ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    {EXO} NEVER :Chanbaek Ft.EXO

    ลำดับตอนที่ #29 : CB:28

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 991
      30
      8 พ.ย. 61






           "เป็นไร?"ร่างสูงถามออกมาเมื่อเห็นว่าอึนจีออกไปแล้ว

           "ไม่ได้เป็นอะไรนี่ครับ"

           "ก็เห็นๆอยู่ว่ามึงเหวี่ยงน้องเขา"มานงมาน้องอะไรล่ะได้ข่าวว่าดป็นลูกคนเดียวนี่

           "เหวี่ยง? ผมเหวี่ยงตรงไหนกัน"ผมยกยิ้มขึ้นอย่างยียวน

           "มึงกระแทกเสียงนะแบค มันก็คือเหวี่ยงป้ะ"ชานยอลยังไม่หยุดยัดเยียดคำว่าเหวี่ยงใส่ผม

           "เห้อ..."ผมที่เบื่อจะตอบก็ทำไปแค่ถอนหายใจ จะให้เถียงกันทั้งวันคงไม่จบและผมที่มีความผิดติดตัวอยู่ตอนนี้ก็ไม่มีสิทธิ์

           "แล้วมึงมาไม"ร่างสูงที่เห็นผมไม่เถียงอะไรต่อจึงเปลี่ยนเรื่องพร้อมกับเดินไปนั่งข้างๆเจสเปอร์ที่ตั้งใจดูการ์ตูนอยู่ผมจึงเดินตามไปนั่งข้างๆเจสเปอ

           "คิดถึง.."ผมพรึมพรำตอบไปแต่เชื่อสิว่าชานยอลต้องได้ยินแน่ๆ

           "ตอแหล"บอกแล้วครับว่าเขาได้ยิน แต่คำตอบมันออกจะสั้นๆได้ใจความไปหน่อยนะ

           "ผมจริงจังนะครับ"ผมจ้องลึกเข้าไปในตาของอีกฝ่ายอย่างไม่ไปไหน

           "คิดว่าพูดแล้วกูจะหายโกรธงั้นดิ"เขาจ้องกลับมาไม่ต่างกัน เหมือนต่างฝ่ายต่างจ้องหาความจริงของกันและกันอย่างไม่ลดละ

           "ก็ไม่ครับ แต่ตั้งแต่วันนี้ไปผมจะง้อคุณแบบจริงจังแล้วนะ"



           
          พอจบประโยคของผมร่างสูงก็ยืนขึ้นแล้วเดินออกไปจากห้องนั่งเล่นโดยมีผมเดินตามออกไป และผมก็เข้าใจดีว่าเขาคงไม่อยากรบกวนเวลาดูการ์ตูนของเจสเปอร์อยู่และมันก็เป็นเรื่องของผู้ใหญ่ที่ต้องเคลียร์ใจกันแค่สองคนอีกด้วย
          

            "แน่ใจ?" ชานยอลถามผมเพื่อความแน่ใจของเขาและไม่ว่าจะถามอีกสักกี่ครั้งผมก็ตอบแบบเดิม

            "ครับ ผมแน่ใจแต่ก่อนอื่นผมต้องขอถามเพื่อความพยายามของผมก่อนว่าคนเมื่อกี้เขาเป็นใครหรอครับ"ผมตอบและถามกลับเพราะอยากรู้ว่าความพยายามของผมมันจะมีคู่แข่งมั๊ย

            "รุ่นน้องไง น้องก็บอกไปแล้วด้วยอีกอย่างน้องพึ่งเปิดบริษัทน้องก็เลยมาปรึกษากู"

            "น้องๆๆอยู่นั้นแหละได้ข่าวว่าเป็นลูกคนเดียวนี่ครับ"ผมที่ทนไม่ไหวก็ฉุนขาดเมื่อชานยอลเอะอะๆก็น้องอยู่นั้นแหละ

            "ก็น้องเป็นน้อง มึงจะให้กูเรียกว่าไรอาเจ๊ไง้"กวนส้นตี้นน!!

            "โว้ยย เรียกไรก็ได้อ่ะที่ไม่ใช่อะไรที่มันดูสนิทกันขนาดนี้สิครับบ!"ผมเริ่มเสียงดังเมื่อคนตัวสูงพูดจากวนประสาท

            "โอ้ยย มึงขี้โวยวายตั้งแต่เมื่อไหร่เนี้ยย ทำไมกูจะเรียกแบบนี้แล้วมึงจะทำไม ห้ะะ!?"ตอนแรกมีแค่ผมที่เสียงดังแต่ไปๆมาๆเราก็เสียงดังกันทั้งคู่ไปซะแล้ว

            "ก็ไม่ทำไมหรอกครับ แค่อยากถามว่าบริษัทน้องชื่อไรครับ"

              "ถามไม"เขาขมวดคิ้วเมื่อผมเปลี่ยนเสียงกระทันหัน

              "ถามไงครับ ไม่ได้?"

              "เคเจกรุ๊ป สรุปถามไม"ชานยอลขมวดคิ้วถามไม่เลิกแต่ก็ยอมตอบ

              "ขอบคุณครับ แต่แย่หน่อยนะที่บริษัทน้องของคุณที่พึ่งเปิดก็ต้องได้ปิดอาทิตย์นี้ซะแล้ว"ผมเหยียดยิ้มขึ้นอย่างไม่รู้สึกถึงสายตาที่ทำท่าตกใจอยู่ตอนนี้

              "เชี้ย!! มึงห้ามทำแบบนั้นนะแบคฮยอน!"ชานยอลขึ้นเสียงอีกครั้ง

             "ทำไมล่ะครับ หื้ม?:)"ผมถามออกไปยิ้มๆกวนประสาทของคนกำลังหัวร้อนเต็มที่ ตอนนี้ผมเหมือนคนเป็นไบโพล่า

              "มึงจะเอาความไม่ชอบของมึงไปตัดอนาคตคนอื่นไม่ได้!"

              "ผมเปล่า ผมก็แค่จะเตือนคนที่จะเข้ามาทำลายอนาคตชีวิตคู่ของผมเหมือนกัน"

              "เตือน? กูขอบอกเลยนะแบคถ้ามึงทำอะไรคนนี้ ทั้งชีวิตนี้ก็ไม่ต้องมาคุยมายุ่งกับกู"



              ผมนิ่งงันไปกับคำพูดที่ชานยอลตอบกลับมา เพราะตั้งแต่อยู่ด้วยกันมาคนตรงหน้าไม่เคยเอ่ยปกป้องใคร และอีกเหตุผลนึงที่ผมเลือกที่จะนิ่งไปเพราะนึกขึ้นได้ว่าตอนนี้ตัวเองไม่ได้อยู่จุดที่จะทำตัวงี่เง่าแบบนี้ได้


              ผมเลือกที่จะไม่พูดอะไรแต่เลือกที่จะเดินเข้าไปในห้องนั่งเล่นที่มีเจสเปอร์นั่งดูการ์ตูนอยู่


              "คุณเจสเปอร์ครับ"ผมเดินไปแตะไหล่ลูกให้หันมาหา


              "ครับคุณแด๊ด "ร่างเล็กเอียงคอมองอย่างมีคำถาม


              "แด๊ดมารับไปซื้อของเล่นแล้วนะ ไปกันครับ"


              "แต่ว่า.."


              "คุณเจสเปอร์ไม่อยากได้แล้วหรอครับ หืม?"


               "อยากได้ครับ!"ทันทีที่ร่างเล็กตัดสินใจได้ว่าเลือกของเล่นไม่ใช่การ์ตูนในห้องนี้ก็ยืนขึ้นทันทีแถมรีบลากผมออกมาจากห้องอีกต่างหาก โดยเด็กน้อยก็ไม่ลืมบอกลาคนที่ตนเรียกว่าป๊าอีกด้วยก่อนจะขอตัวกลับ



                

                หลังจากวันที่ผมไปรับเจสเปอร์วันนั้นนี่ก็เป็นเวลาสัปดาห์กว่าๆแล้วที่ผมไม่ได้เจอชานยอลเนื่องด้วยจากภาระหน้าที่ที่ต้องทำ งานช่วงนี้เป็นช่วงใกล้ปิดไตรมาสแล้วยิ่งยุ่งเข้าไปใหญ่ และผมก็เชื่อด้วยว่าเขาก็ยุ่งทำให้ผมไม่กล้าไปรบกวน แต่ถ้าได้เจอสัญญาจะเป็นคนน่ารักตามง้อไปเรื่อยๆ


               "ผมเคลียร์งานบนโต๊ะเสร็จแล้วนะคุณแจ็คสัน คุณจะรั้งผมไว้ทำไมกัน"ผมถามเมื่อเคลียร์งานเสร็จหมดมาสักพักแล้วแต่เลขามันก็ยังไม่ให้ผมกลับสักที อีกอย่างวันนี้ผมก็ปวดข้อมือมากด้วยเพราะเมื่อวานไปคุยงานกับลูกค้าที่สนามเทนนิส เลยได้อาการมือซ้นกลับมาด้วย บวกกับวันนี้ที่ต้องมาเซ็นเอกสารทั้งวัน ทำให้รอบข้อมือตอนนี้ต้องมีผ้าพันไว้


              "บอสเหลือคุยงานที่ภัตรตาคารไงครับ อย่าบอกนะว่าลืม"


             "ผมส่งคุณไปคุยแล้วนี่ ทำไมผมต้องไปอีกรอบหรือคุณคุยงานไม่สำเร็จ"ผมขมวดคิ้วถามอย่างจริงจัง


             "ผมบอกบอสไปแล้วเหมือนกันครับว่าครั้งนั้น เขาไม่ยอมคุยจนกว่าจะได้คุยกับบอสเอง"มันอธิบายด้วยสีหน้าเหนื่อยใจ เมื่อนึกตามคำพูดมันก็จำได้ทันทีและเป็นผมเองที่ผิดที่เป็นคนลืม 


            "เออ โทษที แล้วนัดกี่โมง"


            "6โมงเย็นครับ"


            "นั้นเวลาผมกินข้าวกับลูก ขอเลื่อน" ตั้งแต่ผมรับเจสเปอร์มาอยู่ด้วย ผมก็จัดแจงเวลาได้เป็นสัดเป็นส่วนมากขึ้น และผมให้เวลากับลูกเป็นส่วนใหญ่ ไม่ว่างานจะยุ่งแค่ไหนผมก็ต้องหาเวลามากินข้าวกับเขา เพราะผมไม่อยากทำให้เขาเหงาทำให้เขารู้สึกว่ามาอยู่กับผมทำไม ผมอยากทำให้เขารู้สึกแตกต่างกับตอนที่เขาอยู่กับแม่ของเขา ผมอยากให้เขารับรู้ว่าเขาสำคัญกับผมและผมก็รักเขามาก ถึงเขาจะเกิดจากความไม่ได้ตั้งใจก็ตาม


            "ไม่ได้ครับ"


            "แต่คุณก็รู้นั้นว่าเวลาที่ผมไม่ว่าง คุณก็ยังจะนัด"ผมทำเสียงเย็นใส่เลขาเพราะความไม่พอใจมันเริ่มก่อตัวขึ้น


            "ครั้งนี้เป็นการคุยงานในภัตรตาคารอาหาร บอสสามารถพานายน้อยไปด้วยได้ ซึ่งฝั่งนั้นก็จะพามาเหมือนกัน ผมถามให้แล้ว ซึ่งผมว่าเป็นการดีที่จะทำให้นายน้อยคุ้นชินกับการเข้าสังคมของคุณ"เลขามือหนึ่งอธิบายซะยาวเหยียด อธิบายจนผมทำได้แค่พยักหน้าให้มันเพราะเถียงไปก็เท่านั้น 


            "งั้นผมต้องขอตัวไปรับลูกและขอตัวกลับเลย ไม่เข้าบริษัทอีกแล้วนะ "จบประโยคผมก็ลุกขึ้นยืนเต็มความสูง


            "ครับ เจอกันพรุ่งนี้ครับบอส"มันโค้งตัวลงและหันหลังกลับไปทันที อะไรของมันวะวันนี้ แววหยอกเล่นไม่มีเลยสักนิด มีแต่คำทางการเต็มไปหมด แต่ก็เอาเห้อะ มันคงทะเลาะกับเมีย




           หลังจากที่ผมได้ไปรับเจสเปอร์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ผมก็รีบขับรถกลับคอนโดทันทีเพราะต้องการอาบน้ำแต่งตัวใหม่ให้ทั้งเจสเปอร์และตัวผมเอง ไม่นานเราทั้งคู่ก็อยู่ในชุดสูทตัวใหม่ เจสเปอร์ในชุดสูทตัวจิ๋วคือน่ารักมาก ไม่อยากจะอวยลูกเลยแต่น่ารักจริงๆ พอผมเช็คความเรียบร้อยของเราเสร็จก็รีบพุ่งรถไปที่หมายทันทีเพราะใกล้จะถึงเวลานัดแล้ว


            "คุณมิเชลสวัดดีครับ ผมขอโทษด้วยนะครับที่มาช้า"ผมโค้งตัวขอโทษอย่างมีมารยาทรวมถึงเจสเปอร์ด้วย ผมไม่ได้บอกนะแต่ดูเหมือนเจ้าตัวจะเห็นผมทำเลยทำตาม


            "ไม่ช้าเลยค่ะ มิลมาก่อนเวลาเอง"ผู้หญิงตรงหน้าผมเป็นว่าที่หุ้นส่วนคนใหม่ เธอสวยเธอเก่งรอบด้านไปหมด เธออายุเท่าๆกับผมเลย เป็นคนที่ผมอยากร่วมหุ้นด้วยสุดๆ


            "สั่งอะไรไปรึยังครับ"


            "นิดหน่อยค่ะ ให้ตัวเล็กเขา"ผมหันไปยิ้มให้เด็กผู้หญิงร่างเล็กที่น่าจะอายุน้อยกว่าเจสเปอร์ไม่เยอะ


            "นี่เจสเปอร์นะครับ ลูกชายผมเอง"เจสเปอร์ได้ยินผมแนะนำก็ก้มหัวทักทาย คุณมิเชลทำหน้างงนิดหน่อยแต่ก็ปรับสีหน้าให้กลับเป็นเหมือนเดิมเพราะกลัวเสียมารายาท 


            "นี่มินเนจค่ะ ลูกสาวมิลเหมือนกันอายุสี่ขวบ"เธอพูดไปก็ลูบหัวลูกสาวไปอย่างเอ็นดู สักพักเราก็เริ่มสั่งเมนูอาหารเสร็จ ก็ต่อด้วยการคุยเรื่องงานต่อ การคุยเป็นไปได้อย่างเรียบง่ายและดูเหมือนคุณมิเชลจะสนใจธุรกิจตัวใหม่ที่ผมจะลงทุนอยู่มากอีกต่างหาก ทุกอย่างเป็นไปได้ดี เราคุยกันแชร์กันจนถึงวิธีเลี้ยงลูก เธอช่วยผมได้เยอะเลยเพราะเธอเป็นผู้หญิง 


             "คุณแบคฮยอนคะ นั้นสามีคุณรึเปล่าคะ"ผมหันไปตามสายตาของคุณมิเชล ก็เห็นร่างสูงที่คุ้นเคยกำลังนั่งทานข้าวกับผู้หญิงคนนึงซึ่งผมจำได้ว่าคืออึนจีเจ้าเก่าเจ้าเดิม


             "ขออนุณาตินะครับ คุณเจสเปอร์ครับอยู่เล่นเป็นเพื่อนน้องมินก่อนนะ แด๊ดขอไปหาป๊าก่อน"เด็กน้อยพยักหน้ารับอย่างน่ารักจนผมอดที่ก้มไปฟัดแก้มนิ่มไม่ได้



              "เห้ย แบค.."ผมเดินมาเหวี่ยงตัวนั่งลงบนตักชานยอลและก่อนที่เขาจะพูดหรือทำอะไรผมก็รีบก้มลงไปฉกฉวยริมฝีปากที่แสนคิดถึงนั้นอย่างรวดเร็ว


             "แบคคิดถึงชานมากเลยรู้มั๊ย"ผมผละออกมาพูดอยู่ข้างหูเจ้าของตักที่ผมนั่งอยู่


             "ทำอะไร ลงมานั่งดีๆ"ชานยอลเอ่ยเสียงดุ มันเลยทำให้ผมทำหน้ามุ่ยออกมาอย่างไม่รู้ตัว


             "ก็คิดถึงนี่ จะให้ทำไงอ่ะ"ผมเบ้ปากออกอย่างคนเอาแต่ใจแต่ก็ยอมลงไปนั่งดีๆตามคำสั่ง


              "สวัสดีค่ะพี่แบคฮยอน"อึนจียิ้มพร้อมกับทักทายผม


              "สวัสดีครับ ชานมาทำไรที่นี่อ่ะ"ผมหันไปทักทายอึนจีกลับเสร็จก็รีบหันมาถามชานยอลต่อทันที 


              "คุยงาน"เนี้ย ตอบสั้น เดี๋ยวเจอแบคฮยอนโหมดน่ารักกว่านี้จะยังตอบสั้นอยู่มั๊ย


              "แบคก็มาคุยงานเหมือนกัน ชานจำคุณมิเชลได้มั๊ยอ่ะ"


              "จำได้"


              "ไปทักทายหน่อยดิชาน ไหนๆก็ไหนๆล่ะ นะๆๆ"ผมเอาหัวไปถูกับแขนร่างสูงอย่างออดอ้อน


              "เออๆ เดี๋ยวพี่มานะอึนจี"แหม อยู่ดีๆก็มารยาทดีนะ ผมดึงแขนชานยอลให้ลุกขึ้นพร้อมกับเอามือไปจับจูงมือคนร่างสูงให้เดินมาที่โต๊ะผม


             "ป๊าา"เจสเปอร์ที่เห็นป๊าตัวเองเดินมาก็รีบพุ่งเข้าใส่เลย ชานยอลเลยยกขึ้นมาอุ้มซะเลย โง้ยยย น่ารักอ่ะ ทั้งป๊าทั้งลูก


            "สวัสดีครับคุณมิเชล"


            "สวัสดีค่ะคุณชานยอล นี่น้องมินเนจนะคะลูกมิลเอง"


            "ป๊าๆ น้องมินพูดน้อยมากเลย ทำยังไงดีครับ"เสียงเจสเปอร์ถามป๊าของเขาทำเอาทุกคนหัวเราะออกมาด้วยความเอ็นดู


             "ชวนน้องคุยเยอะๆสิ"ชานยอลตอบพลางปล่อยให้เจสเปอร์ได้ลงไปนั่งข้างน้องมินเหมือนเดิม คุณมิเชลชวนชานยอลคุยอยู่สักพักก่อนจะขอตัวกลับเพราะอยู่นี่นานๆกลัวน้องมินจะงอแง ผมเลยได้ย้ายถิ่นฐานมานั่งอยู่โต๊ะเดียวกับชานยอลถึงชานยอลจะไม่เต็มใจให้มานั่งด้วยก็เถอะแต่ก็แพ้ลูกอ้อนของเจสเปอร์อยู่ดี ไม่เสียแรงที่เป็นลูกแด๊ดเลยนะคนนี้


             "งั้นอึนจีขอตัวกลับก่อนนะคะ"อึนจีพูดเสร็จก็ยืนขึ้นทันที


             "ครับ สวัสดีครับ"ผมพูดสวนตอบแทนชานยอลที่กำลังจะพูดขึ้น เธอยิ้มเจื่อนๆนิดนึงแล้วก็เดินออกไป


             "นิสัยเสีย"ดูจากคำก็รู้นะครับว่าใครพูด


             "ก็แบคหิวนี่ อยากกินข้าวกับชานยอลกับลูกสามคนอ่ะ" 


             "มึงเพิ่งกินกับคุณมิเชลมา"


             "กินไปนิดเดียวเอง เนอะคุณเจสเปอร์"ผมที่กลัวอ้อนไม่สำเร็จก็หันไปหาตัวช่วย


             "ครับ เจสเปอร์หิว เมื่อกี้มัวแต่เล่นกับน้องมินอ่ะ"เจสเปิอร์หันไปอ้อนคนเป็นป๊าตาปริบๆ อยากได้ของเล่นอะไรบอกแด๊ดมาเลยคุณเจสเปอร์!


             "งั้นก็สั่งสิ" ผมกับลูกยิ้มกว้างออกมาอย่างดีใจ หลังจากที่เราสั่งอาหารกัน ไม่นานนักอาหารก็เอามาเสริฟ 


             "อ้ะ.."ผมที่สั่งสเต็กหมูมากำลังจะหั่นแต่ก็ช้าไปเมื่อคนที่นั่งข้างๆแย่งจานไปอยู่ตรงหน้าเขาซะเอง


            "เจ็บมือล่ะยังสั่งอะไรแบบนี้อีก มึงเนี่ย"อะไรคือปากดุแต่ทำตัวอ่อนโยนอ่ะ เพราะงี้ไงผมถึงเสียผู้ชายคนนี้ไปไม่ได้


            "แบครักชานยอลนะ"พูดเองก็เขินเอง 


            "รักของมึงคือการทำตัวเหี้ยหรอ"ชานยอลพูดแต่หน้าก็ไม่ได้ละออกจากจานสเต็กเลย


             "มันเป็นอดีตแล้วนะ อีกอย่างตอนที่ทำตัวเหี้ยตอนนั้นยังไม่รัก"ผมอธิบายตามความเป็นจริง 


             "แต่อดีตของมึงมันส่งผลถึงปัจจุบันนะแบคฮยอน"


             "แบครู้ว่าแบคทำผิดแต่ตอนนั้นแบคอาจจะคิดตื้นไปเอง ขอโทษที่โกหกนะครับ"ผมเอื้อมมือไปจับแขนของคนข้างกายที่เพิ่งหั่นสเต็กให้ผมเสร็จ


             "กูไม่รู้จะเอายังไงต่อแล้วแบคฮยอน หัวใจกูแม่งเจ็บไปหมด แต่กูก็เลิกห่วงมึงไม่ได้ กูอยากจะเลิกกับมึงใจจะขาด แต่กูก็ทำไม่ได้ กูเห็นมึงมาอ้อนหน่อยกูก็ใจอ่อนทำตามแล้ว กูเห็นมึงทำท่าหึงกูใจกูก็ระริกระรี้ชอบใจ ปากกูก็ด่ามึงไป ใจกูก็เจ็บตาม กูจะทำยังไงดีล่ะแบคฮยอน กูเลิกรักมึงไม่ได้เลย"ชานยอลระบายออกมาทุกคำที่ผมว่าใจเขาอึดอัดมาสักพักแล้ว 


             "..."ผมเม้มปากแน่นเพราะไม่รู้จะพูดอะไรออกไปดี


             "มึงรู้มั๊ย วันนั้นวันที่มึงร้องไห้ กูโคตรอยากกอดปลอบแต่ใจกูก็พังเหมือนกัน พังชิบหาย พังเพราะมึง แต่ขนาดพังขนาดนั้นกูยังไม่อยากให้มึงร้องไห้เลย"


             "..."


             "ตอนมึงป่วยนะ กูทำใจแข็งแล้วว่าจะไม่ไปเยี่ยมแต่มันก็อดไม่ได้ ยิ่งเห็นสภาพมึงนะกูแทบจะไปต่อยไอ้ฮุนแต่ก็นึกขึ้นได้ก่อนว่ามันทำเพื่อกู แล้วก็ตอนที่มึงไปแนะนำตัวเองว่าปาร์คนะ ใจกูนี่อ่อนยวบ เพราะมึงแทบไม่เคยใช้ มึงว่ากูบ้ามั๊ย ขนาดมึงทำกับกูขนาดนี้ ใจกูมันยังไม่รักดีเลย"


            "ชาน.."


            "แดกเถอะ"ชานยอลตัดคำพูดผมพร้อมกับเอาจานกลับมาวางไว้ตรงหน้า ผมก็เลยต้องกินตามคำสั่ง พอกินเสร็จผมก็ให้ชานยอลขับรถไปส่ง โดยให้เหตุผลว่าไม่ได้เอารถมา ขามาแจ็กสันมาส่ง

     

            ตอนนี้เราสามคนเลยได้มาอยู่บนคอนโดผมเป็นที่เรียบร้อยเพราะเจสเปอร์หลับ ผมที่เจ็บมืออยู่จึงอุ้มไม่ถนัดนัก ชานยอลเลยต้องมาส่ง


            "มึงบอกกูสิว่าคอนโดนี้ มึงซื้อไว้ตอนไหน"พ่าม เออเว้ยคอนโดนี้ผมแอบซื้อไว้นี่นา ดีนะที่เอาเจสเปอร์ไปนอนแล้ว ไม่งั้นมีตื่นอ่ะ


            "ก็แหะๆ นานแล้วครับแบคเห็นว่าทำเลมันสวยดีเลยซื้อไว้อ่ะ"ผมได้แต่ยิ้มแหะๆออกไป


            "สิ้นเปลือง"ชานยอลเอ่ยเสียงดุ


            "มันคืออสังหาไงครับ อย่าคิดมาก"แถไปไอ้แบคเอ้ย


            "สีข้างถลอกแล้วมั้ง"รู้ทันอีกอ่ะ


            "กูกลับล่ะ"ชานยอลทำท่าจะเดินออกไปแต่มีผมคว้าแขนไว้ก่อน


           "เดี๋ยวก่อนครับ แบคมีเรื่องจะคุยด้วย"


           "มีไร"ร่างสูงหันกลับมาจ้องหน้าผมอย่างจริงจัง


           "ถ้าแบคอยากจะขอโอกาศอีกสักครั้งได้มั๊ย ที่ผ่านมาแบครู้ว่าแบคผิด แบคผิดทุกอย่าง แบครู้ว่ามันหน้าด้านมากที่จะมาแก้ไขอะไรเอาตอนนี้ แต่ถ้าแบคไม่แก้ไขมันเลยแบคอยู่ไม่ได้แน่ๆเลยชานยอล ฮึก.."ผมที่อุตส่ากลั้นร้องไห้ไว้แต่ก็ไม่วายหลุดสะอื้นออกมาจนได้ บ้าเอ้ย เป็นผู้ชายจะมาร้องไห้อะไรวะ


           "อย่าร้อง"ชานยอลเอามือมาเกลี่ยน้ำตาออกให้ แล้วเขาไม่รู้รึไงวะ ว่าคนเราอ่ะถ้ายิ่งปลอบก็ยิ่งร้อง


           "อย่าปลอบ  ฮึก..เดี๋ยวหนักกว่าเดิมฮึก..อึก.."ผมพยายามฮึบไว้สุดความสามารถ แต่ก็นั้นแหละ ยังยากอยู่


           "ถ้าร้องชานจะไม่ให้โอกาสแล้วนะ"



            



            


              


             

            


              



            



           

     

         




        




               


    #อัพเพราะexoคัมแบคแล้วจ้าาาาาา


    อย่าลืมไปปั่นTempoกันด้วยนะทุกคนนนนนนน



        







    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×