ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ( SF EXO ) ' Something Special '

    ลำดับตอนที่ #18 : [SF] :: ใจไม่เย็นบ้างเป็นไหม (Kai x Hun)

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.14K
      3
      6 เม.ย. 56

    ใจไม่เย็นบ้างเป็นไหม
    Kai x Sehun





     




     

                ท้องฟ้ายามเย็นเริ่มเปลี่ยนสีกลายเป็นสีส้มอ่อน แสงอาทิตย์สาดส่องผ่านก้อนเมฆสีขาวที่ลอยฟุ้ง โรงเรียนมัธยมปลายชื่อดังในโซลยังคราคร่ำไปด้วยนักเรียน มีทั้งพวกเด็กเรียนที่ติวหนังสือ นักกีฬาหุ่นฟิตที่ซ้อมกันอย่างแข็งขัน หรือแม้กระทั่งกลุ่มคนที่ใช้สถานที่ในโรงเรียนเป็นที่นัดรอสำหรับการออกไปเที่ยวพักผ่อนหย่อนใจ และก็ยังมีอีกหนึ่งในคนที่ไม่รู้แม้แต่สถานภาพตัวเองตอนนี้ว่าเป็นพวกไหนกันแน่อย่าง..

     
     

                โอ เซฮุน

     
     

                หนุ่มน้อยผมบลอนด์อ่อนนั่งรออยู่หน้าห้องสมุดมานานครึ่งชั่วโมง ตัวเขาอาจจะโดนจัดอยู่ในพวกติวหนังสือไปแล้วก็ได้ เพราะตอนนี้เขาเองนั้นมีหนังสือฟิสิกส์เล่มหนาวางเปิดอยู่ที่ตัก หรือ เขาควรโดนจัดอยู่ในกลุ่มรอนักกีฬาหุ่นฟิตที่ซ้อมบอลอยู่ตรงสนามด้านหน้าห้องสมุด หรือ อยู่ในพวกรอใครบางคนมารับเพื่อไปเที่ยวพักผ่อนหย่อนใจ เขาเริ่มไม่แน่ใจแล้วล่ะว่าตัวเองถูกจัดอยู่ในหมวดไหนกันแน่

     
     

                นักกีฬาหุ่นฟิตที่ว่าก็คงไม่พ้นใครที่ไหน คิม จงอิน นั่นเอง สถานะตอนนี้ของเราคือคบหาดูใจกัน พูดง่ายๆให้เข้าใจก็เป็นแฟนกันนั่นแหละ แต่ ต้องเติมคำว่าแต่เข้าไป แต่จงอินเป็นผู้ชายประเภท พวกที่ไม่ค่อยแสดงออกว่ารู้สึกอย่างไร และปัญหาที่ตามมาก็คือตัวเขาเองที่คิดไปต่างๆนานาว่าแฟนคนนี้เคยให้ความสนใจกับเขาบ้างรึเปล่า มากแค่ไหนกันที่ห่วงใย หรือสนใจแต่เจ้าลูกกลมๆนั่นที่กลิ้งไปมาบนสนามหญ้า ทุกวันนี้เขาก็แทบอยากจะเอาเจ้าลูกบอลนั่นมาเจาะ เจาะให้มันแตก ไม่ต้องให้จงอินสนใจมัน ไม่ต้องยิ้มอีกเวลาเล่นฟุตบอล เพราะแม้แต่คนที่เป็นแฟนอย่างเซฮุนเอง จงอินยังไม่ยิ้มกว้างให้ขนาดนี้

     

               


    จงอินที่ซ้อมเตะบอลเสร็จแล้วเดินมาตรงแถวที่เซฮุนนั่ง มือหนานำมาวางไว้บนหัวของร่างบางที่นั่งสับผงกอยู่ บนตักของเซฮุนมีหนังสือฟิสิกส์กางเปิดไว้ ดินสอกดยังถูกกำไว้อยู่ในมือหลวมๆ จงอินก้มหน้าลงมามองหน้ากระดาษที่เปิดค้างไว้แล้วยิ้มออกมาน้อยๆ รอยดินสอกดยุกยิกในหน้ากระดาษเป็นรูปการ์ตูนผู้ชายเตะบอล แล้วมีแมวน้อยตัวหนึ่งนั่งอยู่ข้างๆกำลังทำหน้าบึ้งอยู่ แถมข้างตัวยังมีเขียนประกอบว่าเบื่อแล้วนะ ช้าจังเลย จะงอนแล้วด้วย เมื่อเห็นอย่างนั้นจงอินเลยหัวเราะออกมาเบาๆ แล้วยีผมสีพบลอนด์อ่อนนั่นอย่างเบามือ

               

    “อือ.. จงอินซ้อมเสร็จแล้วหรอ” ร่างบางที่โดนกวนจากนิทราปรือตาหันมามองเจ้าของมือหนาที่วางอยู่บนหัวทุยของตัวเอง มือบางขยี้ตาตัวเองเบาๆ แต่กลับโดนมือหนาของจงอินจับเอาไว้ไม่ให้ขยี้ต่อ

     
     

    “อื้ม จะไปไหนหรือเปล่า” จงอินเอ่ยปากถามออกไปพร้อมกับลงมานั่งข้างๆเซฮุน บิดขี้เกียจเล็กน้อยแล้วนำผ้าเช็ดตัวผืนเล็กมาซับเหงื่อบนหน้าตัวเอง แต่แล้วเสียงโทรศัพท์มือถือของร่างบางก็ดังขึ้นจนทำให้คนที่นั่งพักผ่อนหย่อนใจรอคำตอบยักหัวคิ้วขึ้นอย่างแปลกใจ

     
     

    “อ่า แปปนึงนะจงอิน พี่ชานยอลโทรมา” ร่างหนาพยักหน้ารับแล้วหันหน้าออกไปมองผู้คนที่เดินสันจรกันไปมา เซฮุนถอนหายใจออกมาเบาๆแล้วกดรับสายรุ่นพี่ตัวสูงอย่างเหนื่อยใจ จงอินก็ยังเป็นจงอิน ไม่เคยสนใจเขาเลยไม่ว่าใครจะโทรมา

     
     

    “ครับ จะพาไปดูหนังตอนนี้หรอครับ เดี๋ยวสักครู่นะพี่ชานยอล” หน้าตาที่ไม่บ่งบอกอารมณ์ของจงอินยามที่เขาคุยกับพี่ชานยอลทำให้เกิดความรู้สึกน้อยใจขึ้นมา ไม่มีแม้แต่อาการสนใจเขาแม้กระทั่งกำลังคุยกันเรื่องที่จะไปดูหนัง นี่ขนาดคุยกันต่อหน้าแล้วนะ พี่ชานยอลจะมารับแฟนของตัวเองไปดูหนังแท้ๆ จงอินยังไม่สนใจเลย เหนื่อยใจจริงๆ หรือตอนนี้เขาอาจจะคิดมากเกินไป

     
     

    “พี่ชานยอลจะพาไปเลี้ยงหนัง วันนี้เขาบอกว่างานที่ฉันไปช่วยเขาตอนนั้นมันผ่านแล้วล่ะ”

     
     

    เซฮุนลดระดับมือถือลง มือบางนำมาปิดไว้ไม่ให้เสียงที่คุยกันผ่านเข้าไปให้คนที่รอสายอยู่ได้ยิน ร่างหนาเหล่ตามามองที่มือถือเล็กน้อยก่อนจะหันกลับไปมองที่ทางเดินตามเดิม เซฮุนถอนหายใจออกมาแล้วยกมือถือขึ้นมาเพื่อคุยกับพี่ชานยอลอีกครั้ง

     
     

    “ขอโทษนะครับ วันนี้ผมไม่ว่างจริงๆ โอกาสหน้านะครับ ครับ น่าไม่เบี้ยวแล้ว สวัสดีครับ”

     
     

    ด้านจงอินที่หันหน้าออกไปมองตรงทางเดิน แอบจุดยิ้มขึ้นที่มุมปากเล็กน้อยเมื่อได้ยินว่าร่างบางปฏิเสธการชวนไปดูหนังกับรุ่นพี่ตัวสูงคนนั้น ที่ดันไม่ยอมแพ้เรื่องการตามจีบเซฮุน อย่าคิดว่าจงอินจะไม่รู้

     
     

    “จงอิน ไปซื้อชานมไข่มุกกันเถอะ” ร่างบางที่หวังจะเปลี่ยนเรื่องแสนตึงนี้ ลุกขึ้นยืนเต็มความสูง ก้มตัวลงไปมองหน้าร่างหนาเล็กน้อยแล้วแลบลิ้นออกมา คนที่โดนทำหน้าตาหน้าหมั่นเขี้ยวใส่มีหรือจะอดใจได้ มือหนานำมาบีบจมูกโด่งของเซฮุนเบาๆด้วยความหมั่นเขี้ยวแล้วลุกขึ้นเดินนำร่างบางออกไป

     
     

    คนที่เดินนำออกไปจะรู้ไหมนะว่าคนที่ยืนอยู่ข้างหลังนี้รู้สึกอย่างไรบ้าง เซฮุนเอื้อมมือไปหยิบหนังสือฟิสิกส์กับดินสอกดใส่กระเป๋านักเรียงของตัวเอง แล้วเริ่มเดินตามคนที่เดินไปก่อนด้วยหัวใจที่บีบแน่นไปด้วยความรู้สึกต่างๆ จงอินไม่เคยใส่ใจเขาเลย

     
     

    ร่างบางรีบก้าวเท้าเดินตามให้ทันกับร่างหนา ขายาวก้าวช้าลงเหมือนกับรอให้เซฮุนเดินตามให้ทัน จนกระทั่งทั้งคู่ได้มาเดินเคียงข้างกัน จงอินเหล่สายตาไปมองคนตัวบางข้างกายที่หน้าบูดบึ้งเหมือนกำลังโกรธเคืองใครสักคน สงสัยคงจะเป็นจงอินเองอีกตามเคยนั่นแหละนะ

     
     

    มือหนาเอื้อมไปหยิบกระเป๋าเรียนของเซฮุนมาถือไว้ด้วยตัวเอง ร่างบางเงยหน้าขึ้นไปมองจงอินเล็กน้อยแล้วก้มลงมองพื้นอีกครั้ง ริมฝีปากบางคลี่ยิ้มสวยออกมา หัวใจที่เคยบีบแน่นกลับรู้สึกพองโตมีชีวิตชีวาอีกครั้ง จงอินเป็นผู้ชายที่แสดงออกไม่เก่ง.. เขาก็รู้ดี

     
     

    แต่ก็อยากรู้บ้าง.. ว่าเคยรู้สึกหึงหวงเขาไหม

     

     


     

    “อร่อยไหม” จงอินหันไปถามร่างบางที่ตอนนี้นั่งดูดชานมไข่มุกอยู่ในร้านเสียจนแก้มตุ่ย เซฮุนพยักหน้ารับ เคี้ยวไข่มุกแล้วยิ้มแก้มป่องส่งตาหยีครึ่งจันทร์เสี้ยวมาให้ พอคนรักมีความสุข ก็อดไม่ได้ที่จะมีความสุขตาม รอยยิ้มไม่กว้างนักเผยออกมา มุมปากของร่างหนายกขึ้นเล็กน้อย ถ้าเกิดเซฮุนได้เห็นว่าคนรักมองตัวเองด้วยสายตาท่าทางแบบไหนก็คงดีสิ .. จะได้ไม่ต้องมานั่งคิดเองเออเองแบบนี้อีก

     
     

    “อ้าวเซฮุน มาร้านนี้เหมือนกันหรอเนี่ย” เสียงหวานที่ทักเรียกเซฮุนดังขึ้นใกล้ๆประตู ลู่หานรุ่นพี่หน้าหวานรีบเดินปรี่เข้ามาหารุ่นน้องคนสนิทอย่างลืมตัว แขนเรียวเล็กยื่นมาโอบไหล่แล้วหันมาถามความเป็นอยู่เหมือนกับว่าไม่ได้คุยกันมานานหลายปี

     
     

    “ครับพี่ นี่เสี่ยวลู่มาคนเดียวหรอ อ้าวพี่คริสสวัสดีครับ” ร่างบางทักลู่หานด้วยการหยิกหยอกลงไปที่แก้มใสนั่นเบาๆ เสียงหัวเราะเผยออกมาเล็กน้อยจากด้านหลังของลู่หาน เซฮุนถึงได้รู้ว่ารุ่นพี่คนสนิทของเขาไม่ได้มาตัวคนเดียว

     
     

    “สวัสดีเซฮุน ช่วงนี้ไม่เจอกันเลยนะเรา” คริสเอื้อมมือมาจับที่ไหล่บางของเซฮุนเป็นการทักทาย ร่างบางก้มหัวให้แล้วส่งยิ้มหวานน่ารักออกไปให้พี่ๆได้เอ็นดู พูดคุยกันเล็กน้อยตามประสาคนกันเอง แต่ดูเหมือนว่าพวกเขาจะลืมคนสำคัญบางคนที่เริ่มทำหน้าหงิกเป็นตูดลิง

     
     

    “อ้าว จงอินอยู่ด้วยหรอ พี่ขอโทษนะ เพิ่งเห็น ฮิฮิ” ร่างหนาคิ้วกระตุกขึ้นด้วยความหงุดหงิด เสียงหัวเราะคิกคักของลู่หานทำให้จงอินปวดประสาทเบาๆ แล้วยิ่งน้ำเสียงทุ้มของคริสที่คุยกับเซฮุนนั้นยิ่งแล้วใหญ่ รุ่นพี่พวกนี้กำลังแกล้งจงอินอยู่ แต่ร่างบางที่เป็นประเด็นหลักกลับไม่รู้สึกตัวนี่สิ มันน่านัก

     
     

    “คิ้วขมวดเลยนะ” คริสเอ่ยออกมาอย่างรู้ทัน ลู่หานมองอาการคนรักของรุ่นน้องคนสนิทอย่างอารมณ์ขัน คนที่ไม่แสดงออกแบบนี้สมควรแกล้งซะให้เข็ด ดูก็รู้ว่าเซฮุนน่ะกังวลใจเรื่องนี้แค่ไหน เพราะหลายวันมานี้ที่คุยกันเซฮุนก็จะมีเผลอพูดเรื่องนี้ออกมาบ้าง จนคนที่เป็นพี่แสนดีแบบเขาทนต่อไปไม่ได้

     
     

    คริสนำมือมาวางไว้ที่ผมสีบลอนด์อ่อนของเซฮุนแล้วลูบเบาๆ ลู่หานเฝ้ามองอาการของจงอินอยู่เงียบๆ แล้วยกยิ้มขึ้นมา เซฮุนที่ไม่รู้ตัวเลยว่าถูกใช้ให้เป็นตัววัดอารมณ์ของคนรัก ก็ยังคงพูดจาออดอ้อนพวกพี่ชายอยู่อย่างนั้น

     
     

    “ใจเย็นจังเลยนะ คิม จงอิน” ลู่หานที่เห็นว่าเซฮุนคุยอยู่กับคริสอย่างออกรสจึงยืดหน้าเข้าไปกระซิบใกล้กับหูของจงอิน คนที่ได้ยินประโยคดังกล่าวขมวดคิ้วจนเป็นปม แต่พอเห็นหน้าตาล้อเลียนของลู่หานที่ส่งออกมา เลยจำใจต้องคลายปมคิ้วนั่นด้วยความรู้สึกที่ขุ่นเคือง

     
     

    “ไม่หึง ไม่หวงบ้างหรือไง นั่นแฟนนายนะ” ลู่หานพูดลอยออกมาเบาๆให้จงอินได้ยินคนเดียว คนฟังเริ่มกำมือที่อยู่ในโต๊ะแน่น สายตาคมหันไปมองคนรักของตัวเองที่กำลังคุยกับรุ่นพี่ตัวสูงนั่นอย่างออกรส

     
     

    “ดูเหมือนเพื่อนฉันจะชอบแฟนนายอยู่เหมือนกันนะ” ลู่หานยังคงพูดยุยงจงอิน ภาพตรงหน้าเผยให้เห็นว่าตอนนี้ร่างบางกำลังถูกเพื่อนของพี่หน้าหวานคนนี้ทำรุ่มร่ามอย่างไรบ้าง

     
     

    หน้าที่ห่างกันเพียงเล็กน้อยของคริสกับเซฮุน จมูกโด่งของคริสเฉียดเข้าที่แก้มใสของเซฮุน คนที่โดนทำรุ่มร่ามใส่กลับไม่รู้เรื่องรู้ราวเลยสักนิด ยังคงยิ้มหวานส่งไปให้อยู่อย่างนั้น

     
     

    มือหนากำแน่นอยู่ที่หน้าขาของตัวเอง ปากหนาขบกัดกันแน่น อารมณ์ที่คุกรุ่นอยู่คล้ายจะปะทุออกมาอยู่เต็มแก่ คนที่ลอบมองอยู่ยกยิ้มมุมปากขึ้นมาอย่างนึกสนุก คริสหันมาเหล่มองจงอินเล็กน้อยก่อนจะนำแขนเอื้อมมาคล้องคอของเซฮุนแล้วเขยิบหน้าเข้าไปกระซิบใกล้ๆ แต่ดูจากมุมที่จงอินเห็นมันอาจจะมากกว่าความเป็นจริงไปหน่อย

     
     

    “ปล่อย!

     
     

    หลังจากเสียงเข้มของจงอินตะคอกออกไป ร่างหนาก็พุ่งตัวเข้าไปปล่อยหมัดดุ้นเข้าไปเต็มๆที่แก้มขวาของคริส แขนที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามอ่อนดันให้เซฮุนไปอยู่ด้านข้างเบาๆเพื่อหนีให้พ้นจากองศาของอารมณ์ร้อนของตัวเอง จงอินเดินเข้าไปใกล้กับคริสที่จับมุมปากที่ช้ำแตกของตัวเอง ร่างสูงหันมายิ้มมุมปากให้แล้วยืดตัวขึ้นรอรับการกระทำต่อไปที่รุ่นน้องคนนี้จะสานต่อให้

     
     

    มือหนาขยำเข้าไปที่คอเสื้อของคริสแน่น ดวงตาที่เคยอบอุ่นเสมอเวลามองเซฮุนกลับแข็งกร้าวขึ้นมาอย่างประหลาด จนเซฮุนทำตัวไม่ถูกกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ลู่หานที่เห็นว่าร่างบางเริ่มอาการไม่ดีจึงเดินเข้าไปใกล้แล้วจับเอวพาตัวเซฮุนออกมาห่างจากเหตุการณ์หึงรุนแรงของจงอิน

     
     

    “เขากำลังหึงนายอยู่นะเซฮุน ฮ่ะๆ” ลู่หานอธิบายอาการของจงอินให้กับเซฮุนฟังพร้อมเสียงหัวเราะ ร่างบางเมื่อรับรู้ได้ว่าเกิดอะไรขึ้นรีบวิ่งเข้าไปห้ามเหตุการณ์ทะเลาะกัน จงอินกำลังจะปล่อยหมัดที่สองใส่คริส เซฮุนวิ่งเข้าไปขวางข้างหน้าของทั้งคู่แล้วหันมามองจงอิน

     
     

    “พอแล้ว.. พอแล้วนะจงอิน” เอ่ยออกมาด้วยเสียงที่สั่นเทา น้ำตาใสคลอหน่วงอยู่ในขอบตา ปากบางสีชมพูอ่อนเม้มจนเป็นเส้นตรง จงอินที่เห็นท่าทางแบบนี้ของเซฮุนจึงลดหมัดนั้นลงข้างตัว แล้วยกแขนขึ้นมาจับหัวของเซฮุนให้เข้ามาซบที่อกหนาของตัวเองแล้วนำมืออีกข้างลูบผมสีบลอนด์นั่นอย่างเบามือ

     
     

    “พอแล้ว ไม่ทำแล้ว ไม่ร้องนะ” ริมฝีปากหนาพร่ำบอกอยู่บนกลุ่มผมนุ่มของเซฮุน จูบย้ำบริเวณกระหม่อมของเซฮุน เอ่ยคำพูดปลอบโยนไปให้พร้อมกับลูบหลังบางนั้น

     
     

    “รู้แล้ว.. ฉันขอโทษ ฉันผิดเอง ฉันขอโทษ” ร่างที่อยู่ภายใต้อ้อมกอดสั่นนิดๆ ความรู้สึกอัดอั้นในอกกล่าวออกมากลายเป็นคำว่าขอโทษ เซฮุนกอดรัดร่างของจงอินแน่น มือบางกำเสื้อนักเรียนของจงอินจนยุ่ยหมายจะให้เป็นที่ยึดเหนี่ยวในเวลานี้

     
     

    “ขอโทษทำไม เซฮุนไม่ผิด ฉันเอง ฉันหึงนาย ฉันหวงนาย รุ่นพี่คริสนั่นทำรุ่มร่ามกับนายนะ”

    จมูกโด่งสูดกลิ่นแชมพูเด็กบนเส้นผมของเซฮุน ปากหยักบอกสาเหตุที่เข้าไปทำร้ายรุ่นพี่นั่นให้เซฮุนฟัง คนที่ได้รับรู้ถึงเรื่องราวก็ถึงกับตาโตแล้วซุกหน้าเข้าไปกับอกแน่นกว่าเดิม

     
     

    จงอินทำเพราะ หึง ..

     
     

    “ฉันขอโทษ แต่.. พี่คริสไม่ได้ทำอะไรฉันจริงๆนะจงอิน” เซฮุนเงยหน้าขึ้นจากอกแกร่งแล้วช้อนสายตาขึ้นไปสบเข้ากับดวงตาคมของจงอิน สายตาที่มองมาพร้อมกับความรัก สายตาที่ทั้งหวานและลึกซึ้ง

     

     
     

    “ใช่! คริสไม่ได้ทำอะไรซะหน่อย”

    เหมือนเป็นเสียงขัดบรรยากาศอันหวานซึ้งของจงอินและเซฮุน ลู่หานหันมาพูดใส่หน้าของจงอินอย่างเสียงดังแล้วพยุงแขนของคริสให้มายืนข้างกายตัวเอง

     
     

    “ฉันแค่กระซิบจะถามเรื่องลู่หานกับเซฮุนเฉยๆเอง” คริสเฉลยออกมา คนที่อารมณ์เดือดเมื่อสักครู่หันมายกคิ้วด้วยความสงสัย ตาคมกริบจ้องมองไปยังลู่หานสลับกับคริสที่ยังคงจับมุมปากของตัวเองที่ช้ำเลือดอยู่อย่างนั้น

     
     

    “จริงๆนะจงอิน พี่คริสเขาเป็นแฟนกับพี่ลู่หาน” และประโยคสุดท้ายที่มาจากคนรักของเขาก็แทบทำให้จงอินกุมขมับด้วยความปวดหัว นึกไว้แล้วเชียวว่ากำลังโดนปั่นหัวโดยพวกรุ่นพี่

     
     

    “เอาเป็นว่าเข้าใจกันแล้วนะเซฮุน จงอิน ฉันจะพาคริสไปทำแผล นายทำแฟนฉันเสียโฉมจะมาคิดบัญชีทีหลัง แล้วก็ไปขอโทษเจ้าของร้านด้วยล่ะที่ทำให้เกิดเรื่องวุ่นวายแบบนี้ ฉันไปแล้ว”

    ลู่หานกล่าวเสียยืดยาวคล้ายกับจะสั่งสอนน้อง คริสที่ยืนข้างๆพยักหน้าเห็นด้วยกับเนื้อหาที่แฟนของตัวเองพูดออกมา มือเรียวยาวยังคงจับแผลที่มุมปากของตัวเองแล้วร้องออกมาเบาๆ เรียกร้องความสนใจจากลู่หาน จนคนที่พูดจบต้องหันมาดูแล้วยืดหน้าเข้าไปเป่าแผลให้ แล้วหันมายิ้มหวานให้เซฮุนพร้อมกับโบกมือบ้ายบาย มือบางดึงแขนคริสที่โบกมือลาเซฮุนอยู่ออกมานอกร้านเพื่อกลับไปทำแผลที่บ้าน

     
     

    “ขอโทษนะที่ทำให้เป็นเรื่องใหญ่เลย..” เซฮุนเอ่ยออกมาเสียงแผ่วเบา สีหน้าร่างบางดูหงอยเสียจนจงอินอยากจะจับใบหน้านั้น ให้หันมาแล้วมอบจูบหวานๆให้เป็นการปลอบโยน

     
     

    “ไม่ต้องขอโทษหรอกน่า ฉันเองก็อารมณ์ร้อนเกินไป” เอ่ยออกมาเบาๆพร้อมกับรอยยิ้มกว้าง ดวงตาคมหยีลงพร้อมกับส่งมือขึ้นไปลูบกลุ่มผมสีบลอนด์อย่างเบามือ

     
     

    “ฉันคิดว่าจงอินจะไม่ใส่ใจฉันซะแล้ว...”

    เซฮุนพูดออกมาเบาหวิว คนที่ได้ยินถึงกับเลิกคิ้วขึ้นด้วยความสงสัย แต่สุดท้ายก็ขำออกมาเสียยกใหญ่ จนคนที่คิดมากอย่างเซฮุนต้องหันไปตีเข้าทีไหล่หนาอย่างเคืองๆ

     
     

    “โอ้ย ไม่ต้องตี ทำไมคิดอย่างนั้นล่ะ” น้ำเสียงที่ดูสดชื่นขึ้นมาแล้วส่งถามกลับคืนไปให้ร่างบางบ้าง

     
     

    “ก็.. ก็จงอินไม่ค่อยแสดงออกมา วันๆก็ยิ้มให้แต่กับลูกบอล”

    เซฮุนพูดออกมาอย่างที่ใจคิดมาตลอด น้ำเสียงเบาลงในท้ายประโยค จงอินถึงกับขำออกมาอีกครั้งเมื่อร่างบางพูดถึงประโยคท้ายสุด ร่างหนายิ้มกว้างออกมาเห็นฟัน อดไม่ได้ที่จะต้องนำมือไปบีบจมูกรั้น

     
     

    “ฉันสนใจนายตลอดเวลาเซฮุน มีแต่นายนั่นแหละที่ไม่สนใจฉันเอง ไม่เคยรู้เลยว่าฉันหึง ฉันหวง ฉันไม่อยากให้ใครยุ่งกับนาย งอนดีไหมเนี่ย หืม” จงอินเอ่ยออกมาติดตลก ดวงตาคมจ้องลึกเข้าไปที่ตาเรียวใส สื่อความรู้สึกจริงจังทั้งหมดผ่านทางดวงตา

     
     

    “ไม่เอา ไม่ให้งอน แต่ถ้าจงอินงอนฉันก็จะง้อ ง้อจนกว่าจะหายงอน” ร่างบางพูดออกมาอย่างเจื้อยแจ้วจนคนฟังรู้สึกหมั่นเขี้ยว ประทับริมฝีปากทาบลงบางเบาแล้วถอยใบหน้าห่างออกมา คนที่อยู่ๆก็โดนจูบแบบเด็กๆแบบนี้ถึงกับหุบปากฉับ แก้มใสบัดนี้กลายเป็นสีแดงอ่อนลามไปถึงใบหู

     
     

    “ฉันรักนายเซฮุน”

     
     

               

    ใจไม่เย็นบ้างเป็นไหม     ใจไม่เย็นบ้างเป็นไหม

    ใจร้อนสักหน่อยคงดี     

    เธอช่วยงอนฉันบ้างสิ     งอนสักทีให้ฉันดู

    อยากได้รู้... ว่ารักฉันจริง

     

     


     

    “ฉันก็รักนายมาก.. จงอิน”

     

     

     

    END

     

     

     







     อยากคุย:

    เย้จบแล้ว มาอีกแล้วกับไคฮุนเจ้าเดิมค่า TvT
    เป็นเรื่องที่พอฟังเพลงปั๊ป อ่า... ปิ๊งขึ้นมาเลย ต้องแต่งให้ได้
    แล้วก็สำเร็จเสร็จออกมาแบบป่วงๆ ๕๕๕๕

     

    ขอบคุณที่ติดตามกันค่ะ ชู้บๆ 

     

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×