ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ( SF EXO ) ' Something Special '

    ลำดับตอนที่ #32 : [SF] :: Moonlight (Kai & Hun)

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 753
      0
      6 ส.ค. 56

    MoonLight

    Kai x Sehun

     

     

     








     

                สายลมอ่อนในค่ำคืนที่เงียบสงบ ทางกลับบ้านอยู่ไม่ไกลนัก แต่เซฮุนพยายามที่จะก้าวเท้าให้สั้นที่สุด รักษาเวลาเหล่านี้ให้ยาวนานเท่าที่ใจต้องการ

     

                รอยยิ้มเล็กจุดขึ้นที่มุมปาก หน้าของใครบางคนลอยขึ้นมาในห้วงความคิด แค่นึกถึงหัวใจดวงน้อยก็เต้นไม่เป็นส่ำ ริมฝีปากที่ส่งมอบรอยยิ้มให้อย่างไม่ตั้งใจ เผลอสบตาแล้วส่งผ่านความรู้สึกทั้งหมดไปให้ ไม่แน่ใจนักว่ารู้จักเขาคนนั้นดีรึยัง แต่ถ้าถามว่าชอบไหม ... ชอบมานานมากเลยล่ะ

     

                “อ้าว เซฮุน เซฮุนใช่ไหม” หัวใจดวงน้อยเต้นแรงอีกครั้งเพียงแค่ได้ยินเสียงที่เรียกมา ขาเรียวหยุดลงพร้อมกับหันหน้าไปหาต้นเสียง

     

                “ว่าไง จงอิน” ส่งรอยยิ้มที่คิดว่าหวานที่สุดไปให้ ดวงตาเรียวหยีเป็นสระอิ ไม่คิดว่าระหว่างทางกลับบ้านนึกถึงคนนั้นเล่นๆ จะได้เจอให้เห็นตัวจริงแบบนี้ ขอบคุณสวรรค์ที่รับรู้เสียงอ้อนวอนภายในใจ

     

                “ดึกแล้วนะ ทำไมอยู่ตรงนี้” อบอุ่นแม้ในค่ำคืนที่มีลมหนาวพัดผ่าน ดวงตาที่อบอุ่นทำเอาใจของเซฮุนเต้นแรง มันอุ่นจนร้อนลามไปถึงแก้ม มือขาวเลยต้องนำมากุมแก้มตัวเองไว้กันไม่ให้ต้นเหตุเห็น

     

                “ทางกลับบ้านน่ะ แล้วจงอินล่ะ”

     

                “มาซื้อของสดเข้าบ้าน” ชี้ไปด้านข้าง ประตูเลื่อนอัตโนมัติของทางร้านมินิมาร์ทเปิดกว้างจนแสงไฟจากข้างในส่องออกมา “กลับบ้านยังไง ทางไหนหรอ”

     

                “เดินไปเดี๋ยวก็ถึง ข้างหน้านี้เอง” เซฮุนชี้ไปทางข้างหน้าบ้าง แอบเหล่สายตามองยามที่คนข้างหน้าหันตามไปที่นิ้วมือชี้ จมูกโด่งเป็นสันรับกับริมฝีปากเป็นกระจับ นี่ยังไม่รวมดวงตาแสนคมที่จ้องแต่ละทีทำเอาลืมการหายใจ จะถือว่าหน้าตาของจงอินช่างพิเศษสุดสำหรับเซฮุนเลยก็ว่าได้

     

                “เดินไปส่งเอาไหม” พยักหน้าตอบรับแทบจะทันทีอย่างลืมตัว เซฮุนหัวเราะแหะพร้อมกับเกาแก้มแก้เขิน จงอินยื่นมือมาแย่งกระเป๋าสะพายที่เซฮุนถือไว้อยู่มาถือไว้เองกับมือ ก่อนจะรู้สึกว่ามันลำบากไปเลยเปลี่ยนมาเป็นสะพายไหล่แล้วใช้มืออีกข้างถือพวกของสดไว้คนละฝั่งกัน

     

                หัวใจดวงน้อยเต้นแรงคล้ายจะหลุดออกมา การหายใจเป็นเช่นไรเซฮุนแทบจะลืมไปชั่วขณะ รอยยิ้มเผยออกมาอย่างปิดไม่มิด โชคยังดีที่คนทำให้หัวใจเขาปั่นป่วนเดินนำไปก่อนหน้าแล้ว

     

                “รอด้วยสิจงอิน” เซฮุนเรียกเสียงเบา เสี้ยวหน้าคมหันมามองพร้อมรอยยิ้ม จงอินหยุดเดินพยักหน้าเชิงให้รีบตามมา รอร่างบางที่เชื่องช้าแล้วเดินไปพร้อมกัน

               

    ใกล้กว่านี้ ใกล้กว่าทุกครั้งที่เจอกัน อยากจะรู้จักจงอินให้มากขึ้นกว่าที่เป็นอยู่ อยากฟังเรื่องราวมากมายที่ออกมาจากปากกระจับ ไม่ว่าเรื่องอะไรที่พูดออกมาก็ดูน่าสนใจไปเสียหมด

     

    “แล้วทีนี้นะ เจ้ามงกูนะก็จะกระโดดขึ้นมาเลียปากตลอด” รอยยิ้มและเสียงหัวเราะมีความสุขของคนตรงหน้าช่างงดงามและมีเสน่ห์ จงอินเล่าเรื่องของตัวเองให้เซฮุนได้ฟัง ไม่ว่าจะเป็นช่วงมัธยมต้น หรือแม้แต่ตอนนี้ที่เล่าถึงเจ้าหมาน้อยที่บ้านตัวเอง

     

    “มันทำแบบนี้กับทุกคนเลยหรอ” เซฮุนถามขึ้นอย่างสนใจ จากที่ฟังและดูรูปจากคนข้างกายก็รู้สึกอยากทำความรู้จักกับเจ้าหมาตัวนี้บ้าง

     

    “เฉพาะคนน่ารักน่ะ วันหลังไปบ้านฉันไหม ไปหาเจ้ามงกูกัน”

     

    เป็นคำเชิญชวนที่แสนธรรมดา แต่เซฮุนรู้สึกราวกับมีดาวนับร้อยดวงสว่างอยู่ในอก ดาวตกที่ร่วงมากระแทกหัวใจเขาให้รู้สึกและย้ำว่าชอบคนตรงหน้ามากแค่ไหนกัน

     

    “ไปได้จริงๆหรอ” ถามกลับไปเบาๆ แม้ในใจจะตื่นเต้นรอกับคำตอบกลับของร่างหนา แต่ก็ทำได้เพียงกำมือแน่นเม้มริมฝีปากกลั้นยิ้มไว้

     

    “ทำไมจะไม่ได้ล่ะ จะไปตอนไหนเลยก็ได้นะ” ยิ้มอีกแล้ว จงอินเป็นผู้ชายที่ยิ้มได้แบบเรี่ยราดสุดๆ ยิ้มให้กับทุกคนด้วยความจริงใจ จนบางครั้งเซฮุนก็นึกอิจฉาทุกคนที่จงอินหันไปส่งยิ้มให้

     

    “ห้ามลืมก็แล้วกัน คิก” ยิ้มหวานและหัวเราะคิกคักไปอย่างลืมตัว จงอินหันมามองด้านที่ไม่ค่อยได้เห็นของเซฮุนด้วยสายตาแปลกใจ ก่อนจะแปรเปลี่ยนเป็นรอยยิ้มเอ็นดูคนข้างกาย

     

    “สัญญาด้วยเกียรติของนักกีฬา” ยกมือข้างที่มีถุงของสดทาบอก ต้นหอมอันใหญ่ที่โผล่พ้นมากระแทกหน้าจนต้องเบ้หน้าลง เซฮุนยกมือขึ้นปิดปากหัวเราะกับท่าทางโก๊ะๆของจงอิน

     

    เซฮุนเริ่มก้าวเท้าช้าลงจนจงอินสังเกตได้ ร่างหนาหันมามองแต่ก็ไม่เอ่ยปากถาม จงอินเดินเบียดไหล่ของเซฮุนไปเรื่อยๆโดยไม่พูดอะไร มีหลายครั้งที่ปลายนิ้วของทั้งคู่สะกิดไปโดนกัน และก็จะเป็นเซฮุนเองที่สะดุ้งผละมือออก เปลี่ยนมาเป็นเอามืออีกข้างมากำไว้หลวมๆ

     

    “เลี้ยวข้างหน้าก็ซอยบ้านแล้ว มาส่งแค่นี้ก็พอ” ร่างบางหยุดเท้าลงเมื่อเดินถึงหัวมุม หันไปส่งยิ้มหวานให้จงอินพร้อมกับแบมือรอรับกระเป๋าของตัวเอง

     

    “ไม่เป็นไร ไปส่งให้ถึงบ้านก็ได้” จงอินเบี่ยงตัวหลบมือของเซฮุนที่กำลังจะแกะสายกระเป๋าที่พาดอยู่บนไหล่ ร่างบางอมลมจนแก้มป่องก่อนจะพ่นออกมาแล้วพยักหน้าเป็นอันเข้าใจ ก้าวเท้าเดินต่อนำไปยังบ้านของตัวเอง

     

    “แค่นี้ก็พอจงอิน มันดึกแล้ว” พอเดินมาถึงครึ่งทางเซฮุนก็จับเข้าที่แขนของร่างหนาให้หยุดเดิน จงอินยื่นมือไปแกะมือขาวออกแล้วเปลี่ยนเป็นจับมือพาเดินต่อไปข้างหน้าโดยไม่สนใจเสียงเล็กที่พูดงุ้งงิ้งออกมา

     

    “ขอน้ำสักแก้วเป็นค่าพามาส่งไม่ได้หรอเซฮุน” พูดออกมาด้วยน้ำเสียงตัดพ้อ แต่สีหน้าที่สื่อออกมาช่างต่างกันอย่างลิบลับ จงอินกำมือเซฮุนแน่นเมื่อเห็นว่ามีรถยนต์ขับสวนทางออกมา

     

    “ระวังหน่อย” ย้ายตัวเองมาอีกฝั่งริมถนนแทน แล้วดันให้เซฮุนเข้าไปอยู่ข้างใน

     

    “อือ” พยายามจะดึงมือออกจากมืออุ่นของจงอิน เพราะหัวใจตอนนี้มันเต้นแรงจนแทบจะหายใจไม่ออก ถ้าเกิดมีเครื่องวัดจังหวะหัวใจ เส้นที่ขึ้นคงถี่ยิบจนน่ากลัว

     

    เกิดความเงียบขึ้นอีกครั้งสำหรับสองคน แต่เสียงรอบตัวกลับเต็มไปด้วยบรรยากาศผ่อนคลาย เสียงจิ้งหรีดและจักจั่นแข่งกันอวดเสียงใส มือของทั้งคู่ยังคงจับไม่ปล่อย อาจจะเป็นเพราะมือหนาที่กุมไว้ไม่ยอมคลายออก มือขาวเลยไม่กล้าขยับเขยื้อนดึงออกเหมือนครั้งแรก

     

    ทั้งๆที่ปกติจากหัวมุมซอยถึงบ้านใช้เวลาเพียงครู่เดียว แต่วันนี้เซฮุนกลับสร้างสถิติใหม่กลับช้ากว่าเวลาเดิมเป็นเท่าตัว คนข้างกายผิวปากเล่นไม่ห่วงว่าตัวเองจะต้องกลับบ้านดึกแค่ไหน จนเซฮุนเองที่นึกห่วงความปลอดภัยของจงอินขึ้นมา

     

    “กลับดึกที่บ้านไม่ว่าหรอจงอิน”

     

    “อื้อ ไม่เป็นอะไรหรอกน่า” ร่างหนาว่าปัด

     

    “หลังสีขาวข้างหน้าบ้านเราแล้วล่ะ” เซฮุนชี้ไปที่บ้านหลังสีขาวสองชั้น ข้างหน้ามีกระถางดอกไม้สีขาววางยาวเรียงอยู่ ดูน่ารักเข้ากับเจ้าของบ้านอย่างบอกไม่ถูก

     

    “ชอบสีขาวหรอ” จงอินว่า ขายาวกึ่งลากกึ่งจูงจนถึงกระถางดอกไม้สีขาวที่ข้างในมีดอกไม้หลากหลายสีรวมกันอยู่ แต่ส่วนใหญ่ก็ล้วนเป็นดอกไม้สีขาวทั้งนั้น

     

    “อื้อ เหมือนสีของกระต่าย” ร่างบางลูบไปตามกลีบของดอกไม้อย่างเบามือ จงอินมองภาพตรงหน้าด้วยสายตาอ่อนโยน เซฮุนช่างเป็นเด็กผู้ชายที่ละเอียดอ่อนและอ่อนโยนไปกับทุกสิ่งจริงๆ

     

    “นายก็เหมือนกระต่ายดีนะ” ขำขึ้นเล็กน้อย เอามือด้านที่ว่างชูเป็นสองนิ้วแล้วมาวางไว้ที่หัวของเซฮุน ร่างบางยืนนิ่งสักพักก่อนจะเหมือนได้สติเลยหลบมือของจงอินแล้วปัดมันเบาๆ

     

    “จะเหมือนได้ไงเล่า เข้าบ้านได้แล้ว น้ำแก้วเดียวใช่ไหม” จงอินพยักหน้ารับพร้อมรอยยิ้มหวานส่งไปให้เซฮุนใจเต้นเล่นๆอีกครั้ง ไม่รู้ว่าครั้งที่เท่าไหร่ของวันแล้วสิ

     

    จงอินเดินตามเซฮุนเข้าไปจนถึงประตูหน้าบ้าน ร่างบางถอดรองเท้าออกวางไว้ที่ชั้น หันไปมองจงอินเล็กน้อย ร่างหนาเมื่อเห็นก็เลยถอดรองเท้าแล้วนำมาถือรอไว้เตรียมวางไว้ข้างๆกัน

     

    เซฮุนเปิดประตูบ้านเข้าไป อ้าค้างไว้จนจงอินเข้ามาทั้งตัวจึงหันไปปิด หันมาหาร่างหนาแล้วหยิบพวกถุงของสดออกมาวางไว้ตรงเก้าอี้ที่ไว้วางของ

     

    “แม่ฮะ กลับมาแล้วนะ” ร่างบางเอ่ยเสียงดัง เดินเข้าไปในครัวแล้วกลับออกมาพร้อมรอยยิ้มกว้าง จงอินที่ยืนรออยู่เลยได้เห็นภาพน่ารักๆระหว่างหญิงวัยกลางคนที่ยังดูสาวกับลูกชายหัวแก้วหัวแหวนยืนหอมยืนกอดกันกลม

     

    “แม่บอกว่าให้อยู่ทานข้าวกันก่อน” เซฮุนก้มหน้าพูดเขี่ยเท้าไปมา แค่บอกว่าใครมาด้วยแม่ก็ล้อใหญ่แล้วชวนให้มาทานข้าวด้วยเฉย เขาไม่ได้เล่าให้แม่ฟังมากเสียหน่อย แค่บางครั้งบางคราวที่พูดถึงเรื่องจงอินให้แม่ฟัง ก็แค่.. ชมเฉยๆเอง

     

    “งั้นดีเลย วันนี้แม่ฉันไม่อยู่พอดี”

     

    “อ้าวไหนออกมาซื้อของสดไง” เซฮุนท้วงขึ้นอย่างงงๆ

     

    “ออกมาซื้อแช่ตู้เย็นเผื่อกินเอง อีกอย่างมันก็ไม่ได้อร่อยเลย” จงอินว่าพลางทำหน้าแหยเมื่อพูดถึงรสชาติอาหารของตัวเอง แค่นึกก็แลบลิ้นออกมารู้สึกเฝื่อนในปากทันที

     

    “น่าสงสารจังเลย” ร่างบางทำหน้าตาน่าสงสารล้อเลียนจงอิน ร่างหนาเลยจัดส่งมะเหงกไปให้หนึ่งที ดูเหมือนว่าคนทั้งคู่จะเริ่มสนิทกันอย่างรวดเร็ว เพียงแค่ได้ลองคุยกันไปเรื่อยๆ จงอินไม่ใช่คนที่เท่ห์อย่างเดียวแต่เจ้าตัวยังมีอีกหลายมุมที่น่ารักอยู่ไม่น้อย ส่วนจงอินก็คิดว่าเซฮุนมีอะไรให้เขาได้ค้นหาอีกเยอะ

     

    “ล้อกันหรอ เดี๋ยวเถอะ”

     

    “ไม่เอาแล้วเจ็บ จงอินมือหนัก” แล้วก็อุ่นมากด้วย.. อันนี้ได้แต่คิดต่อในใจ

     

    “เซฮุน ลูกพาเพื่อนขึ้นไปรอบนห้องก่อนสิจ๊ะ” เสียงแว่วของหญิงวัยกลางคนดังออกมาจากห้องครัว เซฮุนแลบลิ้นเลียปากอย่างประหม่าที่อยู่ดีไม่ว่าดีคนที่ตัวเองชอบจะต้องขึ้นไปที่ห้องนอนตัวเอง

     

    "ฮะแม่" ก้มหน้าก้มตาเดินนำจงอินไป ร่างหนาที่ไม่แน่ใจว่าจะขึ้นดีไหมเลยทำได้แต่ยืนนิ่งเป็นหลักอยู่หน้าประตูที่เดิม เซฮุนก้าวเท้าขึ้นบันไดไปแต่เมื่อไม่ได้ยินเสียงฝีเท้าตามมาเลยหันไปมองคนที่ยังยืนอยู่นิ่งกำลังส่งยิ้มเจื่อนมาให้

     

    "ไม่ขึ้นมาอ่ะ" 

     

    "แน่ใจนะว่าโอเค" จงอินลองถามดู สีหน้าตอนที่คุณแม่ยังสาวบอกให้เจ้าตัวชวนเขาไปยังติดตา ก้มหน้าแบบนี้ไม่อยากให้เขาขึ้นไปชัวร์

     

    "โอเคสิ ทำไมจะไม่โอเค" ร่างบางก้าวลงจากบันไดเพื่อมาลากร่างหนาให้ขึ้นตามไปด้วย สองมือฉุดลากจนจงอินถลาตาม แต่ก็แค่เล็กน้อยด้วยขนาดตัวที่ต่างกัน เซฮุนเลยต้องปล่อยมือออกแล้วให้จงอินเดินตามมาแทน

     

    "จับทั้งทีก็ให้ถึงห้องสิ" น้ำเสียงขี้เล่นเอ่ยขึ้นหลังจากที่เซฮุนก้าวเท้าขึ้นบันไดไป ลิ้นเล็กแลบเลียปากอีกครั้ง หันเสี้ยวหน้ามามองจงอินก่อนจะเดินขึ้นไปโดยไม่รอ จงอินน่ะขี้เล่นจนเหมือนเล่นกับความรู้สึกของเขาเกินไป

     

    ร่างหนาเดินตามจนมาถึงหน้าห้องของร่างบาง ประตูห้องสีขาวมีป้ายแขวนอยู่เป็นรูปกระต่ายสองตัวกินแครอท บนป้ายมีตัวอักษรไม้แปะไว้เป็นชื่อของเจ้าตัว เซฮุนเปิดประตูเข้าไป เอื้อมมือไปเปิดไฟด้านข้างประตูอย่างเคยชิน

     

    ห้องสีขาวมีสีฟ้าอ่อนแซมอยู่เล็กน้อยตามมุมของผนัง ราวกับว่าทั้งห้องนี้คือท้องอันฟ้าสดใส เฟอร์นิเจอร์ส่วนใหญ่ก็เป็นสีขาว บอกได้เลยว่าเจ้าตัวคงจะชอบสีนี่เป็นพิเศษจริงๆ

     

                เซฮุนเดินไปนั่งบนเตียงสีฟ้าอ่อน ถอดเสื้อคลุมและเนคไทของโรงเรียนออกพร้อมกับปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตออกอีกสองเม็ด ความจริงถ้าไม่เกรงใจจงอินจะถอดเสื้อแล้วเอามาเปลี่ยนเสียตรงนี้แบบทุกวัน แต่ก็แหละเขาอายที่จะทำอะไรแบบนี้ต่อหน้าคนอื่นเหมือนกัน

     

    ร่างหนาที่ยืนดูอยู่นานแล้วกลืนน้ำลายลงคอดังเอื้อก มองเซฮุนปลดกระดุมออกอย่างหวั่นใจ เมื่อเห็นว่าหยุดแค่เม็ดที่สองก็ถอนหายใจอย่างโล่งอก ทำไมถึงไม่ระวังตัวเอง.. 

     

    "ไม่ มานั่งหรอ" เซฮุนช้อนหน้าขึ้นไปถาม จงอินเกาหัวก่อนจะลากเท้าเดินเข้าไปนั่งบนเตียงข้างๆร่างบาง อดจะเกรงใจอยู่ที่ต้องนั่งบนนี้ ตัวเขาเองก็ไม่ได้สะอาดมากกลัวว่าคืนนี้ร่างบางนอนแล้วจะคันนี่สิ

     

    "ห้องน่าอยู่ดีนะ" หาหัวข้อมาพูดขึ้นเพื่อไม่ให้เงียบจนเกินไป จงอินเริ่มไล่สายตามองไปยังเฟอร์นิเจอร์ต่างๆ รวมถึงของสะสมของเซฮุน 

     

    "รกหน่อยนะ ยังไม่ทำความสะอาดเลย" เซฮุนว่าพลางล้มตัวลงไปข้างหลังนอนลงบนเตียง ดวงตาเรียวมองไปที่เพดานห้อง แอบเหล่หางตามองจงอินเล็กน้อย ดูเหมือนร่างหนาจะสนใจห้องเขามากกว่าตัวเขาที่นอนอยู่ซะอีก

     

    "ถ้าห้องเซฮุนเรียกรก ของฉันคงไม่มีที่ให้นอน" ว่าอย่างขำๆ ก่อนจะเหลือบไปเห็นร่างบางที่ล้มตัวลงนอนหลับตาอยู่ จงอินพินิจมองไปที่หน้าขาวของเซฮุน ดวงหน้าที่คล้ายผู้หญิงมากกว่าพวกผู้ชาย เปลือกตาสีมุกกับขนตายาวเข้ากันได้อย่างดี จมูกโด่งเป็นสันก็เข้าคู่กับริมฝีปากเล็กกระจุ๋มกระจิ๋ม รวมๆแล้วเซฮุนก็ไม่ต่างจากเด็กผู้หญิงสักเท่าไหร่

     

    ร่างหนาเคลื่อนหน้าเข้าไปมองใกล้ๆอย่างลืมตัว ดวงตาคมจ้องมองไปที่ริมฝีปากสีเชอร์รี่อย่างไม่วางตา จนกระทั่งเซฮุนลืมตาขึ้น จงอินถึงได้สะดุ้งตัวกลับมานั่งหลังตรงดังเดิม

     

    "เป็นอะไรรึเปล่า" เซฮุนถามขึ้น เอียงตัวไปมองหน้าจงอินทั้งที่ยังนอนอยู่ แขนเรียวชันขึ้นยันตัวเอาไว้ไม่ให้ล้ม

     

    "เปล่า พรุ่งนี้มีเรียนวิชารวมนั่งด้วยกันไหม" วิชารวมที่ว่าก็คือประวัติศาสตร์ประเทศ ส่วนใหญ่มัธยมปลายจะจัดให้เรียนรวมสองห้องในห้องประชุมใหญ่ เพราะถือว่าเป็นวิชาที่สำคัญ และ อีกอย่างวิชานี้แหละที่ทำให้เซฮุนได้คุยกับจงอิน 

     

    "ก็ได้ แล้วแต่จงอิน" ร่างบางลุกมานั่งอีกครั้ง บิดซ้ายขวาไปมาไล่ความเมื่อย ก้มตัวลงเอามือแตะเท้าจนเสื้อเชิ้ตข้างหลังล่นขึ้นขนเห็นผิวเนื้อขาวๆ เล่นเอาคนเห็นต้องเบือนหน้าหนีพร้อมใบหูที่ขึ้นสีแดง 

     

    "ช่วยอธิบายในห้องให้ด้วยนะ บางอันมันงงมาก" เซฮุนพยักหน้าตกลง ลุกขึ้นยืนเต็มความสูงแล้วหันมามองจงอิน

     

    "ไปเถอะ ลงกัน แม่คงทำเสร็จแล้ว" จงอินลุกขึ้นยืนตาม ฉวยมือขาวไปจับแล้วลากไปที่ประตู เปิดออกแล้วลงบันไดไปไม่ต่างจากตอนแรกนัก แต่มันต่างที่ตอนขึ้นคนนำคือเซฮุน แต่ตอนลงกลับเป็นจงอินนำพร้อมจับมือ

     

    ถ้าไม่เลิกจับมือ .. วันหลังจับจะไม่ปล่อยแล้วนะจงอิน 

     

    "อ้าว จงอินลูก มาๆ วันนี้แม่ทำมาเยอะมากเลย ช่วยกันทานหน่อยนะจ๊ะ" หญิงวัยกลางคนพูดขึ้นหลังจากที่เห็นพวกเขาลงมา แม่ของเซฮุนดูสาวกว่าอายุจริงมาก แถมยังสวยมากอีกด้วย จงอินถึงได้รู้เลยว่าเซฮุนได้คุณแม่มาเต็มๆ

     

    "แม่ฮะ.." เซฮุนผละมืออกจากอุ้งมือของจงอิน แล้วซอยเท้าไปหาคนเป็นแม่ที่ยิ้มหวานจัดจานอยู่ ร่างหนามองภาพตรงหน้าด้วยรอยยิ้ม 

     

    "อะไรจ๊ะเด็กดื้อ" นิ้วเรียวสวยของหญิงวัยกลางคนบีบลงที่จมูกรั้นของเซฮุน ร่างบางยู่หน้าลงอย่างเอ็นดู จงอินเลยทำได้แค่ยืนดูและแอบหัวเราะเบาๆ

     

    "ไม่ดื้อนะฮะ แม่อ่ะ อายจงอิน" เซฮุนลากคุณแม่มานั่งที่โต๊ะทานข้าวที่จัดจานวางไว้สองใบในฝั่งเดียว ร่างบางทำท่าจะนั่งลงข้างคุณแม่แล้วปล่อยให้จงอินยืนค้างไว้ แต่กลับโดนมือเรียวของคุณแม่ตีเบาๆ

     

    "เซฮุนไปชวนจงอินมานั่งสิลูก" คุณแม่ว่าพลางหยิบจานที่อยู่ข้างๆ ย้ายไปวางลงอีกฝั่ง แล้วดึงแขนคนเป็นลูกให้ลุกขึ้นไปชวนเพื่อนมานั่งด้วย

     

    "งือ.." ครางรับเบาๆ เซฮุนลุกขึ้นไปถึงตัวจงอินก่อนจะจับแขนร่างหนาไว้หลวมๆ ดึงให้มานั่งที่โต๊ะด้วยกัน "นั่งสิจงอิน"

     

    "อ่ะฮะ" จงอินเกาหัวแก้เก้อ ไม่ค่อยคุ้นชินกับการนั่งกินข้าวเป็นครอบครัวสักเท่าไหร่ แถมคุณแม่เซฮุนยังสวยมากนี่สิ เขินเลยเรา

     

    "นั่งข้างจงอินเลยเซฮุน" คุณแม่กล่าวเสียงดุ เซฮุนอมลมแก้มป่อง ขมุบขมิบปากไปมาจนคนเป็นแม่ต้องว่าอีกครั้ง

     

    "เซฮุน.." พอเรียกครั้งที่สองด้วยเสียงต่ำลงมาเท่านั้นแหละ ร่างบางเลยต้องนั่งลงอย่างไม่อิดออด 

     

    จงอินแทบจะหลุดขำออกมากับท่าทางแบบนี้ของเซฮุน ซึ่งเขามั่นใจว่าร้อยทั้งร้อยไม่เคยเห็นเซฮุนคนนิ่งเงียบเป็นแบบนี้ ความน่ารักดื้อและแสนงอนจงอินได้เห็นแบบนี้พร้อมกันในวันเดียว

     

    จงอินคงเป็นคนที่น่าอิจฉาว่าไหม

     

    หลังจากจบมื้ออาหารแสนอบอุ่นของครอบครัวโอ คิมจงอินอย่างเขาเลยต้องขอลากลับบ้านไปถึงแม้ว่าอยากจะอยู่คุยกับเซฮุนอีกเล็กน้อย เอาตามตรงไหม เพราะวันนี้ที่เจอกันทำให้เขาอยากรู้จักเซฮุนให้มากขึ้น ให้มากกว่าที่เป็นอยู่ทุกวันนี้ 

     

    "อย่าลืมของนะจงอิน" ร่างบางรวบถุงของสดไว้ด้วยสองมือ ยกขึ้นจ่อที่หน้าจงอิน

     

    "อื้อ" ยิ้มขึ้นพร้อมกับดึงถุงออกจากมือของร่างบางมาถือไว้ด้วยมือเดียว เซฮุนยิ้มกว้างยกมือขึ้นเตรียมทำท่าบ้ายบาย

     

    เซฮุนเดินนำไปเปิดประตูบ้านให้ รอจนจงอินออกมาแล้วถึงปิด ร่างบางเดินไปส่งจนถึงหน้าบ้านเตรียมทำท่าบ้ายบายให้รอยยิ้มหวานเผยขึ้นออกมา 

     

    "เออ.. ใช่" จงอินทำท่าเหมือนเพิ่งนึกอะไรขึ้นได้ เซฮุนเลิกคิ้วถาม มือที่ทำท่าบ้ายบายอยู่วกกลับมาวางไว้ที่ไหล่ของตัวเอง

     

    "ลืมอะไรรึเปล่า" ร่างบางเตรียมท่าจะเข้าบ้านไปดูของให้จงอิน แต่กลับโดนมือหนาฉุดไว้ก่อน

     

    "ลืม ลืมขอเบอร์เอาไว้ติดต่อ" พูดเสร็จก็เขินเอง จงอินก้มหน้าเกาหลังคอตัวเอง

     

    "ขอยืมโทรศัพท์แปปนึงนะ"

     

    เซฮุนหัวเราะขำ ล้วงโทรศัพท์มือถือในกระเป๋ากางเกงขึ้นมาแล้วยื่นไปให้จงอิน ร่างบางเอียงตัวไปเกาะรั้วบ้านระหว่างรอร่างหนาทำอะไรยุกยิกกับมือถือของตน 

     

    "เสร็จแล้วล่ะ" พูดขึ้นพร้อมเสียงมือถือที่ดังขึ้นในกระเป๋ากางเกงของร่างหนา จงอินลบเบอร์ที่กดโทรออกล่าสุดของเซฮุนทิ้งแล้วส่งคืนให้กับเจ้าของ 

     

    "อื้อ กลับบ้านดีๆล่ะ" ร่างบางรับมาแล้วยิ้มหวานให้ มือเรียวทำท่าบ้ายบายอีกครั้ง โดยที่ครั้งนี้ไม่เก้อเหมือนครั้งแรก จงอินโบกมือกลับพร้อมรอยยิ้ม หันหลังกลับเพื่อเดินทางกลับที่พักของตัวเอง 

     

    ร่างบางพาตัวเองขึ้นมาบนห้องนอน ล้มตัวลงนอนบนที่นอน วางมือถือไว้ข้างลำตัว หลับตาลงแล้วนึกถึงหน้าของคนที่เพิ่งห่างกันเมื่อสิบนาทีที่แล้ว รอยยิ้มยังติดตา สัมผัสอุ่นยังติดอยู่ทีมือ อยากรู้จักจงอินมากขึ้น มากขึ้นกว่านี้

     

    เสียงโทรศัพท์มือถือดังขึ้นพร้อมแรงสั่น ร่างบางเหล่ตาไปดูเล็กน้อย ใครกันนะที่โทรมาหาเวลาดึกดื่นแบบนี้ เซฮุนเอื้อมมือไปหยิบมาดูว่าเป็นเบอร์ของใคร ก่อนจะเด้งตัวจากเตียงขึ้นนั่งอย่างรวดเร็ว 

     

    'มงกูอยากเจอคนน่ารักจังคับ'

    จะเป็นเบอร์ของใครได้ล่ะ เพราะเจ้ามงกูคือชื่อหมาของจงอิน เจ้าของขี้เล่นเมมมาแบบนี้จะให้เซฮุนรู้สึกยังไง นอกจากตกใจก่อนจะเปลี่ยนเป็นเขินจนกำผ้าปูที่นอนย่น

     

    "คนบ้า" พูดออกมาเสียงเบา มือถือยังคงสั่นและกรีดร้องอย่างไม่เหน็ดเหนื่อย จะทำยังไงดี รับดีไหมนะ 

     

    สุดท้ายก็ทนเสียงเรียกร้องในหัวใจตัวเองไม่ไหว มือเรียวสไลด์หน้าจอกดรับสาย เอามือถือแนบไว้ที่ใบหูรอฟังเสียงของจงอินตามสาย

     

    "เซฮุน นอนรึยัง" เสียงตามสายทำให้เซฮุนใจเต้น เขาไม่เคยคุยมือถือกับจงอิน และดูเหมือนจะได้ยินเสียงหอบออกมาน้อยๆด้วยแฮะ

     

    "ยังหรอก แล้วทำไมเสียงหอบๆ" เซฮุนถามกลับไป ร่างบางลุกออกจากที่นอน เดินไปยังประตูเลื่อนเปิดออกแล้วพาตัวเองไปยืนอยู่ที่ระเบียงบ้าน 

     

    "วิ่งกลับบ้านออกกำลังกายน่ะ" เสียงหอบเป็นจังหวะของจงอินบอกให้รู้ว่าเจ้าตัวคงวิ่งไม่ถึงบ้านแน่นอน

     

    "อีกไกลกว่าจะถึงบ้านหรอ" ร่างบางเงยหน้ามองดวงจันทร์ยามค่ำคืน ดวงจันทร์กลมโตที่สดใสเหมือนรอยยิ้มของจงอิน 

     

    "ไม่หรอก วิ่งเรื่อยๆ อากาศดี เซฮุนเงยหน้าไปมองท้องฟ้าดิ วันนี้พระจันทร์สวยมากนะ" สวยเหมือนกับเซฮุนเลย.. 

     

    "มองอยู่เหมือนกัน" ครางอืมในลำคอ ดวงตาเรียวจ้องมองดวงจันทร์พร้อมรอยยิ้ม ได้ดูด้วยกันคงดีนะ

     

    "อื้อ จะถึงบ้านแล้ว" เสียงหอบเริ่มอ่อนลง เซฮุนครางรับในลำคอ ฟังเสียงหายใจของจงอินอย่างเพลิดเพลิน ไม่จำเป็นต้องคุยกัน แค่นี้เซฮุนก็รู้สึกอุ่นในใจไปหมด

     

    "มงกู มงกูมาคุยกับพี่เซฮุนเร็ว" เงียบไปนานก่อนจะเอ่ยขึ้นมาให้เซฮุนได้ยิน ร่างบางยิ้มหวานออกมา ลองนึกสิว่าจงอินจะโดนเจ้ามงกูเลียปากยังไง

     

    "สวัสดีคับพี่เซฮุนเร็ว" เสียงจงอินแทรกขึ้นมาระหว่างเสียงเห่าเล็กของเจ้ามงกู ร่างบางขำเล็กน้อยก่อนจะนั่งลงบนเบาะผ้าที่วางอยู่ในมุมหนึ่งของระเบียง

     

    "สวัสดีครับมงกู อยากเจอพี่เซฮุนไหมครับ" ร่างบางตอบกลับไปเสียงใส ดูเหมือนจงอินจะเปิดสปีคเกอร์โฟนเลยได้ยินเสียงกุกกักตามมา

     

    "อยากเจอคับ อยากเจอคนน่ารัก" เป็นจงอินที่ดัดเสียงเล็กแทนที่จะเป็นเสียงเห่าของมงกู 

     

    "ต้อง รอให้เจ้าของมงกูพาไปหาแล้วนะครับ" เซฮุนพูดต่อ มือถือเครื่องบางถูกนำมาเหน็บไว้ที่ไหล่ ร่างบางเอาหูแนบไว้ฟังเสียงของจงอินที่ลอดมา มือเรียวถูกยกขึ้นแล้วนำสองข้างมาประกบเป็นรูปสามเหลี่ยม ก่อนจะล้มตัวลงนอนมองดวงจันทร์กลมโตผ่านช่องสามเหลี่ยมระหว่างมือ 

     

     

    ถ้าได้อยู่ด้วยกัน ก็คงดี 

     

     

    "เซฮุน.." ผ่านไปสักนาทีเสียงจงอินดังขึ้นมาอีกครั้ง

     

    "หือ" 

     

    "เปล่า" และก็ตอบกลับมาจนเซฮุนงง เรียกแต่ไม่มีอะไรงั้นหรอ 

     

    "จงอิน" 

     

    "ว่า.."

     

    "เปล่า" เสียงหัวเราะเล็กๆลอดออกมาจนจงอินขำตาม เอาแล้วโดนเอาคืนแบบน่ารักๆจนได้

     

    "นี่เซฮุน.. นาย"

     

    "หือ"

     

    "มี.. คนที่ชอบยัง" เสียงของจงอินเงียบลงพร้อมๆกับหัวใจที่เต้นรัว เซฮุนชะงักค้าง มือที่ยกขึ้นตกลงข้างลำตัว เหมือนร่างกายจะหมดแรงเสียดื้อๆ

     

    "ไปนอนได้แล้วนะ นี่ออกมาอยู่ตรงระเบียงหรอ ระวังไม่สบาย ฝันดีนะ" จงอินพูด เปลี่ยนเรื่องที่คุยเมื่อสักครู่เหมือนกับไม่ได้ถามออกไป ท้ายประโยคแอบมีลูกขำเล็กๆ

     

    "อือ.. ฝัน ฝันดีนะจงอิน" เซฮุนเงียบรอให้ร่างหนาเป็นฝ่ายตัดสาย แต่รอแล้วก็ไม่ได้ยินเสียงตัดสายสักที 

     

    "วางก่อนสิเซฮุน" เสียงเบาๆของจงอินลอดออกมา เซฮุนถอนหายใจยาว ครางรับในลำคอ 

     

    "อือ ฝันดีนะ" กำลังจะเลื่อนนิ้วไปกดวางสาย จงอินแทรกเสียงขึ้นมา

     

    "เจอกันพรุ่งนี้นะ" และเซฮุนก็ตัดสายลงพร้อมรอยยิ้มกว้าง มือเรียวจับไปที่อกข้างซ้ายของตัวเอง มันอุ่นวาบและเต้นตึกตักจนรู้สึกเหนื่อยไปหมด 

     

    เจอกันพรุ่งนี้หรอ ฝันดีแน่ๆเลยเซฮุน

     

     

                แสงแดดยามเช้าสาดส่องเข้ามากระทบหน้า เปลือกตาสีมุกขยับไปมาก่อนจะลืมขึ้น หันไปมองนาฬิกาเมื่อเห็นเป็นเวลาหกโมงเช้าจึงลุกขึ้นไปอาบน้ำแต่งตัวเตรียมไปโรงเรียน

     

                “เซฮุนจ๊ะ เร็วหน่อยนะมีคนมารอ” เสียงของคุณแม่ดังขึ้นมาระหว่างที่เขากำลังแต่งตัว เซฮุนเดินไปหยิบกระเป๋าสะพายแล้วรีบลงไปที่ชั้นล่าง กะจะถามว่าใครที่มารอ แต่คงไม่จำเป็นแล้วล่ะเพราะเมื่อลงมาถึงชั้นล่างก็เห็นคนที่ทำให้หัวใจเต้นแรงยืนรออยู่

     

                “มารับน่ะ” จงอินพูดขึ้น ขายาวเดินเข้าไปหาพร้อมวางมือลงบนกลุ่มผมยุ่งของเซฮุน เกลี่ยให้เป็นทรงก่อนจะดันหลังร่างบางให้ไปหาอะไรทานก่อน

     

                “รอตรงนี้นะ อย่าช้านะเซฮุนเดี๋ยวสาย” เซฮุนพยักหน้ารับ ลากเท้าไปที่โต๊ะทานข้าวทักทายคุณแม่พร้อมหอมแก้มไปแรงๆ

     

                ร่างบางกลับมาอีกครั้งพร้อมขนมปังในปากกับขวดนมจืด จงอินเห็นดังนั้นเลยขำออกมา ไม่คิดว่าบอกว่าอย่าช้าจะกลายเป็นการบอกให้เซฮุนรีบถึงขนาดนี้

     

                “อือ ไออังอ้ะ (ไปยังอ่ะ)” ปากเล็กพูดขึ้นทั้งที่ยังมีขนมปังอยู่ เซฮุนดันหลังจงอินให้รีบออกไป

     

                มือหนาฉวยกระเป๋าสะพายที่คล้องอยู่ที่แขนของเซฮุนมาถือ ร่างบางยื้อไว้เล็กน้อย เงยหน้าขึ้นไปมองจงอินอย่างสงสัย แต่ก็ได้รอยยิ้มกลับออกมา เซฮุนเลยต้องยอมแพ้โดยปริยาย รอยยิ้มที่สดใสในยามเช้าเป็นอะไรที่ทำให้ทั้งวันของเซฮุนมีแต่ความสุข

     

                “ไปแล้วนะฮะแม่/สวัสดีครับคุณแม่” สองเสียงประสานขึ้นพร้อมกัน ก่อนทั้งคู่จะหัวเราะออกมาแล้วเปิดประตูออกจากบ้านไป

     

                “เดินไปโรงเรียนทุกวันหรอเนี่ย” จงอินทักขึ้นหลังจากเดินมาได้ครึ่งทาง ร่างบางพยักหน้าแล้วหันมาส่งยิ้มตาหยี

     

                “ก็ไม่ได้ไกลสักหน่อย” เซฮุนก้าวเท้าเดินตามจังหวะการเดินของจงอิน ร่างบางเดินเคียงอยู่ไม่ห่าง เหมือนกับฝันดีเมื่อคืนเลยล่ะที่ได้เดินมาโรงเรียนพร้อมกันกับจงอิน

     

                “วันหลังเอาจักรยานมารับดีกว่า” ร่างหนาพูดขึ้นลอยๆ หันหน้าไปมองเซฮุนและดันไหล่ไปชนจนร่างบางเซนิดๆ เซฮุนนำมือขึ้นมาลูบแขนตัวเองเบาๆแล้วหันไปเบะปากใส่

     

                “จะมารับทุกวันเลยหรือไง” เซฮุนถาม

     

                “ก็คงงั้นมั้ง” จงอินตอบ ร่างบางที่ได้ยินก้มหน้าลงซ่อนรอยยิ้ม คำอ้อนวอนที่ขอทุกคืนกับดวงจันทร์เป็นจริงแล้วใช่ไหม คำอธิษฐานของเขา ... อยากรู้จักจงอินให้มากกว่านี้

     

                ทั้งคู่เดินมาถึงโรงเรียนพร้อมกัน กว่าจะถึงคาบที่เรียนรวมก็ตอนก่อนมื้ออาหารกลางวัน จงอินเลยเดินไปส่งเซฮุนที่ห้องเรียน ห้องของร่างบางเป็นห้องเอห้องพวกเด็กเรียนเกรดดีๆ ส่วนห้องของจงอินอยู่ห้องซีซึ่งส่วนใหญ่ในห้องนี้จะมีแต่พวกความสามารถพิเศษ ของจงอินก็คงเป็นด้านกีฬามั้ง

     

                “เจอกันที่คาบประวัติศาสตร์นะ” จงอินโบกมือลา แล้วส่งกระเป๋าคืนไปให้

     

                “อื้อ” ยืนรออยู่หน้าห้องจนจงอินเดินหายเข้าไปที่ห้องซี พอเข้าไปในห้องเซฮุนก็ได้รับสายตาสนใจจากเพื่อนตัวเล็กที่ส่งยิ้มหวานมาให้

     

                “ใครมาส่งหรอ” เสียงเล็กถามขึ้นอย่างนึกสนุก เซฮุนวางกระเป๋าลงบนโต๊ะแล้วนั่งลงด้านข้างเพื่อนตัวเล็กที่นอนวางหน้าบนโต๊ะหันหน้ามาถามเขา

     

                “จงอิน” ตอบไปเสียงเบา มือเรียวหยิบหนังสือเรียนวันนี้ขึ้นมาใส่ในลิ้นชักใต้โต๊ะ นิ้วเรียวเผลอสะกิดเข้ากับอะไรบางอย่างในกระเป๋าจึงดึงออกมา

               

                “อะไรน่ะ มีกระดาษพันไว้ด้วย” คยองซูชะโงกหน้ามามองของในมือของเซฮุน มันเป็นลูกอมจุ๊บปาจุ๊บสีชมพู ที่ตรงส่วนก้านมีกระดาษเล็กๆพันไว้อยู่

     

                “ไม่มีอะไรหรอก” พูดพร้อมกับหัวเราะเบาๆ เซฮุนฟุบหน้าลงกับโต๊ะหันไปอีกข้างแล้วนำเจ้าลูกอมมาอ่านบนกระดาษที่มีลายมือยุกยิกเขียนเอาไว้ สงสัยจงอินจะแอบเอามาใส่ตอนถือให้แน่เลย

               

                ตั้งใจเรียนนะ จงอิน

     

                เซฮุนยิ้มหวาน มองออกไปนอกหน้าต่างพร้อมหัวใจที่พองโต ลูกอมถูกนำมาวางทาบไว้กับอกข้างซ้าย ก่อนจะเก็บลงในกระเป๋าเสื้อเชิ้ต ฟุบหน้าลงอีกครั้งพร้อมรอยยิ้มที่ไม่สามารถจางหายไป

     

                หมดคาบที่สองจงอินเดินมารับเซฮุนเพื่อไปเรียนต่อที่คาบรวม เพื่อนตัวเล็กของเซฮุนแอบแซวเล็กน้อยแล้วเดินหนีไปเกาะไหล่เพื่อนอีกคน มาแกล้งกันแบบนี้มีหรือคนขี้อายอย่างเซฮุนจะไม่เขินจนหน้าแดง แอบเลียริมฝีปากจนจงอินคิดว่านี่คือความเคยชิน

     

                “ไปกัน” จงอินจับมือเซฮุนให้เดินตาม กึ่งลากกึ่งจูงไปยังห้องประชุม แอบกันเหล่านักเรียนทั้งหลายที่เดินกันแบบไม่ดูทางจนจะชนเซฮุนอยู่หลายรอบ

     

                วิชาประวัติศาสตร์ประจำชาติไม่ง่วงอีกต่อไปสำหรับจงอิน เพราะตอนนี้มีคนร่างขาวข้างกายคอยก้มคอยเงยจดเล็คเชอร์อยู่ จงอินมองจนเพลินเลยล่ะ ไม่ใช่ไม่ตั้งใจเรียนนะ แต่ตอนนี้การที่เอาหน้าวางลงบนโต๊ะแล้วหันมาจ้องมองเซฮุนอยู่มันก็รู้สึกดีกว่าการจ้องสไลด์และฟังเสียงบ่นบรรยายของอาจารย์

     

                “นี่เซฮุน” จงอินทักขึ้นเมื่อเห็นว่าอาจารย์พักการบรรยายสิบนาที

     

                “หือ อะไรหรอ” แว่นกรอบโตถูกเอาออกจากดวงหน้าขาว เซฮุนวางแว่นพับเก็บไว้บนโต๊ะ หันไปมองหน้าจงอินตามเสียงเรียก

     

                “เย็นนี้ไปหามงกูกัน”

     

                “อื้อ เดี๋ยวโทรบอกแม่ก่อนนะ” ยิ้มรับแล้วหยิบมือถือออกมาจากกระเป๋ากางเกง นิ้วเรียวกดเลขเบอร์โทรคุณแม่สุดที่รักแล้วรอสาย คุยกันเล็กน้อยว่าจะไปบ้านจงอินอาจกลับเย็นหน่อย แล้วกดวางสายหันมาส่งยิ้มหวานให้จงอิน

     

                “อื้อ ได้แล้วล่ะ” จงอินร้องเย้ขึ้นมาเบาๆ ยืดมือขึ้นไปยีหัวเซฮุนเล่น

     

                “ยุ่งหมดแล้ว พอเลยจงอิน ครูสอนแล้ว” สองมือเรียวกำไปที่มือของจงอินที่เล่นอยู่บนหัว ดึงออกมาวางไว้บนโต๊ะ ก่อนจะยกมือตัวเองขึ้นไปจัดทรงผมให้เรียบร้อย

     

                ก็น่ารักจนอดใจไม่ไหว... นี่นา

     

     

                ช่วงเย็นจงอินต้องเข้าชมรมกีฬาก่อน ร่างหนาอยู่ที่ชมรมฟุตบอลกำลังฝึกซ้อมเลี้ยงบอลซิกแซ็คกับกรวยเล็กสีส้ม เซฮุนเคยมาดูจงอินซ้อมหลายครั้งเหมือนกัน ก็แค่ผ่านๆแล้วแวะดูครู่เดียว จงอินเท่ห์มากจนมีสาวๆนั่งเชียร์ และนั่งรอให้ของขวัญหรือขนมขบเคี้ยว

     

                วันนี้ก็เหมือนกันที่เซฮุนลองเดินมาที่สนาม ยืนอยู่ข้างลูกกรงที่กันเพื่อไม่ให้ลูกบอลกระเด็นออก ร่างบางยืนเกาะลูกกรงจ้องมองจงอินที่ตั้งใจซ้อมอยู่ เมื่อไหร่ที่ลูกบอลอยู่ที่เท้าของจงอินมันจะเหมือนกับมีชีวิตชีวาขึ้นมา ราวกับกำลังเล่นสนุกกับร่างหนา

     

                เหงื่อที่ไหลตามใบหน้าและไรผมทำให้จงอินดูดี ไม่ได้ดูน่าเกลียดเหมือนพวกคนอื่นๆ ขวดน้ำเกลือแร่เย็นที่อยู่ในมือถูกกำแน่นขึ้นเมื่อเห็นว่ามีผู้หญิงคนนึงเดินเข้าไปหาจงอิน ดูเหมือนว่าน้ำของเขาจะไม่สำคัญแล้วล่ะ

     

                เซฮุนเตรียมตัวจะหันหลังกลับ พอดีกับที่จงอินหันมาทางนั้นพอดี รูปร่างที่คุ้นตามาพร้อมกับขวดน้ำสีเหลืองทำให้จงอินรีบขอโทษแล้วผละตัวมาจากผู้หญิงคนนั้นที่เอาน้ำมาให้ ร่างหนาเดินดุ่มมาทางที่เซฮุนอยู่ รอยยิ้มกว้างเผยขึ้นมาเมื่อเห็นว่าในมือของเซฮุนนั้นคือน้ำเกลือแร่

     

                “เซฮุนจะไปไหน” ร่างหนาตะโกนขึ้นเมื่อเห็นว่าขาเรียวเตรียมท่าจะเดินต่อ

     

                “จงอิน” เซฮุนหันมาแทบจะทันทีที่ได้ยินเสียงเรียก หัวใจดวงน้อยเต้นอีกครั้งเมื่อเห็นว่าในมือของร่างหนาไม่มีขวดน้ำหรือแม้แต่ผ้าเช็ดหน้าจากพวกสาวๆ

     

                “เอามาให้ไม่ใช่หรอ จะไปไหนล่ะ” จงอินทักแล้วพยักเพยิดหน้าไปที่ขวดน้ำเกลือแร่ที่อยู่ในมือของเซฮุน ร่างหนาปาดเหงื่อที่อยู่บนหน้าออกด้วยแขนเสื้อ ซึ่งนั่นทำเอาเซฮุนหัวเราะขำพร้อมเขยิบเข้าไปใกล้ลูกกรงที่จงอินเกาะอยู่ ล้วงผ้าเช็ดหน้าผืนขาวออกจากกระเป๋ากางเกงของตัวเองแล้วซับให้ตามขมับ

     

                “จะไปนั่งรอแล้ว” เซฮุนชี้ไปตรงม้านั่งข้างๆต้นไม้ใหญ่ จงอินขมวดคิ้วเมื่อเห็นว่าที่ตรงนั้นมันอยู่ไกลออกไปจากสนามมากเชียว

     

                “ไม่เอา ไปรอในสนาม” ว่าแล้วก็เดินไล่ไปตามรั้วลูกกรง เปิดประตูกั้นออกไปแล้วดึงตัวเซฮุนให้เข้ามาเหยียบในสนามหญ้าสีเขียว

     

                “แต่..” จะบอกว่าสาวๆในนั้นเริ่มมองมาที่เขาแล้ว แล้วพวกเธอก็มาเพื่อเชียร์จงอิน เขาไปอยู่ตรงนั้นมันจะดีแน่แล้วหรอ

     

                “ไม่มีแต่” จงอินกำรอบข้อมือเล็กแล้วลากให้มานั่งตรงเก้าอี้ตัวยาวที่อยู่ลงมาจากอัฒจันทร์ มันเป็นเก้าอี้ของพวกเหล่านักกีฬาโดยเฉพาะ สาวๆที่มาเชียร์ไม่มีใครได้รับอนุญาตให้ลงมานั่ง

     

                “รอนี่นะ เดี๋ยวซ้อมเสร็จแล้วจะมาหา”

     

                “อื้อ”

     

                จงอินกลับไปเตะบอลอีกครั้ง แต่คราวนี้เป็นการฝึกรับส่งลูกแบบเบสิก เซฮุนที่ได้มองแบบนี้ใกล้ๆครั้งแรกก็ตื่นตาไม่น้อย จับภาพจงอินทุกการเคลื่อนไหวไม่พลาดแม้แต่ตอนที่เลิกเสื้อยืดขึ้นมาเช็ดหน้าจนเห็นหน้าท้องที่มีลอนกล้ามอ่อนๆ

     

                และก็หน้าแดงขึ้นมาเองอย่างไม่รู้ตัว หลบสายตาของร่างหนาที่หันมามองอย่างจงใจ รอยยิ้มมุมปากของร่างหนากระตุกขึ้น เมื่อเห็นว่าเซฮุนก้มหน้าลงหลบสายตาของเขา

     

                “แฟนจงอินหรอ”

     

                “นั่นสิ.. ไม่เคยเห็นหน้าเลย”

     

                เสียงของหญิงสาวทั้งหลายแว่วมาให้เซฮุนได้ยิน พวกเธอกระซิบกระซาบกันแบบไม่เบานักจนคนฟังกัดปากเบาๆ เข้าใจผิดกันใหญ่แล้ว.. เขายังไม่เป็นอะไรกับจงอินสักหน่อย

     

                ผ่านไปครึ่งชั่วโมงที่ร่างบางนั่งมองจงอินเงียบๆ ในที่สุดจงอินก็เดินกลับมาพร้อมผ้าเช็ดตัวพาดไว้ที่คอ หยิบขวดน้ำเกลือแร่ที่เขาเอามาให้ดื่มเหมือนพวกขาดน้ำเป็นเวลานาน มือหนาชอบนักที่จะเอามาวางบนกลุ่มผมนุ่มของเซฮุน ลูบมันไปมาแล้วนึกถึงตอนที่ได้ลูบหัวของกระต่ายตอนที่ไปสวนสัตว์ตอนเด็กๆ

     

                “ไปเถอะ มงกูรอแย่แล้ว” ว่าพลางหยิบกระเป๋าของตัวเองมาสะพายด้านข้าง แล้วหยิบของเซฮุนมาถือเอาไว้ ไม่รอที่จะฟังร่างบางท้วงแบบทุกครั้ง

     

                “ไม่เปลี่ยนชุดหรอ”

     

                “ไม่อ่ะ ไปอย่างนี้แหละ เดี๋ยวกลับบ้านค่อยเปลี่ยน” จับเข้าไปที่ข้อมือของเซฮุนแล้วลากออกไปจากสนาม จงอินไม่ได้รีบหรอกนะ แต่จากที่คุยกับพวกเพื่อนๆมาเมื่อสักครู่ มันบอกว่าเซฮุนน่ะสเป็คของทุกคนในชมรม หลังจากนั้นเขาก็รีบบึ่งตัวมาหาเซฮุนไม่ให้นั่งรอเขาคนเดียวตอนที่ไปเปลี่ยนชุดแน่นอน

     

                “เหงื่อเยอะ” เซฮุนทำหน้ายู่ ลองเอามืออีกข้างที่ไม่ได้ถูกจูงไว้ปาดลงที่เสื้อ ก่อนจะสะบัดมือออกเมื่อคิดว่ามันคงเปียกเกินไป แต่ที่ทำก็แกล้งหยอกจงอินเล่นเท่านั้นแหละ ไม่ได้น่าเกลียดหรอก แต่กลับดูดีจนเซฮุนชักจะอายๆขึ้นมาที่ต้องมาจูงมือกันแบบนี้

     

                “หรอ นี่แหน่ะ” จงอินเอาหัวที่ชื้นเหงื่อเช็ดเข้าที่ไหล่ของเซฮุน เช็ดไปเช็ดมา ร่างบางพยายามจะเบี่ยงตัวหลบแต่ก็ไม่เป็นผลเมื่อจงอินยังคงเอาเหงื่อของตัวเองมาเช็ดจนเสื้อของเขาเริ่มเปียกบ้างแล้ว

     

                “จงอิน เปียกหมดแล้วนะ หยุดเลย” ร่างบางผลักหัวของจงอินเบาๆ เสียงหัวเราะใสดังไปตลอดทางเดิน ยื้อยุดกันไปมาจนกระทั่งเหนื่อยนั่นแหละ เซฮุนเลยยอมแพ้ปล่อยให้จงอินเอาหัวซบไหล่อยู่อย่างนั้น

     

                “เหนื่อย ขอพักหน่อยนะ” ยอมให้พักไปตลอดเลยก็ได้นะ.. จงอิน

     

     

     

     

                “มงกูๆๆๆๆ มาหาพ่อมา” จงอินเปิดประตูบ้านเข้าไปก็เจอกับเจ้าตัวเล็กขนปุยเดินมาหาพร้อมกระดิกหางไปมา มงกูกระโดดเกาะขาจงอินโหยงๆ จนร่างหนาต้องย่อตัวลงไปอุ้มมาหอม

     

                “รู้เปล่าว่าใครมา” เซฮุนที่รออยู่ข้างนอกแอบขำออกมาเมื่อได้ยินเหมือนจงอินจะคุยอยู่กับเจ้าหมาที่บ้าน ไม่คิดว่าจะมีมุมแบบนี้เหมือนกัน คุยกับหมารู้เรื่อง แต่ก็ตั้งแต่คุยมือถือกันครั้งนั้นแล้ว เขาก็บ้าจี้คุยกับมงกูเหมือนกับว่ามันจะฟังภาษาคนออก

     

                จงอินใช้มืออีกข้างที่ไม่ได้จับมงกูไว้เปิดประตูให้เซฮุนได้เข้ามา เจ้ามงกูที่เห็นเซฮุนปั๊ปก็เริ่มดิ้นจะหลุดออกจากมือ แล้วรีบวิ่งกระดิกหางไปหาเซฮุนจนเจ้าตัวเซไปเล็กน้อย ร่างบางย่อตัวลงเหมือนกับจงอินแต่ติดตรงที่หมาน้อยขนหยิกปีนกระโดดขึ้นมาเลียหน้าเลียปากของเซฮุนจนชุ่ม

     

                ร่างหนาที่เห็นดังนั้นเลยเข้าไปช่วยอุ้มมงกูไว้ไม่ให้เล่นซนกับเซฮุนจนเกินไป ร่างบางหัวเราะขำเพราะไม่เคยได้เล่นกับหมาขนาดให้ขึ้นมาเลียหน้าเลียปาก ไม่ผิดอย่างที่จงอินบอกไว้เลยว่าเจ้ามงกูเวลาเจอคนก็จะกระโดดปีนตัวขึ้นมาเลียปาก

     

                “หยุดเลยนะ จะเกินไปแล้ว” จงอินทำหน้าดุใส่มงกู เจ้าตัวเล็กไม่สนใจหันหน้ามามองเซฮุนพยายามจะดิ้นให้หลุดอีก แต่คราวนี้จงอินไม่พลาดปล่อยแล้วล่ะ ริมฝีปากสีเชอร์รี่ของเซฮุนกลับต้องมาเสียให้เจ้าหมาทะลึ่งนี่หรอ ผ่านพ่อมันไปให้ได้ก่อนเถอะ!

     

                “จงอินดุทำไม มงกูจะเล่นกับเรา” เซฮุนเขยิบตัวเข้ามาใกล้ร่างหนา ไหล่ของทั้งคู่ชนกัน เซฮุนก้มหน้าไปถูจมูกกับกลุ่มขนบนหัวของมัน และก็ได้ของตอบกลับมาเป็นลิ้นเปียกๆที่เลียมาที่แก้ม

     

                “มงกู.. หยุดเลีย” ร่างหนาว่าเสียงดุ

     

                “ดุชะมัดเลย” เซฮุนว่าอย่างล้อๆ ลุกขึ้นยืนเต็มความสูงไปปิดประตูบ้านให้จงอิน แล้วปรบมือแปะๆเรียกให้เจ้ามงกูวิ่งมาหา

     

                “เห้อ สนใจแต่มงกู” ถอนหายใจออกมาเรียกร้องความสนใจ แต่ไม่เป็นผลในเมื่อเซฮุนยังอุ้มและกอดเจ้ามงกูอยู่อย่างนั้น นี่จงอินกำลังอิจฉาหมาหรอ?

     

                “อ่ะ มงกูพอแล้ว ไม่เลียแล้ว เหนียวหมดแล้ว” จงอินหันมาตามเสียงใสๆของเซฮุน ก่อนจะเบิกตาขึ้นเมื่อเห็นว่าเจ้าหมาของเขามันเล่นเลียคางเรียวลามไปถึงลำคอของเซฮุน ไม่ใช่อะไรล่ะ แบบนี้เซฮุนต้องได้อาบน้ำก่อนกลับบ้านชัวร์

     

                “นี่หยุดได้แล้ว มาหาพ่อเลยมา” ร่างหนาเดินมาอุ้มมงกูออกจากอกของเซฮุน ร่างบางยิ้มร่าอย่างนึกเอ็นดูเจ้าหมาน้อยที่ดูจะติดคนจนมากไปหน่อย

     

                “เปียกหมดเลย” เซฮุนพูดขำๆ หยิบผ้าเช็ดหน้าผืนขาวมาเช็ดตามหน้าและลำคอของตน

     

                “อาบน้ำไหม ฉันมีชุด” จงอินเดินเข้ามาใกล้แล้วถาม เซฮุนที่คิดว่าอาบน้ำหน่อยก็คงจะดีกว่าปล่อยให้ตัวเหนียวพยักหน้ารับ เมื่อเห็นว่าร่างบางตกลงจงอินเลยจับข้อมือเล็กไว้แล้วพาเข้าบ้านโดยที่อุ้มเจ้ามงกูไว้ด้วยมืออีกข้าง อย่างกับครอบครัวที่มีพ่อแม่ลูกเลย

     

                ร่างหนาพาเซฮุนขึ้นไปยังชั้นสองของบ้านที่เป็นห้องนอนของตัวเอง คุณพ่อคุณแม่ของจงอินยังไม่กลับ ดูเหมือนว่าจะคงอีกสักอาทิตย์กว่าจะกลับมาจากดูงานที่ต่างประเทศ ตอนนี้ก็เลยเหลือแค่คนสองกับหมาหนึ่งในบ้านหลังนี้

     

                “นี่ผ้าเช็ดตัวนะ แล้วก็ชุด ใส่ชุดบอลฉันได้ไหม อันนี้ของมอต้นมันตัวเล็กสุดแล้ว” จงอินว่าพลางยื่นเสื้อผ้าให้เซฮุน ร่างบางคลี่เสื้อบอลออกมาดูก่อนจะยิ้มเมื่อเห็นว่าหลังเสื้อสกรีนชื่อว่าคิมจงอิน

     

                “อื้อ ตัวไหนก็ได้” ร่างบางเดินตรงไปยังห้องน้ำ เปิดประตูแล้วพาตัวเองเข้าไป มองไปรอบๆก่อนจะเริ่มหาอุปกรณ์ที่ใช่ในการล้างตัวเอง ลองหางครีมล้างหน้าแต่เท่าไหร่ก็ไม่เจอเลยต้องชะโงกหน้าออกไปเรียกเจ้าของให้มาหาให้

     

                “จงอิน.. ครีมล้างหน้าอยู่ไหนหรอ” ร่างหนาที่นั่งอ่านหนังสือการ์ตูนบนเตียงเงยหน้าขึ้นมามอง ก่อนจะลุกขึ้นแล้วเดินเข้าไปในห้องน้ำ

     

                “อ่ะอยู่ตรงนี้นะ แล้วก็อันนู้นสบู่ อันนั้นแชมพู มีอะไรเรียกได้เสมอ” จงอินยื่นหลอดครีมล้างหน้ามาให้พร้อมกับชี้ขวดครีมอื่นๆที่วางไว้อย่างเสร็จสรรพ

     

                “อ่อใช่ ถ้าอยากได้คนถูหลังก็เรียกได้นะ” เซฮุนที่คิดว่าจงอินเดินออกไปแล้วต้องตกใจอีกครั้ง ตัวเองกำลังจะถอดเสื้อเลยล่ะ อยู่ๆจงอินก็ชะโงกหน้ามาพูดพร้อมแลบลิ้นให้

     

                “บ้า ปิดประตูให้ด้วยเลย” ว่าพลางจับเสื้อที่ตัวเองจะถอดตอนแรกแน่น จงอินจะเล่นมากไปแล้วนะ หัวใจดวงนี้มันเต้นจะหลุดออกมาอยู่แล้ว

     

     

     

                กลิ่นหอมของครีมอาบน้ำลอยมาแตะจมูกของจงอินจนต้องเงยหน้าขึ้นมาดู เซฮุนออกมาพร้อมผ้าเช็ดตัวผืนใหญ่พาดไว้ที่ไหล่ เส้นผมเปียกลู่ไปกับใบหน้า แล้วดูชุดบอลที่ใส่สิ มันก็ยังดูหลวมช่วงไหล่อยู่ดีสำหรับเซฮุน

     

                “มีไดร์เป่าผมไหมอ่ะ” เซฮุนถามพร้อมเดินมานั่งปลายเตียงของจงอิน

     

                “อยู่ห้องแม่นู่น แต่ล็อกอยู่ เอาผ้าเช็ดก่อนได้ไหม” ร่างหนาลุกขึ้นไปหยิบผ้าผืนเล็กในตู้ออกมา เดินเข้าไปใกล้เซฮุนแล้วเริ่มเช็ดลงที่เส้นผมที่ชื้นน้ำของเซฮุน เช็ดอย่างเบามือที่สุดกลัวว่าร่างบางจะเจ็บ ปกติจงอินน่ะมือหนักจะตาย

     

                “ฉันเช็ดเองได้นะจงอิน” ร่างบางพูดขึ้น ปลายนิ้วเรียวกำที่ผ้าปูที่นอนของจงอิน รู้สึกดีจนคิดว่าอยู่ในความฝัน เซฮุนไม่อยากเชื่อเลยว่าจะมีวันนี้ได้

     

                “ทำไมนายชอบขัดฉันจังเลยนะเซฮุน” พูดไปอย่างนั้น ไม่สนใจริมฝีปากสีเชอร์รี่ที่เริ่มเบะออก เช็ดต่อไปเรื่อยๆจนผมเริ่มแห้ง เลยลองยีไปทีกลุ่มผมนั่นเบาๆอย่างหมั่นเขี้ยว

     

                ชอบขัด ชอบแย้ง ชอบปฏิเสธตลอด ดื้อจริงๆด้วย

     

                พอจงอินเช็ดผมให้เสร็จก็ขอตัวไปอาบน้ำบ้าง ให้เซฮุนรออยู่ในห้องเพราะเดี๋ยวจะขี้จักรยานไปส่งให้ถึงบ้าน เซฮุนก็พยักหน้าตกลงทั้งๆที่สายตากำลังจดจ่อไปที่กรอบรูปเล็กทั้งหลายที่เรียงกันอยู่บนหัวเตียง

     

                “จงอินตอนเด็ก น่ารัก” ร่างบางว่า มือเรียวหันไปหยิบมือถือในกระเป๋าสะพายขึ้นมาถ่ายทั้งหมด ตั้งแต่ตอนเป็นเด็กน้อยหัวเหม่ง จนถึงปัจจุบันตอนได้แชมป์โรงเรียน

     

                ร่างบางไล่สายตาไปตามโต๊ะเรียนก่อนจะหยุดลงที่กล่องจุ๊บปาจุ๊บที่วางไว้ที่มุมของโต๊ะ เซฮุนเปิดกล่องขึ้นมาดูเล็กน้อย เขี่ยเจ้าพวกลูกอมในนั้นดู ทุกอันที่อยู่ในกล่องจะมีกระดาษพันไว้ที่ก้าน

     

                ไม่คิดว่าจงอินจะเป็นคนที่น่ารักและละเอียดอ่อนขนาดนี้ ยิ่งได้รู้จักมากขึ้น ก็ยิ่งชอบมากขึ้น

     

                เซฮุนกลับมานั่งบนเตียงดังเดิม มือเรียวเอื้อมไปหยิบการ์ตูนที่จงอินอ่านเมื่อครู่มาดูบ้าง อยากรู้ว่าจงอินชอบอะไรแบบไหน เพราะอะไรที่เป็นจงอิน เขาอยากรู้ให้มากที่สุด

     

                “กินอะไรไหม หิวรึเปล่าเซฮุน” ร่างหนาเดินออกมาพร้อมเสื้อกล้ามและกางเกงบอล ผมที่เปียกลู่ไม่ต่างจากเขาแต่มันให้คนละอารมณ์อย่างบอกไม่ถูก

     

                “มีของสดรึเปล่า จะได้ทำให้กิน” จงอินเดินเข้ามานั่งลงข้างๆเซฮุน สะบัดผมที่เปียกน้ำเล็กน้อยจนมันกระเด็นใส่เซฮุน เลยได้กลับมาเป็นนิ้วมือทั้งห้าตีเข้าที่แขนแทน

     

                “มี ของเมื่อวานยังนอนรอให้คนมาทำให้อยู่เลย”

     

                “อยากกินอะไรพิเศษเปล่า” กระต่ายน่ารักตรงหน้าจะได้ไหม?

     

                “แล้วแต่เลย เซฮุนทำ ก็คงอร่อยหมดเหมือนที่คุณแม่ทำแหละ”

     

     

                จงอินพาเซฮุนมายังครัวของบ้าน หยิบของสดของเมื่อวานมากองรวมกันบนโต๊ะอาหารให้เซฮุนได้เลือกตามสบายว่าจะใช้อันไหนมาทำเมนูอะไร

     

                “ข้าวห่อไข่ก็แล้วกัน” เซฮุนจิ้มปากพลางพูดออกมา เหมือนกำลังนึกหน้าตาของอาหารที่จะออกมา

     

                “อยากได้ลูกมือไหม” จงอินเดินมาพร้อมกับมีดและเขียงพลาสติก เซฮุนหัวเราะก่อนจะเดินไปหาร่างหนา หยิบของที่ถือมาวางไว้บนโต๊ะ แล้วชี้สั่งให้จงอินหยิบนู่นหยิบนี่เผื่อไว้

     

                “หั่นผักแบบลูกเต๋าเป็นใช่ไหม” ร่างบางหันมาถาม

     

                “เรื่องง่ายๆ” พูดไปงั้น อันที่จริงแม้แต่แอปเปิ้ลยังปลอกออกมาไม่สวยเลย นำประสาอะไรกับหั่นผักให้ออกมาเป็นลูกเต๋าอยากที่เซฮุนต้องการ

     

                “อย่าบาดมือตัวเองแล้วกันจงอิน”

     

                “น่า...”

     

                และหลังจากนั้นไม่นานเซฮุนก็ต้องรีบไปหาอุปกรณ์มาทำแผลตามที่จงอินบอกไว้ นี่คือผลของคนอวดเก่งที่คิดว่าตัวเองทำได้ไปเสียทุกอย่าง เซฮุนถอนหายใจอย่างโล่งอกเมื่อล้างแผลด้วยน้ำเกลือแล้วเห็นว่ามันไม่ได้ลึกมาก แต่ก็ยาวอยู่เหมือนกัน

     

                “อวดเก่ง” เซฮุนว่าพลางเป่าลมอุ่นไปที่นิ้วจงอินหลังจากที่พันพลาสเตอร์ยาให้แล้ว จงอินยิ้มแหยพยายามจะแก้ตัว แต่พอเห็นสายตาที่มองมาทำเอาพูดไม่ออก

     

                “ถ้ามันบาดลึกกว่านี้จะทำยังไงเล่า” เซฮุนลูบไปตามขอบพลาสเตอร์ยา ก่อนจะกดย้ำแรงๆให้เจ้าตัวรู้ว่ามันเจ็บนะที่โดนแบบนี้

     

                “วันหลังทำไม่เป็นก็บอกสิ”

     

                “จะมีวันหลังอีกใช่ไหม เซฮุนจะมาทำอาหารที่บ้านฉันอีกใช่ไหม” หมาหงอยเมื่อครู่เปลี่ยนไปทันที มันชูหูขึ้นและกระดิกหางดีใจ จงอินดีใจเกินหน้าเกินตาไปแล้ว

     

                “ก็คง.. งั้นมั้ง จะมาหามงกู” ร่างบางหันไปมองเจ้าหมาน้อยที่หลับบนฟูกอย่างสบายใจพร้อมรอยยิ้ม ก็ถ้ามาหามงกู... ยังไงก็ต้องเจอเจ้าของมงกูใช่ไหม

     

                “พ่อมงกูก็อยากให้มาหานี่นา” ว่าเสียงหงอยๆ จ้องมองไปยังดวงตาเรียวที่สั่นระริก เซฮุนกำลังหลบหน้าจงอินอีกแล้ว ลิ้นเล็กแลบเลียปากอย่างที่ทำประจำ

     

                “ถ้ามารับ จะมาหาก็ได้” จะทำให้ชอบมากขึ้นไปถึงเมื่อไหร่กัน ... มันจะเปลี่ยนเป็นคำที่มากกว่าชอบแล้วนะจงอิน เซฮุนเหนื่อยทุกครั้งที่ต้องควบคุมหัวใจตัวเอง

     

                มื้ออาหารจบลงอย่างดี ไม่มีใครเสียเลือดเพิ่มตั้งแต่จงอินถูกสั่งให้นั่งรออยู่ที่โต๊ะอาหารเฉยๆ รอจนกระทั่งจานมาอยู่ตรงหน้าแล้วจัดการก็พอ จงอินอาสาเก็บจานเองแต่กลับโดนเซฮุนสั่งห้ามไม่ให้นิ้วโดนแผล

     

                เวลาร่วงเลยมานานแล้วเหมือนกัน ถึงเวลาที่เซฮุนจะต้องกลับบ้าน ถึงแม้ว่าจะโทรไปบอกแล้วก็เถอะ เซฮุนก็แอบเป็นห่วงคุณแม่ไม่ได้ที่ต้องอยู่บ้านคนเดียว

     

                “มันจะไม่ล้มจริงๆนะ” เซฮุนถามขึ้นอย่างหวั่นๆ จงอินเข็นจักรยานมารอที่หน้าบ้าน เหลือก็แต่เซฮุนนี่แหละที่ไม่ยอมขึ้นซ้อนสักที

     

                “ฉันสัญญาว่าจะไม่ล้ม” จงอินเอื้อมมือไปจับข้อมือของเซฮุนให้ขึ้นมานั่งซ้อนเบาะหลัง ร่างบางเดินตามมาอย่างกลัวๆ ก่อนจะนั่งลงจับเบาะไว้แน่น

     

                จงอินเริ่มปั่นจักรยานไปตามทาง หันไปมองเซฮุนเล็กน้อย เห็นว่าร่างบางจับเบาะแน่นตัวเกร็งก็ต้องหัวเราะออกมาพร้อมเอี้ยวมือไปจับมือบางให้มาเกาะไว้ที่เอวตัวเองแทน

     

                เซฮุนสะดุ้ง แต่ก็จับเข้าที่เอวของจงอินเบาๆ ค่ำคืนที่มีแสงของพระจันทร์ส่องชัดเจน ท่ามกลางแสงจันทร์กับคนสองคนบนจักรยาน โรแมนติกไม่น้อยเลย ว่าไหม

     

                กลิ่นหอมเย็นๆของตัวจงอินทำให้เซฮุนเคลิ้มไปกับบรรยากาศ ซุกหน้าลงที่แผ่นหลังกว้าง แขนเรียวกอดรอบเอวของจงอินแน่น ไม่อยากหลอกตัวเองอีกแล้ว อยากทำอะไรก็ทำไปเลยดีกว่า

     

                ตื่นเต้นที่ได้ยินเสียงหายใจของจงอินผ่านหลังที่แนบหูเอาไว้ แม้แต่เสียงหัวใจที่เต้นแรงขึ้นของคนที่ปั่นจักรยานอยู่เซฮุนก็ได้ยิน จังหวะเดียวกันกับที่เขาเป็นอยู่ไม่มีผิด

     

               

                เหมือนกับความฝัน แต่นี่คือความจริง ความจริงที่เซฮุนได้เจอแล้วอบอุ่นไปทั้งหัวใจ

     

               

     

     

                รู้ตัวอีกทีก็ตอนที่เห็นหน้าบ้านของตัวเอง เซฮุนหลับยาว จงอินลองเรียกแล้วแต่ร่างบางกลับไม่ตอบกลับ เลยพอจะรู้ได้ว่าคนที่นั่งซ้อนอยู่ได้หลับไปแล้ว จงอินต้องจับมือที่กอดเอวเขาไว้แน่นไม่ให้หงายหลังลงไปกับพื้น ดูเหมือนจะเป็นหลับที่ฝันดีด้วยสิ พอจอดถึงหน้าบ้านแล้วยังเห็นว่าแอบอมยิ้มซบหลังเขาอยู่เลย

     

                “ถึงแล้วนะ” ลูบเบาๆไปที่หัวของเซฮุน ดวงตาเรียวปรือเล็กน้อย อ้าปากหาวจนเห็นเขี้ยวเล็ก

     

                “อื้อ กลับบ้านดีๆนะจงอิน” ร่างบางพูดงัวเงีย ลุกออกจากเบาะนั่งแบบเซเล็กน้อยจนจงอินต้องรีบจับไว้ไม่ให้คนง่วงล้มลงไปนอนที่พื้น

     

                “นี่กระเป๋า เดี๋ยวก็ลืมหรอก” จงอินหยิบกระเป๋าจากตะกร้าหน้ารถมาให้ เซฮุนรับมางงๆ ก่อนจะก้มหัวขอบคุณ เกือบลืมไปแล้วว่าตัวเองมีกระเป๋า เพราะเจอจงอินทีไรเขาเองก็ไม่เคยได้ถือมัน

     

                “ฝันดีนะจงอิน” หันมาโบกมือบ้ายบายอย่างน่ารักให้จงอินหัวใจเต้นเล่น

     

                “ฝันดีเซฮุน” ว่าเสร็จก็เห็นร่างบางเดินหายเข้าไปในบ้านอย่างรวดเร็ว สงสัยจะง่วงจริงๆ งั้นวันนี้จงอินจะไม่โทรไปหาก็แล้วกัน ให้ได้พักผ่อนแบบเต็มอิ่ม

     

                ยังไงพรุ่งนี้ก็มารับอยู่แล้วนี่ เนาะ

     

     

     

     

     

                เป็นอยู่อย่างนี้มาได้แล้วเกือบสองเดือน จงอินปั่นจักรยานมารอรับเซฮุนที่หน้าบ้านตอนเช้า ไปเรียนด้วยกันในทุกเช้า แล้วนั่งจักรยานกลับมาด้วยกันทุกเย็น บางวันจงอินก็ไปฝากท้องที่บ้านเซฮุน ส่วนเซฮุนเองก็ไปเป็นพ่อครัวให้จงอินแต่ก็อ้างว่าไปหาเพราะมงกูอยู่ตลอด

     

                “จงอินวันนี้พระจันทร์สวยจัง” เซฮุนที่นอนคว่ำอยู่บนเตียงของจงอินพูดขึ้น ชี้นิ้วชวนให้จงอินหันไปมองนอกหน้าต่าง

     

                “ไปนั่งตรงระเบียงกันไหม” ร่างบางพยักหน้ารับแล้วลุกขึ้นตามแรงฉุดของจงอิน

     

                “สวยจัง” ร่างบางพูดขึ้นลอยๆ แต่จงอินคิดว่ารอยยิ้มหวานบนใบหน้าของเซฮุนนั้นสวยกว่าพระจันทร์ดวงกลมบนฟ้าเสียอีก

     

                “นี่เซฮุน..”

     

                “หือ”

     

                “จำวันแรกที่โทรไปหาได้ไหม” จงอินเอื้อมมือไปสะกิดนิ้วเรียวของเซฮุน ดวงหน้าขาวใสขึ้นสีแดงภายใต้แสงจันทร์

     

                “อื้อ ก็จำได้” ตอบรับเบาๆ ไม่ได้หลบมือของจงอินที่เริ่มมาวางทับที่มือของตัวเอง ก็อุ่นดีไม่ใช่หรอ เซฮุนชอบให้จงอินกุมมือจะตายไป

     

                “หรอ งั้นขอโทรศัพท์หน่อยดิ” ร่างบางหันมามองงงๆ แต่ก็ล้วงมือถือในกระเป๋ากางเกงแล้วส่งให้จงอินเหมือนกับวันแรกที่ขอไม่มีผิด แค่นึกก็เผลอยิ้มออกมาแล้ว

     

                “อ่ะเสร็จแล้ว” ยื่นกลับไปพร้อมรอยยิ้มกว้าง เซฮุนเปิดดูความเปลี่ยนแปลงของมือถือแต่ก็ไม่มีอะไรผิดสังเกตุจึงวางไว้ที่ตักของตัวเอง

     

                “นี่เซฮุน..”

     

                “หือ”

     

                “รับโทรศัพท์ด้วยนะ” เซฮุนยื่นมือไปหยิบมือถือขึ้นมาดู แต่ก็ไม่มีอะไรขึ้นมาจนกระทั่งเห็นจงอินกดอะไรยุกยิกในมือถือ แล้วก็ตามด้วยเสียงเรียกเข้าของเขาดังขึ้น

     

                พร้อมกับหน้าตัวเองขึ้นมา ...

                และประโยคข้างบน เป็นแฟนกันนะ

     

                หัวใจดวงน้อยเต้นแรง มือไม้พลันจะไม่มีแรงเสียดื้อๆ ไม่กล้าหันไปมองร่างหนาข้างๆ ไม่กล้าแม้แต่จะมองหน้า มันทั้งเต็มตื้นในอก ดีใจ.. ดีใจที่คิดเหมือนกัน

     

                ร่างบางกดรับเฟสไทม์ ขึ้นหน้าของตัวเองและจงอินบนจอ ร่างหนาส่งยิ้มกว้างมาให้พร้อมกับคำถามเดิมที่เล่นเอาเซฮุนหน้าแดงทั้งในจอและนอกจอ

     

                “เป็นแฟนกันนะเซฮุนนา” จงอินพูดใส่จอมือถือ ก่อนจะหันไปมองหน้าคนข้างตัวที่เขินจนแดงลามไปถึงหูแล้ว ริมฝีปากสีเชอร์รี่ถูกเลียอยู่หลายทีเหมือนกำลังตัดสินใจ

     

                “ตกลง” เซฮุนตัดเอ็นคอลวางสายแล้วหันหน้าไปมองจงอิน ร่างบางพุ่งตัวเข้าไปกอดจงอินแน่น ซุกหน้าเข้าที่ไหล่กว้าง กอดแน่นจนอยากให้จงอินได้ยินเสียงหัวใจที่เต้นแรงมากแค่ไหน

     

                “ฉันชอบนาย ชอบจนอยากรู้จักให้มากกว่านี้ ขอบคุณนะเซฮุน” จงอินว่าพลางกดจูบลงที่กลุ่มผมของเซฮุน มือหนาลูบไปที่แผ่นหลังของร่างบางเบาๆ กำลังร้องไห้อยู่สินะ คนขี้แง

     

                “ฉัน.. ฉันชอบนาย มานานแล้วจงอิน อยาก อยากรู้จักให้มากขึ้นกว่านี้เหมือนกัน” และคงเป็นคำสารภาพรักที่น่ารักที่สุดเท่าที่จงอินเคยได้ยินมา และจะเป็นคนสุดท้าย.. ที่เขาต้องการฟัง

     

     

                ต่อจากนี้ใต้แสงจันทร์จะมีสองเราเดินเคียงกัน 

     

                จะทำความรู้จักกับรักครั้งนี้ให้มากขึ้นมากขึ้นและมากขึ้น...

     

               

     

     

     

     

     

                                                                                Such a beautiful night, what's gonna happen?

                                  

                                                                                 Nothing but the moon knows anything.

     

               

     

     

     

     

          



         

    อยากคุย:

    ไคฮุนอารมณ์รักใสใส ในวัยมัธยม

    แหม่ไอ้เราก็อยากมีคนมาขี่จักรยานรับส่งเหมือนกัน ๕๕๕๕

    นานๆที่จะแต่งฟิคออกมายาวๆ อันนี้รู้สึกว่าตัวอักษรเยอะมากค่ะตอนต้น

    หลังๆมาเริ่มน้อยลง น้อยลง ตามอารมณ์อยากให้จบ 
     

    จริงๆเพลงนี้มีเวอร์ออริเป็นญี่ปุ่น http://www.youtube.com/watch?v=hioN811rSRc

    คิดว่าอาจจะเข้ากับเนื้อเรื่องมากกว่า แนวๆอารมณ์ญี่ปุ่นๆ #รึเปล่า ๕๕๕


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×