คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #45 : [OS] :: คนเก่ง (Baek x Do)
คนเก่ง
Baekhyun x Kyungsoo
เสียงเพลงยังคงดำเนินอยู่ต่อไป ขาเล็กที่ก้าวเดินอยู่สะดุดกึก ก่อนความเจ็บที่ข้อเท้าจะแล่นไปทั่วทั้งขา ความรู้สึกชาวาบลามขึ้นมา และหยุดค้างความปวดนั้นไว้ที่ข้อเท้าเล็ก
ดวงหน้าใสเหยเก เม้มปากแน่น เดินต่อไปข้างหน้า ดวงตากลมหลับลงผ่อนลมหายใจทุกครั้งยามที่ฝ่าเท้าก้าวลงสัมผัสพื้น อีกไม่กี่นาทีข้างหน้าจะเริ่มการแสดงที่สำคัญสำหรับตัวเองและคนในวง ทุกอย่างจะต้องเป็นไปได้ด้วยดี
“ทนไว้สิคยองซู.. ทนไว้” ทำได้แค่พูดกับตัวเองเบาๆ ให้กำลังใจถึงแม้ความเจ็บปวดมันจะไม่ทุเลาลงเลย
“เอ็กโซแสตนด์บาย”
“แบคฮยอน” เสียงกระซิบเรียกชื่อพร้อมมือเล็กที่เอื้อมจับลงที่เสื้อคลุมแถวๆเอวของคนที่เดินอยู่ข้างหน้า แบคฮยอนหันมาตามเสียงก่อนจะส่งร้อยยิ้มกว้างไปให้ เดินเข้ามาหาพร้อมนิ้วเรียวที่เกลี่ยลงมาข้างแก้มใส
“หืม เรียกทำไม” ถามออกไปไม่ดังมากนัก ไมค์ที่อยู่ตรงแก้มถูกดันออกห่าง มองใบหน้าหวานที่เม้มปากแน่นอย่างสนใจ เขยิบกายเข้ามาใกล้ก้มลงถามอีกครั้ง
“เรียกทำไมครับ” แบคฮยอนรอคำตอบไม่นานเท่าไหร่ แต่สิ่งที่ได้รับกลับเป็นวงแขนเล็กที่รวบตัวเข้ามากอด หัวทุยสีดำซุกลงที่ไหล่ ก่อนจะผละตัวออกมาพร้อมรอยยิ้มกว้างเป็นรูปหัวใจ
“กำลังใจ” ว่าเสร็จก็เดินแยกออกมา เตรียมพร้อมเดินไปข้างหน้าอย่างไม่ให้ผิดสังเกต คยองซูพยายามไม่คิดเรื่องที่ข้อเท้าของตัวเองเจ็บ แน่นอนว่าจะต้องเดินไม่กระเผลกให้เป็นจุดสนใจกับทุกคน
เพลงการแสดงแรกขึ้นแล้ว คนตัวเล็กฟุบหน้าลงกับโต๊ะที่จัดไว้สำหรับแสดง เม้มปากแน่นกลั้นน้ำตา ความปวดเริ่มมากขึ้นกว่าก่อนๆ ยิ่งใกล้ถึงตอนออกท่าทางตามที่กำหนดไว้ ทั้งความตื่นเต้นและความเจ็บก็ดูเหมือนจะผสมปนเปจนรู้สึกใจหายไปหมด
ร่างเล็กผ่อนลมหายใจ เงยหน้าขึ้นตามเสียงดนตรี ออกลวดลายตามสมาชิกคนอื่นอย่างไม่มีผิดเพี้ยน เป็นการแสดงที่สมบูรณ์แบบ แม้แต่ตอนที่ต้องกระโดดลงจากที่จัดไว้ลงถึงเวที ความเจ็บปวดก็ดูไม่จางหายไปสักเท่าไหร่ แต่ที่ทำไปก็เพื่อทุกคน ความเจ็บปวดมันเลยถูกกลืนและแทนด้วยความตั้งใจจริงที่จะโชว์ความสามารถให้ทุกคนพอใจ
การแสดงจบลงด้วยเสียงปรบมือของศิลปินอื่นๆและเสียงกรี๊ดแสดงความดีใจของแฟนคลับ ร่างเล็กพรูลมหายใจออกอย่างโล่งอกเดินไปข้างหน้า รีบตรงดิ่งไปยังหลังเวทีที่เตรียมไว้สำหรับเหล่าศิลปิน
“คยองซูขานายเจ็บ” เป็นเสียงของหัวหน้าจุนมยอนที่ถามขึ้นทันทีที่ถึงห้องพักศิลปิน ร่างเล็กหันไปมองตามเสียงถามไถ่ที่ติดจะเป็นห่วง ก่อนจะส่ายหน้าเชิงไม่เป็นไร
“ครับ? นิดหน่อย ไม่ปวดเท่าไหร่หรอกครับ” ที่ต้องโกหกไปเพราะใจจริงแล้วอยากรอถึงเวลาตอนรับรางวัล อย่างน้อยความคาดหวังของวันนี้ที่จะได้ขึ้นเวทีอีกครั้งคือตอนได้รับรางวัลพร้อมหน้าเพื่อนพี่น้องในวง
“ไม่ได้ นั่งลงเดี๋ยวนี้ ฮยองจะดู ไม่งั้นจะไปบอกเมเนเจอร์ตอนนี้เลย” จุนมยอนเลือกที่จะดึงคนตัวเล็กให้นั่งลง ไม่สนใจเสียงทักท้วงพร้อมแรงที่ขืนตัวเล็กน้อยของคยองซู
เมื่อเปิดดูที่ข้อเท้าแล้วก็ถึงกับตาโต จุนมยอนเม้มปากแน่นเงยหน้าขึ้นมาสบตาดวงตากลมโตของคยองซูที่หลบตาไปแล้วเรียบร้อย ข้อเท้าเล็กบวมแดงขึ้นอย่างน่ากลัว แบบนี้บอกไม่ปวดได้ยังไง มันดูน่าจะปวดมาได้สักพักแล้วด้วยสิ
“แบคฮยอน มาดูสุดที่รักนายเดี๋ยวนี้” จุนมยอนยืนขึ้นเต็มความสูง หันหน้ามองหาแบคฮยอน ก่อนจะล็อคเป้าหมายแล้วเพิ่มเสียงเรียกให้เจ้าตัวหันมา
“ขอโทษนะครับ” บอกกับโคดี้หญิงที่แต่งหน้าให้ตัวเอง ก้มหัวให้เล็กน้อยแล้วขอตัวผละออกมา เดินหาจุนมยอนที่ตีหน้าเครียดและคยองซูที่ก้มหน้าจนชิดอก
“คยองซูดื้ออะไรครับฮยอง” ถามไปอย่างติดตลก เดินมาข้างหน้าคนตัวเล็กที่เบะปากลงหลังจากที่เจอคำถามของแบคฮยอนสะกิดใจ
“ก็ดื้อพอตัว เจ็บแล้วเงียบ” จุนมยอนฟ้องอาการและเดินออกไป เหมือนคยองซูจะโดนทิ้งระเบิดลูกโตไว้
ดวงตากลมโตเหลือบขึ้นมองแบคฮยอนอีกครั้ง ใบหน้าหล่อที่ดูจะมีน้ำมีนวลขึ้นนิดหน่อยขมวดคิ้วจนเป็นปม ดวงตารียาวจ้องมองมาเหมือนจับผิด รีบเขยิบกายเข้ามานั่งคุกเข่าอยู่ข้างหน้าคนตัวเล็ก
“เจ็บตรงไหน เจ็บอะไร เจ็บตั้งแต่เมื่อไหร่” ถามรัวออกไปอย่างเป็นห่วง รีบใช้มือจับไปที่ตัวของคยองซู
“มันไม่เป็นอะไรมาสักหน่อย..” ขยับขาตัวเองไปมาให้ปลายขากางเกงที่จุนมยอนเลิกขึ้นมากลับลงไปอยู่ที่ขอเท้าดังเดิม รอยยิ้มหวานถูกส่งไปให้แบคฮยอน พร้อมมือเล็กที่จับลงไปที่ตรงไหล่กว้าง
“คยองซู อย่าโกหก” แบคฮยอนส่งเสียงเข้ม ลุกขึ้นยืนแล้วดึงแขนเล็กให้ลุกขึ้นตาม
คยองซูเผลอซี๊ดปากร้องโอ้ยเมื่อลุกขึ้นยืนเต็มความสูง น้ำหนักที่เทลงไปยังข้อเท้าเริ่มปวดขึ้น ดูเหมือนตอนนี้แบคฮยอนจะรู้แล้วล่ะว่าอาการเจ็บของคนตัวเล็กมันเกิดขึ้นจากตรงไหน
แบคฮยอนย่อตัวลงกับพื้น ยื่นมือไปพับขากางเกงทั้งสองข้างของคยองซูขึ้นเหมือนหาความผิดปกติ จนกระทั่งสังเกตเห็นถึงความบวมแดงของข้อเท้าซ้าย ใบหน้าเล็กของแบคฮยอนถึงได้เงยหน้าขึ้นไปมองคนเจ็บที่เสตาไปทางอื่น
“ปล่อยให้บวมขนาดนี้แล้วไม่เจ็บหรือไง...” แบคฮยอนพรูลมหายใจอย่างเหนื่อยอ่อน เอื้อมมือไปสัมผัสแผ่วเบาลงที่ข้อเท้าเล็กของคยองซู
“เจ็บ แต่ผมอยากอยู่กับทุกคนจนจบงาน” คยองซูเฉลยความจริงออกไป ถอยหลังนั่งลงบนเก้าอี้ ยกข้อเท้าของตัวเองขึ้นมานวด
“นวดแปปเดียวเดี๋ยวก็หายน่า” พูดออกมาไม่เต็มเสียงนัก เพราะแต่ละครั้งที่ตัวเองลงน้ำหนักกดนวดมันดูเหมือนจะยิ่งปวดมากกว่าเดิม
“คยองซู มันบวมขนาดนี้แล้ว มันไม่ได้ปวดธรรมดาใช่ไหม.. มันปวดมากนะ” แบคฮยอนจับลงไปที่ข้อเท้าเล็กเบาๆ ไล้นิ้วโป้งสัมผัสลงบางเบา ก่อนจะเอื้อมมือนั้นลงไปทาบทับที่มือเล็ก
“ไปบอกเมเนเจอร์ฮยองกัน แล้วไปหาหมอเถอะนะ” เสียงทุ้มเอ่ยบอก ก่อนจะหันไปกวาดสายตาหาเมเนเจอร์สักคนที่สามารถพาคยองซูออกจากงานแล้วรีบมุ่งหน้าไปโรงพยาบาล
“แต่ผม..” เสียงเล็กขัดขึ้นมาเล็กน้อย
“เชื่อฉัน” แบคฮยอนพูดออกมาแค่นั้น ก่อนจะยืดตัวขึ้น มอบสัมผัสแผ่วเบาลงที่ริมฝีปากอิ่ม
.
.
.
“ว่าไงล่ะเด็กดื้อ มีสี่ขาเลยสิตอนนี้” แบคฮยอนเดินไปทักคนตัวเล็กที่นั่งหน้าหงิกอยู่ในห้องพัก คยองซูกลับมาก่อนพวกเขาเมื่อไม่นานมานี้ โดยที่เมเนเจอร์ฮยองโทรมาบอกว่าอาการไม่หนักเท่าไหร่ แต่ต้องพันผ้าไว้แล้วใช้ไม้ค้ำในการเดินเพื่อไม่ให้เทน้ำหนักไปยังขาที่ปวด
“หยุดล้อ ไหนล่ะรางวัล” คยองซูเบะจนปากยื่น ชะโงกหน้าออกจากโซฟาหันมาถามแบคฮยอนที่รีบเดินปรี่ไปหา
“มันสวยมาก เพราะนี่คือความพยายามของพวกเรา” แบคฮยอนเอื้อมมือออกมาจากข้างหลังช้าๆ รางวัลสีทองทรงสีเหลี่ยมถูกยื่นมาให้ มือเล็กเอื้อมไปจับ ก่อนจะดึงออกมาถือเอง มองลงไปอย่างนั้นนานๆเหมือนอยากจดจำรายละเอียดของมันให้ตราตรึงอยู่ในใจ
“เหมือนน้ำตาจะไหลเลยล่ะ” คยองซูพูดออกมาเบาๆพร้อมรอยยิ้ม ดวงตากลมโตคลอไปด้วยน้ำสีใส เงยหน้าขึ้นมองเพดานกะพริบตาถี่ๆเพื่อไม่ให้มันไหลออกมา
“ตอนนั้นก็เหมือนกัน.. แต่ที่จะไหลเพราะว่าไม่มีคนสำคัญอยู่ข้างๆ” แบคฮยอนพูดพร้อมรอยยิ้ม เสียงนุ่มทุ้มติดตลก ก่อนจะหย่อนก้นลงมานั่งข้างคนตัวเล็ก
“ผมจะไปบอกทุกคน ว่าแบคฮยอนบอกไม่สำคัญ” คยองซูกระตุกยิ้มที่มุมปาก เขยิบหน้าเข้าไปใกล้มองดวงตาเรียว แต่ก็อดที่จะหลุดขำไม่ได้เลยเมื่อเจอหน้าตาเหรอหราของแบคฮยอน
“นี่แกล้งกันหรือไง” นิ้วเรียวยื่นขึ้นมาบีบจมูกโด่งรั้นอย่างหมั่นเขี้ยว เขยิบหน้าเข้าไปใกล้กดปากลงที่แก้มใสแรงๆ
“เห็นแก่ได้ชะมัด..” คนตัวเล็กขมุบขมิบปากพูดเบาๆ ดวงหน้าใสขึ้นสีแดงจางๆไล่มาถึงใบหู ใช้สองมือดันหน้าของแบคฮยอนให้ออกห่าง หันไปหยิบไม้ค้ำสีดำยาวขึ้นมาขวางไว้
“ใจร้าย นี่จะตีกันเลยหรอ” ส่งเสียงตัดพ้อไปให้ได้อย่างน่าหมั่นไส้ คยองซูไม่ตีจริงก็ดีแค่ไหนแล้ว
“ผมเจ็บอยู่นะ” คยองซูขึ้นเสียง ส่งมือไปตีลงที่แขนของแบคฮยอน
“ไหนตอนนั้นใครบอกไม่เจ็บ”
“ไม่มี..” คยองซูเอ่ยเสียงเบา เหล่ตามองไปทางอื่น
“เห้อ” แบคฮยอนถอนหายใจ เขยิบตัวเข้าไปใกล้ ดึงไม้ค้ำยาวออกไปจากการขวางไว้ของคยองซู
มือเรียวเอื้อมจับลงไปที่ขาเล็ก ยกขึ้นมาวางไว้ที่หน้าตักของตัวเอง คยองซูพยายามขืนตัวจะยกขาออกมาให้ได้ แต่เมื่อสบกับสายตาจริงจังของแบคฮยอนถึงได้หยุดการกระทำนั้นไว้แล้วเปลี่ยนเป็นนั่งนิ่งเม้มปากแน่น
“นี่คยองซู..” แบคฮยอนเรียกเบาๆ
“หือ” ขานรับพร้อมหันไปมองหน้าคนเรียก คยองซูเบิกตาโตเมื่อเห็นแบคฮยอนก้มหน้าลงไปประทับปากลงที่ข้อเท้าผ่านผ้าที่พันไว้ ดวงหน้าใสแดงขึ้นพร้อมหัวใจดวงน้อยที่เริ่มเต้นแรง
“แบคฮยอน.. ไม่เอา”
“คยองซูเป็นคนเก่งมากรู้ไหม” แบคฮยอนเงยหน้าขึ้นมาพูด ดวงตาเรียวสบเข้ากับดวงตากลมโต ก่อนจะหยีปิดลงพร้อมรอยยิ้ม เอื้อมมือไปแตะลงที่แก้มยุ้ย หยิกลงไปเบาๆ
“งือ..” ครางเสียงแผ่ว หลบสายตาหวานของแบคฮยอน
“เก่งมาก ฉันภูมิใจในตัวคยองซูมากนะ” แบคฮยอนยังพูดต่อไป มือเรียวยังคงไล้อยู่ที่ข้อเท้าเล็ก
“แต่รู้ไหม เป็นอะไรก็ต้องรีบบอกกันนะ ฉันเป็นห่วงคยองซูมากจริงๆ” เขยิบกายเข้ามาใกล้คนตัวเล็ก ส่งแขนค้ำไว้บนโซฟา พาตัวเองขึ้นมาทาบทับเหนือตัวของคยองซู
“เพราะถ้านายเป็นอะไรไป ตรงนี้ของฉันมันจะเจ็บกว่าที่นายเป็นร้อยเท่า” จับไปที่มือเล็กให้เคลื่อนมาสัมผัสลงที่อกข้างซ้ายของตน
มือของแบคฮยอนอุ่น อุ่นจนร้อนไปถึงหัวใจดวงน้อยของคยองซู ที่ตอนนี้กำลังเต้นแรงไม่เป็นจังหวะ
เหมือนกับสัมผัสแรงที่ได้รับตรงฝ่ามือของตัวเอง
“แบคฮยอนใจเต้นแรงนะ” คยองซูพูดเบาๆพร้อมรอยยิ้ม มองคนตรงหน้าที่พยักหน้าตอบรับ
“มันเต้นแรงทุกครั้งที่อยู่กับคนรัก คยองซูว่ามันเป็นอย่างนั้นจริงหรอ..” ไม่ทันรอให้ได้คำตอบกลับ ริมฝีปากบางเลือกที่จะสัมผัสลงแผ่วเบาที่ริมฝีปากอิ่ม กดย้ำเบาๆพอให้รู้สึก ก่อนจะผละออกมามองดวงหน้าใส
“ไม่รู้สิ แบคฮยอนว่ายังไงครับ” เอียงคอถาม ผลักใบหน้าเล็กที่ทำท่าจะเขยิบใกล้เข้ามาจูบอีกครั้ง
“อืม.. ไม่รู้สิ” แบคฮยอนตอบกลับเหมือนกับที่คยองซูตอบ ริมฝีปากบางเบ้ลงเมื่อได้รับคำตอบไม่ตรงใจ
“ผมไม่รู้ว่าคนรักแบคฮยอนคือใคร แต่คนที่ผมรักคือคนนี้ คนที่ทำหน้างอนอยู่” จิ้มนิ้วลงไปแรงๆที่ริมฝีปากบางของแบคฮยอน คนที่โดนกล่าวหาว่างอนยิ้มแป้นไม่เหลือเค้าเดิมแม้แต่นิด
“คยองซู คนเก่งของฉัน รู้ไหมทำแบบนี้ฉันยิ่งรักนาย... เด็กดื้อเอ้ย”
END
อ้าว ตัดจบง่ายๆ ๕๕๕๕๕ #หนี
ช่วงนี้เบลอๆ กระบรรยายอาจดรอปลงไปเยอะ.. เยอะมากเลย ๕๕๕
หวังว่าทุกคนจะยังชอบนะคะ T.T
รักแบคโด้จังเลย คยองซูหายเร็วๆนะ เป็นคนเก่งต้องรีบหาย
#ช่วงนี้เน้นแต่งฟิคทุกโมเมนท์สำคัญ(สำหรับเรา๕๕๕)
ความคิดเห็น