คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #252 : เล่ม 8 - ตอนที่ 113 - เส้นทางลับ (2)
“ข้าเข้าใจในสิ่งที่เจ้าพูด หากไม่ใช่ศิษย์พี่ใหญ่คงจะไม่มีทางเข้าใจบุคคลอย่างทานาทอส” บลูยักไหล่ “ต่อให้เราสองขบคิดจนสมองแตกก็ไร้ประโยชน์ สู้ปฏิบัติตามสิ่งที่ศิษย์พี่ใหญ่สั่งการจะง่ายกว่า ขอเพียงกระทำให้ถูกต้องตามแผนโดยสมบูรณ์เท่านั้นเป็นพอ”
ลูทยกมือขึ้นมิให้บลูกล่าวต่อ สีหน้าของบุรุษหนุ่มแปรเปลี่ยนเป็นคนละเรื่องกับเมื่อครู่ “เจ้ารู้สึกหรือไม่?”
บลูเองก็เช่นกัน ทันทีที่เห็นฝ่ามือของลูทเหงื่อเย็นเยียบที่กลางหลังพลันซึมออกมา พยักหน้าครั้งหนึ่งแล้วเอามือปิดปาก เป็นความหมายว่าอย่าได้กล่าววาจาเด็ดขาด
ทั้งสองทราบแล้วว่ามีศัตรูกล้าแข็งเข้ามาใกล้ และกำลังดำเนินการหาตัวพวกเขาทั้งสองอยู่ เพียงแต่ว่ายังมิอาจระบุตำแหน่งได้อย่างชัดเจนเท่านั้น
ลูทสังเกตการณ์บริเวณอุโมงค์ทางออกที่พวกเขาจะใช้หลบหนีจากตัวเมืองไปทางทิศใต้ อุโมงค์แห่งนั้นกลับเต็มไปด้วยทหารฝ่ายตรงข้ามพวกเขามิอาจใช้การได้อีก แต่สิ่งหนึ่งที่พวกเขาแน่ใจก็คือร่องรอยของทั้งคู่ยังมิได้เปิดเผย การใช้ทหารดักอยู่ตรงจุดนั้นเป็นเพียงการ ‘คาดเดา’ ของฝ่ายตรงข้าม ว่าหากมีสายสืบเล็ดรอดเข้ามาในเมืองคง ‘อาจจะ’ ใช้อุโมงค์สายนั้นในการหลบหนี บุรุษหนุ่มหันกลับมาหาสหายโบกมือครั้งหนึ่งเป็นความหมายว่าเส้นทางออกใช้การมิได้แล้ว
บลูเหลือบตามองไปที่แผนที่ใต้ดิน เห็นทางสายหนึ่งทอดจากตัวนครมิสต์ออกไปทางทิศตะวันออก แม้ว่าจะเป็นเส้นทางที่มิได้อยู่ในแผนการ แต่อย่างน้อยก็มีเค้าว่าน่าจะใช้เป็นเส้นทางออกได้ จึงชี้นิ้วไปที่แผนที่ลอบตกลงกับสหายผ่านรหัสมือที่ล่วงรู้กันเพียงสองคน
ทันใดนั้นเองลูทกลับเย็นสันหลังวาบขึ้นมาครั้งหนึ่ง เมื่อเห็นบุรุษผู้หนึ่งปรากฏกายขึ้นในระยะสองร้อยก้าว ยินเสียงของทหารรายงานกับคนผู้นั้นว่า “เรียนท่านซิงเควด้า เหตุการณ์สงบเรียบร้อยเป็นปกติดี ไม่พบร่องรอยของหน่วยสอดแนมใดๆ”
“ค้นหาต่อไปเรื่อยๆจนกว่าจะมีคำสั่งยกเลิก ข้ารู้สึกได้ว่าสายสืบที่ปรากฏตัวเมื่อสองวันก่อนอาจเล็ดรอดเข้ามาในนครมิสต์แล้ว ปิดกั้นทางออกทุกแห่งทั้งด้านในและด้านนอก แม้แต่มดแมลงก็มิให้เล็ดรอดไปสักตัวหนึ่ง”
บลูลอบพยักหน้าให้ลูทลงความเห็นกันว่าบุคคลผู้นี้เป็นยอดฝีมือที่พวกเขามิควรจะปะทะด้วย ไม่นึกไม่ฝันว่าในกองทัพจักรวรรดิจะมียอดฝีมือระดับนี้ที่พวกเขาไม่มีข้อมูลอยู่อีกคนหนึ่ง และน่าเสียดายที่พิราบสื่อสารได้ใช้ออกจนหมดสิ้นมิอาจส่งข่าวรายงานกลับไปยังไอเวอเรียสได้
บลูส่งสัญญาณว่าที่นี่อยู่นานมิได้แล้ว พวกเขาทั้งสองจึงรีบเคลื่อนกายในเงามืด ใช้ฝีเท้าที่เบาที่สุดลดอนุภาคของเอลและซันจนแทบเป็นศูนย์ ซุกงำประกายตาและฝีมืออย่างมิดชิดเคลื่อนไหวไปที่เส้นทางที่ตกลงกันไว้
วินาทีนั้นลูทพลันอ้าปากค้างหัวใจเต้นโครมคราม เมื่อสังเกตพบว่าซิงเควด้าหันมาจับจ้องจุดที่พวกเขาเคยใช้เป็นสถานที่หลบภัยเมื่อครู่ จึงรีบฉุดกระชากบลูให้ออกไปจากสถานที่นี้โดยเร็วที่สุด
เส้นทางในอุโมงค์ที่มิได้วางแผนไว้ล่วงหน้ากลับตันลงเฉยๆ หลังจากที่บุรุษหนุ่มทั้งสองได้วิ่งวนเวียนอยู่ในทางเดินที่เปรียบได้กับเขาวงกตอยู่เกือบครึ่งค่อนคืนจนเกือบรุ่งสาง ลูทหันไปมองบลูในขณะที่บลูกันหันมามองลูท เส้นทางแยกสายอื่นๆที่เชื่อมกับอุโมงค์แห่งนี้พวกเขาล้วนเดินสำรวจจนหมดสิ้นแล้ว ทุกทางล้วนเป็นทางตันทั้งสิ้น ในขณะที่แผนที่ระบุว่าเส้นทางที่พวกเขายืนอยู่นั้นสามารถผ่านออกไปยังนอกเมือง
“จะทำอย่างไรดี? หากเดินกลับไปพวกเราคงไม่พ้นต้องสู้กับยอดฝีมือผู้นั้น หาทางเสี่ยงฝ่าออกจากเมืองทางกำแพงเมืองสักด้านใดด้านหนึ่ง” ลูทกล่าวต่อไปว่า “จากท่าทางของมันต้องทราบแน่ชัดแล้วว่าพวกเราลอบเข้ามาในเมือง ขอเพียงเวลาผ่านพ้นไปอีกไม่กี่ชั่วโมงอุโมงค์แห่งนี้จะต้องถูกค้นพบ”
บลูส่ายหน้ากล่าวว่า “พวกเราไม่อาจกลับออกไปได้ ยิ่งออกไปเร็วเท่าใดก็ยิ่งเท่ากับพาตัวไปสู่ความตายเร็วยิ่งขึ้นเท่านั้น ขอเพียงซิงเควด้าอะไรนั่นเหนี่ยวรั้งมิให้พวกเราหลบหนีได้สามนาทีห้านาที ทั้งบรรดาเวอร์น่อน วานเตส โรฮันและสองจอมทัพมังกรจะปรากฏตัวขึ้นมา ต่อให้พวกเรามีปีกโบยบินก็มิอาจหนีพ้นจากการล้อมจับของบุคคลพวกนี้ได้ ยังไม่รวมนายทหารอีกร่วมร้อย มือธนูอีกนับพันและพลหอกอีกเป็นหลักหมื่นที่ยืนเฝ้าอยู่ทุกหัวมุม เจ้าคิดว่าพวกเราจะมีโอกาสหนีรอดสักเท่าใดกันเชียว”
“น่าจะราวๆหนึ่งในหมื่นเห็นจะได้” ลูทเดินเข้าไปเคาะก้อนหินก้อนโตเบื้องหน้า กล่าวว่า “เจ้าคิดอย่างข้าหรือไม่? หากไม่มีก้อนหินก้อนนี้เส้นทางเบื้องหน้าอาจเป็นเส้นทางเปิดก็เป็นได้ อาศัยเอลพสุธากัมปนาทของเจ้าอาจพบทางรอดในหนทางอับจน แก้ไขปัญหาร้อยแปดประการที่เจ้าสาธยายมาเมื่อครู่ได้ทั้งหมด”
“หรืออาจจะเป็นทางลัดไปสู่ประตูยมโลกโดยฉับพลัน” บลูฝืนยิ้ม กล่าวว่า “หากแรงระเบิดทำให้เพดานบนศีรษะของเจ้าถล่มลงมา โอกาสรอดของพวกเราแทนที่จะเป็นหนึ่งในหมื่นจะกลายเป็นศูนย์ในบัดดล เจ้าจะทดลองหรือไม่?”
“ข้าทราบว่าเจ้าร่ำเรียนหลักการคำนวณมาน้อยก็ไม่จำเป็นต้องแสดงความโง่เขลาออกมา เจ้าคิดว่าหนึ่งในหมื่นกับศูนย์มันต่างกันมากนักหรืออย่างไร?”
บลูมองหน้าสหาย กล่าวว่า “หากเจ้ากล่าวไร้สาระต่อไปข้าจะนำเสนอหนทางที่สามที่ไปถึงยมโลกได้ให้กับเจ้าเอง”
“หากเจ้าไม่ต้องการให้ข้ากล่าววาจาเหล่านี้ก็รีบๆถล่มก้อนหินมารดามันให้แหลกเสีย เห็นหรือไม่ว่าแสงอาทิตย์ส่องเข้ามาถึงปากทางแล้วอีกไม่เกินชั่วโมงหนึ่งพวกเราจะไม่มีที่ให้หลบซ่อนอีก” ลูทชี้นิ้วไปทางด้านหลัง เห็นแสงแดดรำไรสาดส่องเข้ามา
บลูทราบได้ว่าหน่วยค้นหาของฝ่ายตรงข้ามเข้าใกล้มาทุกที และสมองของเขาก็อับจนเช่นกันนอกจากการฝ่าออกไปตรงๆแล้วกลับไม่มีทางเลือกอื่นอีก หากเชื่อแผนที่เป่าก้อนหินนี้ให้ถล่มลงมาอาจมีหนทางไปต่ออย่างที่ลูทกล่าวก็เป็นได้ แสงสีเหลืองพลันถูกรวบรวมไว้บนฝ่ามือของบุรุษหนุ่มผมน้ำเงิน กล่าวว่า “สวดมนต์อ้อนวอนเทพเจ้าไว้ให้ดี”
หัวใจของบุรุษหนุ่มทั้งสองเต้นตูมตาม ในจุดนี้มิได้ขึ้นอยู่ว่าพวกเขาทั้งสองเป็นยอดฝีมือเก่งกาจระดับใดหรือถือสุดยอดศัสตราวุธอันใด ขอเพียงแผ่นดินถล่มลงมาไม่ว่าเป็นผู้ใดก็หมดหนทางรอด เสียงหายใจของทั้งสองคนเริ่มถี่ขึ้นจากความตื่นเต้น แม้ว่าทั้งคู่พยายามสะกดมันไว้แต่ก็มิอาจหยุดสัญชาตญาณของธรรมชาติได้
บลูเดินเข้าไปประชิดก้อนหินก้อนโต นาบฝ่ามือกับก้อนหินดั่งที่ลูทกระทำเมื่อครู่ กระแสเอลแล่นจากจุดกำเนิดขึ้นมาถึงฝ่ามือ วินาทีเป็นตายได้มาถึง!
แกร๊ก
“เสียงอันใด!?” ลูทยังไม่ทันจะกล่าวประโยคถัดไปและบลูก็ยังมิทันได้ตอบคำ ปลายเท้าของทั้งคู่กลับมิอาจหยั่งพื้นดินได้อีก พื้นด้านล่างเปิดเป็นช่องขนาดใหญ่
บุรุษหนุ่มทั้งสองร่วงหล่นลงไปโดยที่ไม่รู้ว่าชะตาเบื้องหน้าจะเป็นอย่างไร
ความคิดเห็น