ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ศาสตราคู่กู้แผ่นดิน

    ลำดับตอนที่ #201 : เล่ม 7 - ตอนที่ 95 - ภารกิจเริ่มต้น (1)

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.86K
      5
      5 ก.ย. 51

    /> /> />

    ภาคขีดเส้นแบ่งแผ่นดิน

    ตอนที่ 95 ภารกิจเริ่มต้น

    16 มีนาคม อ.ศ. 226

     

    ขุนศึกไกมิอาจกระทำผิดพลาดดั่งเช่นครั้งก่อน บทเรียนของการสูญเสียโซเฟียจนเกือบทำให้ชีวิตของสหายตกอยู่ในความเสี่ยงของความตายเพียงครั้งเดียวก็เกินพอแล้ว ในครั้งนี้แม้ว่าจิตใจของเขาจะตกต่ำถึงขีดสุด ก็ต้องกดความรู้สึกนั้นให้ซ่อนอยู่ในส่วนลึกของจิตใจ ไม่อาจนำมาทับซ้อนกับภารกิจเบื้องหน้านี้ได้

                    “ทหารจักรวรรดิตั้งแนวป้องกันอยู่ทั้งหมดสามชั้น แบ่งเป็นฝั่งซ้ายขวาและแนวป้องกันชั้นใน แนวป้องกันหนึ่งมีทหารประจำการอยู่ทั้งหมดห้าคน เว้นเสียแต่แนวป้องกันชั้นในที่มีนายทหารเฝ้าระวังเพิ่มอีกคนหนึ่ง ด้านหลังของแนวป้องกันเหล่านี้มีพื้นที่ที่เป็นเขตอาคมอยู่ หากพวกมันพบเห็นเหตุผิดปกติจะสามารถหลบหนีเข้าไปในเขตอาคมนี้ได้ทันที ในเขตนั้นพวกเรามิอาจใช้เอลใดๆและอาจลงมือได้ลำบากมากขึ้น” เสียงกล่าวของผู้อำนวยการทอริอุสดังขึ้น เอลตาทิพย์ของท่านสามารถมองเห็นได้จากระยะไกล จึงสามารถบ่งบอกสถานการณ์เบื้องหน้าโดยละเอียด

                    ไอเวอเรียสขบคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วหันหน้าไปมองขุนศึกไกเหมือนจะถามความเห็น ไกเห็นท่าทีเช่นนั้นจึงกล่าวว่า “เรื่องราวทุกประการต่อจากนี้ขอให้ทุกคนปฏิบัติตามแผนการของท่านไอเวอเรียส”

                    บุรุษผมน้ำตาลพยักหน้ารับความรับผิดชอบนั้น อธิบายแผนการว่า “ข้ากับท่านทอริอุสจะเบี่ยงเบนความสนใจของแนวป้องกันชั้นในทั้งห้าโดยทำการหยุดแนวป้องกันทางซ้ายและขวา ในขณะนั้นขอให้ท่านไกและโรสจัดการกับแนวป้องกันชั้นใน”

                    ไกพยักหน้าตอบตกลง กล่าวว่า “พวกเราไม่จำเป็นต้องสังหารทหารพวกนี้โดยใช่เหตุ แค่กระทำให้หมดสติก็เพียงพอแล้ว เว้นเสียแต่สถานการณ์บังคับไม่มีทางเลือกอื่น”

                    โรซาไลน์เห็นด้วยจึงเสนอว่า “ขอเพียงพี่ไกแพร่กระจายเขตแดนความเย็นออก การเคลื่อนไหวของเหล่าหทารจะเชื่องช้าลงเหลือเพียงครึ่งหนึ่งของปกติ พวกเราทั้งหลายจะทำงานง่ายขึ้นอีกมาก”

                    “เช่นนั้นพวกเราจะใช้สัญญาณจากท่านไกเป็นสัญญาณการเริ่มภารกิจ ทันใดที่เขตแดนความเย็นครอบคลุมพื้นที่ทั้งหมดพวกเราจะลงมือโดยพร้อมเพรียง” ไอเวอเรียสหันไปถามว่า “ท่านผู้อำนวยการมีข้อเสนออันใดหรือไม่?

                    ผู้อำนวยการทอริอุสส่งสายตามอบความขอบคุณให้กับคำพูดของไกครั้งหนึ่ง แล้วจึงกล่าวว่า “ข้าเห็นด้วยกับการที่จะสยบทหารพวกนี้ไว้เป็นเพียงพอ พวกเขาเหล่านี้ล้วนเป็นชาวโอดินที่ไม่ทราบสาเหตุของสงครามเสียด้วยซ้ำ พวกเราไม่ควรที่จะลงมืออย่างโหดเหี้ยม”

                    ทุกคนพอตกลงกันเป็นมั่นเหมาะจึงเข้าประจำที่เตรียมจะลงมือตามแผน ขุนศึกไกระบายลมออกจากปากอย่างช้าๆ เอลน้ำแข็งในร่างกระจายตัวออกไปอย่างช้าๆ ไกค่อยๆบังคับให้ร่างกายก่อกำเนิดเอลปริมาณน้อยแต่สม่ำเสมอในทุกๆจังหวะ อนุภาคของเอลน้ำแข็งถูกปลดปล่อยออกไปยังอากาศรอบตัวอย่างเท่าๆกัน แพร่กระจายออกไปทั่วบริเวณจนกระทั่งครอบคลุมพื้นที่ที่ทหารทั้งหมดยืนอยู่ โดยที่ไกมิได้ขยับตัวออกจากที่ซ่อนแม้แต่ก้าวเดียว การกระทำเช่นนี้กินเวลาเกือบหนึ่งก้านธูปแต่เป็นการใช้เอลอย่างชาญฉลาดและมิใช่ว่าทุกผู้คนจะกระทำได้

                    ผู้อำนวยการทอริอุสที่เตรียมพร้อมอยู่ด้านข้างเห็นเอลน้ำแข็งเช่นนี้พลันรำลึกถึงประมุขแห่งตระกูลน้ำแข็งคนก่อน คำนึงว่า สักวันหนึ่งบุรุษผู้นี้คงจะก้าวข้ามระดับของประมุขตระกูลน้ำแข็งไปได้แน่

                    ทันใดที่เอลน้ำแข็งแพร่กระจายไปทั่วก็รวมตัวกันหนาแน่นขึ้น ไกทราบว่าบัดนี้ถึงเวลาลงมือแล้ว แสงสีน้ำเงินพลันสว่างวาบออกมาจากตราสัญลักษณ์แห่งเอลน้ำแข็ง มวลอนุภาคที่ลอยอยู่เต็มอากาศถูกขุนศึกหนุ่มกระตุ้น ปลดปล่อยความเย็นออกไปทั่ว ทหารทั้งหลายรู้สึกตัวอีกทีหนึ่งก็พบว่าความเย็นแทรกซึมเข้าร่าง อุณหภูมิลดต่ำลงกว่าปกติจนเข้าใกล้จุดเยือกแข็ง หมอกสีขาวที่เกิดจากไอน้ำกลายเป็นเกล็ดน้ำแข็งกระจายเต็มฟ้า ทัศนวิสัยย่ำแย่มิอาจมองเห็นอะไรได้ชัดเจน ซึ่งทั้งหมดนี้เกิดขึ้นภายในเวลาชั่วลัดนิ้วมือ

                    แสงสีแดงของอัคคีแผดเผาส่องสว่างลุกโชนออกมาจากด้านหนึ่ง กระบี่ตวัดเจ็ดดาวในมือของไอเวอเรียสเปล่งแสงตามผลึกเอลไลท์เม็ดที่สี่ กรีดเข้าใส่อากาศเบื้องหน้าเปิดทางในหมอกน้ำแข็งวูบหนึ่งแล้วเปลวเพลิงก็หายไป ไอเวอเรียสใช้สายตาที่แหลมคมและความจำที่แม่นยำจดจำตำแหน่งทหารทั้งสิบหกคนไว้ในชั่วขณะจิต พุ่งออกจากจุดกำเนิดไปยังแนวทหารที่อยู่ทางซ้าย สะบัดกระบี่ที่มิได้ชักออกจากฝักเพียงคราเดียวก็ทำให้ทหารสองในห้าสิ้นสติไปทันที

                    ทหารอีกสามคนที่เหลือยังมิทราบว่าเกิดเหตุอันใดก็พบว่าเพื่อนของตนเองล้มลงไปสองคน ขณะที่คนหนึ่งกำลังจะร้องตะโกนขอความช่วยเหลือก็พบว่าปากของตนมิอาจพูดออกมาได้ตามปกติ น้ำย่อยในกระเพาะอาหารเหมือนจะพุ่งออกมานอกช่องปาก ไอเวอเรียสใช้หมัดซ้ายข้างหนึ่งต่อยเข้าไปที่ท้องของทหารผู้นั้นอย่างแรง ตามด้วยสันฝักดาบฟาดเข้าที่ต้นคอล้มลงสลบไปอีกหนึ่งคน

                    ผัวะ ผัวะ!

                    ไอเวอเรียสใช้เวลาอีกเพียงวูบเดียวทหารที่เหลือทั้งสองก็ไม่มีผู้ใดสามารถลุกขึ้นยืนได้ การลงมือทั้งหมดจดและเฉียบขาดสมกับเป็นทายาทแห่งโอเบรอน

                    แต่เมื่อไอเวอเรียสกวาดสายตากลับมามองทหารอีกสิบเอ็ดคนที่เหลือกลับเห็นความผิดปกติขึ้น!

                    ทหารสิบจากสิบเอ็ดนายต่างล้มลงสิ้นสติกันหมด คงเหลือไว้แต่เพียงชายชราผมขาวผู้หนึ่งยืนลูบเคราของตนอยู่ท่ามกลางร่างของทหารเหล่านั้น!

                    “นายทหารผู้นั้นเป็นของเจ้า” ผู้อำนวยการทอริอุสกล่าวโดยมิได้มองผู้ใด

                    กระบี่บุปผาเพลิงหิมะพลันส่องประกายสีน้ำเงินขึ้น นายทหารเห็นบุคคลผู้หนึ่งโผล่วูบออกมาจากที่ซ่อนตัวด้านข้างห่างจากตนเองไม่ถึงสิบก้าว ประกอบกับบรรดาทหารลูกน้องทั้งหลายต่างล้มลงสิ้นสติไปทั้งหมด ความกลัวจึงบังเกิดหันกายกลับวิ่งหนีไปยังเขตอาคม

                    “ช้าไป” เสียงของขุนศึกไกดังขึ้นด้านข้างนายทหารผู้นั้น พร้อมกับสันมือที่สับเข้ากลางหลัง นายทหารจนตรอกจึงคิดลองเสี่ยงดูสักครา พลิกตัวชักกระบี่ข้างกายแทงเข้าใส่ไกโดยมิได้คำนึงถึงความปลอดภัยของตนเอง

                    ไกไหนเลยจะยอมแลกการโจมตีกับบาดแผลจากกระบี่เช่นนี้ จึงเบี่ยงฝ่าเท้าเล็กน้อยเอี้ยวตัวหลบกระบี่อย่างฉิวเฉียด เหลือที่ว่างเพียงครึ่งหุนห่างจากท้องน้อย ใช้หัวไหล่กระแทกหัวไหล่ฝั่งตรงข้ามจนกระบี่หลุดจากมือ

                    นายทหารมีสีหน้าหวาดกลัวปนตื่นตระหนกเมื่อพบกับยอดฝีมือในระดับนี้ พลันได้ยินเสียงชายเสื้อสะบัดอากาศครั้งหนึ่ง ก็พบว่าแผ่นหลังของฝ่ายตรงข้ามกระแทกเข้าใส่ตนจนกระทบผนังทางใต้ดิน นั่นเป็นภาพสุดท้ายที่ทหารผู้นี้เห็นก่อนที่จะร่วงหล่นลงกับพื้นสิ้นสติสมประดี

                    แต่ทันใดนั้นเองเหตุการณ์ที่ทุกคนไม่คาดฝันพลันอุบัติขึ้น!

                    แกร๊ก!    

                    เสียงหนึ่งบังเกิดขึ้นเมื่อร่างของนายทหารกระทบพื้นดิน

                    กับดัก!’ นั่นเป็นสิ่งแรกที่พวกเขานึกถึง เมื่อเห็นแผ่นหินที่ใจกลางถ้ำค่อยๆยุบตัวลงไป ขุนศึกไกไม่อาจทำอะไรได้นอกจากให้สัญญาณบุคคลทั้งสองว่าผิดท่า พลางม้วนตัวออกมาจากปากถ้ำโดยพลัน ในใจคำนึงว่า การบุกเข้าทางนี้ไม่สำเร็จเห็นทีจะต้องอาศัยหนทางในอุโมงค์ศิลาที่มีความเสี่ยงสูงกว่าเสียแล้ว

                    ฟั่บ!

                    เสียงลูกดอกหนึ่งฝ่าอากาศ พุ่งทะลวงจากระยะร้อยก้าวเข้าใส่แผ่นหินที่กำลังยุบตัวแผ่นนั้น ลูกเหล็กกล้าดอกสอดเข้าไปในบริเวณช่องว่างระหว่างแผ่นหินพอดิบพอดี บิดงอด้วยแรงกดจากแผ่นหินแต่เหล็กกล้าจะอย่างไรก็เป็นเหล็กกล้า เพียงบิดเบี้ยวแต่มิได้หักกลาง สามารถหยุดกับดักนั้นไว้ได้ทันท่วงที

                    “ต้องขอบคุณเจ้าแล้วโรซาไลน์” ไกหันไปกล่าวในทิศทางที่โรสยิงศรออกมา

                    ยินเสียงตอบกลับมาว่า “อย่าได้ขอบคุณข้าเลย เนื่องจากคนที่ช่วยพี่ไว้มิใช่ข้าเพียงผู้เดียว แต่เป็นครูชานอนด้วยอีกคนหนึ่ง”

                    ขุนศึกไกฝืนยิ้มเมื่อเห็นร่างของโรซาไลน์เดินออกมาจากเงาหมอก ในมือของนางถือธนูมุกทะลวงเมฆาอันเป็นสมบัติล้ำค่าของสหายสนิท วิชาการยิงธนู การใช้เอลแห่งแสงที่โรซาไลน์ได้รับการสืบทอดมาจากชานอนทำให้เขารำลึกถึงสหายผู้นี้เป็นอย่างยิ่ง

                    เมื่อโรซาไลน์เดินเข้าไปใกล้ทางเข้าชั้นใต้ดินของโรงเรียนเซนต์เอลลิสจึงกล่าวว่า “ศิษย์พี่ใหญ่โปรดอย่าทำสีหน้ากังวลเช่นนั้น กับดักนี้เกิดจากการที่ผนังของชั้นใต้ดินได้รับการกระทบกระเทือน จึงส่งแรงไปยังแผ่นหินที่ยุบตัวลงเมื่อครู่ เพื่อไปกดกลไกให้ทำงานอีกครั้งหนึ่ง เป็นเพราะว่าความรุนแรงของการกระแทกเมื่อครู่มีไม่มากพอที่จะทำให้กดไกหลักทำงาน กลไกรองที่มีไว้ทดแรงไปยังกลไกหลักจึงทำงานก่อนระลอกหนึ่ง เป็นเหตุให้พวกเราสามารถยับยั้งการทำงานของกลไกโดยรวมไว้ได้ทันท่วงที เท่าที่ทราบผู้ที่มีความรู้ในการวางกลไกถึงระดับนี้มีเพียงลุงของข้าเท่านั้น ซึ่งข้าสามารถยืนยันได้ว่าในอนาคตอันสั้นพวกเราจะเผชิญหน้ากับผู้ที่มีความสามารถในเรื่องกลไกกับดักชั้นยอด”

                    ศิษย์พี่ใหญ่พยักหน้าครั้งหนึ่ง ตอบว่า “ข้าพอจะทราบแล้วว่ามันผู้นั้นเป็นใคร”

                    ผู้อำนวยการทอริอุสถามว่า “เจ้าทราบได้อย่างไร ในกองทัพของจักรวรรดิรับรองได้ว่าไม่มีบุคคลเช่นนี้”

                    ยินเสียงไอเวอเรียสตอบว่า “ถูกต้อง บุคคลผู้นี้มิได้สังกัดกองทัพของจักรวรรดิ แต่มันมีความสัมพันธ์กับบุคคลในกองทัพจักรวรรดิกันอย่างแยกไม่ออก”

                    ขุนศึกไกถามว่า “มันเป็นใคร?

                    “ทานาทอส เดอแล่ม ศิษย์เพียงผู้เดียวของปรมาจารย์หมากรุกทองคำ”

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×