ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ศาสตราคู่กู้แผ่นดิน

    ลำดับตอนที่ #208 : เล่ม 7 - ตอนที่ 96 - เปิดประตูสู่เบริล (4)

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.61K
      2
      25 ก.ย. 51

    /> /> />

    สัญญาณมือของขุนศึกไกยกขึ้นแทนความหมายของคำว่า “รอสักครู่”

                    หลังจากที่บุคคลทั้งสี่สามารถเล็ดรอดเข้าเมืองโอดินโดยไม่ถูกพบเห็นก็พบว่าโรงเรียนเซนต์เอลลิสตกอยู่ในความว่างเปล่า ตัวตึกทั้งสี่ที่ตั้งเรียงรายเป็นรูปสี่เหลี่ยมถูกทิ้งร้างไม่มีผู้คนอยู่อาศัย แตกต่างจากสภาพเมื่อคราวก่อนที่ไกและโรซาไลน์เคยมาเยือนจากหน้ามือเป็นหลังมือ หอประชุมใหญ่ที่เคยจัดงานแสดงดนตรีของยอดหญิงยูกิถูกปิดตายราวกับบ้านร้าง เว้นไว้เพียงสภาพของอาคารทั้งหลายยังคงดีเยี่ยมไม่มีร่องรอยของการถูกทำลาย อันเป็นเหตุผลที่ทำให้ผู้อำนวยการทอริอุสพึงพอใจ ที่อย่างน้อยพวกจักรวรรดิยังไม่กล้าแตะต้องสถาบันการศึกษาอันดับหนึ่งของแผ่นดิน

                    พวกไกทั้งสี่เลือกอาคารอันเป็นสถานที่ตั้งของห้องฝึกซ้อม ที่ครั้งก่อนโรสเคยฝึกวิชาเบื้องต้นกับชานอนเป็นห้องปฏิบัติการชั่วคราว ด้วยเหตุผลที่ว่าผนังอาคารนี้สามารถทนทางเอลได้เป็นพิเศษ หากเกิดเรื่องราวอันใดพวกเขาสามารถใช้มันเป็นสถานที่ป้องกันตัวเองได้ หลังจากที่จัดแจงเรื่องราวต่างๆในโรงเรียนเซนต์เอลลิสเสร็จสิ้น ทั้งหมดจึงเริ่มปฏิบัติการขั้นต่อไปไม่ปล่อยให้เวลาสูญเปล่า นั่นคือการหาต้นตอของกระบอกทองเหลืองที่ฝังอยู่ในอุโมงค์ลับ จัดการกำจัดเหล่าทหารที่เฝ้าระวังภัย แล้วเปิดประตูโกดังเชื่อมต่ออุโมงค์ลับกับตึกผู้ว่าการเมืองโอดิน ส่งสัญญาณให้โซโลมอนนำกองกำลังกริฟฟินทั้งห้าพันนายเข้ามา

                    ขณะนี้ทั้งสี่เล็ดรอดเข้ามายังตึกผู้ว่าการเมืองโอดินได้แล้ว อาศัยเวรยามทั่วไปจะแน่นหนาเท่าใดก็มิอาจจับการเคลื่อนไหวของบุคคลระดับยอดฝีมือได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมีตาทิพย์ของผู้อำนวยการทอริอุสช่วยระบุตำแหน่งเวรยามจากระยะไกล และการเคลื่อนไหวเข้าประชิดที่หาคนเทียบได้ยากของโรซาไลน์ ทั้งหมดจึงมาหยุดอยู่ที่ลานด้านหลังของตึกผู้ว่าการเคียงข้างกับโกดังภายในระยะเวลาอันสั้น

                    โรซาไลน์ที่สำรวจอยู่บริเวณผนังสักพักได้หันกลับมาพยักหน้าครั้งหนึ่ง พวกไกทั้งสามที่ทำหน้าที่เฝ้าดูต้นทางจึงตามไปสมทบ

    ยินเสียงนางกล่าวว่า “ด้านบนของผนังที่ทอดยาวออกมาจากโกดังเหล่านี้มีความแตกต่างของเนื้อผนังอยู่เล็กน้อย หากสังเกตดูดีๆจะพบว่ามีร่องรอยการตัดแต่งที่แตกต่างออกไป เนื่องมาจากเคยถูกช่างกรีดผนังแล้วเข้าไปกระทำอะไรบางอย่างข้างใน ข้าตั้งสมมุติฐานว่าช่างก่อสร้างอาจวางกระบอกทองเหลืองผ่านแนวผนังที่ถูกกรีดนี้ เดินท่อเข้าไปในตัวตึกผู้ว่าการ พวกเราอาจต้องเข้าไปยังตึกผู้ว่าการจึงจะสามารถระบุต้นตอของปากกระบอกทองเหลืองที่แท้จริง”

    ไอเวอเรียสครุ่นคิดแล้วกล่าวว่า “มิใช่ว่าข้าสงสัยในความรู้เรื่องการก่อสร้างของเจ้า แต่โปรดตรวจสอบให้แน่ชัดอีกครั้งหนึ่ง เนื่องจากข้าเกรงว่ารอยตัดแต่งเหล่านี้อาจเป็นรอยใหม่ที่จงใจสร้างไว้ให้พวกเราเห็น แล้วศัตรูที่แท้จริงจะดักรอพวกเราทั้งสี่อยู่ในตึกผู้ว่าการ ดั่งการใช้วางเหยื่อล่อสัตว์ให้มาติดกับอย่างไม่เจตนา”

    ผู้อำนวยการทอริอุสที่พอจะมีความรู้ด้านนี้บ้างกล่าวคัดคานว่า “ข้าอาจไม่เชี่ยวชาญทางด้านวิศวกรรมศาสตร์แต่ก็พอจะทราบว่ารอยเช่นนี้เกิดจากการก่อสร้างเมื่อหลายปีก่อน ทั้งจากสีและร่องรอยของรอยต่อเห็นว่าเป็นการสึกกร่อนตามธรรมชาติ ที่มีการสึกกร่อนเท่ากันบ้างไม่เท่ากันบ้าง ไม่ว่าจงใจจะแต่งเติมให้เหมือนอย่างไรก็มิอาจทำได้ ข้าจึงไม่คิดว่าห้องต้นตอของกระบอกทองเหลืองนั้นจะมีผู้คนคอยดักทำร้ายพวกเรา”

    ไอเวอเรียสพยักหน้าครั้งหนึ่งตอบว่า “ตกลง คำถามต่อไปคือห้องใดในตัวตึกผู้ว่าการความเป็นไปได้ที่จะเป็นห้องต้นตอของกระบอกทองเหลืองมากที่สุด?

    โรซาไลน์ครุ่นคิดอยู่พักหนึ่ง ก้าวเท้าไปตามแนวกำแพงพลางหันไปดูตึกผู้ว่าการหลังนั้น กล่าวว่า “ต้องเป็นฟากตะวันออกของตึก ห้องที่มีความเป็นไปได้มากที่สุดคือห้องที่อยู่ชั้นล่างริมสุดของตัวตึก”

    เมื่อพวกไกทั้งสี่ได้ข้อสรุปจึงลอบเข้าไปในตัวตึกผู้ว่าการ แต่เนื่องจากทางเข้าตัวตึกถูกปิดล้อมทุกด้านการที่พวกเขาจะลอบเข้าไปโดยไม่มีผู้ใดพบเห็นจึงทำได้ยาก ไกต้องออกแรงเล็กน้อยทำให้ยามเฝ้าประตูสองข้างหลังคนสิ้นสติไปเสีย ทั้งหมดจึงผ่านเข้ามาได้โดยไม่มีผู้ใดพบเห็น

    “ประตูเปิดไม่ได้” โรซาไลน์ที่เดินนำหน้าหันมากล่าวว่า “เห็นทีจะถูกลงกลอนโลหะจากด้านใน”

    ไอเวอเรียสพยักหน้าครั้งหนึ่งสะบัดกระบี่ตวัดเจ็ดดาวออก แผ่เอลออกไปรอบข้างตรวจสอบสภาพแวดล้อมรอบด้าน ตัวกระบี่เปลี่ยนเป็นสีเขียวเรืองรองดาบสุญญากาศเคลือบปลายกระบี่ไว้จนคมกริบ

    ฉัวะ!

    กระบี่ตวัดเจ็ดดาวแทรกเข้าไปในช่องระหว่างบานประตูกับวงกบ ตัดท่อนเหล็กที่เป็นกลอนขาดสะบั้นออกเป็นสองส่วน

    แกร๊ก เสียงบานประตูแง้ม เบาๆดังขึ้นโดยปราศจากเสียงของโลหะกระทบกัน

    ตอนแรกโรซาไลน์เกือบจะร้องตะโกนห้ามศิษย์พี่ใหญ่ขณะที่เขาชักกระบี่ออกมา แต่พอเห็นผลลัพธ์แล้วจึงศรัทธาเลื่อมใสในฝีมือ เอลที่เคลือบอยู่ที่ปลายกระบี่เป็นสิ่งที่ตัดเนื้อกลอนให้ขาดจากกัน มิใช่การใช้โลหะปะทะโลหะโดยตรง จึงสามารถกลบเสียงโลหะเสียดสีกับคมกระบี่ไปได้ทั้งหมด รับรองว่าไม่มีทหารจักรวรรดิใดรับทราบว่ากลอนเหล็กถูกตัดขาดสะบั้น

    ไกยิ้มที่มุมปากเล็กน้อยเมื่อเห็นว่าบุคคลผู้นี้มีระดับของฝีมือมิได้แตกต่างไปกับตน และหากต้องต่อสู้กันจริงไอเวอเรียสอาจใช้ปัญญาที่แหลมคมชิงความได้เปรียบจากเขาได้ด้วยซ้ำ ขุนศึกหนุ่มตัดสินใจกล่าวเบาๆว่า “สยบผู้คนในห้องนี้ทั้งหมด”

    ทันใดที่ทุกผู้คนพยักหน้าอย่างพร้อมเพรียง ขุนศึกไกพลันรุดเข้าไปเป็นบุคคลแรก บานประตูเปิดออกอย่างรวดเร็วจนกระทั่งปฏิกิริยาของคนที่อยู่ในห้องนั้นมิอาจหันมาเห็นได้ทัน

    ภายในห้องเป็นสถานที่ดักฟังจริงๆ มีทหารลาดตระเวนอยู่ราวสี่ห้าคนตั้งเป็นหน่วยดักฟังหน่วยหนึ่งเฝ้ายามอยู่ตลอดเวลา สิ่งที่พวกเขาเดาผิดไปอย่างหนึ่งก็คือภายในห้องมิได้มีปากท่อของกระบอกทองเหลืองเพียงแห่งเดียว แต่มีด้วยกันถึงสิบหกแห่ง!

    ไอเวอเรียสกระทุ้งด้ามกระบี่ใส่บรรดาทหารทั้งหมดในห้องจนล้มลง กล่าวกับพรรคพวกของตนเมื่อเห็นกระบองทองเหลืองจำนวนมากเหล่านี้ว่า “อย่าพึ่งแตกตื่นพวกมันยังไม่พบร่องรอยของพวกเรา”

    “ศิษย์พี่ใหญ่ทราบได้อย่างไร?” โรซาไลน์ขมวดคิ้วถาม สีหน้าของนางไม่ใคร่สบายใจเมื่อเห็นว่ามีกระบอกทองเหลืองสามารถดังฟังเสียงได้ถึงสิบหกแห่ง พวกเขาอาจถูกเปิดเผยร่องรอยเมื่อใดก็ได้

    “ใจเย็นไว้ก่อน หากเมื่อครู่พวกศัตรูทราบร่องรอยของพวกเราจากระบบดักฟัง หน่วยลาดตระเวณพวกนี้จะนั่งอยู่เฉยๆโดยไม่ตอบโต้เลยอย่างนั้นหรือ? อย่างน้อยพวกมันต้องมีทีท่าร้อนรนสักเล็กน้อย ส่งข่าวของพวกเราส่งไปยังสถานที่ต่างๆ แต่สิ่งที่พวกเราเห็นเมื่อครู่ก็สามารถยืนยันได้ว่าพวกมันเพียงเข้าเวรตามปกติธรรมดา ไม่มีสีหน้าผิดปกติแม้แต่น้อย” ไอเวอเรียสเดินเข้ามาใกล้ท่อทองเหลืองเหล่านั้น กล่าวต่อไปว่า “ข้าสงสัยว่ากระบอกทองเหลืองเหล่านี้อาจมิได้มีไว้รับเสียงเพียงอย่างเดียว มันอาจเป็นเครื่องมือติดต่อสื่อสารภายในตึกผู้ว่าการก็เป็นได้ กระบอกทองเหลืองที่ถูกดัดแปลงโดยนักเอลเทคอาจสะท้อนเสียงไปไกลได้ถึงร้อยก้าว หากสามารถใช้มันติดต่อสื่อสารสองทางระหว่างหน่วยเฝ้าระวังและนายทหารระดับสูง ระบบการสื่อสารในตึกผู้ว่าการจะครบถ้วนสมบูรณ์ เมื่อสงครามเกิดที่เมืองโอดินด้วยสภาพของตึกผู้ว่าการที่แข็งแรงคงทนสามารถใช้แทนป้อมปราการขนาดย่อมได้ และระบบการสื่อสารสองทางนี้จะเป็นเครื่องระวังภัยอย่างดีเยี่ยม เป็นจุดยุทธศาสตร์ที่สามารถตัดสินผลลัพธ์ของการศึกได้แห่งหนึ่ง”

    ขณะที่ไกกำลังจะกล่าวคำว่าเห็นด้วย เสียงของสตรีผู้เดียวในห้องนั้นพลันดังขึ้นมาว่า

    “หลงกลแล้ว!

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×