมจมไปกับห้วงความคิดอย่างจริงจังคิดทบทวนแล้วทบทวนเล่าก็ยังไม่ได้คำตอบหรือทางแก้ปัญหาที่ดีเลยสักนิด
           พอลองมองย้อนกลับไปนึกถึงช่วงเวลาที่เราอยู่ด้วยกันผมก็อดที่จะคิดไม่ได้ว่าร่างบางนั้นแสดงละครตบตาผมทั้งหมดเลยหรอ เคยมีสักครั้งมั๊ยที่เป็นของจริงและผมก็คงภาวนาให้ทั้งหมดมันมีเรื่องจริงบ้างเถอะที่เขาทำมันออกมาจากใจจริงไม่ใช่เพียงแค่การแสดงเพื่อที่อยากจะชนะพนันเท่านั้น







           ด้านแบคฮยอน


           พวกคุณคิดว่าตอนนี้ผมอยู่ที่ไหนกัน แท่นแท้นนน ที่คอนโดไงคับ กลับมาทำไมหน่ะหรออืมมย้ายของออกไง หราาา นั้นก็มีแต่ในละครน้ำเน่าอีกนั้นแหละผมก็ต้องกลับมาที่พักอาศัยสิคับไม่งั้นผมจะนอนไหนล่ะเอ้อออ คือที่เฮฮามาทั้งหมดนี่ใช่ไรนะก็ไม่อยากให้ทุกคนเครียดไงแต่ก็ใช่ว่าผมจะไม่เครียดนะคับ
           แต่ผมไม่คิดเลยจริงๆว่าวันนี้มันจะมาถึงได้เร็วขนาดนี้จนผมตั้งตัวไม่ทัน ผมเคยคิดว่าความจริงทั้งหมดร่างสูงจะเป็นคนรู้เรื่องนี้จากปากของผมเองไม่ใช่การมาบังเอิญได้ยินอย่างนี้ คิดว่าจะมีแต่ในละครน้ำเน่าซะอีกแล้วไหงมันดันมาเกิดขึ้นกับผมอีก วายวอดมากคับ แต่ผมไม่ใช่คนที่จะหนีปัญหาไงเลยต้องกลับมาเผชิญหน้ากับมัน 
           ตอนที่เข้ามาในห้องแล้วไม่พบแม้แต่เงาของร่างสูงนั้นมันทำให้ใจของผมมันรู้สึกเหลวเปลวยังไงไม่รู้ ท้องน้อยมวนไปหมดเพราะเกิดจากอาการเครียดจัดก็บอกแล้วไงคับว่าใช่ว่าผมจะไม่เครียดผมเครียดจนโรคที่ห่างหายไปนานกลับมาอีกครั้งเลยคับ 
           ผมเดินวนไปทั่วห้องอย่างหวังว่าจะเจอร่างสูงสักที่ แต่ยิ่งเดินผ่านภาพเก่าๆที่ผมกับเขาใช้เวลาร่วมกันก็เด่นฉายออกมาในความคิดอย่างห้ามไม่ได้ ในหัวมีแต่ภาพของร่างสูงที่กำลังนั่งดูทีวีรายการโปรดหนังที่เขาชื่นชอบและมักที่จะเรียกผมไปดูด้วยเสมอจนผมเสพติดการดูหนัง โต๊ะกินข้าวที่เต็มไปด้วยกล่องคอนเฟร็กรสธรรมดาอย่างที่เจ้าตัวชอบกินทุกเช้ากับนมจืดที่ไม่เคยเปลี่ยนยี่ห้อเลยสักครั้ง ห้องน้ำที่เขาชอบดึงผมเข้าไปด้วยเสมอเมื่อหนวดเคราของเขาหรือผมเริ่มยาวก็ต้องผลัดกันโกนให้อีกคน เตียงที่จะต้องเต็มไปด้วยร่างของเราทั้งสองคนนอนเบียดเสียดหาไออุ่นของกันและกันแทบทุกคืนตื่นมาปลุกกันไปอาบน้ำอยู่เรื่อยๆ แต่มาวันนี้ทุกอย่างกลับว่างเปล่าไปหมดจนน่าใจหาย ทุกอย่างที่มันควรจะเกิดขึ้นอีกครั้งไปเรื่อยๆแต่ดันถูกผมพังไปเพราะความเกลียดการพ่ายแพ้ทุกชนิดไม่ว่าจะเรื่องอะไรของผมเอง
           ความจริงผมก็ไม่รู้ว่าความรู้สึกนี้มันคืออะไรเกิดขึ้นได้ยังไง ความรู้สึกหน่วงที่ใจโหวงเหวงอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อนได้แต่คิดเข้าข้างตัวเองว่าอาจเป็นเพราะเคยชินกับร่างสูงไปแล้วความรู้สึกนี้จึงเกิดขึ้นแบบไม่ได้ตั้งใจ



           Rrrrr Rrrrrr
       
           ผมที่ตื่นมาเพราะเสียงแผดร้องของมือถือเครื่องสวยที่วางเอาไว้บนโต๊ะข้างหัวเตียงอย่างที่ชอบทำ ไม่รู้ตัวเลยด้วยซ้ำว่าตัวเองเผลอหลับไปตั้งแต่เมื่อไหร่ สายตาของผมไล่กวาดมองดูรอบห้องนอนที่คุ้นเคยแต่ก็ต้องทำหน้าผิดหวังไปเมื่อไม่เจอคนที่ตัวเองอยากเจอ...
           (ช้าาาา!!!)โดยไม่รอให้ผมได้พูดอะไรออกไปก็มีเสียงตะคอกมาซะก่อน หมอนี่มันเป็นใครกัน
           "ใคร.."คับ เสียงข้างหลังขาดห้วงไปเฉียบพลันมันบ่งบอกถึงการขาดน้ำเป็นเวลาหลายชั่วโมงแล้วแน่นอน ให้ตายสิผมไม่ได้กินอะไรเลยตั้งแต่ออกไปมอมันก็คงไม่แปลกหรอกมั้งที่เสียงจะเป็นงี้อ่ะ 
           (ช่วยดูโทรศัพท์ก่อนจะรับบ้างเหอะแบค)
           "ขี้เกียจ แล้วมีไรคับ"ผมไม่ได้เอาออกมาดูอย่างที่คนปลายสายบอกเพราะเป็นอย่างที่ปากพูดอยู่จริง
           (ไอจะให้มาแดกเหล้าเนี้ย)อะไรกันยังไม่รู้เลยว่าเป็นใคร อยู่ดีๆชวนไปแดกเหล้าซะงั้น
           "ไม่ไป"ผมตอบพรางฟุบหัวลงบนหมอนทำให้เสียงที่พูดออกไปกลายเป็นเสียงที่ดังอู้อี้แสดงออกเลยว่าขี้เกียจเต็มประดา คนบ้าอะไรชวนกะทันหันได้ขนาดนี้นี่กลางดึกนะคับคุณณ
           (ที่ไอพูดไปนี่เหมือนประโยคขอร้องยูมากมั้งไอ่สัส ไอบอกให้มาก็มาดิลีลาหาพ่อง)อ่าวไอ้นี่ เผด็จการชะมัด
           "ไม่อยากไปเลย งื้อออ"ผมบ่นออกมาอย่างอดไม่ได้
           (แบคไออุตส่ากลับมาจากชิคาโก้นะ จะไม่มาเจอกันหน่อยหรอ)จบประโยคตาผมก็เบิกโพลงโตอย่างลืมไปเลยว่าเคยง่วง 
           ไอหรอ ชิคาโก้งั้นหรอ ก็มีแต่หมอนั้นเท่านั้นแหละ






           หลังจากที่ผมวางสายจากคนที่พึ่งกลับมาจากชิคาโก้ก็รีบลุกขึ้นอาบน้ำแต่งตัวและรีบบึ่งรถมาที่ที่เรานัดหมายกันไว้ทันที รีบไม่รีบก็คิดดูดิตอนนี้ผมเดินเข้ามาในร้านหรูที่เต็มไปด้วยแสงสีเสียงเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เท้าก้าวไปเรื่อยๆอย่างไร้จุดหมาย เหอะถึงมันจะเป็นร้านหรูก็เถอะแต่มันก็ไม่มีห้องวีไอพีเหมือนที่ที่ผมชอบไปประจำมันเลยทำให้ผมรำบากเดินหาคนที่นัดไว้อย่างไม่รู้จุดแล้วใช่ว่าร้านนี้จะเล็กคนจะน้อยซะที่ไหนล่ะ แหม เดินไปก็เบียดกันไปถูๆไถๆอยู่นั้นแหละแล้วอุปสรรคการตามหาคนมันก็ไม่ได้มีแค่นี้ด้วยไง ยังมีอีกมากมายทั้งผู้หญิงเดินมากระแซะเดินมาชนผมเดินมาชนแก้วบ้างทั้งๆที่ผมก็ไม่ได้มีแก้วอยู่ในมือนะ บ้างก็เดินมาพาไปที่โต๊ะนู้นโต๊ะนี้บ้างชวนกินอยู่นั้นแหละเหล้าเนี้ยจะเมาก่อนไปถึงโต๊ะของคนที่นัดไว้แล้วเนี้ยย พีคสุดคือมันไม่ได้มีแต่ผู้หญิงไงผู้ชายก็มีเว้ยย แบ่บเดินมามุขเดียวกับผู้หญิงทั้งนั้นทั้งเมะทั้งเคะปนกันไปหมด ผมว่าผมก็ไม่เคยมาที่นี้นะแต่กับตอนเดินมามีแต่คนทักบางคนเขาก็รู้จักชื่อผมบางคนก็ไม่จนผมเริ่มคิดว่ามันน่าอึดอัดเกินไปล่ะ อ้ะผมหันไปมองที่แขนของตัวเองเมื่อรู้สึกได้ว่าแขนของผมถูกรั้งให้เดินตามร่างสูงนั้นไป
           "ยู!"ผมเรียกฉุดข้อมือบางของผมให้เดินตามมาจนถึงโต๊ะที่เขาจองไว้
           "ยูช้ามากเลยนะ ไอรอจนรากงอกหมดล่ะ"ร่างสูงตรงหน้าทรุดตัวลงนั่งที่โซฟาตัวนิ่มพร้อมกับดึงข้อมมือของผมให้นั่งลงตามตรงที่ข้างๆ
           "ไหนอ่ะ ไอไม่เห็นเห็นเลย"ผมทำท่าก้มลงมองซ้ายขวาหน้าหลังอย่างยียวน
           "ดูเหมือนยูจะอยากแดกตีนแทนเหล้านะแบค"ร่างสูงที่มีรูปร่างที่ซังนัมจาแบบสุดๆเอ่ยขึ้นเสียงเรียบแต่ทำคิ้วเลิกขึ้นข้างนึง ไอ่สัสมึงไม่กวนตีนเลยมั้ง
           "เหมือนว่ายูก็คงอยากแดกด้วย"ผมกวนตีนกลับไปอย่างไม่ยอมกัน
           "เห้อยูนี่น้าา กวนตีนไม่เปลี่ยนไปเลยจริงๆ"ร่างสูงรูปร่างดีบ่นออกมาเล็กน้อยเสร็จก็กระดกแก้วที่มีน้ำสีอำพันเข้าปากรวดเดียวหมดทันที จะรีบอะไรขนาดนั้น
           "ยูกลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่"ผมถามสิ่งที่ค้างคาใจออกไป
           "เมื่อเช้า นอนเอาแรงเสร็จก็อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วก็มาที่นี้เลยไง"ยังคงเป็นคนที่พูดยาวเหมือนเดิมสินะ
           "แล้วแรงมากมั๊ย เอาหน่ะ"ผมถามออกไปเสียงเรียบและเหยียดยิ้มเล็กน้อย
           "ก็พอได้อยู่นะ ยูจะลองป้ะล่ะ?"ไม่น่าเลยกู ร่างสูงจากชิคาโก้หันหน้ามาสบตาของผมนิ่งราวกับว่าเรื่องที่พูดนั้นจริงจังทั้งๆที่ฟังยังไงมันก็เป็นแค่มุขตลก
           "ยูดูเปลี่ยนไปนะ"สายตาของเขาดูเปลี่ยนไปจนทำให้ผมรู้สึกได้
           "อะไรล่ะหื้ม ที่เปลี่ยน"ทำไมเขาต้องทำเสียงนุ่มหูอย่างนั้นขึ้นมาด้วย
           "สายตา"ผมตอบออกไปสั้นๆตามความจริงที่คิดไว้
           "ฮ้ะๆๆๆ แค่นั้นเองหรอแต่ไอว่ายูเปลี่ยนไปเยอะมากกว่า"เขาแค้นหัวเราะออกมาน้อยๆแต่ผมก็ต้องสะดุดกับประโยคหลังของเขา
           "ยังไง"ถามสั้นๆแต่มันก็ได้ใจความอยู่ดี
           "ยูหน่ะเปลี่ยนไปหมดเลยนะ ตั้งแต่สายตาทรงผมหุ่นสีผิวที่ขาวขึ้นใบหน้าที่น่ามองมากขึ้นส่วนสูง ยูเปลี่ยนไปหมดแม้กระทั้งเปลี่ยนไปเป็นของคนอื่น"เราสบตากันนิ่งอยู่อย่างนั้นสายตาของแต่ล่ะคนก็ต่างจ้องลึกลงไปอย่างรู็สึกได้
           "ยูรู้หรอว่า.."
           "ทำไมไอจะไม่รู้ ถึงไอจะอยู่ไกลแต่ก็ยังอยากรู้เรื่องของอดีตคู่หมั้นของไออยู่นะ"
           

           




                  


                     เรื่องนี้มันชักจะวุ่นวายไปหมดแล้วนะเราว่า555555 ยังไงฟิคมันก็คือชานแบคค่ะ อิอิ
                       งุยยย ไม่ได้มาอัพตั้งนานแล้วววว วันนี้ว่างพอดีเลยมาอัพให้นิดนุงง
                      อ่านและเม้นรอกันไปก่อนเน้ออ เดี๋ยวถ้าว่างอีกทีจะมาอัพต่อให้เร็วๆเลยยแหละ
                            #ด่าได้แต่อย่าแรงง่ะ ไม่ได้ตรวจคำผิดด้วยยย



    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×