ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ( SF EXO ) ' Something Special '

    ลำดับตอนที่ #12 : [SF] :: ดอกฟ้ากับหมาวัด (Daehyun B.A.P x Suho)

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 738
      1
      25 มี.ค. 56

    ดอกฟ้ากับหมาวัด
    Daehyun x Junmyun 

    เกริ่น : ดอกฟ้า กับ หมาวัด?
     

    PS. นี่คือคู่ แดฮยอน บีเอพี กับ จุนมยอน เอ็กโซ














     

                 

                ดอกฟ้า กับ หมาวัด?

                เอาแล้วไง เริ่มเรื่องผมก็โดนถามแบบนี้เลยหรอ

                นี่ไม่เชื่อกันหรือไงว่าหมาอย่างผมจะสามารถเด็ดดอกฟ้ามาดอมดมได้

                นี่ใครครับ? แดฮยอนนะครับ ไม่มีอะไรที่ไม่สามารถ อย่ามาเกทับกันเลย

     
     

                เชื่อสิ.. คนนี้สินสอดพร้อมแล้ว

     

     
     

                “โถ้ ไอ้เกรียน ให้ตายมึงก็ไม่ได้แตะขี้เล็บจุนมยอนหรอก” ผมหันหัวเกรียนๆแล้วไปมองหน้ามัน เฮ้ย ไม่เกรียนดิ นี่แค่ไถออกนิดเดียวพอเป็นสไตล์ แม่งดูถูกความร็อคของผม ไอ้แบคฮยอน ไอ้เตี้ย มันหยามผมอีกแล้ว

     
     

                “มึงไอ้แคระแกรน หุบปากเหมียวๆของมึงเลย” มันเบ้หน้าเบ้ตา น่ารักตายล่ะ มันชอบพูดแบบนี้ให้ผมเสียเซลฟ์ เช้ากลางวันเย็น นี่แม่งวันไหนมีเงินเหลือในโทรศัพท์ มันยังจะเฉียดเวลาว่างโทรมาหาผม

     
     

                “ก็ไม่รู้สิ้ จุนมยอนเพื่อนฉันเขาไม่เลือกหมาอย่างมึงหรอก” มันยักไหล่ยึกยักได้กวนอารมณ์มาก นี่ถ้าไม่ติดว่ามีแฟนเป็นไอ้ประธานตัวโหด ตอนนี้มันได้อยู่ใต้นันยางของผมแล้ว

     
     

                “มึงเป็นเพื่อนประสาอะไร มีปากก็พูดไปดิ ไม่รู้เรื่องอะไรซะแล้ว” ผมกระตุกยิ้มอย่างมีความสุข หยิบไอโฟนห้า(ที่ออดอ้อนป๊าแทบตายกว่าจะได้มา)ขึ้นมาแล้วเปิดโปรแกรมแชทยอดฮิตอย่างไลน์

     
     

                ผมเห็นไอ้แบคฮยอนมันยืดคอเข้ามาใกล้ผม เหล่สายตามาอย่างสนใจจนผมขำ โถ้ แบคฮยอน โถ้ เดี๋ยวผมจะให้ดูอะไรที่มันจะต้องอึ้ง ผมยื่นไอโฟนไปจ่อหน้ามัน มันขมวดคิ้วเป็นปม เป็นไงล่ะมึง งงอะดิ

     
     

                “ไอ้เชี่ย มึง.. มึงไปเอาไลน์จุนมยอนมาจากไหน” นี่ผมใคร แดฮยอนนะครับแบคฮยอน มึงดูให้ชัดเลย ผมใส่ไว้เป็นเฟ็บโวริทติดดาวไว้เรียบร้อย

     
     

                “อะไรนะครับ ใครไม่ได้จุนมยอนนะครับ โทษนะครับแบคฮยอน” หมดคาบเรียนแล้วผมยืดตัวหยิบกระเป๋าแบนๆของตัวเองออกจากห้องเรียนทันทีไม่สนใจหน้าเหวอๆของแบคฮยอนแล้ว ถึงแม้จะฮาชิบหายก็เถอะ รีบสาวเท้าตรงดิ่งไปที่ลานจอดรถเพื่อไปหาเจ้ามอเตอร์ไซค์คันเก่ง

     
     

                เย็นนี้มีนัดไปเต๊าะจุนมยอน อุ้ย ผิด

                คือก็กะไปหาจุนมยอนธรรมดาแหละครับ แต่จะเอาความรักไปส่งมอบให้ถึงบ้าน

     
     

                มันเหมือนเป็นปกติที่จะได้เห็นผมผ่านซอยแถวนี้ วันนี้แวะซื้อดอกกุหลาบหอมๆสักดอก ลองนึกหน้าจุนมยอนตอนได้รับสิครับ แก้มขาวๆพอขึ้นสีแดงเพราะความเขินอาย ฟินสิครับทีนี้

     
     

                “จุนมะยอนจ๋า จุนมยอน” ผมกดกริ่งหน้าบ้านสองชั้นหลังใหญ่สองทีแล้วตะโกนเรียกว่าที่แฟนในอนาคตเสียงอ่อนเสียงหวาน

     
     

                อ่า ลืมได้ไงว่านี่คุณหนูจุนมยอนเลยนะครับ คุณป้าอาราเดินมาหาผมก่อนจะยิ้มหวานให้ คุณป้าเป็นแม่บ้านประจำบ้านนี้แหละครับ แล้วก็มีลุงโกเป็นคนขับรถไปส่งจุนมยอนเรียนทุกวัน

     
     

                บ้านหลังนี้คุณป๊าคุณม๊าจุนมยอนคงสร้างมาให้จุนมยอนได้อยู่สบายแถวโรงเรียน เพราะบ้านจริงๆเขาเป็นคฤหาสน์นู่นแหนะครับ อย่างไกลตัวเมือง

     
     

                เป็นไงล่ะครับ ประวัติเป๊ะ ติวมาอย่างแน่น

     
     

                “มาหาคุณหนูหรอจ๊ะ ช่วงนี้มาบ่อยเลยนะ” ผมหัวเราะแหะๆ เกาหัวเกรียนแกรกๆ พยักหน้าตอบรับคุณป้าไป ผมดับเครื่องมอเตอร์ไซค์แล้วยืนรอจนคุณป้าหายเข้าไปในตัวบ้านเพื่อเรียกแฟนในอนาคตผมออกมา

     
     

                “หวัดดีแดฮยอน” มาแล้วครับ รอยยิ้มสดใสแบบนางฟ้า หัวใจผมแทบจะรัวกลองชุดเลยตอนนี้

     
     

                “นี่ ให้ เห็นเหมาะกับจุนมยอนดีเลยเอามาฝาก” ผมตอบแบบเหนียมอาย ซะที่ไหนล่ะ นี่กำลังทำตัวเป็นผู้ดีให้เข้ากับหน้าตาของตัวเองอยู่ครับ ดอกกุหลาบสีแดงอยู่ในมือของจุนมยอนแล้วเหมือนมันจะดูด้อยไปเลย จุนมยอนสวยกว่าดอกกุหลาบมาก นี่บอกเลย

     
     

                “ฮ่ะๆ ขอบใจ แวะทานอะไรก่อนไหม วันนี้เราลองทำคุ๊กกี้แหละ เอ่อ.. แหะๆ พอจะมาเป็นหนูทดลองให้เราได้ป่ะ” ผมเหวอ.. คนบ้าอะไรจะน่ารักขนาดนี้ ผมพยักหน้ารับแล้วเข็นมอเตอร์ไซค์ไปจอดที่ข้างประตูรั้วบ้าน

     
     

                ปกติเห็นแต่ข้างนอก ชะเง้อจนคอยืดคอยาว แต่วันนี้แหละครับโลกจะต้องจารึก แดฮยอนได้เข้ามาในบ้านของคุณหนูจุนมยอนแล้วครับ น้ำตาจะไหล

     
     

                “ขออนุญาตนะคร้าบ” พอผมเดินเข้ามาในตัวบ้าน สิ่งแรกที่เห็นตั้งเด่นเป็นสง่าอยู่กลางบ้านคือทีวีจอแบนขนาดใหญ่ โห ทีวีเครื่องเดียวแบบนี้ถ้าตั้งในห้องนอนผมแทบจะเต็มห้องเลยนะ

     
     

                “เอ่อ แดฮยอนนั่งรอที่โซฟาก่อนนะ เดี๋ยวเราไปเอาคุ๊กกี้กับน้ำมาให้ จะดูอะไรก็ได้รีโมทวางไว้บนโต๊ะแล้ว เดี๋ยวเรามานะ” จุนมยอนเดินจากไปพร้อมแก้มแดงๆ นี่ตาผมฝาดเปล่าครับ แต่น่ารักสุดๆไปเลย

     
     

                ผมพาตัวเองมานั่งที่โซฟาแสนจะไม่ธรรมดาครับ ไม่แน่ใจว่าเป็นหนังอะไร แต่แม่งโคตรจะนุ่มนั่งทีตัวยวบลงไปข้างหลังเลยอ่ะ แถมข้างๆยังมีตุ๊กตาหมียักษ์สีขาวนั่งอยู่เป็นเพื่อน หน้ามันเหมือนจุนมยอนเลยแต่น่ารักน้อยกว่าจุนมยอนเยอะ

     
     

                รีโมทถูกหยิบขึ้นมาแล้วเปลี่ยนช่องเป็นช่องบอล นัดนี้ไม่ค่อยน่าสนใจ เอาไปแทงคงได้ไม่เยอะ เดี๋ยว ผมไม่เคยพนันบอล เมื่อกี๊พูดเล่น การพนันไม่ข้อง แอลกอฮอลล์ไม่มั่ว บุหรี่ไม่แตะ .. ตั้งแต่เจอจุนมยอน โอเคสารภาพ ผมพยายามจะเลิกตั้งแต่เจอเขาจริงๆ นี่พูดจริงเชื่อผมสิ

     
     

                “ขอโทษที่ให้รอนานนะ” จุนมยอนเดินออกมาพร้อมกับถาดเต็มมือ ผมรีบลุกขึ้นไปถือแทนเขา กลิ่นหอมของคุ๊กกี้ในจานพอจะเป็นตัวพิสูจน์ความอร่อยได้ คนอะไรน่ารักแถมยังเก่ง

     
     

                “มันอาจจะไม่อร่อยนะ แต่นายลองทานดูสิ” เขาหันมายิ้มหวานตาปิดให้ผม คนรับอย่างผมก็หงายหลังสิครับ โดนจุนมยอนแอทแท็ค แทบจะสลบคาโซฟา

     
     

                ผมลองกัดคุ๊กกี้เข้าไปคำแรก กลิ่นหอมของโกโก้อบอวลอยู่ในปาก ความกรอบหอมนุ่มของมันช่างเกินบรรยาย มันเป็นคุ๊กกี้ที่อร่อยที่สุดตั้งแต่ผมเคยกินมา คำแรกก็ต้องมีคำที่สอง จนหมดชิ้น หน้าจุนมยอนดูตื่นเต้นมาก แดฮยอนอยากบอกว่าหยุดเถอะ หยุดน่ารักได้แล้ว

     
     

                “เป็นไง.. เป็นไงบ้าง” ผมหันไปมองหน้าจุนมยอน แล้วหลุบตาต่ำทำเป็นคิดนิดนึง เงยหน้ามาก็เห็นจุนมยอนกัดปากรอคำตอบอยู่ ขออืดอาดก่อนได้ไหม หน้าจุนมยอนตอนนี้น่ารักมากอ่ะ

     
     

                “คือมัน..” ผมพูดไปแล้วเว้นช่วงให้หายใจนานๆ จุนมยอนกำมือเข้ากับกางเกงเสียแน่น นี่ผมกำลังแกล้งเขาได้ลงคอหรือไง

     
     

                “มัน..” จุนมยอนพูดรับออกมาเสียงเบา เอาสิครับลุ้นจนตัวโก่งแล้ว

     
     

                “อร่อยที่สุดตั้งแต่เคยกินมา” ผมตอบกลับไปพร้อมรอยยิ้มที่คิดว่าโคตรหล่อ แทบตายสิครับ จุนมยอนถอนหายออกมาเสียยกใหญ่ รอยยิ้มหวานถูกส่งมา หัวเราะเอิ๊กอ๊ากให้กับตัวเอง

     
     

                อยากจะหยิบไอโฟนมาอัดคลิปไปให้แบคฮยอนมันดู มึงพลาดแล้วล่ะที่ว่าคนอย่างแดฮยอน

     
     

                “จริงๆนะ วันหลังทำอีกจะเอาไปให้ที่โรงเรียน” มือเรียวสวยหยิบคุ๊กกี้เข้าปากกินบ้าง เสียงใสยังพูดเจื้อยแจ้วน่าฟัง ถ้าเกิดเอาให้ผมที่โรงเรียนจริงคงเป็นบุญของแดฮยอนจริงๆครับ

     

                “โอเค จุนมยอนจะเอามาวันไหนไลน์มาบอกก่อนนะ เดี๋ยวจะเอาไปแลกกับดอกไม้” ผมพูดแล้วหัวเราะในลำคอ เขินเหมือนกันนะเนี่ยพูดอะไรออกไป ส่วนจุนมยอนน่ะหรอ ก้มหน้างุดซ่อนแก้มแดงๆแล้ว

     
     

                “อื้อ แดฮยอนเป็นคนแรกที่ได้ทานฝีมือเรา หนูทดลองคนแรก” รอยยิ้มนางฟ้ามันช่างสว่างไสว จุนมยอนยื่นแก้วน้ำแอปเปิ้ลให้ผม อ่า ถึงแม้ปกติจะไม่ค่อยได้กินมันหรอกนะไอ้น้ำไฮโซนี่ แต่จุนมยอนให้ผมก็กินครับ จะให้อะไรมาผมกินหมด ผมรักคนให้ ให้ผมกัดแก้วแล้วกลืนผมก็ยอม

     
     

                “ดีใจดีไหมนะ” ผมถามไปแบบหยอกๆ จุนมยอนหัวเราะออกมาเบาๆ ช่างเป็นบุคคลที่ให้แสงสว่างจริงๆครับ แม้แต่หัวเราะโลกของผมดูสดใสขึ้นมาทันที

     
     

                แต่ความสุขมันมักจะผ่านไปเร็วใช่ไหมครับ ผมหันไปมองนอกบ้านฟ้ากลายเป็นสีส้มแล้ว ต้องรีบกลับบ้านไปช่วยงานคุณนายเก็บร้านครับ แล้วนี่ก็เกรงใจว่าที่แฟนด้วยเผื่อเขายุ่งๆ

     
     

                “จุนมยอน เดี๋ยวต้องกลับก่อนแล้ว คุ๊กกี้อร่อยมากนะ ขอบคุณมาก บ้ายบาย” ผมไม่อยากบอกลาเลย ดูสายตาเขาสิครับ โอ๋เอ๋ อยู่บ้านคนเดียวมันเหงาสินะ

     
     

                จุนมยอนเดินมาส่งผมหน้าบ้าน ผมยิ้มให้เขาแล้วชูมือบ้ายบายข้างตัว จุนมยอนยิ้มรับแล้วบ้ายบายกลับมาให้ผม โมเมนท์นี้ผมได้ทุกครั้งที่มาบ้านครับ แต่เขาไม่เคยมาส่งถึงขนาดนี้ปกติโบกมือให้อยู่บนห้องชั้นสอง ผมมีความสุขจังเลย

     

     

     

     

                “ไงมึง หน้าบานมาเชียว” วันนี้ผมมีความสุขครับ แบคฮยอนมันคงอิจฉา ดูสิคนเราเห็นคนยิ้มไม่ได้เป็นต้องเห่าใส

     
     

                ทำไมถึงมีความสุขหรอครับ หลังจากวันนั้นที่ผมได้เข้าไปบ้านของจุนมยอนพวกเราก็คุยไลน์กันบ่อยขึ้น คุยกันเป็นเวลาเลยครับช่วงใกล้นอนเราจะต้องคุยกัน เป็นไงก้าวหน้าขึ้นไหมล่ะ

     
     

                จุนมยอนเป็นคนน่ารักมากจริงๆ แถมอารมณ์ขันเล็กๆด้วย เป็นคนที่พยายามจะเล่นมุขนะครับ แต่มันไม่ขำอ่ะ แต่เพราะเป็นจุนมยอนผมเลยขำออกมาตลอดพอเขาเล่น แล้วส่งสติกเกอร์ไลน์หน้ากระต่ายเขินมาหลังจากเล่นจบ น่ารักจริงๆว่าที่แฟนผม

     
     

                อ้าวโม้เพลิน เข้าเรื่องเถอะ คือวันนี้จุนมยอนบอกกับผมเมื่อคืนว่าเขาทำคุ๊กกี้มาอีกแล้ว จะเอามาให้ที่โรงเรียน แล้วดูในมือผมนะ ทายสิอะไรเอ่ย? ดอกไม้ไงครับ ดอกกุหลาบสีขาวที่ผมแงะกระปุกซื้อมาเมื่อเช้า จำสัญญาของเรากันได้รึเปล่า ถ้าเขาเอามาผมก็จะแลกด้วยกุหลาบ

     
     

                แบคฮยอนมันดูงงๆที่ไม่เห็นผมโต้ตอบมัน ให้ตายเถอะผมต้องยิ้มอยู่แน่เลย ผมเดินมานั่งที่โต๊ะแล้วยัดกุหลาบขาวไว้ในเก๊ะ แบคฮยอนมันยืดหน้ามาถามจนได้ โถ้ เสือกจัง

     
     

                “เอากุหลาบมาให้ใครอ่ะ” มันสะกิดไหล่ผมแล้วถาม นี่ถ้าไม่รู้สักเรื่องจะตายป่ะ

     
     

                “จุนมยอน” พอผมพูดชื่อว่าที่แฟนปั๊ป มันทำหน้าตกใจแบบไม่เชื่อสุดขีด เอามือปิดปากยืดตัวตรง อะไรจะโอเวอร์ขนาดนั้น เดี๋ยวเถอะมึงจะอึ้งกว่านี้

     
     

                “แดฮยอน” นั่นไงครับ พูดปั๊ปก็มาปุ๊ป คนมันดวงลิขิตให้รักกัน ห้องทั้งห้องเงียบสนิทหันไปมองเป็นสายตาเดียว หน้าประตูเป็นใครไม่ได้นอกจากจุนมยอน ผมหันไปมองหน้าแบคฮยอนตอนนี้มันอ้าปากค้าง

     
     

                ผมยิ้มรับเสียงเรียก แล้วเดินตรงไปหน้าชั้น นี่เขินนะเนี่ย เกาหัวเกรียนแกรกๆแก้เขินระหว่างเดิน จะไม่ให้เขินได้ไง เพื่อนทั้งห้องมองอ่ะ นี่จุนมยอนเลยนะ คุณหนูจุนมยอนที่ใครๆก็อยากครอบครอง นางฟ้าจุนมยอนที่แสนน่ารัก อย่าอิจฉาแดฮยอนกันนะ คึคึคึ

     
     

                “เราเอาคุ๊กกี้มาฝาก” จุนมยอนตอนนี้เป็นอะไรที่น่าฟัดมากครับ รอยยิ้มพริมใจ ตาหยี แถมแก้มแดงๆนั่นดูเหมือนจะป่องขึ้นนิดหน่อย จุนมยอนอ้วนขึ้นหรอ น่ารักจังเลย

     
     

                ผมรับคุ๊กกี้จากเขามาแล้ว แต่ไม่หยุดแค่นั้นหรอกครับ ผมจูงมือเขาเข้ามาในห้อง จุนมยอนทำหน้างงเล็กน้อย แต่ก็เดินตามผมมา ผมพาเดินมาเรื่อยๆจนถึงโต๊ะตัวเอง แล้วล้วงมือเข้าไปหยิบดอกกุหลาบสีขาวออกมาแล้วยื่นไปให้เขา

     
     

                “ให้เราหรอ..” อ่า น่ารักที่สุด ทำไมจุนมยอนน่ารักขนาดนี้ ดูแก้มนั่นดิ แดงไปถึงใบหูเลย เขาเขินใช่ไหม บอกผมที ผมว่าเขาอาจจะไม่ได้เขินมากมายเพราะกุหลาบผมหรอก แต่คงเขินสายตาจากคนทั้งห้อง

     
     

                “อื้อ แลกกันไง สัญญาไว้แล้ว” ผมยิ้มตอบเขา เอามือไปลูบหัวเบาๆ ห๊ะ! เอามือไปลูบหัว ชิบหาย มือไปเอง ไม่ปล่อยด้วยยังลูบเบาๆอยู่อย่างนั้น

     
     

                จุนมยอนเงยหน้าขึ้นมามองผมพร้อมรอยยิ้ม มือผมยังวางอยู่บนหัวเขา ถ้าใครถ่ายภาพโมเม้นท์นี้ให้ผมช่วยถ่ายให้ทีนะ จะจ่ายไม่อั้นเลยให้ตายเถอะ จุนมยอนแก้มแดงๆ แบบนี้มันน่านัก

     
     

                ผมเลยต้องจำใจเอามือออก มันนานเกินไปจะดูไม่ดีใช่ไหมครับ เราไม่ควรเล่นหัวกันแบบนี้ แต่ทำไงได้เขาน่าเอ็นดูจริงๆนี่นา เหมือนกระต่ายตัวน้อยๆ

     
     

                “จะกลับห้องเลยไหม เดี๋ยวเราไปส่ง” ผมถามเขา ตอนนี้ผมออกมาหน้าห้องแล้วล่ะ ไม่อยากให้พวกในห้องมองจุนมยอนนาน นี่หวงนะ

     
     

                “อื้อ กลับเลยก็ได้” หลังจากพูดจบเขาก็เดินนำผมเฉย แต่ด้วยความหน้าด้านผมเลยรีบเดินไปเคียงข้างๆตัวเขา เราเดินกันเงียบๆนะ แต่ทำไมผมต้องยิ้มแบบนี้ด้วย มีความสุขก็เก็บไปยิ้มคนเดียวที่บ้านสิ

     
     

                “เดี๋ยวคืนนี้ทักไลน์ไปนะ” ผมบอกกับจุนมยอนแล้วบ้ายบายให้ รอจนเขาเดินไปนั่งที่ตัวเองแล้วจึงพาหน้าหล่อๆของตัวเองกลับไปที่ห้องเรียนของตัวเอง ระหว่างทางก็นึกหาคำพูดมาทับแบคฮยอน เป็นไงล่ะ เป็นไง นี่ใครครับ แดฮยอนไง

     

     

               

                “ไอ้เชี่ยแดฮยอน มึงนี่มัน!!” พอผมเดินมาถึงหน้าห้อง สิ่งแรกที่ได้ยินคือเสียงแบคฮยอนตะโกนออกมา จะอะไรนักหนา มันรักผมมากใช่ไหม

     
     

                “ไรมึง ไอ้แคระแกรน” ผมเดินเข้าไปในห้อง เพื่อนในห้องยังมองที่ผมมาทางเดียว มันคงรอให้ผมกับแบคฮยอนคุยกัน คือคงอยากเสือกมากเรื่องคนอื่น

     
     

                “มึง มึงไปหลอกจุนมยอนอิท่าไหน” มันพูดเสียงเบาลงมา ผมยักไหล่ตอบมัน

     
     

                “ไม่ได้หลอก กูชอบเขาจริงๆ” ผมตอบมันไปอย่างจริงจัง นี่ก็คุยกับจุนมยอนมาได้จะสองเดือนแล้ว แล้วตอนนี้ผมกับเขาก็รู้เรื่องของกันและกันมากแล้วด้วย บอกแล้วไงคนนี้จริงจัง

     
     

                “แต่จุนมยอนเพื่อนกู” เอาล่ะสิมันหวงเพื่อนหรือยังไงกัน นี่กูไม่ใช่เพื่อนมึงเลยมั้งไอ้แคระ

     
     

                “เพื่อนมึง กูก็เพื่อนมึง จุนมยอนไม่ใช่ผัวมึงหนิ เกี่ยวไรวะ” ผมตอกกลับไป เอาสิ มันจะหวงเพื่อนมันอะไรนักหนา ผมก็ไม่ได้เป็นคนเลวอะไรสักหน่อย จริงไหม

     
     

                “แต่..”

     
     

                “มึงจะแต่หาเตี่ยมึงหรอ กูชอบเขาจริงๆ กูชอบอ่ะมึง มึงเห็นกูเป็นคนยังไง กูก็ไม่ได้นิสัยเหี้ยมากมายเลยนะ มึงจะกลัวอะไร มึงหวงเพื่อนหรอ มึงนี่มัน..” ผมหมดความอดทน พล่ามออกไปจนหมด

     
     

                “เอ้า ไอ้เหี้ยมาว่ากูเฉย ตัดพ้อหาไรวะ กูก็แค่จะบอกว่าจุนมยอนมันเป็นคนดีมากเฉยๆ ถ้าชอบมันจริงแบบนี้ก็ไม่ว่าอะไร ไอ้เหี้ย ตบหัวกูหาพ่อมึงหรอ” ผมตบหัวมันดังเปี๊ยะ ก็พูดมาตั้งนาน หวงเพื่อนว่างั้น เป็นห่วงจุนมยอนกลัวผมไม่ชอบเพื่อนมันจริง โถ้ ไอ้เด็ก

     
     

                “กูชอบจุนมยอนจริงๆ ถ้ากูไม่จริงจัง กูไม่คุยกันนานขนาดนี้หรอก” ตอบไปอย่างจริงใจไม่จิงโจ้คร็อกโครไดล์โคอาล่า แบคฮยอนมันถอนหายใจเหนื่อยๆแล้วทำมือไล่ผม มันยอมแล้วสินะ กว่าแม่งจะยอม

     

     

     

     
     

                ตั้งแต่คราวนั้นที่ผมกับแบคฮยอนมันเปิดอกคุยกันแบบผู้ชายเรื่องจุนมยอน โถ้ ก็นึกว่าเรื่องอะไรใช่ไหมครับ เรื่องจุนมยอนนั่นแหละ นี่ก็ผ่านมาสองเดือนและ แล้ววันนี้ก็เป็นวัน..

     
     

                ผมให้เวลานึก ตอบผมสิ

     
     

                โอเค แต่แด๊น วันเกิดจุนมยอนไงครับ ผมจะทำให้มันเป็นวันสำคัญของเราทั้งคู่ ผมตั้งใจแล้วล่ะว่าจะขอเขาเป็นแฟนวันนี้ เป็นไง ไอเดียบรรเจิด

     
     

                “มึง.. กูควรให้เค้กเขาตอนไหนดีวะ” ผมประหม่ามาก ถึงขนาดถามไอ้แคระแกรนนี่เลยทีเดียว เค้กเตรียมแล้วล่ะครับ ฝากไว้กับป้าร้านขายน้ำ

     
     

                “เลิกเรียน ตอนไหนก็ได้ มึงอยากให้ตอนคนเยอะหรือคนน้อยล่ะ” แบคฮยอนมันถามผมกลับ นั่นสินะ ผมจะให้มีสักขีพยานรักเราดีไหมนะ

     
     

                “กูจะให้เขาตอนไม่มีคนว่ะ มึงช่วยพาเขาไปที่ไหนหน่อยได้ไหมวะ” ผมเริ่มจะลนลาน สรรหาวิธีมากมายตอนนี้ในหัว อีกไม่กี่นาทีจะถึงเวลาเลิกเรียน เทียบกับว่าผมเหลือเวลาอีกนิดเดียวที่จะเตรียมตัว

     
     

                “เออเดี๋ยวออดปั๊ป กูวิ่งไปหาจุนมยอนเลย มึงก็เตรียมๆไรก็เรื่องของมึง ไอ้เหี้ยใช่เรื่องของกูป่ะเนี่ย” มันบ่นครับ แบคฮยอนมันบ่น นี่มึงช่วยขนาดนี้แล้วยังจะบ่นอีกหรอ

     
     

                “เออขอบใจว่ะเพื่อน”

     

     

     

                ออดเลิกเรียนแล้วครับ ไอ้แบคฮยอนมันวิ่งไปจริงๆอย่างที่พูด คือตอนนี้ผมต้องพาตัวเองมาหาคุณป้าร้านขายน้ำก่อน

     
     

                “ป้าครับ ป้าเค้กผมอ่ะ” ผมเรียกหาคุณป้าอย่างสนิทสนม

     
     

                “เออๆๆ แล้วนี่วันเกิดใครล่ะ” ผมรับเค้กมาจากป้าคนขาย ป้าเขาถามผม จริงๆผมเขินนะเนี่ย

     
     

                “เค้ก ให้ว่าที่แฟน ฮิฮิฮิ” ป้าเขาโบกมือไล่ผม แต่ก็หัวเราะกลับมานะ

     
     

                แบคฮยอนมันโทรมาบอกแล้วครับ มันพาตัวจุนมยอนมาที่สนามฟุตบอล ไอ้เหี้ยครับ โคตรโรแมนติกเลย นักฟุตบอลเต็มที่ นี่แหละสักขีพยานรักผม

     
     

                ผมเดินดุ่มๆไปเงียบๆ แอบอยู่หลังเสา เห็นหน้าจุนมยอนแล้วรู้สึกใจเต้นตึกตัก ทำอย่างกับไม่เคยขอใครเป็นแฟนซะงั้นเลย ตื่นเต้นนะเนี่ย

     
     

                ผมเริ่มเปิดฝากล่องเค้ก เอาไฟแช็คจากเพื่อน ย้ำนะว่าเพื่อนผมบอกแล้วว่าเลิกสูบ มาจุดบนเค้ก เทียนเล่มเดียวครับเป็นรูปหัวใจ เพราะผมจะสื่อว่าจะมีแค่เขาคนเดียวเป็นไงล่ะ ลึกซึ้งสุดๆ

     
     

                โอเค ผมมั่นใจละ หน้าเป๊ะ เค้กเป๊ะ คำพูดในหัวเป๊ะ ผมเดินออกมาจากมุมเสา แบคฮยอนจับจุนมยอนหันมาทางผม ผมยิ้มให้เขา วันนี้ทั้งวันเราแทบจะไม่ได้เห็นหน้ากันเลยครับ ตอนนี้ผมได้เห็นหน้าเขาชัดๆแล้ว

     
     

                จุนมยอนยิ้มกว้างให้ผม เขาดูตื่นเต้นนิดๆนะ เมื่อเห็นเค้กในมือผม ผมก้าวเท้าไปหาเขาเร็วๆ กลัวเทียนดับไง กลัวน้ำตาเทียนย้อยใส่ด้วย อุตส่าห์เขียนหน้าเค้กเอง

     
     

                “สุขสันต์วันเกิดนะครับจุนมยอน” จุนมยอนก้มหน้ามามองหน้าเค้ก ก่อนจะปิดปาก แก้มเขาขึ้นสีแดงลามไปถึงใบหู เห็นแล้วสินะคำที่ผมเขียนไว้บนหน้าเค้ก

     
     

                สุขสันต์วันเกิดนะครับ คิมจุนมยอนนางฟ้าของผม

                เป็น แฟน กับ ผม นะ ครับ

     
     

                “เป็นแฟนกับผมนะครับ” อ่า หน้าตอนนี้เขาน่ารักมากจริงๆ ทำไมกันนะ น้ำตาคลอด้วยอ่ะ นี่อย่าร้องไห้นะครับ ผมไม่อยากเห็นน้ำตาจุนมยอน

     
     

                “อื้อ” เขาพยักหน้ารับ รอยยิ้มกว้างถูกส่งคืนให้ผม มีความสุข.. เป็นแฟนกันแล้ว เราเป็นแฟนกันแล้ว ผมกับจุนมยอนเป็นแฟนกันแล้ว

     
     

                “อธิษฐานก่อนเป่าเทียนสิจุนมยอน” ผมบอกเขา จุนมยอนพยักหน้าแล้วประกบมือหลับตาพริ้ม สงสัยจะอธิษฐานอะไรสักอย่างดูสิยิ้มหวานเชียว

               

    “ขอพรว่าไรอ้ะ” ผมถามไปหลังจากที่จุนมยอนเป่าเทียนเสร็จ

     
     

    “ถ้าบอกมันจะไม่เป็นจริงนะ เราไม่บอกหรอก” จุนมยอนพูดเสียงใส อ่า นั่นสินะ ผมเอามือลูบหัวเขาเบาๆ ตอนนี้ผมกับเขาช่วยกันถือกล่องเค้กคนละมือ แบคฮยอนมันหนีไปตั้งนานแล้วครับ มันคงไม่อยากเห็นฉากชวนเลี่ยนแบบนี้

     
     

    “นั่นสินะ เราไม่อวยพรให้นะ” จุนมยอนทำหน้าสงสัย ผมเลยต้องเฉลยเขาก่อนที่คิ้วนั่นจะขดเป็นปมมากกว่านี้

     
     

    “ไม่อวยพรเราจริงๆหรอ” อ่า เดี๋ยวสิครับ อย่าเร่งเร้าผม

     
     

    “ก็ได้ รักนะครับ จะรักไปเรื่อยๆ จะรักไปนานๆ จะรักจุนมยอนแบบนี้ จุนมยอนต้องรักแดฮยอนให้มากนะครับ รักแดฮยอนให้เหมือนที่แดฮยอนรักจุนมยอน มีความสุขนะครับ” ผมเห็นเขาหัวเราะแหละ อะไรกันนี่อวยพรแล้วนะ บอกรักด้วยนะ

     
     

    “คนบ้า นี่มันอวยพรซะที่ไหนเล่า” ดูสิ เขินบิดม้วนเลย น่ารักที่สุดเลย

     
     

    “อวยพรจริงๆนี่นา” ผมบอก

     
     

    “นี่แดฮยอน” จุนมยอนเรียกผม ตอนนี้เขาเงยหน้าขึ้นมามองหน้าผมชัดๆ ปากสีชมพูนั่นเม้มเข้าหากันเบาๆ เขาจะบอกอะไรผมกัน

     
     

    “หือ”

     

     

    “รักเหมือนกันนะ” อ่า.. จุนมยอนอา ผมก็รักจุนมยอนที่สุดเลย

     

     

     

     

     

    ใครว่าผมเด็ดดอกฟ้าล่ะครับ.. ผมออกจะประครบประหงม แล้วรักขนาดนี้

     

     

     

     

     

    END





    อยากคุย:

    สวัสดีทุกท่าน ๕๕๕๕
    อย่าตกใจว่านี่มันฟิคคู่บ้าอะไรเนี่ย! แน่นอน เราจะสานสัมพันธ์ TS x SM 
    คู่นี้ไม่อะไรมากเลย เราแค่ชอบคนที่สีผิว แดฮยอนxจุนมยอน คิดดูสิคะ ๕๕
    หมวดบันเทิงค่ะ อ่านเพลินๆ อย่าใส่ใจมากเลย

    ขอบคุณค่ะ 

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×