ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    {EXO} NEVER :Chanbaek Ft.EXO

    ลำดับตอนที่ #18 : CB:17

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 724
      8
      22 ก.ค. 59







           



           หลังจากที่ชานยอลพูดประโยคเด็ดที่ทำให้ผมใจเต้นโครมคามจบ ผมก็ไม่รู้ว่าจะต้องพูดหรือทำอะไรจึงได้ขอตัวออกมาคุยธุระกับเพื่อนสนิทของผม แต่ตอนออกมาก็ไม่วายโดนเพื่อนสองตัวบาทห้าสิบแซวว่าเขินอยู่ดีและนั้นมันยิ่งทำให้ผมเร่งฝีเท้าเพื่อที่จะเดินออกมาาจากตรงนั้นซะที

           "กูขอโทษ"พอพวกเราเดินมาถึงซอกระหว่างตึกที่ไม่ค่อยมีคนเดินผ่านเท่าไหร่จะเรียกว่าค่อนข้างเปลี่ยวก็ว่าได้ เทาก็พูดออกมาทันที
           "..."ผมยังคงเงียบเพื่อที่จะรอดูว่าคนตรงหน้าจะพูดอะไรต่อ
           "ขอโทษที่กูลืมคิดไปว่ามึงเป็นคนยังไง กูผิดเอง ผิดเองที่กูเอาความคิดของกูไปยัดเยียดให้มึงจนลืมคิดไปเลยว่ามึงไม่ใช่คนแบบนั้น"มันพูดออกมาหน้าเศร้าๆพร้อมกับเอามือขึ้นมาเกาท้ายทอยไปด้วย
           "ไม่หรอก ที่มึงพูดวันนั้นกูอาจจะเป็นคนแบบนั้นก็ได้"ผมคิดแบบที่พูดจริงๆนั้นแหละว่าผมอาจจะเป็นแบบที่มันพูดจริงๆก็ได้ใครจะไปรู้กันวะ
           "อย่าประชดกูดิวะ ขอร้องเหอะหายโกธรกูเถอะ นะนะน้าา"แบ้วมากมั้งอีแพนด้า แล้วนี่จะเข้ามาเขย่าตัวกูทำไมเนี้ยย
           "เออๆๆ หายก็ด้ะ ชิ้แต่ที่กูพูดไปเมื่อกี้อ่ะไม่ได้ประชดนะเว้ยกูคิดจริง"ผมพูดออกไปพร้อมกับผลักให้มันออกห่างจากตัวไปเล็กน้อย
           "คิดเหี้ยไร เลิดคิดเลยก็มึงชอบมันไปแล้วนี่"อึก มึงพูดเหี้ยไรออกมาวะฮื้ออ อีชั่ว
           "สัส เสือกรู้อีก"
           "ก็เมื่อคืนกูไปนั่งคิดนอนคิดแล้วไงวะ ถึงรู้นี่ไงว่ากูผิดเต็มๆ"ขนาดนั้นเชียว
           "หึ ที่แท้พวกมึงก็ทะเลาะกันเรื่องนี้นี่เอง"เสียงบุคคลมาใหม่ดังมาจากข้างหลังผม แต่ถึงไม่หันไปมองผมก็รู้ว่าใคร
           "ไร้สาระโคตร"อีกเสียงนึงที่ไม่ใช่เสียงเดียวกันกับประโยคแรกแต่ก็คุ้นเคยเป็นอย่างดี
           "กูขอให้ผัวมึงทำบ้างอีคยอง"กลายเป็นเสียงของคนตรงหน้าผมที่เป็นคนพูดออกไป
           "แหม พอดีกันแล้วก็เข้าข้างกันเชียวนะ"
           "โถ่ลู่ มึงก็รู้อยู่แล้วนี่ว่าไอ้สองตัวนี้เป็นงี้อยู่ล่ะ"มีความงอน
           "ตัดพ้อทำแม้ะ มานี่เลยมาพวกมึงอ่ะ"ผมหันไปกวักมือเรียกมันให้มายืนใกล้ๆกัน มันก็ทำตามเป็นอย่างดีอีกซะด้วย
           "เห้อ แบคแล้วมึงจะเอาไงต่อวะ"คยองซูถอนหายใจเสียงดัง แทนที่จะเป็นผมม้ะ
           "กูก็ไม่รู้ กูไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อนเลยนี่หว่า"ผม
           "มึงเลิกทิฐิดิ เดี๋ยวอะไรๆก็ดีขึ้นเชื่อกู"ลู่หานตบไหล่ผมข้างซ้ายเบาๆ
           "มึงก็ทำตามใจตัวเองสักทีดิวะ"ตามด้วยคยองซูที่วางทาบมือลงที่ไหล่ขวา
           "แย่งกูพูดหมดเลยพวกห่า"เทาบ่นออกมาหน่อยๆแต่ก็ยกยิ้มออกมาเบาๆ
           ผมคิดตามที่เหล่าเพื่อนสนิทของผมบอกทุกประโยคที่มันพูดมันก็เป็นความจริง สิ่งที่ผมยังคงเป็นอย่างนี้อยู่มันต้องเกิดจากการที่ผมมีทิฐิสูงมากเกินไปหน่อยจนไม่สนใจใครและผมก็ไม่ค่อยทำตามใจตัวเองเท่าไหร่นัก ส่วนมากก็จะอยู่กับเพื่อนติดเพื่อนแต่ถึงอย่างนั้นเรื่องของผมเพื่อนก็ไม่ค่อยรู้เท่าไหร่หรอกและก็เพราะว่าผมติดเพื่อนนี่แหละผมถึงไม่รู้ว่าผมเองก็สนใจเขาอยู่ใช่น้อยผู้ชายที่ชื่อปาร์ค ชานยอล แล้วถ้าผมลืมล่ะว่าผมเป็นใครสิ่งที่อยากทำมากที่สุดก็คือ ผมอยากมีเขา






           "ชานยอลลล งื้ออออ"เมื่อผมกับเจ้าของชื่อที่ผมเรียกไปเมื่อกี้เข้ามานั่งอยู่ในรถเรียบร้อยแล้ว ผมก็จัดการเข้าไปออดอ้อนออเซาะร่างสูงข้างตัวทันที
           "อะไรมึง อย่ามาอ่อยดิ้"ง่ะ นี่ผมไปอ่อนตอนไหนกันนน
           "แบคไม่ได้ทำซักหน่อยย"ผมลากดสียงยาวพร้อมกับเอาหัวถูที่แขนขึ้นๆลงๆ
           "นี่ไงมึงก็ทำอยู่เนี้ย มีอะไรรีบๆพูดมาดิ"ทำไมต้องทำเสียงโหดขนาดนั้น
           "คืนนี้แบคกี้อยากไปเที่ยวง่ะ"แหม ก็จะขอเขาก็ต้องทำตัวทำเสียงแบ้วๆหน่อยสิ้
           "ก็ไปดิ"หื้มมม มันง่ายแบบนี้เลยหรอวะ
           "จริงหรอคับบ"ผมถามออกมาเสียงดังพร้อมกับผละตัวออกมามองหน้าร่างสูงอย่างไม่น่าเชื่อ
           "เออดิ! นี่มึงโดนหลอกมาทั้งชีวิตรึไง"เขาพูดออกมาเสียงติดรำคาญแต่นั้นก็ไม่ทำให้ผมรู้สึกดีใจน้อยลงเย
           "เย้ชานยอลใจดีจังง" ผมเอาหัวไปถูขึ้นลงกับแขนแกร่งอย่างอ้อนๆ แต่ก็โดนร่างสูงพลักออกมาให้มามองหน้ากัน
           "แต่มีข้อแม้นะ คือกูต้องไปด้วย"โธ่ ถึงว่าให้ไปง่ายๆชิ้แต่ก็ไม่เป็นไรหรอกก็ไม่ได้จะไปเต้าะใครอยู่ล่ะแค่จะไปกินเฉยๆ
           "ได้เลยฮับบบ"ผมยกมือขึ้นตเบะที่หางคิ้วพร้อมกับยิ้มกว้างออกมา 




           สถานบันเทิง แอลดี

           ผมเดินผ่าผู้คนพร้อมกับคนร่างสูงที่เดินมาเคียงคู่กันตั้งแต่ออกจากคอนโดและตั้งแต่เดินลงจากรถเขาก็โอบเอวผมไว้ไม่ยอมปล่อยแม้จะบอกให้ปล่อยไปหลายครั้งแล้วก็ตามแต่เพราะคนแน่นๆแบบนี้มันเดินลำบากมากถ้าเป็นที่โล่งๆจะไม่ว่าซักคำ? แต่ไม่กี่อึดใจเราก็เดินเบียดผู้คนจนถึงโต๊ะที่นัดเพื่อนไว้ทันที

           "ว้าวว ตัวติดกันจังนะยะหล่อน"เสียงทักแต๋วๆนี่จะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากแพนกวินตาเหลือกโด คยองซู
           "ทำดา กูเคยบอกมึงไปแล้วนี่"เป็นไงล่ะพอผมีบ้างนี่แควะเอาแควะเอา เพราะว่าแต่ก่อนตั้งแต่ตอนแรกที่คยองซูคบกับจงอินสองคนนั้นจะตัวติดกันมากชวนไปไหนก็ไม่ไปบอกแต่ว่าจงอินจะมารับจะมาหาอยู่นั้นแหละจนผมบอกมันไปว่าอย่าให้มีบ้างนะจะไม่ไปไหนมาไหนกับมันเลย แต่ผมก็พูดไปงั้นแหละเพราะสำหรับผมพวกมันก็ถือเป็นครอบครัวคนนึง
           "ชิ้ หมั่นใส้"ผมเบ้ปากใส่ผมอย่างเหม็นเบื่อ มันกวนตีนถึงขั้นที่ผมถึงกับหลุดหัวเราะออกมา
           "ไงไอ่ชานเดี๋ยวนี้ไม่ค่อยเจอกันเลยนะ ติดเมียหรอคับคุณชาย"ผมหันไปตามเสียงที่ทักชานยอลขึ้นนั้นก็คือเซฮุนและข้างๆตัวก็มีร่างบางของเพื่อนรักผมอีกด้วย ลู่หานไงจะใครล่ะแต่ที่น่าแปลกใจกว่านั้นคือท่อนแขนแกร่งที่เต็มไปด้วยกล้ามที่เป็นผลพลอยจากการเล่นกีฬานั้นที่กำลังโอบเอวเพื่อนตัวบางของผมอยู่
           "เหมือนมึงไม่ติด"ชานยอลเหลือบไปมองที่เอวของลู่หานที่มีแขนแกร่งนั้นโอบอยู่ ลู่หานที่พึ่งรู้สึกตัวว่าพวกผมกำลังมองอยู่ก็สะดุ้งนิดๆและพยายามจะแกะแขนนั้นออกแต่ดูเหมือนจะไม่เป็นผลเลยสักนิด
           "หึ ก็นะ"เซฮุนพูดจบก็หันไปหอมแก้มร่างบางในอ้อมแขนตนอย่างอวดโอ้
           "มีอะไรนี่ไม่บอกเลยนะลู่"ผมเชิงทำเสียงตัดพ้อออกมาอย่างที่คิดว่าแสดงได้เนียนสุดๆ
           "หึ้ยย คือลู่แบ่บ..คือลู่อ่ออเห็นว่าแบคมีเรื่องปวดหัวเยอะแล้วไงง"คืออ่อเมื่อกี้ มึงพึ่งคิดเหตุผลออกว่างั้น
           "อืม"ผมตอบอืมในลำคอพรางเบนสายตาไปางอื่นแต่สายตาของผมมันดันไปปะทะกับใครบางคนขึ้นคนที่ผมเคยคุ้นเคยไงล่ะ
           "ฮื่ออแบคค"ถึงเสียงลู่หานดังแว่วเข้าหูผมแต่ผมก็ไม่ได้สนใจมันเลยสักนิดเพราะสายตาผมกำลังโฟกัสคนๆนึงอยู่
           "แบคมึงอย่ามาเชิงดิ้ อีลู่มันจะร้องไห้แล้วเนี้ย"เหมือนผมได้ยินเสียงแว้ดๆจากคยองซูนะ แต่ผมไม่รู้ว่ามันพูดอะไร
           "ถ้ามึงยังมองอีก คืนนี้มึงไม่ได้นอนแน่"ผมสะดุ้งขึ้นเมื่อได้ยินเสียงทุ้มกระซิบข้างหู ผมเลยต้องละสายตาจากร่างที่จ้องอยู่เมื่อกี้แล้วเดินไปนั่งที่เก้าอี้ข้างคยองซูอย่างรวดเร็วเพราะคืนนี้ผมยังอยากจะนอนอยู่ แต่ชานยอลเลือกที่จะเดินไปนั่งข้างเซฮุนแล้วคุยกันอย่างออกรสออกชาติเหมือนทดแทนช่วงที่ไม่ค่อยได้เจอกันเขาจึงยอมปล่อยผมไปนั่งกับคยองซูไงจงอินที่ตอนแรกนั่งข้างคยองซูที่เห็นแบบนั้นก็เดินไปนั่งร่วมวงบทสนทนากับเพื่อนสนิทตนทั้งสอง

           "มึงเห็นแล้วหรอ"คยองซูถามออกมาเมื่อจับสังเกตได้ว่าผมมองใครอยู่
           "อืม"ผมพยักหน้าตอบ และหันไปเรียกบริกรมาเพื่อที่จะสั่งเครื่องดื่มของตัวเอง
           "รู้สึกไงวะ"มันยังคงถามผมต่อ
           "ไม่รู้ดิ หน่วงๆมั้ง"
           "มึงยังรักมันอยู่อีกหรอ"รัก รักหรอไม่น่าจะใช่นะเพราะอาการหน่วงนี้จะเกิดขึ้นก็ต่อเมื่อเจอหน้าร่างบางนั้นเท่านั้น
           "ไม่หรอก กูว่ามันยังคงติดค้างกันมากกว่า"ผมหันไปตามเสียงบุคคลที่สามที่พูดแทรกขึ้นมาก็พบกับร่างเพื่อนสนิทของผมนั้นเอง จื่อเทา
           "มึงมั่นใจหรอเทาว่ามันไม่ได้รักแล้ว"ลู่หานที่เดินแยกกับเซฮุนเมื่อกี้ก็พูดขึ้นมาทันทีที่เทาพูดจบ
           "สุดๆ พวกมึงไม่รู้สึกหน่อยหรอว่าเพื่อนเราเปลี่ยนไป"จบประโยคเทา ทุกคนถึงกับขมวดคิ้วตามๆกัน
           "เห มันก็จริงนี่หว่า"คยองซูที่เงียบไปพักนึงก็พูดขึ้นออกมาลอยๆ
           "เออว่ะแบค มึงกลายเป็นคนพูดมากตั้งแต่เมื่อไหร่"ตามด้วยเสียงของลู่หาน
           "กลายเป็นคนใจเย็นด้วย"เทาสมทบออกมา 
          ผมได้แต่นิ่งเงียบฟังสิ่งที่พวกมันพูดออกมาและคิดตาม คิดไปคิดมาผมก็เป็นอย่างนั้นจริงๆตั้งแต่แต่งงานกับชานยอลมาผมก็เริ่มพูดมาก มากขึ้นและแลดูใจเย็นแถมยังไม่ค่อยหงุดหงิดใส่ใครด้วย ผมเปลี่ยนไปอย่างไม่รู้ตัวเองมาก่อน ทำไมกันนะ...



           นั่งคุยไปดื่มไปอยู่ดีๆผมก็รู้สึกปวดฉี่ขึ้นมาเลยลุกขึ้นมาเข้าห้องน้ำโดยที่มีจื่อเทามาด้วยเพราะมันก็บอกว่าปวดอยู่พอดีก็เลยลุกมาด้วยกัน ฮ้าาา ผมรู้สึกดีขึ้นมาทันทีเมื่อได้ปลดปล่อยสิ่งที่ปวดอยู่เมื่อกี้จนหมดพอผมจัดการตัวเองเรียบร้อยแล้วก็เดินออกไปตรงจุดที่ล้างมือเพื่อที่จะชำระล้างมือของตัวเองให้มันสะอาดซะ แต่ในขณะเดียวกันที่ผมกำลังล้างมืออยู่นั้นสายตาก็ปะทะเข้ากับสายตาคู่ที่ผมเคยชอบมองนั้นที่ตอนนี้มันกำลังสะท้อนอยู่ในกระจกตรงหน้าผม ผมจ้องมันอยู่สักพักก็ก้มหน้าลงล้างมือของตัวเองต่อพอดีกับไอ้จื่อที่ออกมาจากห้องส้วม?(คือมึงขี้หรอ)ผมจึงหันไปพยักหน้าให้จื่อเทาที่เดินมาล้างมือตามเพื่อเป็นการบอกว่าไปกันได้แล้ว แต่ก็ไม่ทันที่ผมจะได้ก้าวออกจากห้องน้ำนี้ก็ถูกมือใครบ้างคนรั้งไว้ซะก่อนแต่ถึงอย่างนั้้นผมก็ไม่หันไปมองหน้าคนรั้งไว้เลยแม้แต่น้อยเพราะรู้อยู่แล้วว่าเป็นใครผมจึงไม่หันไปมองให้เสียเวลา
           
           "จะไม่คุยกันจริงๆหรอ"ร่างบางที่คุ้นเคยถามผมออกมาแต่นั้นก็ไม่ทำให้ผมหันไปมองได้
           "..."ผมนิ่งเงียบไม่ตอบอะไรออกไปอย่างที่ชอบทำเป็นประจำ
           "จะไม่พูดกับเร็นเลยหรอ สักนิดก็ยังดี"ได้ ผมพูดก็ได้
           "ปล่อย"ไงล่ะ พูดแล้วนะเนี้ย
           "ไม่เอาแบบนี้สิแบค คำอื่นนะ นะ"คำอ้อนที่ผมเคยชอบและคิดว่าน่ารักแต่พอมาวันนี้มันว่างเปล่าไปหมดมีแต่ความหน่วงเข้ามาแทนที่
           "ต้องการอะไร"ผมถามออกไปอย่างเบื่อหน่าย
           "ต้องการแบคไง กลับมาหาเร็นเถอะนะ"พูดเหมือนง่าย
           "ผมแต่งงานแล้วนะ จะให้กลับไปได้ยังไง"
           "แต่ตอนนั้นแบคก็กลับมาหาเร็นนี่"ทำไมดื้อด้านอย่างนี้วะ
           "ตอนนั้นผมก็แค่ทะเลาะกับชานยอลไม่ได้คิดจะกลับมาหาเธอเลย"ไม่เคยคิดเลยด้วยซ้ำ
           "ไม่จริงอ่ะแบค แล้วแบคจะมาหาเร็นทำไมจะมานอนกับเร็นทำไมล่ะ ห้ะ!"เสียงแว้ดๆของเขาดังเกรี้ยวกราดขึ้นจนผมต้องขมวดคิ้วกับสิ่งที่ไม่เคยชินและจนต้องหันหน้าไปมองเจ้าของเสียงนั้นอย่างไม่ชอบใจนัก
           "ก็แค่เงี่ยนเฉยๆป้าววะ!"ผมขึ้นเสียงใส่กลับไปบ้างแต่คำตอบของผมดูเหมือนจะทำให้ร่างบางตรงหน้าจะช็อคไปเรียบร้อย
           "ฮึกฮืออ ไม่จริงหน่าแบคบอกเร็นสิว่ามันไม่จริง"จะอะไรนักหนาวะ
           "จะฟังอีกรอบก็ได้นะเร็นว่าผมก็แค่เงี่ยน!!"ผมเสียงดังขึ้นกว่าเดิมและเน้นคำหลังไปอย่างชัดเจน
           "ฮึกกฮือออ ไม่อ่ะฮึกเร็นไม่เชื่ออ่ะฮือออ"เสียงพูดฟังไม่ได้ศัพท์เมื่อคนตรงหน้าเริ่มร้องไห้หนักขึ้นพร้อมกับทรุดตัวลงไปนั่งกับพื้นกระเบื้องของห้องน้ำ
           "รู้แล้วใช่มั๊ยว่าอย่าทิ้งใครไปแบบไม่บอกอีกเพราะถ้าเขาคนนั้นไม่กลับมา เธอก็จะต้องนั่งร้องไห้แบบนี้คนเดียวโดยที่เขาคนนั้นไม่เหลียวแลเลย เพราะฉะนั้นอย่าไปทำแบบนั้นกับใครอีกให้ผมเป็นคนสุดท้ายก็พอแล้ว"ผมพูดทิ้งท้ายไว้ประโยคยาวๆให้เร็นได้คิด จบอะไรยาวๆนั้นผมก็เดินออกมาจากห้องน้ำนั้นทันทีพร้อมกับเพื่อนสนิทของผมคนเดินที่ไม่ไปไหนยืนอยู่กับผมตลอดเวลาแต่ก็มีมารยาทพอที่จะไม่พูดแทรกอะไรออกมาแม้แต่คำเดียว

           จะบอกว่าผมใจร้ายกับเธอยังไงก็ได้แต่จะให้ผมไปใจดีกับคนที่ทิ้งผมไปให้เป็นบ้าเป็นหลั่งอยู่คนเดียวก็ใช่เรื่อง ก็อย่างที่รู้ๆกันอยู่ว่าเร็นเป็นผู้ชายคนแรกที่ผมเปฺิดใจให้ ตอนเราคบกันอะไรๆมันก็ดีไปหมดอย่างไม่น่าเชื่อ ดีจนผมไม่คิดที่จะเลิกกับเธอดีจนนึกไม่ออกว่าจะมีวันเลิกกันได้แต่ถึงอย่างนั้นเร็นก็ยังทำร้ายความดีนั้นจนหมดและพังทลายลงทุกอย่างเมื่อเธอเลือกที่จะไปเรียนต่อต่างประเทศโดยที่ไม่บอกผมเลยสักคำแม้แต่ติดต่อกับมาสักครั้งยังไม่มี ผมก็ไม่รู้ว่าเขาไปที่ไหนก็ได้แต่ทำตัวเละเทะไปวันๆเรียนก็ไม่เข้ากิจกรรมก็ไม่เอาแต่นั้นก็แค่ช่วงอาทิตย์สองอาทิตย์แรกๆเพราะผมมีเพื่อนที่คอยเตือนสติอยู่เสมอก็เลยกลับมาตั้งตัวใหม่ได้ทันก่อนที่จะเสียผู้เสียคนไปมากกว่านี้และอีกอย่างมันก็ไม่ใช่ความรักด้วยแหละมั้งคับ เพราะความรู้สึกที่ผมมีกับเร็นมันไม่เหมือนกับที่ผมมีกับชานยอลเลยถึงจะคล้ายแต่มันก็ไม่เหมือนเลยสักนิด
           "ไปนานจังวะ"คยองซูถามขึ้นทันทีที่ผมกับไอ้จื่อมันนั่งลงที่โต๊ะ
           "เทามันขี้"ผมพูดออกไปแค่นั้นพร้อมกับยกแก้วตัวเองขึ้นกระดกรวดเดียวหมดเสร็จแล้วก็หยิบแก้วช๊อตแล้วคว้าขวดวิสกี้ที่โต๊ะผมสั่งมาเป็นพิเศษรินลงไปในแก้วใบเล็กนั้นแล้วกระดกมันเข้าปากอีกครั้ง และอีกครั้งอย่างไม่หยุดหย่อนและดูเหมือนว่าเพื่อนคงเห็นว่าผมนั่งเงียบและดื่มเข้าไปเยอะไม่ยอมพูดยอมจากับใครมันก็เลยไม่กล้าที่จะพูดอะไรออกมากัน ผมที่ได้ใจก็ดื่มไปเรื่อยๆจนสมองเริ่มจะเบลอโลกก็เริ่มเอียงๆไปจนร่างกายตอนนี้มันรู้สึกอ่อนระทวยไปหมดอย่างช่วยไม่ได้แม้จะพยายามทำให้มันตั้งตรงแล้วก็ตามแต่มันก็ไม่เป็นผลประสาทรับรู้ก็เริ่มทื่อซะจน...

          


           ผมมองร่างเล็กที่ตั้งแต่กลับมาจากการไปเข้าห้องน้ำที่ตอนนี้นั่งดื่มวิสกี้เข้าไปคนเดียวหมดไปเป็นขวดและกำลังต่อขวดที่สอง ผมรู้ว่าแบคฮยอนนั้นคอแข็งแต่นั้นมันวิสกี้นะเว้ยกินหมดคนเดียวเป็นขวดขนาดนั้นถ้าไม่เมานี่ผมยอมเป็นเคะแทนมันเลยนะ 
           ก็รู้อยู่หรอกว่าไปเจออะไรมาก่อนที่จะกลับมานั่งที่โต๊ะเพราะว่าไอ้เทามันส่งคลิปเสียงมาให้ในกลุ่มเป็นที่เรียบร้อย ทุกคนก็เลยไม่ห้ามที่แบคฮยอนกินมากมายขนาดนี้เพราะรู้อยู่แล้วว่าเรื่องของทั้งสองคนนั้นมันหนักหนาสาหัสมากสำหรับร่างบางที่กำลังเมาอยู่ตอนนี้ แต่ถึงยังไงผมก็ยังหงุดหงิดใจอยู่ดีที่ร่างบางที่ไม่น่าไปเป็นเมะให้กับใครทำเหมือนว่าแฟนเก่าตัวเองยังมีอิทธิพลกับตัวเขาอยู่ เห้อแต่คงต้องพาร่างบางนั้นกลับก่อนซะล่ะดูดิโวยวายใหญ่เลย
           "แบคฮยอนกลับกันเถอะ"ผมเดินไปคว้าแขนร่างบางให้ลุกขึ้นแต่เจ้าตัวนั้นไม่ให้ความร่วมมือเลยผมที่ไม่ทันตั้งตัวกับแรงที่ทิ้งตัวลงกับร่างบางทำให้ตัวเซล่มไปที่โซฟาที่เจ้าตัวนั่งอยู่ ท่ามันก็เลยอยู่ประมาณว่าผมกำลังคร่อมเขา
           "ใครอ่ะ"เห้อช่วยเบิกตาดูก่อนถามได้มั๊ยล่ะแบค แล้วมึงจะเอาแขนมาคล้องคอกูไว้ทำไม
           "กูเอง"ผมตอบไปอย่างเบื่อหน่ายกับคนเมา
           "กูหนายย กูนั้นคือกูมึงจะเป็นกูได้ยังงายยก็กูเป็นกูแล้วอ้าาา"ไอ้เหี้ยนี่เมาแล้วหยาบคาย
           "กวนตีนไอ้สัส"ผมพรึมพรำเบาๆแต่มันก็เสือกได้ยิน
           "กวนเหี้ยรายย กูไม่มีไม้พายมั๊ยล้าาา"โอโหสกิลการกวนตีนนี้มึงได้จากใครมาา
           "เห้อ นี่ชานยอลเองไง"ผมเหนื่อยกับมันจริงๆ
           "ชานยอลหรออ อื้มม คิดถึงจางง"ผมอึ้งกับคำพูดที่มันพ่นออกมาเมื่อกี้
           "..."ผมเงียบไปอย่างไม่รู้จะพูดว่าอะไรต่อเมื่อคนเมาพูดออกมาแบบนั้น
           "นี่ๆ ชานยอลว่าแบคต้องรู้สึกผิดกับชานยอลป้าาาา"หื้ม
           "รู้สึกผิดอะไร"เขาว่าคนเมาจะพูดทุกเรื่องที่คิด ผมจึงถามออกไป
           "ก็ที่แบคกับเทาเล่นเกมส์กันงายยย"
           "ก็คงต้องรู้สึกล่ะมั้ง"ผมตอบออกไปเสียงเรียบ
           "ทำไมล้าา"มันยังคงถามต่อ
           "ก็มึงผิด"มึงผิดนี่ยังไม่รู้ตัวอีกหรอ แต่พอผมตอบไปมันก็ส่ายหน้ารัวๆ อะไรของมัน
           "หื้ออ แล้ว แล้วชานยอลไม่ชอบที่แบคจะได้เงินพนันสองเท่าหรออ"ผมขมวดคิ้วทันทีที่ร่างบางพูดจบ แต่สุดท้ายก็ต้องระบายยิ้มออกมาอย่างหุบไม่อยู่เมื่อนึกถึงคำพูดของคยองซูเพื่อนรักของคนขี้เมาขึ้นมาได้

           'คือเอาง่ายๆนะเราจะสามารถรักคนที่เป็นเป้าหมายได้โดยไม่มีใครว่าด้วยซ้ำ แถมยังได้เงินพนันเพิ่มอีกเท่าตัวด้วย'


           


           







            







                    งานมันช่างรุมเร้าเหลือเกินนนนนน ฮืออออ ถ้าว่างเมื่อไหร่อีกจะมาอัพให้อีกเน้ออ 
                   เอ้ออออ เราขอฝากฟิคเรื่องใหม่ด้วยน้าา มีชื่อเรื่องว่า one piece เป็นฟิคแนวถนัดเราเลยนะนั้นหน่ะะ ช่วยไปอ่านช่วยไปเม้นให้เราหน่อยน้าาา 
                   ไม่ทิ้งฟิคเรื่องนี้ไปแน่นอนนน แต่ตอนนี้ต้องขอตัวไปนอนก่อนนะจ้ะ
                   #ไม่ได้แก้คำผิดง่ะ #ด่าได้แต่อย่าแรงงง
           

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×