คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #32 : ทางลับอันแยบยล (4)
คนทั้งสี่ตัวแข็งทื่อเมื่อพบว่าอาวุธที่อัศวินดำกล่าวถึงนั้นคืออะไร พวกเขาถึงขั้นไม่กล้าระบายลมหายใจออกโดยแรง
สัตว์ร้ายสามหัวตัวขนาดมหึมากำลังกินอาหารมือค่ำของมัน วัวทั้งตัวกำลังถูกมันเขมือบอยู่เบื้องหน้าสายตาพวกเขา ถ้าจะให้เทียบขนาดก็คงจะเทียบได้กับอุโมงค์เมื่อครู่ ขนาดตัวของมันเรียกได้ว่าใหญ่พอดีกับอุโมงค์ทางลับที่ถูกก่อสร้างขึ้น
ในบัดนี้พวกเขาทั้งสี่คงจะสามารถตอบได้ว่าอุโมงค์ขนาดใหญ่นั้นสร้างขึ้นมาเพื่ออะไร
ส่วนศีรษะด้านหน้าสุดและลำตัวของมันมีรูปร่างคล้ายกับราชสีห์ตัวผู้ ตรงกลางลำตัวมีศีรษะของแพะภูเขายื่นออกมานับเป็นศีรษะที่สอง เขาของมันโค้งเป็นวงไปด้านหลัง ทางด้านท้ายกลับมีศีรษะหนึ่งทดแทนหางเป็นอสรพิษยักษ์ที่แผ่แม่เบี้ยแลบลิ้นสองแฉกดูน่ากลัว คอของสัตว์ทั้งสามหันศีรษะมาด้านหน้า สายตาของอสูรร้ายทั้งหกข้างจับจ้องมาที่เหยื่ออันโอชะทั้งสี่ ดูท่ามันคงจะนึกว่าพวกเขาเป็นของหวานมื้อค่ำอันโอชะเสียแล้ว
ลูทเป็นคนเดียวที่ยังยิ้มออกแต่รอยยิ้มของเขานั้นเรียกได้ว่ายิ้มอย่างเต็มฝืน เขากล่าวทีเล่นทีจริงขึ้นมาว่า “ข้าว่าอาวุธแบบนี้มันยิ่งกว่าหมอกพิษกับระเบิดรวมกันเสียอีกนะนี่”
บลูอับจนปัญญากล่าวยอมรับว่า “เห็นจะจริง ถ้าเจ้านี่ขึ้นไปเดินเพ่นพ่านอยู่ในเมืองคงจะสร้างความปั่นป่วนได้อย่างน้อยก็ครึ่งเมือง”
โรซาไลน์พูดอะไรไม่ออกได้แต่จ้องดูมันอย่างเดียว เธอคำนึงขึ้นว่าอาจบางทีกับดักยังจะน่ากลัวกว่านี้
ไกเป็นคนเดียวที่ตั้งสติได้ก่อน ด้วยประสบการณ์ของมือปราบทำให้เขาตั้งมั่นอยู่ในสติพร้อมรับการเปลี่ยนแปลงเสมอ กองทัพโจรจำนวนหลายร้อยคนเขาก็เคยเจอมาแล้ว เขาแยกแยะสถานการณ์อาศัยความรู้และประสบการณ์ในชีวิตกล่าวว่า “สัตว์ตัวนี้มีชื่อว่าคิเมร่า ร่างกายของมันมีส่วนผสมของสิงโต แพะภูเขาและอสรพิษในตัวเดียวกัน ประสาททั้งสามสามารถสั่งการแยกจากกันได้เด็ดขาดทำให้พวกมันสามารถจู่โจมได้สามครั้งจากสามเศียรพร้อมๆกัน เศียรราชสีห์เบื้องหน้าของมันร้ายกาจที่สุดมีความสามารถพ่นลมหายใจเป็นเปลวเพลิงที่ร้อนจัด เศียรแพะที่อยู่กลางลำตัวมีเขาที่แข็งแกร่งราวกับเหล็กกล้าสามารถแทงทะลุแนวหินผาได้อย่างไม่ยากเย็น ท้ายสุดคือเศียรอสรพิษ พิษของมันร้ายแรงยิ่งกว่างูเห่าสามารถฉกกัดได้รวดเร็วยิ่ง ข้าเคยได้ยินว่ามันเป็นเพียงสัตว์มายาในตำนาน ไม่น่าเชื่อว่าจะมีอยู่จริงในโลก”
ลูทกล่าวต่อว่า “ยืนยันนั่งยันนอนยันได้เลยทีเดียว หลักฐานตัวเป็นๆอยู่ตรงหน้าพวกเรานี่แล้ว แต่ไม่รู้ว่าพวกมันจะถือเราเป็นอาหารค่ำอีกมื้อหรือไม่”
โรสจะอย่างไรก็เป็นสตรีที่ถูกเลี้ยงมาเป็นอย่างดี เมื่อเห็นสัตว์ร้ายก็เกิดความหวาดหวั่นขึ้นมา เธอกล่าวว่า “เจ้าอย่าพูดให้ข้าขนลุกได้ไหม”
บลูกล่าวถามเป็นเชิงว่า “แล้วพวกเราจะเอาอย่างไรกันดี”
คนทั้งสามต่างไม่ตอบคำหันหน้าไปมองไกให้ตัดสินใจแต่เพียงผู้เดียว มือปราบอันดับหนึ่งจะอย่างไรก็สมควรมีแนวทางการตัดสินใจที่ถูกต้องกว่าพวกเขาเป็นแน่
ได้ยินอย่างนั้นไกก็ยังคงเดินนำหน้าคนทั้งสี่ไปด้านหน้า เขากล่าวว่า “สัตว์ประหลาดดุร้ายเช่นนี้ถ้าปล่อยเข้าเมืองโอดินไปคงจะเป็นอันตรายอย่างใหญ่หลวง มันเพียงตัวเดียวก็สามารถคร่าชีวิตผู้คนที่ไม่รู้จักการต่อสู้ได้เป็นพันเป็นหมื่นคน ถึงพวกเราเลือกที่จะหลบหนีก็คงมีโอกาสรอดเพียงน้อยนิด เปลวเพลิงราชสีห์ของมันคงจะเผาผลาญเราเป็นจุลภายในพริบตา ดูท่าทางจะไม่มีทางเลือกเสียแล้ว”
ทั้งสามเห็นไกตัดสินใจเช่นนั้นก็ต้องกัดฟันเดินตามไกพร้อมกับภาวนาให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครอง
ความคิดเห็น