คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #22 : CB:21
และนี่ก็เป็นอีกครั้งที่ผมบอกชานยอลว่ามาหาแก๊งไอ้พวกเถื่อนแต่จริงๆแล้วมาหาคนท้องนั้นแหละโดยที่มีไอ้เทาขับรถพามาด้วยเพราะวันนี้ผมจะมาบอกเรื่องที่ผมอยากให้เธอไปต่างประเทศ กดกริ่งไปสองครั้งแต่ผมไม่ต้องรอให้ร่างบางเปิดประตูก็น้องเขาให้คีย์การ์ดมาไว้แล้วนี่ แต่เทาไม่ได้ขึ้นมาด้วยนะแม่งบอกขี้เกียจขอรออยู่ที่รถ
"อุ้ย พี่แบคฮยอนทำไมมาไม่บอกกันก่อนคะ"คนท้องที่กำลังจะเดินมาเปิดประตูเพราะได้ยินเสียงกริ่งก็ต้องตกใจเมื่อเห็นผมเข้ามา
"ไปแต่งตัวก่อนเถอะ ผมมีเรื่องจะคุยด้วย"ผมมองไปที่ร่างคนท้องที่ยังดูบางอยู่เลยที่อยู่ในชุดผ้าคุมอาบน้ำสีขาว
"อ่ะ..เออขอโทษค่ะเดี๋ยวหนูมานะคะ"คนท้องพึ่งรู้ตัวก็ยกมือขึ้นมาปิดที่หน้าอกตัวเองอย่างเขินอาย เสร็จก็รีบเดินเข้าห้องนอนตัวเองทันที
ไม่นานคนที่ผมต้องการจะคุยด้วยก็เดินมานั่งฝั่งตรงข้ามผมที่เป็นโต๊ะกินข้าวที่ผมนั่งรออยู่ก่อนแล้ว
"ผมจะให้คุณไปต่างประเทศ ไปเรียนไปคลอดลูกเลี้ยงลูกอยู่นั้นแต่ถ้าคุณติดใจอยากอยู่ที่นั้นเลยผมก็ไม่ว่าหรอกนะแต่ขอให้คุณต้องเลี้ยงลูกผมให้ดีก็พอ ขาดเหลืออะไรบอกเทาได้"ไม่รอให้ใครได้เกริ่นอะไรขึ้นมาผมก็พูดเข้าเรื่องทันที ร่างบางดูตกใจกับสิ่งที่ผมพูดอยู่ไม่น้อยแต่ก็กลับมาทำหน้าไม่คิดอะไรอีกครั้ง
"ค่ะ ถ้าพี่คิดว่าวิธีนี้มันดีหนูก็จะทำตาม"เสียงเรียบเอ่ยออกมาอย่างที่ผมไม่เคยได้ยินจากคนตรงหน้าเลย ออกแนวประชดแต่ผมก็ไม่ได้ว่าอะไรเธอเพราะแค่เขาทำให้ผมอยู่แค่นี้ผมก็ขอบคุณมากพอแล้ว
"ขอบคุณนะ ผมมีเรื่องจะพูดแค่นี้ขอตัวก่อนนะคับ"ผมลุกขึ้นยืนและรีบเดินออกจากห้องนี้เพื่อลงไปหาคนขี้เกียจทันที
ไม่รู้ตั้งแต่เมื่อไหร่ที่เวลาผมมีเรื่องเครียดผมจะนึกถึงหน้าชานยอลทุกทีแต่ใช่ว่าจะปรึกษานะก็แค่อยากกอดอยากอยู่ใกล้ๆเพราะเวลาทำแบบนั้นทีไรความเครียดของผมก็จางลงตลอดอยู่ด้วยแล้วสบายใจถึงจะมีบางทีที่ไม่สบายตัวก็เถอะ
เพราะงั้นตอนนี้ผมจึงเลือกที่จะกลับไปหาร่างสูงที่นี่ก็เป็นเวลาเย็นแล้วคนอยู่ห้องน่าจะกำลังทำอาหารอยู่แน่ๆ และมันก็จริงอย่างที่คิดพอผมเปิดประตูไปเดินตามทางก็เจอเข้ากับชานยอลที่กำลังทำอาหารอยู่หน้าเตา
"ชานยอลลล"ผมลากเสียงยาวและโผเข้ากอดเจ้าของชื่อจากทางด้านหลัง คนตัวโตผละออกมาหันหน้ามาทางผมแล้วก็รั้งร่างที่เล็กกว่าเข้าสู่อ้อมกอดเขาทันที
{ชานยอล พาร์ท}
พอคนตัวเล็กกอดเข้าทางข้างหลังผมผมก็ไม่รอช้าที่จะเอี่ยวตัวหันกลับไปหาคนพึ่งมาและเมื่อหันไปก็พบเข้ากับรอบยิ้มน่ารักที่เห็นกี่ทีๆก็น่าฟัดตลอดและนั้นจึงทำให้ผมรั้งร่างคนตรงหน้าเข้ามาในอ้อมกอดตัวเอง กลิ่นหอมนี่มันแทบจะทำให้ผมคลั้ง ดีนะผมทำกับข้าวเสร็จพอดีจึงไม่มีอะไรให้ต้องห่วง
"ไปหาเพื่อนเป็นยังไงบ้าง"ผมถามคนพึ่งกลับออกมาอย่างชวนคุย
"ก็สนุกดีคับ ตลกเหมือนเดิมเลย"คนตอบผละออกมามองหน้าผมและยิ้มตาหยี
"หรอ สนุกกว่าอยู่กับกูอีกหรอ"ผมแกล้งตัดพ้อ
"ไม่หรอกคับ อยู่กับชานยอลสนุกที่สุดแล้ว"คนโดนแกล้งส่ายหัวรัวๆไปมาอย่างน่ารักพร้อมกับคำตอบที่ทำให้ผมฉีกยิ้มออกมาอย่างห้ามไม่อยู่
"น่ารักจังง"ผมจุ้บเข้าที่ปากแบคฮยอน ก็นี่คือรางวัลที่มันน่ารักไงคับ
"ชานยอลก็น่ารักคับ"คนพูดจุ้บเข้าที่ปากผมคืน แต่ผมไม่รอให้เขาได้ผละออกไปก็เลยเอามือไปล็อคท้ายทอยแบคฮยอนไว้และทำการดูดดึงริมฝีปากหวานละมุนที่ผมไม่เคยเบื่อเลย คลึงเบาๆผสมกับการรุกร้ำที่ร้อนแรงแต่ผมชอบนะที่แบคฮยอนไม่อ่อนประสบการณ์ในด้านนี้เพราะเขามักจะโต้ตอบกลับมาอย่างไม่ยอมแพ้จนทำให้เกิดเสียงหวานหูดังขึ้นเป็นระยะ ผมค่อยๆช้อนตัวคนตัวเล็กขึ้นมาอุ้มในท่าเจ้าสาวมีแค่แว๊บเดียวเท่านั้นที่ปากเราห่างกันแต่ก็กลับมาประกบกันใหม่ ผมเดินไปเรื่อยๆจนไปถึงเตียงนอนเสร็จก็ทำการวางคนในอ้อมแขนลงและตามไปทาบทับ ลิ้นของผมกวาดต้อนโพรงปากควานชิมของหวานจนพอใจ ก็ค่อยๆผละออกมาอย่างอ้อยอิ่งและเริ่มคลอเคลียต่ำลงมาจนถึงซอกคอขาวดูดเม้มแรงๆจนเกิดรอยแต่รอยเดียวมันไม่สะใจไง
"อ้ะ ชาน..ยอล"คนใต้ร่างหลุดเสียงหวานออกมาอย่างกลั้นไม่อยู่ ยิ่งพูดเป็นชื่อผมแล้วยิ่ง..หึ!!
"คืนนี้ขอนะคะคนดี"
แพลนกล้องไปที่โคมไฟ.....
{จบพาร์ท ชานยอล}
นี่เป็นเวลาเที่ยงคืนกว่าๆผมมายืนมองตัวเองหน้ากระจกในห้องน้พ ร่างกายที่เต็มไปด้วยรอยสีกุหลาบที่ชานยอลทำไว้เป็นการตอกย้ำว่าผมเป็นของเขาก็ยิ่งทำให้ผมปวดหนึบที่ใจเมื่อนึกถึงคนที่กำลังจะเกิด ผมทำแบบนี้กับร่างสูงไปได้ยังไงกันวะ
ปั้ง ปั้ง ปั้ง ผมหลุดออกจากความคิดเมื่อมีเสียงเคาะประตูดังขึ้น
"แบคฮยอน มีคนโทรมา!"เสียงชานยอลดังขึ้น ฟังจากน้ำเสียงก็รู้ว่าหงุดหงิดแค่ไหนที่ถูกรบกวนเวลานอนอันแสนมีค่าของเจ้าตัว
"โอ๋ ไม่หงุดหงิดสิคับชานยอล ปะไปนอนกัน"ผมเปิดประตูออกไปหาเขาและรับโทรศัพท์มาแล้วตัดสายทันทีโดยไม่ต้องดูชื่อก็รู้ว่าใครเสร็จผมก็เดินจูงมือคนง่วงนอนมาที่เตียงแล้วจุ้บเข้าที่ปากอีกฝ่ายอย่างที่ชอบทำ
"นอนนะคับ"คนถูกบอกทำตามอย่างว่าง่ายนั้นทำให้ผมยิ้มกับความน่ารัก ชานยอลก็อย่างนี้แหละคับพอง่วงทีไรน่ารักตลอดเลย
"มึงก็นอนด้วยดิ กูจะกอด"รั้งร่างผมลงไปนอนซะอย่างนั้น
"คับๆ เดี๋ยวแบคเปิดเพลงให้นะ"
"อืม"
"มะๆ กอดกันน"ผมซุกตัวไปที่อกแกร่งทันทีเมื่อเปิดเพลงเสร็จ
"ฝันดี รักแบคนะคับ"คำบอกรักที่ผมได้ยินเขาพูดมาตลอดตั้งแต่สารภาพกันตั้งแต่วันนั้นก็มาพร้อมกับคำว่าฝันดีทุกวันนั้นทำให้ผมใจเต้นแรงทุกครั้งที่ได้ยินอยู่ดี แต่ผมเองที่ไม่เคยพูดคำนี้ออกไปเลย
ร่างสูงหลับแล้วผมจึงค่อยๆขืนตัวเองออกจากอ้อมกอดที่ชอบที่สุด และเดินออกมาจากเตียงแล้วเดินไปที่ระเบียงโดยไม่ลืมที่จะเอาโทรศัพท์ออกมาด้วยเพื่อกดโทรหาคนที่โทรมาได้สักพักแล้วแต่ผมกับตัดสายไป
"ว่าไง"ผมเอ่ยถามออกไปเมื่อไอ้แพนด้ามันรับสาย
(โบยองกำลังจะไปอีกชั่วโมงนึง)???
"คืออะไร"
(ไปอังกฤษไง)
"ห้ะ ไปไรกูพึ่งบอกเขาวันนี้เองนะ"ใช่ไงคับผมพึ่งบอกน้องเขาไปเรื่องอะไรจะเสร็จเร็วขนาดนี้
(กูทำเรื่องไว้ให้มึงตั้งแต่มึงเสนอความคิดนั้นมาแล้วนะแบคฮยอน จริงๆมันเหลือแค่ให้มึงไปบอกเขาเท่านั้น)ผมนิ่งค้างกับสิ่งที่ได้ยินเพราะผมไม่คิดว่าเทามันจะช่วยเหลือผมเร็วขนาดนี้
"ทำไมมึ..."ผมที่จะถามว่าทำไมมันรีบจังแต่ก็ไม่ได้ถามเพราะมันสวนขึ้นมาทันทีพูดในสิ่งที่เหมือนกับรู้ว่าผมจะถามอะไรตอนนี้มันตอบมาหมดแล้ว
(เด็กในท้องหน่ะมันโตขึ้นทุกวันนะแบคแค่ตอนที่มึงบอกกูโบยองก็ท้องได้เดือนกว่าๆแล้วนะแล้วตอนนี้ที่มึงบอกเขาก็จะสามเดือนคิดดูว่าถ้ากูมาทำเรื่องให้ช้าน้องมันจะกล้าแบกท้องโตๆที่บอกใครก็ไม่ได้ว่าพ่อมันคือใครออกไปข้างนอกได้ไงวะ คิดหน่อยดิว่ามันน่าอายแค่ไหนเรียนก็ยังไม่จบดันมาท้องอีก)
"ขอบคุณมึง ขอบคุณที่มึงยังเป็นผู้ใหญ่ในวันที่กูกลายเป็นเด็กเห็นแก่ตัว"
(กูไม่ได้จะโทรมาเทศน์มึงฟังนะเว้ย กูแค่อยากถามว่ามึงจะมามั๊ย)
"ไปไม่ได้ว่ะ ขอโทษด้วยนะมึง"
"ใช่กูหรอ ที่มึงต้องขอโทษ?"คำถามห้วนๆแต่เป็นการสอนเฉพาะตัวของมันผมรู้ดีเพราะทั้งหมดที่มันพูดมาไม่ใช่ว่ามันจะบ่นแต่มันกำลังสอนผมต่างหาก
"อืม ขอสายเธอหน่อย"
(ค่ะ พี่แบคฮยอน)เสียงเธอดูสั่นเคลือนิดๆเมื่อรับสายผม สงสัยน้องจะตกใจล่ะมั้งที่อยู่ดีๆผมก็ขอคุยด้วย
"ผมไปส่งไม่ได้นะคับ ขอโทษนะคับ"คำขอโทษของผมมันออกมาจากใจจริงๆไม่ต้องพยายามเฟคให้เหนื่อย
(หนูขอแค่ครั้งนี้ครั้งเดียวได้มั๊ยคะ)ทำไมน้องยังไม่เลิกประหม่าตกใจอีกนะ แต่คำถามน้องเขามันทำให้ผมหันไปมองคนหลับอยู่อย่างชั่งคิดแต่ครู่เดียวผมก็ได้คำตอบทันที
"ขอโทษด้วยนะ แต่ผมอยู่กับชานยอล"คำถามของเธอถูกตอบกลับไป นั้นทำให้ผมได้ยินเสียงสะอื้นจากปลายสาย ผมยืนนิ่งไปกับเสียงเหล่านั้นที่ได้ยินมาอย่างไม่ขาดสายคนร้องไห้พยายามกลั้นไว้แล้วผมรู้ เพราะผมได้แต่หลอกตัวเองว่าเสียงสั่นเคลือตอนแรกมันเป็นแค่เสียงประหม่าตกใจ
(ค่ะ ไม่เป็นไรค่ะ..ฮึก..ไม่เป็นไรหนู..ฮึกเข้าใจพี่แล้ว.ฮึก..)
"ขอบคุณนะคับ"ผมตอบกลับไปเสียงแผ่วแต่คนปลายสายต้องได้ยินแน่ๆเพราะพอจบประโยคขอบคุณอีกฝ่ายก็ปล่อยโฮออกมาทันที
(มึงคุยอะไรกับน้องมันวะ น้องมันถึงร้องไห้ขนาดนี้ เห้ยเดี๋ยวดิ!! เชี้ยล่ะไงมึง แค่นี้แหละสัส บ๊าย!)มันไม่รอให้ผมตอบอะไรมันก็วางสายทันที ปลายสายเหมือนจะมีเรื่องวุ่นๆแต่ผมไม่ห่วงหรอกก็มีไอ้เทาอยู่ทั้งคนนี่
พอวางสายผมก็เดินกลับมาที่เตียงและทิ้งตัวลงเข้าไปซุกอยู่ที่อ้อมกอดคนหลับทันที ผมจุ้บเข้าที่ปากเขาเบาๆอย่างกลัวว่าคนถูกลักหลับจะตื่น แต่ก่อนผมชอบเปิดแอร์เย็นๆและซุกตัวอยู่ในผ้าห่มแต่ตอนนี้เปลี่ยนจากซุกตัวหาผ้าห่มก็อ้อมกอดชานยอลผมซุกเข้าที่อกแกร่งทุกวันจนเกิดความเคยชินก็อย่างที่เคยได้ยินมาว่าถ้าเราทำอะไรเดิมๆซ้ำเกินหกสิบวันเราก็จะติดนิสัยนั้นไปเลยทันทีแต่ผมซุกหาตัวเขามาจนจะปีแล้วให้ทายว่าติดแค่ไหนคิดดู แล้วถ้าชานยอลรู้ว่าผมทำผิดอะไรกับเขา เขาจะให้ผมกอดแบบนี้หรอก็ไม่แล้วผมก็เป็นคนเห็นแก่ตัวเกินกว่าจะทิ้งอ้อมกอดที่ตัวเองติดไปแล้วซะอีก คำว่าเลวยังน้อยไปสำหรับผม
"ผมขอโทษนะชานยอล รักนะคับอ้อมกอดของผม"
คำสองคำที่ผมพูดออกมาถูกกลั่นกรองมาจากสมองและใจของผมอย่างจริงแท้ แต่คนฟังก็ไม่ได้รับรู้ความรู้สึกของผมเพราะเจ้าตัวนั้นหลับ แต่ถ้าตื่นมาก็คงไม่ได้ยินเหมือนเดิม
คุยกันนนนนน นี่กว่าจะอัพได้หัวร้อนมากพูดเลยอ่ะแต่พออัพได้ก็โล่งจายย ดีใจมั้กมั้ก สั้นไปต้องขออภัยเป็นอย่างสูงนะคะ
ขอขอบคุณคนอ่านคนเม้นคนเป็นกำลังใจให้เรานะ จริงๆเคยอยากทิ้งแต่พอกลับมาดูเม้น อ้ะไม่ทิ้งหรอกจะแต่งให้จบยังไงก็ต้องให้จบอาจจะอัพช้าแต่จบแน่ๆ สัญญา/ยื่นนิ้วก้อยย
ตอนนี้เราไม่ได้แก้คำผิดง่ะ ดีไม่ดียังไงก็บอกเรานะพวกคุณณณณ #ด่าได้แต่ไม่ต้องแรงมากก
ความคิดเห็น